เรือนไทย

General Category => ศิลปะวัฒนธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: ROME ที่ 19 พ.ค. 11, 10:35



กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: ROME ที่ 19 พ.ค. 11, 10:35
รู้สึกงงมากครับ บางคนบอกว่าเป็นหลานของแม่เช่นกัน เพราะเป็นหลานของน้า แต่บางคนบอกว่าเป็นเหลนแม่เพราะเป็นลูกของหลานแม่


กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: ROME ที่ 19 พ.ค. 11, 10:55
ถามต่อเลยนะครับ สมมุติลูกของน้าชื่อ ก. ลูกของ ก. ชื่อ ข. โดยทั่วไป ก. มีศักดิ์เป็นน้องผม และ ข. มีศักดิ์เป็นหลานผม ถ้า ข. มีลูก ชื่อ ค. แล้ว ค. จะมีศักดิ์เป็นหลานหรือเหลนของผมครับ ทำไมต้องเป็นหลาน ทำไมต้องเป็นเหลน ช่ยอธิบายด้วยครับ


กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 19 พ.ค. 11, 11:04



ลูกของน้าคุณ ไม่ว่าน้่าชายหรือน้าสาว   เป็นญาติผู้น้องของคุณที่อาจจะแก่กว่าคุณได้  เรียกมารดาคุณว่าคุณป้า

ลูกของลูกพี่ลูกน้องคุณที่เป็นผู้ชาย  จะเรียกมารดาคุณว่าคุณย่า     และลูกของลูกพี่ลูกน้องฝ่ายหญิงจะเรียกมารดาคุณว่าคุณยาย


ลูกของคุณ และลูกของลูกพี่ลูกน้องของคุณ  อยู่ในระดับเดียวกัน  คือเป็นหลานของมารดาคุณทั้งสิ้น


กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 19 พ.ค. 11, 11:11
รอยอินท่านว่าอย่างนี้

หลาน น. ลูกของลูก; ลูกของพี่หรือของน้อง.
 
เหลน [เหฺลน] น. ลูกของหลานที่เป็นลูกของลูกเป็นต้น.

ดังนั้น ข. เป็นหลานคุณโรมเพราะเป็น ข. เป็นลูกของน้องคุณโรม

แต่ ค. ไม่ใช่เหลนคุณโรมเพราะไม่ใช่ลูกของหลานที่เป็นลูกของลูก  รอยอินท่านไม่ได้ว่าต่อไว้ซะด้วยว่าจะให้เรียกว่าอะไร

ไม่ใช่เหลน ก็น่าจะเรียกว่าหลาน

นะรอยอิน

 ;D
 
 


กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 19 พ.ค. 11, 11:24
คนไทยชอบนับญาติกันน่ะครับ

ไม่ใช่ญาติกันเลยก็ยังเรียกพี่เรียกน้องสนิทสนม


กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 19 พ.ค. 11, 11:40
ก  เป็นญาติผู้น้อง  อายุอ่อนกว่า
ข  เป็นลูกของ ก
ถ้า ก  เป็นผู้หญิง  คุณโรมก็เป็นคุณลุงของ ข        ถ้า ก  เป็นผู้ชาย  คุณโรมก็เป็นคุณลุงของ ข  เช่นกัน

ค. โผล่มา

ข. เป็นผู้หญิง  คุณเป็นตาของ ค. ค่ะ  จะเรียกว่าคุณตาใหญ่ก็ยังได้

ข. เป็นผู้ชาย    ญาติผู้ใหญ่ระดับลุง คือตัวคุณ ก็เป็นคุณ ปู่ หรือคุณปู่ใหญ่ ของ ค


นับกลับ   ข เป็นหลานลุง
ค เป็นหลาน ปู่ หรือ หลาน ตา

ลูกของคุณโรม  เป็น ญาติระดับเดียวหรือชั้นเดียวกับ  ข.     นับพี่น้องกันตามอายุค่ะ

ค  จะเรียก ลูกของคุณโรมว่า  น้า  อา  ป้า  หรือลุงได้


ต่อนะคะ     เมื่อ ค มีลูก      ข ก็เป็นคุณตา/คุณปู่ หรือคุณยาย/คุณย่า    ในเวลานี้ คุณเป็นคุณชวดแล้วค่ะ


ถ้าอ่านประวัติขุนนางแล้วจะไม่งงค่ะ   คือนับกันว่าเจ้าของเรื่องเป็นชั้นที่ ๓  บิดาและญาติพี่น้อง เป็นชั้นที่ ๒    ปูย่าตายายเป็นชั้นที่ ๑

หลานนั้นมีหลานป้า/อา/น้า/ลุง  และ  หลานปู่/ตา/ย่า/ยาย

ชวดนั้นอยู่ระดับสูงกว่าปู่กับย่าหรือ ตากับยาย  ขึ้นไป ๑ ขั้นค่ะ

หลายคนก็เรียกชวด หรือ ทวด ก็ได้ค่ะ


กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 19 พ.ค. 11, 11:54
คุณวันดีอธิบายได้ชัดเจนดีมาก

