เรือนไทย

 กระทู้เดิมยาวมากแล้ว โหลดยาก
จากกระทู้เก่า
 http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Pid=28792
ขอขึ้นกระทู้ใหม่ที่นี่ค่ะ

 ขอบคุณครับอาจารย์ แหม อาจารย์น่าจะใช้ Hispeed Internet ได้แล้วนะครับ อิอิอิ  แซว นี่แหละที่เขาว่าพบคนชอบสิ่งเดียวกันคุยกันสามวันไม่จบ

ผมว่าบางทีงานศิลป์อาจจะต้องมีการเรียนรู้และเตรียมพร้อมที่จะเข้าใจ
เพราะมันเป็นสิ่งประดิษฐ์ทางปัญญา จิตใจที่จะซาบซึ้งก็ต้องมีการเตรียมพร้อมทางปัญญาพอสมควรยกตัวอย่างเช่น พระเจ้าถังไทจงฮ่องเต้ทรงหลงใหลในลายพุ่กันของลิปิกรคนหนึ่งมากจนกระทั่งต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมในการหลอกพระสงฆ์ที่เป็นเจ้าของ เพื่อได้ครอบครองลายพู่กันชุดนี้ ตอนที่ผมอ่านเรื่องนี้ ผมก็สงสัยว่าลายพู่กันค่าควรเมืองนี้ ถ้าผมได้เห็นคงนึกชมว่าสวย แต่อีกสักกี่ชาติผมคงไม่ซาบซึ้งเท่าพระเจ้าถังไทจงแน่ๆเพราะว่าผมไม่มีความรู้ทางตัวหนังสือจีน และภูมิหลังผมคงไม่ให้กับการเข้าใจลายพู่กันนั้น

ดนตรีคลาสสิคก็เหมือนกันผมว่าคนทั่วไปที่ไม่ได้เล่นดนตรี สิ่งที่จับได้ง่ายๆที่สุดน่าจะเป็นทำนองดังนั้นเพลงของ Mozart, Tchaikovsky, Chopin, Mendelsshon, Strauss ที่มีทำนองชัดเจนไพเราะ จึงค่อนข้างเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ฟังที่ไม่ได้ศึกษาวิชาดนตรีตะวันตกมากนักเพราะเข้าถึงได้ง่ายกว่า
แต่เพลงอย่างของ Brahms, Mahler หรือแม้กระทั่ง  Beethoven ที่เน้นตรงจินตนาการ โครงสร้าง พัฒนาการและการสร้างสรรค์ทางดนตรี จึงเข้าใจได้ยากกว่า เป็นเหมือนการโชว์ฝีมือในการเขียนเพลงมากกว่าการเขียนเพื่อถ่ายทอดอารมณ์ความรุ้สึก
แต่ไม่ใช่ว่า 3 ท่านที่ยกตัวอย่างนี้จะแห้งแล้งไร้ความรุ้สึกไปทุกเพลงนะครับ แต่คือว่าจะโอนเอนไปทางนี้
แต่สำหรับ  Beethoven นั้นพิเศษ เพราะท่านเป็นทุกอย่างให้เขียนทำนองเพราะๆ ทำนองฮึกเหิม โครงสร้างดนตรีซับซ้อน การแปรทำนองอย่างวิจิตรพิศดาร ท่านทำได้วิเศษที่สุดเป็นแนวทางที่นักแต่งเพลงทั้งหลายเดินตามในเวลาต่อมา

สำหรับผมตอนแรกฟัง Beethoven แล้วก็เปลี่ยนมาหลงใหล Mozart แต่ฟังมาพักหนึ่งก็เริ่มเบื่อเพราะฟังทีไรก็รู้ว่าเป็น Mozart แบบว่าท่านมีสไตล์ของท่านเอง เมื่อเรียนรู้ต่อมาก็หลงรักเพลงของ Tchaikovsky, Chopin อย่างหมดหัวใจ แต่เมื่อความรู้ทางดนตรีเพิ่มมากขึ้นๆ เล่นดนตรีได้มากขึ้น กลับค้นพบว่าอัจฉริยะบุรุษหนึ่งเดียว ที่เปี่ยมด้วยพลังสร้างสรรค์แห่งพระเจ้านั้นก็คือ Johann Sebastien Bach

ครับกระทู้นี้คงยาวอีกแน่ครับอาจารย์

 ผมคิดว่าเพลงคลาสสิคค่อนข้างจะเข้าใจยาก แต่ถ้าสามารถทำความเข้าใจกับมันได้จะพบความไพเราะทีเดียวครับ ผมอยากจะลองถามความคิดเห็นของแต่ละคนว่า เครื่องดนตรีชนิดใดสามารถให้ความไพเราะมากที่สุดเมื่อเล่นเพียงเครื่องเดียวครับ

 ตอบคำถามคุณ  Olympus
เปียโน ค่ะ

ตอบคุณ paganini
การเชียนเพลงให้มีโครงสร้าง พัฒนาการ สร้างสรรค์  จนแพรวพราว ทำให้ดิฉันนึกถึงการแต่งคำประพันธ์โดยใช้ฉันท์  สร้างความอลังการได้ยิ่งกว่ากลอนแปด ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน
แต่ความจับใจของฉันท์ ก็ไม่จำเป็นว่าจะเหนือกว่ากลอนแปดเสมอไป

ความสะเทือนอารมณ์ เป็นสิ่งสำคัญที่ตัดสินว่างานหนังสือเล่มไหนมีวรรณศิลป์   ไม่ใช่ลูกกเล่นของการสร้างแบบแผนการแต่ง หรือความพิสดารของเนื้อหา

การเข้าถึงวรรณคดีต้องใช้การเรียนรู้    เรามักจะเห็นว่านักวรรณคดีซาบซึ่งดื่มด่ำกับอะไรสักอย่างที่ห่างไกลจากความซาบซึ้งของชาวบ้านร้านถิ่นมากเอาการ
ส่วนดิฉันไม่ค่อยจะชอบแบบนักวรรณคดี   แต่ก็ไม่ชอบอย่างชาวบ้าน เลยหาที่ลงไม่ค่อยเจอเหมือนกัน

เอาเพลงมาคั่นโปรแกรมเพลงคลาสสิคสักเพลง
ชอบเนื้อเพลงนี้  ชอบทำนองด้วย   คนเขียนเป็นผู้ชายที่ดูจะยอมรับธรรมชาติของเพศหญิงได้มากเอาการ  
หวังว่าแกคงเจอ  She  สมใจ

She
May be the face I can’t forget
A trace of pleasure or regret
May be my treasure or the price I have to pay
She may be the song that summer sings
May be the chill that autumn brings
May be a hundred different things
Within the measure of a day.

She
May be the beauty or the beast
May be the famine or the feast
May turn each day into a heaven or a hell
She may be the mirror of my dreams
A smile reflected in a stream
She may not be what she may seem
Inside her shell

She who always seems so happy in a crowd
Whose eyes can be so private and so proud
No one’s allowed to see them when they cry
She may be the love that cannot hope to last
May come to me from shadows of the past
That I’ll remember till the day I die

She
May be the reason I survive
The why and wherefore I’m alive
The one I’ll care for through the rough and ready years
Me I’ll take her laughter and her tears
And make them all my souvenirs
For where she goes I’ve got to be
The meaning of my life is
She, she, she

 ตอบเรื่องเครื่องดนตรีก่อน
             
ดิฉันชอบไวโอลินค่ะ เสียดแทงมากๆ สื่ออารมณ์โหยหาได้ดี ไวโอลินเพลงไทยสากลที่คุณ นพ โสถิพันธ์ เล่น ในส่วนหนึ่งของ เยื่อไม้ เพลงผลัดใบ ดิฉันก็ชอบ เช่น เพลงน้ำตาแสงใต้ ลมหวล ฟังแล้วเคลิ้ม

         เห็นอาจารย์เทาชมพูกับคุณ paganini คุยกันเรื่องเพลงคลาสิกแล้วชื่นชมจังค่ะ เมื่อวานดิฉันกลับบ้านไปหยิบ โมทสาร์ท มาฟังแล้วก็เลยดูเสียด้วยว่าที่ฟังๆ อยุ่ประจำน่ะ ชื่อว่าอะไร (พูดแล้วอายจังค่ะ ฟังอยู่ได้เป็นานนม แต่จำชื่อเพลงไม่เคยได้ ปรากฏว่าเป็น  No. 38 ค่ะ (จะจำผิดอีกหรือเปล่าไม่รู้) แต่ว่าเห็นด้วยนะคะว่า โมทสาร์ทแต่งเนี่ยจะคงความเป็นโมทสาร์ทมากๆ พอดีดิฉันซื้อ CD แบบยกแพคมา ในนั้นมี 4 แผ่น 4 นักประพันธ์ คือ Shubert, Bethoven, Mozart และ  Dvorak  เริ่มต้นด้วยความมืดบอด ใคร่ฟังแผ่นไหนก็เลือกไป ตอนแรกชอบใจเพลงของ  Dvorak มากเพราะฟังแล้วฮึกเหิมดี ทำแลปไม่ได้ผลก็ไม่ห่อเหี่ยวมาก หลังๆ มาจะฟัง Bethoven  มากกว่า ดิฉันฟังแบบไม่ได้แยกแยะขั้นดนตรีอะไร เพราะไม่มีความรู้ ก็ฟังเอาความสบายใจ ถูกหูเข้าว่า มาอ่านกระทู้นี้แล้วก็ได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีกเยอะขอบคุณมากค่ะ

ขอบคุณอาจารย์เทาชมพูสำหรับเนื้อเพลง  she ค่ะ ผู้แต่งคงจะเข้าใจธรรมชาติของผู้หญิงได้ดีจริงๆ แหละค่ะ แกถึงได้เปรียบเปรยไปเสียเยอะแยะ ว่า เธออาจจะเป็นอะไรก็ได้ ดิฉันว่า ถูกเผง เลย

ขอบคุณคุณ  paganini สำหรับเว็บลิงค์เพลงของ คุณ ดนู ฮันตระกูล ว่างๆ แล้วจะแว๊บไปฟังตัวอย่างค่ะ ทำให้ดิฉันนึกถึงเพลงโปรดอีกเพลงในชุด หรรษคดี คือเพลง "ดอกราตรี" เพราะเจ้าหนุ่มในเพลงนี้ช่างน่าเอ็นดู ไม่พูดไม่จา แต่ว่า เอาดอกราตรีมายื่นให้ แล้วจะให้ตีความว่ายังไงกันคะ

ดอกราตรี

เมื่อแรกเจอะเจอเธอดูร่าเริง
ให้ความบันเทิงช่างแหย่ช่างเย้า
สนุกสนานด้วยกันสองเรา
ไม่เคยเงียบเหงายามเราเจอกัน
เมื่อเธอเฝ้าถามว่าชอบอะไร
ชอบมวลดอกไม้หรือดวงตะวัน
ก็ตอบว่าฉันนั้นชอบดอกราตรี
แต่ต่อมาเธอดูขรึมไป
พูดด้วยทีไรใจลอยทุกที
เริ่มมีความฝันที่ในดวงตา
เริ่มมีปัญหาในดวงฤดี
อันความทะเล้นที่เล่นบ่อยๆ
กลับเป็นยิ้มน้อยที่ไม่เคยมี
ส่งดอกราตรีที่หอมฟุ้งให้ฉัน

หอมดอกราตรี  
แต่มวลดอกไม้ถึงจะหอมกว่านี้ก็ไม่สู้หอมคำ
ฟุ้งกลิ่นที่หอมเยือกเย็นฉ่ำ
แต่ใจตัวเธอเองอาจต้องช้ำ หากมัวอมพะนำอยู่ต่อไป

ทำไมต้องทพเก้อๆ เปิ่นๆ
เคอะๆ เขินๆ มองเมินเหนียมอาย
ไม่พูดไม่จาหลบตาทำไม
มีความในใจไยไม่บอกมา
ให้ดอกราตรีมาเจรจา
น่าอายจริงหนาผู้ชายอะไร
เขยิบมาซิและจงกระซิบความใน

ปล. เห็นด้วย 100% ว่าเนื้อร้อง เพลง ฉันจะฝันถึงเธอ สวยมากค่ะ เผลอไม่ได้ สมมติว่าเป็นตัวเองทุกที

 มีใครทราบไหมครับว่าเพลง คิดถึง ที่ขึ้นต้นว่า

"จันทร์กระจ่างฟ้า นภาประดับด้วยดาว โลกสวยราว เนรมิตประมวลเมืองแมน"

เพลงนี้เป็นของใครและใครเป็นคนนำมาร้องเป็นคนแรกครับ

 ตามสุภาพสตรีทั้งสองผมก็ต้องตอบคุณ Olympus ก่อนว่าผมชอบเครื่องดนตรีหลายชิ้นยากที่จะเลือกลงไปได้แน่นอนทั้งนี้เพราะแต่ละชิ้นต่างมีความสามารถพิเศษของมัน
Piano เป็นเครื่องดนตรีที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดเพราะสามารถเล่นได้หลายๆเสียงพร้อมกันได้มากที่สุด เสียงประสานจึงแน่นที่สุด สามารถเล่นเดี่ยวๆโดยไม่จำเป็นต้องมีเครื่องดนตรีอื่นประกอบ
Violin และเครื่องสายในตระกูล  เล่นยากมาก แต่น้ำเสียงเข้าถึงอารมณืได้ดีที่สุด มีเทคนิกหลากหลาย เล่นพลิกแพลงได้สารพัด การที่เครื่องสายตระกูลไวโอลินไม่มีเฟร็ตเหมือนกีต้าร์ทำให้การรูดเสียง ให้เกิดสำเนียงจำลองของการร้องเพลงได้ดีมากๆ สร้างอารมณ์ได้ดียิ่ง (ถ้าคนเล่นๆเก่งๆนะ) Viola เสียงทุ้มๆชวนให้รู้สึกเศร้าสร้อยเช่นเดียวกับ Cello ที่เหมาะสำหรับการถ่ายทอดอารมณ์ที่ลึกซึ้งดื่มด่ำ
แต่การที่เป็นเครื่องสี ต้องสีทีละสายหรืออย่างมากก็ 2 สาย ทำให้ไม่ค่อยมีความสะดวกที่จะเล่นไวโอลินตัวเดียวแล้วฟังครบเครื่องแบบเปียโน คือต้องมีเครื่องดนตรีอื่นประกอบถึงจะฟังแล้วครบรสชาติ
Classical Guitar อันนี้อยู่กึ่งๆระหว่าง เครื่องสายและ Piano เสียงกีต้าร์เพราะและมีสเน่ห์มาก เล่นตัวเดียวก็ครบในเรื่องเสียงประสาน แถมการเป็นเครื่องสายทำให้ผู้เล่นสามารถบังคับให้เสียงออกมาไม่ห้วนเหมือนเปียโนแต่ยืดเสียงได้เกือบๆเท่าไวโอลิน
การขึ้นสายแบบกีต้าร์ทำให้บทเพลงสำหรับกีต้าร์มีลักษณะเฉพาะ เพราะไปอีกแบบ
เสียงร้อง Vocal นับเป็นเครื่องดนตรีที่พิเศษอีกชิ้นนึง เพราะว่าผุ้ร้องเก่งๆสามารถถ่ายทอดอารมณ์ได้ดีที่สุด  สื่อความเข้าใจง่ายที่สุด(เพราะร้องเป็นภาษา)จนถึงสามารถสร้างลูกเล่นได้หลากหลายมีอิสระที่สุด ตัวอย่างเครื่องดนตรีชิ้นนี้ ก็เช่น Ella Fitzgerald ไงครับ อิอิอิ สุดยอดแล้ว

เอาแค่นี้ก่อนละกัน

พอดีโพสต์แล้วไม่ผ่านเลยเจอกระทู้คุณ Olympus ขอตอบว่าเพลงนี้ชื่อเพลง คิดถึง แต่งเนื้อโดย เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี โดยนำมาจากทำนองตอนท่อนช้าของบทประพันธ์สำหรับเดี่ยวไวโอลินที่ชื่อว่า Zigeunerweisen แปลเป็นอังกฤษว่า Gypsy Air นั่นคือเพลงช้าๆในแบบของยิปซี แต่งโดย Pablo de Sarasate ผู้ยิ่งใหญ่ทางด้านไวโอลินในศตวรรษที่ 19

จันทร์กระจ่างฟ้า   นภาประดับด้วยดาว
โลกสวยราวเนรมิตร  ประมวลเมืองแมน
ลมโชยกลิ่นมาลา  กระจายดินแดน
เรียมนี้แสนคะนึง   ถึงน้องนวลจันทร์
งามใดหนอจะพอทัดเทียบ เปรียบน้อง
เจ้างามต้องตาพี่   ไม่มีใครเหมือน
ถ้าหากน้องอยู่ด้วย   และช่วยชมเดือน
โลกจะเหมือนเมืองแมน  แม่นแล้วนวลเอย

 เพลงนี้นำมาเป็นเพลงสากลด้วยค่ะ ชื่อ Gypsy Moon
ขึ้นต้นว่า
Moon of love, romantic gypsy moon
น่าเสียดายว่าค้นเนื้อร้องในเว็บไม่เจอ  แปลกจริงๆว่ามีเนื้อออกสารพัดแต่หาเพลงนี้ไม่ได้

คุณคำฝอยพูดถึง Schubert  นี่ก็คนโปรดอีกคนหนึ่ง   ชอบ Serenade กับ Unfinished Symphony ของเขามาก  ถ้าใครชอบเหมือนกันช่วยแนะนำเพลงอื่นๆด้วยนะคะ

 เห็นเนื้อความในกระทู้นี้แล้ว นึกสงสัยว่าคนที่เข้ามาสนทนา อายุรวมกันจะได้สักกี่ร้อยหนอ

ถ้าชอบเพลงอย่าง She  ขอเสนอ The First ever I Saw Your Face เข้าประกวดด้วยนะครับ อ.เทาฯ

ไม่รู้เป็นไง ผมชอบเพลงแสงจันทร์คลาสสิคทั้งไทยทั้งฝรั่ง หรือจะเป็นฝรั่งผสมไทยอย่างโสมส่องแสงที่บรรเลงด้วยเปียโนผสมไวโอลิน  ต่อให้ Serenade ของ Shubert ยังต้องชิดซ้ายแล้วเลี้ยวเข้าป่าไปซ่อนด้วยความอายเลยเชียว

แต่ถ้าเป็นฝรั่งล้วนๆนี่ เลือกไม่ถูกเลยว่าจะเอา Moonlight Sonata ของ Beethoven หรือ Shubert's Serenade มากล่อมหอดี

Gypsy Moon นี่เห็นชื่อครั้งแรก ดูเหมือนในเรื่องมัสยา ของพนมเทียน เล่นเอาอยากฟังติดหมัด แต่ดูเหมือนฟังแล้วก็งั้นๆ ไม่ได้ประทับใจสักเท่าใด  จนลืมท่วงทำนอง-เนื้อร้องไปหมดแล้ว  อ.เทาฯลอง พลิกหาเนื้อร้องดูในมัสยาซิครับ น่าจะมี อย่างน้อยก็บางส่วน  ถ้าความจำของผมไม่ทรยศ

แต่ก็ไม่เพียงพระจันทร์คลาสสิคนะครับที่สิทธิไพเราะประทับใจได้  พระจันทรซื่อๆแบบชาวบ้านๆก็รัก  อย่างเพลงร้องไห้กับเดือนนี่  ถ้าเจอน้องนางบ้านนาถูกตาถูกใจ จะเล่นลูกคอให้นักร้องอาชีพได้อายเลย

 หัวหินสิ้นมนต์รัก
สุเทพ วงศ์กำแหง

--------------------------------------------------------------------------------


...หัวหิน เป็นถิ่นสัญญา จากไป กลับมาผิดหวัง
ฮืม...ความหลังยังเวียนวน
คลื่นสวาทมันแรง มันแกล้งมาดล ร้อนจนใจสั่น
เคยชื่นชู้ สู่สวรรค์ รักกันมั่น ใจฉันยังปลื้ม
มันซาบมันซึม มันปลื้มไม่นาน วิมานทลาย
....คลื่นสวาทมันแรง มันแกล้งมาดล ร้อนจนใจสั่น
เคยชื่นชู้ สู่สวรรค์ รักกันมั่น ใจฉันยังปลื้ม
มันซาบมันซึม มันปลื้มไม่นาน วิมานทลาย
หัวหิน เป็นถิ่นสัญญา ขาดเธอ กลับพลันเงียบเหงา
ฮืม...มอง แสงดาวเรียงราย
คลื่น ยังคร่ำ ยังครวญ จันทร์แจ่มยังนวล เย้ายวนไม่วาย
คอยชื่นชู้ อยู่แลหาย เห็นรอยทราย ใจฉันหวิวหวั่น
เคยนั่งชมคลื่น เคยชื่นใจกัน ฉันยังไม่ลืม
********************************
(พิมพ์  font Thai ใน word ก่อน แล้วค่อย copy มา Hope it’s ok ka)

 หายหน้าไปนาน   ขอต้อนรับคุณถาวภักด์ กลับเรือนไทยค่ะ
ขอบคุณที่ไม่ถามว่า อายุคนที่เข้ามาสนทนา รวมกันได้กี่พันปี!

ไม่มีเรื่องมัสยา  เลยไม่รู้ว่า Gypsy Moon ในนั้นเป็นยังไง
แต่มีเพลงโปรดของคุณมาลงค่ะ

The first time ever I saw your face
I thought the sun rose in your eyes
And the moon and the stars were the gifts you gave
To the night and the empty skies my love
To the night and the empty skies

The first time ever I kissed your mouth
I felt the earth turn in my hand
Like the trembling heart of a captive bird
That was there at my command my love
That was there at my command

The first time ever I lay with you
And felt your heart beat close to mine
I thought our joy would fill the earth
And would last ’till the end of time my love
And would last ’till the end of time

The first time ever I saw your face
I thought the sun rose in your eyes
And the moon and the stars were the gifts you gave
To the night and the empty skies my love
To the night and the empty skies

 กระทู้ไปเร็วมาก จนจะตอบไม่ทันเอา แต่ผมไม่ปล่อยให้ความเห็นอันทรงคุณค่าของแต่ละคนผ่านไปหรอกนะ ขอตอบย้อนหลังซักหน่อย
อาจารย์เทาฯครับในความเห็นที่ 3 อาจารย์เปรียบเปรยได้ดีจริงๆ ผมว่าตอนยังอายุน้อยๆผมมักจะมองหา อะไรที่มันเป็นที่สุด เป็นหนทางหนึ่งเดียว แต่พอแก่ๆไปประสบการณ์ชีวิตมันสอนว่ามีหลากหลายหนทางที่จะไปถึงจุดหมายเดียวกัน ความซาบซึ้งประทับใจในงานศิลป์เช่นกัน มันไม่มีกฎเกณฑ์และหนทางที่ตายตัว
แต่สิ่งที่แน่นอนคืองานศิลป์ที่ดีเยี่ยมมักจะเป็นผลผลิตทางปัญญา ให้คนอื่นหรือคนรุ่นหลังได้ซาบซึ้ง ถึงการสร้างสรรค์ของศิลปินนั้นๆ
สำหรับเพลง She ขอบอกว่าไม่จับใจผมครับ เพราะผมไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาจะสื่อ หรืออาจจะเป็นเพราะผมไม่เข้าใจผู้หญิงก็ได้ครับ

คุณคำฝอยครับ ที่คุณบอกว่า “ดิฉันฟังแบบไม่ได้แยกแยะขั้นดนตรีอะไร เพราะไม่มีความรู้ ก็ฟังเอาความสบายใจ ถูกหูเข้าว่า”  นั่นแหละครับน่าชื่นชม ฟังด้วยหูแล้วใช้ใจตาม อย่าให้ความคิด ความรู้ที่อ่านมา คนบอกมา มาทำให้เกิดความโน้มเอียง ฟังแล้วต้องซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตนเอง ไม่ชอบไม่ได้แสดงว่ารสนิยมต่ำต้อยแต่อย่างใด
เพลงดอกราตรีนี่เป็นเพลงที่ผมชอบมากเหมือนกันสนุกและน่ารักดี สังเกตสิครับเพลงจะฟังเสียงแปร่งๆ ทำนองแปร่งๆ นั่นคือ อ.ดนู ท่านใช้เทคนิคสมัยใหม่ในการแต่ง คุณสุภัทราก็ร้องได้เข้าอารมณ์ดีเหลือเกิน เสียดายจังเทปม้วนนั้นผมทำหายไปแล้ว รู้สึกที่ผมฟังจะอยู่ในชุด รังสรรค์วันสวย มีเพลงที่ อ.ดนูเอามาทำใหม่แล้ว คุณสุภัทราร้องไว้ดีๆหลายเพลง เช่น ชายน้ำ ดอกราตรี คนจะรักกัน หากรู้สักนิด เหมันต์รัญจวน(เพลงนี้ก็สุดยอดครับสำหรับการแต่ง) หนๆก็ไหนๆแล้วขอโพสต์เนื้อเพลงนี้ละกัน เพลงที่สวยงามมากๆ เต็มไปด้วยกลเม็ดเด็ดพรายทางอักษรศาสตร์ไทย แต่ที่สำคัญ การนำการเล่นภาษาการเล่นคำนั้นไม่ได้เอามาเล่นอย่างแห้งแล้งไร้ความหมาย แต่รับใช้การถ่ายทอดอารมณ์ของนักร้อง หรือผู้แต่งได้อย่างดีเยี่ยม ยิ่งไปกว่านั้นคำร้องแต่ละคำสอดคล้องรับกับทำนองอย่างกลมกลืนยิ่ง ต้องเรียกว่าเป็งานชิ้นเอกชิ้นหนึ่งของวงสุนทราภรณ์เลยครับ

เหมันต์รัญจวน  
คำร้อง ศรีสวัสดิ์ พิจิตรวรการ
ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน      
 
หวีดหวีดวอนวอนอ้อนออดโอยมา โอ้อนิจจาอ่อนอาลัย
เหมันต์ครวญคลั่งฟังคล้ายเสียงใครเสียงใครครวญใคร่
ร้องไปร่ำไปในสายลม
หลับตื่นคืนวันหวาดหวั่นรัญจวนโอ้ลมหวนอวลป่วนอารมณ์
เหมันต์กระหน่ำตำคล้ายเข็มคมสักแทงโศกซม
เจ็บเหลือจะข่มแล้วกรรมเวร
หวีดวอนคลอนทรวงล้วงหาใจคว้านไปค้นไป
คงได้แต่ไร้เหลือเดน
โอ้อสุราคว้าหัวใจฉันไปดูเล่นแล้วโยนกระเด็นลอยร้างรา
อย่ากลับมาเลยอย่ากลับมาเลยโอ้ลมหนาวเอยอย่าเลยมา
ฉันคงตายเมื่อลมเหนือพัดพาหอบอดีตมา
ปล้นขวัญฟันฆ่าไร้ปรานี

 คุณถาวภักดิ์ครับ

คุณจะไป assume ว่าคนที่คุยเรื่องเพลงเก่าแล้วเขาจะเก่าตามเพลงนั้นก็ไม่เสมอไปหรอกครับ เพราะว่าสมัยนี้เทคโนโลยีในการบันทึกเสียงหรือทำ digital remaster มีเยอะแยะ คนรุ่นหนุ่มสาวที่ “ใส่ใจ”  ก็สามารถกลับไปซาบซึ้งกับงานดีๆในอดีตได้เช่นกันถ้างานนั้นดีจริง โดยไม่ต้องสนใจว่าใครจะหาว่าเชย งานที่ดี งานที่สร้างสรรค์ด้วยสติปัญญามันไร้กาลเวลาครับ

แซวเล่นครับอย่าซีเรียส  ไอ้ผมน่ะแก่จริงๆ แต่ขอเถียงแทนคนหนุ่มสาวคนอื่นๆครับ หึหึหึ



อาจารย์ครับ ใจตรงกันอีกแล้ว เพลง Come back to Sorrento นี่เป็นเพลงโปรดของผมเลย ฟังแล้วได้บรรยากาศแบบอิตาเลียนจริงๆ

ต้นแบบเพลงมาจากภาษาอิตาเลียนครับ ลองเข้าเวปที่ผมให้นี่นะครับมีตัวอย่างเพลงให้ฟัง 1 นาทีด้วย

ชื่อเพลง Torna A Surriento ชื่อคงแปลแบบเดียวกันนั่นแหละครับ คำแปลเนื้อเพลงจริงๆผมไม่รู้ครับ



Torna A Surriento

G & E. De Curtis



Vide ‘o mare quant’è bello!

