เรือนไทย

General Category => ระเบียงกวี => ข้อความที่เริ่มโดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 10, 10:47



กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 10, 10:47
       เมื่อวันอังคารที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๓ เป็นวันครบรอบ ๑๗ ปีของคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน วิทยาเขตจึงจัดงานฉลอง  และในช่วงเย็นได้เชิญกวีจากสโมสรสยามวรรณศิลป์ร่วมกับศิลปินจากสำนักการสังคีต กรมศิลปากร  ให้ไปร่วมแสดงสักวาออกตัวเรื่องอิเหนา ตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา  ปรากฏว่าได้รับความสำเร็จเป็นอย่างมาก  เพราะมีผู้เข้าชนเต็มหอประชุมซึ่งกว้างใหญ่มากและปักหลักชม-ฟัง-ทั้งหัวเราะและ-ปรบมือกันตลอดเวลากว่า ๒ ชั่วโมงครึ่ง
   นักสักวานำโดย
         - ประยอม ซองทอง ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ อดีตนายกสโมสรฯ
          - พร้อมด้วย ผศ.มะเนาะ ยูเด็น อดีตคณบดี ๔ สมัยของคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี 
          - รศ.วันเนาว์ ยูเด็น อดีตหัวหน้าภาควิชาภาษาไทย คณะและมหาวิทยาลัยเดียวกัน
          - อำพล  สุวรรณธาดา อดีตผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและมหาวิทยาลัยรังสิต
          - หม่อมราชวงศ์อรฉัตร ซองทอง ผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
          - รศ.นภาลัย สุวรรณธาดา อดีตผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยสุโขทัย-ธรรมาธิราช
          - เอนก แจ่มขำ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนหลายแห่ง แห่งสำนักการศึกษา(กทม)และอดีตนายกสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย 
          -อดุล จันทรศักดิ์ ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์   และหัวหน้าคณะตุลาการศาลปกครอง 
          - รศ.ดร.คุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ นักเขียนผู้โด่งดังในนามปากกา ว.วินิจฉัยกุล-แก้วเก้า
           - และผศ.ดร.ญาดา  อารัมภีร อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ลาออกก่อนเกษียณมาเป็นข้าราชการบำนาญ ปัจจุบันสนุกสนานด้วยการเป็นนักจัดรายการ-พิธีกรและคอลัมนิสต์
   


กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 10, 10:50
        วงดนตรีไทยจากสำนักการสังคึต  ควบคุมการบรรเลงขับร้องโดยสมชาย ทับพร นักร้องเสียงดีและลีลาเลิศ ตามมาด้วยกำจรเดช สดแสงจันทร์ กัญจนปกรณ์ แสดงหาญ สุกัญญา กุลวราภรณ์และภมรรัตน์ โพธิสัตย์ ส่วนนักดนตรีผู้ปิดทองหลังพระ ขอบันทึกรำลึกถึง ประกอบด้วยสุรสิทธิ์ เขาสถิตย์ เผชิญ กองโชค สุราช ใหญ่สูงเนิน กิติศักดิ์ เขาสถิตย์ ธวัชชัย ศรีชูเปี่ยม ปิยะ แสวงทรัพย์ และสุภรณ์ งิ่มวงษ์
        ส่วนนาฏศิลปินซึ่งควบคุมการแสดงโดยวันทนีย์ ม่วงบุญ นั้น  ขอขยักนามดาราเด่นดังไว้ขยายความตอนออกมารำตามบทซึ่งกวีแต่งให้ใหม่ ไม่ซ้ำกับพระราชนิพนธ์ฉบับใด
       ด้วยเป็นสักวาออกตัว  คนที่รู้เรื่องการแสดงทางนาฏศิลป์อย่าง ผอ.ศูนย์วัฒนธรรม(มธบ.)จึงต้องรับหน้าที่ดำเนินรายการ เริ่มด้วยให้นักกลอนแนะนำตัวเอง เริ่มจากผู้มาดูโลกนานกว่าทุกคน (ซี่งผู้บันทึกขอเรียงตามวัย)ดังนี้
        “จบอักษรฯชอบเขียนกลอน-สอนหนังสือ  
        ไปทำสื่อประชาสัมพันธ์งานภาษา
        เป็นอดีตนายกฯนักเขียน-สมาชิกวุฒิสภา  
        รับว่าสักวาทั่วราชอาณาจักรเพราะรักภาษาไทยเอย”( ประยอมครับ ฮา-ปรบมือ)
  
       ตามด้วย
  
         “ชื่ออำพลคนอำชอบทำเรื่อง
        ล้อการเมืองนามฮิตว่า “ทิดก้อน
        -อินคำ”ต่อท้ายชื่อลือขจร
        เขียนแต่กลอนเสียดสี(ดีคนเดียว)..(เว้นวรรคนิดหนึ่ง)..เอย”(ฮา-ปรบมือ)  


กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 10, 11:05
ถัดมา
     “ชื่อมะเนาะเพราะมากไม่อยากเปลี่ยน (ฮา)
     บางคนเขียนว่า “มา”เห็นน่าขำ
      ผมดักคอขอร้องอย่างลองทำ 
     เดี๋ยว”ห-นำ”ไม่เหมาะไม่เพราะนะ(ฮา) 

      นามสกุล “ยูเด็น”เป็น น-หนู 
      เขียนให้ดูเป๊ะเป๊ะอยู่เปะปะ 
      คงได้ยินได้ฟังมั่งละวะ 
      รู้นะจ๊ะว่ามาจากตานี”(ฮา-ปรบมือ) 

 ส่วนอาจารย์หญิงที่มาจากบ้านเดียวกันแนะนำตัวว่า
       “ชื่อวันเนาว์ศิษย์เก่าเกษตรศาตร์ (วงเล็บตอนทำปริญญาโท)
       พอสามารถอยู่บ้างทางการสอน
       แต่วันนี้ที่ใช้ให้เขียนกลอน 
       รู้ร้อนร้อนหนาวหนาวแล้วคราวนี้ 

      ไหนไหนก็ก้าวล้ำกำแพงแสน
      มาถึงแดนศิวิไลซ์ไหนจะหนี 
      สู้หลีกร้อนร่อนมาจากตานี 
      สวัสดีค่ะ..ดิฉันชื่อวันเนาว์”(ฮา-ปรบมือ)


กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 06 ก.ย. 10, 11:50
อ้างถึง
รับว่าสักวาทั่วราชอาณาจักรเพราะรักภาษาไทยเอย

เพราะท่านเป็นระดับบรมครู จึงกล้าบอกกลอนบาทสุดท้ายถึงขนาดนี้

แต่ถ้าเป็นนักกลอนระดับประถม
คงถูกไล่ให้กลับไปช้อนลูกน้ำ


กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: CVT ที่ 06 ก.ย. 10, 11:57
ขอแจมด้วยรูปถ่ายเมื่อตุลาคมปีที่แล้วครับ

(http://upic.me/i/jr/img_7049.jpg)


กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 10, 12:30
ขอบคุณค่ะคุณหมอ CVT   ดิฉันจะไปค้นรูปดูก่อนว่าเรื่องสักวา มีใครถ่ายเอาไว้หรือเปล่า

อ้างถึง
รับว่าสักวาทั่วราชอาณาจักรเพราะรักภาษาไทยเอย

เพราะท่านเป็นระดับบรมครู จึงกล้าบอกกลอนบาทสุดท้ายถึงขนาดนี้

แต่ถ้าเป็นนักกลอนระดับประถม
คงถูกไล่ให้กลับไปช้อนลูกน้ำ


ถ้าท่านกูรูใหญ่กว่า ขึ้นเวที  จะเจอคำแนะนำยังไงดีนะ  ช่วยกันหน่อย

เห็นคอมเม้นท์แล้วอดรนทนไม่ได้
ใคร่แนะนำกูรูใหญ่ให้กันบ้าง
ท่านไล่ช้อนลูกน้ำตามรายทาง
ในมหาสมุทรกว้าง  สี่มหากาพย์ ทราบกันเอย


กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 06 ก.ย. 10, 13:56
โดนเลย ..โดน


กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 10, 15:06
จากนั้นก็เป็นผู้ดำเนินรายการ (หมายถึงม.ร.ว.อรฉัตร ซองทอง)

            “จบจุฬาฯจากคณะอักษรศาสตร์
     รับใช้ชาติศาสน์กษัตริย์การศึกษา
     สืบศิลปวัฒนธรรมนำชีวา
     รักร้อยกรองนานาและนาฎการ”(ปรบมือ)

