กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ต.ค. 11, 22:09 ยังหาไม่พบว่าขนมเค้กเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่เมื่อไร แต่คิดว่าขนมฝรั่งกุฎีจีน ที่ทำกันมาตั้งแต่อยุธยาจนกระทั่งบัดนี้ คือขนมเค้กชนิดไม่ใส่เนย
น่าจะมาพร้อมกับกำเนิดของหมู่บ้านโปรตุเกสในอยุธยา มากกว่าตกทอดมาจากท้าวทองกีบม้าเพียงคนเดียว กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 04 ต.ค. 11, 22:21 อ.เทาชมพู คงจะหมายถึง ขนมเค้กที่ทำในรูปแบบ การตีครีม แต่งหน้าเค้กเป็นดอกไม้ ใช่ไหมครับ
กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 04 ต.ค. 11, 23:55 ขนมฝรั่งที่เรียกว่ากระดีจีนนั้น เคยเห็นในตลาดสดบางลำภูค่ะ ทำอยู่ใกล้ๆร้านก๊วยเตี๋ยวที่ขายลูกชิ้น คนขายผิงขนมแล้วเกลี่ยไฟไว้บนถาดซึ่งที่จริงคือแผ่นสังกะสีแผ่นโต อากาศแถวนั้นร้อนระอุ เมื่อประมาณนานมาแล้ว นักเลงเหน็บลูกขวานยังไม่มาตลาด เลยไม่ได้เจอกัน เค้กนั้นเห็นว่าเจ้านายคงสร้างความนิยมขึ้น เจ้านายที่ทรงสนใจการทำอาหารฝรั่ง ได้ทรงเรียนวิชาจากแหม่มโดยตรง ก็ทำเค้กไปถวายพระพันปีหลวงบ้าง ทำแซนวิชหรู ๆ ไปแจกตามงานหนังสือ งานประชุมต่างๆบ้าง ที่บ้านผู้ปกครองทำขนมปังขิง เค้กกล้วยหอม และแยมโรว์เป็นส่วนมาก ครีมเค้กต้องใช้เวลามาก นานๆทำทีค่ะ ไปซื้อแป้ง ผงฟู และเนยสับปะรสที่เสรีวัฒน์ สะพานหัน มีตำราปกสีน้ำเงินบ้าง เขียวบ้างแจก มีขนมคับเค้ก ที่ตัดฝาด้านบนออก แบ่งเป็นสองส่วน แล้วทาครีมใส่กลับลงไปในถาดขนมที่รองด้วยถ้วยกระดาษ เรียกว่าขนมผีเสื้อ ในตำราขนมสวยมาก แต่ขนมที่ทำที่บ้านปีกใหญ่และหนา แต่หอมอร่อย นานมาแล้วก่อนที่คุณหนุ่มจะระดมพลมาอยู่ที่เอราวัณเป็นดอนผู้กว้างขวาง ขนมเค้กเนยที่นี่อร่อยที่สุด จริงๆแล้วน่าจะเป็นเค้กฟองน้ำมากกว่าเพราะนุ่มนวล ครีมเค้กนั้น ม.ล.เติบ ชุมสาย ทำขายชิ้นละ ๑ บาท มีลายดอกทิวลิปด้วย ท่านใส่แยมสีต่างๆ รู้จักมาร์มาเลดก็ตอนนั้นค่ะ กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 05 ต.ค. 11, 07:40 นานมาแล้วก่อนที่คุณหนุ่มจะระดมพลมาอยู่ที่เอราวัณเป็นดอนผู้กว้างขวาง ขนมเค้กเนยที่นี่อร่อยที่สุด จริงๆแล้วน่าจะเป็นเค้กฟองน้ำมากกว่าเพราะนุ่มนวล จัดภาพหน้าร้านเอราวัณเบเกอรี่ให้ก่อน อาจจะเห็นไม่ชัดเท่าไร แต่ยังมีอีกภาพหนึ่งเห็นชัดเจน (ขอเวลาหานิดหน่อย) ขนมอบ ขนมเค้กที่แห่งนี้ยุคหนึ่งถือว่าอร่อยล้ำเลิศครับ คุณวันดีคงเห็นภาพเก่า ๆ แล้วคงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ด้วยเคยแวะเวียนไปเป็นแน่แท้ ภาพเด็กน้อยขายพวงมาลัยริมรั้วศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ ปัจจุบันก็ยังมีชีวิตอยู่ ยังคงทำมาหากินตามจริตที่ได้เคยมา กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 05 ต.