Spira tantu sentimento,

Comme tu a chi tiene mente,

Ca, scetato ‘o faie sunnà!



Guarda, gua’ chistu ciardino:

Siente, sie’ sti sciure arance:

Nu profumo accussi fino

Dinto ‘o core se ne va…



E tu dice: "I’ parto, addio!"

T’alluntane da stu core…

Da la terra de l’ammore…

Tiene ‘o core ‘e nun turnà?



Ma nun me lassà,

Nun darme stu turmiento!

Torna a Surriento,

famme campà!



Musical interlude



Vide 'o mare de Surriento,

che tesoro tene ‘nfunno:

chi ha girato tutto 'o munno

nun ll'ha visto comm'a ccà.



Guarda attuorno sti sserene,

ca te guardano 'ncantate,

e te vònno tantu bene...

Te vulessero vasà!



E tu dice: "I' parto, addio!"

T'alluntane da stu core

Da sta terra de l'ammore

Tiene 'o core 'e nun turnà?



Ma nun me lassà,

Nun darme stu turmiento!

Torna a Surriento,

Famme campà!



Torna a Surriento,

Famme campà!




 http://www.perfect-voice.com/torna_a_sorriento.htm  

 เรียน อ.  เทาชมพู
เพลงเก่าตรึงใจ ถ้าเป็นอังกฤษธรรมดาก็ค่อยยังชั่ว  ถ้าเป็น English poems or Old English เหมือนอะไรตามมาหลอกหลอน จำได้ว่าอาจารย์ที่ปรึกษาขีดเส้นว่าดิฉันเป็น senior แต่ยังไม่ลงทะเบียน English literature ของ sophomore   ดังนั้นต้องลงก่อน summer ก่อนจะไปลงวิชาอื่นได้
....กว่าจะผ่าน Shakespeare’s Romeo & Juliate, Hamlet ชีวิตเกือบสิ้นค่ะ

 เพลง She ก็คล้ายเพลง "นารี"    คุณ paganini จำเนื้อได้ไหมคะ

ดิฉันหาแล้วไม่เจอ

ที่ขึ้นต้นว่า

อนิจจานารีนี่แสนแปลก

อาจจำแนกเป็นอะไรได้หลายอย่าง

...

แล้วลงท้ายว่า

เป็นงูพิษ เป็นมิตรแท้ และมีดคม

เหลือจะกล่าว เขาจะชม นารีเอย



แต่ไม่ชอบเพลงไทยเพลงนี้ค่ะ  ว่าผู้หญิงมากไปหน่อย

She มีนัยยะที่ละมุนละม่อมกว่า

บอกให้รู้ว่าผู้ชายคนหนึ่ง สามารถรักผู้หญิงได้เต็มหัวใจ

โดยไม่ต้องทำความเข้าใจในตัวเธอให้มากเรื่อง

เธออาจจะตรงกันข้ามในทุกสิ่งทุกอย่าง หรือแม้จะไม่เป็นอย่างที่เขาเห็น

แต่อย่างไรก็ตาม  เธอก็คือ ผู้หญิงหนึ่งเดียวของเขา



วันนี้ เปิดซีดีเพลงเก่าที่เอามาทำใหม่ ของ Catarina Valente ฟัง ประกอบบรรยากาศ

เพลงของเธอที่คนไทยน่าจะรู้จักมากที่สุดคือ Tonight We Love ที่มีข้างบนนี้

กับ Full Moon and Empty Arms  เอามาจากเพลงคลาสสิคทั้งคู่

อีกเพลงคือ  Stranger in Paradise มีคนร้องหลายคนรวมทั้ง Tony Bennett

แต่ดิฉันไม่เคยรู้สึกว่าใครร้องได้สูง ใส จับใจเท่าเธอ

เป็นความรู้สึกรัก เทิดทูน หลงใหลใฝ่ฝันสุดๆ เท่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะมีได้กับผู้ชายที่เป็นเทพบุตรในชีวิตจริง



Take my hand

I'm a stranger in paradise

All lost in a wonderland

A stranger in paradise

If I stand starry-eyed

That's the danger in paradise

For mortals who stand beside an angel like you



I saw your face and I ascended

Out of the commonplace into the rare

Somewhere in space I hang suspended

Until I know there's a chance that you care



Won't you answer this fervent prayer

Of a stranger in paradise

Don't send me in dark despair

From all that I hunger for

But open your angel's arms

To this stranger in paradise

And tell him that he need be

A stranger no more

 คุณศรีสวัสดิ์ พิจิตรวรการ เป็นนักแต่งเพลงฝีมือเยี่ยมคนหนึ่งของสุนทราภรณ์
เอกลักษณ์ของคุณศรีสวัสดิ์ คือเล่นภาษาอย่างวิจิตรพิสดาร  อ่านเฉพาะเนื้อร้องก็แทบจะเป็นดนตรีได้แล้วโดยไม่ต้องใส่ทำนองก็ว่าได้
และเป็นเพลงที่นักร้องมักจะร้องโอ๊ย  เพราะกระดกลิ้นร้องเนื้อร้อง ยากเย็นแสนเข็ญ    
เขาเล่นเสียงของคำทรมานคนร้องสุดๆ ด้วยเสียง ร  และเสียงควบกล้ำ
ซึ่งเป็นเสียงออกได้ยาก

ลิ้นคนไทยรุ่นใหม่ออกไม่ได้กันแล้ว  ร กลายเป็น ล และเสียงควบกล้ำ หายไปเลย
เกลียดเป็นเกียด  

เพลงที่คุณ paganini ยกมา
ถ้าให้หนุ่มสาวรุ่นใหม่ร้องกัน  ไม่มีครูสอนคอยกวดขัน
มันก็จะกลายเป็น
"เหมันต์ควนคั่ง ฟังค้ายเสียงใค  เสียงใค   ควนใค่
ล้องไปล่ำไปในสายลม "

คุณศรีสวัสดิ์ มักเขียนรำพันธรรมชาติ ในแง่สะท้อนความบีบคั้นอารมณ์  ไม่ค่อยมองในแง่ชื่นชมกับความงาม
ถ้าเป็นทำนองการแต่งนิยาย ก็ไม่ใช่ realistic แต่ลงลึกไปถึง naturalistic  คือมองระทมขมขื่นเห็นแต่ความร้าย
อย่างเพลงที่คุณ paganini ยกมา อีกเพลงก็คือ ปีศาจวสันต์ กับลาทีปากน้ำ
ฟังแล้วบีบคั้นจริงๆค่ะ

 หายไป 2 วัน กลับมามีความเห็นเพิ่มอีกยาวเหยียด มีแต่เพลงหวานทั้งนั้นเลยนะคะ คราวนี้มาทั้งทะเล และพระจันทร์ ดิฉันชอบทั้ง 2 อย่างแต่พอดีบ้านอยู่ไกลทะเล เลยมีกรุภาพถ่ายเป็นภาพพระจันทร์มากกว่า กลางคืนฤดูร้อน ได้เดินเล่นกับพระจันทร์ จะชื่นมื่นมาก อารมณ์ศิลปิน (ครึ่งๆ กลางๆ) ตกผลึก

รบกวนถามเรื่องเพลง  come back to Sorento  และ Turno a Seriento  ว่าใครเป็นคนร้องคะ ดิฉันอยากจะหามาฟัง ทั้งอังกฤษและอิตาเลียน โดยเฉพาะอิตาเลียนอยากหาเพลงฟังมานานแล้ว เพราะที่ดิฉันมีสะสม เป็นเพลงภาษาสเปนส่วนมาก ฝรั่งเศสนิดหน่อย (แน่นอนค่ะ เพลงบังคับ La vi en Rose) อิตาเลียนและโปรตูกีสไม่มีเลย ฟังแล้วจะได้ฝัน ไปอิตาลีคราวหน้าจะได้ไม่พลาด  Sorento

เห็นมากันเรื่องพระจันทร์ วันนี้เลยเอา Memory มาฝากค่ะ จาก  Cats

Memory

Midnight. Not a sound from the pavement.
Hast the moon lost her memory?
She is smiling alone. In the lamplight
he withered leaves collect at my feet
and the wind begins to moan.
Memory. All alone in the moonlight
I can smile at the old days,
I was beautiful then. I remember
the time I knew that happines was,
let the memory live again.
Every street lamp seems to beat
a fatalistic warning
Someone mutters and a street lamp gutters
and soon it will be morning.
Daylight. I must wait for the sunrise,
I must think of a new life
and I mustn't give in.
When the dawn comes
tonight will be a memory too
and a new day will be begin.
Bunrt out ends of smoky days,
the stale cold smell of morning.
The street lamp dies, another night is over,
another day is dawning.
Touch me. It's so easy to leave me
all alone with the memory
of my days in the sun.
If you touch me you'll understand what happiness is.
Look, a new day has begun.

 http://www.lyrix.at/de/text_show/bb25159a955a48395468478f5aea896b

เดี๋ยวว่างๆ จะแปพระจันทร์ในกรุภาพถ่ายมาให้ติชมกันค่ะ

 ผมคิดว่าเพลงในทุกภาษาต่างก็มีความไพเราะในแบบฉบับของมันเองทั้งนั้น มาคราวนี้อยากถามว่า ข้อแตกต่างระหว่าง เพลงลูกทุ่งกับลูกกรุง ต่างกันอย่างไรครับ

มาคราวนี้เอา "ไม่อยากให้โลกนี้มีความรัก" มาฝากครับ

อันแสงสูรย์ส่องสว่างแต่กลางวัน
อันแสงจันทร์ส่องประจำยามราตรี
อันความรักร้อนเร่าเผาฤดี
ส่องชีวีทุกโมงยามประจำใจ

*มีรักแล้ว ไม่คลาดแคล้วต้องตรมฤทัย
เหมือนแบกโลกทั้งโลกไว้ให้โศกหนัก
ไม่อยากให้โลกนี้มีความรัก
แต่ฉันสมัคร แบกรักไว้
ไม่หนักเลย

ซ้ำ * 1 รอบ

จำไม่ได้แล้วครับว่าใครร้องบ้าง

 wow ถึงขั้นขึ้นกระทู้ใหม่เชียวหรอครับ
ไม่ได้มาเยี่ยมตั้งหลายวัน

 จากความเห็นที่ 15
อาจารย์ครับผมไม่รู้จักเลยครับเพลงนี้ แต่ดูเหมือนชายคนนี้(คนร้อง)อยากจะเข้าใจผู้หญิงแต่ถึงที่สุดแล้วกลับไม่สามารถเข้าใจได้ เลยต้องแต่งเพลงมาด่าแทน
ส่วนเพลง She นั้น ดูเหมือนไม่ใช่ผู้ชายแต่งนะครับ อาจจะเป็นผู้หญิงหรื่อหญิงในร่างชายแต่งก็ได้นะครับ เพราะผู้หญิงทั้งหลายเข้าใจแต่ผู้ชายอย่างผมกลับไม่เข้าใจเลย  อิอิอิอิ
อย่างที่โก้วเล้งว่าแหละครับ หากชายใดคิดว่าตัวเองเข้าใจผู้หญิงแล้วล่ะก็เขาคนนั้นคือตัวโง่งมอันดับหนึ่งแห่งแผ่นดิน
Stranger in Paradise ไว้ผมจะหามาฟังครับ

อาจารย์เขียนได้ตลกมากเลยครับเกี่ยวกับการออกเสียงของเด็กสมัยนี้เป็นอย่างที่อาจารย์ว่าจริงๆ ผมเองหลังๆพิมเร็วๆก็ชักจะติดการพิมพ์ภาษาพูดของวัยรุ่น  แหมทำไงได้ผมก็ยังไวรุ่นอยู่นี่นา อิอิอิ
แต่เพลงข้างต้นนี้ถ้าฟังคุณ สุภัทรา อินทรภักดีร้องจะได้ยินการออกเสียงที่ชัดเจนทุกคำเลยครับ ไม่มีผิดหวัง
แหมก่อนหน้ากระทู้นี้ผมเองก็ผยองว่าตัวเองรู้เรื่องเพลงหาคนเทียบยาก ขนาดอาจารย์ผมที่เป็นนักดนตรีแท้ๆยังทึ่ง แต่มาเจออาจารย์เทาชมพูนี่ผมต้องหลบๆเลยครับ ขอบคุณอาจารย์และเพื่อนๆทุกคนมากครับที่แนะนำเพลงดีๆให้ผมไปหามาฟัง

คุณคำฝอยครับ Torna A Surriento มีคนร้องเยอะมากครับ แต่เวอร์ชันที่น่าฟังอาจจะต้องฟังพวก Tenor ทั้งหลายเช่น Luciano Pavarotti, Pacido Domingo ครับ เพราะลักษณะเพลงจะโชว์เสียงและการออกเสียง
อันเพลง Memory นั้นผมว่าเวอร์ชันของ Barbara Streisand นั้นเยี่ยมมากเพราะคุณป้าแกเป็นยอดศิลปินคนหนึ่งเลยทีเดียวทั้งแสดงหนัง สร้างหนัง ร้องเพลงทำได้ดีมากๆทุกอย่าง เธอร้องเพลงได้อารมณ์มากๆ musicality สูงส่ง ฟังแล้วชักจูงให้ผู้ฟังรู้สึกตาม ใช่ว่าโชว์แค่เสียงอย่างเดียวทั้งที่น้ำเสียงของเธอก็มีพลังมากๆ เสียดายที่เลิกร้องไปแล้ว เพราะสังขารไม่อำนวย(มั๊ง) เพลงของ Barbara ที่ผมชอบมากๆ ทั้งดนตรี คำร้องและเสียงร้อง มันสมบูรณ์แบบ ที่น่าประทับใจคือป้าแกแต่งเนื้อเพลงนี้ด้วยตัวเอง
เพลงนี้เป็นเพลงรักครับ บอกว่ารักเราช่างสดใสงดงามเขียวขจีอะไรอย่างนั้นที่สำคัญคือทำนองและดนตรีครับ มันไม่ได้หวานหยดย้อย แต่มันไหลลื่น เบาบางประกอบกับเสียงร้องของคุณป้าแกที่เน้นเสียงหนักเบา ทำให้เรารู้สึกได้ถึงการล่องลอย ความนุ่มนวลชวนฝัน ขนาดไม่ได้มีความรักอันดูดดื่มปานนั้นผมก็ยังรู้สึกได้ถึงสิ่งที่เขาจะสื่อ  เป็นเพลงที่ฟังแล้วสดชื่นสบายใจเหมือนเพลง What a Wonderful World ยังงั้นเลยครับ ใครช่วยแปลเพลงนี้ให้ได้คำไทยสวยๆให้ทีเถอะ
Evergreen
Love soft as an easy chair
Love fresh as the morning air
One love that is shared by two
I have found with you

Like a rose under the april snow
I was always certain love would grow
Love ageless and evergreen
Seldom seen by two

You and I will make each night a first
Every day a beginning
Spirits rise and their dance is unrehearsed
They warm and excite us, cause we have the brightest love

Two lives that shine as one
Morning glory and midnight sun
Time we’ve learned to sail above
Time won’t change the meaning of one love
Ageless and ever evergreen

ว่าจะเขียนตอบกะทู้อย่างเดียวแล้วนา  ไหงมาถึงเพลง evergreen ได้ก็ไม่รู้ สงสัยวันนี้อยู่ในอารมณ์ช่างฝัน

 เห็นคุณ paganini กำลังอยู่ในอารมณ์ฝัน  เลยขอแนะนำเพลงรักประเภทยืนยันความรักมหาอมตะนิรันดร์กาล ของแคทารีนา วาเลนเต้

ชื่อ Till the End of Time

คนละเพลงกับเพลงของ Mariah Carey นะคะ





เพลงนี้ แคทารีนาร้องได้ไพเราะมากอีกเพลงหนึ่ง นอกจาก To Night We Love, Full Moon and Empty Arms

นอกจากเธอแล้วก็มี Perry Como ที่ร้องเพลงนี้ได้น่าฟังมากเช่นกัน

เพลงนี้นำทำนองมาจากเพลงคลาสสิคของ Chopin ชื่อ Polonaise in A-Flat Major ค่ะ



Till the end of time `long as stars are in the blue

`Long as there's a spring, a bird to sing, I'll go on loving you.

Till the end of time. `long as roses bloom in May,

My love for you will go deeper with every passing day.



Till the wells run dry and each mountain disappear,

I'll be there for you to care for you through laughter and through tears.



So take my hand in sweet surrender, and tenderly say that I'm

The one you'll love and live for, till the end of time.

 ท่านป๋าpaganiniขอรับ

อันว่าเพลง She ดูความหมายของเนื้อความแล้ว ต้องเป็นเพลงที่ชายแต่งและร้องให้หญิงอันเป็นดังชีวิตจิตใจ หรือเป็นดังลมหายใจเข้าออก อะไรประมาณนั้น ออกจะเป็นการคร่ำครวญถึงอย่างหลงไหลไม่ลืมหูลืมตาเชียวแหละ  มิได้มีความหมายประชดประชันด่าว่าแม้แต่น้อยครับ

ไม่เห็นมีใครตอบคุณ Olympus ขอให้ความเห็นว่า เพลงลูกทุ่งนั้นต้องมีกลิ่นโคลนสาบควาย กลิ่นน้ำพริกกะปิ ปลาร้า น้ำบูดู หรือถั่วเน่า ตามแต่ว่าจะมาจากถิ่นใด  แต่เดิมดูจะใช้ท่วงทำนอง เพลงพื้นบ้านของท้องถิ่น หรือเพลงไทยเดิม โดยจะโฉ่งฉ่างกว่า หรือคงความเป็นพื้นเมืองกว่าเพลงลูกกรุง ชวนให้นึกถึง ไม่แตรวงงานวัด ก็ดนตรีพื้นบ้านไปโน่น   แต่หลังๆ เสียงดนตรีชักกลายพันธุ์  บางทีถ้าไม่เริ่มร้อง จะยังแยกไม่ออกว่าเป็นลูกทุ่ง หรือลูกกรุง

เนื้อร้องก็จะยิ่งทำให้แยกแยะได้ง่ายขึ้น  เพราะเพลงลูกทุ่งจะเว้ากันซื่อๆ หรือถ้าใช้ศัพท์หรูๆปน ก็จะทะลุกลางปล้องอย่างฟังตลกขบขันสำหรับชาวกรุง  เนื้อหาก็มักแสดงถึงบรรยากาศแบบบ้านนอก หรือแบบชาวบ้านธรรมดาที่มีความเป็นอยู่ง่ายๆ เช่น เนื้อร้องเพลงแสนแสบ

อกพี่กลัดหนอง พี่หมองดั่งคลองแสนแสบ
เจ็บจำดังหนามยอกแปลบ แสบแสนจะทน
โอ้ว่า กังหัน ทุกวันมันพัดสะบัดวน
อยากจะรู้จิตคน จะหมุนกี่หนต่อวัน
ย่างเดือนสิบสอง ฟากคลองเจิ่งนองน้ำหลั่ง
อยู่ไกลกันคนละฝั่ง ฝั่ง ยังร้องสั่งกัน
สิ้นเดือนสิบสอง น้ำนองแห้งคลองขอดพลัน
สิ้นความรักต่อกัน เหมือนกังหันเปลี่ยนทางลม....

นี่ เห็นไหมครับ บรรยากาศท้องนาโดยแท้  ส่วนทำนองและดนตรีนั้น  เวลาสอดแทรกด้วยเสียงขลุ่ย  มันช่างบาดใจสิงห์คะนองนายิ่งนัก

หันมาดูเพลงลุกกรุง อย่าง"ยามชัง"

ยามชัง พี่ก็ช้ำ ทุกยามเช้า
คิดถึงเจ้า เหงาจิต คิดจนเกือบสาย
วานอย่าชัง ให้พี่ช้ำ ถึงยามบ่าย
อย่าให้ชาย หมายคอย จนคล้อยเย็น
ค่ำแล้ว แสงเดือนงาม อร่ามสรวง
ดาวลอยดวง ดูกลับทราม เมื่อยามเห็น
ฟังเพลงรัก เหมือนเพลงลา น้ำตากระเซ็น
ไม่วายเว้น สวาสดิ์หวาม ยามน้องชัง

เนื้อร้องนี้ เห็นชัดว่ามีรูปแบบเป็นกลอนแปดตามแบบแผน ให้ความรู้สึกถึงความมีระดับกว่า (เพลงลูกทุ่งมักใช้สัมผัส แบบไม่มีแบบแผนนัก คล้ายเพลงฉ่อย อีแซว หรือลิเก)  มีการเล่นสัมผัสลูกโซ่ สัมผัสพยัชนะอย่างหรูหรา งดงาม  เนื้อความก็ผูกคำขึ้นอย่างสละสลวยต่อเนื่อง นุ่มเนียนหูกว่า เปรียบดังบรั่นดี XO ที่นุ่มลิ้น ไม่บาดคอเหมือนเหล้าโรง

จารย์เทาครับ  อย่างนี้ผมต้องส่ง Twelve of Never เข้าประกวดแล้ว  แต่ใจจริงผมว่ามันหวานจนเลียน  ผมชอบความเป็นอมตะของ As Time Goes By มากกว่า  ดั่งเดิมจากหนังยุคโบการ์ดเลยก็โบราณไป ฟังไม่ค่อยรื่นหู ถอยมาฟังของ Addy William ผมว่ากำลังพอดี

 ขอบพระคุณคุณเทาชมพูค่ะ ที่แนะนำเพลงภาษษสเปนและฝรั่งเศส มีเพื่อนที่เป็นชาวฝรั่งเศสแนะนำค่ะว่า ดิฉันควรจะฟัง Edith Piaf เคยซื้อมา แต่ดูเหมือนว่ามันเป็นแบบโบราณดังเดิมมากไป เสียงไม่ค่อยดี (ซื้อของถูกนี่คะ) ส่วนอัลบั้มของ แนท คิง โคล ที่เป็นภาษาสเปนดิฉันไม่เคยฟังเลยค่ะ แต่รู้จักเพลงบางเพลงที่อาจารย์เทาชมพูบอกมาคือ  quizas quizas quizas ที่มีฟังอยู่ตอนนี้เป็นเพลงละตินเก่าๆ ที่เอามาร้องโดย Laura Fygi น่ะค่ะ มีชอบมากๆ หลายเพลง เช่น Solament una vez (เพียงครั้งเดียวเท่านั้น)  หรือ abrazame (กอดฉัน) คนใหม่ๆ ที่มีก็ Gloria Estefan ค่ะ ชอบอัลบั้มที่มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า The spanish love songs   ส่วนอีกท่านเป็นชายสูงวัย น่าจะมาจากคิวบาที่ชื่อ  Ibrahim Ferrez (นามสกุลไม่แน่ใจ) ชุดนี้มีเพลง aquellos ojos verdes (ดวงตาสีเขียวคู่นั้น) ที่ฟังแล้วรู้สึกอยากเต้นรำช้าๆ เดี่ยวจะต้องไปตามสืบเสาะเพลงที่ อาจารย์ เทาชมพูและคุณ paganini แนะนำ

มากันเรื่องเพลงลูกทุ่ง ลูกกรุงกันบ้าง ดิฉันก็นึกว่าเพลงแสนแสบเป็นเพลงลูกกรุง เวลานึกถึงเพลงลูกทุ่งดิฉันจะนึกถึงพุ่มพวง ดวงจันทร์ก่อนนักร้องท่านอื่น ถัดมาก็จะเป็นลักษณะลูกทุ่งหมอลำ เพราะเป็นคนอีสาน วันนี้ขอส่งเพลง "สาวขอนแก่น" (ก็ดิฉันเป็นคนขอนแก่นนี่นา)เข้าประกวด จะเรียกว่าลูกทุ่ง หรือ หมอลำก็ไม่รู้ แต่ดิฉันร้องติดปาก บางที่ทำแลปก็หงุงหงิงไปเรื่อย มีคนเอามาล้อว่าเนื้อเพลงไม่เป็นมงคล ยังจะร้องอยู่ได้ มาดูกันค่ะ ว่ามันไม่เป็นมงคลตรงไหน

