เรือนไทย

General Category => หน้าต่างโลก => ข้อความที่เริ่มโดย: นิลกังขา ที่ 24 พ.ค. 06, 14:43



กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 24 พ.ค. 06, 14:43
 เรียนสมาชิกวิชาการ.คอม ครับ

ผมเอาบทความของกระทรวงการต่างประเทศมาฝาก 1 บท ซึ่งลงพิมพ์ใน นสพ. กรุงเทพธุรกิจวันนี้ 24 พ.ค. 49 เกี่ยวกับการที่เลขาธิการสหประชาชาติจะเข้าเฝ้าฯ พระเจ้าอยู่หัวเพื่อถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ ในวันที่ 26 พ.ค. นี้

ขอจงทรงพระเจริญ


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 24 พ.ค. 06, 14:44
 พระมหากษัตริย์นักพัฒนา พระมหากษัตริย์ที่สหประชาชาติถวายราชสดุดี

เป็นที่ทราบกันดีในประเทศไทยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของปวงชนชาวไทยนั้น ได้ทรงอุทิศพระองค์บำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ทุกท้องถิ่นทั่วพระราชอาณาจักร ทุกเชื้อชาติศาสนา ตลอดระยะเวลา 60 ปีแห่งรัชสมัย จนกระทั่งเคยทรงได้รับพระราชสมัญญานามเฉลิมพระเกียรติจากสื่อมวลชนต่างประเทศว่า พระเจ้าอยู่หัวของประเทศไทยนั้นทรงเป็น “พระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก”

พระราชกรณียกิจและพระปรีชาสามารถที่สำคัญด้านหนึ่ง คือพระราชภารกิจและแนวพระราชดำริที่ได้พระราชทานเกี่ยวกับการพัฒนา เพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชนของพระองค์ โดยทรงเน้นการพัฒนาที่เน้นความสมดุลและยั่งยืน และคำนึงถึงความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนในทุกด้านไม่เฉพาะแต่ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ปรัชญาในการทรงงานด้านนี้ได้แสดงออกมาในรูป“ทฤษฎีใหม่” และแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งสะท้อนอยู่ในพระปรีชาสามารถทั้งในด้านการจัดการทรัพยากรดินและน้ำ ฝนหลวง การเกษตร การอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฯลฯ

พระมหากรุณาธิคุณด้านการพัฒนาประเทศและยกระดับคุณภาพชีวิตเหล่านี้ นอกจากเราชาวไทยจะตระหนักและซาบซึ้งแก่ใจแล้ว พระเกียรติคุณยังเป็นที่สรรเสริญโดยทั่วไปในบรรดาประเทศต่างๆ ด้วย หลายประเทศได้แสดงความสนใจเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริต่างๆ เช่น โครงการปลูกพืชทดแทน และอื่นๆ ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับประเทศของตนได้ นอกจากนั้น ที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรืออังค์ถัด (UNCTAD) ก็ได้แสดงความสนใจแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเห็นว่าสามารถเป็นทางเลือกหนึ่งในวิถีทางการพัฒนาประเทศได้

ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีในปีนี้ ก็เป็นที่น่ายินดีว่า นายโคฟี อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ มีกำหนดจะทูลเกล้าฯ ถวาย  “รางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์” ของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP Human Development Lifetime Achievement Award) แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเฉลิมพระเกียรติเป็นกรณีพิเศษ ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 25 - 27 พฤษภาคม 2549

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลขาธิการสหประชาชาติและภริยา เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2549 เวลา 17.00 น. ณ วังไกลกังวล หัวหิน เพื่อถวายรางวัลดังกล่าว

ความพิเศษยิ่งของราชสดุดีที่ทางสหประชาชาติจะถวายครั้งนี้ อยู่ตรงที่ ประการแรก รางวัลนี้เป็นรางวัลเกียรติยศที่สหประชาชาติริเริ่มจัดตั้งขึ้นใหม่ในปีนี้ เพื่อร่วมกับประชาชนไทยในการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระปรีชาสามารถและพระราชกรณียกิจในการพัฒนาความเป็นอยู่ของพสกนิกรชาวไทย และร่วมเฉลิมฉลองวโรกาสปีมหามงคลดังกล่าว และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงเป็นผู้ที่ได้รับการถวายรางวัลเกียรติคุณพิเศษนี้เป็นพระองค์แรก ไม่เคยมีใครได้รับรางวัลนี้มาก่อนเลย แต่ในปีต่อๆ ไป โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติจะพิจารณามอบรางวัลนี้ แก่บุคคลดีเด่นที่ได้อุทิศตนตลอดช่วงชีวิตเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตมนุษย์ จึงเป็นอันว่ารางวัลระดับโลกด้านการพัฒนามนุษย์รางวัลนี้ มีกำเนิดในปีมหามงคลของไทยเราปีนี้เอง

ประการที่สอง ที่ผ่านมา ตัวแทนองค์การและทบวงการชำนัญพิเศษเฉพาะด้านต่างๆ ที่อยู่ภายใต้ระบบสหประชาชาติ ได้เคยถวายรางวัลและการเฉลิมพระเกียรติคุณด้านต่างๆ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาแล้ว นับได้ทั้งสิ้น 10 ครั้ง ตัวอย่างเช่น การเฉลิมพระเกียรติจากองค์การอนามัยโลก (WHO) จากองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) จากองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) จากโครงการเพื่อการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ แห่งสหประชาชาติ (UN-Habitat) และจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) เป็นต้น แต่สำหรับการถวายพระเกียรติครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่เลขาธิการสหประชาชาติจะเดินทางมาถวายรางวัลของสหประชาชาติด้วยตนเอง ถือเป็นความพิเศษยิ่งอีกประการหนึ่ง

การถวายรางวัลครั้งนี้ แสดงให้โลกประจักษ์อีกครั้งหนึ่งว่า แนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สอดคล้องกับปรัชญาการพัฒนาของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ และสามารถเป็นแบบอย่างอันเลิศในด้านการพัฒนาเพื่อให้นานาประเทศในโลกโดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาน้อมนำไปปรับใช้ในวิถีทางการพัฒนาประเทศของตนได้เป็นอย่างดี

ขอพระมหากษัตริย์นักพัฒนาจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน .


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: caeruleus ที่ 25 พ.ค. 06, 16:14
 มาลงชื่อถวายความภักดีค่ะ

ทรงพระเจริญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: jayjay ที่ 25 พ.ค. 06, 21:42
 เป็นบุญของคนไทยมากครับ
ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: อ๊อฟ ที่ 25 พ.ค. 06, 22:23
 ขอจงทรงพระเจริญ


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: jk ที่ 26 พ.ค. 06, 01:41
 ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 26 พ.ค. 06, 12:32
 ต่ออีกนิดครับ

คำแปลคำกล่าวของเลขาธิการสหประชาชาติ เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับการพัฒนามนุษย์ ที่กระทรวงการต่างประเทศ 26 พ.ค. 49

"คำแปล เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวสุนทรพจน์ เพื่อถวายสดุดีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้านการพัฒนามนุษย์
ในการอภิปรายของคณะผู้ทรงคุณวุฒิระดับสูง วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม 2549

ฯพณฯ
สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ

   ในบ่ายวันนี้ ผมจะได้รับเกียรติอันยิ่งใหญ่ในการทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ แด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล อดุลยเดช   และผมมีความรู้สึกปิติยินดีอย่างยิ่งในเกียรติที่ผมได้รับ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น  ที่ได้ร่วมเฉลิมพระเกียรติถวายรางวัลดังกล่าวแด่พระองค์ ในโอกาสแห่งการเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบหกสิบปี

   สำหรับองค์การสหประชาชาติ พิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรตินี้มีความหมายสำคัญยิ่ง  เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่องค์การสหประชาชาติได้จัดทำรางวัลเกียรติยศนี้ เพื่อมอบแด่บุคคลดีเด่น ที่ได้อุทิศตนตลอดช่วงชีวิตและสร้างคุณค่าของผลงานอันเป็นที่ประจักษ์และเป็นคุณูปการที่ผลักดันความก้าวหน้าในการพัฒนาคน

   การพัฒนาคน โดยแก่นแท้แล้ว เป็นแนวทางเรียบง่าย  การพัฒนาคน เป็นเรื่องของการสร้างเสริมขีดความสามารถแก่ประชาชน  มิใช่เพื่อเพียงคนสองสามคน มิใช่เพื่อคนจำนวนมาก แต่เพื่อคนทั้งปวงโดยถ้วนทั่ว   การสร้างเสริมขีดความสามารถทำได้ โดยผ่านทางการศึกษา  การขยายโอกาสและทางเลือก  สุขอนามัย และโภชนาการ  การพัฒนาคนเป็นเรื่องของการสร้างเสริมขีดความสามารถในการขยายโอกาสแก่ปัจเจกชน ที่จะเลือกให้มีชีวิตยืนยาวด้วยการมีสุขพลานามัยที่แข็งแรง  เป็นบุคคลากรที่มีความรู้ และความคิดที่สร้างสรรค์

   การพัฒนาคน เป็นการพัฒนาที่ให้คนเป็นเป้าหมายศูนย์กลางในการพัฒนา  โดยมุ่งเน้นการพัฒนาความเติบโตทางเศรษฐกิจและอย่างยั่งยืน  สิทธิมนุษยชนและความมั่นคงในชีวิต  ความเท่าเทียมกัน และ การมีส่วนรวมทางการเมือง

   องค์การสหประชาชาติ ได้ให้ความสำคัญด้านการพัฒนาคนเป็นลำดับแรก และเราคงเพียรพยายามอย่างเต็มที่ในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาคน  โดย ผ่านรายงานการพัฒนาคนของยูเอ็นดีพี  (Human Development Report) ทั้งในระดับโลกและระดับประเทศ  ผ่านโครงการพัฒนาต่างๆ ภายใต้ทีมงานองค์การสหประชาชาติประจำประเทศต่างๆ ใน 166 ประเทศทั่วโลก  และโดยผ่านรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์นี้

   ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้  หากการพัฒนาคน หมายถึง การให้ลำดับความสำคัญประชาชนเป็นอันดับแรก  ไม่มีสิ่งอื่นใดอีกแล้วที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าการพัฒนาคน ภายใต้แนวทางการพัฒนาคน ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

   เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงบรมราชาภิเษกเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติในปีพุทธศักราช 2489 พระองค์ได้ทรงพระปฐมราชโองการไว้ว่า
“เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”  นับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา พระองค์ได้ทรงอุทิศพระวรกายและทรงงานโดยมิรู้หน็ดเหนื่อย เพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของปวงชนชาวไทย โดยมิได้เลือก เชื้อชาติ วรรณะ และศาสนา

   พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รับการขนานนามจากชาวโลกว่า “ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักพัฒนา”  พระองค์ทรงเยี่ยมเยียนพสกนิกรที่ยากไร้และด้อยโอกาสทั่วทุกภูมิภาค  ทรงสดับรับฟังปัญหาทุกข์ยากของราษฎร และทรงมีพระเมตตาพระราชทานแนวทางการดำรงชีพ เพื่อให้ประชาชนของพระองค์สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน

   พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงงานด้านการพัฒนาชนบท ยังประโยชน์นานัประการต่อประชาชนนับล้านในประเทศ  อาทิ โครงการที่มุ่งเน้นการเกษตรขนาดเล็ก ด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสม มีการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน รวมทั้งการป้องกันและบรรเทาความเดือดร้อนจากน้ำท่วมและภัยแล้ง

