เรือนไทย

ตัวผมได้หนังสืออนุสรณ์เจ้านายมาหลายเล่มเลย( ;Dชอบโดยส่วนตัว)
-พระประวัติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช(งานพระบรมศพของรัชกาลที่๘)หายากมาก..ร้านแม่จินดา
-อนุสรณ์หม่อมเจ้าการวิก จักรพันธุ์..ร้านไตรภูมิ
-อนุสรณ์หม่อมเจ้าประสบศรีจิรประวัติ จิรประวัติ..ร้านสุวิมล
-อนุสรณ์ม.ร.ว.แสงสุรย์ ลดาวัลย์..ร้านสุวิมล
-อนุสรณ์ม.ร.ว.กัลยาณกิติ์ กิติยากร..(จำชื่อร้านไม่ได้)
-อนุสรณ์หม่อมเจ้าอาชวดิศ ดิศกุล..(จำชื่อร้านไม่ได้)

แล้วพวกคุณล่ะครับได้หนังสือดีๆอะไรกันมาบ้างมาแชร์ๆกัน

ผมได้มาเเค่ 2 เล่มเองครับไม่ได้เดินไปครบทุกบูธน่าเสียดายมากกก  เอามาแบ่งปันน่ะครับ 
 
 1.หนังสือพระราชธิดาในรัชกาลที่ 5 (พระเ้าบรมวงศ์เธอชั้นที่ 5 พระองค์เจ้าวาปีบุษบากร) จากร้านไตรภูมิ
 2.หนังสืออนุสรณ์ นายจุลนภ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา อดีตองคมนตรี จากร้านนราหนังสือเก่า   

คุณ teera คุณซื้อหนังสืออนุสรณ์ หม่อมเจ้าการวิก จักรพันธุ์ จากร้านไตรภูมิราคาเท่าไรครับ

ผมไปมาสองวัน
ผมดเงินไปหลายพัน
ได้หนังสือมาประมาณสิบกว่าๆ เล่ม  ;D

1. ประชุมพงศาวดาร ฉบับคุรุสภา 5-6 เล่ม
2. ประชุมประกาศรัชกาลที่ 4 ภาคที่ 6 งานออกพระเมรุกรมขุนมรุพงศ์สิริพัฒน์
3. จดหมายเหตุสยามไสมย 3 เล่ม ครบชุด (ด้วยความอนุเคราะห์จากผู้อาวุโส)
4. ตำราภาพเทวรูปและเทวดานพเคราะห์
5. พงศาวดารจีนเรื่องส้วยถัง และเรื่องไซจิ้น

กับอีกเล็กๆน้อยๆ สักสามสี่เล่ม ที่จำชื่อเรื่องไม่ได้แล้ว  :-\

ไปมาแล้วเช่นกันครับ ได้หนังสีอ
๑. จดหมายเหตุสยามไสมย 3 เล่ม ครบชุด
๒. ราชกิจจานุเบกษา รัชกาลที่ ๔ งานศพนายประกอบ หุตะสิงห์
๓. หนังสือภาพถ่าย โดยจอห์น ทอปม์สัน
และหนังสืออื่นๆ อีกจิปาถะ

สนในหนังสือตำราภาพเทวรูปและเทวดานพเคราะห์ จังเลย  ;D

 :P

ไปมาเมื่อวันอาทิตย์ค่ะ เดินตั้งแต่ 10โมงเช้า ถึง สีโมงเย็น ได้หนังสือมาเยอะมาก ที่ดีใจคือได้ของจินตวีร์ วิวัธน์มาสองเรื่อง คือขวัญหนี และสางสีทอง สภาพเก่ามาก
นอกนั้นก็เป็นของท่านอาจาย์คึกฤทธิ์ และ ว ณ ประมวลมารค และสำนักพิมพ์เพื่อนดี ยังได้ลายเซ็นต์อาจารย์เทาชมพูที่หน้าปกในหนังสือเลยค่ะ :)

ครับคุณCNDR ผมซื้อหนังสืออนุสรณ์ม.จ.การวิกในราคา1200ครับ(แพงมาก)แต่อยากได้ครับเลยต้องยอมซื้อ :'(

หนังสือราคาสูง

        หนังสือราคาสูงเพราะในระยะเวลานั้น   ร้านอื่น ๆ ไม่มี
       
        คนส่ง  ส่งแพง     
        อีกร้านหนึ่งได้หนังสือมาในเวลาเดียวกัน  แต่ขายถูกกว่ามาก
        วิธีที่ได้ปฎิบัติไปแล้ว  คือเดินกลับไปบอกร้านที่เพิ่งซื้อมา  และขอเงินคืน ๑๐๐ บาท
        เจ้าของถามว่าจะเอาเงินคืนจริง ๆ หรือ       ตอบว่าไม่อย่างนั้นก็คืนหนังสือและขอเงินคืนทั้งหมด