สาวขอนแก่น

น้องเป็นสาวขอนแก่นยังบ่เคยมีแฟน บ้านอยู่แดนอิสาน
น้องเป็นสาววัยอ่อน ได้แต่นอนตะแคง ยามเมื่อแลง*ฝันหวาน
จะมีชายใด ไผแหน่**ต้องการ หมายปองมองหมั้น แม้นต้องการจะคอย
น้องเป็นสาวบ้านป่า เช้าก็ไปทำนา ค่ำแลงมาเหงาหงอย
เขาว่าน้องเป็นลาว เป็นสาวเมืองอีสาน ใจน้องนั้นเลื่อนลอย
จงเอ็นดู แนเดออ้ายเดอ จงปราณีน้องแหน่จักหน่อย ฮักน้องบ่อยๆ น้องจะคอยดีใจ

ใจดวงเดียวที่น้องมีอยู่ เปิกประตูให้แล้วดวงใจ
พี่อย่ามองว่าน้องต้อยต่ำ หากจะดำก็ดำแต่กาย

สาวอีสานมองเหม่อ นอนละเมอเหม่อคอย ใจเลื่อนลอยคอยหาย
เห็นเป็นลูกชาวนา อ้ายจึงบ่อยากจา บ่ออยากมาหมั้นหมาย
คอยแรมปีน้องนี่เอียงอาย คอย คอย คอย น้องคอยจนตาย
คิดแคลงแหนงหน่ายหรืออ้ายบ่อยากมาแล
* ยามเมื่อแลง = เวลากลางคืน หรือเวลาเย็น
**ไผแหน่ = ใครบ้าง

เป็นไงคะสาวขอนแก่นในเพลง ไม่เคยมีแฟนแล้วยังตัวดำด้วยนะคะ เป็นสาวชาวป่าชาวดอย เพื่อนๆ ของดิฉันเลยบอกว่าเพลงนี้ไม่เป็นมงคลกับตัวเวลาร้อง ประเดี๋ยวบรรดาเนื้อคู่ทั้งหลายจะทำให้เราเกิดอาการ คอยหาย คอยหาย (ก็ไม่ต้องคอยซะก็สิ้นเรื่อง)  ส่วนตัวดิฉันชอบร้องเพราะว่ารู้สึกว่าเพลงน่ารักดี แล้วบางวรรคก็ใช้คำได้เพราะดี อย่างเช่น หมายปองมองหมั้น, นอนละเมอเหม่อคอย, คิดแคลงแหนงหน่าย โฉยว่าเล่นคำได้แยบยลดี และมีความหมายหมดทุกคำ

แหมวันนี้มาแบบผสม ขึ้นต้นเป็นขนมปังฝรั่งเศส บวก ปะเอลย่า ลงท้ายก็จบลงในกระติ๊บข้าวเหนียว ก็ลูกอิสานนี่คะ

ขอติดพระจันทร์สำหรับอาจารย์เทาชมพูไว้ก่อนนะคะ วันนี้มาแบบ ลาบ ส้มตำ ข้าวเหนียว น้ำตก ประเดี๋ยวจะไม่เข้ากันน่ะค่ะ อิ อิ

 เพลงสแปนิชของแท้  ดิฉันไม่ค่อยมีค่ะ  มักมีของเทียมคือนักร้องอเมริกันเอาเพลงสเปนมาร้อง

ที่คุณคำฝอยเอ่ยมารู้จักคนเดียวคือ Gloria Estefan



เห็นเพลงสาวขอนแก่น แล้วนึกถึงหนุ่มขอนแก่นที่หายหน้าไปจากเรือนไทยนานแล้ว  คุณแจ้ง ใบตอง   รายนั้นเป็นเจ้าพ่อเพลงลูกทุ่ง  

ลองสอบถาม บอกว่างานรัดตัวมาก เลยไม่มีเวลาเข้ามาคุยอีก



The Twelfth of Never



You ask how much I need you, must I explain?

I need you, oh my darling, like roses need rain.

You ask how long I'll love you; I'll tell you true:

Until the twelfth of never, I'll still be loving you.



Hold me close, never let me go.

Hold me close, melt my heart like April snow.



I'll love you till the bluebells forget to bloom;

I'll love you till the clover has lost its perfume.

I'll love you till the poets run out of rhyme,

Until the twelfth of never and that's a long, long time.



Hold me close, never let me go.

Hold me close, melt my heart like April snow.



I'll love you till the bluebells forget to bloom;

I'll love you till the clover has lost its perfume.

I'll love you till the poets run out of rhyme,

Until the twelfth of never and that's a long, long time.

 แสนแสบนี่ร้องกันหลายรอบ-หลายคนครับ มีเปลี่ยนเนื้อบางส่วนอีกตะหาก

แสดงว่าคุณคำฝอยฟังแสนแสบตอนถูกไอ้หนุ่มลูกกรุงลักพาตัว  เชื่อไอ้ขวัญเหอะ  แสนแสบจะฟังเพราะที่สุด ต้องร้องเหน่อๆ เอื้อนลงลูกคอ พร้อมเสียงขลุ่ยคลออย่างระโหยไห้

ถ้าเป็นยุคเก่าจริงๆ การแบ่งแยกระหว่างลูกทุ่งกับลูกกรุงยังไม่ชัดเจนนะผมว่า ถ้าเข้าใจไม่ผิด ต้นกำเนิดของลูกทุ่งน่าจะอยู่แถวๆ ช่วงชีวิตของสุรพล สมบัติเจริญ  อย่างเพลง 16 ปีแห่งความหลังนี่ผมว่าออกลูกกรุง  ในขณะที่หมวยเกี๊ยะ และอีกหลายๆเพลงที่ลูกๆนำมาร้อง จะชัดเจนว่าเป็นลูกทุ่ง

ในขณะเดียวกันช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็มีการตกเขียวนำเอาเพลงลูกทุ่ง แต่งหน้าทาปากเข้ากรุงชุบตัวกันให้เห็นบ่อยๆ อย่างเพลงร้องไห้กับเดือนนี่ ดูเหมือนมีนักร้องวัยรุ่นนำไปร้องสไตล์ pop จนถ้าคนแต่งหรือนักร้องคนแรกได้ยินเข้า คงต้องไปร้องไห้กับเดือนจริงๆ

แต่อย่างเพลงลูกทุ่งไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องท้องทุ่งท้องนาเท่านั้นนะครับ อย่างปู่ไข่ไก้หลง ก็เรื่องของหนุ่มช่างกล หรือไอ้หนุ่มสองแถวที่ส่งแอ๋วเรียนราม นี่ชัดว่าอยู่ในกรุง แต่เป็นเพลงลูกทุ่ง

ในมุมกลับ เพลงอย่าง เรือนแพก็ดี ท่าฉลอมก็ดี หรือลาทีปากน้ำก็ดี ล้วนร้องด้วยนักร้องลูกกรุง ออกลีลาลูกกรุงชัดเจน แม้จะเป็นบรรยากาศของหนุ่มบ้านนอก แต่ไม่เคยได้ยินใครร้องสไตล์ลูกทุ่งสักที

แก้คำผิดใน As Time Goes By ให้ จารย์เทา ครับ

The fundamental things apply
-> The fundamental things of life

And when two lovers woo
->And when two lovers wound

และยังไม่จบนะครับ ต้องต่อด้วย
It's still the same old story,
a fight full of love and glory,
a case of do or die,
the fundamental things of life
as time goes by.

แต่อย่างไรผมคุ้นหู จำติดหัวแต่ version ของ Addy William เท่านั้น ซึ่งอาจผิดเพี้ยนไปจากของเดิม

อีกเพลงโปรดที่เนื้อร้องเปลี่ยนไปตามแต่ละ version คือ Danny Boy  เข้าใจว่าเป็นเพลงพื้นบ้านเก่าแก่ของไอริช ซึ่ง version ดั้งเดิมนั้นจะยาวกว่า version ที่คุ้นหูทั่วไปเป็นเท่าตัว  คงจะหาเนื้อร้องได้ยาก  อยากได้เนื้อร้อง version ไหนก็ได้ครับ สุดแต่จะกรุณา

 คุณถาวภักดิ์  เข้าไปที่
 http://www.google.co.th
พิมพ์คำว่า
As Time Goes By   lyrics
จะมีเนื้อร้องของเพลงนี้มาให้ตรวจสอบ หลายเว็บเลยค่ะ
เนื้อตรงกันว่า
The fundamental things apply
As time goes by.
และ
And when two lovers woo
They still say, "I love you."
ค่ะ  

ส่วน  Danny Boy เป็นเพลงไอริช   ท่วงทำนองหวานโศกสลด  เนื้อร้องก็ละห้อยปานๆกัน
เยมีครูเป็นชาวไอริช เล่าว่าหนุ่มแดนนี่จะเดินทางมาอเมริกา   สมัยที่คนยากจนของยุโรปพากันหลั่งไหล ข้ามน้ำข้ามทะเลไปแสวงหาโชคในดินแดนใหม่ คือสหรัฐอเมริกา ตอนนั้นยังมีไม่กี่รัฐ
การจากไป ก็ทิ้งพ่อแม่ญาติมิตรและแฟนให้คอยอยู่เบื้องหลัง  อาจจะไม่มีวันได้กลับมาอีก

Oh danny boy, the pipes, the pipes are calling
From glen to glen and down the mountain side
The summer’s gone, and all the roses falling
It’s you, it’s you must go and I must bide

But come ye back when summer’s in the meadow
Or when the valley’s hushed and white with snow
It’s I’ll be here in sunshine, or in shadow
Oh danny boy, oh danny boy, I love you so

But when ye come and all the flowers are dying
If I am dead, and dead I well may be
You’ll come and find the place where I am lying
And kneel and say an ave there for me

And I shall hear tho’ soft you tread above me
And all my grave will warmer, sweeter be
For you will bend and tell me that you love me
And I shall sleep in peace until you come to me

มีทำนองเพลงให้ฟังด้วยค่ะ ที่นี่
 http://www.ireland-information.com/irishmusic/dannyboy.shtml  

 ขอบคุณอาจารย์เทาชมพูสำหรับลิงค์ครับ เรื่องแปลเนื้อนั่นมันคงต้องรอคนที่อินกับเพลงระดับเดียวกับผมแต่มีความสามารถทางอักษรศาสตร์มากกว่ามาแปลให้ครับ

อ่านเนื้อเพลง Till the End of Time แล้วรู้สึกว่าเพลงประเภทรักกันนิจนิรันดร์ไรเนี่ยมีเยอะมากๆ เพลงไทยก็มีมากมายชื่อเพลงซ้ำกันก็มี ช่างตรงข้ามกับความจริงซะกระไรนี่ มีมั้ยครับรักแท้ชั่วนิรันดร์ที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคนที่สมหวังในรักและอยู่ร่วมกันจนแก่เฒ่า สงสัยในโลกนี้มีน้อยยิ่งกว่าน้อย
แต่ในบรรดาเพลงรักกันตราบจนสิ้นกาลเวลานี่ผมมีอยู่เพลงหนึ่งซึ่งชอบมาก
เคยฟัง ผุสชา โทณวณิก นานแล้วล่ะ ร้องออกรายการ talk show ของ ศรัณยู วงศ์กระจ่าง ตอนนั้นประมาณว่าศรัณยูใกล้จะแต่งงานกับ หัทยา พอดี ผุสชามาเป็นแขกให้สัมภาษณ์ ผุสชาเลยร้องเพลงนี้อวยพรให้ศรัณยู จำได้ถึงทุกวันนี้ ไม่เคยฟังเพลงนี้แล้วเพราะเท่าที่ฟังผุสชาร้องอีกเลย เสียงใสๆของเธอเหมาะกับเพลงนี้มากๆ


ชั่วฟ้าดินสลาย

ชั่วดินฟ้า รักเธอ เสมอใจ
ที่ฉัน ร้อยเรียง ร่วมเคล้าเคียง ฝันไปเพ้อครวญ
...........................
ก่อนเข้านอนฉันวอน ฝันไป เพ้อครวญ
ภาพรักหลอน ให้ชวนละเมอ
อยากให้เป็นของเธอ ชั่วฟ้า ดินได้
อย่ามีอันใด พรากไปไกลกัน

เนื้อเพลง มั่วนะครับ แบบว่าเขียนจากความทรงจำไม่มีเทปรึ CD ด้วย ยังไงใครจำได้ช่วยต่อเติมแล้วกันนะครับ
ปล. เพลงนี้ทำนองเพราะมาก เอาไปเล่นด้วยเครื่องดนตรีต่างๆ เพราะเสมอ ลองฟังเวอร์ชัน Classical Guitar โดย Hucky Eikelmann เรียบเรียงโดยเขตต์อรัญ เลิศพิพัฒน์ หรือไม่ก็เวอร์ชันไวโอลินของ อาจารย์ นพ โสถิพันธุ์ ก็ได้ครับ

 กระทู้เยอะมากครับ ผมอยากจะไล่ตอบทีละกระทู้คงจะไม่ว่ากันนะครับถ้าผมแยกมาเป็นท่อนๆแบบนี้
ตอบหลาน ถาวภักดิ์ครับ

ลูกทุ่งลูกกรุง มันแยกยากครับถ้าเราจะแยกโดยลักษณะเพลง คงต้องรอผลงานวิจัยของที่ให้ทุนโดย สกว ก่อนล่ะครับ ถึงจะตัดสินได้ อิอิอิ
ด้านหนึ่งผมว่าอาจจะดูที่คนแต่งกับคนร้องครับ เช่นถ้า สุเทพ สวลี  ธานินทร์  ต้องลูกกรุงเท่านั้น ถ้าเป็นคนแต่งก็ต้อง ชาลี อินทรวิจิตร(คีตกวีในดวงใจของผม) สง่า อารัมภีร์
ส่วนลูกทุ่งถ้าครูไพบูลย์ บุตรขัน ชลธี ธารทองแต่งก็ต้องเป็นเพลงลูกทุ่ง สายัณ์ สัญญา ยอดรักสลักใจร้องก็ต้องเป็นเพลงลูกทุ่ง  สมัยนั้นเขาไม่ค่อยก้าวข้ามเส้นกันเท่าไหร่เลยแยกง่าย
แต่หลังๆมีการร้องเพลงที่คนอื่นเคยร้องกันมากขึ้นมันเลยเบลอๆ
ตัวอย่างที่ดีที่สุดคือเพลงแสนแสบนี่แหละครับ ผมไม่ทราบเหมือนกันว่าใครร้องเพลงนี้เป็นคนแรก แต่เข้าใจว่าแต่งเพื่อประกอบละคร หรือ ภาพยนตร์เรื่อง แผลเก่า (ไม่แน่ใจว่าเป็นเวอร์ชัน สรพงษ์-นันทนารึเปล่า) คนร้องในเรื่องนั้นคือ ไพรวัลย์ ลูกเพชร(นักร้องลูกทุ่งในดวงใจของผมเลยครับ) ซึ่งถ้าพิจารณาจากเนื้อเพลงและคนร้องมันคือลูกทุ่ง แต่ถ้าคิดว่าต่อมาเพลงนี้เป็นหนึ่งในเพลงประจำตัวของชรินทร์ นันทนาคร นักร้องลูกกรุง และแต่งโดย ชาลี อินทรวิจิตร ที่แต่งเพลงลูกกรุงเท่านั้น เลยกำกวมสุดๆ ไม่รู้ว่าไปทางไหนดี
แต่ผมลองมาฟังดูแล้วคิดว่าเวอร์ชัน ไพรวัลย์ ต่างกับ ชรินทร์ ตรงไหน เจอเลยครับ  "ลูกคอ" ครับ
ลูกคอคนละแบบ ดนตรี ประกอบอาจจะไม่ต่างกันมาก แต่ฟังแล้วชัดเจน ผมรู้สึกว่าเวอร์ชันไพรวัลย์นี่ลูกทุ่งจริงๆลูกคอหรือที่ฝรั่งเรียกว่า Vibrato นี่จะชัดเจน เขาจะใส่สำเนียงเหน่อๆ ลงในเพลงด้วยฟังแล้วจับใจ ได้กลิ่นทุ่งนาเลยครับ
เพลงแสนแสบนี่ครูชาลีท่านแต่งได้ยอดเยี่ยมมาก จำได้มั้ยครับผมเคยบอกในกระทู้ที่แล้วว่าอยากจะชวนคุยเรื่องเพลงแผลเก่า ก็ไม่ได้คุยซักที แต่อยากจะบอกว่าท่านแต่งได้เนียนมากคือเพลงแสนแสบที่แต่งใหม่เข้าไปเคียงข้างเพลงอย่าง ขวัญเรียม ลำนำแผลเก่า สั่งเรียม เคียงเรียม ที่แต่งโดยพรานบูรพ์ได้อย่างกลมกลืนทั้งๆที่ระยะเวลาก็ห่างกันหลายปี เสียดายนักที่เวอร์ชันนี้ไม่ได้เป็นที่แพร่หลาย เทปผมก็ทำหาย ไปหาซื้อเป็น CD ก็ไม่มี
ส่วนไพรวัลย์ตอนที่ท่านเสียข่าวหนังสือพิมพ์ไม่ได้พูดถึงเพลงชุดนี้ที่ท่านร้องประกอบหนังเรื่องแผลเก่าเลยผมเสียใจอยู่ลึกๆที่ขาดคนเห็นคุณค่า สำหรับผมเพลงชุดนั้นคือ master piece ของไพรวัลย์ ลูกเพชร เลยครับ

กลับมาที่เพลงแสนแสบ 2 เวอรชันนี้ก็ยังต่างกันในเนื้อร้องอย่างที่คุณถาวภักดิ์ว่าแหละตรงที่

ชรินทร์ -  แสนแสบ แสบแสนเปรียบแม้นชื่อคลอง  นี่คือโลงทองของเรียม ขวัญ เขาฝากชีพจม
ไพรวัลย์ - แสนแสบ แสบแสนเปรียบแม้นชื่อคลอง พี่หม่นพี่หมองฤทัยตาม สามแปลบแสบสันต์ (ตรงนี้ไม่แน่ใจว่าถูกรึเปล่า)

Paganini วิจารณ์ - ไม่รู้ว่าครูชาลีแกแก้เนื้อรึเปล่า ผมว่าของไพรวัลย์น่าจะเข้ากับความจริงมากกว่า เพราะเพลงขึ้นต้นด้วย อกพี่กลัดหนอง คือบุรุษที่ 1 คือไอ้ขวัญเป็นผู้ร้อง แต่ประโยค  "ขวัญ เขาฝากชีพจม" กลับกลายเป็นบุรุษที่ 3 ไปในเพลงเดียวกัน จึงมั่วๆพิกล

ชรินทร์ - (ตอนจบ)จวบจนบัดนี้มิเห็นมีน้ำเจิ่งนอง ชื่อว่าแสนแสบคลอง เหมือนคน"หมอง"ต้องแสบแสน
ไพรวัลย์ - จวบจนบัดนี้มิเห็นมีน้ำเจิ่งนอง ชื่อว่าแสนแสบคลอง เหมือนคน"มอง"ต้องแสบแสน

Paganini วิจารณ์ - เช่นกัน คนหมองต้องแสบแสน  เนื้อหามันซ้ำซ้อน ไม่มีอะไรเกี่ยวพันกับประโยคข้างหน้า แต่คนมองต้องแสบแสนเหมือนกันว่าชื่อคลองนี้อาถรรพ์ใครมองก็ต้องรู้สึกเจ็บปวดเพราะเป็นคลองที่มีประวัติรักของอ้ายขวัญอีเรียม

โดยทั้งหมดนี่เป็นความเห็นส่วนตัวที่ยังไม่เคยคุยกับใครนะครับถ้าลบหลู่ครูเพลงประการใดขออภัยในความเขลา  ใครจะแก้ไขแนะนำยังไงยินดีนะครับ

 ยังครับยังโพสต์ต่อ

เพลง As Time Goes By นี่ผมชอบที่  Natalie Cole ร้องครับลูกไม้หล่นตรงโคนต้นเลย ที่ผมชอบเกี่ยวกับเพลงนี้คือตรงที่เป็น verse น่ะครับ ค่อเพลงฝรั่งสมัยก่อนมันจะมี verse กับ chorus ครับ ท่อน chorus มักจะเป็นท่อนที่เอามาร้องกันแฟร่หลาย ส่วน verse นั้นมักจะร้องนำเข้าสู่เพลงเมื่อมีการแสดงสดรึละครเวทีเท่านั้นนัยว่าสมมัยก่อนแผ่นเสียงซิงเกิ้งอัดได้ไม่ยาวเวลาอัดมักจะอัดแค่ chorus เพราะดนตรีจะเล่นครบวง ส่วน verse นั้นบางทีอาจจะมีแค่เปียโนรึกีต้าร์คลอเท่านั้นโดยมีเสียงร้องเด่นออกมา ทำนองจะคล้ายๆพูดมากกว่าร้องเพลง  เนื้อเพลงนี้ที่คุณเทาชมพูโพสต์คือท่อน chorus ครับ ส่วน verse คือท่อนนี้ครับ



This day and age we're living in

 Gives cause for apprehension

 With speed and new invention

 And things like fourth dimension

 Yet we get a trifle weary

 With Mr.Einstein's theory

 So we must get down to earth at times

 Relax relieve the tension

 And no matter what the progress

 Or what may yet be proved

 The simple facts of life are such

 They cannot be removed



สงสัยว่าสมัยนั้นทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ ของไอนสไตน์(เกี่ยวกับกาลอาวกาศ 4 มิติ) กำลังเป็นที่กล่าวขานผู้แต่งเลยผนวกเข้ามาได้อย่างมีชั้นเชิง

ลิ้งค์นี่ครับดีๆเยอะเลย
 http://sniff.numachi.com/~rickheit/dtrad/pages/tiASTIMEGO;ttASTIMEGO.html





อาจารย์ครับจากความเห็นที่ 25

"ส่วนเพลงลูกทุ่งสมัยใหม่ มีอยู่มากที่ดิฉันเรียกเพลงคาเฟ่มากกว่าลูกทุ่ง ทั้งการแต่งกายของนักร้อง ลีลาหางเครื่อง เนื้อร้อง ไม่มีอะไรเกี่ยวกับท้องทุ่งเลย "

พูดได้ถูกใจผมมากเลยครับ



เขียนกระทู้มาเยอะแล้วคิดอยู่อย่างว่าเราไม่ค่อยมีความรู้สึกร่วมกัน คุยเรื่องเพลงแต่ไม่ค่อยได้ฟังเพลง ดีที่ยังมี midi ของอาจารย์เทาชมพูมาไว้มั่ง ถ้าเป็นเพลงไทยเก่าๆนะผมอยากจะแนะนำเวปนี้ครับ

 
 http://www.oldsonghome.com/



ต้องมี realplayer ครับถึงจะเล่นได้เนตก็ต้องเร็วพอสมควรด้วยครับ

 คุณคำฝอย
สาวขอนแก่น เพลงนี้สำหรับผมได้ยินเมื่อไหร่ ความรู้สึกเมื่อเป็นเด็กเล็กๆจะกลับมาอีกครั้ง คิดๆดูคนเราก็แปลกนะครับ อารมณ์ความรู้สึกที่เคยเกิดขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อน เราไม่สามารถรำลึกได้เลย แต่พอได้ฟังเพลงร่วมสมัยในยุคนั้น ความรู้สึกนั้นๆความทรงจำเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมในตอนนั้นจะพุ่งแปล๊บขึ้นมา  เคยเป็นกันมั้ยครับ ผมว่าดนตรีคือเครื่องมือบันทึกอารมณ์ของมนุษยชาติที่ยอดเยี่ยมที่สุดเลยทีเดียวละ
เพลง Danny Boy เป็นเพลงที่สมเด็จย่า ทรงโปรดมาก ทรงให้เอาทำนองนี้มาใส่เนื้อไทยชื่อว่า ตระเวณชายแดน เพื่อปลอบขวัญเหล่า ตชด ที่ท่านรักครับ
ทำนองดั้งเดิมที่แท้จริงคงโบราณพอสมควรชื่อ Londonderry Air ครับ ลอนดอนเดอรี่เป็นชื่อเมืองหนึ่งในไอร์แลนด์
พวกศิลปินเพลงคลาสสิคชอบเอามาเล่นกันครับ ทั้งเวอร์ชัน violin piano guitar จัดเป็นเพลงที่ทำนองไพเราะลึกซึ้งเพลงหนึ่ง
ปล. คุณ ถาวภักดิ์ Andy Williams รึเปล่าครับ
โอย พิมพ์จนหมดแรงแล้วครับ รวดเดียว 4 โพสต์ ถ้าเราเขียนวิทยานิพนธ์ได้อึดและปริมาณมากๆแบบนี้ก็ดีสินะ แล้วค่อยคุยกันต่อครับ

 เจอแล้วครับ
 http://www.oldsonghome.com/music/listen.php?song_id=1567

ชั่วฟ้าดินสลาย - ศรีไศล สุชาติวุฒิ
ชั่วดินฟ้ารักเธอเสมอใจที่ฉันรำพันทุกวันฝันไปถึงเธอ

อยากให้เธอหวานใจอยู่ใกล้พลอดรักร้อยเรียง

ร่วมเคล้าเคียงฉันและเธอ



*ก่อนเข้านอนฉันวอนฝันไปเพ้อครวญ

ภาพรักหลอนให้ชวนละเมอ

อยากให้เป็นของเธอชั่วฟ้าดินได้

อย่ามีอันใดพรากไปไกลกัน

(ซ้ำ*)

 มาบอกแถมให้อีกหน่อยค่ะ Londonderry Air  
Air เป็นภาษาไอริช แปลว่า เพลง ค่ะ

คุณผุสชาเป็นนักร้องเสียงดีคนหนึ่งที่ดิฉันถูกใจมาก
สมัยเธอเป็นพิธีกรรายการจันทร์กระพริบ
เคยร้องเพลงพระราชนิพนธ์  คู่กับม.ร.ว. เบญจาภา ไกรฤกษ์
แก้วเสียงของเธอมีพลัง ร้องได้กังวานหวาน
น่าเสียดาย หาซีดีเพลงของเธอไม่ได้จนบัดนี้

คุณ paganini ตั้งปุจฉาว่า
"มีมั้ยครับรักแท้ชั่วนิรันดร์ที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคนที่สมหวังในรักและอยู่ร่วมกันจนแก่เฒ่า สงสัยในโลกนี้มีน้อยยิ่งกว่าน้อย"

ดิฉันว่ามีนะคะ  แล้วไม่น้อยด้วย   มีสามีภรรยาหลายคู่ที่รักกันแน่นแฟ้นและอยู่กันมาด้วยดี จนตายจากกัน  
แต่อะไรที่ดีๆ ก็มักไม่เป็นข่าว   ข่าวที่เราอ่านพบทางสื่อมักเป็นข่าวร้าย

ขอยกมาคู่หนึ่งที่น่ายกย่องมาก

จากหนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในการพระราชทานเพลิงศพหม่อมเจ้ากุมารีเฉลีมลักษณ์ จิตรพงศ์
ผู้เล่าในหนังสือเล่มนี้ คือม.ร.ว. กัลยา ติงศภัทิย์  ธิดาของท่าน

"ท่านพ่อ( หมายถึงหม่อมเจ้าเพลารถ จักรพงศ์) ท่านแม่ทรงเลี้ยงลูกแบบกึ่งเก่ากึ่งใหม่  ท่านพ่อเป็นใหญ่ที่สุดในบ้าน   ท่านแม่จะปรึกษาท่านพ่อเสมอในทุกๆเรื่อง  ลูกอยากได้อะไรจะไม่กล้าทูลท่านพ่อเอง  จะทูลท่านแม่   แล้วท่านแม่ก็จะเป็นผู้ช่วยเจรจาให้
ถ้าท่านพ่อรับสั่งว่าได้ก็เป็นอันว่าได้   ถ้าไม่ได้ก็เป็นอันว่าไม่ได้
ที่ดีมากๆ คือไม่เคยได้ยินท่านพ่อท่านแม่ทะเลาะกันแม้แต่ครั้งเดียว  ท่านรักกันจริงๆ
**************************
ท่านพ่อเกษียณอายุแล้ว รู้สึกเหงามาก   ท่านแม่เลยชวนท่านพ่อไปเที่ยวที่ต่างๆ
ทั้งในประเทศและต่างประเทศ  ช่วงนั้นท่านพ่อท่านแม่มีความสุขมาก  ไม่ต้องกังวลอะไร    ได้พักผ่อนจริงๆ
โชคดีมากที่ท่านตัดสินพระทัยท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องเช่นนั้น  เพราะทรงเที่ยวกันได้ประมาณ 5 ปี ท่านพ่อก็เริ่มประชวรเป็นโรคถุงลมโป่งพองและไม่สามารถไปเที่ยวได้อีก  
หลังจากนั้นท่านแม่ทรงดูแลรักษาพยาบาลท่านพ่ออย่างดีเป็นเวลากว่าสิบปี  จนท่านพ่อสิ้น
เมื่อท่านพ่อสิ้น  ท่านแม่รู้สึกหงอยเหงามาก  ไม่มีความสุขอีกเลย  ท่านเป็นนกเขาคู่จริงๆ  รักกันเหลือเกิน     ระยะหลังท่านแม่อยู่ไปวันๆ  สุขภาพเสื่อมลงเรื่อยๆ ..

