เรือนไทย

General Category => ประวัติศาสตร์ไทย => ข้อความที่เริ่มโดย: siamese ที่ 08 ต.ค. 12, 11:58



กระทู้: อยากเห็น "เงินผูกปี้"
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 08 ต.ค. 12, 11:58
การผูกปี้ เป็นการเกณฑ์แรงงานชาวจีนเข้ามาทำงานในสังคมไทยโบราณ มีการกำหนดการผูกปี้โดยมีทะเบียนหางว่าวกรมพระสัศดี โดยเกณฑ์แรงงานผูกปี้ให้ทำงานเดือนเว้นเดือน โดยมีการผูกปี้ที่ข้อมือ

หากไม่ทำการผูกปี้ก็ให้เสียเงินคนละตำลึง + ค่าฎีกา ๑ สลึง แทนการไม่ต้องถูกเกณฑ์ ถ้าจีนคนใดผูกปี้ปลอม รับปี้คนผูกฉ้อจับได้ปรับ ๑๐ ตำลึง แต่ผู้ทำตราไปฉ้อจีนตีปี้ให้ ฤาผู้แกะตราปลอม จะได้รับพระราชอาญา ๕๐ ทีแล้วส่งตัวไปเปนตพุ่นหญ้าช้างฯ

ประกาศ ณ วันจันทร์ เดือนห้า ขึ้นค่ำหนึ่ง ปีมะเมีย ยังเป็นนพศก (รัชกาลที่ ๔)

++

จะเห็นว่าการผูกปี้ ต้องมี การผูก และตราประทับ ซึ่งอยากทราบว่าลักษณะการผูกตีตราดังกล่าวเป็นเช่นไรกันครับ  ???

ขอบพระคุณมากครับ


กระทู้: อยากเห็น "เงินผูกปี้"
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 08 ต.ค. 12, 14:06
ราชกิจจานุเบกษา ประกาศเรื่องกำหนดจีนผูกปี้ เรื่องห้ามทำปี้ปลอม ย่อมต้องมีตราปี้แน่นอนครับ


กระทู้: อยากเห็น "เงินผูกปี้"
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 08 ต.ค. 12, 14:08
เจ้าพนักงานจะออกใบเสร็จ และผูกปี้ให้ที่ข้อมือ ที่เป็นจีนผู้ดีมีหน้า เห็นเป็นที่รุงรังน่าละอายก็ไม่ผูกก็ได้


กระทู้: อยากเห็น "เงินผูกปี้"
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 09 ต.ค. 12, 09:58
วิธีผูกปี้เป็นดั่งนี้

 ;D


กระทู้: อยากเห็น "เงินผูกปี้"
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 09 ต.ค. 12, 10:29
^
"แล้วประทับตราของราชาการ" .... ตรงนี้เป็นที่มาของคำถามว่า เป็นตราอะไร ;)


กระทู้: อยากเห็น "เงินผูกปี้"
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 09 ต.ค. 12, 11:54
กระทู้เก่าของใคร ...

http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/12/K7358722/K7358722.html

http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/03/K7583938/K7583938.html



กระทู้: อยากเห็น "เงินผูกปี้"
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 09 ต.ค. 12, 11:58
กระทู้เก่าของใคร ...

http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/12/K7358722/K7358722.html

http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/03/K7583938/K7583938.html



ก็ต้้งไว้เองแหละครับ แต่มันคนละอย่างกันครับ นี่เป็น "ผูกปี้" สำหรับแรงงานคนตลอดจนรับเงินเข้าหลวง ส่วนลิงค์ที่ให้มาเป็น "ปี้กระเบื้อง" ไว้สำหรับเล่นการพนันครับ ต่างกันอย่างสิ้นเชิงขอรับลุงไก่


กระทู้: อยากเห็น "เงินผูกปี้"
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 09 ต.ค. 12, 12:58
เดิมชาวจีนได้รับการยกเว้นจากการเกณฑ์แรงงานในขณะที่ราษฎรไทยที่เป็นไพร่และชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่ในเมืองไทยต้องถูกสักข้อมือเป็นไพร่และต้องทำงานให้แก่มูลนายและพระเจ้าแผ่นดิน  รัฐบาลไทยในสมัยรัชกาลที่ ๒ เห็นควรที่จะได้ใช้ประโยชน์จากแรงงานจีน จึงได้พิจารณาเก็บเงินค่าราชการจากชาวจีน ๑ บาท ๕๐ สตางค์ ต่อ ๓ ปี   จีนที่มาเสียค่าแรงงานแล้ว จะได้รับใบฎีกาพร้อมกับได้รับการผูกปี้ข้อมือด้วยไหมสีแดงประทับตราด้วยครั่งเป็นตราประจำเมือง ซึ่งแตกต่างกันออกไป เช่น เมืองเพชรบุรีเป็นรูปหนู  กาญจนบุรีเป็นรูปบัว    