ค. 11, 08:16 ร้านขายขนมเค้กอีกแห่งคือชมซุยฮง ไกลบ้านที่อยู่มาก ท่านผู้ใหญ่พาไปด้วยให้ช่วยหิ้วของ (การติดตามผู้ใหญ่นี่เป็นภาระกิจที่น่ารำคาญมาก เมื่อญาติ ๆ กลับจากการไปศึกษาในต่างประเทศ ก็ต้องเดินสาย ไปเยี่ยมท่านผู้หลักผู้ใหญ่ที่บ้านพัก กุลสตรีในสมัยนั้นไม่ได้มีรถประจำบ้านทุกคน ส่วนมากก็ขึ้นรถเมล์ และเรียกรถสามล้อ เบรคของรถสามล้อนั้นเป็นทองเหลือง ตั้งอยู่หน้าพื้นรถวางเท้าของผู้โดยสาร คนขี่สามล้อจะเหวี่ยงน่องอันกำยำล่ำสันมาทางด้านหลัง ระหว่างที่ขี่รถอยู่ เป็นที่ยั่วยวนและกระตุ้นความซนของนักอ่านหนังสือเก่ามาก คิดอยู่เสมอว่าถ้าเราเขยิบ ไปด้านหน้าเล็กน้อย แล้วเหยียบเบรคเล่น จะเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่ได้มีโอกาสทำดังใจปรารถนาเลย เนื่องจากกระโปรงนิวลุคของญาติทั้งหลายบานแผ่อยู่บนตัวของข้าพเจ้า ขยับตัวเล็กน้อยก็จะถูกเอ็ด) คำว่า "ดอน" ในวงการหนังสือเก่า เป็นคำยกย่องสูงสุด เพราะ "ดอน" คือผู้กำหนดราคาซื้อขายหนังสือโบราณก่อนหนังสือ จะเข้าสู่ตลาด เขาเหล่านี้มีเหตุผลอันมากมายมาสนับสนุนว่าทำไมจึงต้องเรียกราคานั้น กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 05 ต.ค. 11, 20:44 ไม่มีประสบการณ์ใดๆทั้งสิ้นเกี่ยวกับขนมเค้ก เพราะไม่ชอบทาน และไม่ชอบทำ คนในบ้านก็ไม่ยักมีใครจะทำให้กิน
แต่ว่าคนในบ้านนี้อันได้แก่แม่และป้า เล่าความหลังเมื่อสี่สิบปีก่อนในจังหวัดชัยภูมิว่า การหาซื้อขนมเค้กยากมาก กระทั่งแยมโรลล์ ดังนั้นทั้งสองท่านสมัยยังเด็ก (๑๔ - ๑๖ ปี) สองพี่น้อง จึงได้ทำขนมแยมโรลล์ขาย ทำเสร็จก็ปั่นจักรยานไปขายที่โรงเรียน ผลว่าขายดีมาก แต่ข้าพเจ้าก็ไม่ได้สนใจไต่ถามว่าแป้งอะไรไปหาซื้อที่ไหน (แต่เดาว่าน่าจะเป็นร้านขายในตลาดซึ่งทุกวันนี้เป็นที่เดียวที่มีขายในชัยภูมิ) แล้วใช้อะไรอบ แต่ก็เดาว่าน่าจะเป็นเตาสังกะสีกระมัง เพราะเห็นใช้อบขนมผิงกัน ตำราซื้อเข้ามาจากกรุงเทพฯ เพราะตำรานั้นทุกวันนี้ก็ยังตกอยู่ที่ข้าพเจ้า เก่าาาาาาาาาาาาาาาาาามากกกกกกกกกกกกกกกก จนไม่กล้าเปิด อันนี้เป็นเกล็ดเล็กๆคือ ป้าบ่นภายหลังว่า แม่ไม่ช่วยทำเลย ป้าต้องตื่นแต่ตีสี่ตีห้านั่งทำเอง แล้วพอมาช่วยทำทีไร วินาศบรรลัยไปทุกครั้ง เลยให้แม่เอาไปขายอย่างเดียว ภายหลังแม่เลยเถียงว่า อย่ามารำเลิกกันนะ ถ้าฉันไม่ไปขาย เธอเอาไปขายขายได้ไหม เห็นหน้าเศร้าหิ้วกลับมาทุกครั้งไป เหตุเกิดเมื่อ ๔๐ ปีก่อน แต่ยังเป็นเรื่องให้ข่มกันทุกวันนี้ แต่เรื่องของเรื่อง เค้กหรือขนมรั่งในต่างจังหวัดหาได้ยากพอควร กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 05 ต.