 There's a new world somewhere they call the Promised Land;
And I'll be there someday if you will hold my hand;
I still need you there beside me, no matter what I do;
For I know I'll never find another you.
There is always someone for each of us they say,
And you'll be my someone, forever and a day;
I could search the whole world over, until my life is through,
But I know I'll never find another you.

It's a long, long journey, so stay by my side,
If I walk through a storm, you'll be my guide,
Be my guide...

If they gave me a fortune, my treasure would be small;
I could lose it all tomorrow, and never mind at all;
But if I should lose your love, dear, I don't know what I'd do,
For I know I'll never find another you!
********************************
I don't know who sings this song ka, probably in 1970s.

 ขอบพระคุณ จารย์เทาฯครับ ที่กรุณานำเนื้อเพลง Danny Boy มาลงให้ และต้องขออภัยหากทักท้วงคำในเนื้อเพลง As Time Goes By ไม่ตรงกับแหล่งอ้างอิงของอาจารย์  ผมโม้แบบใช้แต่ความจำ  บางทีมันก็อาจทรยศ  ไก่วิ่งหนีหมดเล้าเลย

สงสัยจะจี้ถูกจุด  คุณป๋า paganini เมตตาสนทนาจนน้ำลายแตกฟอง  แหม ถ้ามีลูกสาวสวย มันน่าหนีบ xo ไปกราบคารวะ พอได้ที่ก็กอดคอกันหอน เอ๊ย Serenade ใต้หน้าต่างห้องคุณลูกสาวให้เข้าบรรยากาศ

เนื้อเพลงแสนแสบที่คุณป๋าจำไม่ค่อยได้ ผมจำว่ายังงี้ครับ

...แสนแสบ แสบแสนเปรียบแม้นชื่อคลอง พี่หม่นพี่หมองฤทัยจำ ซ้ำแสบ แสบซ้ำ  แต่คลองยังช้ำ เหลือไว้เพียงน้ำขุ่นตม พี่จึงช้ำ จึงช้ำ ขื่นขม ตรมเสียกว่าคลอง.......

ถ้าคุณป๋าอยากฟัง version นี้  คงต้องให้ผมไปเขย่าลูกคอใต้หน้าต่างห้องลูกสาวจริงๆแล้วละครับ  เทปของผม ถ้าบังเอิญขุดเจอก็คงฟังได้ไม่เป็นเพลงแล้ว

รักแท้อมตะนิรันดร์กาลอย่างแท้จริง ผูกพันข้ามภพข้ามชาติติดตามกันมาไม่ต่ำกว่า 4 อสงไขยกับแสนกัป ก็คู่ของเจ้าชายสิทธัตถะกับพระนางยโสธราอย่างไรละครับ  ตั้งจิตอธิษฐานเป็นคู่บารมีกันอย่างน้อยก็ตั้งแต่พุทธกาลของพระพุทธทีปังกร ครั้งพระพุทธองค์เสวยพระชาติเป็นสุเมธดาบสและได้รับพุทธพยากรณ์เป็นครั้งแรก

ในพระชาติสุดท้าย คือพระเวสสันดร ที่จะต้องบริจาคพระนางพิมพาเป็นทานเพื่อทำบารมีพระโพธิญาณให้เต็ม แต่ด้วยบุญบารมีที่บำเพ็ญร่วมกันมาอย่างยาวนานนักหนา พระนางพิมพาจึงคู่ควรบารมีพระเวสสันดรบรมโพธิสัตว์เจ้าพระองค์เดียวเท่านั้น ร้อนอาสน์พระอินทร์จำต้องแปลงเป็นพราหมณ์เฒ่ามาขอรับบริจาค

ขอทิ้งท้ายการโม้ครั้งนี้ด้วยการดึงกลับไปหาพระจันทร์ เพื่อให้เข้าบรรยากาศการหอน เอ๊ย Serenade ด้วยเพลงเดือนเพ็ญ

ต้องยกนิ้วให้ท่านนักรบในป่าในครั้งนั้น ที่ถอดหัวใจออกมาเป็นท่วงทำนองและเนื้อร้องได้อย่างยอดเยี่ยม สมบูรณ์งดงาม ไม่มีที่ติ

ไม่ว่าเราจะมีความเห็น ทัศนะคติต่างกันอย่างไร แต่เพลงนี้แหละที่แสดงถึงความรัก ห่วงหาอาทรในแผ่นดินเกิดอย่างแนบแน่น ไม่มีวันสั้นคลอนเช่นเดียวกัน ไม่ผิดกับลูกที่ร่วมอุทรแม่เดียวกัน

และถ้ารู้รักแม่อย่างสุดหัวใจอย่างนี้  จะทะเลาะกันรุนแรงแค่ไหน  ก็ยังมีความหวังเสมอสำหรับลูกหลานไทย

 ฟังเรื่อง รักนิรันดร์แล้วรู้สึกอยากจะแสดงความเห็น ดิฉันว่ามันก็คงมีอยู่จริงบ้างแหละค่ะ แต่ไม่รู้ว่าใครจะโชคดีเจอกับรักแท้เท่านั้นเอง คนเรารักตัวเองนั้นเป็นของแน่ แล้วพอไปรักคนอื่นก็กลับจะดึงเอาเขามาใช้เพื่อความสุขของตนก็มี ของแบบนี้มันก็พูดยากนะคะ ดิฉันว่าถ้าไปรักใครชอบใครแล้วเดือดร้อนใจ เช่น กลัดกลุ้ม สับสน ลังเล วุ่นวาย อกหัก ก็ไม่น่าจะเรียกว่ารัก เพราะมันเจือความเห็นแก่ตน พอไม่ได้อย่างใจตนก็เลยกระวนกระวายหนัก  แล้วดิฉันว่าความรักมันน่าจะพัฒนาตามวัย เรื่องรักอมตะที่เราอ่านกัน มักจะเป็นรักของวัยหนุ่มสาว หุนหันพลันแล่น ขาดสติตริตรอง ก็จบลงด้วยความตาย ไม่ว่าจะ โรเมโอ-จูเลียต หรือ ขวัญ-เรียม เลยเป็นรักรันทดที่ซาบซึ้งกินใจ เขาว่าคนเราความโศกเศร้ามันสัมผัสอารมณ์ได้รุนแรงและยาวนานกว่าอารมณ์สุข ท่าจะจริง ไม่รู้ว่าถ้าทั้ง 2 คู่ได้ครองรักกันจริงแล้วจะจบลงที่การหย่าร้างหรือเปล่า เอ้าว่าไปโน่น เห็นเขียนมาอย่างนี้ไม่ใช่ดิฉันมองโลกในแง่ลบนะคะ แค่พยายามจะมองตามความเป็นจริงน่ะค่ะ จะว่าไป ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ ก็จริงค่ะ แต่ว่า ที่ใดไร้รักที่นั่นทุกข์ยิ่งกว่า ดิฉันว่ามีรักนี่แหละดีแล้ว โลกสดใส เป็นรงบันดาลใจให้เขียนกวี ถ่ายภาพ ฟังเพลงก็เพราะกว่าทุกที เพียงแต่ต้องรักอย่างมีสติและไม่เสียสมดุล อย่างนี้เรียกว่ารักแท้ได้ไหมคะเนี่ย

Danny boy ดิฉันเคยฟังเป็นเทปที่นักร้องไทยเอามาร้อง ทิพวรรณ ปิ่นภิบาลหรือเปล่าม่แน่ใจ แต่ตอนนั้นเด็กมาก พอโตมาหน่อยมาฟังที่  Charlotte Church ร้องค่ะ โหยหวนดี ก็ชอบนะคะ ของออริจินอลไม่เคยฟังอ่ะค่ะ

คุณผุสชา เป็นนักร้องคนโปรดของคุณแม่ดิฉันค่ะ และแน่นอนตามสูตร แม่ฟังอะไรลูกก็ฟังด้วย ดิฉันก็เลยชื่นชมเสียงเพราะๆ ของเธอไปกะคุณแม่ด้วย

คุณถาวภักดิ์ใช่แต่จะไปจี้ใจดำคุณ paganini มาจี้ใจดำดิฉันด้วยอีกคน เพลงเดือนเพ็ญนี่เอาไว้หลั่งน้ำตาเลยนะคะ ยิ่งตอนนี้อยู่ไกลบ้านเวลาเลิกงาน เดินลงภูเขากลับที่พักเวลากลางคืน เห็นเดือนเต็มดวงก็คิดถึงบ้าน คิดถึงเพลงนี้ขึ้นมาทันที เลยล่ะค่ะ ดิฉันว่าเป็นบทกวีที่กินใจมาก ยิ่งดิฉันคนบ้านนอก คิดถึงกองไฟ ลอมฟาง ทุ่งนา ข้าวเขียวค่ะ

 ตายแล้ว โพสประหลาดแล้วก็พิมพ์ผิดเยอะ ถ้าจะแก้ไขต้องทำอย่างไรคะนี่

 ความคิดเห็นที่ผมโพสต์ได้รับการเหลียวแลจากท่านทั้งหลายอย่างนี้ ผมว่าต่อไปเราคงมี กระทู้ เพลงเก่าตรึงใจ (3) (4) ไปเรื่อยๆแน่เลย ขอบคุณครับ
ไม่นึกเลยว่าการบ่นบ้าตามประสาคนมองโลกในแง่ร้ายจะได้รับการตอบสนองจากหลายท่านอย่างละเอียดแบบนี้ อาจารย์ครับรักนิรันดร์มีจริงหรือไม่มีจริงอาจจะเป็นเรื่องที่ยากจะตัดสิน
แต่ความเห็นของผมเหมือนกับคุณคำฝอยทุกตัวอักษรเลยครับ ที่คุณคำฝอยเขียนนี่ถ้าเขียนตามสำนวนฝรั่งคือเห็นด้วยอย่างหมดหัวใจเลยครับ
โดยเฉพาะ "ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ ก็จริงค่ะ แต่ว่า ที่ใดไร้รักที่นั่นทุกข์ยิ่งกว่า ดิฉันว่ามีรักนี่แหละดีแล้ว โลกสดใส เป็นแรงบันดาลใจให้เขียนกวี ถ่ายภาพ ฟังเพลงก็เพราะกว่าทุกที "
ตรงนี้นี่โดนใจมากๆ ขอคารวะ 3 จอก ด้วยน้ำโคล่า อิอิอิอิ

ถ้าจะให้ดีนะพี่คำฝอย เราควรจะรักษาให้หัวใจเราอกหักตลอด อย่าให้สมหวังในความรัก แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์จะมหึมา ดังที่ผมเคยบอกเพื่อนว่า ชีวิตที่มีอุปสรรคจึงมีรสชาติ ความรักที่ไม่สมหวังจึงเป็นนิรันดร์

หลานถาวภักดิ์ครับ ผมดุนะ หวงลูกสาวด้วย ขอไปหัดยิงปืนก่อน เตรียมไว้เมื่อลูกสาวโต ฮ่าๆๆๆ
แต่ถ้าจะมา serenade ให้ลูกสาวผมฟังอาจจะต้องรออีกนานนะ  ขอเวลาหาแม่มาผลิตก่อน
แต่ดูท่าทางหลานชายคงไปกันได้กับผมนะ คงต้องมาร่ำน้ำชา คุยเรื่องเพลงกัน ถ้าจะฟังหลานร้องแสนแสบนะ ป๋าจะร้องเพลง เคียงเรียม ลำนำแผลเก่าให้ฟัง
ขอบคุณหลานมากๆเลยที่หาเนื้อเพลงที่ถูกต้องมาให้ ก็ครูไพรวัลย์ แกร้องแบบเหน่อๆบางทีก็ฟังยาก ซ้ำแสบ แสบซ้ำ  สวยงามมาก ว่างๆอยากจะคุยเรื่องครูชาลี จริงๆ ผมสงสัยว่าทำไมคนไทยถึงไม่ค่อยเชิดชูท่านเท่าสิ่งที่ท่านสมควรได้รับ ความเห็นส่วนตัวผมนะผมว่าท่านคือยอดคีตกวี (คีต =song = เพลงร้อง  คีตกวี = กวีที่แต่งเพลงสำหรับร้อง) แห่งรัตนโกสินทร์เลยทีเดียว เนื้อเพลงหลายๆเพลงที่ท่านแต่งนั้นจับใจ ลึกซึ้ง สวยสด งดงาม ยากที่จะหานักแต่งเพลงไทยในยุคนี้หรือยุคไหนเทียบเทียม (ย้ำ ในความคิดของผมนะครับ)
เมืองนอกมี Sir Andrew Lloyd Webber มี John Lennon รึแม้กระทั้ง Stephen King ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นทรัพยากรบุคคลอันมีค่ายิ่งขนาดถูกรถชน คนขับรถโดนประณามกันทั้งประเทศว่าประมาทจนเกือบทำให้บุคคลสำคัญทางสติปัญญาของชาติตายไป แต่สำหรับครูชาลี ดูเหมือนคนไทยจะลืมๆท่านไปเสียแล้ว
ไม่ทราบว่าได้เข้าไปเยี่ยมชมเวป www.oldsonghome.com กันรึยังครับผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขานะครับ แค่รู้สึกว่าดีมากๆ อยากให้ไปเป็นกำลังใจให้เขาหน่อย
พี่คำฝอยครับ เพลงสาวอีสานรอรัก (ไม่ใช่สาวอีสานรอรักนะครับ)ก็มีนะ ร้องโดยคุณ อรอุมา สิงห์ศิริ

พูดถึงเพลงที่เกี่ยวกับดวงจันทร์......... โหยมีเป็นโหล เป็นล้านดีกว่า
สำหรับผมเพลงเดือนเพ็ญเพราะมากแค่ไหนไม่ต้องบรรยายซ้ำแต่ที่น่าประทับใจคือ เวอร์ชันของ คาราบาวที่มีเสียงขลุ่ยของอาจารย์ ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี มันได้อารมณ์ที่แท้จริงเลยนะครับ
ดีเจทางวิทยุชอบบอกว่าเดือนเพ็ญ เวอร์ชันของ สีเผือกคนด่านเกวียนดีที่สุด ผมไม่เห็นด้วยเลย เสียงร้องของน้าแอ๊ด คาราบาวที่เหน่อๆ ซื่อๆ ดูจริงใจ เสียงโซโล่กีต้าร์โปร่งของเล็ก ปรีชา ชนะภัย และเสียงขลุ่ยของอาจารย์ธนิสร์ มันเหมือนกันคืนหนาวที่เรานั่งล้อมวงผิงไฟแล้วร้องเพลงเล่นดนตรีกันท่ามกลางแสงจันทร์ มันน่าประทับใจมากครับ

แต่ถ้าหากจะพูดถึงดนตรีที่ชักนำให้รู้สึกถึงจันทร์เพ็ญก็ต้องเพลงนี้เลยครับ
Moonlight Sonata for Piano ของ Beethoven ท่อนแรกนะครับ เพลงจะช้าๆเปียโนเล่นกระจายตัวโน๊ตในคอร์ดอย่างสม่ำเสมอ คนฟังเหมือนกับจะโดนสะกดจิต (จริงๆก็คงโดนนั่นแหละด้วยมนต์ขลังแก่งดนตรีกาล) อารมณ์ดื่มด่ำลึกซึ้ง ชักนำให้เรานึกถึงพระจันทร์ในคืนเดือนเพ็ญที่ลอยสูงท่ามกลางหมู่เมฆ ทัศนียภาพรอบตัวเหมือนจะกระจ่างเหมือนจะคลุมเคลือ ดูลึกลับแต่มีเสน่ห์ ดูสนเท่ห์แต่น่าติดตาม นี่แหละครับ คืนวันเพ็ญที่หลอกหลอนมนุษย์มาตั้งแต่ปางบรรพ์
ใครอ่านข้อเขียนผมแล้วนึกไม่ออกก็เชิญดูรูปของพี่คำฝอยนะครับ ได้บรรยากาศดีมาก

 อยากได้เนื้อเพลง "จันทร์เอ๋ย"ที่ท่านผู้หญิงพวงร้อย สนิทวงศ์ ได้ร้องไว้ครับ แล้วลองหาลิงค์จะฟังดูก็หาไม่เจอ แต่วันนี้ก้อมีเพลงมาบ้าง เป็นเพลง ของ รร ราชินี ซึ่ง ม.จ. พิจิตรจิราภา เทวถุล ทรงประพันธ์ ความหมายดีนะครับ
ตัวเธอสิดอกหนึ่ง ณ อุทยานราชินี
ส่งกลิ่นและทรงศรีพิลาสล้ำสำอางสม
เมื่อถึงคราวชราจะงามซาอย่าปรารมภ์
พึงรักษ์อุดมฉมสนิทกายตราบวายปราณ
เฉกเช่นพิกุลแก้ว ผิว์แห้งแล้วยังหอมนาน
ไป่ทิ้งสุคนธ์ธารบังเกิดการระเหยหาย
เชิดชื่นผกาพันธุ์นิรันดร์อยู่มิรู้วาย
เชิดเกียรติกำจรจายระบายบ่งถึงสวนขวัญ

 พระจันทร์สวยจริงครับคุณป้าคำฝอย (ขออนุญาตเรียกคุณป้าเพราะเสียงเข้ากับคุณป๋า)

คุณป๋าผมยังเหลือยางจะทำสำเนาได้อยู่หรือนี่ นับถือๆ อย่างนี้ต้องซ้อมร้องเพลง Blue Moon ไปพลางๆครับ เผื่อฟลุ้ก จะได้ร้องอวดพระจันทร์ว่า.....Blue moon, I'm no longer alone...without a dream in my heart,....without a love of my own.

ถ้าพระจันทร์คลาสสิค อย่างไรผมก็มอบดวงใจให้จอมชวัญมั่นรักต่อกัน ตะละแม่จันทราเป็นมิ่งขวัญเอกคือ ลาวดวงเดือน หรือโสมส่องแสง   Moonlight Sonata นั้นก็หลงไหลอยู่คล้ายตะละแม่กุสุมา รักเจ้าเพียงเอ็นดูหมายเชิดชูดวงแด

 ได้ยินเสียงปี่เสียงกลองแล้วอดใจไม่ได้ต้องเข้ามาแจมอีกคน
ภาพพระจันทร์ของคุณคำฝอยสวยทุกรูปครับ  รูปที่ผมชอบที่สุดคือ
43
เอาเพลงจันทร์เอ๋ยของท่านผู้หญิงพวงร้อย สนิทวงศ์มาฝากคุณกานต์ครับ
ว่างๆจะแวะเข้ามาอีก   อยากจะต่อความยาวกับคุณ paganini เรื่องเพลงคือบทบันทึกอารมณ์  ชูมือเห็นด้วยสองมือครับ

จันทร์เอ๋ยเคยสว่าง...ใยจางแสง
หรือจันทร์แกล้งเย้าว่าน้อง..อกหมองไหม้
ลมเจ้าเอ๋ยเคยโชยชื่น...ชื่นหัวใจ
เป็นอะไรจึงสงัด..ไม่พัดเลย
ดาวเอ๋ยดาว..
พราวฟ้าไกล..เห็นไหวยิบ
ดาวกะพริบตาเยาะเราหรือดาวเอ๋ย
จั๊กจั่นสนั่นเพรียก..เรียกคู่เชย
เหมือนจะเย้ยว่าเราไม่มีใครปอง

 แอบอ่านอยู่นาน เห็นคุยกันเรื่อง"รักนิรันดร์" ก็ขอยืนยันว่ามีจริงครับ  

บางท่านสงสัยว่าพระจันทร์เป็น"ชาย"หรือ"หญิง"
ของไทยเรา ก็เป็นเทพที่เป็นชายนะครับ

ดูที่มาได้ที่
http://se-ed.net/theptheva/prajan.html

เพลงเกี่ยวกับพระจันทร์ที่เคยได้ยินมานานมากแล้ว
เป็นเพลงกล่อมเด็กครับ

จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า
ขอข้าวขอแกง
ขอแหวนทองแดง ผูกมือน้องข้า
ขอช้างขอม้า ให้น้องข้าขี่
ขอเก้าอี้ ให้น้องข้านั่ง
ของเตียงตั้ง ให้น้องข้านอน
ขอละคร ให้น้องข้าดู
ขอยายชู เลี้ยงน้องข้าเถิด
ขอยายเกิด เลี้ยงตัวข้าเอง

ท่าจะเป็นพี่เลี้ยงน้อง ท่าทางจะรักน้องมาก ขออะไรต่อมิอะไรให้น้องมากมาย แต่ขอให้ตัวเองนิดเดียว
แสดงถึงวัฒนธรรมไทยแต่โบราณว่า คนเราแต่ก่อนนั้น ทำอะไรนึกถึงคนอื่นก่อนเสมอ จะนึกถึงตัวเองทีหลัง และก็ไม่ได้หวังว่าตัวเองจะต้องได้อะไรมากมาย

ส่วนเพลง"จันทร์เอ๋ย" หามาให้ฟังได้เพียงครึ่งเพลง เผื่อเห็นเนื้อแล้วอยากร้องตามบ้าง  
เห็นจะต้องมีซาว์นการ์ด และ ลำโพงหรือหูฟังนะครับ
ถึงได้ยินครึ่งเพลง แต่ที่เหลือ คงเดาทำนองและร้องต่อได้
คิดว่าคงหาแผ่นฟังได้ทั้งเพลงถ้าติดต่อไปนะครับ

เห็นภาพดวงจันทร์ข้างบนแล้วก็นึกถึง

ณข้างขึ้นสิหงายแจ่ม กระจ่างสดและกลดทรง
ณข้างแรมบ่เห็นองค์ พระจันทร์เจ้าณราตรี


เห็นภาพ 43 แล้วให้คิดถึงเพลงแรมพิสวาทครับ

เห็นเดือนรูปเคียวเกี่ยวกิ่งฟ้า
เมฆน้อย ลอยมา
นภาสลัวมัวเกลื่อน
ดวงดาววาวแวมข้างแรมลับเลือน
แรมเอ๋ย แรมเดือน
เหมือนเรารักแรมร้างไกล
..ฉันคงมีกรรม ติดตามย้อน
อกเอ๋ย อาวรณ์
รักมาแรมรอนไปได้
จะรอจะคอยไปอีกเท่าใด
ดินฟ้า จะช่วยให้
โชคที่ร้าย กลับดี
..เด่นเดือนเลือนแรม
ครบเดือนก็แจ่ม งามหนัก
หมุนเวียนตามจักร ราศรี
แต่ความรักฉันแรมเลือน
แรมเดือน แรมปี
โถป่านฉะนี้ยังไม่กลับมา หา
..แม้เดือนแรมมอง ไม่ผ่องศรี
ดาวน้อย ยังมี ระวีแทนที่ในหล้า
แต่อกเราหักด้วยแรมรักลา
จะเห็นใจใครมา
ช่วยรักษา เล่าเอย


..เด่นเดือนเลือนแรม
ครบเดือนก็แจ่ม งามหนัก
หมุนเวียนตามจักร ราศรี
แต่ความรักฉันแรมเลือน
แรมเดือน แรมปี
โถป่านฉะนี้ยังไม่กลับมา หา
..แม้เดือนแรมมอง ไม่ผ่องศรี
ดาวน้อย ยังมี ระวีแทนที่ในหล้า
แต่อกเราหักด้วยแรมรักลา
จะเห็นใจใครมา
ช่วยรักษา เล่าเอย...