   นอกจากนั้น โครงการพัฒนาในพื้นที่สูงในภาคเหนือ ภายใต้โครงการในพระราชดำริ  ได้เปลี่ยนสภาพพื้นที่ปลูกฝิ่นให้กลายเป็นแหล่งปลูกพืชทดแทน  โครงการต่างๆในพระราชดำริเพื่อพัฒนาชนบท ทำให้คนในพื้นที่มีสุขอนามัยดีขึ้น  มีโอกาสในการศึกษา และยังประโยชน์สุขแก่ประชาชนในพื้นที่และผู้อยู่อาศัยบริเวณเขตชายแดนไทยแถบพม่าและลาวให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขี้น

   ในดัานการพัฒนาสังคมภายใต้โครงการพระราชดำริต่างๆ  พระองค์ท่านได้ทรงสนับสนุนด้านสุขอนามัยและความเป็นอยู่ที่ดีของเด็ก  มีการรณรงค์ลดภาวะการขาดไอโอดีน รวมทั้งส่งเสริมสร้างโอกาสทางการศึกษา  และการยกระดับพัฒนาชีวิตของประชาชนชาวไทย

   อนึ่ง ด้วยพระปรีชาสามารถในการเป็นนักคิดของพระองค์ท่าน ทำให้นานาประเทศตื่นตัวในการปรับรูปแบบการพัฒนาภายใต้แนวคิดใหม่

   พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งชี้แนวทางการพัฒนาที่มุ่งเน้นความสมดุล องค์รวม และยั่งยืน โดยเน้นหลักการ ความพอประมาณ และการมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอที่จะต้านทาน และลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงต่างๆอย่างรวดเร็วอันเนื่องมาจากกระแสโลกาภิวัฒน์  ปรัชญาดังกล่าวซึ่ง เน้นแนวทาง “การเดินสายกลาง”   ทำให้องค์การสหประชาชาติมีปณิธานมุ่งมั่นพัฒนาคน ให้ประชาชนเป็นเป้าหมายศูนย์กลางในการพัฒนา เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีและยั่งยืนต่อไป

   โครงการพัฒนาและปรัชญาแนวความคิดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เป็นแนวทางในการพัฒนาของพระองค์ท่าน และสำหรับประชาชนทุกหนแห่ง

   รางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ นี้  องค์การสหประชาชาติมีปณิธานที่จะส่งเสริมประสบการณ์ และแนวทางปฏิบัติ ในการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอันทรงคุณค่าอย่างหาที่สุดมิได้ของพระองค์ท่าน  เพื่อจุดประกายแนวความคิดการพัฒนาแบบใหม่สู่นานาประเทศ

   เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ความสำเร็จสูงสุดและความมุ่งมั่นในพระราชหฤทัยในการพัฒนาคนสำหรับประชาชนของพระองค์   บ่ายวันนี้  ผมมีความภาคภูมิใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง  ที่ได้รับพระราชทานโอกาสทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุด ด้านการพัฒนามนุษย์ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

   ขอบคุณ"


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 26 พ.ค. 06, 14:22
 อีกครับ ขออาศัยพื้นที่ตรงนี้เผยแพร่สิ่งดีๆ อีกช่องทางหนึ่งด้วยเถิด

"คำแปล สุนทรพจน์ของ ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ในการอภิปรายโดยผู้ทรงคุณวุฒิ
เรื่อง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับการพัฒนามนุษย์”
วันที่ 26 พฤษภาคม 2549 ณ กระทรวงต่างประเทศ

ฯพณฯ นายโคฟี อันนัน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ
ฯพณฯ ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรีและรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
ฯพณฯ ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ
ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน

ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมในการอภิปรายโดยผู้ทรงคุณวุฒิ เรื่อง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับการพัฒนามนุษย์”  และได้ร่วมกล่าวในฐานะข้าราชบริพารที่ได้รับสิทธิอันทรงเกียรติในการเฝ้าติดตามพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างใกล้ชิด  การอภิปรายครั้งนี้ได้จัดขึ้นในช่วงเวลาแห่งความปลื้มปิติยินดีและการเฉลิมฉลองของปวงพสกนิกรทั่วผืนแผ่นดินไทย วันที่ ๙ มิถุนายน ศกนี้ ทั่วราชอาณาจักรไทยจะร่วมเฉลิมฉลองอย่างพร้อมเพียงกันเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี และนับได้ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ครองสิริราชสมบัติที่ยาวนานที่สุดในโลก

ข้าพเจ้ามีความยินดีที่ได้ร่วมต้อนรับ ฯพณฯ นายโคฟี อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ ผู้มาเยือนประเทศไทยและจะเป็นผู้ทูลเกล้าฯ ทูลกระหม่อมถวาย ”รางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์” แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสมหามงคลนี้  อันจะนำความปลาบปลื้มปิติยินดีและภาคภูมิใจมาสู่พวกเราเหล่าพสกนิกรชาวไทย

องค์การสหประชาชาติ โดยเฉพาะสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นดีพี) สมควรได้รับการยกย่องในฐานะเป็นผู้ช่วยบุกเบิกแนวคิดด้านการพัฒนามนุษย์ในระดับโลก  ทำให้แนวคิดเกี่ยวกับการให้ความสำคัญต่อประชาชนในการกำหนดนโยบายการพัฒนาได้เผยแพร่สะพัดไปในประชาคมระหว่างประเทศ  คำปฏิญาณที่หาญมุ่งไปสู่การพัฒนามนุษย์ได้รับการเชิดชูขึ้นท่ามกลางประชาคมโลกอีกครั้งหนึ่งในปฏิญญาแห่งสหัสวรรษเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๓ และในการจัดทำรายงานผลการประชุมสุดยอดระดับโลกในปีที่ผ่านมา ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นจารึกที่สะท้อนความพยายามของท่านเลขาธิการโคฟี อันนัน