ค. 11, 22:33 ประมาณปี พ.ศ. ๒๔๙๘ เค้กอีกชนิดหนึ่งที่วางขาย คือขนมเค้กลูกเกดค่ะ มีขนาดเล็กกว่าพิมพ์มาตราฐาน แต่เมื่อสุกแล้วปล่อยให้เย็น และเคาะกับตะแกรง กลิ่นหอมก็ยังเตะจมูกอยู่ ในเวลานั้นลูกพรุนแคะเมล็ด และลูกเกดมีขาย จัดว่าเป็นของนอกและฟุ่มเฟือย นานแสนนานจะได้ส่วนแบ่งบ้าง ไม่เคยเห็นเค้กสับปะรสหน้าคว่ำ ใส่ลูกพรุนอยู่ครงกลาง อาจเป็นเพราะเป็นของหาง่าย หรือไม่มีตำรา เค้กขิงมี เค้กใบเตยไม่มี เค้กช็อคกาแลตมี แต่หน้าเป็นช็อคกาแลตตุ๋นในหม้อสองชั้นด้ามยาว แล้วใส่น้ำตาล วิธีแต่งหน้าคือคอยให้เค้กเย็นแล้วป้ายหน้าที่ผสมแล้วด้วยไม้พายยาง ป้ายหน้าไปทางนั้นที ทางนี้ทีด้วยซ่อม ฟรุตเค้กมีค่ะและไม่ชุ่มเพราะผลไม้แห้งหายาก คนไทยจึงหั่นกล้วยตากและฟักเชื่อม ใส่ไปอย่างหาญกล้า ปนมะเขือเทศย้อมเขียวแดงแรงฤทธิ์ ไม่มีการแช่ผลไม้ในเหล้าบรั่นดีเลย บรั่นดีและตราขาว(สมัยนั้นไม่เห็นท่านผู้ใหญ่ดื่มแบ็ลค)อยู่ในตู้พิเศษของบิดา แม่ทอดกล้วยหอมด้วยเนยในกระทะเล็ก ด.ญ. วันดีไม่ชอบเลย ญาติ ๆ บอกว่าแปลกเพราะเห็นไม่เคยปฎิเสธอาหารหรือขนมอะไรเลย ต่อมาไม่นานก็พาแม่ไปรับประทานอาหารฝรั่งเศส แถวๆที่ดอนหนุ่มสยามตั้งแก๊งค์เลยไปทางทิศใต้สามสี่ซอย สั่งเครปมาให้แม่ชิมด้วย สมาชิกของกลุ่มนักอ่านส่วนมากเจอแต่กล้วยแขกทอดหน้าห้องสมุดสมเด็จกรมพระยาดำรงค์ ฯ (ร้านอาหารฝรั่งเศสเดิมปิดไปแล้วค่ะ สหาย) ประมาณยี่สิบปีมานี้ ชอบคริสมาสพุดดิ้งของอังกฤษมาก ซื้อที่แฮร์รอดขากลับ เป็นอ่างเล็กๆ เนื้อเค้กชุ่มฉ่ำเป็น สีดำ ซึ่งเคยเข้าใจว่าพุดดิ้งคือส่วนผสมเหลวๆรสมะนาวบ้าง ช็อคกาแลตบ้าง ตีให้ขึ้นฟูแล้วแช่ตู้เย็นไว้ บีบวิปครีมใส่นิดหนึ่ง ถ้ามีใครอยู่แถวนั้น ถ้าปลอดคนก็กดวิปครีมประดับเป็นวง ๆ เต็มถ้วยขนม กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 05 ต.ค. 11, 23:35 ส่ง คริสมาสพุดดิ้ง ชุ่มฉ่ำ มาฝากคุณWandee ก่อนวันคริสมาสค่ะ... ;D
พุดดิ้งกับเค้กใช้วิธีการทำสุกที่ต่างกันค่ะ ส่วนผสมคล้ายๆ กัน แต่พุดดิ้งใช้วิธีนึ่งให้สุกจึงใช้เวลานานกว่า ส่วนเค้กใช้วิธีอบค่ะ กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 06 ต.