        ไตรภูมิเป็นร้านที่มีชื่อเสียงในเรื่องหนังสืออนุสรณ์   มีสตัอคมาก
        วิธีที่แนะนำคือ   คอยซื้อกับคุณหนุ่มเจ้าของร้านผู้มากไมตรี(ผิวคล้ำ  หล่อ   พูดจาสุภาพ  มีอารมณ์ขัน)

        หลังจากคุณหนุ่มลดราคาให้แล้ว  แต่ผู้ซื้อยังไม่พอใจ  โปรดต่อรองต่อไป  ใช้เหตุผลธรรมดาที่ตรงไปตรงมา
        เช่น     คุณอยากอ่านหนังสือแนวนี้  แต่มีทรัพย์ไม่พอ
        หรือคุณกำลังจะเก็บหนังสือประเภทนี้(ที่บ้านมีหลายร้อยเล่มก็ไม่ต้องเผลอบอกไปหรอกนะคะ)  อยากเก็บอีกเล่ม
        ยังเป็นนักเรียนนักศึกษาอยู่(ใครๆก็เป็นนักเรียนได้จนช้่วฟ้าดินสลายนั่นแหละ)
        คุณจะซื้อไปให้ท่านผู้ใหญ่ เช่นอาจารย์เก่าสูงอายุ   พยายามเน้นอายุท่านผู้ใหญ่    คุณหนุ่มใจอ่อนทนฟังไม่ไหวแน่          ท่านบ่นว่าอยากอ่านเพราะอะไรก็ว่าไป...       


        การตั้งราคาของร้านอาจผิดพลาดได้  เพราะหนังสือของท่านผู้อยู่ในวงสังคมชั้นสูง  ได้มาน้อย  บางครั้งได้มา หนึ่งเล่มก็มี
        หนังสือมีภาพเต็มไปหมด      ประวัติไม่น่าอ่านเท่าไร    นอกจากเป็นธิดาผู้ก่อการ  และอดีตสามีเป็นนักวิชาการผู้มีชื่อเสียง
        ข้อแนะนำ     ยืนจดประวัติตรงนั้นเลย  แล้วไม่ต้องซื้อ   หวังว่าท่านที่จะใช้วิธีนี้เขียนหนังสือเร็ว

       
        เมื่อราคาฟังดูสมเหตุผลแล้ว (ค่าเช่าบูทแพง) ก็จ่ายสตางค์ไปเถิดค่ะ      ไม่มีวันว่าขาดทุนเมื่อซื้อหนังสือ
        อย่าให้ใครยืมไปอ่านก็แล้วกัน   ทีนี้ขาดทุนแน่ ๆ     

พอกันทั้งคู่เลย  จะเอาตำราไปทำเทวรูปส่งขายโบสถ์พราหมณ์กันหรืออย่างไร

ปลอมตัวเป็นคุณหลวงออกไปทักทายตามร้านหนังสือเก่า  ได้หนังสือมา ๒๕ เล่ม
หมดทรัพย์ไป ๒๐๐๐ บาท เศษ  (มีคนทักว่า  จริงดิ  ไปหักคอเจ้าของร้านมาหรือ
เปล๊า  (ปฏิเสธเสียงสูง)  ก็เดินซื้อเหมือนที่คนอื่นเขาทำกันนั่นแหละ  ไม่มีอะไรพิเศษ)

ได้หนังสืองานศพคุณวิไล  อมาตยกุล ๑ ชุด  ราคาเกือบกึ่งพันบาท   
(((เจ้าของร้านกระซิบว่าออกมาน้อยนะครับ
อือม์ ทราบจ้ะ  สายข่าวบอกมาเมื่อวันงานพระราชทานเพลิงศพแล้ว ๑ วัน 
เจ้าของร้านว่า  หนังสืองานศพมารดาอาจารย์พิริยะ  ก็มีนะครับ  ราคา ๑๒ บาท  เท่านั้นครับไม่ทราบสนใจหรือไม่
อ้อ  คุณมีเยอะหรือ   
เจ้าของร้านตอบว่า มีเยอะครับ   
ผมไปถามที่ร้านประจำกัน  เขาว่าราคาสูงไม่กล้าเอาลง  เห็นว่าค่าพิมพ์หนังสืองานศพก็เกินแสนแล้ว
เจ้าของร้านว่า  อ้อคนนั้นหรือครับ   ไม่ทราบว่าไปที่นั่นบ่อยไหมครับ
ไม่บ่อยหรอก  แต่ทุกอาทิตย์เห็นจะได้  นี่ก็เพิ่งได้หนังสืองานศพ......มา มีที่ร้านหรือเปล่า
เจ้าของร้านว่า  ยังไม่มีครับ  หาอยู่  ดีไหมครับ
ไม่มีอะไร  มีประวัติสั้นๆ รูป และบทสวดมนต์  กับเทวรูปองค์เล็ก ๑ องค์  ไปร้านประจำผมสิ  เขาได้มาเยอะเลย
เจ้าของร้านถามอีกว่า  แล้วเล่มอื่นละครับ มีอะไรอีก
อ้อ  มีหนังสืองานศพคุณหญิงเลื่อน  เทพหัสดิน ณ อยุธยา   เล่มนี้ดี  อ่านสนุกมาก เขามาจากตระกูลใหญ่
มีเรื่องเล่ามาก)))