และในส่วนของประเทศไทยมีอะไรบ้าง

ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน
   
หัวข้อการอภิปรายโดยผู้ทรงคุณวุฒิ เรื่อง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับการพัฒนามนุษย์” นั้นเป็นหัวข้อที่มีความเหมาะสมยิ่งนัก ทั้งนี้ ข้าพเจ้าเชื่อว่า หัวข้อการอภิปรายได้สะท้อนให้เห็นถึงหนึ่งในพระวิริยะและความมุ่งมั่นในพระองค์ และความสำเร็จของประเทศไทยในช่วงระยะเวลา ๖๐ ปีภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร  ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ประชาชนชาวไทยได้รับความผาสุกจากพระวิริยะอุตสาหะที่ทรงมิรู้จักเหน็ดเหนื่อยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการช่วยบรรเทาสถานการณ์ที่วิกฤติและยกระดับสภาพความเป็นอยู่ของไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินของพระองค์  สำหรับข้าพเจ้าแล้ว เรื่องราวแห่งพระราชกรณียกิจตลอดระยะเวลาการครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นเรื่องราวการส่งเสริมการพัฒนามนุษย์ที่ควรแก่การเล่าขานสู่กันฟัง
เมื่อหกสิบปีที่แล้วในปีพุทธศักราช ๒๔๘๙  ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ได้ประทานพระปฐมบรมราชโองการในการครองราชย์ว่า “ เราจะครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”   ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงยึดพสกนิกรชาวไทยไว้กลางพระราชหฤทัยตลอดรัชสมัยแห่งการครองราชย์ที่ผ่านมา
นับระยะเวลาหกสิบปีล่วงเลยมาแล้ว คำมั่นสัญญาดังกล่าวได้ถ่ายทอดผ่านพระราชกรณียกิจในองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ได้เสด็จไปทั่วทุกภาคของประเทศไทยเพื่อทรงศึกษาปัญหาที่เหล่าประชาราษฎร์ต้องประสบด้วยพระองค์เอง และทรงช่วยเหลืออย่างทันท่วงที  ข้าพเจ้ายังจำได้ถึงการเสด็จบุกเบิกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในการเสด็จเยือนพื้นที่ชนบทยากจน ห่างไกลและทุรกันดารในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อปี ๒๔๙๘   ตลอดระยะเวลายี่สิบสองวันที่ยากลำบาก ทั้งสองพระองค์ได้ทรงเสร็จเยือนหมู่บ้านต่างๆ และทรงพูดคุยกับชาวบ้าน เพื่อเรียนรู้ถึงปัญหาและข้อห่วงใยต่าง ๆ  และตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา การเยี่ยมชาวบ้านในลักษณะดังกล่าวก็ได้กลายเป็นราชธรรมเนียมปฏิบัติพระราชกรณียกิจโดยปกติของพระองค์
นับจากนั้นมาก็ได้มีพระราชดำริต่าง ๆ ตามมาอย่างนับไม่ถ้วนในการนำการพัฒนาไปสู่พื้นที่ห่างไกลความเจริญ  มูลนิธิชัยพัฒนาได้ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อให้ความช่วยเหลือสนับสนุนทางการเงินขั้นต้นแก่โครงการพัฒนาต่าง ๆ  โครงการพระราชดำริของพระองค์ได้ทรงนำความรู้เรื่องการปลูกพืชทดแทนให้แก่ชาวไทยภูเขาซึ่งอาศัยตามแนวชายแดนไทยที่ติดกับประเทศลาวและประเทศพม่า  ศูนย์การเรียนรู้ตามพระราชดำริในที่ต่างๆ เปรียบเสมือนสถานทดลองเพาะปลูกพืชพันธุ์ใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้ชาวไร่ชาวสวนได้มีความสุขกับการเก็บเกี่ยวพืชสวนที่ให้ดอกออกผลมากขึ้น  พระราชดำริในเรื่องการพัฒนาต่าง ๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมุ่งเน้นไปยังความต้องการของประชาชน ดังสะท้อนอยู่ในพระราชดำรัสที่ว่า การจัดทำโครงการเพื่อช่วยประชาชนเป็นสิ่งจำเป็นที่เราจะต้องรู้จักประชาชนที่เราประสงค์จะให้ความช่วยเหลือเสียก่อน  

ผู้มีเกียรติทั้งหลาย

พระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้นมีจำนวนมากมายเหลือคณานับ  การอภิปรายในหนึ่งวันคงไม่สามารถครอบคลุมผลงานตลอดระยะเวลาหกสิบปีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้  ข้าพเจ้าใคร่ขอสะท้อนถึงหลักแนวทางสำคัญ ๆ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประทานให้ประชาชนชาวไทยในการดำรงชีวิตและการพัฒนา ดังที่ข้าพเจ้าได้สังเกตเห็นดังต่อไปนี้

ประการที่หนึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ความสำคัญต่อการรู้จักประมาณตนในการครองชีพ  ทางสายกลาง หรือ มัชฌิมาปฏิปทา เมื่อถูกนำไปปฏิบัติในระดับบุคคล ครอบครัว และชุมชน รวมถึงการดำเนินการเพื่อบรรลุถึงยุทธศาสตร์การพัฒนาแห่งชาติที่มีสมดุลยภาพและจะช่วยสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งในการเผชิญกับความท้าทายของยุคโลกาภิวัฒน์ในปัจจุบัน  ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้สะท้อนอยู่ในแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งปรากฎให้เห็นผลที่ชัดเจนภายหลังวิกฤติเศรษฐกิจและการเงินในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ หลังจากได้นำหลักการดังกล่าวไปปฏิบัติเป็นระยะเวลาหนึ่ง   แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงรวมถึงการรู้จักประมาณในการกระทำกิจกรรมต่าง ๆ ในวิถีการดำเนินชีวิตของมนุษย์ ซึ่งจะช่วยลดความกระหายในความร่ำรวยและการใช้จ่ายอย่างฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย  แนวคิดดังกล่าวมิได้ส่งเสริมให้ดำรงชีวิตอย่างโดดเดี่ยว หากแต่ช่วยผสมผสานให้เข้ากับเศรษฐกิจของโลก นอกจากนั้นแนวคิดดังกล่าวยังช่วยเสริมสร้างศีลธรรมให้กับประเทศชาติโดยการส่งเสริมสนับสนุนความซื่อสัตย์และคุณธรรม