ค. 11, 04:36 ความสนุกในการทำฟรุตเค้ก คือไปซื้อหาผลไม้และนัท ที่จะนำมาแช่บรั่นดีค่ะ ในเมืองใหญ่ๆของโลก ดีพาร์ทเม้นสโตว์ก็จะจัดแสดงวัสดุและเครื่องปรุงอาหารและขนมกันเป็นการมโหฬาร แม่บ้านแต่คนก็มีตำราต่างกันออกไป ความรื่นเริงของสมาชิกในครอบครัวคือการที่ได้มาอยู่ร่วมกัน กินอาหารพร้อมหน้ากัน ขนมเค้กอีกหนึ่งแบบที่ทำได้ และชอบทำคือเค้กฟองน้ำค่ะ ใช้ไข่แดงเป็นหลัก เนื้อเค้กจะนุ่มแต่ยึดติดกัน หน้านั้นก็แล้วแต่ชอบ เด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆหลายคน(มีหลานและลูกเพื่อนบ้านเป็นผู้ชายทั้งนั้น) ได้นั่งเก้าอี้สูงในครัว และติการทำเค้ก ชมไม่ค่อยมี แต่ขนมพร่องไปมากค่ะเพราะพวกเขาต้องชิมหลายชิ้นก่อนจะวิจารณ์ กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 06 ต.ค. 11, 11:39 ขอแซวเล็กน้อย...ดีนะครับที่ ด.ญ. วันดี มิได้ชอบทานกล้วยหอมทอด หากชอบขึ้นมาจะเป็นเช่นไรหนอ ???
ตอนที่ยังเป็น ด.ช.หนุ่มสยาม จำได้ว่าเค้กจะแต่งหน้าไม่สวยงามเหมือนสมัยนี้ มีแต่ครีมหนา กับกลีบดอกไม้กุหลาบเป็นริ้ว ๆ เพื่อนเคยเหน็บให้ว่าไม่ชอบทานเค้กแบบนี้ที่เป็นเค้กวันเกิดเท่าไร ออกไปแนว "เค้กจีน" หรือ "เค้กประเพณี" กันเกินไป ต้องจักดอด จักกลีบ ขอบข้างต้องเป็นริ้ว ๆ สีขาว สีชมพู สีแดง ฟังแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ ช่างเข้าใจเทียบเสียจริง กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: naitang ที่ 06 ต.ค. 11, 21:29 ขอเรียนถามเรื่องราวเกี่ยวกับ..เค้กราชปะแตน.. ครับผม
ของเดิม ของแท้เป็นอย่างไรครับ กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ต.ค. 11, 16:27 ยังไม่มีเวลาจะร่วมวงนานๆ ขอแก้ตัวด้วยกระเป๋าแบรนด์เนมใบนี้ค่ะ
เห็นครั้งแรก ใครจะคิดว่าเป็นขนมเค้ก กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ต.ค. 11, 16:39 กระป๋องเป๊ปซี่ ก็เค้ก วางอยู่บนเค้กเช่นกัน
กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 07 ต.ค. 11, 16:48 ขอเรียนถามเรื่องราวเกี่ยวกับ..เค้กราชปะแตน.. ครับผม ของเดิม ของแท้เป็นอย่างไรครับ ใช้อินทรเนตรสอดส่องได้ ข้อมูลเบื้องต้น (http://th-th.facebook.com/media/set/?set=a.186108038082023.53777.129615340397960&type=1) ดังนี้ สมัยโบราณเค้กนี้ถูกเรียกว่า Royal Cake หรือ เค้กราชประแตน ซึ่งมาจากคำภาษาอังกฤษว่า ราชา-แพตเทิร์น หมายถึงเค้กที่นิยมโดยชนชั้นสูงรับราชการรับใช้แผ่นดินที่แต่งชุดนี้และเพราะได้รับอิทธิพลจากยุโรปโดยเฉพาะการรับประทานน้ำชาและเค้กยามบ่าย จึงได้มีการอบเค้กนี้โดยใช้ส่วนประกอบชั้นดีราคาแพงที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ส่วนรายละเอียดลึก ๆ อ่านได้จาก พันทิป (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2006/07/D4513664/D4513664.html) (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2006/07/D4513664/D4513664-0.jpg) ;D กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: naitang ที่ 07 ต.