naitang
|
ความคิดเห็นที่ 75 เมื่อ 31 พ.ค. 16, 19:38
|
|
มะเขือเทศ ชื่อก็บอกว่าเป็นพืชต่างประเทศดังที่ อ.เทาชมพู ว่าไว้ ของไทยก็คงจะมีแต่มะเขือส้มที่เป็นพืชดั้งเดิมที่ใช้ในเมนูอาหารต่างๆ แกงที่เรียกชื่อตามภาษาท้องถิ่นว่า ต้ม ของภาคเหนือและอีสาน ก็มีหลายเมนูที่ใส่มะเขือส้ม ส้มตำของผู้คนในอีสานแต่ดั้งเดิมก็ใช้มะเขือส้ม มิได้ใช้มะเขือเทศดั่งในปัจจุบัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 76 เมื่อ 31 พ.ค. 16, 19:52
|
|
มะเขือส้ม?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 77 เมื่อ 31 พ.ค. 16, 20:06
|
|
ไม่แน่ใจครับ ไม่เห็นทั้งพวง มะเขือส้ม มักจะเห็นอยู่เป็นพวงคล้ายมะเขือพวง ไม่ค่อยจะเด็ดแยกออกมาเป็นลูกๆ
แต่ก็คิดว่าใช่ครับ ดูจากทรงรูปที่กลมของมัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 78 เมื่อ 01 มิ.ย. 16, 12:14
|
|
ยังอยู่ในดงของมะเขือ เลยขอแวบลงไปใหล่ทางนิดนึงกับเรื่องที่เกี่ยวพันกัน
สมัยก่อนนั้น ผู้คนทั่วไปใช้มีดที่ทำด้วยเหล็กธรรมดา (steel) เมื่อเอามีดนั้นมาผ่าหรือหั่นมะเขือดิบทั้งหลาย จะเห็นว่าผิวของส่วนที่ผ่าออกไปนั้นจะเปลี่ยนสีจากขาวเป็นสีม่วงๆแล้วก็ดำ พ่อครัวแม่ครัวทั้งหลายจึงแก้ไขโดยวิธีอาลงแช่ไว้ในน้ำเมื่อหั่นหรือผ่าเสร็จแล้ว บางคนก็ฝานมะนาว 2-3 แว่นใส่ลงไปในน้ำนั้นด้วย กล้วยดิบ หัวปลีกล้วย แกนหยวกกล้วย ขนุนดิบ ฯลฯ ก็ทำกันอย่างนี้ ปัจจุบันนี้ เราใช้มีดแสตนเลสกัน จึงไม่มีปัญหาในเรื่องนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 79 เมื่อ 01 มิ.ย. 16, 12:52
|
|
มะเขือที่ผมงงๆกับชื่อของมัน คือ มะเขือขื่น แยกออกเป็นมะเขือสองลักษณะที่ไม่เหมือนกัน อย่างหนึ่งมีลูกทรงกลม ผิวสีเหลืองด้าน ไม่มีเปลือก เนื้อบาง อีกอย่างหนึ่ง ลูกทรงไข่ ผิวเหลืองมัน มีผิวเปลือกบางๆ (ที่เห็นอยู่ในตู้ของแม่ค้าส้มตำ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 80 เมื่อ 01 มิ.ย. 16, 19:15
|
|
มะเขือขื่นพันธุ์ลูกทรงไข่ไก่นั้น นิยมใส่ในแกงป่า หั่นผ่าสี่แล้วแช่น้ำ บีบเอาเม็ดออก ใส่ลงในกระทะแกง พอแกงเดือดปุดๆ คนให้เข้ากัน แล้วก็ปิดไฟยกลง มะเขือจะมีเนื้อนิ่มและออกรสหวาน ไม่มีรสขื่นตามชื่อของมันเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 81 เมื่อ 01 มิ.ย. 16, 19:20
|
|
คงจะไม่ลงไปถึงมะเขือที่เรียกชื่ออื่นๆ เช่น มะเขือหำแพะ มะเขือหำม้า มะเขือจาน มะเขือแจ้ มะเขือสีดา ... ฯลฯ สารพัดสายพันธุ์ สารพัดชื่อจริงๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 82 เมื่อ 01 มิ.ย. 16, 19:37
|
|
ก็มี มะ..หนึ่งที่มีรูปพรรณคล้ายมะเขือพวงมาก คือ มะแว้ง ครับ
มะแว้ง มีรสออกขม ลูกกลมเล็กกว่ามะเขือพวง แต่เดิมนิยมใส่ลอยอยู่ในถ้วยน้ำพริกกะปิ ปัจจุบันคงไม่มีใครใช้แล้ว
มะแว้งยังพอมีขายอยู่ในตลาดสดชุมชนในย่านพื้นที่สวนรอบๆ กทม.