ประการที่สอง ประชาชนจำเป็นต้องมีความอุตสาหะอดทนในการเผชิญกับความทุกข์ยากและความลำบากตรากตรำ  สิ่งท้าทายใด ๆ ต่อความมั่นคงทางมนุษยชาติที่มนุษย์เราต้องเผชิญ ล้วนสามารถพิชิตได้ทั้งสิ้น หากแต่เราต้องมีความมุมานะในการเอาชนะอุปสรรคและสิ่งท้าท้ายดังกล่าว  ซึ่งเรื่องนี้สามารถนำไปใช้ได้กับการพัฒนา  ไม่มีปัญหาใด ๆ ในโลกที่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีง่าย ๆ หรือในระยะเวลาอันรวดเร็ว   พวกเราต้องรู้จักพึ่งพาตนเองเป็นอันดับแรก  พระพุทธเจ้าได้ตรัสสอนไว้เมื่อสองพันกว่าปีที่แล้วว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน  ซึ่งเป็นที่มาของพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่มุ่งเน้นช่วยเหลือประชาชนให้มีความสามารถช่วยเหลือตนเอง

ประการที่สาม ประชาชนควรรักษาไว้ซึ่งความเป็นเอกัตภาพหรือปัจเจกชนในการระบุปัญหาและเลือกวิธีการแก้ไข  อันเป็นการแสดงถึงอิสรภาพในการเลือกของแต่ละบุคคล หากแต่ต้องรู้จักเลือกอย่างฉลาดด้วย  ซึ่งการเลือกอย่างฉลาดดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อประชาชนมีความตระหนักรู้  ในขณะเดียวกันประชาชนควรมีความตั้งใจที่จะเสียสละเพื่อช่วยเหลือชุมชน หมู่บ้าน หรือประเทศชาติ      ให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ดีร่วมกันและทุกฝ่ายได้รับผลประโยชน์  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ตรัสไว้ว่า “เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ดีร่วมกันไม่ได้หมายความว่าพวกเราทุกคนต้องเสียสละจนหมดตัว หากแต่หมายความว่าเราควรเสียสละในสิ่งที่เราเสียสละได้เพื่อให้ส่วนรวมอยู่รอด”

และประการที่สี่คือ ประชาชนควรยึดมั่นในความเป็นคนไทย เราเป็นชาติที่เก่าแก่ ซึ่งเต็มไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรม และร่ำรวยไปด้วยภูมิปัญญาที่สั่งสมกันมาหลายชั่วอายุคน  ประชาชนชาวไทยไม่ควรเพียงแต่ภาคภูมิใจในสิ่งเหล่านี้ หากควรต้องรู้จักนำภูมิความรู้เหล่านี้ไปใช้ในการดำเนินชีวิตด้วย  ความรู้จากภายนอกก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเตือนให้เรารู้จักนำความรู้      ไม่ว่าจากแหล่งใดก็ตาม ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยพวกเราก็ต้องรู้จักเลือกในสิ่งที่พวกเราจะนำมาใช้ปฏิบัติด้วย

ผู้มีเกียรติทุกท่าน
การที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะได้รับการเทิดพระเกียรติทั่วทั้งสากลให้เป็นพระมหากษัตริย์ผู้มีพระวิระยะอุตสาหะและพระมหากษัตริย์นักพัฒนา คงไม่ยิ่งใหญ่ไปกว่าในพระราชหฤทัยของพระองค์ทรงมีแต่พสกนิกรชาวไทย ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ  และเป็นภูมิพลังต่อการพัฒนาคนบนผืนแผ่นดินไทยนี้  ซึ่งพวกเราประชาชนชาวไทยมีความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น

ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นเกียรติที่เปิดการอภิปรายโดยผู้ทรงคุณวุฒิเรื่อง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับการพัฒนามนุษย์” ณ บัดนี้"


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 26 พ.ค. 06, 14:46
 ต่อไปนี้ข้อสังเกตมั่วซั่วส่วนตัวของผมเอง ป๋าท่านไม่เกี่ยวนะครับ ผมสรุปของผมเอง ผิดถูกขอให้ถือว่าเป็นการตีความของผม

สำหรับคนที่รักพระเจ้าอยู่หัวและชื่นชมในแนวพระราชดำริทั้งหลาย ผมว่าที่ป๋าเปรมท่านเล่านั้น จุดที่ผมติดใจมีอยู่ตรงที่ แนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงนั้น อิงพุทธศาสนามาก โดยเฉพาะทางสายกลาง คือการพัฒนาตามอย่างพระองค์ท่านนั้น นอกจากจะทำให้คนไม่จนแล้ว ควรต้องมุ่งให้คนเป็นคนดี ซื่อสัตย์ มีความเป็นตัวของตัวเองไม่ถูกครอบงำ และเสียสละช่วยเหลือกันและกันด้วย (ไม่ใช่พัฒนาเอาแต่จะรวยทางวัตถุลูกเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่ใช่จะให้รวยโดยโกงเขาขึ้นมาด้วยแน่ๆ)