ได้หนังสืองานศพศ.พญ.คุณหญิงสุภา  มาลากุล ณ อยุธยา จากร้านชื่อออกแนวบันเทิง
ราคาไม่มากไม่มาย  รูปสวยดี

ไปได้หนังสืองานศพคุณหญิงเผชิญ อรรถยุกติ มา ๑ เล่ม  ราคาไม่ถึง ๒๐๐ บาท 
แหมอ่านเพลินดีนักแล 

ได้หนังสือราคาเล่มละ ๕๐ บาท มา ๔ เล่ม  เป็นเรื่องเล่าภรรยานักเขียน ๑ เล่ม อ่านสนุกนัก
วรรณกรรมวิจารณ์ ๑ เล่ม หนังสือนักเขียนหญิงคนดังชอบเล่าเรื่องเก่าๆ ๑ เล่ม
และวารสารวิชาการด้านประวัติศาสตร์ไทย ๑ เล่ม

ได้หนังสือที่ระลึกงานศพพระราชาคณะชั้นผู้ใหญ่ เกี่ยวกับรายการพระราชกุศลวัดเบญจมบพิตร
รวม ๔ เล่ม/ชุด  กับหนังสือ เปิดกรุศิลปิน และ หนังสือเรื่องเล่าของพ.ต.ต.เลื่อน  กฤษณามระ
ราคาแล้ว  ๑๐๐๐  บาท ๖ เล่ม  จากร้านคุณส.หนังสือเก่า 

ได้หนังสือเล่มอื่นเล็กๆ น้อยมาอีกมาก  ราคาไม่เกินเล่มละ ๓๐๐ บาท    จึงเล่าสู่กันฟังเท่านี้แล

หากให้ใช้ฝีมือในด้านเขียนก็พอทำเนา
แต่หากใช้ฝีมือในด้านปั้นแล้วไซร้

กลัวจะดูไม่ออกว่าเทวดาองค์ไหนคือองค์ไหน  ;)

ตกลง  พนายซื้อตำรานี้มาเพื่อการอันใดแน่  ฝึกเขียนกระนั้นรึ

ได้แต่เล่มนี้ มาขอรับ.......

โชคดีได้ ท่านผู้ใหญ่ใจดี (และเสียงแจ๋ว) เป็นเถ้าแก่ เจรจาต้าอวยให้ ราคาจึงหายจากป้ายไปเกือบ ๑ ใน ๓ !!!!!! และเมื่อทราบวัตถุประสงค์ในการซื้อ เจ้าของร้านก็กรุณาสมทบทุนเพิ่ม(ลดให้เพิ่ม) ต้องขอกราบงามๆ  เป็นการขอบพระคุณ

ท่านผู้ประพันธ์ ท่านเล่าว่า ท่านตั้งใจเขียนตำราฉบับสมบูรณ์ (หลังจากที่พิมพ์ ตำราฉบับมาตรฐาน และคำบรรยาย มาแล้วหลายหน) ตรากตรำเขียน จนต้องเข้าโรงพยาบาลให้น้ำเกลือ เพราะโหมหนัก........ จึงประสงค์อยากเก็บไว้เป็นที่ระลึกถึงความเหนื่อยยากซัก ๑ เล่ม เพราะของส่วนตัว ก็ได้ยกให้กับหน่วยงานรัฐไว้เป็นสาธารณะประโยชน์ไปหมดแล้ว (และกลายเป็นเรื่องเศร้า.......)  ท่านเซ็นชื่อไว้ในหน้าคำนำของทุกเล่ม ด้วยปากกาสีเขียว น่าเก็บสะสมแท้จริงเชียวครับ

ศึกษากล้วยไม้ ก็หาแต่หนังสือกล้วยไม้  (แต่ก็ได้หนังสืออื่นมาบ้าง) ว่าจะซื้อสยามไสมย ท่านผู้ใหญ่ใจดีอีกท่านก็กรุณา ให้ยืมอ่านก่อน บอกว่า ถูกใจค่อยมาหาซื้อ (แต่คงต้องรีบ) งานนี้ แค่ไปเดิน ไปนั่งคุย สนทนาประสาคนชอบพอกัน ก็สนุกแล้วครับ.........