ทีนี้หากนับลงมาจาก เหลน

ลูกของเหลนเราคุ้นเคยกันว่าคือ "โหลน" แต่ "โหลน" ไม่มีในพจนานุกรม

รอยอินท่านใช้ว่าอย่างไร

ทิ้งไว้ให้ผู้รู้อธิบายต่อ

 ;D



กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: ROME ที่ 19 พ.ค. 11, 12:05
ขอบพระคุณทุกท่านที่ช่วยเข้ามาตอบให้ความกระจ่างนะครับ ผมโล่งอกมากที่ผมไม่ต้องเป็นทวด เจ้า ค. แล้ว  ผมอายุแค่ 40 เป็นน้าเจ้า ข. ก็เต็มกลืน ถ้าจะให้เป็น ทวด เจ้า ค. ตามความเข้าใจผิดของพี่ ก. อีก(แกยืนยันตลอดเวลาว่าเจ้า ค. ต้องเป็นเหลนผมสถานเดียว)ผมรับไม่ได้จริง ๆ
ขอบคุณอีกครั้งนะครับ


กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: ROME ที่ 19 พ.ค. 11, 12:26
ขอบคุณคุณวันดีเพิ่มอีกด้วยนะครับ ที่ช่วยให้ผมเป็นน้องพี่ ก. เพราะน้าผม ยืนยันกับผมว่า พี่ ก. ต้องเป็นน้องผม ต้องเรียกผมว่าพี่ เพราะพี่ ก. มีศักดิ์เป็นน้อง (จากการที่เป็นลูกของน้าผม ซึ่งเป็นน้องสาวของแม่ผม) แต่ผมไม่ยอม เพราะพี่ ก. อายุมากกว่าผม ผมต้องเป็นน้อง ไม่ใช่พี่ตามที่น้าให้เรียกตามศักดิ์ ผมเคยเถียงกับน้าว่าให้พี่ ก. ที่มีอายุมากกว่าผมเกือบ 10 ปี เรียกผมว่าพี่ได้อย่างไร แต่น้ายืนยันว่าต้องเรียก เพราะพี่ ก. มีศักดิ์เป็นน้อง งานนี้ พี่ ก. ไม่เล่นด้วย ผมเลยไม่ต้องเป็นพี่ พี่ ก. เฮอ โล่งอกไปที


กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 19 พ.ค. 11, 13:55
ตามขั้นตอนของแต่ละชั้นลงไป  มี  ลูก  หลาน  เหลน  ลื่อ  ลืบ  ลืด ค่ะ

ที่คนโบราณท่านเรียก ลูก หลาน เหลน โหลน  ก็ไม่ถือว่าผิดค่ะ      ภาษาในสมัยนั้นก็ยังไม่มีกฎตายตัว

คนเราเกิดมาได้เห็นญาติขึ้นไปสามชั่วคน  และ ลงมาอีกสามชั่วคน    นับเป็นความปึกแผ่นของครอบครัว

สมัยก่อนโรคภัยไข้เจ็บก็ไม่มียาทันสมัยจะรักษา   การตายของทารกก็สูง     อ่านประวัติครอบครัวขุนนางก็

อดเศร้าสลดใจไม่ได้  เพราะความตายนั้นไม่เว้นให้กับผู้ใด   รายชื่อของบุตรที่เสียชีวิตมีไม่น้อยเลย

หลายรายก็ไม่มีแม้แต่ชื่อ



       ขอยกตัวอย่างการนับญาติแบบคลาสสิคมาเล่าเป็นการรับขวัญ คุณโรม  ดังต่อไปนี้  กะจังหวะมานานแล้ว

เรื่องนี้นำมาจาก  หนังสืออนุสรณ์ งานพระราชทานเพลิงพระศพ  พลตรี  พระเจ้าวรวงศ์เธอ  พระองค์เจ้าเฉลิมพลทิฆัมพร

ณ เมรุหลวง หน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์   วัดเทพศิรินทราวาส  กรุงเทพมหานคร

เมื่อวันเสาร์ที่ ๑ กุมภาพันธ์  พ.ศ. ๒๕๓๕

เป็นคอลัมน์  ซอยสวนพลู  ในหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ประจำวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๓๔

ม.ร.ว. คึกฤทธิ์  เขียนไว้น่าอ่านมาก   ดังนั้นก็จะพยายามคัดลอกมาให้ตรงที่สุด

      
      " วันนี้  ถ้าผมไม่เขียนถึงเสด็จพระองค์ชายกลาง  หรือพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร  

ซึ่งพึ่งสิ้นพระชนม์ไปเมื่อวานนี้แล้ว   ผมก็เห็นจะดูหน้าตนเองไม่ได้

เพราะความจงรักภักดีที่มีต่อพระองค์ชายกลางนั้น  มีมากมาย  ซึ่งเมื่อท่านสิ้นพระชนม์ลงแล้ว

ถ้าไม่เอ่ยถึงเลย  ก็เห็นจะผิดวิสัยมนุษย์  เพราะฉะนั้น  ในบทความวันนี้  จึงต้องกล่าวถึง

พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร  ไว้ในตอนแรก




กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 19 พ.ค. 11, 14:15
       
        ท่านพระองค์ชายกลาง  มีพระชนมายุอ่อนกว่าผม ๒ ปี  คือประสูติใน พ.ศ. ๒๔๕๖

แต่ผมนั้นเกิดมาใน พ.ศ. ๒๔๕๔    ผมเกิดเมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน  ๒๔๕๔  แล้วต่อมาอีก

๒ ปี  พระองค์ชายกลาางก็ประสูติ  เมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน  ๒๔๕๖