การผูกปี้ข้อมือจีนนี้ เริ่มขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๒ ได้เป็นประเพณีปฏิบัติสืบมาจนถึงสมัยรัชกาลที่ ๕ จึงมีพระราชบัญญัติลักษณะการผูกปี้ข้อมือจีน พ.ศ. ๒๔๔๓ ออกใช้บังคับทั่วทุกมณฑล และได้ยกเลิกไปในตอนปลายรัชกาลเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๑

ข้อมูลจาก เว็บของโรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ ๒ ฉะเชิงเทรา (http://www.ben2.ac.th/SET_1/DATA_1/E_LEARNING/data_el/Bangkok/BK3.htm)

 ;D


กระทู้: อยากเห็น "เงินผูกปี้"
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 09 ต.ค. 12, 13:41
^
นี่ซิ คุณเพ็ญฯ ของแท้ น่ารักมากมาย...แต่ที่กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ฯ ละครับ  ;D


ทั้งนี้สถานที่การกำหนดผูกปี้นั้นไม่แน่นอนในแต่ละรัชกาล

ในสมัยรัชกาลที่ ๔ โปรดเกล้าฯให้จัดทำขึ้นการผูกปี้ เสียเงิน ณ "พระคลังหลวง" ริมแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าพระบรมมหาราชวัง

ในสมัยรัชกาลที่ ๕ ก็โปรดเกล้าฯ ให้จัดทำการผูกปี้ตามท้องที่ ที่อำเภอ ที่โรงพักเป็นต้น


กระทู้: อยากเห็น "เงินผูกปี้"
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 09 ต.ค. 12, 15:01
พระราชบัญญัติลักษณะผูกปี้จีน รัตนโกสินทร์ ศก ๑๑๙ (http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2443/009/77.PDF)

พระบรมราชโองการ ประกาศ แก้ข้อความในพระราชบัญญัติลักษณะผูกปี้จีน รัตนโกสินทร ศก ๑๑๙ เฉพาะใช้ในมณฑลกรุงเทพ ฯ (http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2445/050/949.PDF)

 ;D


กระทู้: อยากเห็น "เงินผูกปี้"
เริ่มกระทู้โดย: mrpzone ที่ 09 ต.ค. 12, 23:05
พระราชบัญญัติลักษณะผูกปี้จีน รัตนโกสินทร์ ศก ๑๑๙ (http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2443/009/77.PDF)


พรบ.ผูกปี้จีน รศ.๑๑๙ มีโปรโมชันพิเศษด้วยนะขอรับ  ;)



กระทู้: อยากเห็น "เงินผูกปี้"
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 10 ต.ค. 12, 21:38
^
"แล้วประทับตราของราชาการ" .... ตรงนี้เป็นที่มาของคำถามว่า เป็นตราอะไร ;)

ผมสันนิษฐานว่าเป็นตราครุฑครับ


กระทู้: อยากเห็น "เงินผูกปี้"
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 19 ต.ค. 12, 11:24
... หน่วยงานที่รับผิดชอบในการผูกปี้คือกรมพระคลังสินค้า ร่วมกับกรมที่ปกครองพื้นที่ ตัวอย่างเช่นเมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งสังกัดกรมมหาดไทย ก็จะมีข้าหลวงจากกรมมหาดไทยและข้าหลวงจากกรมพระคลังสินค้าไปทำการผูกปี้ กรมการเมืองเจ้าของพื้นที่จะยื่นบัญชีคนจีนให้ข้าหลวง ในบัญชีจะมีทั้งคนจีนและบุตรภรรยาของเขา เมื่อคนจีนเสียเงินค่าผูกปี้แล้ว ข้าหลวงก็จะเอาเชือกป่านผูกข้อมือ เอาครั่งกลมแบนเหมือนเหรียญสลึงปิดตรงเงื่อนแล้วประทับตราที่ครั่งทั้ง ๒ ด้าน ด้านละตรา (ตรานี้จะเปลี่ยนไปทุกๆ ๓ ปี เพื่อป้องกันการทำตราปลอม รูปตราที่เคยใช้ก็มี ม้า, ดอกจันทร์, ปู, ผะอบ เป็นต้น) เสร็จแล้วทางการจะออกใบเสร็จให้กับผู้เสียเงินแล้ว
การที่ต้องผูกปี้ (ที่จริงเป็นครั่งกับเชือก) ก็เพื่อให้เห็นว่าจีนคนไหนเสียเงินแล้วหรือยัง