 

ขออนุโมทนาแก่คุณ piyasann ที่ได้หนังสือดังกล่าว
หนังสือไม่ว่าเก่าหรือใหม่ย่อมมีคุณค่าทั้งนั้น  ราคาอาจจะเป็นอุปสรรคในการซื้อหาบ้าง
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะต่อรองกันมิได้   เจ้าของร้านหนังสือไม่ได้ใจดำกันเป็นอาจิณ
ถ้ามีอัธยาศัยไมตรีต่อกัน  มีคนกลางมาเชื่อมความสัมพันธ์กันก็สามารถต่อรองราคาได้
ความรู้เมื่ออยู่ในที่และกับคนที่เหมาะสมก็จะมีค่ามหาศาล 
เจ้าของร้านและท่านผู้ใหญ่ท่านั้น ย่อมแลเห็นประกายความตั้งใจสนใจในตาคุณ piyasann เป็นแน่
จึงได้เอื้อไมตรีโดยไม่มีข้อแม้   

สยามไสมยนั้น  เป็นหนังสือดี  สมาคมอั้งยี่นักอ่านตั้งเป็นกฎว่า  ต้องอ่านให้จบอย่างน้อย ๓ รอบ ;)

ท่านทราบไหมว่าท่านผู้ใหญ่เสียงแจ๋วนี้ เดินเข้าไปที่บูธ เล็งหนังสือ สายตาหันรี หันขวางดังอีกากกไข่ กอดหนังสือไว้แน่นแนบอก แนบกาย มิให้สายตาคนรอบข้างได้แทะโลมตัวหนังสือแม้แต่น้อย ครั้นแล้วก็เดินออกมานั่งกอดไว้ที่เก้าอี้ด้วยความระวังไว เห็นถึงความรักที่มีต่อท่านเป็นยิ่งนัก

ไอ้ที่กอดหนังสือไว้แน่นแนบอก แนบกายนั้น คงไม่ใช่เพราะกลัวคนอื่นแย่งซื้อไปดอกกระมั้ง  ;D


อืมมม เป็นความคิดที่ดี

ไว้กระผมฝึกเขียนงามๆ แล้วไซร้ จักนำเรียนเป็นบรรณาการแก่ใต้เท้าพระกรุณานะขอรับ

ตกลง  พนายซื้อตำรานี้มาเพื่อการอันใดแน่  ฝึกเขียนกระนั้นรึ
[/quote]

อืมมม เป็นความคิดที่ดี

ไว้กระผมฝึกเขียนงามๆ แล้วไซร้ จักนำเรียนเป็นบรรณาการแก่ใต้เท้าพระกรุณานะขอรับ
[/quote]

อ๋ายหย๋า ๆ ลื้อไปจิ้มก้องภักดีกันแล้วหรือ  ??? ???

อืมมม เป็นความคิดที่ดี

ไว้กระผมฝึกเขียนงามๆ แล้วไซร้ จักนำเรียนเป็นบรรณาการแก่ใต้เท้าพระกรุณานะขอรับ
[/quote]

อ๋ายหย๋า ๆ ลื้อไปจิ้มก้องภักดีกันแล้วหรือ  ??? ???
[/quote]

อ่อหนา ท่านใต้เท้าออกขุนนนท์

อ้ายกระผมยังต้องพึ่งใบบุญฝากตัวกับใต้เท้าพระกรุณาอีกนานนะขอรับ

หากมีเรื่องหมองใจขุ่นมัวมื้อใด มื้อนั้นอ้ายกระผมจักไร้สำนักอาศัยก็เป็นได้  :o

ที่อยากได้ เขาก็ไม่ปล่อย (และคาดว่าจะไม่ปล่อยแน่นอน) ถึงปล่อยก็ไม่รู้จะมีอัฐพอไปซื้อหรือเปล่า

บางเล่มไถพี่ ๆ น้อง ๆ อ่านเอา ก็เลยไม่รู้จะต้องซื้อไปทำไมอีก ฮ่า

บางเล่มขาดตลาด บางร้านก็ไม่มาขาย เลยเดินตัวปลิว ให้เปลืองแอร์ของเจ้าของงานไปอย่างนั้นเอง

อ๋ายหย๋า ๆ ลื้อไปจิ้มก้องภักดีกันแล้วหรือ  ??? ???
[/quote]

อ่อหนา ท่านใต้เท้าออกขุนนนท์

อ้ายกระผมยังต้องพึ่งใบบุญฝากตัวกับใต้เท้าพระกรุณาอีกนานนะขอรับ

หากมีเรื่องหมองใจขุ่นมัวมื้อใด มื้อนั้นอ้ายกระผมจักไร้สำนักอาศัยก็เป็นได้  :o
[/quote]