 ฮ้า ครูbookของผมยังอยู่หรือนี่ สบายดีหรือครับ หายไปไหนตั้งหลายปี  นับเป็นคนรู้ใจ คอเดียวกันจริงๆ  น่าชวนขึ้นหลังควาย เป่าขลุ่ย ชมจันทร์ เหมือนในเพลงค่ำคืนเดือนหงาย ต้นตระกูลเพลงเพื่อชีวิต

 ผมสบายตามประสาครับ  ร่อนเร่อยู่นอกเน็ทนานหน่อย กลับมาทีเพื่อนฝูงหายหมด
คุณพระนาย  คุณนิลกังขา แม่หญิงเรไร คงไปเกิดใหม่ในชื่ออื่น กันแล้ว
เหลือป๋าถาวภักดิ์  คงกระพัน  ยังหนุ่มเหมือนเดิมนะครับ
ผมขอขึ้นเป่าขลุ่ยบนหลังควาย ตามหลัง   ป๋าซิ่งนำหน้าไปก่อน
เพลงข้างขึ้นเดือนหงาย ใครมีเนื้อขอมาให้ป๋าผมเกะ  ซักนิดเหอะ

 เห็นที่อาจารย์นิรันดร์โพสต์แลัว มาฉุกคิดว่า นักฟิสิกส์นี่ตรงกันที่มีจินตนาการล้ำลึกและดื่มด่ำพอสมควรเลย แหม เห็นภาพพระจันทร์แล้วเอาไปจับคู่กับเพลง นับถือๆ
ก็ต้องชมว่าคุณคำฝอย(ไม่กล้าเรียกพี่แล้วเห็นหายไปนาน ไม่รู้งอนรึเปล่า อิอิอิอ) ว่าช่างถ่ายภาพแล้วเกิดแรงบันดาลใจเหลือเกิน

ฟังเพลงเกี่ยวกับขลุ่ยและพระจันทร์แล้วก็นึกถึงสมัยเด็กๆ อยากเล่าให้ฟังความประทับใจส่วนตัวนิดนึง
คือคุณพ่อผมแกมีขลุ่ยเพียงออ เสียงดีอยู่เลาหนึ่ง ตอนผมเด็กๆแกก็เอามายื่นให้ แล้วบอกว่าให้หัดเป่าให้ได้ เพราะว่า แกมีความประทับใจในวัยเด็กแกชอบเล่าว่า ยามค่ำคืนบ้านนอก เคยเดินผ่านท้องทุ่งได้ยินเสียงขลุ่ยแว่วมาไกลๆ ไพเราะจับใจ แกเลยไปซื้อขลุ่ยมาหัดเล่น แต่ก็ไม่เป็นซักที ผมก็เลยต้องหัดเป่าให้แกฟัง และมันก็เป็นพื้นฐานให้ผมรักดนตรีและเล่นดนตรีจนถึงบัดนี้  เป็นของขวัญล้ำค่าจากคุณพ่อของผมจริงๆเลยครับ

 ไม่ได้ งอน อะไรหรอกค่ะ คุณ  paganini อันนั้นไว้ให้สาวน้อย ๆ เขางอนกัน สาวเหลือน้อย งอนบ่อยๆ ไม่ได้ค่ะ ไม่งาม เป็นผู้ใหญ่แล้ว (จริงๆ กลัวไม่มีใครจะง้อมากกว่า แหะ แหะ) ดิฉันแวะมาบ้างนะคะ แต่ว่าไม่ได้โพส เพราะชุ่งนี้ยุ่งหน่อย ซุป(เปอร์ไวเซอร์) นัดคุยบ่อยๆ ต่อมสุนทรีย์เลยเหือดค่ะ วันนี้พักยกเลยแวะมาซะหน่อย เรียกพี่ธรรมดาค่ะ เรียกป้าก็พอไหวนะคะ อิ อิ

เห็นคุณ  paganini เล่าเรื่องความรักดนตรีกับขลุ่ยเพียงออที่คุณพ่อให้ ดีจังนะคะ ดิฉันตอนเป็นเด็กไม่เคยได้หัดเล่นเครื่องดนตรีอะไรเลย พอโตมาไปหัดเล่นขิม ก็ใช้พลังแรมโบ้ เสียจนสายขาดกระจุย เลยเลิกไป (ตกใจพลังตัวเอง) เพลงที่ฟังบ่อยๆ ตอนเป็นเด็กจะเป็นเพลงสุนทราภรณ์ เพราะว่า พ่อกับแม่ชอบเปิดเพลงแล้วเต้นลีลาศกันในบ้านตอนเช้าๆ น่ะค่ะ ลูกก็ตื่นมานั่งสัปหงก หลับๆ ตื่นๆ ดู แต่จำได้ว่าพ่อ-แม่เต้นรำ

ไม่คิดว่าภาพพระจันทร์ของดิฉันจะได้รับความสนใจขนาดนี้ ดีใจจังค่ะ เห็นแปะมีเพลงเกี่ยวกับพระจันทร์กันเยอะแยะ ทำให้ดิฉันนึกถึง ละครเวทีเรื่อง"จันทร์เจ้าขา" น่ะค่ะ ไม่เคยได้ดูเองเพราะเป็นคนบ้านนอก ได้ฟังเพลงบางเพลงที่เป็นฉากประกอบในหนังเรื่อง คู่กรรม ที่เบิร์ดเล่น รู้สึกว่า เพลงน่ารักดี แต่เนื้อเรื่องเป็นจริงๆ อย่างไรก็ไม่ทราบ

เพลงข้างขึ้นเดือนหงายนี่ฟังแล้วนึกถึงชีวิตชนบทค่ะ จำได้ว่าตอนเป็นเด็กน้องชายดิฉันชอบเพลงนี้มาก

เอาเพลงรำวงมาฝาก ค่ะ เรียนสมัยมัธยม

ดวงจันทร์ขวัญฟ้า
ชื่นชีวาขวัญพี่
จันทร์ประจำราตรี
แต่ขวัญพี่ประจำใจ
ที่เชิดชูคือชาติ
เอกราชอธิปไตย
ถนอมแนบสนิทใน
คือขวัญใจของชาติเอย

ถูกหรือเปล่าไม่รู้นะคะ นานหลายสิบปีแล้ว

 ดูเหมือนรักนิรันดร์ จะอยู่รายรอบคนเราเหมือนกันนะคะ อาจจะหาไม่ยาก หากรู้จักเปิดใจเรียนรู้ ยอมรับและปรับตัว   Love is in the air ค่ะ  มีความสุขในวันสุดสัปดาห์นะคะ

  ที่มาของ"เดือนเพ็ญ"
คุณอัศนี พลจันทร์ นักสู้เพื่อเสรีภาพ สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในยุกต์ต้น ๆ
และเป็นคนที่ต่อต้านการใช้กำลังในการปฏิรูปการปกครอง ทำให้ประเทศไทยไม่ต้องนองเลือดจากกองกำลังต่างชาติ
แต่ก็ไม่วาย ต้องนองเลือดจากฝีมือคนไทยด้วยกันเองจากเหตุการณ์ 14 ตุลาคม

ถ้าสนใจจะร้อง เพลงเดือนเพ็ญหรือเพลงเพื่อชีวิตอื่น ๆ ก็คลิ้กที่ชื่อเพลงแล้วร้องคลอได้เลย  

เดือนเพ็ญ
เดือนเพ็ญสวยเย็นเห็นอร่าม
นภาแจ่มนวลดูงามเย็นชื่นหนอยามเมื่อลมพัดมา
แสงจันทร์นวลชวนใจข้า
คิดถึงถิ่นที่จากมาคิดถึงท้องนาบ้านเรือนที่เคยเนาว์
เรไรร้องดังฟังว่า
เสียงเจ้าที่คร่ำครวญหาลมเอ๋ยช่วยพากระซิบข้างกาย
ข้ายังคอยอยู่ไม่หน่าย
ไม่เลือนห่างจากเคลื่อนคลายคิดถึงมิวายเมื่อเราจากัน


กองไฟสุมควายตามคอก
คงยังไม่มอดดับดอกจันทร์เอ๋ยช่วยบอกให้ลมช่วยเป่า
สุมไฟให้แรงเข้า
พัดไล่ความเยือกเย็นหนาวให้พี่น้องเรานอนหลับอุ่นสบาย
ลมเอยช่วยเป็นสื่อให้
นำรักจากห้วงดวงใจของข้านี้ไปบอกเข้านั้นนา
ให้เมืองไทยรู้ว่า
ไม่นานลูกที่จากลาจะไปซบหน้ากับอกแม่เอย.

 ใช่ครับ อาจารย์ ผมมัวแต่นอนเพราะบรรยากาศดีเหลือเกินเลยไม่ค่อยได้มาโพสต์เลย แต่อากาศอย่างนี้ถ้าไม่ระวังก็จะล้มป่วยกันได้ง่ายๆนะครับ

ลืมพูดถึงเพลงรำวงมาตรฐานไป ผมเกิดมาในยุคที่แบบแผนการเรียนชั้นประถมยังต้องมีการบรรจุเพลงพวกนี้อยู่ นัยว่าตกค้างมาแต่ยุคจอมพล ป. และเรื่องในทางวัฒนธรรมถูกกำหนดโดยคุณหญิงละเอียด พิบูลสงครามและหลวงวิจิตรวาทการ
จำได้ว่าแต่ละเพลงก็จะมีท่ารำเฉพาะ
อย่างเช่นเพลง รำมาสิมารำ ดวงจันทร์ขวัญฟ้า ฯลฯ ท่ารำก็คงมีรำส่าย สำหรับ ดวงจันทร์ขวัญฟ้า (ใช่มั้ย?) ท่า.....  อืมจำไม่ได้แล้วอ่ะครับ คุณคำฝอยจำได้บ้างมั้ย
นึกถึงตอนนั้นผมจะถูกครูเรียกให้มารำแก้หน้าห้องเป็นประจำเพราะรำไม่ค่อยเป็นเอาเลย อายมาก
พูดถึงเวลานั้นอยากจะบอกว่าผมเรียนประถมในสมัยที่แบบเรียนภาษาไทยมีเรื่อง มานะ มานี ชูใจ ปิติ ผมเป็นรุ่นแรกที่ได้เรียนเลยเชียวล่ะ มีใครร่วมสมัยกับผมมั่งครับ

คุยไปคุยมาก็เข้ากับเพลงที่อาจารย์เทาชมพูโพสต์เลย

Once upon a time
The world was sweeter than we knew
Everything was ours
How happy we were then
But somehow once upon a time
Never comes again

ได้บรรยากาศจังเลยนะครับ เพลงเพราะ ฝนตก และความหลัง

 อยากจะเห็นคุณ paganini รำวงเสียแล้วซีคะ
ท่ารำของรำวงมาตรฐาน ได้ยินมาว่าดัดแปลงจากท่ารำแม่บทค่ะ  
ที่ขึ้นต้นว่า เทพนมปฐมพรหมสี่หน้า สอดสร้อยมาลาเฉิดฉินฯลฯ

ดิฉันว่าทีมวิชาการ เกือบทั้งทีมน่ะแหละร่วมสมัยกับมานะ มานี ปิติ ชูใจ
แต่จะมีใครโผล่ออกมาสารภาพหรือไม่  ต้องรอดู
ส่วนใหญ่แอบๆซุ่มๆ กันเวลาเข้าห้องนี้

เอาเพลงเก่าแก่ฟื้นความหลังมาลงให้อีกเพลงค่ะ
ใครที่เคยมีหวานใจวัยม.ต้น ม.ปลาย คงเคยรู้สึกเหมือนเนื้อเพลง
ชื่อOne day when we were young

One day when we were young
That wonderful morning in May
You told me you loved me
When we were young one day

Sweet songs of spring were sung
And music was never so gay
You told me you loved me
When we were young one day

You told me you loved me
And held me close to your heart
We laughed then, we cried then
Then came the time to part

When songs of spring are sung
Remember that morning in May
Remember you loved me
When we were young one day

 จำมานะ มานี   ได้ แต่ไม่ใช่รุ่นแรกครับ อิอิ
เพลง One Day When We Were Young โดนใจอย่างแรง
แต่เป็นความหลังสมัย ม. มหาลัย  ไม่ใช่ ม. มัธยม
ตอนนี้ก็กลายเป็น The Way We Were กันไป

เพลงแห่งความหลังที่ผมชอบมากคือ Those Were the Days
เคยร้องเมื่อ 5 ปีที่แล้ว  อยากได้เนื้ออีกสักครั้ง

 ถ้าจำไม่ผิดเพลงโปรดเพลงนี้ ขอ'ครูbook ใช้ทำนองเพลงกรีก  ซึ่งฟังคล้ายๆเพลงรัสเซีย ทำให้นึกถึงเพลงดังจากหนังเรื่อง ดร ชิวาโก้ คือเพลง Somewhere My Love

เพลงรำพึงรำพันถึงความหลัง มีที่เพราะๆกินใจหลายเพลง อย่างเพลง Memory(The Way We Were) นี่ ช่วงที่ดังๆ ไปที่ไหนก็ได้ยิน  หรือเพลง Memory จากละครเพลงเรื่อง Cats ก็ฮิตติดอันดับอยู่พักหนึ่ง

พูดถึงเพลง Oldies ฮิตระดับอินเตอร์แล้วยังนึกไปถึงเพลง Tie The Yellow Ribbonn Around The Old Oak Tree ซึ่งเป็นหนึ่งในน้อยเพลงที่มีท่วงทำนองสนุกสนาน แต่เนื้อร้องมีความหมายกินใจ ยิ่งสำหรับผู้ที่มีความหลังอย่างอดีตประธานาธิบดีอควิโน แห่งฟิลิปปินส์ ฟังทีไรคงอดน้ำตาซึมไม่ได้

 ผมมีคำตอบแล้วครับเกี่ยวกับรักนิรันดร์ โดยสามารถแจกแจงได้ดั่งนี้

1. รักนิรันดร์มีแน่ๆ เพราะว่าคนชื่อนิรันดร์มีเยอะมากในเมืองไทย คนเราเกิดมาย่อมมีคนรักและคนเกลียด ดังนั้น ต้องมีคนหลายคนรักนิรันดร์   แต่คำถามคือ รักนิรันดร์นั้น มันจะยืนยาวเพียงใดมันจะสิ้นสุดเมื่อใด

2. คำตอบของข้อที่ 1 ได้มาจากเพลงนี้ครับ

จงรัก

เนื้อเพลงโดย จงรัก จันทร์คณา

โปรดอย่าถามว่าฉันเป็นใครเมื่อในอดีต

และโปรดอย่าถามว่าอดีตฉันเคยรักใคร

รู้ไว้อย่างเดียวเดี๋ยวนี้รักเธอและรักตลอดไป

รักมากเพียงไหนกำหนดวัดได้เท่าดวงใจฉัน

* อย่าเพียรถามว่าฉันจะรักเธอนานเท่าใด

ฉันตอบไม่ได้ว่าฉันจะรักชั่วกาลนิรันดร์

เพราะชีวิตฉันคงไม่ยืนยาวไปถึงปานนั้น

รู้แต่เพียงฉันหมดสิ้นรักเธอเมื่อฉันหมดลม

 ชอบตำนานของ Yellow Ribbon มากค่ะ
นักร้องหลายคนเอาไปร้อง   ที่ดังที่สุดเห็นจะเป็น Tony Orlando and Dawn
แต่คนที่ดิฉันชอบมากที่สุดคือ Perry Como

รักนิรันดร์ ที่คุณ paganini อยากได้คำตอบ    สุนทรภู่ตอบเอาไว้ คงจำกันได้ในเพลง คำมั่นสัญญา

ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร
ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน

ที่เหลือต่อกันเอง

เพลง ชั่วนิจนิรันดร ก็เป็นรักที่ยาวไม่แพ้ คำมั่นสัญญา
ฉันรักเธอ แม้เทียบเสมอกับดวงชีวิต
รักเธอชั่วนิจนิรันดร
แม้จะห่างไกล ใจก็หวงห่วงนิวรณ์
ถึงแม้ม้วยมรณ์ ไม่ถอนรักที่มี

คนนี้รักยาวกว่าเพลง "จงรัก "ค่ะ

กระทู้นี้เริ่มคึกคักอีกแล้ว    

 แหมไม่มีคนมาขำมุข รัก"นิรันดร์"ของผมเลย 5555
ผมสะดุดใจกับเพลงจงรักครับ  ช่างกล่าวถึงความรักได้อย่างสอดคล้องกับความจริงไรเช่นนั้น
"ฉันตอบไม่ได้ว่าฉันจะรักชั่วกาลนิรันดร์
เพราะชีวิตฉันคงไม่ยืนยาวไปถึงปานนั้น
รู้แต่เพียงฉันหมดสิ้นรักเธอเมื่อฉันหมดลม"

ฟังแล้วชื่นใจจริงๆ
ท่านจงรัก จันทร์คณา นับว่าเป็นเชื้อไม่ทิ้งแถว เพราะท่านคือทายาทของบรมครูพรานบูรพ์ นั่นเอง
{พรานบูรพ์ชื่อจริงว่า จวงจันทร์ จันทร์คณา)

ที่มาของเพลง Yellow Ribbon น่าประทับใจจริงๆ เรื่องช่างโรแมนติกซะขนาดนั้น เพลงนี้ผมชอบทำนองมากๆเลยครับได้ยินมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็กๆ จังหวะคึกคักแต่ตัวทำนองนั้นหม่นๆผมรู้สึกยังงี้มานานแล้วครับ พึ่งจะมาพิจารณาเนื้อร้องอย่างละเอียดตอนนี้ถึงได้รู้ความนัย ที่ทำนองเป็นยังงี้คนแต่งอาจจะจินตนาการถึงความรู้สึกของชายคนนั้นที่พยายามปลุกปลอบใจตัวเองให้คึกคักเพื่อขจัดความกลัวที่จะไม่เห็น yellow ribbon แต่ลึกๆแล้วประหวั่นพรั่นพรึงเป็นที่สุด

หลานถาวภักดิ์ครับ ความหลังของอาควิโนเป็นยังไงครับขอให้เล่าให้ฟังหน่อยสิครับ

 ใครบอกไม่ขำค่ะ ดิฉันขำจนสำลักน้ำ แต่ยังไม่กล้าแซวสุ่มสี่สุมห้าต่างหากค่ะ

 เรื่องประธานาธิบดีอควิโน ดิฉันขอแจมหน่อยค่ะ ในฐานะที่เคยใจจดใจจ่อติดตามอย่างใกล้ชิดว่าสหรัฐจะทำอย่างไรต่อไปกับเรื่องนี้ หากจะโยงตำนานเรื่อง Yellow Ribbon เข้ากับครอบครัวอควิโน ไฮไลท์คงอยู่ตรงตัววุฒิสมาชิก  นินอย เบนิโย อควิโน จูเนียร์ ผู้เป็นสามีของประธานาธิบดีคอราซอน อควิโน และคงจะต้องกล่าวถึงเรื่องรองเท้าสามพันคู่ของนางอีเมลด้าในอีกมุมมองหนึ่งของฟิลิปินโนพลัดถิ่น และบั้นปลายของครอบครัวมาร์กอสไปด้วยเพื่อให้ครบถ้วน  เดี๋ยวจะกลับมาเล่าต่อค่ะ

 พูดถึงความรักนิรันดร์ ก็ระลึกถึงเรื่อง"กามนิต วาสิฏฐี"
รักแท้นั้นมีสีดำเหมือนสีแห่งศอศิวะ
เป็นความรักที่ปราศนาให้เพียงอย่างเดียว
ไม่ได้รักเพื่ออยู่หรือครอบครอง
พระองค์ทรงรักชีวิตอื่น
โดยรับเอาพิษนาคไว้แต่เพียงคนเดียว
แม้พระองค์จะเป็นอมตะ
แต่พิษร้ายของนาคก็ยังเผาศอของพระองค์ให้ดำไป

ไม่ทราบว่าเด็กรุ่นใหม่ยังได้เรียนวรรณคดีเรื่องนี้กันอยู่หรือเปล่า
ผมคิดว่าการเรียนวรรณคดี สามารถช่วยแนะนำทางชีวิตของคนได้มาก
และพาให้สังคมอยู่ด้วยกันด้วยความรักนิรันดร์

 มาเล่าตามคำเรียกร้องของคุณป๋า paganini ครับ  เดิมนั้นท่านอดีตประธานาธิบดีคอราซอน อควิโน มีบทบาทเป็นเพียงภรรยาท่านผู้นำฝ่ายค้านนินอย เบนิโย อควิโน ในยุคเผด็จการมาร์กอส  นินอย อควิโนถูกกลั่นแกล้งดำเนินคดีในข้อหาต่างๆ จนถึงกับต้องเข้าคุก สุดท้ายต้องระเห็จไปอยู่ต่างประเทศ จวบจนมีการเคลียร์กันจนเชื่อว่าสามารถกลับมาต่อสู้ด้วยวิถีทางทางการเมืองภายในประเทศได้  จึงเดินทางกลับมาและถูกฆ่าทิ้งคาสนามบิน

ถ้าจำไม่ผิด วันนั้นอดีตประธานาธิบดีอควิโน อยู่ในชุดเหลืองเพื่อต้องการแสดงให้สามีชื่นใจในความรักและการรอคอยอย่างภักดีของเธอ  ด้วยอิทธิพลของเพลง Tie A yellow Ribbon Around The Old Oak Tree และเป็นเพลงที่มีความหมายต่อทั้งคู่อยู่ก่อนแล้ว  ด้วย นินอย อควิโน เคยถูกแกล้งจับเข้าคุกดังว่า

ด้วยชุดสีเหลือง ด้วยหัวใจเปี่ยมความปิติยินดีที่จะได้พบสามีสุดที่รักให้สมกับความโหยหา ด้วยหูที่ก้องไปด้วยเสียงเพลง Tie A Yellow Ribbon Around The Old Oak Tree อันมีจังหวะสนุกสนานเปี่ยมด้วยความสุขของผู้ที่ไกลบ้านมานาน และกำลังจะได้รับการต้อนรับกลับอย่างอบอุ่น  น้ำตาของเธอกลับต้องหลั่งไหลจนแทบเป็นสายเลือดเมื่อเห็นสามีสุดที่รักถูกฆ่าทิ้งอย่างทารุณต่อหน้าต่อตา

แม้การตายของนินอย อควิโน จะเป็นชนวนให้เกิดการโค่นล้มอำนาจของมาร์กอส และทำให้นางอควิโนได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีในที่สุด  หากนางอควิโนเลือกได้ ผมเชื่อว่าเธอย่อมต้องเลือกขอชีวิตสามีคืนมา โดยไม่สนใจกับตำแหน่งอันยิ่งใหญ่ใดๆทั้งสิ้น

 เพิ่งเห็น คห ของ อ.นิรันดร์ ขออนุญาตแก้ว่า เหตุที่พระศอของพระศิวะเป็นสีดำ เพราะกากที่เกิดจากการกวนเอาน้ำอมฤตครับ ทุกคนแย่งเอาแต่ของดี ในขณะที่ไม่มีผู้ใดใส่ใจว่ากากที่เหลือนั้น ทิ้งไปที่ใดก็จะก่อให้เกิดไฟบรรลัยกัลป์เผาผลาญจนพินาศสิ้น  พระศิวะผู้เป็นใหญ่แห่งสรวงสวรรค์จึงกล้ำกลืนพิษร้ายนั้นไว้เอง เผาไหม้พระศอจนกลายเป็นสีดำสนิท

 ได้เนื้อเพลง Those Were The Days ทันใจจัง  
ขอบคุณงับ

ขอฟังเรื่องการเมืองฟิลิปปินส์ จากป๋าถา และคุณ Nuchan ด้วยอีกคน  ฟังเงียบๆครับ

 เพลง Those Were The Days เป็นเพลงที่จังหวะมันส์มาก กลุ่มเพื่อนนักเรียนชาวเลบานีสเคยเต้นเพลงนี้กระทืบเท้าเสียงดังคล้ายๆตอนที่ Di Carprio เต้นในภาพยนต์เรื่อง Titanic

กลับเข้าเรื่องนินอยค่ะ ตอนเย็นได้อ่านค่ะ ต้องขออภัยดิฉันเช็คแล้วในภาษาสแปนิช “Aquino”  ตรง “q” เสียง ว ไม่โพรเนาซ์ค่ะ อยากเรียนถามด้วยค่ะ ว่าในสแปนนิช ที่ใช้ในสหรัฐอเมริกา คำว่า San Jose ออกเสียง ซาน โฮเซ แต่ทำไมที่ยุโรป ชื่อของ   โค้ชจอมเก๊กทีมเชลซี   Jose Mourinho จึงออกเสียง โจเซ ทั้งๆที่เป็นภาษาสแปนิชเหมือนกัน

ความจริงเว็บนี้น่าจะมีห้องภาษาต่างประเทศด้วยนะคะ คงสนุกไม่น้อยทีเดียว เพราะภาษาเรียนเท่าไรก็รู้ไม่หมด

 ถ้าจำไม่ผิด ดูเหมือนว่าหากสะกดด้วย Dj เป็นพยัญชนะต้น จึงจะออกเสียงควบ ฮ และ จ โดยคนไทยจะฟังเป็นเสียง ฮ เช่น ดอนฮวน เป็นต้น

ผิดพลาดอย่างไรก็ขออภัยนะครับ เดี๋ยวนี้ยากจะหาสาวลาตินมาช่วยซักซ้อมทบทวนความรู้ภาษาสเปน

 จริงๆแล้วภาษาของ Murinho ไม่ใช่ภาษาสเปนครับ เขาเป็นโปรตุกีสน่ะ  มูรินโย่ เหมือน Jerzinho แจร์ซินโย่

แต่ผมไม่แน่ใจว่าจะออกเสียงต่างกันสำหรับ

Jose' รึเปล่า เท่าที่ผมเคยเห็นคนไทยเขียนถึงคำนี้ มักจะเขียนว่า โฆเซ่ นะครับ ออกเสียงกึ่งๆระหว่าง ค และ ฮ  ขึ้นจมูกน่ะครับ



ส่วน โปรตุกิสจะออกเสียง Jose เหมือนกันสแปนิช รึเปล่านั้นเดี๋ยวผมจะถามสาวสเปนที่เกิดใกล้ๆพรมแดนโปรตุเกสให้ครับ



อ้อ คุณ Nuchan ครับ แซวผมได้นะไม่ต้องเกรงใจ แต่อย่าโกรธเวลาผมแซวกลับละกัน 55555555555555555555

 เต้นกระทืบเท่านั่นคือเต้าแท็ปป่าวครับ?