บุคคลที่ต้องเสียค่าผูกปี้คือคนจีน ทั้งที่อพยพเข้ามาและลูกหลานที่เกิดในเมืองไทย แต่ไม่รวมถึงภรรยาที่เป็นคนไทยเป็นส่วนใหญ่ จีนที่เข้ามาค้าขายก็ต้องเสียค่าผูกปี้ด้วย แต่ไม่ว่าจะเป็นประเภทใด อายุที่จัดว่าต้องผูกปี้คือ ๑๗ ปีเป็นต้นไป

คนอีกพวกหนึ่งซึ่งไม่ได้เป็นคนจีนแต่ถูกจับผูกปี้เช่นเดียวกับคนจีน คือคนไทยที่สูบฝิ่น (น่าจะเป็นสมัยรัชกาลที่ ๔)


ที่มา - เศรษฐกิจการเมืองไทย สมัยกรุงธนบุรีถึงสมัยรัชกาลที่สาม โดยสุวิทย์ ธีรศาตวัต

รูปตราที่ประทับลงบนปี้ คงจะใช้ตราสัญลักษณ์ของเมืองนั้นกระมัง ..


กระทู้: อยากเห็น "เงินผูกปี้"
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 19 ต.ค. 12, 11:47
ขอบคุณลุงไก่ครับ

ตอนผูกข้อมือ เอาครั่งหยดคงกระเด็นน่าดู  ;D


กระทู้: อยากเห็น "เงินผูกปี้"
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 19 ต.ค. 12, 12:12
ครั่งและตราประทับ

ภาพจาก พันทิป (http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2010/08/K9574086/K9574086.html)

 ;D


กระทู้: อยากเห็น "เงินผูกปี้"
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 19 ต.ค. 12, 18:16
ครั่งที่ใชัยึดปลายของเชือกก็คงจะเป็นลักษณะนี้ หยดครั่งที่ละลายเหมือนเทียนโดนไฟลงไปเป็นก้อน แล้วใช้ตราประทับกดลงไป ทิ้งให้เย็น เป็นอันเสร็จการ


กระทู้: อยากเห็น "เงินผูกปี้"
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 19 ต.ค. 12, 18:21
ส่วนครั่งที่ประทับตราผูกปี้ คงหายากมาก ผมคิดว่าคงจะเพราะมันเปราะแตกหักง่าย๑ และหลังจากใช้นานๆมันจึงสกปรกดูไร้คุณค่า๑ เจ้าของคงไม่อยากเก็บไว้อวดลูกหลาน

ส่วนตราครั่งข้างบนเป็นของล้านนา ไม่ใช่ตราผูกปี้ แต่เป็นตราประจำตำแหน่งของจ้าวนาย อย่างไรก็ดี ผมคิดว่ามันคงจะมีลักษณะเดียวกัน


กระทู้: อยากเห็น "เงินผูกปี้"
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 19 ต.ค. 12, 18:25
ตราครั่งที่มีมาก พอจะเล่นสะสมกันได้เป็นของอังกฤษยุควิกทอร์เรีย ใช้ประทับตราหนังสือราชการที่สำคัญ แต่ของไทยผมไม่เคยเห็นใครสะสมไว้ได้เหมือนกันครับ


กระทู้: อยากเห็น "เงินผูกปี้"
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 20 ต.ค. 12, 06:55


ตอนผูกข้อมือ เอาครั่งหยดคงกระเด็นน่าดู  ;D


ไปได้มาจากคลังกระทู้เก่าที่พันทิป แม้จะไม่ใช่ แต่ก็คงจะเป็นวิธีการคล้ายๆ กัน

http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2010/08/K9574086/K9574086.html





กระทู้: อยากเห็น "เงินผูกปี้"
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 25 ต.ค. 12, 13:31
Ernest Young เขียนไว้ในหนังสือ The Kingdom of The Yellow Robe  (http://www.archive.org/stream/kingdomyellowro02youngoog/kingdomyellowro02youngoog_djvu.txt) หน้า ๑๐ ว่า คนจีนจะไปผูกปี้และจ่ายเงินที่สถานีตำรวจ

As far as the casual observer can judge, in this capital of Siam there are no Siamese engaged in any hard manual labour at all. There are of course, many Siamese employed in various kinds of domestic or official work, but in the streets nearly every workman is Chinese.

