หลักๆ แล้ว ในสมัยนั้น เมื่อไฟฟ้าได้ถูกติดตั้งในอาคารสถานที่ต่างๆ ที่เป็นคอนกรีตไปซักระยะหนึ่งแล้ว เช่นเพดานหลังคาคอนกรีต (ไฟฟ้าหลังคาตัด)
ได้เกิดปัญหาจากการเสื่อมสภาพของฉนวนไฟฟ้าที่หุ้มสายไฟฟ้าประกอบกับการเสื่อมสภาพของพื้นผนังเพดานคอนกรีต (ปูน)
ที่เกิดการแตกร้าวทำให้น้ำเช่นน้ำฝนรั่วไหลถูกสายไฟฟ้าได้
ดังที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชหัถเลขาไปยังเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) เสนาบดีกระทรวงโยธาธิการ เมื่อปี พ.ศ. 2449
ลิงค์ประวัติของมหาอำมาตย์นายก เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) เมื่อครั้งที่ท่านดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงโยธาธิการ ผู้มีคุณูปการยิ่ง
http://pradub-sukhum.com/Yomaraj.html/The%20King%20Letters/(2).htmlขออนุญาตอ้างถึงเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องครับ ดังนี้
สวนดุสิต
วันที่ ๓๑ ม.ค. รัตนโกสินทรศก ๑๒๕
พระยาสุขุม
วันนี้เข้าใจว่าเจ้าจะฟกเต็มทีจึงได้หายไป แต่ความจริงนั้นสามารถที่จะบอกได้ว่า งานที่เป็นหลักถานนับเป็นแล้วสำเร็จ
ถึงชั้นติดรูปริทูกราฟแลโฟทูกราฟ ซึ่งกล่าวไว้ว่าเป็นที่สุดแห่งงานอื่นๆ ต่อนี้ไปจะต้องไปทำงานแต่วันละสักชั่วโมงหนึ่งฤๅ ๒ ชั่วโมงก็พอ
เป็นอันสม ปราถนาที่จะได้หยุดพักไม่ให้เหน็จเหนื่อยฉาบน่างาน แต่อีกฝ่ายหนึ่งในส่วนงานที่ต้องทำมาจากที่อื่นยังขาดค้างมากจนนึกหนักใจว่า
ในเวลางานจะไม่พ้นจากจับอะไรเข้าเปียกเปื้อนสี มือเหนียวน้ำมันอย่างแต่ก่อนๆ มา กล่าวคือฝาขั้นห้อง ตู้ในภาคปรัศจิม กรอบรูป
ซึ่งจะต้องซ่อมแลทำขึ้นใหม่เป็นต้น ซึ่งเป็นงานของดุ๊กมากกว่างานของเจ้า จำจะต้องช่วยกันพัดไว้ ด้วยใกล้ตรุศม์จีนเข้าไปทุกวัน
ถ้านั่งเพลินๆ ไปถึงตรุศม์จีนถึงจะเฆี่ยนให้ตายเจ๊กก็ไม่ยอมทำ ถ้าตรุศม์จีนแล้วจึงได้มาติดมาตั้งเป็นไม่พ้นมือเปื้อนมือเหนียว
ข้อสำคัญ ๓ ประการ ซึ่งได้กำชับไว้ คือน้ำที่จะขึ้นไปบนพระที่นั่ง วันนี้ปรากฎแล้วว่าบนห้องเล็กชั้นบนไม่มีน้ำทั้งที่ได้นัดหมายกันไว้
ยังล่องแลถังกับทั้งท่อไม่เคยมีสมประดีในเมืองไทย อย่างเดียวกันกับ
ไฟฟ้าหลังคาตัดเป็นข้อที่ ๒ กับหลังคาตัดเป็นข้อที่ ๓ ซึ่งได้รับอาญัตไว้นั้น
ขอให้พิจารณาให้จงมาก
สยามินทร์
สวนดุสิต
วันที่ ๑ มีนาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๕
ถึง พระยาสุขุม