        ทั้งที่อายุแก่อ่อนกว่ากันถึง ๒ ปี  ซึ่งถ้าจะพูดไปก็น่าจะห่างกันตามสมควรนั้น

ผมเองกลับมีความรู้สึกว่า   ผมได้เคยเป็นเด็กมาพร้อมกับท่านพระองค์ชายกลาง

และยังคงมีความรู้สึกอยู่เช่นนั้นตลอดมา


       ทั้งนี้  เมื่อผมไปศึกษาที่ประเทศอังกฤษ    พอไปถึงอังกฤษเขาก็จับผมไปไว้ที่

สถานทูตไทยในประเทศอังกฤษ   ขณะนั้นเป็นตอนเย็นแล้ว  ไม่ได้พบผู้คนแต่อย่างใด

ได้แต่นอนไปคืนหนึ่ง   พอรุ่งเช้าล้างหน้าล้างตา  แต่งเนื้อแต่งตัวเสร็จแล้ว

ก็มีเด็กอีกคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหา    เด็กคนนั้นก็คือท่านพระองค์ชายกลาง  ซึ่งเสด็จมาอังกฤษ

ไม่กี่วันก่อนหน้าผม   และยังประทับอยู่ที่สถานทูตไทยในกรุงลอนดอน


        ท่านพระองค์ชายกลางท่านไปทรงทราบมาจากไหนก็ไม่ทราบ  ว่าผมเป็นใคร  ลูกใคร 

ชื่อเสียงเรียงนามว่าอย่างไร  เพราะฉะนั้น   ท่านจึงทรงทักทายผมได้โดยปราศจากความ

เก้อเขิน  มิหนำซ้ำ   ท่านยังนับญาติกับผมเสียด้วย   โดยเรียกผมว่าคุณน้าตั้งแต่แรกมา

จนสิ้นพระชนม์ไม่เคยเรียกเป็นอย่างอื่น



กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 19 พ.ค. 11, 14:33

        เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ออกจะลึกลับ   เรื่องที่ผมเป็นน้าของพระเจ้าวรวงศ์เธอ

พระองค์เจ้าเข้าไปได้อย่างไรทั้งองค์     เห็นจะต้องเล่ากันไว้เพื่อป้องกันความสงสัยที่จะมีต่อไป

เมื่อพ่อผมยังเป็น ทส.ของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธวงศ์  สมเด็จพระราชปิตุลา

บรมพงศาภิมุขอยู่นั้น   หม่อมแม้น  ผู้เป็นเอกชาชาของสมเด็จเจ้าฟ้าเกิดถึงแก่กรรมลง

คุณแม้นมีธิดาอยู่คนเดียว  คือ พระองค์เจ้าหญิงเฉลิมเขตร  ซึ่งยังทรงพระเยาว์มาก

เมื่อหม่อมแม่ถึงแก่กรรมไปแล้ว  ก็ออกจะขาดคนเลี้ยงดูที่เป็นหลักเป็นฐาน   พ่อผมใน

ฐานะที่เป็น ทส.ด้วย  และเป็นเจ้าด้วย   จึงได้รับพระองค์หญิงเฉลิมเขตรมาเลี้ยงดู

ประดุจว่าเป็นลูกของท่าน           ซึ่งพระองค์เจ้าหญิงเฉลิมเขตร  ท่านก็สนองด้วย

การเรียกพ่อผมว่า  ท่านแม่   มาจนสิ้นพระชนม์เช่นเดียวกัน


        เพราะฉะนั้น  เมื่อผมเป็นแม่ของพระองค์เจ้าหญิงเฉลิมเขตรมงคล  พระมารดา

ของท่านพระองค์ชายกลาง   ผมก็อยู่ในฐานะ เป็นน้า  เพราะเป็นลูกพ่อ  แต่อายุน้อยกว่า

เสด็จพระองค์เจ้าหญิงเฉลิมเขตร    จึงอยู่ในฐานะน้องแม่เดียวกัน


       เรื่องมันวุ่นวายอยู่อย่างนี้แหละครับ"

(ขอตัดตอนมาลงเพียงนี้นะคะ          ยังมีบทความสุดหายากของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์  ปราโมชอีกหนึ่งบทค่ะ
พบในหนังสือ  ประมวลมารค  ชุดสมบูรณ์  จะนำมาฝากในโอกาสต่อไป  เขียนตอนคุณคึกฤทธิ์เป็นหนุ่มฟ้อ)


กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 19 พ.ค. 11, 14:44
ตามขั้นตอนของแต่ละชั้นลงไป  มี  ลูก  หลาน  เหลน  ลื่อ  ลืบ  ลืด ค่ะ

ที่คนโบราณท่านเรียก ลูก หลาน เหลน โหลน  ก็ไม่ถือว่าผิดค่ะ      ภาษาในสมัยนั้นก็ยังไม่มีกฎตายตัว


ก.ศ.ร. กุหลาบนับแปลกไปกว่านั้นอีก

หลวง นนทเกตุ(ฉ่ำ)(แขกเจ้าเซ็น)   มีคำถามดั่งนี้


     ข้าพเจ้าจักขอถามท่านอาจารย์กุหลาบ  ๓ ข้อว่า

๑.  พวกสมเด็จเจ้าพระยากรุงเทพฯ นี้     ที่เรียกว่าพวกราชนิกูลนั้น ด้วยเหตุอันใด?