There are nearly as many Chinese in the country as there are Siamese. They marry Siamese women, and their children make excellent subjects, as they possess both the natural brightness of the mother and the industry of the father.

Unless they renounce their own nationality they are subject to a poll-tax of about five or six shillings, payable once every four years. At a date made known by proclamation, each Chinaman must present himself at the police-station and pay the tax. The receipt given is a small piece of bee's-wax about the size of a three-penny piece. This bears a seal, and is worn on the wrist for a certain time, fastened by a piece of string.

The police are very busy at this time, as there is nothing the Siamese policeman so much enjoys as leading some unfortunate Chinaman to pay the tax. Should the seal be lost, the alien is bound to buy another as soon as he is requested by some officer of the law.

 ;D


กระทู้: อยากเห็น "เงินผูกปี้"
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 25 ต.ค. 12, 13:53
กำลังลังเลอยู่ว่าจะเอาลงที่นี่ หรือที่กระทู้ตำรวจดี คุณเพ็ญก็ได้ช่วยให้ตัดสินใจ

The Kingdom of The Yellow Robe

ปี พ.ศ. 2441 ( ค.ศ. 1898 ) นายเอิร์นเนสต์ ยัง ( Ernest Young ) ชาวอังกฤษ ผู้เคยพำนักในสยามหลายปี เขียนหนังสือเรื่อง " ราชอาณาจักรกาสาวพัตร์ " ( The Kingdom of The Yellow Robe ) ตีพิมพ์ในประเทศอังกฤษ ได้กล่าวถึงคนจีนในบางกอกตอนหนึ่งว่า

.. เท่าที่สังเกตุในเมืองหลวงของสยาม ไม่มีคนไทยทำงานหนักเลย ส่วนใหญ่ทำงานบ้าน หรือรับราชการ งานหนักตกกับคนจีนเป็นส่วนใหญ่ สยามมีคนจีนมากพอๆ กับคนไทย คนจีนนิยมแต่งงานกับสาวไทย ลูกจีนจึงได้รับหน้าตาที่งดงามจากมารดา รับนิสัยขยันจากบิดา ลูกจีนเหล่านี้หากไม่สละสัญชาติจีนแล้ว จะต้องเสียค่าช่วยราชการ ( poll Tax ) เช่นเดียวกับบิดา เป็นเงินประมาณ 5 หรือ 6 ชิลลิ่ง ( ของอังกฤษ ) โดยจ่ายทุก 4 ปี

..เมื่อถึงวันที่ราชการประกาศ คนจีนต่างมุ่งสู่สถานีตำรวจเพื่อชำระภาษี หลักฐานการชำระเงิน ใช้เชือกผูกข้อมือข้างใดข้างหนึ่ง ปลายเชือกติดด้วยครั่ง และประทับตราของราชการ ครั่งนี้มีรูปกลมแบน ขนาดเหรียญ 3 เพนนี ( ของอังกฤษ ) ช่วงเวลานี้ตำรวจไทยทำงานหนัก คอยตรวจจับคนจีนไปเสียภาษี หากผู้ใดทำครั่ง หรือเชือกที่ผูกข้อมือหลุดหาย จะต้องไปเสียค่าปรับและทำใหม่ มิฉนั้นจะมีความผิด

นายยัง ได้บรรยายถึงภาพลักษณ์ของตำรวจสยาม ( พลตระเวน หรือโปลิศ ) ในสมัยนั้นว่า ..ตำรวจส่วนใหญ่เป็นคนไทย แต่งตัวสง่าสู้บุรุษไปรษณีย์ไม่ได้ ตำรวจใช้เครื่องแบบสีน้ำเงิน ตั้งใจเลียนแบบตำรวจกรุงลอนดอน แต่ผ้าที่ใช้สีตก และหดตัวทำให้ดูแล้วตลก ตำรวจชอบถือร่ม ชอบถลกขากางเกงเหนือเข่า ไม่สวมรองเท้า สวมหมวกยู่ยี่ แม้ไม่มีบุคลิคน่าเกรงขาม แต่ก็ไม่ถูกต่อต้านจากผู้จับกุม มักเห็นตำรวจโทรมๆ เหล่านี้นำผู้ต้องหา 3 ถึง 4 คนเดินไปโรงพัก ให้ผูกข้อมือไพล่หลังด้วยผ้าเช็ดหน้า หรือผ้าพันคอของผู้ต้องหาเอง