ทั้งนี้ เป็นการตีความของผมเองนะครับ


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 พ.ค. 06, 16:36

ทรงพระเจริญ

พระผ่านเกล้า..............................แม้ใครถามขุนเขาน้อยใหญ่  
หุบห้วยเหวละหานพนานต์ไพร...................ที่ยืนเฝ้าแคว้นไทยมานมนาน
    ถามพุ่มพฤกษ์เถื่อนถ้ำส่ำสัตว์...............ดงชัฏแดนไทยอันไพศาล
ถามทะเลแม่น้ำและลำธาร.......................ว่าเคยเห็นภูบาล "พระภูมิพล"
    เสด็จผ่านย่านนี้บ้างหรือไม่.................. ถ้าเขินเขาลำเนาไม้ในไพรสณฑ์
สรรพสัตว์พูดจาภาษาคน.................  คงภูมิใจเหลือล้นได้ตอบคำ  
    นี่ท่านมาถึงไหนทำไมเล่า................  มาไล่ถามพวกเราช่างน่าขำ  
มีป่าเขาลำเนาไหนที่ทรงธรรม...............  มิเคยดำเนินผ่านท่านตอบที
    พวกเราทั่วสยามคามวิสัย................ ล้วนเคยได้เฝ้าองค์พระทรงศรี
เสด็จผ่านเยี่ยมประชาทั้งตาปี............... ทั่วพื้นธรณีของภูวไนย
    พร้อมด้วยพระนางเจ้าของเราผอง................น้ำพระทัยยิ่งน้ำทองอันสุกใส  
ทรงแผ่พระเมตตาทั่วหน้าไทย.................  ให้เขารอดปลอดภัยไร้ทุกข์ทน  
    ทรงจัดทางทำกินให้สิ้นทุกข์................  ทรงปลุกชาวไทยให้ขวายขวน  
พระราชทานที่ดินและสายชล.................. การเกษตรส่งผลให้พอกิน
    ไม่ทรงเลือกชาติชั้นเผ่าพันธุ์ไหน..................อยู่ป่าเขาอยู่เมืองไกลอยู่ฝั่งสินธุ์
โปรดให้ผู้รู้พืชและน้ำดิน......................เสริมอาชีพไทยถิ่นให้รู้ทำ  
    เสด็จไหน ธ ทรงมีแพทย์อาสา.................เยียวยาผู้ป่วยช่วยอุปถัมภ์
ทุกพระองค์บรมวงศ์ทรงตรากตรำ...................เราได้ยินแต่คำถวายชัย

ท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา  ประพันธ์

 http://www.lks.ac.th/nittaya/pome01-1.htm  


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 26 พ.ค. 06, 20:16
 คำประกาศราชสดุดีสรรเสริญพระเกียรติคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ของสหประชาชาติ (ในโอกาสที่เลขาธิการสหประชาชาติเข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์)


"CITATION

Your Majesty,

The United Nations is honoured to present to Your Majesty the United Nations Development Programme’s First Human Development Lifetime Achievement Award. We do this on the Auspicious Occasion of the Sixtieth Anniversary of Your Majesty’s Accession to the Thorne.

Your Majesty  has made an extraordinary contribution to human development. As the world’s “Development King”. Your Majesty has reached out to the poorest and the most vulnerable people of Thailand-regardless of their status, ethnicity or religion-listened to their problems, and empowered them to take their livers in their own hands.

Your Majesty’s countless rural development projects have been at the forefront of innovation and benefited millions of people across Thailand. They have promoted small-scale agriculture, appropriate farming technologies, sustainable use of water resources, conservation, and flood and drought mitigation.

As a visionary thinker, Your Majesty has played an invaluable role in shaping the global development dialogue, Your Majesty’s “Sufficiency Economy” philosophy-emphasizing moderation, responsible consumption, and resilience to external shocks-is of great relevance worldwide during these times of rapid globalization. It reinforces the United Nation’s efforts to promote a people-centred and sustainable path of development.

With this Award, we hope to further promote the invaluable experiences and lessons learnt from Your Majesty’s development endeavour’s and help draw attention to Your Majesty’s visionary thinking beyond the borders of the Kingdom of Thailand. It is our greatest honour and privilege to Your Majesty this Lifetime Human Development Award."


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 26 พ.ค. 06, 20:23
 คำแปล ประกาศราชสดุดี ซึ่งคุณโคฟี อันนัน อ่านถวายเมื่อเย็นวันนี้ (26 พ.ค.) ที่วังไกลกังวล หัวหิน

" คำประกาศราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในพิธีทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุด  ด้านการพัฒนามนุษย์ โดยเลขาธิการสหประชาชาติ วันที่  ๒๖  พฤษภาคม  ๒๕๔๙
*******************

ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม

องค์การสหประชาชาติมีความปลาบปลื้มยินดีในเกียรติยศอันยิ่งใหญ่  ที่ได้พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุด ด้านการพัฒนามนุษย์ ซึ่งเป็นรางวัลชิ้นแรกของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ  (UNDP)จัดทำขึ้น เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติในโอกาสแห่งการเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบหกสิบปี

ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท  ได้ทรงมุ่งมั่นบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของปวงชนชาวไทยอยู่เป็นนิจสิน  เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก จึงต่างกล่าวขานพระนามพระองค์ว่าทรงเป็น “พระมหากษัตริย์นักพัฒนา” ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท มีพระราชหฤทัยเปี่ยมล้นด้วยพระเมตตาต่อพสกนิกรผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาส  โดยไม่ทรงแบ่งแยก สถานะ  ศาสนา  ชาติพันธ์  หรือหมู่เหล่า  ทรงสดับรับฟังปัญหาความทุกข์ยากของราษฏร และพระราชทานแนวทางการดำรงชีพเพื่อให้ประชาชนของพระองค์สามารถพึ่งพาตนเอง
ได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน

โครงการในพระราชดำริต่างๆ เพื่อพัฒนาชนบทมีจำนวนมากมายและมิอาจนับได้ส่งผลต่อการสร้างสรรค์ความรู้และนวัตกรรมที่เอื้อต่อความก้าวหน้าในการพัฒนา ยังประโยชน์ให้แก่พสกนิกรทั่วหล้า อาทิ โครงการที่มุ่งเน้นการเกษตรขนาดเล็กด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสม โครงการที่มีการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน รวมทั้งโครงการป้องกันและบรรเทาความเดือดร้อนจากน้ำท่วมและภัยแล้ง

