han_bing
|
มีผู้ถามสภาวะบางอย่างของข้าพเจ้าช่วงนี้เป็นฉันใด คำตอบคือ
ช่างมันเถิด
แต่จากคำถามทำให้ข้าพเจ้านึกไปถึงคำถามว่าด้วยโครงสร้างหลังคาจีน ด้วยข้าพเจ้าไม่ได้เก่งด้านสถาปัตยกรรมนัก อ่านจากภาษาจีนมาถอดความให้ทุกท่านอ่านข้าพเจ้าเองนึกไม่ค่อยออกว่าภาษาไทยเรียกว่าอะไร ขอท่านผู้เชี่ยวชาญโปรดให้อภัย
เวลาคนไทยไปเที่ยวเมืองกวางตุ้ง หรือซัวเถา เรามักจะออกอุทานว่า “อ้า...มั่งชั่งเหมือนที่บ้านอั๊วจิงๆ” แต่ถ้าเราไปไกลหน่อยคือซูโจว หางโจว หรือไปปักกิ่ง เราอาจจะออกอุทานว่าทำไมมันดูไม่เหมือนเลย มูลเหตุมาจากตระกูลช่างที่ต่างกัน
ภาคเหนือและภาคใต้ของจีนจะแบ่งโดยใช้แม่น้ำแยงซี ภาษาจีนกลางเรียกว่าฉางเจียง (长江:Chang Jinag) ความแตกต่างระหว่างอาคารทางภาคเหนือและภาคใต้ของจีนสังเกตได้ไม่ยาก สังเกตได้จากการประดับตบแต่งหลังคาจะเห็นได้ง่ายมาก นอกนั้นอาจสังเกตได้จากการประดับตบแต่งด้านอื่นๆ
สำหรับโครงสร้างหลังคาที่นิยมใช้ในจีนภาคเหนือ ใช้เป็นโครงสร้างแบบเสาดั้งและคานเป็นระบบโครงสร้างแบบคานลดระดับ (THE BEAM – IN – TIERO STRUCTURAL SYSTEM) ภาษาจีนเรียกว่า “ไทเหลียงซือ” (抬梁式:tian liang shi) โครงสร้างดังกล่าวเป็นโครงสร้างที่นิยมใช้ในการประดับตบแต่งอาคารสำคัญทางราชการ เช่น วัง วัด หรือสถานที่ราชการ ส่วนในกลุ่มประชาชนได้ใช้โครงสร้างนี้เช่นกัน แต่จะนิยมเฉพาะในภาคเหนือ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
han_bing
|
ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อ 23 ก.พ. 12, 21:18
|
|
ลักษณะ “คานลดระดับ” จะแบ่งเป็นตัวคานซ้อนเป็นชั้น ๆ และใช้เสาดั้งมารับน้ำหนัก การวางคานนี้จะจะวางเรียงสูงขึ้นเป็นระยะๆประกอบกันขึ้นเป็นรูปหลังคาจั่ว จากนั้นจึงวางไม้กลอนที่เป็นแผ่นแบนขวางแปกลม เป็นระยะที่ค่อนข้างถี่มากเท่าขนาดของกระเบื้องที่จะใช้ปูหลังคาแล้วจึงปูกระเบื้องหลังคา การถ่ายน้ำหนักของหลังคาทั้งหมดจะถูกถ่ายจากแปกลมนี้ลงสู่เสาดั้ง สู่คาน และสู่โครงสร้างหลักของอาคารต่อไป
ในอาคารแบบจีนนอกจากจะมีการใช้ระบบค้ำยันข้างต้น ยังมีส่วนค้ำยันพิเศษที่อยู่บนเสาและคาน ถือเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมจีน “โตว่กง” (斗拱:DOU GONG) มีลักษณะคานเล็กๆหลายๆชิ้นนำมาประกอบซ้อนๆกันขึ้นไป ยิ่งอาคารมีขนาดใหญ่มากโตว่กงจะมีขนาดใหญ่มากขึ้น
ภาพ "โตว่กง" และการใช้โตว่กงในแบบต่างๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
han_bing
|
ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อ 23 ก.พ. 12, 21:24
|
|
ในส่วนของโครงสร้างหลังคาของจีนทางตอนใต้นิยมใช้ระบบเสาและคานรัด (THE COLUMN AND TIEBEAM STRUCTURAL SYSTEM) ภาษาจีนจะเรียกว่า “ฉวนโตว่ซือ” (穿斗式:Chuan dou shi) ระบบนี้เสาจะถูกวางเรียงไปตามทางลึกของอาคาร โดยมีการเว้นระยะห่างของเสาเท่ากัน และจะไม่มีการวางคานพาดผ่านเสาเหล่านี้ แต่จะวางแปกลมไว้บนยอดของเสาแทน และระบบของโครงสร้างหลังคาจะถูกสร้างจากการใช้คานรัดที่วางทะลุสอดผ่านเสาเพื่อเชื่อเสาทั้งหมดเข้าด้วยกันซึ่งคานนี้จะถูกวางเป็นชั้นๆลดหลั่นไปถึงยอดหลังคา