มะแว้งเป็นสมุนไพรที่ใช้ในการบรรเทาอาการไอ มีการเอาไปทำทั้งชนิดเม็ดอม และยาจิบ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 83 เมื่อ 01 มิ.ย. 16, 20:17
|
|
มะแว้ง เคยเจอมันขึ้นอยู่เองตามธรรมชาติ ในที่ดินว่างๆ ต่างจังหวัดค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 84 เมื่อ 02 มิ.ย. 16, 09:14
|
|
หนุ่มสาวยุคนี้รู้จักมะปริงบ้างไหมหนอ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 85 เมื่อ 02 มิ.ย. 16, 19:58
|
|
ก็คงเป็นดังที่ อ.เทาชมพู มีข้อสังเกตไว้
มะปริง เป็นพวกผลไม้รสเปรี้ยว เอามาปรุงอาหารไม่มากเมนู เมนูหลักๆก็คือฝานเนื้อใส่ในน้ำพริกเพื่อเอารสเปรี้ยวจากมัน เคยทราบว่ามีการใช้ใส่ในแกงทางภาคใต้ แต่ก็ไม่เคยได้ลิ้มลองซักที
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 86 เมื่อ 02 มิ.ย. 16, 20:11
|
|
เมื่อพูดถึงมะปริง ก็ต้องไปถึงมะปราง มะปริงลูกทรงกลม มะปรางลูกทรงรี เมื่อยังไม่แก่เต็มที่ ทั้งคู่ออกรสเปรี้ยว เนื้อในของเม็ดสีม่วงเหมือนกัน เมื่อผลแก่เต็มที่ (สุก) แล้วเนื้อจะออกสีเหลือง มีรสหวานนำแต่อมเปรี้ยว ผลมะปริงและมะปรางที่แก่ก่อนสุก จะเอามาดอง กินจิ้มกับพริก-เกลือ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 87 เมื่อ 03 มิ.ย. 16, 19:45
|
|
เคยพูดคุยกับชาวสวนแถวอุตรดิตถ์เรื่องมะปรางกับมะยงชิด ได้ความว่า ก็มีเปลี่ยนไปปลูกมะยงชิดกันบ้าง เปลี่ยนไปปลูกมะปรางพันธุ์ใหม่ที่ลูกใหญ่กา่า ไม่มียาง และหวานหวาน ก็มี ที่ยังคงเป็นต้นเดิมก็ยังมีอยู่มาก ข้อสงสัยก็ไปอยู่ที่ว่าเมื่อดูจะขายสู้กับมะยงชิดไม่ได้แล้วจะอยู่ได้อย่างไร
คำตอบก็มีอยู่ว่า มันก็มีตลาดสำหรับมะปรางดิบรสเปรี้ยว เอาไปใช้ปรับรสซอสมะ...ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันครับ เขาว่าอย่างนั้นนะครับ
ทำให้ผมนึกไปถึงบรรดามะ...ที่มีรสเปรี้ยว ที่มีสัดส่วนเนื้อต่อเม็ดของแต่ละผลมาก ที่ไม่มีคนนิยมซื้อกินและขายไม่ได้นั้น แท้จริงแล้วมันก็น่าจะมีตลาดแฝงอยู่ในอุตสาหกรรมอาหารอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ผู้ใดจะกล้าปลูกผลไม้เปรี้ยวเล่า ?? ประเด็นไปอยู่ที่ว่า ฝ่าย demand จะต้องแสดงให้เห็นถึงความต้องการใช้ในกรณีหากมี supply เนื่องจากการลงทุนของฝ่าย supply จนกว่าจะสามารถมีผลผลิตได้ในปริมาณที่ฝ่าย demand ต้องการนั้น มันใช้เวลาระหว่าง 3-5 ปี และจะสามารถมีผลผลิตได้มากพอในระดับที่มั่นใจได้ก็อาจจะเป็นระยะเวลา 7-8 ปีขึ้นไป เรื่องของการตลาดทั้งนั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 88 เมื่อ 03 มิ.ย. 16, 20:53
|
|
อีกมะ...ที่มีรสเปรี้ยวได้ใจเลย คือ มะคอแลน
มะคอแลน (เหนือ) มะแงว (อิสาน) เป็นไม้ยืนต้น ใหญ่โตได้ขนาดสองสามโอบ ผลเป็นรูปทรงรี สีผิวแดงคล้ายลิ้นจี่ มีเปลือกและผิวที่มีตุ่มตมเหมือนลิ้นจี่ เนื้อในสีขาวคล้ายเงาะแต่ไม่ร่อนจากเม็ด(เหมือนเงาะพันธุ์รุ่นเก่า)
มะคอแลนเป็นไม้ป่า บางต้นก็ให้ลูกที่มีรสหวานอมเปรี้ยวนิดๆ บางต้นก็มีรสเปรี้ยวไม่มาก อมหวานนิดๆ แต่ส่วนมากแล้วจะเปรี้ยวววว..
เป็นผลไม้ที่เก็บเอามากินเล่น แต่ไม่ใช้วิธีเอามาจิ้มเกลือกินกัน แต่ใช้วิธีเอามาคลุกกับน้ำปลาและพริกป่นกินกัน หากเก็บได้ในระหว่างการเดินทางก็จะกินสดๆกันแบบ วู้..เปรี้ยวสุด ต้องหยีตา แต่ก็ชุ่มคอแก้กระหายได้ดีพอควร
นานๆก็เห็นผู้เฒ่าชาวบ้านเอามาวางบนตะกร้านั่งหลังพิงผนังตึกขายอยู่บนทางเดินริมถนนใน กทม. ผมก็อดซื้อไม่ได้ ซื้อทุกทีไป คิดแยู่ว่าก็เป็นการช่วยให้รายได้กับแม่เฒ่าเหล่านั้น สู้อุตส่าห์เก็บของแปลกจากท้องถิ่นมาขายคนกรุงที่ไม่รู้จักแถมยังมีรสเปรี้่ยวแบบจับใจอีก ตัวผมเอง ซื้อมาแล้ว ก็แกะกินอยู่ไม่กี่ลูกเท่านั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 89 เมื่อ 03 มิ.ย. 16, 21:00
|
|
ผ่านดงมะขามมาแล้ว ลืม มะขามเทศ ครับ
มะขามเทศเป็นหนึ่งในผลไม้ที่กินได้ทั้งในลักษณะของผลไม้และในลักษณะของส่วนประกอบหลักในอาหาร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|