ตามมาด้วย
           “นภาลัยวัยเพชรหกสิบเจ็ดกะรัต(ฮา)
           ยังทำงานสารพัดไม่ยอมเกษียณ  
           ตอนเด็กเด็กรักสักวามากกว่าเรียน
           เขียนกลอนเนียนเพราะมีครูชื่อปู่ประยอม”(ฮา-ปรบมือ)

           ส่วนหนุ่มร่างบอบบางน้ำหนักว่า ๘๐ ก.ก.บอกว่า
           “สระเอ-อยู่ข้างหน้าชื่อเอนก  
            เรียนจบเอกบริหารการศึกษา  
           คลุกคลีวงกลอนกานท์เนิ่นนานมา  
           เกษียณแล้วไม่เลิกราจากวงการ  
          
           เป็นคนกรุงโดยกำเนิดเกิดพระโขนง  
           มีบ้านอยู่สำโรงซอยวัดด่าน  
           อุปนิสัยรักสงบไม่คบพาล
           สุราหารของมึนเมา..(เว้นวรรคนิดๆ)..ยังเอาครับ”(ฮา-ปรบมือ)  


กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 10, 15:12
      ตามมาด้วย
               “ชื่อว่าอดุล จันทรศักดิ์  
               งานยุ่งนักจนนึกว่ามาไม่ได้  
               แต่ถ้าถามว่าแล้วมาทำไม  
               จะตอบว่ามาเพราะใจสั่งให้มา (ฮือ)  

               มาเกษตรกำแพงแสนครั้งที่สอง  
               รักเรียกร้องหัวใจให้มาหา(ฮิ้ว)  
               ประวัติคือเรียนจบจากจุฬา  
               อายุหกสิบห้า..เป็นตุลาการศาลปกครอง”(ปรบมือ)  

        ตามด้วยผู้มีวัยถัดมา
              “ทำงานอยู่หลายอย่างต่างต่างชื่อ  
              ด้านหนังสือเป็นครูสอนวอนให้อ่าน
              ทั้งเขียนแปลวรรณกรรมทำมานาน
              ในวงการพอจะชินได้ยินกัน
            
              เอ่ยชื่อจริงคนฟังนั่งเฉยเฉย (ฮา)
              แต่พอเอ่ย“แก้วเก้า”เข้าใจนั่น
              ชื่อว.วินิจฉัยกุลคุ้นหูพลัน
             ชื่อจริงนั้น วินิตา ดิถียนต์” (ปรบมือดัง)  

     ส่วนน้องนุชสุดท้องบอกว่า
           “เกษียณแล้วหน้าเด้งดีไม่มีเหี่ยว  
           ได้เลี้ยงเหมียวสุขีอยู่ที่บ้าน  
           จากสอนเกษตรบางเขนเป็นอาจารย์
           จัดรายการวิทยุแสนสุขใจ

          เป็นนักร้องชื่อญาดา อารัมภีร  
          แฟนคลับมีนับไม่ถ้วนล้วนผู้ใหญ่  
          อ่านบทกวี-เขียนต่วย’ตูน-สกุลไทย  
          ว่างเมื่อไหร่แข่งโบว์ลิ่งชิงถ้วยเอย”(ฮา-ปรบมือ)


กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 10, 16:05
        เนื่องจากเป็นวันครบรอบวันเกิดคณะ รศ.ดร.คุญหญิงวินิตา ดิถียนต์ได้เก็บข้อมูลต่างๆมาร้อยกรองเป็นบทอวยพรพิเศษ  เมื่อคุณสุกัญญา กุลวราภรณ์ขับร้องด้วยทำนองสร้อยสนตัดอันคุ้นหู ก็หวานซาบซึ้งเรียกเสียงปรบมือจากผู้ชม-ฟังเต็มหอประชุมได้กึกก้องยาวนาน
              “สักวาวันครบบรรจบรอบ  
              สิบเจ็ดปีประกอบด้วยศักดิ์ศรี
              ศิลปศาสตร์ประกาศนามคุณความดี  
              สีเทาเงินแดนนนทรีให้ลือชา

              ชัยพฤกษ์งามละออเป็นช่อช้อย  
              ดังมาลัยประดับพลอยร้อยคุณค่า  
              พระพิรุณอวยชัยให้วิทยา  
              จนเกริกก้องพสุธาเป็นนิจเอย”
              
             เริ่มสักวาจริงๆด้วยผู้ที่ถูกอ้างว่าเป็นหัวหน้ากลุ่มเป็นผู้ไหว้ครูดังนี้

             ”น้อมบังคมบรมครูผู้ศักดิ์สิทธิ์
             กราบพระร่วงโรจนฤทธิ์โรจน์รังสี  
             คารวะพระปฐมเจดีย์  
             กราบปูชนีย์กำแพงแสนทั่วแดนดิน

             ขอเดชะพระพิรุณหนุนฝนฟ้า  
             โปรยธาราเกษตรสถานสานทรัพย์สิน  
             ขอพระคุณบุญญาพระนวมินทร์  
             ดลทุกวรรควรรณศิลป์กินใจเทอญ”  -ปรบมือ

              บทนี้คุณสมชาย ทับพร นักร้องชั้นครูขับร้องด้วยเพลงครอบจักรวาลอันมีท่วงทำนองและลีลาไพเราะเคร่งขรึมสมศักดิ์เพลงไหว้ครูเฉกเช่นเทวาประสิทธิ์ หรือพระทองหรือขึ้นพลับพลาฯลฯ

(รออ่านต่อ ตอน 2 ค่ะ)


กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 10, 16:14
ขอหมายเหตุว่า   คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์  มีสีเทาเงินเป็นสีคณะ  ต้นไม้ประจำคณะคือต้นชัยพฤกษ์   ส่วนนนทรีเป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย


กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.ย. 10, 13:43
รูปนักเล่นสักวา ค่ะ


กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.ย. 10, 13:48
สักวาแบบที่บนเวทีมีตัวแสดงมารำประกอบ พร้อมดนตรีไทยเดิมมาเล่นและร้องกันสดๆ   เรียกว่า "สักวาออกตัว"     ถ้าไม่มีออกตัวก็เป็นเล่นสักวาเฉยๆ
นำรูปนักแสดงดังๆของกรมศิลปากร มาให้ดูเป็นตัวอย่าง


กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: nz ที่ 13 ก.ย. 10, 01:30
บังเอิญมีโอกาสได้ไปชมด้วย ขอเอาภาพมาช่วยแจมครับ

(http://img101.imageshack.us/img101/8598/27356011.jpg)


กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ก.ย. 10, 08:02
มีสมาชิกเรือนไทยไปดูด้วยหรือนี่่  :o
ขอบคุณสำหรับภาพประกอบค่ะ  ชัดกว่าของดิฉันมาก

อยากจะต่อกระทู้ก็ยังต่อไม่ได้   สคริปต์ยังไม่มาค่ะ  ต้องรอท่านสุดสงวนส่งมาให้ก่อน


กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ก.ย. 10, 21:44
เมื่อไหว้ครูแล้ว อดีตนายกสมาคมนักกลอน คุณเอนก แจ่มขำก็ทำหน้าที่เกริ่นชวนแทนฝ่ายชาย แล้ว คุณกัญจนปกรณ์ แสดงหาญ ก็ขับร้องด้วยเพลง คู่ถนอมนวลซึ่งมีทำนองไพเราะอ่อนหวานลีลาออดอ้อนน่ารัก ดังนี้
   “สักวามาเกษตรกำแพงแสน
    สู่ดินแดนพืชพันธุ์ธัญญาหาร
        พบห้าสาวชื่อกระฉ่อนเชิงกลอนกานท์
     สวยคราญอายุยาว(ลากเสียงยาว...ฮา)กว่าสาวใด 

    เชิญร่วมรักษ์(เสียงเงียบกริบ จึงอธิบายว่า “มีสอฤาษีการันต์ด้วยนะครับ”.ฮา...)สักวากับห้าหนุ่ม
        ร่วมชุมนุมเชิงกวีศรีสมัย
     เชิญวันเนาว์เชิญวินิตา,ญาดาไวไว
        เชิญนภาลัยเชิญอรฉัตรอย่าขัดเอย” (ปรบมือ)
   
        ถูกแหย่ดังนั้น รศ.วันเนาว์ ยูเด็น จึงไว้ลายอาจารย์ภาษาไทยดีเด่นระดับอุดมศึกษาจากมอ.ว่า
        “สักรวามาทั้งกลุ่มหนุ่มแก่แก่ (ฮา)
        ยังเย้าแหย่กันอยู่ไม่รู้หาย
      ตั้งแต่ครั้งยังสาวจนคราวยาย (ฮา)
           