การเรื่องนี้ก็ไม่ประหลาดอะไร แต่เป็นธรรมเนียมฝนตกเคยตรวจมาสำหรับได้แก้ไข หลวงศักดิ์ได้ขึ้นไปตรวจบนหลังคายื่นรายงานว่า
ชั้น ๓ รั่วด้วยรางน้ำ ๖ แห่ง รั่วด้วยปูนแตก ๓ แห่ง ชั้น ๒ รั่วด้วยรางน้ำ ๘ แห่ง รั่วด้วยปูนแตก ๒๑ แห่ง รั่วด้วยสายถูกไฟฟ้า ๒ แห่ง
นี่ตรวจบนเพดาน ส่วนในห้องนั้นที่ห้องมุขหลังรั่วเฉลียงเหนือน้ำนองทีเดียว ไม่ใช่รั่วราง ห้อง เตอรกีรั่วกลางๆ เฉลียง มุขขวางรั่ว ๒ แห่ง
ห้องสีชมภูสีฟ้าเฉลียงด้านเหนือลมเป่าสายฝนเข้ามาตามช่องเชิงฝาอย่างที่เล่าให้ฟังวันนี้ว่าปูเข้ามาได้ ช่องเช่นนี้โทษถึงต้องอุด
ห้องสีน้ำเงินที่เฉลียงสายไฟฟ้าเปียก ไฟฟ้าไม่เดิน
เรื่องไฟฟ้ากับน้ำฝนนั้นน่ากลัวอยู่หน่อยหนึ่ง เข้าใจว่าตามเฉลียงจะไม่มีท่อเหล็ก
จะเป็นสายหุ้มไหม
ถ้าเป็นสายหุ้มไหมแรกๆ ก็ไม่เป็นไร ถ้าสายผุไฟฟ้าอาจเดินได้ด้วยถูกน้ำอยู่ข้างรวังยาก ลมวันนี้เป็นตวันออกแลตวันออกเฉียงใต้
มุขในระหว่างมุขหลังแลมุขขวางยื่นออกไปมาก ข้างด้านตวันตกกลับไม่สาด ไปสาดปูเข้าตามเชิงฝาด้านเหนือ แต่ถ้าเป็นฝนฤดู
มาทางตวันตกเห็นจะยิ่งกว่านี้มากจะต้องเตรียมตัวไว้คอยรับ
สยามินทร์
วันที่ ๓
ถึง เสนาบดีกระทรวงโยธาธิการ
ด้วยเมื่อณวันศุกร์ที่ ๑ มีนาคม
ฝนตกหนัก โทรศัพท์ ในระหว่างสเตชั่น หูเจ้าถนอมไปถึงสเตชั่นหัวใจเดินไม่สะดวกได้บอกโทรศัพท์แต่วันที่ ๒ เวลาดึก
จะเป็นกี่ทุ่มไม่ทราบแน่ เพราะนาฬิกาเดินไม่สะดวก ลูกตุ้มเบาไป พึ่งได้รับโทรศัพท์ต่อวันนี้เวลาบ่าย ๔ โมง เห็นว่าช้าเกินนัก ด้วยระยะทางแต่หูถึงใจ
ถ้าหูซ้ายก็ไม่กี่เซนติเมเตอร์ ถ้าหูขวาก็ไม่ถึงครึ่งเมเตอร์จะว่าไฟฟ้าไม่เกินตลอดเวลาตีสายไม่ได้ก็ไม่ใช่ ถ้าจะไฟฟ้าไม่เดินก็คงเพียง ๘ ชั่วโมงหรือ ๙ ชั่วโมง
คือตั้งแต่ ๘ ทุ่มจน ๔ โมง หรือ ๕ โมงเช้าไฟฟ้าคงจะเดิน สงไสยว่าจะเป็นด้วยบุรุษไปรษนีย์เกียจคร้านเสียไม่เดิน ในเท้าบุรุษไปรษนีย์ผู้นี้อยู่ข้างจะเชือนแชอยู่บ่อยๆ
นายสเตชั่นส่งโทรเลขให้ไปแล้วก็ไม่เดินไปหลบหลีกนั่งนอนเสียในที่ใด จึงได้เกิดเหตุขึ้นดังนี้ จะควรแก้ไขโทรศัพท์ในระหว่างบางหูไปหาบางใจอย่างไรได้
ขอเสริมครับ คือว่า พระราชหัตถเลขา วันที่ ๑๔ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๕ ในลิงค์ มีคำว่า
พัดลม ด้วยครับ แสดงว่ามีการใช้พัดลมในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 แล้ว
ต่อไปจะขอพูดถึงคำว่า
ไฟฟ้าหลังคาตัดข้าไม่เชื่อ ครับ