ตอบ     เหตุด้วยย่าของสมเด็จเจ้าพระยา(ช่วง)นั้น      เขาสมมุติเรียกชื่อว่า เจ้าคุณโต   แต่ท่านไม่ได้ชื่อโตหามิได้
แท้จริงท่านชื่อ เจ้าคุณนวล    เป็นราชนิกูลบางช้าง  

ท่านเจ้าคุณนวลเป็นพระบรมญาติอันสนิท กับ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงเป็น ราชนิกูลเชื้อพระญาติวงศ์ในพระเจ้าแผ่นดินทั้ง ๔ รัชกาล

เมื่อเจ้าคุณนวลเป็นราชนิกูลแล้วและเป็นย่าสมเด็จเจ้าพระยา(ช่วง)    บุตรหลานเหลนโหลนหลินหลือ(ในเวลานั้น ก.ศ.ร. กุหลาบ นับ แบบนี้) ของท่าน   นับเป็นราชนิกูลทั้งสิ้น  ตลอดจนมาถึงทุกวันนี้ด้วย

 ;D


กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 19 พ.ค. 11, 14:54
อาจารย์จำนงค์ ทองประเสริฐเขียนไว้ใน บทความเรื่อง "ลื่อ-ลื้อ" สำหรับรายการภาษาไทย ๕ นาที วันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๕ (http://kaewpanya.rmutl.ac.th/2552/index.php?option=com_content&view=article&id=2927:2010-11-17-02-54-17&catid=226:-5-&Itemid=54&month=12&year=2010)

ในฐานะที่ข้าพเจ้าเป็นกรรมการทำพจนานุกรมศัพท์กฎหมายไทย ของราชบัณฑิตยสถานด้วยผู้หนึ่ง ได้มีโอกาสศึกษาความรู้เกี่ยวกับกฎหมายต่าง ๆ จากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมายหลายท่านด้วยกัน บางทีก็พบว่าคำบางคำที่ใช้อยู่ในกฎหมายนั้นก็ผิดไปจากที่มีอยู่ในพจนานุกรม ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเป็นความจงใจ ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือความพลั้งเผลอในเวลาพิสูจน์อักษร

เมื่อวันพุธที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๕ ขณะที่กำลังพิจารณาเรื่อง "ผู้เยาว์" อยู่นั้น ข้าพเจ้าได้เปิดหนังสือ "ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์" บรรพ ๑ ดู ก็พบว่าในมาตรา ๒๙ มีข้อความดังนี้

"บุคคลวิกลจริตผู้ใด ถ้าภริยาสามีก็ดี ผู้บุรพการี กล่าวคือ บิดามารดา ปู่ย่า ตายาย ทวด ก็ดี ผู้สืบสันดาน กล่าวคือ ลูก หลาน เหลน ลื้อ ก็ดี ผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ ก็ดี หรือพนักงานอัยการก็ดี ร้องขอต่อศาล ศาลจะสั่งให้บุคลผู้นั้นเป็นคนไร้ความสามารถก็ได้

"คำสั่งอันนี้ให้โฆษณาในราชกิจจานุเบกษา"


คำที่ข้าพเจ้าข้องใจ ก็คือคำว่า "ลื้อ" ซึ่งอยู่ถัดจาก "เหลน" ออกไป ถ้าพิจารณาข้อความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๒๙ นี้ ก็จะเห็นว่า "ผู้สืบสันดาน" นั้นท่านเรียงลำดับไว้ดังนี้ "ลูก-หลาน-เหลน-ลื้อ" เมื่อ "หลาน" คือ "ลูกของลูก" "เหลน" ก็คือ "ลูกของหลาน หรือ หลานของลูก" แล้ว คำว่า "ลื้อ" ก็ควรจะเป็น "ลูกของเหลน" หรือ "หลานของหลาน" หรือ "เหลนของลูก" แต่เมื่อเปิดดูในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ แล้ว ไม่ปรากฏว่าคำว่า "ลื้อ" ในความหมายที่ว่า "ลูกของเหลน" เลย พจนานุกรม ได้ให้บทนิยามของคำว่า "ลื้อ" ไว้ดังนี้ "น. ไทยพวกหนึ่ง อยู่ในแคว้นสิบสองปันนา." ซึ่งบางทีเราก็เรียกว่า "ไทยลื้อ" หรือมิฉะนั้น ก็เป็นคำสรรพนามในภาษาจีน อันหมายถึงบุคคลที่เราพูดด้วย ตรงกับคำว่า "ท่าน, เอ็ง, มึง" ใน ภาษาไทย หรือ You ในภาษาอังกฤษนั่นเอง คำว่า "ลื้อ" ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ คงมิได้หมายถึงคนไทยพวกหนึ่งในแคว้นสิบสองปันนาเป็นแน่ เพราะคนไทยพวกนั้นจะมาเป็น "ผู้สืบสันดาน" ในกฎหมายดังกล่าวนี้ไม่ได้ คำนี้ที่ถูกต้องควรจะเป็น "ลื่อ" มากกว่า ทั้งนี้เพราะคำว่า "ลื่อ" พจนานุกรม ได้ให้บทนิยามไว้ว่า "น. ลูกของเหลน." แต่คำนี้ เราไม่ค่อยได้ใช้กัน เรามักจะเรียกลูกของเหลนว่า "โหลน" ดังเพลงในพระราชนิพนธ์ว่า "ลูกหลานเหลนโหลน ภายหน้า จะได้มีพสุธาอาศัย" แต่คำว่า "โหลน" พจนานุกรม ฉบับ พ.ศ. ๒๕๒๕ ยังมิได้เก็บไว้


กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 19 พ.ค. 11, 14:56
คุณเพ็ญที่รักและคิดถึง