          ชวนให้ร่ายเพลงรักสักรวา
 
           ปากคอยังจัดจ้านหวานหรือขม
          ยังคารมซื่อบื้อหรือหวือหวา (ฮา)
           เราสาวน้อยล้วนยังชั่งเจรจา
           เชิญว่ามาถ้าชอบจะตอบเอย” (ปรบมือ)

        บทนี้คุณภมรรัตน์ โพธิสัตย์ ขับร้องด้วยเสียงนุ่มนวลไพเราะในทำนองสะสมชวนติดตามต่อไปเร็วๆ
   จากนั้นจึงเป็นบทแจกตัวขอนคบ้านเดียวกัน  แต่ต่างก็เคยได้รับยกย่องเป็นอาจารย์ภาษาไทยดีเด่นระดับอุดมศึกษามาแล้ว  แม้จะต่างมหาวิทยาลัยที่ต่างคนต่างสังกัด  บทแรกอาจารย์อำพล สุวรรณธาดา แจกตัวฝ่ายชาย ให้ครูสมชาย ทับพรขับเสภา ดังนี้
    “สักวาวันนี้ว่าเรื่องอิเหนา
     มีชัยศึกแล้วเข้าเฝ้าท้าวดาหา
      เอนกเล่นเป็นสังคามาระตา
     จรกาและสียะตรามอบมะเนาะ

      ดาหาเฒ่าให้ประยอมคงยอมเฒ่า (ฮา)
         บทอิเหนาหนุมอดุลรุ่นกะเตาะ (ฮา) 
        ส่วนอำพลแจกหมดตัวนั่งหัวเราะ(ฮือ)
        เหลือจำเพาะบทส่าสำ..จำใจเอย”(ฮา-ปรบมือ)


กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ก.ย. 10, 21:47
          ส่วนรศ.นภาลัย สุวรรณธาดา  ผู้ได้รับยกย่องจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติเป็นครูกวีศรีสุนทรในวันสุนทรภู่เมื่อ ๒ ปีก่อน (๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๑) แจกตัวฝ่ายหญิงให้คุณภมรรัตน์ขับเสภาด้วยเสียงเจื้อยแจ้วจับใจไม่แพ้ครูสมชายเหมือนกัน
   “สักวาแจกตัวมั่วมั่วต่อ
      วันเนาว์ขอบทเท่มะเดหวี
      คุณหญิงวินิตารับพาที
        เป็นประไหมสุหรีศรีมารดา

    ญาดาเป็นบุษบาหน้าใสใส
     นภาลัยพี่เลี้ยงสาวคราวคุณย่า(ฮา)
       ส่วนคุณหญิงอรฉัตรจัดสักวา
    รับบทลาและกำนัลประชันเอย”(ปรบมือ)

   มีแต่บทกลอนและบทร้องมาหลายบท ต่อไปนี้เริ่มเป็นบทที่มีรำ  โดยฉากที่ ๑ เป็นที่ประทับของท้าวดาหา เมื่ออดีตนายกสมาคมนักเขียนฯเริ่มบทท้าวดาหาให้คุณกัยจนปกรณ์ขับร้องด้วยเพลงศรีวิชัย คุณวัชรวัน ธนะพัฒน์(ท้าวดาหา) คุณคมสัณฐ หัวเมืองลาด(ประไหมสุหรี) คุณหัสดินทร์ ปานประสิทธิ์(สียะตรา) ก็รำออกมาประทับที่แท่นประทับ  โดยมีคุณปกรณ์ พรพิสุทธิ์ดาราเงินล้านยอดนิยมของกรมศิลปากรในบทอิเหนา และคุณฉันทวัฒน์ ชูแหวนในบทสังคามาระตาก็ออกมาด้านขวาของเวที
         “สักวาดาหาเหม็นหน้าอิเหนา
         เป็นหลานเราเผ่าอสัญแดหวา
         ดันเทใจให้ฮวยเซ็งแห่งกัมพูชา (ฮา)
         แม้ลาออกจากที่ปรึกษาก็แคลงใจ (ฮา)
   
         สียะตราเจ้าจงไปกราบไหว้พี่
      บารมีเขาท่วมท้นล้นยิ่งใหญ่
       ไม่มีเขาราชประสงค์คงท่วมไฟ (ฮา)
        ต้องอาศัยวัดปทุมอย่ากลุ้มเอย” (ฮา – ปรบมือ)

         แล้วตามมาด้วย ผศ.มะเนาะ ยูเด็น ในบทสียะตรา ซึ่งคุณกำจรเดช สดแสงจันทร์ขับร้องในเพลงสะมะรัง ให้คุณหัสดินทร์ ปานประสิทธิ์ รำในบทสียะตรา
         “สักรวาสียะตรายินป๋าสั่ง (ฮา)
         จ้องจังงังความหล่อจนคอหมุน
      อิเหนาหนอหล่อดีเหมือนพี่อดุล(ฮาฮิ้ว)
        ใหญ่ทั้งทุนทั้งอำนาจเกินคาดคิด

      รวมสามงามก็สามชื่อบันลือโลก
        ศิริโชค-สนธิ-อภิสิทธิ์ (ฮาฮิ้ว)
        เสียงนุ่มนวลชวนช้าปนสาธิต(ฮา)
        เทพให้กริชเทวดานะป๋าเอย (ฮา-ปรบมือ)


กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ก.ย. 10, 21:50
       ตามมาด้วยบทประไหมสุหรี ซึ่งรศ.ดร.คุณหญิงวินิตา ดิถียนต์หรือ ว.วินิจฉัยกุลหรือ แก้วเก้านักเขียนยอดนิยมนิสิตเก่าดีเด่นคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯปี.๒๕๔๔ ออกอารมณ์หมั่นไส้ต่อว่าหลานชายคู่หมั้นของพระธิดา
        “สักวานายหญิงใหญ่ประไหมสุหรี
     เห็นระเด่นมนตรีก็หมั่นไส้
      อดไม่อยู่ขอเหน็บด้วยเจ็บใจ
       ช่างทิ้งคู่หมั้นไปไม่ไยดี

     ทักท่านที่ปรึกษาวางท่าใหญ่(ฮา)
       ไม่น่าถูกเขาไล่ต้องเผ่นหนี
       เสร็จธุระเข้าดาหาเยือนธานี
    กลับดูไบไปเสียทีดีไหมเอย(ฮาดัง-ปรบมือ)

        บทนี้คุณสุกัญญา กุลวราภรณ์นักร้องเสียงสดใสไพเราะขับร้องในเพลงสดายงแปลงซึ่งมีลีลาแปลก และทำนองไพเราะยิ่งอีกเพลงหนึ่ง
   
       อิเหนาถูกประชดประชันเชิงต่อว่าเสียจากอาชายอาหญิงหลายประโยค  คุณอดุล จันทรศักดิ์ก็ไว้ลายอดีตประธานวรรณศิลป์ –อดีตสาราณียกรสโมสรนิสิตจุฬาฯ(ส.จ.ม.) ให้คุณสมชายขับร้องเพลงทำนองสำเนียงไม่แปลกหู แขกมุมไบ ให้คุณปกรณ์ พรพิสุทธิ์ นาฏศิลปินชั้นครูซึ่งเพิ่งได้รับมอบจากครูนาฏศิลป์ให้เป็นครูผู้ประกอบพิธีประสิทธิ์ประสาทวิชาแก่ศิษย์นาฏศิลป์สืบไป  รำเรียกความชุ่มหัวใจให้แม่ยกเสียที
   
      “สักวาอิเหนารู้เท่าทัน
    กราบทูลว่าเมืองหม่อมฉันอยู่หมันหยา
    แต่หม่อมฉันมีคดีที่ดินรัชดา (ฮาฮิ้วดังระเบิด) 
      จึงต้องมาพึ่งพิงเพื่อสี้ภัย

    แล้วกอดแล้วอุ้มสียะตรามานั่งตัก
    น้องเป็นชายยังน่ารักยังหน้าใส
    บุษบาผู้พี่สาวสวยคราวใคร
     จงเติมคำเอาเองในช่องว่างเอย”(ฮา-ปรบมือ)

   เห็นท่าไม่ดีอดีตนายกสมาคมนิสิตเก่าอักษรศาสตร์ จุฬาฯและนิสิตเก่าดีเด่นปี ๒๕๓๘ ก็รีบออกกลอนให้คุณกัญจนปกรณ์ แสดงหาญขับร้องเพลงสร้อยพระยาตานี(ตัด) สำเนียงแขกที่มีลีลาสนุกสนานและทำนองไพเราะอีกเพลง ให้คุณคุณวัชรวัน ธนะพัฒน์ รำในบทท้าวดาหา
     