ค. 11, 18:23 กระป๋องเป๊ปซี่ ก็เค้ก วางอยู่บนเค้กเช่นกัน เข้าใจทำนะครับ สะดุดใจในทันทีก็คือ แล้วจำนวนประป๋องที่ทำด้วย Cake นั้น จะเป็นตัวแทนของน้ำในปริมาณเท่ากับ 1 Keg ที่ใช้กันตามงานเลี้ยงหรือไม่ ปรากฎว่าไม่ครับ กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ต.ค. 11, 19:05 กระป๋องเป๊ปซี่เค้กข้างบน น่าจะเป็นเค้กกลวง หรือถ้ามีเนื้อเค้กข้างในก็คงเบานุ่ม ถ้าหนักเท่ากระป๋องเป๊ปซี่จริงๆ น้ำหนักคงทำให้จมลงไปบนพื้นหน้าเค้กที่รองรับอยู่ข้างล่างลังเป๊ปซี่
เอามาฝากอีกค่ะ กระเป๋าไนกี้เค้ก กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ต.ค. 11, 19:06 เค้กจักรเย็บผ้า อุปกรณ์น่าจะทำด้วยแป้ง
กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ต.ค. 11, 19:07 เค้กตำรากายวิภาค
กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ต.ค. 11, 19:08 เค้กแผนที่
กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: naitang ที่ 07 ต.ค. 11, 22:37 ขนมเค้กอีกอย่างหนึ่งที่ผมเคยได้ยิน แต่ไม่แน่ใจว่าเคยได้กินหรือไม่ คือ Ginger cake ครับ
ทราบแต่ว่าเป็นเค้กที่ทำกินกันในวันคริสมาส หรือในช่วงฤดูหนาว ประมวลคำตอบจากการสอบถามที่ได้มา บอกว่า เป็นเค้กที่พิเศษมาก ปีหนึ่งทำเพียงครั้งเดียวในฤดูหนาว เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่เรือค้าขายจากตะวันออกจะกลับมาเข้าท่าที่ยุโรปพร้อมด้วยเครื่องเทศต่างๆ เขาว่าจริงๆแล้วไม่ใช่เค้กใส่ขิง แต่ Ginger เป็นคำที่ใช้รวมๆที่หมายถึงเครื่องเทศ ผมเข้าใจว่าเพียงเพื่อให้มีกลิ่น เช่น จากอบเชย เป็นต้น ผมเดาเอาจากวิธีทำของหวานอย่างหนึ่งที่เอาแอบเปิ้ลผ่าแล้วโรยด้วยผงอบเชยแ้ล้วนำไปอบ และ Apple strudel จะจริงเท็จอย่างไร ผมก็ไม่ทราบ พอจะขยายความเพิ่มเติมได้ใหมครับ กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 07 ต.ค. 11, 23:44 ขิงนั้นเป็นเครื่องปรุงที่หรูหราในสมัยโบราณเพราะมาจากตะวันออกไกล ของที่แพงที่สุดคือพริกไทยค่ะ แม่บ้านต้องห้อยถุงเครื่องเทศไว้ที่เอวเพื่อเก็บรักษาเพราะราคาเท่ากับทองคำ สมัยหลังสงครามโลกครั้งที่สอง(แน่นอนนะคะคุณอาร์ท ว่าไม่ใช่ WWI) กุลสตรีไทยมีเนย นมและแป้งแล้วก็ทำขนมกัน ขนมที่ใส่ขิงก็ออกมาหลายรูปแบบได้ แต่เท่าที่เห็นจะเป็น คุ้กกี้ กับ จินเจอร์ เบรดค่ะ ใส่ผงจินเจอร์ ซินนามอน นัทเมค และ cloves เครื่องปรุงเหล่านี้มาในกระป๋องสังกะสี นานไปไม่ได้ใช้ก็แห้งกรังติดกัน ตามตำราที่ทำกัน ที่บ้านก็ทำค่ะคือเป็นตุ๊กตาขากางแขนกาง หัวกลม ๆ ด.