       หมู่นี้ดิฉันงานชุกมากค่ะ    นักสะสมที่มีบุญคุณวานให้เขียนบทความ    สหาย
เจ้าของโรงพิมพ์วานให้ตรวจงานแปลโบราณของ "อรวรรณ"  โอ..ท่านแปลนุ่มมาก
ได้ ไทยเขษมรวมเล่มมา สิบกว่าเล่ม   อ่านทุกวัน     เห็นสยามประเภทเล่ม ๖ แล้วนิดหนึ่ง
สหายเล่าเรื่องสยามประเภทเล่ม ๗ ให้ฟังแล้วด้วย  แต่ยังไม่มีโอกาสเห็น     อีกพักหนึ่ง
คงมีเรื่องสนุก ๆ มาคุยกัน


กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 19 พ.ค. 11, 15:01
ขอบพระคุณคุณวันดีที่กรุณาคิดถึง ซาบซึ้งเป็นยิ่งนัก

 ;D

ขออนุญาตต่อบทความของอาจารย์จำนงค์ให้จบ

คำที่อยู่ในชุดเดียวกัน "ลูก - หลาน - เหลน - ลื่อ" ซึ่งถัดจาก "ลื่อ" ไปก็คือ "ลืบ" และ "ลืด" พจนานุกรมได้ให้ความหมายของคำทั้ง ๒ ไว้ดังนี้

"ลืบ น. ลูกของลื่อ, หลานของเหลน."

"ลืด น. ลูกของลืบ."

คำว่า "ลื่อ - ลืบ - ลืด" ทั้ง ๓ นี้ นักกฎหมายส่วนมากก็ไม่ทราบว่าหมายถึงใคร โดยเฉพาะคำว่า "ลื่อ" นั้น ในกฎหมายตราสามดวงก็มิใช้แล้ว แต่เขียนเป็น ๓ รูปด้วยกัน คือ "ลื่" (ไม่มี อ ตาม) "ลื่อ" (มี อ ตาม) และ "หลื้" (ห ล สระอือ ไม้โท) ข้าพเจ้าขอยกตัวอย่างมาประกอบคำอธิบายดังนี้

ที่เขียนเป็น "ลื่" (ไม่มี อ ตาม) ดังที่ปรากฏใน "พระไอยการลักษณะมรดก" หน้า ๓๗ ดังนี้

"๓๗ มาตราหนึ่ง ลูกหลานเหลนลื่ไดบวดเปนสามเณร แลบิดรมานดาปู่หญ้าตายายถึงแก่มรณภาพไซ้ ควรให้ได้ทรัพยส่วนแบ่งปัน ตามพระราชกฤษฎีกาให้เป็นจตุปใจยแก่สามเณรนั้น"

ที่เขียนเป็น "ลื่อ" (มี อ ตาม) ดังปรากฏใน "พระไอยการลักษณะมรดก" ข้อ ๑ ดังนี้

"๑ ถ้าแลผู้มีบันดาศักดิตั้งแต่นา ๔๐๐ ขึ้นไปถึงแก่มรณภาพและจะแบ่งปันทรัพยมรดกเป็นส่วน ซึ่งจะได้แก่บิดามานดาแลญาติพี่น้องบุตรภรรยาหลานเหลนลื่อนั้น โดยได้รับราชการแลมิได้รับราชการ แลมีบำเน็จบำนาญ แลหาบำเน็จบำนาญมิได้ ให้ทำเปนส่วนดั่งพระผู้เป็นเจ้ากล่าวไว้นี้"

ส่วนที่เขียนเป็น "หลื้" (ห นำ ล สระอือ ไม้โท) นั้น มีปรากฏอยู่ในข้อ ๒๘ วรรค ๒ และ ๓ ดังนี้

"อนึ่งถ้าพี่น้องลูกหลานเหลนหลื้สาขาญาติไปรับราชการอยู่ณะเมือง แล แขวงจังหวัดไซ้ ให้แบ่งทรัพยบันดาส่วนซึ่งจะได้นั้นไว้ ณะพระคลังก่อน ถ้าผู้นั้นมาแต่ราชการ แล้วจึ่งเอาทรัพยซึ่งไว้ ณะพระคลังนั้นให้"

ข้าพเจ้าจึงขอเสนอว่า คำว่า "ลื้อ" ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๒๙ นั้น ควรจะได้แก้ไขให้ถูกต้องเป็น "ลื่อ" เสียด้วย.




กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 19 พ.ค. 11, 15:16
นำมาฝากคุณวันดี จากหนังสือของท่านภาวาส บุนนาค

เปตามหัยกา   -  ปู่ทวด     (ปู่ของพ่อ  ตาของพ่อ)

มาตามหัยกา  - ตาทวด      (ปู่ของแม่  ตาของแม่)

เปตามหัยยิกา  - ย่าทวด    (ย่าของพ่อ  ยายของพ่อ)

มาตามหัยยิกา   - ยายทวด  (ย่าของแม่ ยายของแม่)


กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 19 พ.ค. 11, 16:03
รอยอินท่านให้ความรู้เกี่ยวกับคำว่า "ลูก หลาน เหลน โหลน"  (http://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=1783) อีกว่า

ในบทเพลงปลุกใจให้รักชาติรักผืนแผ่นดินไทยเพลงหนึ่ง มีข้อความว่า “ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า จะได้มีพสุธาอาศัย” คนทั่วไปรู้จักคำว่า ลูก หลาน เหลน และรู้ว่า เหลนเป็นลูกของหลาน และหลานเป็นลูกของลูก จึงมักจะคิดว่า โหลน น่าจะเป็นลูกของเหลนด้วย. แต่ที่ถูกนั้น โหลน เป็นเพียงคำสร้อยที่มาต่อท้ายคำว่า ลูก หลาน เหลน ให้ได้จังหวะ ๔ พยางค์ ไม่มีความหมายอะไร. ที่ถูกนั้น ลูกของเหลน เรียกว่า ลื่อ. ลูกของลื่อ เรียกว่า ลืบ. และลูกของลืบ เรียกว่า ลืด.