      “สักวาดาหาเห็นท่าอิเหนา
    ทำหล่อเหลาเหมือนนายกฯเมืองสยาม (ฮาเบาๆ) 
       ยิ่งกอดรัดสียะตราท่าไม่งาม
     เกรงลวนลามลูกชายให้ราคี

    เตือนกำนัลให้ไปตามบุษบา
      จงมาไหว้พี่ยาสัมภเวสี(ฮาดัง)
      แล้วไล่ส่งสู่ดูไบในพรุ่งนี้
   อย่าให้มีเวรต่อกันและกันเลยเอย” (ฮา-ปรบมือ)


กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ก.ย. 10, 21:53
          บัณฑิตอักษรศาสตร์รุ่น ๒๗ ผู้เพิ่งรับเข็มนิสิตเก่าดีเด่นอักษรศาสตร์ปี ๒๕๕๓ ที่สารภาพว่ารักนาฏการจนตั้งโรงเรียนราชทัศน์นาฏศิลป์ซึ่งเคยรำบทอิเหนามานับครั้งไม่ถ้วน  วันนี้ต้องแต่งบทนางกำนัลให้ศิลปินอาวุโสผู้น่ารัก คุณถนอม นวลอนันต์ ผู้เรียกตัวเองว่าเป็น “ศิลปินแห่งโรงละครแห่งชาติ” รำตามบทที่คุณภมรรัตน์ โพธิสัตย์ ขับร้องในทำนองแขกต่อยหม้อ ๒ ชั้น ดังนี้
          “สักรวามองดูผู้มาเฝ้า
       เห็นอิเหนาเหมือนจะเด็ดคนแซ่หลี(แล้วก็ออกตัวว่านี่ว่าตามบทของจะเด็ดนะ...ฮา)   
          เพิ่งได้รับมอบเป็นผู้มอบประกอบพิธี
      ไหว้ครูนาฏศิลปีด้วยปรีชา

    แม้นละม้ายคล้ายปกรณ์ พรพิสุทธิ์(ผู้ฟังปรบมือให้เกียรติด้วยความชื่นชม)
         ชาญเชิงยุทธเยี่ยงพระรามงามสง่า   (แสดงว่าเป็นแฟนขาประจำผู้รู้เรื่องละครกรมศิลป์อย่างช่ำชองไม่ว่าดาราคนไหนเล่นบทไหนจนโด่งดัง)
        หน้าก็เหลี่ยมตาก็ตี่มีราคา (ฮา)
        จะไปทูลพระธิดาบุษบาเอย”(ปรบมือ)

         คุณถนอม นวลอนันต์มีการเล่นบทเจรจากับผู้แต่งบทพอสมควร แล้วรำเข้าโรง  ตัวละครอื่นค่อยรำตามเข้าโรงเป็นอันว่าจบฉากที่หนึ่ง

        (ยังมีต่อ)
 


กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ก.ย. 10, 05:23
เปิดฉากที่ ๒ มีเตียงสำหรับนั่งสองคน  คนละมุมกับฉากแรก สมมติว่าเป็นตำหนักของบุษบา  คุณมณีรัตน์ มุ่งดีในบทของบุษบา เดินออกมานั่งบนเตียง  นางกำนัล(คุณถนอม นวลอนันต์ ศิลปินอาวุโส)เดินตามออกมาทูลว่า  ท้าวดาหามีรับสั่งให้เข้าเฝ้า ดังบทของคุณหญิงอรฉัตรท้ายตอนที่แล้ว    แล้วดร.ญาดา อารัมภีร อาจารย์สาวผู้รักตึกเทวาลัยมาก เพราะไม่ยอมย้ายไปเรียนอักษรศาสตร์ที่สถาบันอื่นเสียบ้างทั้งปริญาตรี-โท-เอก  ก่อนจะไปสอนวิชาวรรณคดีที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์บางเขน ว่าบทบุษบาให้คุณสุกัญญา กุลวราภรณ์ ขับร้องในทำนองทำนองกุหลาบมาเลย์ อันสนุกสนาน ให้คุณมณีรัตน์ มุ่งดี รำได้น่ารัก
                         “ สักวาสาวหุ้มทองจันทร์ส่องหล้า 
            บุษบากระเป๋าหนักพรรคคอยไถ 
           ร่วงหลายเส้นขนหน้าแข้งแพงเกินไป
           วิธีใหม่งานไม่เดินเงินไม่มา 

                          เห็นกำนัลวิ่งหน้าตั้งทั้งลนลาน 
                         รู้ภูบาลบิตุรงค์ทรงเรียกหา 
                          บอกพี่เลี้ยงหนุ่มมือสองไม่ต้องตา 
                          แค้นขอหย่ามาแล้วขอแจวเอย”(ฮา-ปรบมือ)


กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ก.ย. 10, 05:28
      ขณะที่บุษบาตะขิดตะขวงใจอยู่นั้น รศ.นภาลัย สุรรณธาดาอดีตประธานวรรณศิลป์จุฬาฯคนที่สามก็ว่าบทพี่เลี้ยง  ให้คุณภมรรัตน์ โพธิ์สัตย์ขับร้องด้วยเพลงแขกอะหวัง ๒ ชั้น  ให้คุณอัญชลิกา หนอสิงหา รำในบทที่ว่า
      “สักวาพี่เลี้ยงเคียงประโลม
      จงแต่งโฉมให้ขาวสวยหมวยเกาหลี (ตรงนี้คุณอัยชลิกาทำท่าแอ๊บแบ๊วแบบหมวยเกาหลี เรียกเสียงปรบมือและฮาดัง)
      แม้อิเหนาเห็นน้องผ่องโสภี
     คงตะลึงอึ้งกิมกี่ซี้บุษบา

      ชายเจ้าชู้ต้องเจอไทเกอร์วู้ด (ฮาดัง)
       เมียไม่พูดแต่ฟ้องศาลฟันดอลล่าร์
      รีบไปพบสยบชายด้วยสายตา
       ก่อนเข้าลาจากเขมรเผ่นหนีเอย” (ฮา –ปรบมือ)
   
         ฝ่ายมะเดหวีซึ่งคงนั่งอยู่ต่อจากฉากแรก  เห็นว่าบุษบายังไม่ออกมาเฝ้า  รศ.วันเนาว์ ยูเด็นอดีตอาจารย์ภาษาไทยดีเด่นระดับอุดมศึกษา   และเป็นหนึ่งในผู้ได้รับยกย่องเป็นผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่นในวันภาษาไทยแห่งชาติปีนี้ ก็ร่ายบท ให้คุณสุกัญญา กุลวราภรณ์ขับร้องในทำนองยะวาเก่าให้คุณวลัยพร กระทุ่มเขตร่ายรำตามบทว่า “
           สักรวามะเดหวีขี้สงสัย
           บุษบาช้าไยไม่เข้าเฝ้า
           ขอไปตามถามดูให้รู้เค้า
หรือมัวเข้าเฟซบุ๊คขลุกกับใคร (ฮา –ช่างทันสมัยเสียจริง ว่าแส้วคุณวลัยพรก็รำไปด้านที่บุษบานั่ง  พลางนั่งลงปราศรัยด้วย)

           บุษบาอย่าชิงชังจงฟังแม่
           จะมัวแต่โกรธขึ้งไปถึงไหน
          ชื่อว่ากริชของอิเหนาเขาลือไกล
           เสียดายไหมให้เขาเอาไปเอย” (ปรบมือ)
   
             เมื่อบุษบาได้ยินคำปลอบ  แต่ยังน้อยใจและงอนไม่หาย ดร.ญาดา อารัมภีรนักอ่านทำนองเสนาะเสียงทอง จึงบ่นต่อไปว่า
             “สักวาบ่นไม่หยุดบุษบา
             เอือมระอาอิเหนาชั่วมั่วเหลือหลาย
             แจกเงินกิ๊กจิ๊กจากเมียไม่เสียดาย
            กิ๊กเก่าใหม่มากมายคล้ายฝูงลิง (ฮา) 

            ชังน้ำหน้ากว่าใครไม่อยากพบ
            คิดเลี่ยงหลบรับสั่งยังเกรงกริ่ง
            ขัดบัญชาชนกนาถอาจติติง
            ถึงชังชิงก็จำใจไปเฝ้าเอย”
   
               บทนี้คุณภมรรัตน์ โพธิ์สัตย์ขับร้องด้วยเพลงแขกหนังชั้นเดียวให้คุณมณีรัตน์ มุ่งดี รำตามบท  แล้วทั้งมะเดหวีและบุษบาก็รำตามกัน เพื่อจะไปเฝ้าท้าวดาหา  พี่เลี้ยงและนางกำนัลก็ตามไป


กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: sirinawadee ที่ 02 ต.ค. 10, 09:44
ขออนุญาตกระซิบว่ายังตามอ่านอยู่นะคะ  :)


กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ต.ค. 10, 11:43
ขอบคุณค่ะ    ;D

ฉากที่ ๓ ที่ประทับท้าวดาหา มีประไหมสุหรี มะเดหวี นั่งอยู่บนแท่นด้านหนึ่ง และใกล้นั้น มีอิเหนา และสังคามาระตานั่งอยู่อีกแท่นหนึ่ง
   เมื่อเห็นบุษบาเข้ามาเฝ้า รศ.ดร.คุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ แห่งตำหนักเทวาลัย นิสิตเก่าอักษรศาสตร์ดีเด่นปี ๒๕๔๔ นักเขียนยอดนิยมของเมืองไทยที่มีงานเขียน(เฉพาะนวนิยายร่วม ๑๐๐เรื่องก็ได้รับรางวัลต่างๆด้านวรรณกรรมประมาณ ๒๐ รางวัล) ก็ว่าบทประไมสุหรีประชดอิเหนาไปว่า
            “สักวาประไหมสุหรียังมีเคือง
            จึงหาเรื่องอิเหนาเข้าจนได้
            บุษบาไหว้พี่เสียเป็นไร
            เผื่อเขากลับมาใหม่เป็นนายก (ฮา) 

           เลือกตั้งคงตีตื้นขึ้นคราวหน้า
           คะแนนคงหามมาอย่าวิตก
           เก็บเงินไว้รักษากายอย่าได้งก
           ขอเข้าใจในหัวอกของแม่เอย” (ปรบมือ)
           
            คุณสุกัญญา กุลวราภณ์ขับร้องบทนี้ในเพลงกะหรัดรายา อันเป็นเพลงสำเนียงแขกอันไพเราะและเหมาะกับบรรยากาศให้คุณคมสัณฐ หัวเมืองลาด ดาราเจ้าบทบาทรำได้อารมณ์ยิ่ง




กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ต.ค. 10, 11:46
       แต่บุษบาก็ยังกระบิดกระบวนอยู่ รศ.วันเนาว์ ยูเด็นหนึ่งในผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่นปีนี้จึงว่าบทมะเดหวีเตือนบุษบาไปอีก  และก็ยังเหน็บแนมแถมไปด้วยว่า
         “สักรวาเรื่องไหว้นั้นไม่ยาก 
        ใช่เรื่องปากเรื่องท้องของดาหา
        ส่วนเรื่องศึกฮึกประชิดติดพารา
        ล้อมปราบฆ่าสิ้นสุดยุติแล้ว 

        เชื่อแม่เถิดบุษบาอย่าทิฐิ
        อิเหนาสิรับรองต้องกินแห้ว
        ถึงน่าจูบรูปหล่อก็เด็กแนว(ฮา) 
                   หนุ่มแอ๊บแบ๊วลูกไปไหว้ลาเอย”(ฮา-ปรบมือ)

           บทนี้คุณภมรรัตน์ โพธิ์สัตย์ขับร้องเพลงแขกกล่อมเจ้าให้คุณวลัยพร กระทุ่มเขตร่ายรำได้อารมณ์ทีเดียว
   เมื่อถูกเตือนซ้ำสองทำให้บุษบาเกรงพระทัยท้าวดาหา  ดร.ญาดา อารัมภีร ผู้ชนะเลิศอ่านทำนองเสนาะและได้รับยกย่องเป็นผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่นในปี ๒๕๕๒  ว่าบทบุษบาในตอนนี้ว่า
   “สักวาบุษบาเบือนหน้าหนี
          หนอยแน่ “เหนาทักกี้”มีกิ๊กทั่ว (ฮา)
          สาวมอนเต-ดูไบอยู่ใกล้ตัว
       สาวไทยบินไปยั่วมั่วต่างแดน

          อึงอื้อชื่อฉาวคาวกามคลุ้ง
          ลือเลื่องเรื่องในมุ้งยุ่งเหลือแสน
          มิอยากเสียมือไหว้ให้คับแค้น
          ฝืนใจแค่นทำไปไม่มองเอย”(ปรบมือ)
   
         บุษบาฉบับนี้ใจเด็ดมากๆ คุณสุกัญญา กุลวราภรณ์จึงร้องเพลงบทนี้ในทำนองแขกครวญให้คุณมณีรัตน์ มุ่งดี ร่ายรำเชิงตัดพ้อต่อว่าแกมประชดประชันได้สมบทบาทน่าชมทีเดียว


กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ต.ค. 10, 11:48
            ถูกต่อว่าประชดประชันเพราะญาติทางเมืองดาหา(แม้เมืองกุเรปันของพระบิดา)ก็ไม่เข้าใจความจำเป็นในใจของอิเหนา  คุณอดุล จันทรศักดิ์หัวหน้าทีมกลอนวรรณศิลป์จุฬาฯจากสีหปราสาท ก็วาดอักษร
            “สักวาหันกลับมารับไหว้
          แวบเดียวก็เหมือนใจจะหยุดเต้น
           จะว่างามอย่างน้องพลอยก็พอเป็น (ฮา)  
           ว่าน่ารักก็อย่างเบ๊นซ์พรชิตา (ฮาดัง)

           ชื่อเรียงเสียงไรใคร่ขอถาม
           เป็นกุหลาบไร้หนามไหมน้องจ๋า (กรี๊ดดัง รับรู้เรื่องละครโทรทัศน์ที่กำลังฮิตที่ทีวีช่อง ๓)  
            ผิวก็ปลั่งดั่งปอยตรีชฎา (ฮา)  
           เสน่หาแผดเผาเหนาแล้วเอย (ฮา ซ้ำที่เรียกตัวเองว่า “เหนา” น่ารักน่าหยิกเสียไม่มี  ปรบมือยาว)
  
           บทหวานน่ารักนี้คุณสมชาย ทับพร บรรจงร้องทำนองแขกปัตเวีย(ปัตตาเวีย ?)ให้คุณปกรณ์ พรพิสุทธิ์ พระเอกตลอดกาลของกรมศิลป์ รำให้แม่ยกที่ตามไปเชียร์กรี๊ดเสียสะใจไปเลย  


กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ต.ค. 10, 01:37
         เมื่อเห็นอิเหนากอดรัดสียะตราทำท่าจะควบคุมสติตนเองไม่ได้  สังคามาระตาผู้เป็นน้องจึงต้องรีบเตือนสติมิให้อิเหนาทำอะไรให้เสียภาพลักษณ์ต่อหน้าพระที่นัง  คุณเอนก แจ่มขำอดีตนายกสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทยจึงว่าบทของตน ให้คุณกำจรเดช  สดแสงจันทร์ขับร้องเพลงในทำนองแขกไทร ให้คุณฉันทวัฒน์ ชูแหวน รำตามบทว่า
   “สักวาสังคามาระตา
          เห็นพี่ยาตะลึงจ้องต้องมนต์สะกด
         รีบหาทางแก้ไขให้ทรงยศ
         มิให้เสียภาพพจน์เหลี่ยมลดลง

       แล้วรีบรุดฉุดขาไว้มิให้ลุก
      กินยาปลุกมาหรือไรจึงใหลหลง
         อย่าวู่วามประเจิดประเจ้อเผลอพระองค์
         จนงวยงงเพราะบุษบาน่ารักเอย” (ปรบมือ) 
   
        ถูกอิเหนาจ้องไม่วางตา ดร.ญาดา อารัมภีรผู้ศึกษาวิชาดูโหงวเฮ้ง รำพันในบทบุษบาแสดงอารมณ์ไม่พึงพอใจผิดกับบุษบาผู้เรียบร้อยแสนดีในจินตนาการ ให้คุณภมรรัตน์ โพธิ์สัตย์ขับร้องทำนองเขมรกำปอ  ให้คุณมณีรัตน์ มุ่งดี รำตามบทสะบัดสะบิ้งไปบ้างดังนี้
        “สักวาขัดตาท่าอิเหนา
         มองเอ๊ามองเอาอะไรนี่
         โหงวเฮ้งทรชนคน...ปรีย์
         หน้าเหลี่ยมตาตี่ขี้โกงนัก (ฮา) 

         เก่งกินบ้านผลาญเมืองเรื่องอุบาทว์
         เดนเขมรเฉ่งปี๋ชาติประกาศศักดิ์
          เผลอเผลอเผากรุงดาหาที่ข้ารัก
         ไม่อยากจักคบด้วยเดี๋ยวซวยเอย” (ฮา – ปรบมือ)
 