 หากจะเอาตำนานของ yellow ribbon มาโยงเข้ากับ 2 กรณี ของอดีตนักโทษทีกำลังจะกลับบ้าน กับของวุฒิสมาชิก    นินอย อคิโน ดิฉันเห็นว่าอาจต่างกันบ้าง คนแรกตัวเขาลิขิตชีวิตตนเอง ชดใช้กรรมเสร็จสิ้น และรอการกลับบ้านอย่างใจจดใจจ่อ แต่กรณีของนินอย เขามีโอกาสเลือกที่จะอยู่นอกคุกได้ หรือเลือกที่จะตัดช่องน้อย เสวยสุขพร้อมหน้าครอบครัวที่บอสตัน ก็ได้   แต่ด้วยอุดมการณ์แน่วแน่ มุ่งมั่นที่จะต่อสู้เพื่อประชาธิไตย รู้ทั้งรู้ว่ามัจุราชรออยู่ นินอยก็พร้อมจะพลีชีพ เพราะถือว่าคุ้ม ถ้าตายเพื่อชาติและประชาชนชาวฟิลิปปินส์
นินอย มาจากครอบครัวที่ร่ำรวย พ่อและปู่ก็เป็นนักการเมือง แต่ตัวเขาชอบการเป็นนักหนังสือพิมพ์ เมื่ออายุ 17 ปี เป็นผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์มนิลาไทมส์ ร่วมเดินทางไปทำข่าวบทบาทของทหารฟิลิปปินส์ที่เข้าร่วมรบในสงครามเกาหลี   ครั้นอายุ 22  เขาชนะการเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีบ้านเกิดเมืองทาร์ลาค แต่ต่อมาศาลเพิกถอนเพราะอายุยังไม่ครบ 23 ปี ซึ่งเป็นอายุขั้นต่ำที่กำหนดไว้ นินอยยังยึดอาชีพทำข่าว และก้าวขึ้นเป็นบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ ภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่ยังไม่คบเบญจเพสด้วยซ้ำ
ต่อมา เขาเข้าเรียนกฎหมายที่มหาวิทยาลัยฟิลิปินส์ แต่ไม่จบปีที่สี่ ครั้นอายุ 30 เขาชนะเลือกตั้งได้เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดบ้านเกิดเมืองทาร์ลาค และก้าวขึ้นเป็นวุฒิสมาชิกที่หนุ่มที่สุดเมื่อยังไม่ครบ 35 ปี

 ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส อยู่ในตำแหน่งตั้งแต่ปี 2508-2529 ยุคนั้นฟิลิปปินส์ลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคใหญ่ๆมากมาย มีผู้เปรียบเทียบว่าบ้านเมืองเจริญกว่าประเทศไทยนับสิบปี แต่ด้วยความที่ประธานาธิบดีมีพรรคพวกมาก จึงออกโครงการมากมายเพื่อภรรยา ลูกและเพื่อนพ้อง  ยิ่งนักการเมืองฟิลิปปินส์รวยมากขึ้นเท่าใด ประชาชนก็ยิ่งจนขึ้นเท่านั้น นินอยกลายเป็นฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลที่ขุดคุ้ยเรื่องทุจริตออกมาตีแผ่ และกลายเป็นศัตรูหมายเลข 1 ของรัฐบาล จนกระทั่งปีเดือนกันยายน ปี พ.ศ.  2515   นินอยถูกจับเป็นนักโทษการเมือง และถูกขังอยู่ 7 ปีกว่า กลางปี พ.ศ. 2523 เขาได้รับอนุญาตให้ออกนอกประเทศเพื่อผ่าตัดหัวใจที่สหรัฐอเมริกา ข่าวบางกระแสกล่าวว่านางอีเมลด้า มาร์กอสได้ขอร้องให้นินอยออกนอกประเทศตามแรงบีบของสหรัฐตั้งนานแล้ว แต่ว่านินอยเองไม่ยอมไป
ช่วงที่นินอยถูกคุมขัง มาร์กอสพูดว่าเขารู้สึกอิจฉานินอยมาก เพราะประวัติศาสตร์พร้อมที่จะจารึกชื่อนินอยเป็นรัฐบุรุษ แต่ตัวเขาเองยังหาที่ยืนอย่างสง่าไม่ได้
สามปีเศษ ที่สหรัฐอมริกา เป็นเวลาที่ครอบครัวอคิโนได้อยู่พร้อมหน้า นินอยรับทุนเฟลโลชิปจาก ม. ฮาร์วาร์ด และ เอ็มไอที ในการเขียนหนังสือ และเดินสายปาฐกถาเกี่ยวกับการเมืองในฟิลิปปินส์ เป็นหอกข้างแคร่ทิ่มตำรัฐบาลตลอดเวลา
แต่แล้วเมื่อนินอย ได้ข่าวว่าการเมืองในฟิลิปปินส์เริ่มเสื่อมโทรมลงมาก เพราะนักการเมืองเรียกรับเงินจากนักธุรกิจต่างชาติจนเป็นที่ขึ้นชื่อ และประชาชนยากจน เขาตัดสินใจคุยกับประธานาธิดีมาร์กอสเพื่อที่จะกลับฟิลิปปินส์ แต่ไม่ได้รับอนุญาต ทางรัฐบาลสั่งให้สถานทูตและสถานกงศุลฟิลิปปินส์ ไม่ต่อหนังสือเดินทางให้ และถ้าสายการบินใดรับตัวนินอยมา ก็จะต้องพาเขากลับเดี๋ยวนั้น

 ขอบคุณครับคุณ Nuchan ที่สละเวลาเล่าเรื่องให้เราฟัง ตอนเด็กๆจำได้ครับที่ประชาชนลุกฮือไล่ มาร์กอสออกจากทำเนียบ มาลากันยัง (ใช่ป่าว?)

ตกลงว่าคำว่า Jose ในภาษาโปรตุกีส กับสแเปนิช ออกเสียงต่างกันครับ สาวสเปนบอกมา คือว่า
สเปน : โฆเซ่
โปรตุกีส : โฮเซ่ กึ่งๆ โยเซ่

 ความเห็นของแต่ละท่าน มีค่าไม่ควรผ่านไปอย่างงมงาย
เนื่องจากกระทู้เรานี้คึกคักยิ่ง ดังนั้นผมอาจจะถอยไปไกลหน่อย จาก ความคิดเห็นที่ 82 ของอาจารย์เทาชมพู

"ชอบตรงนี้ค่ะ
อยากเติมความรักสักวันละน้อย
เติมรักค่อยค่อยบ่อยบ่อยเสริมรอยอาลัย
ไม่ยอมเติมรักให้เต็มดวงใจ
ยามร้างจะได้บรรเทาฤทัยที่ตรม"

"เจ้าของความรัก คิดแบบไม่ผลีผลาม ไม่หวือหวา ไม่ใช่ว่าเจอปุ๊บรักปี๊บ แล้วสองวันก็เลิกกัน"

ครับไม่ทราบว่าเพลงนี้นานแค่ไหนแล้ว อ่านเนื้อเพลงแล้วนึกถึงเพลงนี้ขึ้นมา ยุคเมื่อผมยังเด็กๆ
ฟังแล้วเศร้ามากครับเพลงนี้ ไพเราะแบบวัยรุ่นสมัยนั้น ทั้งทำนองและคำร้อง แต่งและร้องโดย ชาตรีคงสุวรรณ

เพียงครี่งใจ - ดิ อินโนเซ้นท์

อยากเปิดใจเธอจะเจอใจใครซ่อนในรักอยู่
หัวใจหดหู่รักเคยชื่นชูกลับห่าง
ใยเธอทำใจฝืนรักเคยชื่นเพียงคืนจืดจาง
รักเลือนลางเธอวางท่ากลับเย็นเฉยเลยเปลี่ยนแปลง

จะทุ่มเทใจเกือบไปแล้วหนอหยุดรอรักได้
พบใครใหม่ ๆ ยั้งใจไม่ขอส่วนแบ่ง
เธอจะจากไปไหนพบใครใหม่ใจเธอเปลี่ยนแปลง
แต่ฉันไม่ขอแบ่งใจไว้จากไปแล้วใจขอคืน

เก็บกอดดวงใจที่เธอทำลายนี่ใจฉันกร่อน
หัวใจอ่อน ๆ ร้าวรอนเมื่อรักโรยลา
ลืมเธอลืมได้ไหม ช้ำใจเข็ดใจเรื่องผ่านมา
หยุดคิดตั้งใจว่าจะขอพักใจอาลัยกับเธอ

รักร้าวในใจรู้ไหมใครทำ เจ็บจิตใจจำ
เธอทำฉันเพ้อ จริง ๆ เพราะรักเธอมากกว่าใคร

เมื่อจุดจบแห่งความรักพบกันเพียงครึ่งทาง
บาดลึกในใจสิ้นหวังหมดทางใช่ไหม

ว้าเหว่เมื่อทุ่มเทหัวใจ กับสิ่งที่เธอเหลือให้ สุดท้ายคือรอยรักเก่า
ใจเจ็บเก็บเป็นครูสอนเรา จะมีใจให้เขา ควรรักเขาเพียงครึ่งใจ

ฟังได้ที่นี่ครับ
 http://www.oldsonghome.com/music/listen.php?song_id=1176  

 จากความคิดเห็น 83 โดยท่านอาจารย์นิรันดร์

""ไม่ทราบว่าเด็กรุ่นใหม่ยังได้เรียนวรรณคดีเรื่องนี้กันอยู่หรือเปล่าผมคิดว่าการเรียนวรรณคดี สามารถช่วยแนะนำทางชีวิตของคนได้มากและพาให้สังคมอยู่ด้วยกันด้วยความรักนิรันดร์"  

อาจารย์นิรันดร์ครับ (ขออภัยที่พาดพิงถึงชื่ออาจารย์บ่อยจัง อิอิ)
ความเห็นของอาจารย์ตรงใจผมมากเลยครับ ผมว่า นิยาย ดนตรี เพลง ศิลปะ ประวัติศาสตร์ เป็นสิ่งจรรโลงใจของเด็ก ช่วยปรับแต่งให้เด็กมีทัศนคติที่ถูกต้องดีงาม
ผมว่าพวกเราหลายๆคน ณ ที่นี้ต่างมีวิถีการดำเนินชีวิตของตัวเองโดยได้แรงบันดาลใจจากการอ่าน วรรณกรรม ฟังเพลง ฯลฯ
น่าเสียดายที่สมัยหลังๆผู้ใหญ่กลับมองข้ามเรื่องนี้ไปให้เด็กไปเน้นเรียนวิทยาศาสร์คอมพิวเตอร์เพื่อตามโลก มองเห็นว่านิยาย ดนตรีเพลง ศิลปะเป็นเพียงสิ่งประโลมโลกย์ ให้ผู้คนหลบหนีจากความจริงในชีวิต
ซึ่งถูกต้อง ก็ความจริงมันปวดร้าวนี่ครับ แต่คนเราเมื่อมีชีวิตควรกล้ำกลืนกินความปวดร้าวให้เท่าๆกับความยินดีปรีดา ไม่งั้นชีวิตจะสมบูรณ์ได้อย่างไรล่ะครับ
เด็กจะโตมาเราควรให้เขาเรียนรู้ทั้งทุกข์และสุขเพื่อจะได้พร้อมสำหรับชีวิตในเบื้องหน้าเสมอ

นิยายเรื่องกามนิตนั้นเห็นทีต้องไปเปิดเป็นกระทู้ต่างหากล่ะครับ ผมรักมากๆกับนิยายเรื่องนี้ จนถึงตอนนี้อ่านไปไม่รู้กี่เที่ยวแล้ว
สำหรับนักฟิสิกส์อย่างอาจารย์นิรันดร์คงจำบทสนทนาของกามนิตและวาสิฏฐีในภาคสวรรค์ได้ Karl Adolph Gjellerup ไม่ทราบว่าท่านมีความคิดเกี่ยวกับความเป็นไปในสากลโลก ในพรหมโลกได้อย่างไร สิ่งที่ท่านเขียนช่างใกล้เคียงกับทฤษฎีกำเนิดของเอกภพหลายประการทีเดียว

 ขอโทษด้วยครับ จนบัดนี้ผมยังไม่ได้มีโอกาสอ่านภาคสวรรค์เลย
ถ้ามีเวลาจะไปหามาอ่านนะครับ

ผมได้มีโอกาสชมภาพสารคดีเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ทางโทรทัศน์
ผมว่า ถ้ารูปแบบการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ ทำได้อย่างภาพยนต์สารคดีเหล่านั้น คงมีคนอยากเรียนขึ้นอีกมาก

อย่างเรื่องประวัติศาสตร์การเสียกรุงและการกู้ชาติ พอได้ดูภาพยนต์เรื่องสุริโยทัยแล้วทำให้อยากกลับไปเรียนประวัติศาสตร์ใหม่ ทำไมตอนที่เรียนถึงได้ไม่อยากเรียนเอาเสียเลย แต่พอได้มาอ่านเรื่องราวต่าง ๆในห้องเรือนไทยของอาจารย์เทาชมพูที่เพื่อน ๆ สมาชิกมาเล่าสู่กันฟัง(อ่าน)แล้วรู้สึกเพลิดเพลินเหมือนตอนติดนิยาย

ไปฟังเพลง รักนี้นิรันดร กันนะครับ    

 ขอสวัสดี อ. นิรันดร์หน่อยค่ะ
โถเอย...ตอนแรกนึกว่านิรันดร์ไหน ที่ไหนได้ อาจารย์นิรันดร์สอนฟิสิกส์ดิฉันเองที่ตึกคุณหญิงหรั่ง สมัยนั้น อาจารย์พูดไม่เก่งเหมือนสมัยนี้นะคะ

ก๊วนพวกเราอยู่ครบถ้วน มีสายรายงานให้ฟัง แต่ว่าตั้งแต่จบ ม. 6 ดิฉันยังไม่เคยไปเลี้ยงรุ่นซักที จนเขาจะปลดออกจากทำเนียบรุ่นแล้ว มีที่เขาแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนบ้างค่ะ

 ได้ยินว่าดอนนี้อาจารย์นิรันดร์ มาสอนอยู่กับแฟนพี่ตุ้ม พรพรรณ โภไคฯ ที่มหานครเหรอคะ

 อ้าว คุณ Nuchan ใช้กระทู้คุยเรื่องส่วนตัวซะแล้ว
ยินดีด้วยครับที่ได้เจออาจารย์ของตัวเองที่นี่ อาจารย์นิรันดร์ เป็นอาจารย์สอนฟิสิกส์มัธยม ที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา อาจารย์มีอุปกรณ์การทดลองและการเปรียบเทียบ การอธิบายที่เข้าใจง่ายแต่ลึกซึ้งครับ เสียดายที่ผมไม่เคยได้เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ แต่จำได้ว่า อาจารย์ชอบไปไล่จับเด็กที่สูบบุหรี่ตามห้องน้ำน่ะครับ อิอิอิอิ

ผมเอามั่งนะ
ผมก็เรียนฟิสิกส์ในสมัยนั้นเหมือนกันครับ เคยเรียนอยู่ห้อง 833 ที่ตึกคุณหญิงหรั่งด้วย รุ่น 15 ครึ่งมั๊ง ไม่แน่เราอาจจะรุ้จักกันอยู่แล้วนะครับคุณ Nuchan

 คุณ paganini ดิฉันจำรุ่นไม่ได้ค่ะ อยู่ห้อง 826 หัวมุมบันไดที่เป็นห้องแลบเก่าค่ะ จึงไม่มีรุ่นพี่ (พวก 716 ที่ตึก 8 adopted พวกเราไปเลี้ยงแทน รุ่นพี่ตระกูลโปษยานนท์ ที่สอบเทียบมาทั้งตระกูลน่ะคะ จำชื่อไม่ได้ เพราะไม่เคยไปงานเลี้ยงรุ่นแม้สักครั้งเดียว)

 แหมแต่รุ่น โรงเรียนน่าจะจำได้นะ
ผมเดาว่าคุณคงหลังผมหลายรุ่นเหมือนกันเพราะ 826 สมัยผมน่าจะยังเป็นห้องแล็ปอยู่
ผมเองก็ไม่เคยไปงานเลี้ยงรุ่นเลยครับ

 ก็น่าจะหลายรุ่นนะคะ เพราะดิฉันไม่ทันมานี มานะ ปิติ แต่ที่ไม่ทันน่าจะเป็นเพราะโรงเรียนวัดบ้านนอกไม่ได้บรรจุไว้ต่างหาก
แต่ก็ได้อ่านชุด ดอกรักสัตว์แสนรู้ ไม่เป็นไรลืมเสียเถิด จำได้ไหมค่ะ

ที่ไม่ไปงานเลี้ยงรุ่นเพราะความจำเป็นบังคับ ไม่ได้แอนตี้โซเชียลหรอกค่ะ ที่ตึกคุณหญิงหรั่งเวลาเกิดเหตุการณ์อะไรที่หาจำเลยไม่ได้ อาจารย์ก็มองมายังดิฉันทุกที ไม่เคยทำตัวเจี๋ยมเจี้ยม แต่เป็นหัวขบวนนำพวกลอดรั้วไปซื้อเบอร์เกอร์ที่ ส.มศว. และซื้อ 1 อัน มาปิดปากอ. นิรันดร์ด้วยคะ

ดิฉันเป็นเรฟูจีอพยพเสียหลายปี เรียนด้วย ทำงานด้วยโดยเฉพาะ graveyard shift   ลำพังแค่นี้ก็คงไม่หนัก แต่ตั้งเป้าจะเรียนให้ได้ "ซัมมา คุม เลาดี" มันหนักเอาการ  เมื่อเรียนจบแล้ว ยังกลับไปทำงานอีก จนหายไปจากสารบบ

ย้ายจากเว็บนอก มาจอยเว็บนี้เพราะคนที่นี่ปากไม่จัด และดิฉันไม่ชอบทำร้ายใครโดยวาจา เพราะถ้า ทำคุณถาวรภักดิ์ ใน ค.ห. 73 ถูกดิฉันเผาเละไปแล้วค่ะ

 ว้าย ไม่ทำวจีกรรม แต่ยังมีมโนกรรมแน้ะ  ครูbook อยู่ไหน ช่วยชิ้นเก่าด้วย

 แค่หยอกคุณถาวรภักดิ์เล่นน่ะคะ  ดิฉันเป็นเพื่อนบ้านคุณถาวรภักดิ์เสียหลายปี อยู่ที่ 555 วิภาวดี แค่เปิดหน้าต่างก็จ๊ะเอ๋กันแล้ว ที่ตึกนั้นงานดิฉันเลิกตี 5 ปีหนึ่งทำ OT 1 พันชั่วโมง เป็นความจริงเจ้าค่ะ

 คนฟังเพลงเขาหนีไปเปิดกระทู้ใหม่แล้วครับ  
ก็ยินดีมากที่มีลูกศิษย์เก่ายังระลึกถึง

ผมเคยไปที่ สวทช หลายหน พาเด็กไปบ้าง พาเพื่อนอาจารย์ไปบ้าง
อาจเจอคุณ Nuchan แต่อาจจะจำกันไม่ได้ แต่หลายคนว่าผมไม่เปลี่ยนนะ เป็นหนุ่มคงกระพันธ์ ขนาดโดนสิบล้ออัดยังไม่เป็นไร  

ที่จริงก็แก่ไปแยะ ผมขาวไปครึ่งหัวแล้วก็ลงพุงอีกต่างหาก โชคดีที่หัวยังไม่ล้านแต่ก็บางไปแยะ เรียกว่าหน้าเกลียดกว่าเก่าแยะล่ะกระมัง
แต่ที่เหมือนเดิมคือยังชอบสอนหนังสือด้วยของเล่น

วันนี้ก็จะไปบรรยายที่ศุนย์ประชุมฯสิริกิติ์ อีกไม่กี่ชั่วโมง
ก็เอาของเล่นไปให้คนดูเหมือนไสยศาสตร์แต่จริง ๆ แล้วเป็นฟิสิกส์
เห็นลูกน้องพี่ตุ้มบอกกว่าจะเตรียมชุดแฮรี พอทเตอร์ไปให้ใส่ด้วย    

 คุณ Paganini เพื่อนร่วนรุ่นที่นั่งข้างๆโต๊ะกัน ข้างซ้ายคือ นายสมเกียรติ ตั้งกิจวาณิชย์ นักวิจารณ์ TDRI (หอกข้างแคร่รัฐบาล) ส่วนข้างขวา คือ หมวยเหน่ง อรทัย (คนของรัฐบาล) เพื่อนรัก

อ. นิรันดร์ คะ พี่ตุ้มใจดีมาก เป็นคนสัมภาษณ์ดิฉันเข้างาน สมัยก่อนตอนมัธยม ดิฉันได้รางวัลประกวดเรียงความ อาจารย์ประทวน เป็นคนพาไปรับรางวัลจากนายกชวนฯ หลายปีผ่านไปที่ไม่ได้ใช้ภาษาไทย  พี่ตุ้มให้ร่าง จม. 1 ฉบับ ดิฉันสะอื้น แก้ 3 ครั้งยังไม่ผ่าน กลายเป็นว่านอกจากภาษาอังกฤษจะไม่ดีขึ้น ภาษาไทยกลับเลวลง

ปะป๋าสถาพร กวิตานนท์ บอกว่าภาษาไทยดิฉันมันโบราณ เหมือนยุครวงทอง ทองลั่นทมค่ะ

เราหยุดคุยกันตรงนี้ดีกว่าค่ะ ดิฉันกลัวเจ้าของเรือนเขากระแอมเป็นคำรบสอง

 อาจารย์นิรันดร์ครับ ขอให้หายเร็วๆนะครับ

 คุณ Nuchan ครับ
ไปบรรยายกลับมาแล้ว
เรียกร้องความสนใจนักเรียนและผู้ปกครองได้ดีตามสมควร
ไม่รุ้ว่าจะมีคนเก็บรูปไว้ให้หรือเปล่า
และ"พี่ตุ้ม"หรือท่านรองอธิการบดีฯก็ไม่ยืนชมให้กำลังใจด้วยตลอดเวลาครับ

ขอบคุณ อาจารย์ paganini ด้วยที่เป็นห่วง
รับรองว่าจะรีบหายให้เร็วที่สุดครับ    

 อาจารย์นิรันดร์ค่ะ ดิฉันพึ่งทราบว่าพี่ตุ้มมาเป็นท่านรองอธิการบดีฯ เห็นท่านมีบำนาญรับประทานและคาบช้อนเงินช้อนทอง เอหรือว่าจะตามมาคุมคนที่บ้าน 55555

 ค่อยๆย่องมาแง้มดู ออกอาการคล้ายหน่วยกู้ระเบิด  เห็นคุณ(น้า)หนูจันทร์เมตตาบอกว่าหยอกเล่น  ค่อยโล่งอก  อย่างนี้จะถือว่าเข้าตำรานักเลงโบราณไหมครับนี่ ที่ว่า ผู้หญิงด่า ท่านว่าผู้หญิงบอกรัก  สาวให้จวัก คือสาวกวักมือ

ว่าแล้วก็พลันเสียวสันหลังวาบ คราวก่อนรอดมาได้ คราวนี้ตูโดนแน่ ขอเผ่นไปตั้งหลักสักพันลี้

 คุณถาวรภักดิ์ จากวันนี้เราจะไม่ได้จิกและพบพานกันอีก ดิฉันจะสับสาย lan กับเพื่อน และ reborn ในชื่อใหม่ เพราะอาจารย์นิรันดร์ทักทายเสียงดัง เสียสถาบันโหม้ด

 โธ่ เห็นกันอยู่หลัดๆ จะตัดช่องน้อยซะแล้ว อย่างนี้ต้องส่งด้วยเพลง เอ ชื่ออะไรหนอ ที่ว่า ...If you see me in heaven...