ด้วยพระปรีชาสามารถในการเป็นนักคิดของใช้ฝ่าละอองธุลีพระบาท และคุณูปการต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ทำให้นานาประเทศตื่นตัวในการปรับรูปการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายใต้แนวคิดใหม่ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทที่มีต่อประชาราษฎร์ ที่ได้พระราชทานปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งชี้ถึงแนวทางการพัฒนาที่เน้นความสมดุล ความพอประมาณ ความมีเหตุผล สำนึกในคุณธรรม และการมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี พอที่จะต้านทานและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงต่างๆ จากกระแสโลกาภิวัตน์ ด้วยปรัชญาดังกล่าวนี้ องค์การสหประชาชาติจึงมุ่งเน้นเพียรพยายามและส่งเสริมการพัฒนาคน ให้ความสำคัญต่อความอยู่ดีมีสุขของประชาชนเป็นเป้าหมายศูนย์กลางในการพัฒนา

รางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์นี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายมีปณิธานที่จะส่งเสริมประสบการณ์และนำแนวทางการปฏิบัติในการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอันทรงคุณค่าอย่างหาที่สุดมิได้ของพระองค์ท่าน มาช่วยจุดประกายแนวความคิด
ในปรัชญาดังกล่าวสู่นานาประเทศต่อไป ในโอกาสนี้ ข้าพระพุทธเจ้ามีความปลื้มปิติและภาคภูมิใจ ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุด ด้านการพัฒนามนุษย์ แด่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ"


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 28 พ.ค. 06, 08:15

ตัวรางวัลที่สหประชาชาติทูลเกล้าฯ ถวาย เป็นพานเงินครับ


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 28 พ.ค. 06, 09:20
 "รางวัลดังกล่าวมีลักษณะเป็นพานรูปกลม ทำด้วยเงินบริสุทธิ์ ด้านในขัดมันผิวเรียบ ด้านนอกผิวมีลักษณะเป็นคลื่นคล้ายสายน้ำ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 9.85 นิ้ว สูง 8.66 นิ้ว ฐานทำด้วยไม้ มีแผ่นป้ายคำจารึกติดที่ฐานไม้ ความว่า  “To His Majesty   King Bhumibol Adulyadej   In Recognition of   Lifetime Achievement in   Human Development    May 2006”

ทั้งนี้ แนวคิดเบื้องหลังการเลือกแบบรางวัลดังกล่าวนี้ ผู้คัดเลือกตั้งใจให้เป็นรูปพาน ซึ่งเป็นภาชนะที่รองรับน้ำได้ และมุ่งให้หมายถึงน้ำ เนื่องจากเล็งเห็นว่า พระราชกรณียกิจด้านการพัฒนาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น ส่วนมากเกี่ยวข้องกับน้ำและการจัดการทรัพยากรน้ำ อันเป็นประเด็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดประเด็นหนึ่งในการพัฒนา และเห็นว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระปรีชาสามารถในด้านนี้ สมควรแก่การยกย่องเฉลิมพระเกียรติเป็นพิเศษ"


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: Tanname ที่ 28 พ.ค. 06, 14:24
 ขอพระมหากษัตริย์นักพัฒนาจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน    


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: เขียวมะกอก ที่ 29 พ.ค. 06, 14:19
 ขอจงทรงพระเจริญ


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 29 พ.ค. 06, 19:48
 อันนี้ เป็นบทความภาษาฝรั่งของท่านอานันท์ ปันยารชุน ลงตีพิมพ์ใน IHT วันที่ 26 พ.ค. คือในวันเดียวกับที่ในหลวงทรงได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลนี้ครับ



//The Wisdom of the 'Middle Path’



By Anand Panyarachun International Herald Tribune

 

THURSDAY, MAY 25, 2006



BANGKOK A simple ceremony is taking place Friday in a royal palace in Thailand: the UN secretary general, Kofi Annan, is presenting His Majesty King Bhumibol Adulyadej of Thailand with a Human Development Lifetime Achievement Award.

 

The meaning behind the event has profound relevance to a world grappling with the threat of global warming and the negative side effects of rapid globalization. The award from the UN Development Program is in recognition of the king's visionary thinking and extraordinary contributions in helping the poor and conserving the environment in Thailand.

 

The thinking that won this prize deserves international attention. While globalization has clearly brought huge benefits to many people around the world, these benefits are unevenly spread. More than one billion human beings are still living in abject poverty and communities around the world are precariously exposed to financial instability, unfair trade, soaring fuel prices, and environmental impacts.

 

Something has to give. We are in desperate need of technological solutions to our energy problems, a more equitable distribution of wealth, a level playing field for international trade and more generous development aid to poor countries. But this will not be enough. A more profound transformation of our societies, our values and the way we consume is needed.

 

The king's philosophy of "sufficiency economy" offers just that - a more balanced, holistic and sustainable path of development and an alternative to the clearly unsustainable road the world is currently traveling down.

 

Inspired by Buddhism, this philosophy stresses the "middle path" as an overriding principle for appropriate conduct and way of life of all people, at individual, community, business and government levels. Sufficiency means moderation, reasonableness and resilience to rapid changes.

 

For poor people in rural areas, this means that they first and foremost must become self-reliant in the production of food; then they can strive for a more advanced stage of development. This way they are better able to weather the storms of economic downturns and fluctuations in global markets.

 

The king's thinking advocates the need for sustainable consumption, step-by-step development and the recognition of diversity in geo-social conditions when implementing development projects and policies.

 

Gaining credence in Thailand after the 1997 financial crisis, the king's philosophy advocates economic stability over unbridled growth.

 

It also highlights the need to strengthen the moral fiber of Thai society so that everyone - especially public officials and business people - respects the rule of law, upholds democratic principles and adheres to moral values.

 

On the ground, the king's development concept has been applied to more than 3,000 projects across Thailand. One example is a project to promote the use of alternative energy in remote rural areas for irrigation, clean drinking water and environmental conservation. The project has generated knowledge and innovation that is recognized the world over.