        แต่รศ.นภาลัย สุวรรณธาดา เจ้าของวรรคทองหลากหลายที่มีนักบรรยายนำไปพูดที่โน่นที่นี่  เรียกน้ำตาคนฟังด้วยความซาบซึ้งใจ(แต่ไม่เคยขออนุญาต แถมไม่ออกชื่อผู้แต่งกลอนให้ตนจำไปท่องหากินอีกต่างหาก)   หนึ่งในผู้ที่ได้รับยกย่องเป็นผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่นปีนี้  ในบทของพี่เลี้ยงผู้ผ่านร้อนหนาวมากกว่ายังมีสติดี  จึงรีบทูลเตือนบุษบา  ให้คุณสุกัญญา กุลวราภรณ์ขับร้องในเพลงแขกอะหวังชั้นเดียว ให้คุณอัญชลิกา หนอสิงหา รำตามบทที่ว่า 
         “สักวาพี่เลี้ยงเคียงสังเกต
         มองเห็นลางบอกเหตุเสน่หา
         ตาสบตาตาหลบไม่สบตา
         บ่งบอกว่าจะต้องคลิกเป็นกิ๊กทางใจ(ฮา) 
 
         ทูลลาจากพรรคเก่าเถิดเราสอง
      มีเงินจองห้าสิบล้านเข้าบ้านใหม่ (ฮา-) 
        อย่าอยู่เลย ส.ต.ง.ต่อทำไม (ฮา - ไปถึงที่นั่นได้อย่างไร) 
        รีบลาไกลเถิดหญิงเป็ดเสด็จเอย(ฮาดัง – ปรบมือ)


กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ต.ค. 10, 01:42
        คุณมณีรัตน์ มุ่งดี ในบทบุษบาและคุณอัญชลิกา หนอสิงหา รำบทของตนๆแล้วรำเข้าโรงพร้อมนางกำนัล   ขณะอีกด้านหนึ่ง คุณถนอม นวลอนันต์ ศิลปินตลกอาวุโส ในบทนางกำนัล ก็รำออกมาทูลท้าวดาหา ประไหมสุหรีและมะเดหวี ตามบทที่คุณหญิง อรฉัตร ซองทอง หนึ่งในผู้ได้รับประกาศยกย่องเป็นผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่นปีนี้ ว่าบทนางกำนัลให้คุณภมรรัตน์ โพธิ์สัตย์ ขับร้องในเพลงแขกไทรชั้นเดียว ดังนี้
   “สักรวานางกำนัลชั้นผู้ใหญ่
         คือคนไทยวัยทองของมีค่า
         เป็นศิลปิน(โรงละคร)แห่งชาติมา
         นับเวลารวมแล้วหลายร้อยปี (ฮา   อธิบายว่า ฉายานี้ศิลปินอาวุโสท่านเป็นผู้เรียกตัวเอง เมื่อเวลาเล่นตลก แล้วศิลปินรุ่นเยาว์แซวว่า เมื่อไรจะได้เป็นศิลปินแห่งชาติเสียที) 

          กราบทูลท้าวดาหาว่าล่าสำ
        บัดนี้นำจรกามาถึงนี่
         จะขอเข้าเฝ้าองค์พระภูมี
           จิตใจดีแม้รูปชั่วตัวดำเอย” (ปรบมือ)

   ด้านอิเหนาเมื่อได้ยินว่าล่าสำจะนำจรกาเข้ามาเฝ้า ก็รู้สึกอิจฉาที่จรกาจะมาแทนที่(คู่หมั้นเก่า)ของตน  คุณอดุล จันทรศักดิ์ กวีรางวัลหม่อมราชวงศ์อายุมงคล โสณกุลปี ๒๕๔๘ (จากผลงานบทกวีที่เขียนในแนวหน้า-หน้า ๓ มาทุกวันอาทิตย์ จนรวมเล่มชื่อ “ดอกไม้ไฟ”ได้รับพระราชทานวางวัลบทกวีดีเด่นงานพัฒนาหนังสือแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการจากพระหัตถ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (และบทกวีที่เขียนในคอลัมน์ “ณ กาลเวลา” ในข่าวสดมา ๕ ปี
         และวันที่รู้ว่าข่าวสดเลิกลงบทกลอนของเขา เป็นวันเดียวกับที่ได้รับข่าวว่าได้รับรางวัลจากกองทุนฯ)  แสดงความรู้สึกแทนอิเหนาซึ่งคุณปกรณ์ พรพิสุทธิ์ รำตามบทซ่อนแทรกเหตุการณ์บ้านเมืองในบางมุมที่คุณสมชาย ทับพรขับร้องในเพลงแขกมุมไบ ที่ว่า
        “สักวาไม่อยากพบไม่อยากเห็น
        ด้วยรู้ว่าไอ้ดำเป็นพวกลูกป๋า
        สังกัดสายมหาอำมาตย์ตลอดมา
        เป็นบูรพาพยัคฆ์พรรคขุนนาง(ฮา)

         มีทั้งเทือกทั้งกองทัพอุปถัมภ์
         ข้ามมาเหมือนกระโดดน้ำด้วยเลือกข้าง
        ท้าวดาหาก็ไม่เห็นว่าเป็นกลาง
        จึงโยนหินถามทางทูลลาเอย” (ฮา ปรบมือ)

        ต่อให้บทกวีออกมาอย่างไร ศิลปินมีฝีมืออย่างคุณปกรณ์ พรพิสุทธิ์ก็รำได้อารมณ์เต็มที่อยู่แล้ว จึงไม่แปลกที่มีแม่ยกฮือมาขอคล้องพวงมาลัยและให้ช่อดอกไม้ในตอนจบสักวา ก่อนที่อิเหนาและสังคามาระตาจะรำออกมาหน้าเวทีขณะที่ท้าวดาหา ประไหมสุหรี มเดหวีและนางกำนัลรำเข้าโรงทางด้านหลัง ซ้ายมือของเวทีไป ส่วนม่านบนเวทีปิดชั่วคราว
 
   ที่หน้าม่านด้านหน้าเวที  (ถ้าเป็นโรงละครใหญ่เช่นโรงละคอนแห่งชาติ ก็จะเป็นเวทีล่าง ต่ำลงมาเล็กน้อย)    ขณะที่อิเหนาและสังคามาระตามาเจรจาอยู่หน้าเวที ก็ถึงบทของส่าสำและจรกาซึ่งคุณจรัล พูลลาภ ที่มารับบทจรกาแทนคุณประสาท ทองอร่าม(ครูมืดที่เลือกไว้เป็นจรกา แต่คุณประสาทเป็นไข้ มาไม่ได้) รำตามบทที่คุณอำพล สุวรรณธาดา-อาจารย์ภาษาไทยดีเด่นที่เป็นผู้ทำลำดับการแสดงสักวา(ส่วนใหญ่)ให้สโมสรฯก็ว่าบทให้คุณกัญจนปกรณ์ แสดงหาญขับร้องในทำนองเพลงขอทานให้คุณสุทธิ สุทธิรักษ์ รำว่า
 
         “สักวาล่าสำแสนล่ำสัน
         ก่อนเคยเป็นกำนันนามกระฉ่อน
         ผ่านสยามเข้าเนฯรุ่งแน่นอน
         คุมสมุยบ้านดอนด้วยฝีมือ(คนฟังเริ่มเดารู้ว่าเปรียบเป็นบุคลิกลักษณะของนักการเมืองคนสำคัญในรัฐบาลนี้) 

         ให้จรกาเบิกงบก่อนทอนสามสิบ (ฮา) 
         ไปกระซิบอิเหนาว่าอย่าเหี้ยนหือ
         เมื่อหย่าแล้วหย่าเลยอย่ามาตามตื๊อ(ฮา คนฟังจับได้ชัดว่าหมายถึงนักการเมืองคนดังคนไหนที่หย่าแล้วหย่าเลย) 
         ถ้าขืนดื้อจะกระชับพื้นที่เอย” (ฮา ใช้ศัพท์ทันสมัยเสียด้วย-ปรบมือ)


กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ต.ค. 10, 01:46
         เมื่อพบหน้ากับจรกาและล่าสำ  อิเหนาในร่างคุณอดุล จันทรศักดิ์ ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ปี ๒๕๕๑ ก็โต้ตอบไปให้คุณสมชาย ทับพรขับร้องในเพลงแขกสุ่มซึ่งเป็นเพลงจังหวะเร็วสนุกสนานให้คุณปกรณ์ พรพิสุทธิ์รำตามบทที่ว่า
         “สักวาดำแท้เหมือนเทพเทือก (ฮาดังมาก) 
         หญิงใดเลือกเป็นคู่ก็ขายหน้า (แล้วกระซิบว่า นี่ว่าตามบุคลิกของจรกานะ) 
         ถึงจะมีอำนาจนอกสภา 
         ฝันไปเถิดว่าบุษบาจะพึงใจ 