ท่าคุณน้าหนูจันทร์จะเกิดปีระกา ผมเปล่าจิกด้วยนะเออ เห็นอิสตรีผู้ใหญ่ก็จะเคารพเทิดไว้บนหิ้งเสมอ  นึกถึงวิชาปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องไก่ ถ่ายทอดวิธีจับไก่ไว้ว่า สิทธิการิยะ ท่านว่าไว้ หากจะจับไก่ต้องค่อยๆลูบอก จนไก่เคลิ้ม หลับตาพริ้มแล้วจึงช้อนอุ้ม ไก่จะยอมไปด้วยแต่โดยดี จะจริงดังว่าหรือหาไม่ละหนอ แล้วต่อไปนี้จะมีใคร ให้ถามเรื่องไก่ๆอีก โธ่ๆๆ

 ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ คุณ paticle-in-box ค่ะ
ในระหว่างที่ดิฉันรอเปลี่ยนสาย LAN กับเพื่อนโต๊ะข้างๆ เพื่อไปเกิดใหม่ในชื่ออื่น ขอเตือนคุณ paticle-in-box หน่อย ไม่ทราบว่าชื่อคุณสะกดตกตัว "r" ตรงตำแหน่งที่ 3 หรือเปล่าค่ะ โปรดระวัง คุณ ค.ห. ที่ 114 นะคะ เพราะชื่อดิฉันสะกดตกตัว "a" ตำแหน่งสุดท้าย เท่านั้นแหละ....แม่เจ้าโว้ย (สำนวนสี่แผ่นดิน) เปลี่ยนชื่อให้เสร็จสรรพ

เพลงที่คุณถามถึง ไม่เคยได้ยินเสียด้วยค่ะ ต้องถามอาจารย์ฟิสิกส์ในห้องนี้ว่าเคยผ่านหูไหม

*****
มาฟังเพลงเก่า ช่วง 70s อีกสักเพลงของ The Carpenters'  Mr. Postman ช่วยแก้ง่วงได้

Stop
Oh yes wait a minute Mister Postman
(Wait) wait Mister Postman
Please Mister Postman look and see (Oh yeah)
If there's a letter in your bag for me
(Please Please Mister Postman)
Why's it taking such a long time (Oh yeah)
For me to hear from that boy of mine.
There must be some word today
From my boy-friend so far away
Please Mister Postman
look and see, if there's a letter a letter for me.
I've been standing here, Waiting Mister Postman.
So.... patiently, For just a card, or just a letter
Saying he's returning home to me
Mister Postman (Oh yeah) Please, Please Mister Postman
Look and see (Oh yeah)
If there's a letter in your bag for me
(Please Please Mister Postman)
Why's it taking such a long time (Oh yeah)
For me to hear from that boy of mine.
So many days you passed me by
See the tears standing in my eyes
You didn't stop to make me feel better, by leaving
me a card or a letter, (Mister Postman) (Oh yeah)
Mister Postman look and see (Oh yeah)
If there's a letter in your bag for me,
(Please, Please Mister Postman)
Why it's taking such a long time,
(Why don't you check it a see, One more time for me
You gotta), Wait a minute Wait a minute
Wait a minute Wait a minute (Mister Postman)
Mister Postman look and see
Come on deliver the letter,
The sooner the better Mister Postman.

 http://www.btinternet.com/~m.p.o/Postman.htm
*********
หมายเหตุ:
1) อเมริกันอิงลิชใช้คำว่า mailman แทน postman นะคะ แล้วน้องๆที่เรียนภาษาอังกฤษจากเพลง ที่ตัดมาข้างบนนี้ ต้องระวังเรื่อง punctuation และ capital letter ค่ะ เพราะสำคัญมากตอนเขียน essay จะได้ไม่ถูกตัดแต้ม
2) กระทู้นี้ยาวแล้วค่ะ โปรดไปต่อที่ http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Cid=18&Pid=37906  

 อาจารย์เทาชมพูดครับ
เพลง Autumn Leaves นี่เป็นเพลงสุดโปรด เพลงที่ผมผูกพันมากที่สุดเพลงหนึ่งด้วยเลยล่ะครับ

ต้องฟังเสียง Nat King Cole ร้องเอาไว้ เสียงห้าวแต่นุ่ม ทุ้มลึกแต่บาดใจ ฟังแล้วได้อารมณ์ของฤดูใบไม้ร่วงมากๆ ร้องไว้ทั้ง 2ภาษาคืออังกฤษและฝรั่งเศสที่มีชื่อว่า Les feuilles mortes

พูดถึงบรรยากาศฤดูใบไม้ร่วงต้องไปที่ยุโรป ถ้าอยู่ตัวคนเดียวล่ะคุณเอ้ย เหงาจับจิตเลยแหละครับ ลองนึกถึงอากาศหนาวๆ ลมพัดเอื่อยๆ ใบไม้ร่วงเต็มถนนที่ขนาบข้างด้วยต้นไม้ใบโกร๋น ฉากหลังที่เห็นเรามองเป็นสีน้ำตาลของใบไม้แห้งตลอด เดินเล่นคนเดียว ช่างเปลี่ยวเหงาและอ้างว้างอย่างที่สุด

เดี๋ยวว่างๆจะหารูปมาโพสต์ประกอบ รูปของคุณ Particle in a box นี่คงเป็นฤดูชุนเทียน เอ้ย ใบไม้ผลิครับ

ปล.อาจารย์ของคุณ Particle นี่โรแมนติกจังเลยนะครับ นักฟิสิกส์นี่ช่างมีจินตนาการอันบรรเจิดจังเลย ขนาดสอนยังร้องเพลงให้นักเรียนฟังเลย
เอ๊ะ ชื่อคุณ Particle in a box นี่เป็นปริศนาธรรมรึเปล่าครับว่าชีวิตคนเราเสมือนเวียนว่ายอยู่ในกล่องที่ชื่อสังสารวัฏ รึว่าคุณมีความฝังใจกะอีตาโชรดิงเจอร์ ว่าจะสร้างสมการนี้มาให้เราเรียนกันทำไมให้ปวดหัว อิอิอิ  แซวเล่นครับ

 ไม่นึกเลยว่าครูฟิสิกส์จะโรแมนติกอย่างนี้ ทั้งคุณ Paganini และครูของคุณ Particle-in-a-box ไงๆนักฟิสิกส์โปรดอย่าพลาด "รักและฟิสิกส์ของอัลเบริ์ต" โดย อ. สุทัศน์ ยกส้าน ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ฉบับวันนี้ค่ะ

เห็นด้วยกับคุณ Paganini ที่ว่า "บรรยากาศฤดูใบไม้ร่วง.. ถ้าอยู่ตัวคนเดียวล่ะคุณเอ้ย เหงาจับจิตเลย... ลองนึกถึงอากาศหนาวๆ ลมพัดเอื่อยๆ ใบไม้ร่วงเต็มถนนที่ขนาบข้างด้วยต้นไม้ใบโกร๋น ฉากหลังที่เห็นเรามองเป็นสีน้ำตาลของใบไม้แห้งตลอด เดินเล่นคนเดียว ช่างเปลี่ยวเหงาและอ้างว้างอย่างที่สุด"

โอย...บรรยายได้ตรงใจเป๊ะเลยค่ะ ฤดู Fall แทบบ้า ภาพใบไม้ร่วง ทำให้คิดถึงบ้านมาก พอหมด Fall แล้ว snow ตก เลยบ้าหนักเข้า นอนร้องไห้คิดถึงบ้านทุกคืน ยิ่งได้ยินเสียงเพลง Christmas แล้วอาการยิ่งหนัก

 ขืนน้าจันเติม a อีกตัว ถูกผมเรียกนายฉันนะแหงๆ

น่าเติมสายน้ำเหงาๆ เข้าไปในภาพด้วยนะน้า มีเพลงสายชลคลอเบาๆ อาจจะมีการตีอกชกตัวผสมโรงให้ครึกครื้น

ความจริงไม่ต้องวิ่งไปหาบรรยกาศ Fall ถึงเมืองนอกหรอก แถวๆเดือนต้น ก.พ. วิ่งรถวนเส้น เชียงใหม่-หางดง-สะเมิง-แม่ริม-เชียงใหม่  เร่งแอร์ในรถให้สุดๆ  พอกล้อมแกล้มได้เหมือนกัน

เอ หนุ่มฟิสิคส์เขาทำโรแมนติกกะสาว ยังงี้หรือเปล่าครับ

โอ้ เธอนั้นเป็นดั่งนิวเคลียสที่อีเล็กตรอนอย่างฉันต้องเฝ้าวนเวียนอยู่ไม่รู้วาย คราใดที่เธอแย้มยิ้ม อีเล็กตรอน้อยๆผู้ต่ำต้อยใน outer most shell นี้ก็พลันสุกใสขึ้นสู่ excited state  แต่อนิจจา ทั้งสากลจักรวาล action ย่อมเท่ากับ reaction  เหตุไฉนรักล้นอกของฉันจึงมิได้ถูกใยดีแม้เพียงเศษเสี้ยวของไมครอน  ถึงอย่างไรตราบเท่า E เท่ากับ MC square ฉันก็ไม่อาจสิ้นความรักที่มีต่อเธอได้

 ขอโทษค่ะคุณถาวภักดิ์..อย่าเว่อ  ปีกลายนี้อิฉันไปสะเมิงนับแต่ตุลาคม ถึง มีนาคม เกือบ 10 เที่ยว ไปนับลูกสตรอเบอรี่ที่บ้านบ่อแก้วน่ะ ขอยืนยันว่าป่าแถบนั้นไม่เปลี่ยนสี เพราะสูง 800 ถึง 1,300 เมตร เป็นป่าสนสองใบและสามใบน่ะ ฮู้จักไหมคะ

ที่พอจะเข้าเค้าหน่อยพอเห็นเหลืองๆแดงๆบ้าง ก็คือแนวป่าก่อนจะถึงแม่สอด จ. ตาก ราวๆปีใหม่นะ ดอกเสี้ยวจะบานเต็มภูเขา สีขาวทั้งเทือกสวยมาก

ถึงแม่สอดอย่าลืมไปกินขนมจีน จานละห้าบาทที่สาวพม่าทำขายนะคะ (ปริมาณเท่า 20 บาทที่ กทม.) พร้อมผักทอด นึกภาพแล้วเหมือนขนมจีนที่อยู่ในเรือ ที่คุณเปรมไสมาเทียบให้แม่พลอย ในเรื่องสี่แผ่นดินค่ะ

 แหม น้าจันหาฟามข้าเจ้า บ่เวอร์นะเจ้า  น้าจันไปประเดี๋ยวประด๋าวก็ปิกแล้ว  ข้าเจ้าเคยยะงานยะก๋านอยู่กู้วันแผว 3 ปี๋ปู้นนะเจ้า

ป่าเหนือตามธรรมชาติเป็นป่าไม้เบญจพรรณครับ มีการผลัดใบพร้อมๆกับเป็นฤดูกาล  แต่เป็นช่วงสั้นๆ  และอากาศทั้งแล้งและร้อน คนที่เห็นจึงไม่ค่อยมีอารมณ์สุนทรีย์  ยิ่งถ้าจำเป็นต้องเดินเท้าเข้าป่า ยิ่งอยากออกอาการคลุ้มคลั่ง

 อย่ามาฮ้องจะนี้ เปิ้นบ่จอบ...
อาจารย์เทาชมพู ช่วยข้าเจ้าเติมตัว  a หน่อย ...ยินดีเจ้า

 คุณ ถาวภักดิ์ครับ ถ้าเข้าหานิวเคลียสด้วย scale ระดับไมครอน ก็เหมือนร้องเพลงจีบสาวตาก จากเสปน
ถ้าหากเข้าใกล้ระดับนาโน ก็เหมือนชะเง้ออยู่คนละฝั่งแม่กลอง
จะให้ใกล้ชิดหล่อน(นิวเคลียส) น่าจะเข้าไปใก้ลระดับเฟอร์มีก็พอจะได้สบตา(นิวเคลียส)บ้าง  

ผมไม่ใครถนัดเพลงฝรั่ง แต่พอเห็นภาพที่คุณเทาชมพูแล้วก็พอนึกเพลงนี้ได้ครับ

อดีตรัก ทองกวาว

เห็นทองกวาวร่วงหล่นบนพื้นหญ้า
กลางพนาท้องทุ่งมุ่งไสว
ดอกสีแดงแฝงสีส้มพรมพิไล
ลอยไสวไรไรลิ่วบนทิ้วนา

เห็นทองกวาวแสนร้าวจิตให้คิดถึง
รักครั้งหนึ่งในอดีตก่อนเก่ามา
คิดถึงคราวเจ้าผลิดอกเขาบอกสัญญา
ทองกวาวจ๋าบอกเขาหน่อย...ข้ายังคอยรอ

 ฮั่นแน่ แสดงว่าผมจับทางถูก หนุ่มฟิสิกส์ตัวจริงออกอาการเหมือนนักมวยได้ยินเสียงปี่กลอง เต้นก๋าเชียว

ก็จะอ้อนไงครับ อาจารย์ ระดับไมครอนก็เหมาะกับความต่ำต้อย ห่างไกลความเจริญใน Outer Most Shell คล้องจองไปถึงการถูกกระตุ้นเข้า Excited State ดังว่า

หาเรื่องเถียงอาจารย์ไปงั้นแหละ แหะๆ  ความจริงตอนนั้นก็นึกถึงนาโนเหมือนกัน แต่ผมว่าฟังไม่เซ็กซี่เท่าไมครอน  ฟังแล้ว นึกถึงไมโครสเกิ้ต อิอิ

หอม เอย หอมดอกกระถิ่น โรยระรินคล้ายกลิ่นทองกวาว....


โอ๋ๆ หนูจัน จะหื้ออ้ายฮ้องอะหยังกา
อ้าว อู้คำเมือง ต้องเปลี่ยนเพลง

ปวงดอกไม้เบ่งบานสลอน ฝูงภมรแม่เพิ่งสอดไซ้  ดอกพิกุลของปี้ต้นใด ลมปั๊ดไม้มาสู่บานตู๋.....

 ขอบคุณมากๆนะคะ คุณเทาชมพูและคุณ Nuchan (ตัว r ตกไปจริงๆค่ะ)
เดี๋ยวเวลาไปฝึกสอนจะหาเพลงไปร้องให้ลูกศิษย์ฟังด้วย ขอบคุณนะคะ

 อาจารย์นิรันดร์คะ ดิฉันพึ่งจะเห็น SMS ค่ะ แล้วจะตอบไป ขอแก้สาย lan ก่อนคะ

เอ่อ...กระดูกกระเดี้ยวอาจารย์ครบถ้วนทุกซี่นะคะ พี่ชายฝากบอกว่าถ้าหัวเข่า และหัวไหล่เป็นอะไรให้ไปหาที่เลิศสิน จะออกมาดูให้ไม่ต้องทำบัตรค่ะ เรียน ตึก 8 ชำนาญต่อเอ็นและเปลี่ยนลูกสะบ้า  เห็นมั้ยว่า Familiarity breeds contentment.

 โอผมมัวแต่มองรูปที่อาจารย์เทาชมพูโพสต์แล้วอินกับรรยากาศจนลืมสังเกตข้อความที่เขียนอยู่บนรูป

success is a journey, not a destination.

ช่างลึกซึ้งจริงๆ ขอคารวะท่านผู้รจนาด้วยชาเขียว 3 จอก
เห็นข้อความนี้แล้วนึกถึงเรื่องๆหนึ่ง
ผมว่าหลายท่านคงคุ้นเคยกับหนังจีนเรื่องมังกรหยก ในเรื่องมีสุดยอดฝีมืออยู่ 5 คน ต่างแก่เฒ่าชรากันแล้ว
1. หนึ่งคือ ยาจกอุดร อั้งชิกกงประมุขพรรคกระยาจก ผู้กล้าหาญ โอ่อ่าผ่าเผยถือคุณธรรม
2. ราชันย์ทักษิณ ซึ่งต่อมาด้วยพ่ายรักจึงหนีออกบวชเป็นหลวงจีนอิดเต็งไต้ซือ
3. มารบูรพา อึ้งเอี๊ยะซือ (พ่อของนางเอกอึ้งย้ง) ผู้ปฏิเสธสังคม ทำอะไรเอาแต่ใจตนเป็นหลัก ไม่ถือขนบธรรมเนียมใดๆ คุ้มดีคุ้มร้าย
4. พิษประจิม อาวเอี๊ยงฮง เป็นจอมมารผู้ชั่วร้าย ของยุทธจักร แต่กลับเป็นอัจฉริยะบุรุษในเชิงยุทธ
5. จิวแป๊ะทง เฒ่าทารก แก่แล้วแต่ชอบเล่นเป็นเด็กๆไม่สนใจอะไรนอกจากเพลงยุทธและกำลังภายใน

ในตอนจบของมังกรหยกภาค 2 หลังจากการเทียบเชิงยุทธกัน หลวงจีนอิดเต็งไต้ซือได้วิจารณ์จอมยุทธโดยสรุปไว้ว่า (สำนวนจริงๆเป็นของ น.นพรัตน์นะครับ นี่ผมเขียนจากความทรงจำอาจจะคลาดเคลื่อน)
พวกมาที่เขาฮั้วซัวแห่งนี้เพื่อประลองยุทธแย่งชิง"ชื่อเสียง"ว่าเป็นจ้าวยุทธจักร ใครเล่าจะคู่ควรกับชื่อเสียงนั้น
อาวเอี้ยงฮงกระหายต่อ "ชื่อเสียง"ฝึกวิทยายุทธเพื่อสิ่งนี้มินับว่าเป็นวีรบุรุษ ยากจกอุดรเนื่อจากมีวีรกรรมมากหลายผู้คนทั้งแผ่นดินยกย่อง ดังนั้นจึงเอือมระอาต่อชื่อเสียง มารบูรพานั้นเล่า ชิงชังชื่อเสียงเป็นอย่างยิ่งรังเกียจการมีชื่อเสียง อาตมาเองเป็นศิษย์ตถาคตเห็นชื่อเสียงเป็นความว่างเปล่า "มีแต่เฒ่าทารกนี่สิ ฝึกวิทยายุทธมาจนหัวหงอกขนาดนี้ ไม่เคยมีคำว่าชื่อเสียงอยู่ในหัวเลย"


ตรงนี้แหละครับที่ผมประทับใจมากบ่งบอกถึงความคิดของกิมย้ง(ผู้แต่ง)ที่ต้องการสื่อถึงผู้อ่าน ความคิดนี้ก็เข้ากันได้กับ success is a journey, not a destination.
ในแง่นี้ จิวแป๊ะทงเป็นบุคคลที่น่าประทับใจที่สุดในเรื่องเลยทีเดียว


คุยเรื่องเพลงดีๆมาเรื่องเพลงยุทธได้ไง หว่า หุหุหุ

ปล. กระทู้นี้ต้องเปลี่ยนชื่อเป็นกระทู้"จับฉ่าย"แล้วล่ะครับ อิอิอิ

 คารวะจอมยุทธpaganini 1 จอก สูงสุดสู่สามัญนะท่านผู้อาวุโส

อันว่าโลกธรรมที่คนทั่วไปฝักใฝ่นั้นมีธรรมชาติอันเป็นปฏิภาคผกผัน ดุจดังเงาจันทร์ในบ่อน้ำ ผู้ปรารถนาต้องการ เพียรไขว้คว้าแสวงหา เงานั้นจะพร่ามัวสลายไป  ผู้ฉลาดเพียงเฝ้ามองจึงจะได้ชื่นชม ผู้รู้จริงหาใยดีไม่ อย่างไรก็เพียงเงา

น้าจันก็ไม่ชอบ หนูจันก็ไม่เอา น้องจันละไหวมั้ยจ้ะ
ที่ร้อง ...หอมดอกกระถิน..... ก็เพราะเจอซองกฐินไปกว่าครึ่งร้อยวัดแล้วละจ้ะ น้องจันจ๋า  คำว่ากฐินกะลังขึ้นสมอง

ขอบพระคุณภาษิตไพเราะประกอบรูปหวานๆ ที่จารย์เทาฯเมตตามอบให้เป็นอย่างสูงครับ  หากอ่านแล้วก็ครั่นเนื้อครั่นตัว ร้อนท้องชอบกล โดยเฉพาะกับประโยคสุดท้ายของอีตาดักกัด อีว่าเล็ด ตีความออกมาเป็นพวกปั้นน้ำเป็นตัว ยังไงก็ไม่รู้

อู้บ่ได้ บ่เป็นหยังกะ ผ่อตากั๋นบ่ดาย ก็ม่วนใจ๋ขนาดแล้วเน้อ อาจ๋ารย์เจ้า

เว่าลาวสิม่วนหลายเด้อ

ว้า อาจารย์นิรันดร์ไม่มาคุยต่อ  ว่าจะชวนอาจารย์หารือเรื่องฟิสิกส์ต่อ ขึ้นสูงกว่าระดับไมโครสเกิร์ต เอ๊ย ไมครอน  อาจไปวนๆแถว Black Hole หรือ Worm Hole พอแก้เบื่อ  เรียกน้ำย่อยได้ที่ ค่อยถกไปเรื่อง Self Induction บ้าง Self Excitation บ้าง ให้ครึ้กครื้นบันเทิงใจ

 อ้ายถาวภักดิ์ …อันว่า  น้าจัน-หนูจัน-น้องจัน-น้ำจัน  อีป้อ อีแม่บ่ได้ตั้งมาฮื้อจะนี้ เปิ้นบ่จอบ...บ่ม่วนอกม่วนจ๋าย  อ้ายฮ้องเปิ้น Nuchan บ่เป็นหยังกะ

ปีใหม่เปิ้นจะไปแอ่วสะเมิงอีกสักมื้อ ไปดูใบไม้ของอ้ายว่าจะเหลืองๆแดงๆอยู่บ่ อ้ายบ่ต้องมาขี้จุ๊ เบเบ๊ ขี้จุ๊ ตาละลา นะอ้ายนะ

น่าจ๋งจ๋าน อ้ายเมาซองกฐิน ยังบ่ออกพรรษา กฐินมาแต่หัววันเลยหรืออ้าย ขี้ฮกแน่ๆ บ้านเปิ้นต้องรอให้ออกพรรษาก่อน ซองจึงมาได้

เอาอย่างตึกเปิ้นสิ มีหน่วย  spam-kathin ซองบ่ขึ้นมากวนอกกวนจ๋าย งบทำบุญปีนี้ของเปิ้นเลยเหลือบานเบอะ ส่งมาเปิ้นจะช่วยใส่ให้

พูดถึงกระถิน ไพบูลย์ บุตรขันธ์ ท่านว่า “หอมเอยหอมดอกกระถิน” แต่ดมเท่าไร เปิ้นบ่เคยได้กลิ่นซักที

ท่านพี่ Paganini คงจะดื่มดำกับนิยายจีนหลายเรื่อง ข้าเจ้าก็เคยอ่านมังกรหยกอยู่เรื่องเดียว เหมือนกับอาจารย์เทาชมพูนั่นแหละ มันสนุกจริงจริ๊ง

 แหม แล้ว Nuchan นี่พ่อแม่ตั้งให้หรือจ๊ะ  ไหนๆก็ไหนๆ ให้มีคำว่าจันอยู่ด้วยแล้วดีนา  ฟังคล้ายๆตะละแม่จันทรา จะได้ถูกโฉลกมีวาสนาขึ้นเป็นเอก

จะดู fall ต้อง ก.พ.ไง  ไปปีใหม่ บ่หันเตื้อ
แต่จะว่าไป  ช่วงเวลาที่น่าเที่ยวเหนือที่สุด คือ ปลาย พ.ย. ถึง ต้น ธ.ค. ซึ่งฝนเพิ่งหยุดใหม่ๆ ป่ายังดูเขียวอุดมสมบูรณ์ ในนาก็อร่ามไปด้วยรวงข้าวที่ใกล้จะเก็บเกี่ยว  ยิ่งเส้นทางไปแม่ฮ่องสอน มีทิวเขาสลับซับซ้อน สีเขียวชอุ่มตัดกับสีทองของนาข้าวแทรกอยู่ตามพื้นราบ  มีหมอกขาวบางๆ ในยามเช้า  ฟ้าก็สีสดใสที่สุดในช่วงนี้  อากาศก็เริ่มเย็นสบาย  บรรยากาศแสนโรแมนติก

ได้ยินได้เห็นมาหลายคู่ ไปเที่ยวด้วยกันกลับมา จัดงานแต่งแบบสายฟ้าแลบ แถมเจ้าสาวคงเป็นลูกค้ายาเบนโล่เหมือนๆกัน ดูสมบูรณ์อ้วนท้วนกันทั้งนั้น

เอ จะเป็นการโก่งหน้าไม้ให้กระรอกไหมเนี้ยะ

 แม่นาง Nuchan เอ๋ย อันว่าวิทยายุทธ์ทั้งปวงนั้น เมื่อบรรลุถึงสุดยอดอย่างแท้จริงแล้ว ย่อมไร้กระบวนท่า

ฉะนั้น ทั่งเหล็กทั้งหลายย่อมชอบที่จะถูกเข็ญขึ้นภูเขา หรือหากครึ้มใจก็ชอบที่จะขี่ช้างไปละลายแม่น้ำให้ครื้นเครงได้ด้วยประการฉะนี้แล

ป.ล. กำเมืองเปิ้นบ่อู้งง  สาวเมืองแต้เปิ้นว่างื่ดกะ

P.S. Sometime the end justifies the mean, my dear.