พนายจักต้องมาฝากตัวพึ่งใบบุญกับเราด้วยเรื่องอันใด  พนายก็อาจหาญใช่ย่อยอยู่
ตำรับตำราอะไรก็สะสมไว้มิใช่น้อย  ทราบมาแต่แหล่งข่าวว่า  เดี๋ยวนี้พนายเป็นเสี่ย
ออกกว้านซื้อตำราเก็บไว้ด้วยทุนทรัพย์มหาศาล   แลมีผู้เล็งการณ์ไกล ได้พยากรณ์ว่า
อีกหลายสิบปีต่อแต่นี้  พนายจะเป็นยอดจอหงวนแห่งลุ่มเจ้าพระยา  

บัดนั้นเราคงจะหมดภาระหน้าที่ในการเป็น ทปษ. ของใครบางคน
เวลามีทุกข์ก็ถามถึง  เวลามีสุขไม่เห็นมาบอกกล่าว   :(

อ่อหนา ท่านใต้เท้าออกขุนนนท์

อ้ายกระผมยังต้องพึ่งใบบุญฝากตัวกับใต้เท้าพระกรุณาอีกนานนะขอรับ

หากมีเรื่องหมองใจขุ่นมัวมื้อใด มื้อนั้นอ้ายกระผมจักไร้สำนักอาศัยก็เป็นได้  :o
[/quote]

พนายจักต้องมาฝากตัวพึ่งใบบุญกับเราด้วยเรื่องอันใด  พนายก็อาจหาญใช่ย่อยอยู่
ตำรับตำราอะไรก็สะสมไว้มิใช่น้อย  ทราบมาแต่แหล่งข่าวว่า  เดี๋ยวนี้พนายเป็นเสี่ย
ออกกว้านซื้อตำราเก็บไว้ด้วยทุนทรัพย์มหาศาล   แลมีผู้เล็งการณ์ไกล ได้พยากรณ์ว่า
อีกหลายสิบปีต่อแต่นี้  พนายจะเป็นยอดจอหงวนแห่งลุ่มเจ้าพระยา  

บัดนั้นเราคงจะหมดภาระหน้าที่ในการเป็น ทปษ. ของใครบางคน
เวลามีทุกข์ก็ถามถึง  เวลามีสุขไม่เห็นมาบอกกล่าว   :(
[/quote]

คำเล่าคำลือมาแต่แดนบางพลีนั้นหาอาจเชื่อถือได้มากน้อย

ความจริงเพียงปันหนึ่งในสิบส่วน  ;D

ขออนุญาตนอกแถวเล็กน้อย คือ ไปหาหนังสือจากร้านหนังสือเก่าเช่นกันค่ะ
แต่ได้เล่มที่พิมพ์ใหม่ เพราะ อยากได้เรื่องที่ยังไม่ได้อ่าน ไม่เก่าก็ได้ เอาทั้งนั้นค่ะ

"อติรูป" ของ แสงทอง
"พระเจ้ากรุงสยาม" ของ ส.ธรรมยศ (เชยมากที่เพิ่งจะได้อ่านกับเขา)
"ความพินาศของโตเกียว" ของ เสถียร พันธรังสี (อยากได้มานาน)
"The Revolutionalist" ของ Pearl S. Buck
 ไม่ซื้อมาก เพราะเวลาอ่านแทบไม่มี อีกหลายเล่มที่บ้านยังกวักมือเรียกให้มาหยิบมาจับเสียบ้าง

คุณหลวงเล็ก ท่านเป็นนักShopping หนังสือตัวจริง
ทำได้อย่างไรคะ 25 เล่มราคา 2 พัน ราวกับเหมาจากอาแป๊ะขายของเก่า

ดีใจจริง ๆ ค่ะ ที่ สมาชิกเรือนไทยรู้ค่าของหนังสือเก่าขนาดนี้

อยากรู้เช่นกันครับ  :P แต่ก็ดีใจที่คุณหลวงนั้นได้ตามหาหนังสือที่ติดตามมานานได้สำเร็จ หากคุณร่วมฤดียังมีเวลาพอครับ เดือนตุลาคมนี้มีงานสัปดาห์ส่งเสิรมการอ่าน จะมีหนังสือมาให้เลือกเดินอีกครับ

        คุณ ส. ธรรมยศ  เขียน พระเจ้ากรุงสยาม บนเตียงคนไข้ในโรงพยาบาล

ข้อมูลไม่ครบถ้วน  เป็นที่น่าเห็นใจยิ่ง


        ช่วงก่อนงานหนังสือ  มีหนังสือหายากหลุดมาสามครั้ง   จึงออกไปต่อสู้ช่วงชิงมา

ทำให้ยากจนลงอย่างกระทันหัน


        เว็บขายของเก่าแห่งหนึ่ง  ได้รับการฝากประมูลหนังสืออั้งยี่คริสเตียนสยาม ของ ก.ศ.ร.  มาหนึ่งเล่ม  ราคาไม่แพง    ผู้บริหารตรวจสอบ

ไปมาแล้วคืนหนังสือให้เจ้าของไป

มีคนอยากได้หลายคน     มีนักเขียนอาวุโสอยากเขียนก็หลายคน  หนึ่งเล่มนี่นะ?