ตัวอาคารจะสร้างขึ้นจากการนำแถวของเสาในลักษณะดังกล่าว มาวางประกอบเรียงกันไปตามแนวยาว และเชื่อมต่อกันเข้าด้วยโครงรัดรอย ค้ำยัน และแปกลม ในทิศทางตามยาวของอาคาร โดยโครงสร้างระบบนี้ใช้ไม้น้อยกว่าประเภทอื่น ขนาดของเสาและคานรัดนี้จะขึ้นอยู่กับความลึกของอาคาร อาคารที่มีความลึกมากจะต้องใช้เสาในแถวมากและจะส่งผลถึงความสูงของอาคารและจำนวนชั้นของคานรัดเพิ่มขึ้นด้วย ระบบโครงสร้างนี้จะนิยมใช้กับอาคารทั่วไปของในบริเวณพื้นที่ทางใต้ของจีน และอาจพบในอาคารขนาดใหญ่ทางใต้บางแห่ง อาทิแถบเจียงหนาน หรือตามบ้านเรือนของชนกลุ่มน้อยในยูนาน และเสฉวน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
han_bing
|
ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อ 23 ก.พ. 12, 21:41
|
|
ทั้งนี้ในแถบกวางตุ้งจะมีโครงสร้างคานลักษณะพิเศษ คือ นิยมนำแบบคานลดระดับและคานแบบสอดรัดมาผสมผสานกัน นอกจากแบบนี้ที่เห็นได้คือโครงสร้างแบบคานลดระดับ อิทธิพลดังกล่าวเข้าไปสู่บริเวณฮกเกี้ยนด้วย โครงหลังคาเป็นแบบโครงสร้างยกขื่อ โครงสร้างแบบนี้จะประกอบด้วยเสารับขื่อที่จะตั้งรับอกไก่และแป ส่วนใหญ่จะซ้อนขื่อสามชั้น คานที่เราเห็นในประเทศไทยโดยมากเป็นคานในตระกูลดังกล่าว
ภาพที่ข้าพเจ้านำมาเสนอต่อไปนี้ขอท่านตัดสินใจเองว่าจะอยู่ในเกณฑ์ใด แต่ว่าบางท่านอธิบายว่าเป็นแบบคานยกระดับ บางท่านอธิบายว่าเป็นคานแบบผสม
นี้คือโครงสร้างหลังคาในตระกูลหมินหนาน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
han_bing
|
ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อ 23 ก.พ. 12, 21:43
|
|
ภาพตัวอย่างจากบ้านโซว่เฮงไท่ ตลาดน้อย เยาวราช จากคุณ virain ในเรือนไทย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ติบอ
|
ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อ 24 ก.พ. 12, 00:32
|
|
ชอบอันที่เป็นหัวช้างครับ คุณ han bing จำได้ว่าตอนแปลบทความภาษาอังกฤษ คลับคล้ายคลับคลาว่าช้างในจีนจะสูญพันธุ์ไปตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์แล้ว
แต่ก็จำได้อีกเหมือนกัน ว่าสมัยพระจักรพรรดิเฉียนหลง ที่เสด็จไปตีธิเบต ทรงนำเอาวัฒนธรรมธิเบตหลายๆอย่างที่สืบทอดมาจากอินเดียมาใช้ อย่างหนึ่ง คือ การทรงฉลองพระองค์อย่างพระโพธิสัตว์ ที่ต้องทรงหนังช้าง (เท่าที่ผมเห็นมา ของพระจักรพรรดิเป็นผ้าปักลายหนังช้างแทน)
พอมาเห็นทวยรูปหัวช้างที่คุณ han bing เอามาให้ชมกัน เลยเกิดสังสัยต่อว่าจีนนำช้างเข้าจากต่างประเทศไปใช้งานไหมครับ ถ้าไม่นำ เส้นทางการค้าช้างของไทยจะเป็นอย่างไรหนอ? สมเด็จพระจอมเกล้าฯ ถึงได้ทรงมีพระราชดำริจะส่งช้างไปอเมริกาได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
han_bing
|
ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อ 24 ก.พ. 12, 07:46
|
|
เรียนคุณติบอ
ผมไม่ได้เคยยินว่าสมเด็จพระจักรพรรดิเฉียนหลงเสด็จไปยังธิเบต พระองค์เคยเสด็จมาทางใต้ของจีนแถบเจียงหนานเท่านั้น โดยเสด็จมา ๖ ครั้ง
คิดว่าคงเกิดการเข้าใจผิด แต่เป็นเรื่องจริงที่พระองค์มีส่วนในการแก้ไขความสงบในธิเบต
สวัสดี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อ 24 ก.พ. 12, 09:41
|
|
ส่งภาพเข้าร่วมด้วยครับ ภาพนี้ถ่ายไว้ที่วัดลามะ หรือวัดองค์ชาย 4 ที่ประเทศจีน เป็นวัดที่สวยงามมากครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อ 24 ก.พ. 12, 09:44
|
|
เห็นภาพเขียนอยู่บริเวณทางเข้าห้องหลังหนึ่ง ภายในพระทิเบตกำลังสวดมนต์อยู่ เห็นภาพนี้งามนักเลยนำมาให้ชมกัน เป็นภาพลิง และช้างและพระสงฆ์ สัตว์ (ช้างและลิง) อันเกี่ยวเนื่องกับพุทธประวัติทั้งสิ้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อ 24 ก.พ. 12, 10:03
|
|
เพิ่มเติมข้อมูลเล็กน้อยครับว่า การวางไม้เล็กค้ำ "โต่วกง" ช่วยกระจายน้ำหนักจากคานลงสู่ต้นเสา ซึ่งเป็นหลักการทางวิศกรรมตอนนี้คือ ให้คานส่งแรงไปที่เสา และเสาลงสู่เสาเข็ม และลงไปที่ดิน แต่สำหรับสถาปัตยกรรมไทยนั้นจะผ่อนแรงโดยใช้ผนังรับน้ำหนักแทน
ต้นเสาหลักของโครงสร้างคือ "เสามังกร" ซึ่งประกอบด้วยต้นเสา 4 ต้น และรองรับด้วยเสารองซึ่งก็คือ เสาภายใน และเสาชายคา ครั้นแล้วโครงสร้างหลังคามักจะใช้ไม้ท่อนโตยกขึ้นไปเป็นขื่อ เป็นจันทัน และรองรับด้วยกระเบื้องดินเผา ซึ่งรวมแล้วมีน้ำหนักมาก แน่นอนว่าน้ำหนักกดทับลงมายังต้นเสานั้นมีแรงกดสูง แต่ช่างก็แก้ปัญหาด้วยการสร้าง "โต่วกง" หรือ "กระเช้ารับชายคา" เพื่อรับและส่ง ผ่อนแรงลงสู่ต้นเสา (เสมือนสร้างโช๊คอัพรถปิคอัพไว้รองรับน้ำหนัก)
อิทธิพลการใช้โต่วกง ยังส่งอิทธิพลไปยังสถาปัตยกรรมเกาหลี, ญี่ปุ่น และทิเบต
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อ 24 ก.พ. 12, 10:10
|
|
เราจะเห็นโต่วกงได้เยอะ ๆ ก็บริเวณใต้หลังคา (เคยเห็นหลังคาวัดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น มีโต่วกงเยอะ ๆ มาก ๆ ซ้อนกันอยู่หลายชั้น) ภาพนี้ถ่ายไว้ที่พิพิธภัณฑ์หอบวงสรวงฟ้าดิน จะเห็นลักษณะโครงสร้างของอาคารดั้งกล่าว ซึ่งช่วยให้เห็นภาพการใช้งานของโต่วกง ถ่ายน้ำหนักของหลังคาลงคาน และจากคานถ่ายน้ำหนักลงต้นเสาได้อย่างชัดเจน (ยิ่งใกล้หลังคา - คาน ยิ่งมีโต่วกงหนาแน่น)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ติบอ
|
ความคิดเห็นที่ 11 เมื่อ 24 ก.พ. 12, 15:50
|
|
กลับไปค้นเอกสารเล่อ่านเรียบร้อย... ผมจำสลับอย่างคุณ han_bing ว่าไว้จริงๆ ขอบคุณมากๆครับผม.... อายุเยอะขึ้น สมองน้อยลงครับ 555+
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อ 24 ก.พ. 12, 16:17
|
|
โครงสร้างหลังคาของท้องพระโรง ไท้เหอเทียน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|