ที่มา :  บทวิทยุรายการ "รู้ รัก ภาษาไทย"  ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ เวลา ๗.๐๐-๗.๓๐ น.

ปุจฉา

๑. โหลนเป็นแค่คำสร้อยจริงหรือ (หากเป็นคำสร้อย แล้วทำไม ก.ศ.ร. กุหลาบจึงใช้ว่า บุตรหลานเหลนโหลนหลินหลือ)

๒. คำว่า ลืบ ลืด มีปรากฏใช้ในเอกสารโบราณใดบ้างหนอ

วานเพื่อน ๆ ช่วยกันวิสัชนาที

 ???


กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 พ.ค. 11, 22:55
ขอบพระคุณทุกท่านที่ช่วยเข้ามาตอบให้ความกระจ่างนะครับ ผมโล่งอกมากที่ผมไม่ต้องเป็นทวด เจ้า ค. แล้ว  ผมอายุแค่ 40 เป็นน้าเจ้า ข. ก็เต็มกลืน ถ้าจะให้เป็น ทวด เจ้า ค. ตามความเข้าใจผิดของพี่ ก. อีก(แกยืนยันตลอดเวลาว่าเจ้า ค. ต้องเป็นเหลนผมสถานเดียว)ผมรับไม่ได้จริง ๆ
ขอบคุณอีกครั้งนะครับ

พี่ ก.ของคุณสับสนกับคำว่าหลานลุงหลานป้า(หรือหลานน้าหลานอา)   กับหลานปู่หลานย่า(หรือหลานตาหลานยาย)     แม้ใช้คำว่าหลานเหมือนกันแต่ความหมายต่างกันคนละชั่วคนเลยทีเดียว

ส่วนพี่ก.ของคุณ  อายุมากกว่าคุณก็จริงแต่เป็น "ญาติผู้น้อง" ของคุณ เพราะเขาเป็นลูกของน้า  ตามศักดิ์แล้วเป็นน้อง    เคยเห็นคนรุ่นคุณปู่คุณย่าที่เขาเคร่งครัดเรื่องนับญาติ  เขานับอย่างพี่ ก. จริงๆ     
คุณพ่อสามีดิฉันมีญาติผู้พี่ คือลูกสาวของป้าที่อายุอ่อนกว่าคุณปู่    นับตามอายุ สามีดิฉันก็ต้องเรียกท่านว่าคุณอา   แต่คนรุ่นนั้นนับกันที่ศักดิ์   สามีดิฉันจึงถูกสอนให้เรียกว่าคุณป้า     คุณอาที่กลายเป็นคุณป้า เวลาพูดกับคุณปู่ก็เรียกชื่อเฉยๆ ไม่เรียกพี่ เพราะถือว่าคุณปู่เป็นญาติผู้น้อง

ถ้าอายุไล่เลี่ยห่างกันสองสามปี ก็พอกล้อมแกล้มเรียกกันไปตามศักดิ์ได้  แต่ถ้าห่างกันเป็น ๑๐ ปี  คงลำบากใจ   บางบ้านก็เลยนับญาติกันด้วยอายุ ใครแก่กว่าเป็นพี่ ใครอ่อนกว่าเป็นน้อง   ไม่ต้องดูศักดิ์ลูกผู้พี่ผู้น้องกันให้ยุ่งยาก


กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 20 พ.ค. 11, 15:04
ถ้าอ่านประวัติขุนนางแล้วจะไม่งงค่ะ   คือนับกันว่าเจ้าของเรื่องเป็นชั้นที่ ๓  บิดาและญาติพี่น้อง เป็นชั้นที่ ๒    ปูย่าตายายเป็นชั้นที่ ๑

หลานนั้นมีหลานป้า/อา/น้า/ลุง  และ  หลานปู่/ตา/ย่า/ยาย

ชวดนั้นอยู่ระดับสูงกว่าปู่กับย่าหรือ ตากับยาย  ขึ้นไป ๑ ขั้นค่ะ

หลายคนก็เรียกชวด หรือ ทวด ก็ได้ค่ะ


สูงจากทวดขึ้นไปอีก ๑ ขั้น ก็เป็นเทียด หรือ เชียด

น.ม.ส. ทรงพระนิพนธ์ไว้ว่า

เทียดทวดปู่พ่อข้า         เป็นกวี
ทุกพระองค์ทรงมี           มติกล้า
วงศาวลีศรี                 ศุภอรรถ
ลำดับนับได้ห้า             ชั่วแล้วแนวกวี

เทียดทวดปู่พ่อข้า 

๕ รุ่นนี้มีใครบ้างเอ่ย

 ;D






กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 20 พ.ค. 11, 16:05


       เรื่องการดูญาติขุนนางนั้น   สกุลบุนนาคนับว่าใหญ่โตกว้างขวาง  ดูเท่าไรก็ก็ไม่เบื่อ

ผู้ใหญ่ในสกุลได้ปกครองเลี้ยงดูน้องต่างมารดามาด้วยดี  ส่งไปต่างประเทศ  ถวายตัวน้อง ๆ

เป็นมหาดเล็กอันเป็นบันไดขั้นต้นของการรับราชการ


      รูปถ่ายหมู่ของพวกท่านก็น่าดู  เพราะพี่น้องร่วมท้องหน้าตาเหมือนกันหลายกลุ่มทีเดียว