        มีหนังสือปกสวยรุ่นที่สองที่ทำปกเป็นเรขาคณิตด้วยหนังหนุนสูงหลายชั้น   บางเล่มขัดหนังจนมันปลาบราวทองเหลือง  หลุดมาก่อนงานหนังสือ

๑๕ ​เล่ม       เป็นหนังสือสำคัญทั้งสิ้น    ท่านที่พอจะทราบเรื่องหนังสือปกสวยจะทราบทันทีว่าเป็นหนังสือของใคร


        ไปงานหนังสือได้หนังสือตาลปัตร พัดยศ  ศิลปบนศาสนวัตถุ  ของคุณณัฎฐภัทร  จันทวิชมาจากร้านคุณสุชิต

มีรอยลบชื่อเจ้าของ  แต่มิได้ติดใจ  เพราะคิดว่าหลังจากใช้อ้างอิงเสร็จก็จะมอบให้กับผู้ที่ต้องการต่อไป

ต้องการข้อมูลมาประกอบบทความเรื่องหนึ่ง    จำเป็นต้องซื้อในราคาสูงมากเพราะสหายบอกมาว่าตนเองก็หามาหลายที่แล้วไม่พบ


       ได้หนังสืองานศพมาอีกสามเล่มในราคาที่ต่ำมากเพราะคุณหนุ่มและคุณจอยลดให้

      
       งานหนังสือคราวนี้  หนังสือเก่าขายได้ดีมากเหมือนเมื่อหลายปีก่อน  สหายที่ไม่มีบู้ทของตนเอง ก็ได้รับส่วนแบ่งของหนังสือที่นำไปฝากขาย

เป็นเงินสดเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว

       ร้านต้นฉบับของคุณอ้วนธงชัยมีหนังสือดี ๆ เยอะเลยปีนี้    

       นักสะสมผู้ใหญ่ก็มากันหลายคน   เช่นคุณท่านทวีสิงห์  แห่งโกดังค่าควรเมือง  มีนักวิชาการสายเลือดนักสะสมหนังสือมหาศาลตามติด

และคุณท่านนโปเลียนผู้รู้จักเฟอร์นิเจอร์หลุยส์โบราณ  และตู้แสดงหนังสือที่ไม่เป็นรองใคร (รวมกล่องพลาสติคยักษ์ ๓๗ กล่องยักษ์ที่มีแต่หนังสือรุ่น ๘๐)

หามิได้  คุณร่วมฤดีกล่าวชมผมเกินไปแล้วครับ
ผมมีหลักเกณฑ์ในซื้อหนังสือไม่ว่าหนังสือใหม่หรือเก่าว่า
หนังสือเล่มใดราคาเกิน ๓๐๐ บาทขึ้นไป  หากยังไม่จำเป็นต้องใช้งาน ยังไม่ซื้อ
หนังสือเล่มใดราคาอยู่ระหว่าง ๒๕๐ - ๓๐๐ บาทให้พิจารณาความจำเป็นในการใช้งาน
ถ้าจำเป็นต้องใช้  พิมพ์มานานแล้ว  พบได้ไม่บ่อย  และพิมพ์จำนวนไม่มาก ก็ควรซื้อไว้
หากไม่ใช่หนังสือที่เข้าเกณฑ์ข้างต้นอย่างน้อย ๒ ข้อ  ไม่ซื้อ (ถ้าไม่มีเงินเหลือใช้จ่ายจริงๆ)
หนังสือเล่มใดราคาตั้งแต่ ๒๕๐ บาทลงมา  ให้พิจารณาดูว่าตรงกับความสนใจของเราหรือไม่
ถ้าใช่ก็ซื้อได้  ถ้าไม่ใช่ก็ไม่ซื้อ  

หลักอีกประการ  อันนี้อาจารย์ท่านสอนไว้  การเลือกซื้อของ ให้ยึดหลัก สวย ดี ฟรี/ถูก ทน
ถ้าเข้าหลัก ๒ ข้อก็เป็นอันซื้อได้

ความสามารถในการซื้อหนังสือถูกนั้นต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง
ประการหนึ่ง  คือความคุ้นเคยกับเจ้าของร้าน  ข้อนี้เป็นเกณฑ์สำคัญที่ทำให้ได้หนังสือราคาถูกและได้ส่วนลดแลกแจกแถม
ถ้าคุ้นเคยมาก  เจ้าของร้านอาจจะมีการให้เชื่อหรือเก็บหนังสือดีๆ ไว้ให้เรา