ญ.วันดีได้รับมอบหมายให้ติดตาตุ๊กตาด้วยลูกเกตเมื่อขนมอบจวนสุก ใส่ก่อนไม่ได้ค่ะ เพราะเราไม่มีฟอยด์ตอนนั้น เป็นที่แน่ว่าจะช่วยผู้ปกครองอยู่จนขนมสุก พยายามเสนอให้ทำบ้านยายแม่มดแต่ไม่มีผู้ใดสนับสนุน ไม่ติดใจกลิ่นขิงเลยค่ะ เพราะขนมปังนั้นเนื้อด้านนอกจะลื่นเล็กน้อย บางทีก็แฉะเพราะใช้เตาสังกะสี เครื่องใช้ไฟฟ้าเล็กๆที่มีอยู่ ใช้อบไม่ดีเลย อบเชยนั้น เพื่อนบ้านซึ่งต่อมาเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ของมหาวิทยาลัยที่เบิร์กเล่ย์ ชงนมอุ่นในหม้อที่จับด้ามยาว ใส่น้ำตาลนิดหนึ่ง และโรยผงอบเชย ความอุ่นของน้ำนมจะขับกลิ่นอบเชยให้กระจาย เพื่อนเป็นลูกของหมอสอนศาสนาเคยไปอยู่ที่หมู่เกาะในปาซิฟิค มีของเลี้ยงนักเรียนต่างชาติแค่นี้ถือว่าโก้แล้ว เมืองไทยของเราเป็นอู่ของอาหารการกินจริง ๆ เพราะเราผลิตอาหารได้ กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 08 ต.ค. 11, 00:01 แอบเปิ้ลอบนั้น ทำง่ายที่สุด ตำราใครตำราท่าน หั่นแอ้บเปิ้ลครึ่งลูก เขี่ยเม็ดทิ้งเสีย เพราะคนที่รับประทานจะติดคอได้ ใส่ในถ้วยทนไฟ วางในถาดที่ใส่น้ำเล็กน้อย ราดซีรับ โรยอบเชยนิดเดียว ที่ต้องใส่น้ำในถาดก็เพื่อไม่ให้ขนมแห้งจนเกินไป อบจนแอบเปิ้ลนุ่ม ขนมนี้เด็กและท่านผู้สูงอายุชอบมาก กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ต.ค. 11, 22:50 จำไม่ได้ว่า ginger cake เป็นยังไง คงจะไม่ได้ชอบรสชาติเป็นพิเศษเลยจำไม่ได้ แต่ถ้า gingerbread ละก็รู้จัก เป็นตุ๊กตาขนมปังขิงกรอบๆ แต่งด้วยน้ำตาลสีให้มีตาจมูกปาก และขอบแขนขา เห็นวางขายตอนคริสต์มาส
ไปค้นรูปในกูเกิ้ล พบว่า ginger cake มีหลายแบบ เอาแบบหนึ่งมาให้ดูค่ะ กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ต.ค. 11, 15:28 มีเค้กอยู่ชนิดหนึ่งที่คนไทยเราทำได้อลังการกว่าของฝรั่ง คือเค้กแต่งงาน
กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 10 ต.ค. 11, 16:00 มีเค้กอยู่ชนิดหนึ่งที่คนไทยเราทำได้อลังการกว่าของฝรั่ง คือเค้กแต่งงาน เคยเห็นเขาทำเค้กแต่งงานเป็นชั้น ๆ ครับ ;D เค้กแต่งงานที่เห็นเป็นชั้น ๆ สูง ๆ เป็นของปลอมครับ โดยทำจากน้ำตาลไอซิ่งขึ้นรูปกับโครงลวด ประดับด้วยดอกไม้น้ำตาลไอซิ่งลงสีอย่างสวยงาม :-X กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ต.ค. 11, 19:10 เอาเค้กแปลกๆมาให้ดูอีก