ดิฉันสนใจผ้าลายที่ท่านนุ่ง และเครื่องประดับที่แต่ง

กลุ่มไหนได้เป็นเจ้่าขรัวตาเจ้าขรัวยาย  หรือแม้นแต่มีธิดาเป็นเจ้าจอม  ก็จะยกย่องให้นั่งในที่เกียรติยศ



      นายโหมด(พระยากสาปนกิจโกศล) ผู้เกิดในรัชกาลที่ ๓  ก็เขียนวงศ์ท่าน และสภาพแวดล้อมของบ้านเมืองไว้น่าอ่าน

ตัดตอนที่ท่านเป็นเด็กๆมาพิมพ์ให้เด็กอ่าน  จะสนุกและเป็นความรู้อย่างยิ่ง


      ประวัติเจ้าพระยานรรัตนราชมานิต ก็ยืดยาว      ท่านนับตัวท่านเป็นชั้นที่เก้า
ชั้นที่แปด คือ  นายน้อย  ข้าหลวงเดิม ในกรมหมื่นมาตยาพิทักษ์  รัชกาลที่ ๓

ชั้นที่เจ็ด คือหลวงรักษาพล(กลิ่น)  ภรรยาคือ ท้าวยศมณเฑียร    ในรัชกาลที่ ๓  กรุงเทพฯ
ชั้นที่หก  นายน่วม  ข้าหลวงเดิมในรัชกาลที่ ๓  กรุงเทพฯ

เหนือไปกว่านั้นข้อมูลสับสนอยู่บ้าง   ยังหาที่ยืนยันไม่ได้  เลยมิอาจจะเล่าในที่นี้ได้  เพราะเกรงใจหลายท่าน
หวาดกลัวบางท่าน     กลัวท่านจะหัวเราะ


กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 20 พ.ค. 11, 16:13


        รูปถ่ายหมู่ของพวกท่านก็น่าดู  เพราะพี่น้องร่วมท้องหน้าตาเหมือนกันหลายกลุ่มทีเดียว

ดิฉันสนใจผ้าลายที่ท่านนุ่ง และเครื่องประดับที่แต่ง

กลุ่มไหนได้เป็นเจ้่าขรัวตาเจ้าขรัวยาย  หรือแม้นแต่มีธิดาเป็นเจ้าจอม  ก็จะยกย่องให้นั่งในที่เกียรติยศ



ขอเป็นจระเข้แสนซน กระทุ่มน้ำฟาดหาง งัดภาพหมู่ตระกูลสายบุนนาคให้คุณวันดี ช่วยวิเคราะห์ผ้านุ่ง สักหน่อย  ;D ไม่ได้ไม่ว่ากัน ผมจะรีบมุดน้ำดำหายไปเร็วพลัน  ;D ;D


กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: art47 ที่ 20 พ.ค. 11, 17:56

ขอเป็นจระเข้แสนซน กระทุ่มน้ำฟาดหาง งัดภาพหมู่ตระกูลสายบุนนาคให้คุณวันดี ช่วยวิเคราะห์ผ้านุ่ง สักหน่อย  ;D ไม่ได้ไม่ว่ากัน ผมจะรีบมุดน้ำดำหายไปเร็วพลัน  ;D ;D

ไหนๆ จระเข้ก็โผล่พ้นน้ำมาแล้ว ไยไม่ลองอาละวาดดูสักที

(เอ๊ะ :o หรือว่ากำลังอาละวาดอยู่)

ว่าจะเดินทางไปเมืองนนท์ หาพ่อไกรทองมาช่วยอีกแรง


กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: art47 ที่ 20 พ.ค. 11, 18:01

น.ม.ส. ทรงพระนิพนธ์ไว้ว่า

เทียดทวดปู่พ่อข้า         เป็นกวี
ทุกพระองค์ทรงมี           มติกล้า
วงศาวลีศรี                 ศุภอรรถ
ลำดับนับได้ห้า             ชั่วแล้วแนวกวี

เทียดทวดปู่พ่อข้า 

๕ รุ่นนี้มีใครบ้างเอ่ย

 ;D




เสนอหน้าเสนอตัว ตอบคำถามของคุณเพ็ญชมพูครับ ;D

1. ข้า      คือ  พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ (น.ม.ส.)
2. พ่อ     คือ  สมเด็จกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ
3. ปู่      คือ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
4. ทวด   คือ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
5. เทียด  คือ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช


กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 20 พ.ค. 11, 18:13


       คุณชายเหล่านี้ท่านนุ่งผ้ายกทอเฉพาะตัว  ไม่ใช่ผืนใหญ่ของผู้ใหญ่ที่นุ่งกันเกือบจะใต้อก

ยายแหม่มที่ตอนนั้นแทบไม่เคยเห็นเมืองแก้ว   ร้องกรี๊ด

เมืองเราร้อนจะแย่        ที่นุ่งผ้ายกน่ะให้เกียรติมหาศาลแล้ว

สังเกตว่าเสื้อตอนนั้น  ช่างตัดเสื้อคนจีนเข้าวงแขนไม่เป็น  ทั้งดึงและรั้ง

อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ใช่มรดกที่ตกทอดกันมาก็แล้วกัน

ก่อนหน้านั้นหน่อย  ท่านโปรดผ้าม่วงเขมร  แต่ราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ


กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 20 พ.ค. 11, 18:35
ขอบคุณครับ คุณวันดี  :-[


กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 20 พ.ค. 11, 22:28
เสนอหน้าเสนอตัว ตอบคำถามของคุณเพ็ญชมพูครับ ;D