ประการหนึ่ง  คือความรู้เกี่ยวกับการพิมพ์หนังสือแต่ละเรื่อง  หนังสือบางเล่มพิมพ์หลายครั้ง ถ้าไม่ได้จำเพาะเจาะจงว่า
จะต้องใช้ฉบับพิมพ์ครั้งนั้นๆ แล้ว  อยากจะรู้หรือใช้เนื้อหาในเล่ม  ก็เลือกซื้อเล่มที่ถูกเหมาะสมกับทุนทรัพย์ที่มี  
เว้นแต่ว่าต้องการสะสมหนังสือเก่าก็เชิญซื้อ  แต่ควรศึกษาหาข้อมูลให้รอบด้านเสียก่อน  ไม่เช่นนั้นจะเก็บสะเปะสะปะไร้ทิศทาง
เปลืองเงินโดยใช่เหตุ

ประการหนึ่ง  คือการยับยั้งชั่งใจใคร่ครวญพิจารณา  การตัดสินใจไม่ถี่ถ้วนอาจจะทำให้ลงทุนผิดโดยไม่จำเป็น
การตัดสินช้า ทำให้พลาดของที่ควรจะได้  ของแบบนี้ต้องอาศัยประสบการณ์สั่งสมทีละน้อย
หมั่นฟังคำแนะนำของผู้มีประสบการณ์  

ประการหนึ่ง  คือผู้มีประสบการณ์  ข้อนี้สำคัญมากเหมือนกัน   บางทีเป็นผู้เยาว์ไปซื้อหนังสือ  คนขายไม่คุ้นหน้า
คิดว่ายังเยาว์แก่ความ  อาจจะไม่ลดราคาให้  ทั้งที่ผู้เยาว์อาจจะประสงค์ต้องการใช้หนังสือนั้นมาก
ตรงนี้หากมีผู้ใหญ่ใจดีมีเมตตา กรุณา มุทิตา และไม่อุเบกขา ท่านก็จะช่วยเจรจาต้าอวยให้ได้หนังสือดีราคาย่อมเยา
เมื่อได้ของที่ต้องการแล้ว  ก็ควรจะกตัญญูแก่ท่านผู้มีพระคุณด้วยวิธีการต่างๆ เช่น  หาเอกสารหาอ่านยากมาให้ท่านอ่าน  
หรือคอยสื่อข่าวสารสำคัญที่ท่านจำเป็นต้องรู้ให้ท่านรู้ทันข่าว  และเอื้อเฟื้อหนังสือดีมีประโยชน์แก่ท่านบ้าง  เป็นต้น

เท่านี้ท่านก็อาจจะซื้อหนังสือดี (ตามที่ท่านต้องการ) โดยที่เสียทุนทรัพย์พอเหมาะพอควร

หลักเกณฑ์ข้างต้นนี้  อาจจะใช้มิได้กับผู้มีนิสัยดื้อหัวแข็ง  และผู้มีทุนทรัพย์มหาศาล (เข้าร้านก็จะกว้านซื้อเสียหมดทุกเล่ม  
เจ้าของร้านยิ้มคิดตังค์ไม่ทันไม่ถ้วนเชียว) ;D ;D

นี่ ๆ เหน็บใครไม่ทราบ  ???

เรากำลังดำเนินวิธีการล้ำลึกกว่าคุณหลวง อิอิ ลูกสาวร้านไหนสวย ก็เข้าไปจีบ จักได้เป็นเจ้าของหนังสือทั้งร้าน 55+

หามิได้  ออกขุนจะร้อนตัวไปไย  ข้อความนี้หาได้หมายถึงท่านแม้แต่ปลายก้อย
ข้าพเจ้าหมายถึงเศรษฐีมหาศาลคนหนึ่งที่ท่านกำลังหาหนังสือจะสร้างห้องสมุดของท่านเอง
นี่ก็ยังเป็นห่วงว่า  ท่านเศรษฐีคิดออกหรือยังว่า  จะหยิบหนังสือที่ซื้อไปเล่มใดอ่านก่อน
ใจจริงอยากจะแนะท่านเศรษฐีว่า  ก็อ่านพร้อมกันหมดนั่นแหละ  หนังสือมันจะได้ไม่น้อยใจ ;D ;D ;D