          รูปก็ชั่วตัวก็ดำซ้ำปากห้อย(ฮา นี่อีกลักษณะหนึ่งของจรกา ?)
         เทียบแล้วด้อยกว่าอิเหนาสิบเท่าได้ 
         แต่ก็อยากได้เสียงพรรคภูมิใจไทย (ฮาดัง) 
         จึงคบไว้เสียจนเสียคนเอย” (ฮา ปรบมือ)
 
         ในฐานะตัวละครสำคัญตัวหนึ่งในเรื่อง  ระตูจรกาก็เป็นระดับเจ้าเมือง(แม้เป็นเมืองระดับเล็ก) ผศ.มะเนาะ ยูเด็น นักกลอนที่มีบทบาทในฐานะแกนนำคนหนึ่งที่ก่อตั้ง “ชมรมนักกลอน”เมื่อ ๔ ตุลาคม ๒๕๐๒ (ที่กลายมาเป็น สมาคมนักกลอนฯ)และ”ชุมนุมน้ำชาวันอาทิตย์” เมื่อ ปี ๒๕๑๒ (ที่ยกฐานะเป็นสโมสรสยามวรรณศิลป์ในบัดนี้ ) ก็ว่าบทจรกาย้อนอิเหนาให้คุณกำจรเดช สดแสงจันทร์ ขับร้องในเพลงขอมกล่อมลูกชั้นเดียวให้คุณจรัล พูลลาภรำตามบทที่ว่า
        “สักรวาจรกาผู้หน้าอ่อน 
        ชื่อย้อนศร ระกา จอ กุน ชวด ฉลู (ฮา..) 
        แต่ชอบเข้าทางตรอกออกทางประตู 
        ไม่ขี้ตู่กลางเมืองก่อเรื่องราว 

        น้องชื่อจรกาหน้าไม่หล่อ 
        ถ้าชื่อจรกระตั้วคงตัวขาว (ฮา..)
        พี่อวดเก่งเบ่งฤทธิ์เพราะกริชยาว 
        ทำเรื่องฉาวเป็นนิจเพราะกริชเอย” (ปรบมือ)

         ขออนุญาตต่อไปจบอีกหนึ่งตอน เพราะนี่ก็กินเนื้อที่คนอื่นมากไปลัว คนเขียนคนอ่านสกุลไทยมีมากมายเหลือล้น  ต้องแบ่งๆกันลงแบ่งกันอ่าน นักเขียนยอดนิยมก็มากเกินกว่าหน้าสกุลไทยในยามกระดาษและทุกสิ่งแพง เราต้องถือปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง”ตามรอยพระบาทเพื่อประเทศชาติและประชาชนจะได้มีความสุขอย่างยั่งยืนไปตราบกาลนาน
   รายงานเรื่องนี้มา ๔ ตอนยังไม่จบ  แม้ไม่อยากให้เยิ่นเย้อ  แต่คนอ่านขาประจำของ “สุดสงวน” บอกมาว่า  อ่านบทรายงานแล้ว เหมือนได้ไปชมไปฟังด้วยตนเอง  และมีจำนวนไม่น้อย บอกว่าตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยได้ชม ได้ฟังสักวาเลย  แต่เมื่ออ่านแล้วได้ความรู้  แม้จะนึกเอาโดยจินตนาการ 
        ยิ่งกว่านั้น ยังได้รู้จักข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับผู้ร่วมวงสักวา      ซึ่งเป็นคนร่วมสมัยกับ”สุดสงวน” เป็นประวัติวรรณกรรมที่ไม่มีใครบันทึกไว้  หลังจากสมัยที่กวีอาวุโสแสดงมานานร่วมครึ่งศตวรรษแล้ว   จึงควรเขียนให้ได้ละเอียด  จะได้สืบทอดความเป็นมาเป็นไปในวงวรรณกรรมของชาติให้ผู้คนรุ่นหลัง  ได้รับช่วงสืบต่อไป    


กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ต.ค. 10, 03:03
         มารายงานสักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหาต่อไป
   เมื่อพบหน้ากันนอกท้องพระโรง ระเด่นมนตรีหรืออิเหนาให้รูสึกหมั่นไส้ระตูจรกา จึงเจรจาเชิงดูหมิ่นไป  ทำให้จรกาโต้ตอบไปบ้าง  แม้จะเชิงอ่อนน้อมถ่อมตัว  แต่จรกาในแบบฉบับของอดีตคณบดีจากวิทยาเขตปัตตานี  ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ) ก็ยอกย้อนอิเหนาไปด้วยคารมคมคายไม่น้อย  แถมอาจารย์อำพล สุวรรณธาดา  อดีตอาจารย์ภาษาไทยแห่งมหาวิทยาลัยฮันคุก ประเทศเกาหลี  ในบทล่าสำผู้พี่ชายก็สำทับไป ให้คุณกัญจนปกรณ์ แสดงหาญ  ขับร้องเพลงทำนองตารีกีปัส ให้คุณสุทธิ สุทธิรักษ์ รำตามบทที่ว่า
   “ สักวาล่าสำย้ำหมัดเด็ด
          ราบสิบเอ็ดยมบาลท่านจัดให้
        ด้วยสอสอสายเนฯนั้นเต็มใจ
       ล้วนรักชาติน้ำลายไหลงมงายงก (ฮา) 

          ทั้งกฎเอื้อไม่ต้องตามมติพรรค
          กระทรวงหลักก็ยอมให้ไม่วิตก
          ไว้ดัดหลังหลังได้มาเป็นนายก
          ยอดจำอวดยังตลกไม่เปรียบเอย”(ปรบมือ)
   
            ถูกเยาะเย้ย ประชดประชัน แถมคู่หมั้นสบัดหน้าให้ก็มากพออยู่แล้ว  ยังมาถูกระตูสองพี่น้องแสดงความนัยว่าแน่กว่า คุณอดุล จันทรศักดิ์  นักกลอนชั้นมือรางวัลเกียรตินิยมวรรณศิลป์จากชมรมวรรณศิลป์จุฬาฯ และปัจจุบันยังมีงานประจำในคอลัมน์ “เหนือกาลเวลา”ในหน้าสุดท้ายสยามรัฐสัปดาหวิจารณ์และนิตยสารรายเดือน ALL ก็ปล่อยคารมแสดงความน้อยใจอันมีความคมหักมุมประทับใจผู้ฟัง  ผ่านให้ครูสมชาย ทับพร ส่งเสียงในทำนองเพลงแขกซาอี ให้พระเอกชั้นครูคุณปกรณ์ พรพิสุทธิ์ แสดงฝีมือการรำที่ตรึงใจผู้ชมตลอดมายาวนานว่า
           “สักวาอิเหนาน้อยใจนัก
           ทั้งเรื่องพรรคถูกยุบทั้งเมียหย่า (ฮาดัง)
           อำลาแม่ดอกไม้บานบุษบา
           ด้วยสิ้นอำนาจวาสนาน้ำตาริน

           จะจดจำความหลังแห่งเมืองดาหา
           หอบใบหย่ามุ่งไปทางทิศทักษิณ
           วันหนึ่งจะกลับมาทรุดกายลงจูบดิน (ฮาระเบิด ดูเหมือนจะมีฮิ้วตามมาด้วย) 
           มาทำกินแถบกำแพงแสนเอย” (ฮา-ว้าว-และปรบมือเคล้าเสียงหัวเราะดังยาว)
         
          ซึ่งศิลปินชั้นครูก็รำเต็มที่เรียกพวงมาลัยจากแม่ยกและช่อดอกไม้หอบไม่ไหวตามมา
          แล้วก็เป็นน้องเมีย นามสังคามาระตาอีกแหละที่คอยเตือนพี่มิให้แสดงอารมณ์ให้เกินบทพระเอกผู้คอยรักษาภาพลักษณ์อันแสนดี  คุณเอนก แจ่มขำ ที่ได้รับยกย่องเป็นผู้มีผลงานดีเด่นด้านอนุรักษ์วัฒนธรรมก็รีบออกบทปรามให้คุณกัญจนปกรณ์ แสดงหาญขับร้องทำนองแขกหนังเพื่อคุณฉันทวัฒน์ ชูแหวน รำว่า
          “สักวารีบปรามห้ามอิเหนา
          กลัวพี่เราทำอะไรไม่เข้าท่า
           แทบทุกเรื่องเปลืองตัวมืดมัวตา
           จะออกหน้าหรืออยู่หลังยังมีภัย