( คนจีนในสยาม สมัยนั้นสังเกตุได้ง่ายว่าต่างจากคนไทย เพราะคนจีนไว้ผมเปียทุกคน เพิ่งมาเลิกหลังปี ค.ศ. 1911 หลังราชวงศ์ชิงถูกโค่นล้ม จีนเป็นสาธารณรัฐ )

** กล่าวเพิ่มเติม นายยังผู้นี้ได้เขียน ไว้ในบทนำของหนังสือข้างต้นว่า เขาเป็นเพื่อนกับนายโรเบิร์ต โมรันต์ ( Mr. Robert L. Morant ) ผู้ซึ่งเคยเป็นอาจารย์ใหญ่แห่งโรงเรียนราชกุมาร ภายในพระบรมมหาราชวัง ( Rajaku-mara School ) นายยังได้รับคำแนะนำ และคำวิจารณ์จากท่านผู้นี้ เรื่องการผูกปี้คนจีนในสยาม.........

การผูกปี้คนจีนในสยาม

.. การเก็บภาษีคนจีนในสยาม รัฐบาลสยามใช้วิธีผูกเชือกที่ข้อมือข้างหนึ่ง และตีด้วยครั่ง เรียกกันว่า " ผูกปี้ "
เดิมที คำว่า " ปี้ " มาจากภาษาจีน หมายถึง เงินเหรียญกลมแบน
ส่วนภาษาไทย ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน คำว่าปี้ หมายถึง กระเบื้องถ้วย หรือทองเหลือง หรือแก้ว ทำเป็นเครื่องหมาย สำหรับใช้แทนเงินในบ่อนเบี้ย และยังหมายถึง " ครั่งประทับตราที่ผูกข้อมือจีนครั้งก่อนเป็นสำคัญว่า ได้เสียค่าราชการแล้ว "

การเก็บภาษีโดยตรงจากคนจีน ที่อพยพทำมาหากินในสยาม เป็นรายหัว มีครั้งแรกตั้งแต่สมัย รัชกาลที่สาม แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยเก็บเงิน หนึ่งบาท สองสลึง ทุกๆ สามปี
.. ระหว่างปี พ.ศ. 2371 - 2452 ( ค.ศ. 1828 - 1909 ) เก็บภาษีคนจีน 3 ปีครั้ง กำหนดเป็นเงิน 4 บาทสลึง
การเก็บภาษี (ผูกปี้) จากคนจีนต่างกับ เงินช่วยราชการ จากชายฉกรรจ์ไทย เพราะคนจีนที่มาเมืองไทยไม่ถูกต้องเกณฑ์แรงงาน (ไม่ได้ถูกสักข้อมือเป็นไพร่ของชายไทย) ได้รับยกเว้นการรับใช้มูลนายเป็นส่วนตัว จึงประกอบอาชีพอิสระ มีอาชีพตั้งแต่กรรมกรใช้แรงงาน จนถึงฐานะสูงส่งเป็นถึงเจ้าสัว เถ้าแก่ เจ้าภาษีนายอากร

หลังจากสยามลงนาม ในสนธิสัญญาเบาริ่ง กับอังกฤษ เมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2398 ( ค.ศ. 1855 ) สยามค้าขายกับต่างประเทศอย่างเสรี มีเรือเดินสมุทร ระหว่างกรุงเทพฯ กับ เมืองซัวเถา ของจีนเป็นประจำ เป็นผลให้มีคนจีนอพยพ มาพำนักในสยามเพิ่มขึ้นทุกปี

ตลอดราชกาลที่ 4 และ 5 จนสิ้นสุดการผูกปี้ ในปี พ.ศ.2453 รัฐบาลไม่เคยขึ้นภาษีการผูกปี้เลย แม้ว่ารายได้จากภาษีประเภทนี้ จะไม่สูงนัก แต่รัฐบาลสยามต้องพึ่งแรงงานจีนเพื่อพัฒนาประเทศ รัฐเก็บภาษีทางอ้อมจากคนจีน ที่เพิ่มจำนวนสูงขึ้นทุกปี เช่น จากภาษีฝิ่น ภาษีบ่อนการพนัน ภาษีสุรา อบายมุขเหล่านี้ จูงใจให้กรรมกรจีน (กุลี) อุดหนุนเป็นส่วนใหญ่ ทำรายได้ให้รัฐมากกว่าเงินจากผูกปี้

โดย : นายแพทย์พิพัฒน์ ชูวรเวชที่มา : วารสารตราไปรษณียากร