1. ข้า      คือ  พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ (น.ม.ส.)
2. พ่อ     คือ  สมเด็จกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ
3. ปู่      คือ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
4. ทวด   คือ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
5. เทียด  คือ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

ให้คะแนนคุณอาร์ต ข้อละ ๒๐ คะแนน ๕ ข้อได้ ๑๐๐ คะแนนเต็ม ไม่มีคำผิดให้หัก

แถมคะแนนความนิยมอีก ๑๐๐ คะแนน

ครั้งหน้าถ้ามีคำถาม

ขอเชิญมาอีก

 ;D 


กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 21 พ.ค. 11, 08:22
อ้างถึง
1. ข้า      คือ  พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ (น.ม.ส.)
2. พ่อ     คือ  สมเด็จกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ
3. ปู่      คือ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
4. ทวด   คือ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
5. เทียด  คือ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

น่าจะลองหาต่อไปถึงรุ่นลูก และหลานนะครับ


กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 21 พ.ค. 11, 09:51
ขึ้นสายบน แต่ละรุ่นมีคนเดียว

ลงสายล่าง แต่ละรุ่นมากมาย

ลองคิดง่าย ๆ จากรุ่นคุณนวรัตนลงไป หากแต่ละรุ่นมีลูก ๒ คน

คุณนวรัตนจะมี ลูก+หลาน+เหลน+ลื่อ+ลืบ+ลืด รวมทั้งหมดกี่คน

 ;D


กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 21 พ.ค. 11, 10:16
ผมหมายถึงเฉพาะสายตรงของ น.ม.ส. น่ะครับ
ทราบแต่ว่า โอรสองค์หนึ่งคือ หม่อมเจ้าจันทร์จิรายุวัฒน์ รัชนี มีความสามารถในด้านกวี ใช้นามปากกาว่า "พ. ณ. ประมวญมารค"

ชั้นลูกของท่าน หม่อมราชวงศ์แซมแจ่มจรัส รัชนี ได้ยินว่ามีฝีมือเชิงนี้อยู่ แต่ผมไม่เคยเห็นผลงาน พอชั้นหม่อมหลวง ก็เงียบไปเลย(หรือซุ่มเงียบอยู่ก็ไม่ทราบ) ได้ข่าวว่ามีนักแต่งเพลงคนหนึ่ง เป็นหม่อมหลวงนามสกุลรัชนี ไม่ทราบจะเป็นสายตรงหรือเปล่า


กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 พ.ค. 11, 10:19
พระโอรส-ธิดาในพระราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัส กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์

พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ได้ทำพิธีอาวาหะมงคล กับคุณพัฒน์ บุนนาค บุตรีเจ้าพระยาภาสกรวงศ์ และท่านผู้หญิงเปลี่ยน เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๔ ทรงมีพระโอรส-ธิดา คือ

    หม่อมเจ้าจันทร์เจริญศิริ รัชนี
    ท่านหญิงศะศิเพลินพัฒนา บุนนาค
    หม่อมเจ้าจันทร์จิรายุวัฒน์ รัชนี
    หม่อมเจ้ารัชนีพัฒน์พิทยาลงกรณ์ รัชนี
    ท่านหญิงศะศิธรพัฒนวดี บุนนาค
    หม่อมเจ้าจันทร์พัฒน์โมลีจุฑาพงศ์ รัชนี

เมื่อหม่อมพัฒน์ อนิจกรรมแล้ว ทรงเสกสมรสใหม่ กับหม่อมเจ้าหญิงพรพิมลพรรณ รัชนี (วรวรรณ) พระธิดาของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๒ ทรงมีพระโอรส-ธิดา คือ

    หม่อมเจ้าหญิงวิภาวดี รังสิต (พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต)
    หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี

   วิกี้ให้นามพระโอรสเพิ่มอีก 3 องค์   ไม่ทราบว่าจากหม่อมท่านไหน
    
    หม่อมเจ้าชายจันทรจิรากาล
    หม่อมเจ้าชาย (ไม่ระบุพระนาม)
    หม่อมเจ้าชายจันทร์จรัส (? - 28 ธ.ค. 2450)

    หามาได้แค่ชั้นลูก  ชั้นหลานหาไม่ไหวค่ะ


กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: art47 ที่ 21 พ.ค. 11, 13:42

พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ได้ทำพิธีอาวาหะมงคล กับคุณพัฒน์ บุนนาค



อาวาหะมงคล
(การพาหญิงมาอยู่บ้านชาย)

คำนี้ปัจจุบันไม่ค่อยมีใครใช้กันแล้ว
ไม่ว่าจะแต่งงานแบบไหน
ต่างก็ใช้ "วิวาหะ" (การพาชายไปอยู่บ้านหญิง) กันแทบทั้งนั้น

ไม่ว่าแต่งแล้วผู้ชายอยู่บ้านผู้หญิง ผู้หญิงอยู่บ้านผู้ชาย หรือทั้งคู่จะแยกบ้านออกมาอยู่กันเอง ก็ตามทีเถิด


กระทู้: หลาน(ลูกของลูก)น้าเรา เป็นอะไรกับแม่เราครับ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 21 พ.ค. 11, 13:55
ถ้าไม่ไปอยู่ทั้งบ้านฝ่ายชายและฝ่ายหญิง

๔. "คนธรรพวิวาห์" (บาลี คนฺธพฺพวิวาห, สันสกฤต คนฺธรฺววิวาห) "การได้เสียเป็นผัวเมียกันเอง"

เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า

วิวาห์เหาะ


 ;D