          ไปเตรียมตัวต่อสู้อยู่ห่างห่าง
          ใช้ชาวต่างประเทศด้วยช่วยแก้ไข
          ไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้าจะมีชัย (ฮา) 
         น้องเอาใจช่วยเหลือทุกเมื่อเอย”

         ฟังแล้วทำให้นึกถึงนักชุมนุมทางการเมืองของประเทศด้อยพัฒนาอย่าง”สารขัณฑ์”ตาม “เงินสั่ง” ยังไงๆยังงั้น
         ทำให้อาจารย์มะเนาะ ยูเด็นผู้มีหมัดเด็ดเมื่อเวลาไปเล่นกลอนด้วยกัน อย่างเช่นสมัยยกทีมไปสู้ทีมหญิง(ที่โทรทัศน์ไทยทีวีช่อง ๔ บางขุนพรหม  ปี ๒๕๐๒) จะถูกคณะพรรคยกให้เป็นคนตวัดตบท้ายด้วยบทสรุปที่คมคาย  ในบทจรกาตอนนี้ก็ได้โอกาสออกมา “เอาคืน” อิเหนา ให้คุณกำจรเดช สดแสงจันทร์ ขับร้องทำนอง ราซาซายัง ให้คุณจรัล พูลลาภรำส่งท้ายทิ้งสุดฝีมือไปเลย

         “สักรวาถ้าอิเหนาจำลาประเทศ
         ด้วยสาเหตุเพราะหญิงยิ่งน่าขำ
         คนใจดำน่ากลัวกว่าตัวดำ (ฮา..)
         กล้าก่อกรรมเพื่อตัวไม่กลัวเกรง
 
         ญาติดาหาทิ้งดาหาแทนมาป้อง
        น่าฟ้องศาลปกครองโดนสองเด้ง (ฮา..คนฟังไม่ลืมว่าคุณอดุลเป็นหัวหน้าคณะศาลปกครอง เลยถูกแซวเสียเลย) 
        วงศ์เทวัญบูรพาว่ากันเอง 
        ถึงร้องเพลง ราซาซายัง ใครฟังเอย”

         คนฟังที่ติดตามข่าวการเมืองคงยังจำได้ว่า  สื่อกล่าวถึงนายทหารคนสำคัญๆที่กำลังได้รับแต่งตั้งมีอำนาจใหม่ ว่ามีฉายา “บูรพาพยัคฆ์” หรือ”วงศ์เทวัญ”  เข้ากับเรื่องตระกูลอิเหนาพอดี  คนฟังคนชมก็เลยสนุกครึกครื้นทั้งฟังเพลงที่ร้องประสานเสียงกัน  และคนรำก็รำถึงบทถึงบาทยิ่งนัก  จึงมีเสียงปรบมือตามมาอย่างน่าชื่นใจ


กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ต.ค. 10, 03:05
         เห็นเวลาล่วงเลยสนธยากาลมานานพอควรแล้ว คุณหญิงอรฉัตร ซองทองผู้มีบทที่จะว่าสักวาน้อย  แต่จำบทอิเหนาตอนสำคัญได้อย่างขึ้นใจเพราะเคยรำมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน  รวมทั้งแต่งบทและออกแบบท่ารำสำหรับระบำชุดต่างๆ ให้ลูกศิษย์รำและควบคุมฝึกซ้อมท่ารำมานาน  จึงทำหน้าที่ดำเนินรายการด้วยรู้จังหวะจะโคนในการเข้าออกของตัวละครดี   ได้รับมอบหน้าที่แต่งบทลาอย่างเคย  แม้ที่ผ่านๆมาเธอถนัดเพลงเต่ากินผักบุ้ง แต่วันนั้นเป็นเรื่องแขกอินโดนีเซีย เลยต้องแต่งบทให้ร้องในทำนองแขกสาหร่าย ดังนี้

     “ สักรวาจำใจลาไปแล้ว
    เสียงเจื้อยแจ้วอ่อนหวานสะท้านไหว
        สิบกวีสักรวาเอื้อนอาลัย
         ฝากหัวใจทั้งสิบดวงห่วงผู้ฟัง
   (สร้อย) โอ้แสนหนักหัวใจของเราเอ๋ย  กระไรเลยเราไม่เคยจะห่วงหวง  แสนรักชาวเกษตรทั่วทั้งปวง  จะลาล่วงฝากดวงใจไว้ด้วยเอย
   ลานักร้องน้องรักนักรำร่าย
         แสนเสียดายด่ำดื่มปลื้มความหวัง
         ศิลปะเยี่ยงนี้จักจีรัง
         ถ้าท่านยังอยากชมนิยมเอย
   (สร้อย) โอ้ศิลปวัฒนธรรมของไทยเอย  อย่าละเลย เราบ่เคยทอดทิ้งไป  ฝากผู้ชมช่วยสนใจ  โปรดสำนึกไว้  อนุรักษ์สมบัติไทยของเราเอย”
   สิ้นเสียงเอื้อนอันจับใจด้วยความไพเราะเพราะพริ้งของคุณสมชาย ทับพร และคุณภมรรัตน์  โพธิ์สัตย์(หรือคุณสุกัญญา กุลวราภรณ์ ก็ไม่ทราบเพราะเสียงไพเราะเหมือนกันจนแยกไม่ออก)ด้วยความอาลัยและซาบซึ้ง เรียกเสียงปรบมือดังยาว  พร้อมเสียงถอนหายใจด้วยความเสียดาย
   
   หลังจากนั้นก็เป็นการชุลมุนด้วยมีการถ่ายรูปร่วมกัน  โดยเฉพาะมีดาราซึ่งทำเงินหลายล้านให้กรมศิลปากร อย่างคุณปกรณ์ พรพิสุทธิ์ และอีกหลายๆคน  จึงมีผู้มอบพวงมาลัย  ช่อดอกไม้และขอถ่ายรูปด้วยเป็นเวลานาน   กว่าดารายอดนิยมจะได้เปลี่ยนเครื่องแต่งตัวและรีบกลับเพราะมีทั้งนักร้อง นักดนตรีและนาฏศิลปินคอยกลับด้วยรถคันเดียวกันเป็นจำนวนมาก

   วันนั้นอาจารย์ดร.อนามัย  ดำเนตร ผู้ประสานงานที่เยี่ยมยอด     เป็นห่วงว่านักสักวา จะหิวมากไป  แม้เตรียมอาหารกล่องไว้ให้แล้ว  แต่จากคำร่ำลือว่าในวิทยาเขตมีร้านอาหารที่ขึ้นชื่อลือชาว่าฝีมือปรุงอาหารอร่อยมากๆ  ไม่ว่าสะเต๊ก เนื้อ หมู หรือปลา โดยเฉพาะสะเต๊กเนื้อโคขุน   ซึ่งผู้ที่ไม่ต้องรีบกลับ  ได้มีเวลานั่งคุยกันนานจนไวน์ของท่านตุลาการที่เตรียมไปหมดได้พอดิบพอดี  ให้รู้สึกเสียดายแทนคุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ ซึ่งคนที่บ้านเป็นไข้คอยอยู่ที่บ้าน  และครอบครัว”สุวรรณธาดา”ที่แม่บ้านมีงานด่วนต้องไปบรรยายแต่เช้ามืดในวันรุ่งขึ้น     จึงต้องรีบกลับไปเตรียมงานโดยอาศัยอาหารกล่องช่วยประทังชีวิตระหว่างเดินทางกลับ   

           แต่พวกเราที่อยู่  ทุกคนก็ได้ทำหน้าที่แทนไปเต็มคราบ แถมมีเรื่องปริศนาพาให้คิดสนุกๆอีกว่ามีใครคนหนึ่งแอบไปจ่ายค่าอาหารก่อน    ตัดหน้าดร.อนามัยคนน้ำใจกว้าง พวกเราจึงได้แต่ปลอบใจว่า  ไม่ต้องเสียใจ ถ้ามีงานอีกในภายภาคหน้า  เราจะยินดีให้อาจารย์ได้ทำหน้าที่เจ้าบ้านโดยไม่เสียความตั้งใจเป็นอันขาด  ขอสัญญาๆๆๆๆๆๆ@
   
     (จาก “มองภาษา” โดย “สุดสงวน” สกุลไทยฉบับ ๒๙๑๙-๒๙๒๑-๒๙๒๓-๒๙๒๕และ๒๙๒๗ วันที่  ๒๘ กันยายน - ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๓)                                                                   







   





กระทู้: สักวาเรื่องอิเหนาตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา(๑) โดย สุดสงวน
เริ่มกระทู้โดย: kungsa00 ที่ 16 ธ.ค. 10, 14:03
ขอบคุนนะค่ะ