เจ้าของร้านใดไม่มีลูกสาว มีแต่ลูกชาย หรือไม่ได้พาลูกสาวมา แต่พาภรรยามาด้วย  ออกขุนจะทำอย่างไร  จะเข้าไปจีบหรือเปล่า  
ถ้าใช้วิธีการอย่างออกขุน  ข้าพเจ้าเกรงว่า  จะลงทุนมากเกินไป  ไม่ใช่เปลืองเงิน  แต่เปลืองตัวและหัวใจมาก
เชิญออกขุนเถิด   เดี๋ยวจะจะช่วยหาเถ้าแก่ไปติดต่อให้ด้วยเอาไหม ;)

อันความนี้กระผมก็ได้สดับยินมาเช่นกันจากคุณท้าวข้างนอกที่พำนักอาศัยย่านเมืองปากน้ำ
เห็นว่า เศรษฐีมหาศาลผู้นี้ นำเงินก้อนทองก้อนเป็นพันชั่งหมื่นชั่งพกใส่ถุงแดงลากเข้าเมืองมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
ท่านว่าห้องสมุดของท่านนั้นกำลังเร่งนายด้านนายงานอยู่ อีกมิกี่เพลาคงสมบูรณ์แบบให้เยี่ยมชมได้

อ่อ แลทรัพย์สิ่งสินที่ท่านได้กลับไปนั้นมหาศาลนัก แบกขนใส่กลับเรือนของท่านนับสิบเล่มเกวียน
ข้อนี้ กระผมยินมากับตา เห็นมากับหู  ;D

มีพยานรู้เห็นมายืนยันเยี่ยงนี้  ย่อมไม่น่าจะผิด  จริงไหมออกขุน   
ข้าพเจ้าได้ยินแว่วๆ มาแต่ศูนย์สิริกิติ์ว่า   "โถ พ่อคุณ  คราวหน้าพ่อมาอีกนะ
พวกเราจะตั้งตารอคอยพ่อ  จะเตรียมหนังสือดีใส่กล่องงามๆ มาเรียงไว้ให้พ่อเลือกตามอัธยาศัย
ขอแต่พ่อเอาทรัพย์มาแยะๆ ก็พอ  เรารับไม่อั้น  จริงๆ นะ"    ;D ;D ;D ;D

ค.ค.ห.24 ของคุณหลวงเล็ก น่ารับฟังเป็นอย่างยิ่ง

เป็นความพอเพียง พอควร ที่งดงาม

ขอน้อมรับเป็นมาตรฐานในการจับจ่ายทั้งปวง

และด้วยเหตุผลทำนองนี้ ทำให้ตัดใจไม่ซื้อหนังสือภาษาอังกฤษพิมพ์ใหม่ที่ตั้งใจไว้ เพราะ "ยังรอได้" เนื่องจากต้องเจียมตัว อ่านหนังสือไม่ทัน(ใจ) อีกหลายเล่ม

สนใจแนวคิดของ ส.ธรรมยศมากค่ะ  ไม่ทราบเรื่อนไทยเคยวิเคราะห์ วิจารณ์งานของท่านไว้ที่ไหนบ้างไหมคะ

คล้าย จิตร ภูมิศักดิ์มาก หากท่านได้เกิดมาในสมัยนี้ คงไม่เหงาแน่ ข้อมูลมาก ผู้รู้ใกล้เคียงกัน ก็มาก

ส ธรรมยศ (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=192.0)

พระเจ้ากรุงสยาม โดย ส.ธรรมยศ (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=2706.0)

 ;D

ขอบคุณ คุณเพ็ญชมพูค่ะ  ได้อ่านทั้ง 2 links แต่ยังไม่จุใจค่ะ
สักวันคงจะมีพระมาโปรด นำเอาประเด็นต่างๆ มาวิเคราะห์กันอย่างเสรีได้กว้างขวางกว่านี้

ดิฉันเห็นด้วยกับคุณ Wandee และ อาจารย์เทาชมพู ตรงที่
ส.ธรรมยศ น่าจะยังขาดข้อมูลและหลักฐานที่จะพิสูจน์สิ่งที่ท่านปักใจเชื่อว่าจริงนั้น
ท่านเขียนบนเตียงคนไข้ และ จากไปหลังจากนั้นไม่นาน หมดโอกาสที่จะค้นคว้าให้ลึกกว่านี้

คนไทยทุกคนไม่ควรประมาทในเรื่องข้อมูล ข้อเท็จจริง เพราะหลายเรื่อง ไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อน หรือ เปิดเผยเพียงด้านเดียว ในอนาคต อาจจะต้องสังคายนาประวัติศาสตร์กันตามข้อเท็จจริงที่พบใหม่(จากหลักฐานที่เพิ่มเติม)

หลักฐานใหม่ วันหนึ่งก็ต้องพบ แต่บุคคลอย่าง ส.ธรรมยศ สิคะ....

อีกกี่ปีจะได้เห็นอีกสักคน หากจะมี ก็ขออัญเชิญให้พากันมาปฏิสนธิในเรือนไทยนี้เถิด..