เค้กคอมพิวเตอร์ กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ต.ค. 11, 19:10 เค้กมือถือ
กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ต.ค. 11, 20:24 กระดาษห่อ kitkat หลอดใส่ smarties และกระดาษหุ้ม snicker ก็กินได้นะคะ
กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ต.ค. 11, 20:36 เค้กแต่งงานสไตล์นี้ คนไทยคงไม่มี
ใจยังไม่ถึงพอ กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 11 ต.ค. 11, 20:47 ^
ภาพล่างควง ๒ เลย ;D กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: naitang ที่ 11 ต.ค. 11, 21:12 การทำเค้กนี้จัดได้เป็นศาสตร์หนึ่งเลยนะครับ
ส่วนผสมพื้นฐานของเค้กก็มีเพียง ไข่ แป้ง ไขมัน นม น้ำตาล (บางทีก็มีเกลือนิดหน่อย) สิ่งที่ทำให้เกิดกลิ่น สิ่งที่ทำให้เค้กพองฟู และ/หรือ เนื้อผลไม้ต่างๆที่ผสมลงไป แล้วก็วิธีการการอบและการแต่งให้น่ากิน น่าสนใจตรงที่ ทั้งหมดเพียงเท่านี้ก็ทำให้เกิดเค้กที่น่ากินได้อย่างมากมาย ไข่ - ไม่แน่ใจว่า มีการใช้ไข่อื่นใดนอกจากไข่ไก่ ??? เค้กบางชนิดก็ใช้ไข่ทั้งไข่ขาวและไข่แดง บางชนิดก็ใช้เฉพาะไข่แดง บางชนิดก็ใช้เฉพาะไข่ขาว และเพื่อไม่ให้เสียไข่ บางชนิดก็ใช้ไข่แดงเป็นเนื้อใช้และไข่ขาวเป็นส่วนแต่งให้น่ากิน แป้ง - เกือบทั้งหมดจะเป็นการใช้แป้งสาลี แต่ก็ยังแยกออกไปอีกว่า เค้กบางชนิดก็ใช้แป้งสาลีหนัก บางชนิด็ใช้แป้งสาลีเบา บางชนิดก็ใช้ได้ทั้งสองประเภท อันนี้ ทำให้เค้กเป็นวัฒนธรรมพื้นฐานของข้าวสาลี ??? อย่างไรก็ตาม เค้กบางชนิดก็ใช้แป้งอื่นๆผสมไปด้วย ผมคิดว่าสำหรับเค้กบางชนิดนั้น ไทยได้ใช้แป้งท้าวยายม่อมผสมด้วย สุดยอดจริงๆของภูมิปัญญา ไขมัน - ทั้งหมดก็จะเป็นเนย แต่ก็ยังแยกไปอีก ทั้งการใช้เนยแบบที่ต้องละลายจนเป็นน้ำมันเนย (Ghee) ใช้เนยสด ใช้เนยเค็ม ใช้เนยไม่เค็ม และใช้เนยเทียม ไม่คิดว่าจะมีการใช้เนยประเภท Cheese แต่อย่างไรก็ตาม หากใช้เนยเทียมแล้ว เนื้อเค้กจะแข็งและไม่นุ่มเหมือนเนยแท้ๆ (เค้กที่ทำเป็นขายธุรกิจ มักจะใช้เนยเทียม) นม - นมก็ยังมีแยกไปอีก ใช้นมแท้ๆ (Full fat) นมพร่องไขมันน้อย และนมพร่องไขมันมาก หรือนมทำให้เปรี้ยว (บีบมะนาว) น้ำตาล - น้ำตาลที่ใช้เกือบทั้งหมดจะเป็นน้ำตาลทราย ก็มีแยกออกเป็นน้ำตาลทรายหยาบ น้ำตาลทรายละเอียด (Icing sugar) น้ำตาลประเภทอื่นๆ และสารธรรมชาติที่ให้ความหวาน (เช่น Fructose) และน้ำตาลเทียม (เช่น Sucralose) ขนมหวานของไทยหลายๆอย่าง ซึ่งผมเห็นว่าจัดเป็นพวกเค้กหนัก