เอาดอกกระถิน ทั้งตูมและบาน มาฝากแฟนลูกทุ่งครับ

 ขอบคุณรูปสวยๆครับ และรูปของอาจารย์เทาชมพูที่แถมด้วยคำคมดีๆนั้นยอดเยี่ยมมากครับ จริงๆผมเขียนตอบแต่ลำคำคมไว้ยาวนะครับ เสียดายที่ผมโพสต์ตอนไม่ได้ลอกอิน กดส่งข้อความไป มันก็หายเลย ทั้งนี้เขาบอกว่าผมไม่ได้ทำอะไรนานเกินไป ก็คือใช้เวลาในการพิมพ์ข้อความแหละครับ
หมดอารมณ์สินละปินเลย เหอๆ

"อันว่าโลกธรรมที่คนทั่วไปฝักใฝ่นั้นมีธรรมชาติอันเป็นปฏิภาคผกผัน ดุจดังเงาจันทร์ในบ่อน้ำ ผู้ปรารถนาต้องการ เพียรไขว้คว้าแสวงหา เงานั้นจะพร่ามัวสลายไป ผู้ฉลาดเพียงเฝ้ามองจึงจะได้ชื่นชม ผู้รู้จริงหาใยดีไม่ อย่างไรก็เพียงเงา"

อันนี้ก็ต้องขอคารวะท่านหลานถาวภักดิ์ 1 จอกเหมือนกัน
แต่ขอถามว่าทำไมต้องมองจันทร์ในน้ำ จันทร์บนฟ้าก็มี งามยิ่งกว่าอีก

กลับมาที่เรื่องเพลงดีกว่า

เพลงของดิอิมพอสซิเบิ้ล ทะเลไม่เคยหลับ เป็นเพลงวอลทซ์ เล่นเกากีต้าร์ได้ง่ายๆ แบบกระจายคอร์ด แล้วร้องประกอบเพราะมากๆ  อย่างที่คุณ Nuchan ว่าไว้ ผมเองก็ชอบเล่นครับเพลงนี้เพราะเล่นง่ายและทำนองนั้นสวยงามไพเราะมาก
ทำนองแต่งโดย อาจารย์ สง่า อารัมภีร์ ครับ
นึกถึงครูเพลงสมัยก่อนท่านเป็นนักดนตรีเอกที่สามารถสร้างทำนองที่สวยๆได้อย่างมากมาย เพลงนี้ก็เป็นเพลงหนึ่ง
ส่วนทำนองก็แต่งโดย รัตนคีตกวีในใจผม ครู ชาลี อินทรวิจิตร

ประวัติเพลงนี้ ตามที่ผมได้สดับมา (แปลว่าไม่มีหลักฐานยืนยันได้) ว่าเพลงนี้เป็นเพลงประกอบภาพยนต์เรื่อง ชื่นรัก ที่มีดาราแสดงนำคือ เศรษฐา ศิระฉายา และนักดนตรีวง ดิ อิมพอสซิเบิ้ล ทั้งวง โดยมีนางเอกคือ อรัญญา นามวงศ์ ไปถ่ายกันที่ภูเก็ตครับ และเป็นที่ๆ เศรษฐาและอรัญญา ได้พบรักและแต่งงานกันในที่สุดครับ

ฟังได้ที่นี่ครับ

 http://www.oldsonghome.com/music/listen.php?song_id=1151  

 เอาเพลงมาฝากครับ โหลดไปฟังกันได้ เพลงเก่าๆ บรรเลงด้วยไวโอลิน เพราะมากๆครับ
01. If
02. First For May
03. Song Form A Secret Garden
04. Make It With You
05. Kiss Me Goodbye
06. You Make Me Feel Brand New
07. Stay Awhile
08. Love's Not For Me
09. Interlude
10. Memory
11. Are You Lonesome Tonight
12. What A Wonderful World
13. As Time Goes By
14. Somewhere In Time


 http://211.147.253.2/bbs/images/upfile/2005-5/200551820229.wma
http://211.147.253.2/bbs/images/upfile/2005-5/2005518192829.wma
http://211.147.253.2/bbs/images/upfile/2005-5/200551819350.wma
http://211.147.253.2/bbs/images/upfile/2005-5/200551819360.wma
http://211.147.253.2/bbs/images/upfile/2005-5/2005518193726.wma
http://211.147.253.2/bbs/images/upfile/2005-5/2005518193833.wma
http://211.147.253.2/bbs/images/upfile/2005-5/200551819504.wma
http://211.147.253.2/bbs/images/upfile/2005-5/2005518195143.wma
http://211.147.253.2/bbs/images/upfile/2005-5/2005518195258.wma
http://211.147.253.2/bbs/images/upfile/2005-5/2005518195419.wma
http://211.147.253.2/bbs/images/upfile/2005-5/2005518195534.wma
http://211.147.253.2/bbs/images/upfile/2005-5/2005518195630.wma
http://211.147.253.2/bbs/images/upfile/2005-5/2005518195934.wma
http://211.147.253.2/bbs/images/upfile/2005-5/20055182018.wma


คุณนุช คุณต้องมีโปรแกรม realplayer ก่อนนะครับถึงจะเล่นเพลงในเวป oldsonghome ได้
ลองเข้าไปที่หน้าแรกสิครับเขาทำลิ้งค์ไว้ให้โหลดโปรแกรมนี้ได้
ลองโหลดดูแล้วคุณจะรู้สึกว่าคุ้มมากๆเพราะว่ามีเพลงเก่าดีๆอีกหลายเพลงเลยครับ

 Thanks, โปรแกรมเพนท์ถึงไหนแล้วคะ อวดหน่อยเด่

 โอ..แค่เพลงแรกก็หวานแหวว เคลิบเคลิ้ม พี่ปากกาเอาของดีๆมาฝาก

 น้องนุช ดวงชีวัน เช็ค SMS ด้วยนะ เขียนจดหมายรักไปหาน่ะ

เดี๋ยวก่อนเรื่องรูปประกอบภาพน่ะ บอกแล้วไงว่าขอเวลา

 Sent.  Still finding the way. It keeps rejecting.

 เพลงเพราะๆทั้งนั้นเลย
ขอบคุณพี่ paganini ด้วยคนครับ


ปล. เห็นรายชื่อเพลงแล้วนึกถึงคราวก่อนไปร้องคาราโอเกะกับเพื่อน
เลือกเพลง Memory เอาไว้ พอร้องเท่านั้นแหละ ทุกคนชอค แล้วถามกันใหญ่ว่า "มึงร้องคีย์นี้เหรอ" หิหิ

 คุณ paganini ทำไมผมโหลดฟังเพลงไม่ได้อ่ะครับ พอคลิ๊กที่ลิงค์ ก็จะขึ้นหน้าที่มีตัวอักษรเยอะแยะไปหมดเลยครับ

 ใครยังไม่ได้ลองฟัง ขอบอก...
เพลงคุณปากกาเพราะจริงๆ

 ค.ห. 147
รบกวนคุณจอมยุทธปากกานินิ ถ้าจะกรุณาผู้น้อยด้วยลิงค์เปียโนชุดใหญ่เหมือนใน ค.ห. 147 ก็จะดี จะเป็นบุญคุณอันยิ่งใหญ่ ที่จะตอบแทนท่านในวันหน้า

 ขอยกบทความที่ อ. เทาชมพู เคยยกมาแสดง มาฉายซ้ำอีกทีค่ะ
***************

ข้อความที่ยกมานี้ ไม่ใช่กวีนิพนธ์
แต่มีความหมาย ที่สอนใจ และทันสมัยในโลกไซเบอร์
ถือเป็นวรรคทองสำหรับดิฉัน
ก็เลยขอยกมาให้อ่านด้วยกันค่ะ

 http://www.palungjit.com/board/showthread.php?t=5595
ตอบคำถามเรื่อง**กรรมที่ทำบนอินเตอร์เน็ต**โดย พี่ดังตฤณ

--------------------------------------------------------------------------------

ถาม – การเขียนข้อความหรือนำเสนอเนื้อหาอะไรผ่านอินเตอร์เน็ตโดยใช้นามแฝง ถือเป็นกรรมหรือไม่? เพราะไม่มีใครรู้จักชื่อเรา ไม่มีใครเห็นหน้าเรา ไม่มีใครได้ยินเสียงเรา เหมือนเราไม่มีตัวตน

ผมเห็นว่าคำถามนี้จะนำไปสู่ความเข้าใจเรื่องกรรมได้ลึกซึ้งขึ้น เพราะคนส่วนใหญ่ยังนึกว่าการก่อกรรมเป็นเรื่องที่ต้องโชว์ตัว โชว์เสียง หรืออย่างน้อยก็ต้องมีชื่อแซ่ของเจ้าตัวปรากฏเป็นที่รับรู้เสียก่อน ความเข้าใจดังกล่าวนั้นคลาดเคลื่อนนะครับ กรรมนั้นคือเจตนา ต่อให้คุณนอนคิดร้ายอยู่บนยอดเขา ไม่มีใครเห็น คุณก็ทราบชัดอยู่แก่ใจ และสามารถสำเหนียกรู้สึกได้ว่าใจคุณดำมืดเพราะโดนเมฆหมอกอกุศลทาบทับแล้ว

สำหรับกรรมที่ทำอยู่ในใจจริงๆ มีผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจคุณเองคนเดียวนั้น เรียกว่า ‘มโนกรรม’ สำหรับมโนกรรมนั้นจะสำเร็จสมบูรณ์เต็มขั้นในทันทีที่ตั้งใจคิดและมีความยินดีกับความคิดนั้น หากจะพูดว่ามโนกรรมคือกรรมที่ก่อแล้วยังไม่ทันส่งผลกระทบดีร้ายกับผู้อื่นก็คงได้ ตัวอย่างเช่นคุณคิดจะด่าเขา แต่ระงับใจไม่ด่า อย่างนั้นก็เป็นเพียงมโนกรรมอันเป็นอกุศล มีผลให้จิตคุณทุกข์ร้อนอยู่คนเดียว ยังไม่เป็นวจีกรรม ยังไม่มีเสียงกระทบหูใครให้ใจเป็นทุกข์ขึ้นมา

แต่หากคลื่นความคิดแรงจนทะลักรั้วกั้น หลุดจากสมองไปกระทบผู้อื่น ไม่ว่าจะทางภาษาพูดหรือภาษาเขียน ทำให้เขาเกิดความเข้าใจว่าคุณคิดอย่างไร ตรงนั้นจัดว่าเป็นวจีกรรมได้หมด พูดง่ายๆว่า ‘ภาษา’ นั่นเองคือเครื่องมือก่อวจีกรรมของมนุษย์

ฉะนั้นคุณจะแอบเขียนอะไรทางอินเตอร์เน็ตโดยใช้นามแฝงเฉพาะกิจ ไม่มีใครอื่นรู้เห็น ไม่มีใครรู้จักเลย แม้เพียงครั้งเดียวก็นับว่าสร้างวจีกรรมไปแล้วหนึ่งครั้ง และกรรมก็จะติดตามคุณเป็นเงาตามตัว ไม่ผิดต่างไปจากกรรมอื่นๆที่กระทำโดยเปิดเผยหน้าตาตัวตน เจตนาเกิดขึ้นที่จิตของคุณ กรรมก็เกิดที่จิตของคุณเช่นกัน เพราะกรรมคือเจตนา เจตนาคือกรรม ดังที่พระพุทธองค์ทรงตรัสว่าบุคคลคิดแล้วจึงก่อกรรมทางกาย วาจา ใจ

อินเตอร์เน็ตเปิดโอกาสให้เราเห็นอะไรหลากหลายจริงๆ แม้แต่การทำงานของกรรม อย่างเช่นที่ผมรู้จักหลายๆคน เห็นกรรมทางวาจาของเขาในเบื้องต้น แล้วได้เห็นพัฒนาการหรือความเสื่อมทรามทางจิตใจในเวลาต่อมา เป็นไปตามวิธีคิดเขียนให้ดีให้ร้ายแก่ผู้อื่น

ผู้ก่อความวุ่นวาย นานไปย่อมมีจิตใจที่วุ่นวาย ปั่นป่วนเหมือนพายุ และแสดงแนวโน้มที่จะฟุ้งซ่านแส่ส่ายไปในเรื่องเหลวไหล พูดจาจับต้นชนปลายไม่ติดมากขึ้นเรื่อยๆ

ผู้ก่อกระแสความเยือกเย็น นานไปย่อมมีจิตใจเยือกเย็น สงบราบคาบผาสุก และแสดงแนวโน้มที่จะแน่วนิ่งหนักแน่นในเรื่องเป็นเหตุเป็นผล พูดจามีต้นมีปลายมากขึ้นเรื่อยๆ

บอกได้เลยครับว่าวจีกรรมที่เกิดขึ้นในโลกอินเตอร์เน็ตนั้น อาจจะให้ผลเร็วและแรงเสียยิ่งกว่าวจีกรรมที่เกิดขึ้นในโลกความเป็นจริงเสียอีก ที่เป็นเช่นนี้เพราะอะไร? เพราะบนอินเตอร์เน็ตอาจมีผู้รับคำพูดของคุณจำนวนมาก ขอให้ลองนึกดู หากคุณพูดเบาๆว่า ‘ไอ้โง่’ ก็อาจมีคุณคนเดียวในโลกที่ได้ยินเสียงอกุศลของตัวเอง แต่ถ้าคุณพิมพ์คำว่า ‘ไอ้โง่’ ลงในกระทู้ของเว็บบอร์ดที่มีผู้เข้าเยี่ยมชมคับคั่ง คุณไม่มีทางปรับให้ดังหรือเบาได้ตามใจชอบได้เลย คุณทำอกุศลกรรมกับคนแบบไม่เลือกหน้าเข้าแล้ว คำด่านั้นอาจทำให้คนนับพันนับหมื่นเกิดความแสลงใจ ความแสลงใจของคนนับไม่ถ้วนนั่นแหละ จะย้อนกลับมาก่อเหตุให้คุณแสลงใจยิ่งกว่าพวกเขาได้

ผมเห็นแล้วนึกเสียดายครับ หลายคนยังเป็นเด็ก และมีความสนุกที่จะขีดเขียนข้อความฝากไว้ในอินเตอร์เน็ตด้วยความคึกคะนอง บางทีไม่รู้ตัวเลยว่าเอาอนาคตมาทิ้งเสียด้วยการสนทนาแบบไร้หน้าไร้เสียงนี่เอง

โอกาสก่อกรรมในยุคไอทีของพวกเรานี้ มีได้เป็นร้อยเป็นพันเท่ามากกว่ายุคอื่นครับ กระดิกนิ้วง่ายๆไม่กี่ที ผลอาจใหญ่หลวงยิ่งกว่าพยายามพูดในห้องประชุมใหญ่หลายๆอาทิตย์เสียอีก หากจิตตั้งไว้ดีแล้วก็สบายตัวไป แต่หากจิตยังตั้งไว้ในมุมมืด อย่างนั้นก็คงน่าเป็นห่วงหน่อยล่ะ

วันที่ 21 ส.ค. 2548 - 09:58:52
โดย: เทาชมพู  [IP: hidden]

 ค.ห. 156 จริงๆจะแปะไว้ที่กระทู้เสด็จเตี่ย แต่แปะผิดที่ ขออภัยค่ะ
(หน้านี้อยู่นาน เพราะหลงเสียงไวโอลิน)

 หนูอยากได้ love me love my dog กับ lovers moon น่ะค่ะ
แล้วก็อยากได้เพลงของ john denverด้วย..ต้องมาฟังแต่แบบ cover ถ้าใครก็หนูก็ขอหน่อยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

 แบบ cover เป็นอย่างไรค้าาาา....ช่วยบอกพี่ป้าน้าอาในห้องนี้หน่อยค่ะ
เห็นหนูลงทะเบียนเป็นเด็กมัธยม และชอบฟังเพลงในยุคซิกส์ตี้เช่น ของ Cliff Richards
ถ้าข้ามมาอเมริกาก็จะพบวงร่วมสมัย The Beatles

สงสัยขาใหญ่..ตัวจริง มาแล้ว

 เอาคำคมของ John Denver มาฝาก เนื้อเพลงคิดว่าคุณ Jill คงมีเยอะแล้ว
เดี๋ยวนี้ห้องนี้เขายังหวาดระแวงว่าใครเป็นใครแปลงร่างมายังไม่หาย ไม่เชื่อดู ค.ห. 156 สิค่ะ    

"I believe that we are here for each other, not against each other.
Everything comes from an understanding that you are a gift in my life -
whoever you are, whatever our differences."

John Denver

 คุณ paganini ครับ ไม่ทราบว่าจะโหลดเพลงจากลิงค์ที่ 147
มาฟังได้อย่างไรครับ พอผมคลิกไปที่ลิงค์ก็จะขึ้นหน้าที่มีตัวอักษรเต็มไปหมด

 อืม...มันเป็นแบบนี้ครับ บางลิงค์ก็ฟังได้ บางลิงค์ก็ฟังไมได้ครับ มันเป็นอะไรหรือครับ ...ส่วนที่ฟังได้เพราะมากครับ

 ใช่แล้วค่ะคุณDominioเนื้อเพลงเนี่ยมีเยอะมากๆเพราะเพิ่งได้รับมรดกจากคุณแม่..เอ่อ ความจริงมันเป็นหนังสือเพลงนะคะ Let it be me น่ะค่ะ..แต่เพลงนี่สิไม่ค่อยจะมี CD เนี่ยที่ยังใช้ได้ก็มีแต่ Carpenters กะ beatles แล้วก็ Lobo เท่านั้นเอง เอ้อ..peter paul and mary ก็ยังฟังได้ ที่เหลือคือของที่รวมกันมาน่ะค่ะ ที่เหลือก็คือเทปที่จะพังแหล่มิพังแหล่...อุตส่าค้นตู้ไปเจอ simon and garfunkel มาจะกะเปิดฟัง..ดันเปิดไปเจออะไรก็ไม่รู้ ไม่ทราบว่าคุณแม่เอาอะไรมาอัดทับไว้หรือเทปมันผิดกัน..
ยังมีแผ่นเพลง Cliff Richard อยู่แต่เป็น mp3 นะคะ John denver มีแต่ของ cover ทั้งนั้น ..อ้อ อีกอย่างสิ american pie แบบของ Don mclean ถ้าใครมีละก็ขอหน่อยนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ

 เอ้อ..มันก็จริงของคุณ dominio อีกนั่นแหละค่ะ หนูเพิ่งจะมาอยู่มัธยมเองนี่ แต่ชอบเพลงอายุแก่กว่าวัย ไม่รู้ทำไม คุยกะเพื่อนก็ไม่รู้เรื่องเพราะเขาฟังกันแต่เพลงใหม่ๆ รับวันหนูก็ยิ่งฟังเพลงเก่าลง เก่าลง เก่าลง ทุกวันจากยุค80...ก็ลดมาเป็น70...แล้วก็60...นี่บางคนเห็นหนูแก่ยังกะอะไรดี    บางทีพอมาคุยกะรุ่นที่(ฟังเพลง)เหมือนกัน ก็ยังไม่วายโดนลากไปแก่ยิ่งกว่าเดิม แต่หนูก็ชอบเพลงเก่าจริงๆนะ ก็ฟังมาตั้งแต่ประถมจนตอนนี้เพิ่งมามัธยมก็ยังฟังอีก...เฮ้อ เรื่องเศร้าของเด็กเกิดผิดยุค..  
หนูคงไม่ได้ทำอะไรผิดใช่มั้ยเนี่ย..ถ้าผิดอะไรไปหนูขอโทษนะคะ

 สงสัยต้องเรียก ศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวี รับตัวคนป่วยกลับไป คุณส่งเมล์ไวรัส มาถล่มดิฉัน
เป็นร้อยๆเมล์ นึกว่ากลัวเหรอ
สำบัดสำนวนก็รู้ว่าศักดา จุติลงมาเกิดในชื่อใหม่

 นายศักดา ลิกขะไชย แหงนขึ้นไปดู ค.ห. 156
ยุทธการต่อไปที่จะทำ คือเราจะสำรวจทะเบียนราษฎร์ก่อน ว่าใช่ชื่อจริงหรือเปล่า
ถ้าใช่ จะติดต่อผู้บังคับบัญชาคุณ แฉกันให้หมดเปลือกถึงพฤติกรรมของคุณ
หนีลงรู ก็จะตามไปรมควันออกมา

อยากรู้นักหรือว่าอาจารย์เทาชมพูเป็นใคร ถ้าดิฉันบอก คุณก็จะสิ้นสติ คุกเข่าขอขมาลาโทษ    
บางครั้งหากไม่รู้อะไรเลย รู้แค่ชื่อ "เทาชมพู" อาจมีความสุขกว่ารู้มากมายซะอีก

 โทรไปเช็คแล้วค่ะ ปรากฎว่า นายศักดา สิกขะไชย เป็นลูกจ้างของศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวี อายุ 30 ต้นๆ
ภายใต้การบังคับบัญชาของคุณอารีย์ พิจิตกล้าเอี่ยม (ข้าราชการประจำ)

น่าสมเพช ที่ยังอ่อนพรรษา แต่กำแหงต่อกร สำหรับคุณศักดา จะเปรียบลูกหรือก็อ่อนกว่าลูกเล็ก
จะเปรียบหลานหรือก็เด็กกว่าหลานข้า ดิฉันเคยให้อภัยผู้เยาว์เสมอ

ถึงตรงนี้ คุณศักดาฯ จะหยุดสนิท หรือจะให้ดิฉันดำเนินการต่อ?
หากดำเนินการต่อ แน่นอนว่ามีผลกระทบถึงอาชีพของคุณอย่างไม่ต้องสงสัย

คุณจะเอาอย่างไร กรุณาเมล์มาบอกดิฉันภายใน 3 วัน supanee_kan@yahoo.com Or else,....

 ผมรู้สึกว่า คุณ nuchan ไม่ได้โพสต์อะไรเกี่ยวกับหัวข้อเลยครับ มันอาจจะเป็นปัญหาที่มีมาจากกระทู้อันอื่น ซึ่งผมคิดว่าไม่น่าจะเอามาลงที่นี่ครับ

 ค.ห.ของคุณ Nuchan ที่ต้องการสื่อสารกับคุณศักดา จะอยู่ในกระทู้นี้ชั่วคราวเท่านั้นค่ะ

 ขอโทษนะคะ จะมารบกวนถามคำถามอีกข้อ เป็นข้อสุดท้ายแล้วค่ะ แล้วจะlog out ไม่เข้าอีกแล้ว
เพลง Deram lover ใครเป็นคนร้องก่อนหรอคะ?
lobo หรือ Bobby Darin? เท่านี้แหละค่ะ แล้วก็จะตัดกับเว็ปนี้ไม่เข้ามาอีกแล้วล่ะค่ะ
ขอบคุณค่ะ ขอโทษที่รบกวนมาตลอด4วัน
ขอบคุณค่ะ

 Sorry, not in the mood.

ดิฉันกินเกลือมากกว่าคุณกินข้าว โหสิให้
จับได้อีกครั้งจะใช้แชนแนลที่มาเหนือเมฆ  
แล้วคุณ...จะเจ็บจำไปถึงปรโลก

 Bobby Darin เป็นคนร้อง Dream Lover ก่อน ตั้งแต่ปี 1959
เป็นแผ่นเสียงยอดจำหน่ายเกินหนึ่งล้านแผ่น  แผ่นที่สามของเขา
แล้ว Lobo เอามาร้องอีกครั้ง ในอัลบั้มปี 1995

ขอให้ไปด้วยดีค่ะ

 ค.ห. 168 คุณ windy

คุณก็เห็นเขากำลังติดพันเกมส์ "โปลิซจับขโมย" หรือ "ปิดประตูตีแมว" คุณควรลงมาช่วยไล่กวดด้วย
อย่าทำเป็นธุระไม่ใช่ บางครั้งต้องยอมที่ความสุขในการอ่านของคุณอาจสะดุดลงบ้าง

 กระทู้นี้เสนอลบ ค.ห. 156, 157, 158, 159, 160,163, 164, 165, 166 ,167, 168, 169, 171 ขอบคุณค่ะ
(ค.ห. 170 และ 172 จะเก็บเป็นที่ระลึกไหมค่ะ?)

 ผมเห็นว่าควรย้ายกระทู้ที่ 156 และ 165-171 มาที่กระทู้เสด็จเตี่ยดีกว่าครับ

 ดิฉันย้าย 156 ไปอันเดียวค่ะ อย่างอื่นอย่าเอาไปเลยค่ะ too overwhelm เอียนมากๆๆๆ

*****
คุณศรีปิงเวียง คราวหน้า... ตาคุณไล่กวดบ้าง อิอิอิ

 ถึง คุณ Nuchan อีกแล้วครับ
ผมคงกวดไม่ทันแล้วล่ะครับ เอาค้างไว้เท่านี้

 จาก ค.ห. 173 ก่อนจะมีการลบโพสต์ที่ไม่เกี่ยวข้อง  ดิฉันมีประสบการณ์ไล่กวดแมว
จะเล่าให้เด็กๆฟัง ตอนที่เข้ารับราชการใหม่ๆ  มีหุ้นส่วนคนไทยมาร้องเรียนว่าหุ้นส่วนฝรั่ง
โกงหุ้นคนไทย ในฐานะเจ้าพนักงาน ดิฉันรื้อแฟ้มดู ปัญหาที่ร้องเรียน มันอยู่นอกอำนาจที่มี
แต่สิ่งที่จะทำได้คือเก็บภาษีนำเข้าวัตถุดิบที่บริษัทนั้นๆ ใช้สิทธิ์ตึ๊งภาษีไว้ก่อน
บัดนี้เกินกำหนดเขาต้องมาเคลียร์

ในอดีตเราเคยไม่ต่อใบอนุญาตใบที่ 1 ให้บริษัทนี้ เขาก็ย่องมาขอใบที่ 2 พอเราจะปิดใบที่ 2 เขาก็ย่องมาขอใบ 3 เตรียมไว้
ที่นี้ดิฉันไปบอกผู้ร่วมงานว่าอย่าออกใบที่ 3 ให้เขาเคลียร์หนี้แผ่นดินใบที่ 2 ให้หมดก่อน เพื่อนร่วมงานบอกว่า
เลือกปฏิบัติไม่ได้ หลักฐานสำหรับใบที่ 3 ครบถ้วน

ตอนนั้นเซ็งมาก จะลาออกจากงาน นายใหญ่ขององค์กรทราบเข้าจึงลงมาดูปัญหา
นายหัวเราะแล้ววิเคราะห์ว่า  คนหนึ่งก็วิ่งไล่กวดแมวเกือบตาย อีกคนหนึ่งก็คอยจ้องเปิดประตู
ให้แมวออก การทำงานขององค์กรมันต้องรู้กัน ต้องมีระบบไซเรนเตือน ถ้าบริษัททำไม่ถูกต้อง
เราต้องมีสัญญาณเตือนให้คนทั้งองค์กรรับรู้ จะได้ช่วยกันสกัดจับหรือขึ้นบัญชีดำไว้

ผลจากการไล่กวดแมววันนั้น ทำให้หลวงฟ้องศาลให้บริษัทชำระภาษีนำเข้าหลายล้านบาทได้สำเร็จ
มันก็เป็นความภาคภูมิใจของข้าราชการคนหนึ่ง ที่สามารถทำประโยชน์ให้แผ่นดินเกิดได้บ้าง

 ขอสมัครเป็นสมาชิกคนใหม่ค่ะ

หวังว่าคงได้รับความเมตตานะคะ

ติดตามมาจาก เพลง คิดถึงหรือ Gypsy moon หรือ Gypsy air นานมาก  ประมาณ เดือนเศษ  
หลายทอดค่ะ จาก google ไปโน่นมานี่ จน ได้ความรู้จากที่นี่  

เพิ่งเริ่มเรียนร้องเพลง  เพื่อให้ร้องได้  มิใช่เพียง  ได้ร้อง

ร้องได้ไปแล้ว(ได้โชว์)

คุณครูให้หาเพลงเองบ้าง

อยากได้โน้ตไวโอลิน Tonight we love ,Caterina Valevte
พบแต่ต้องซื้อ

ต้องสารภาพว่าใช้บัตรเครดิต  เป็นแค่เติมน้ำมันรถค่ะ
..........
จะอย่างไรก็ตามเริ่มรู้สึกอบอุ่นแล้วค่ะ

Tonight we love

ขอบคุณค่ะ
อัญชัญขาว