ก็ใช้น้ำตาลจากมะพร้าวบ้าง น้ำตาลตะโหนดบ้าง น้ำตาลอ้อยบ้าง ก็เป็นภูมิปัญญาไทยที่น่ายกย่องอีกอย่างหนึ่ง สิ่งที่ทำให้เกิดกลิ่น - ส่วนมากจะเป็นการใช้น้ำมันหอมระเหยกลิ่นต่างๆ ซึ่งโดยทั่วไปมักจะหนีไม่พ้นการใช้กลิ่นวนิลาเป็นพื้นฐาน แต่ภูมิปัญญาของไทยแต่โบราณนั้น เราใช้กลิ่นจากพืชในธรรมชาติเลย สิ่งที่ทำให้เค้กพองฟู - ก็มีอยู่ 2 สิ่ง คือ ผงฟู (โซเดียมไบคาร์บอร์เนต) และยีส กลุ่มเค้กที่ใช้ผงฟูมักจะต้องใช้นมบีบมะนาวให้มีสภาพเป็นกรดเพื่อไปทำปฏิกริยากับด่าง (ผงฟู) ให้เกิดเป็นฟองอากาศทำให้เค้กนุ่มเบา กลุ่มที่ใช้ยีสมักจะต้องปลุกยีสให้ตื่นก่อนโดยใช้น้ำอุ่น ยีสขยายตัวจากน้ำตาลแล้วก็ไปเปลี่ยนแป้งให้เป็นน้ำตาลคายอากาศที่หายใจออกทำให้เค้กฟูนุ่ม เค้กพวกนี้จึงมักต้องรอเวลาก่อนเข้าอบ ในความคิดของผม การทำเค้กก็เหมือนกับการสร้างอาคารคอนกรีต ความสมดุลย์ระหว่างไข่ (เสมือนเป็นเหล็กโครงสร้าง) แป้ง (เสมือนหนึ่งเป็นเนื้อปูนและทราย) นม (เสมือนเป็นน้ำในการผสมปูนซีเมนต์) และไขมัน (เสมือนเป็น Additive เพื่อประสานเนื้อปูน) เหล่านี้ทำให้ได้เค้กมากมายหลายชนิดที่เดียว การทำเค้กจึงเป็นศาสตร์ได้แขนงหนึ่ง เค้กไม่ใช่ของไทยแน่ๆ แต่ก็มีขนมหวานของไทยมากมายที่มีองค์ประกอบของส่วนผสมคล้ายๆการทำเค้ก เราไม่ใช้นมและเนย แต่เราใช้กะทิและน้ำมันพืช ฯลฯ ฝอยมากไปเหมือนกับเป็นผู้เชี่ยวชาญเลยนะครับ กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ต.ค. 11, 21:20 เค้กแต่งงานแบบ "วิวาห์สยอง"
กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ต.ค. 11, 16:56 ชอบเค้กช็อกโกแลตเป็นอันดับหนึ่ง แต่หน้าตาอย่างนี้ ต่อให้นุ่มขนาดไหนก็กลืนไม่ลงค่ะ
กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ต.ค. 11, 16:57 เค้กสตรอเบอรี่ก้อนนี้ ขอผ่าน...
กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ต.ค. 11, 16:59 หีบสมบัติใบนี้ น่าอร่อย
กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ต.ค. 11, 17:02 เจ้าคู่แข่งของกระต่าย ทั้งสองตัวนี่ ต้องดูให้ดีว่าตัวไหนกินได้ เลือกผิดอาจจะถูกงับนิ้วขาด
กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ต.ค. 11, 19:00 เค้กไฮเทค
กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ต.ค. 11, 19:01 เค้กกีฬาในร่ม
กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ต.ค. 11, 15:19 เค้กแช่แข็ง( freeze cake)
กระทู้: ขนมเค้ก เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ต.ค. 11, 21:32 cupcake แบบต่างๆ
|