 

Other examples are projects across rural Thailand that promote the diversification of household production to guarantee that basic subsistence needs are met in times of hardship and to reduce the risks involved when depending on a single crop.

 

It is noteworthy that many poor villages hit by the recent tsunami in southern Thailand, which had applied this approach by not solely depending on fishing, managed to bounce back with surprising speed.

 

The people of Thailand are proud of this award, which offers a unique opportunity to draw the world's attention to the "sufficiency economy philosophy," a development approach of great relevance in today's rapidly globalizing world.

 

The world is barreling down a dead-end road of untenable inequalities and unsustainable consumption patterns. We have no choice but to change course and take that "middle path." //


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 29 พ.ค. 06, 19:54
 ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนานเทอญ

ผมหวังว่าที่เว็บวิชาการตรงนี้จะเป็นอีกช่องทางหนึ่ง ที่พวกเราคนไทยที่คลิกเข้ามา อาจจะจากเมืองนอกก็ได้ ที่ไหนก็ได้ทั่วโลก จะได้รับข้อมูลที่น่าสนใจและผมเห็นว่าควรแก่การชื่นชมยินดี (นอกจากชื่นชมพระบารมีแล้ว อาจจะได้สาระอะไรไปขบคิดด้วยอีก)

เป็นข้อมูลเปิดทั้งหมดครับ ไม่น่าจะมีการสงวนลิขสิทธิ์ เพราะได้เผยแพร่ในสื่ออื่นๆ ไปหมดแล้วก่อนผมจะเอามาลงในนี้


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 29 พ.ค. 06, 20:25
 ต่อไปนี้ นกข. จะขอแขวะ...

ว่า พวกเราคนไทยเกือบทุกคน - ผมว่านะ คงจะชื่นชมยินดีในพระบารมีอยู่ด้วยกันทั้งนั้นแหละ

ส่วนเรื่องแนวพระราชดำรินั้น ผมทราบว่าในหลวงเองทรงเปิดพระทัยกว้างมาก คือไม่เคยทรงบังคับ ไม่เคยทรงเป็นเผด็จการทางความคิด หลายครั้งในการดำเนินโครงการตามพระราชดำริจะรับสั่งกับเจ้าหน้าที่ ฝ่ายเทคนิค นักวิชาการ แม้แต่ชาวบ้าน ฯลฯ ว่า มีอะไรจะแย้งก็ให้กราบบังคมทูลแย้งได้เลย เพื่อความถูกต้องสมบูรณ์ของงาน แม้แต่เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ก็เป็นพระราชดำริที่พระราชทานเป็นข้อแนะนำ มิใช่พระบรมราชโองการที่ "ต้อง" ทำตาม

เมื่อเป็นข้อแนะนำพระราชทาน ก็มีการฟังแล้วแย้งขึ้นมาบ้าง โดยเฉพาะจากนักเศรษฐศาสตร์สายทุนนิยม ซึ่งพระองค์ท่านก็ได้รับสั่งอธิบายมาหลายครั้งว่าแนวพระราชดำริของพระองค์ท่านไม่ได้สุดโต่งอย่างที่พวกนักเศรษฐศาสตร์เข้าใจอย่างนั้น รับสั่งหลายหนว่า ไม่ใช่จะปิดประเทศ เพราะมันทำไม่ได้ท่านก็ทรงทราบ แต่จะทำยังไงในสถานการณ์ที่เปิดประเทศอยู่นี่แหละ แต่ไม่ต้องสยบยอมกับอิทธิพลกระแสโลกไปหมด

ผมไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ แต่ผมเห็นว่าโดยตัวแนวความคิดเอง ไม่ว่าจะเผอิญเป็นพระเจ้าอยู่หัวคิดหรือว่าใครคิดก็ตาม ผมว่าเศรษฐกิจพอเพียงเป็นคำตอบหนึ่งที่น่าสนใจมาก ในสถานการณ์ที่กระแสโลกาภิวัตน์ บริโภคนิยม และกระแสกิเลสไหลบ่าท่วมท้นไปหมดทั้งโลกอย่างเดี๋ยวนี้ ผมคิดว่าผู้คิด ซึ่งในกรณีนี้เผอิญเป็นพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีสายพระเนตรกว้างไกล และทรงคำนึงถึงความอยู่ดีกินดีของประชาชนของพระองค์อย่างรอบด้าน ยั่งยืน และในระยะยาว มากกว่าเพียงมิติด้านเศรษฐกิจและการสนองความต้องการทางวัตถุเพียงถ่ายเดียว ซึ่งนั่นแหละสุดโต่งของจริง

เผอิญสหประชาชาติเขาก็เห็นด้วย ดังนั้นอย่างน้อยก็มีผมคนหนึ่งกับคุณโคฟี่ อันนัน คนหนึ่งละนะครับ สองคนละอย่างน้อยๆ ที่เห็นว่าแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงก็คงไม่เลวเสียทีเดียวหรอกน่ามั้ง ไม่ผิดพลาดอย่างที่คนที่เรียนวิชาเศรษฐศาสตร์ทุนนิยมบางคนคิดละมั้ง ทาง UNDP เองเขาเห็นว่าเข้าท่าดีเลยเชียวนะครับ แนวคิดของพระเจ้าอยู่หัวของผมแนวนี้น่ะ

ถ้าจะมีคนไทยบางคนที่เห็นว่าไม่เข้าท่า เห็นว่า "ประเทศจะไปไม่รอดได้ในยุคโลกาภิวัตน์ ถ้าใช้ความคิดเศรษฐกิจพอเพียง" ... ก็คงเป็นสิทธิของท่านที่จะคิดยังงั้น แล้วแต่ท่านก็แล้วกัน อย่างว่าแหละ - สิทธิเสรีภาพที่จะคิดไม่เหมือนกัน ถึงผมกะท่านจะเรียนจบคณะเดียวกันมา แต่ผมไม่เคยไปนั่งทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลเหมือนท่านแฮะ ความรู้ความคิดผมก็คงไม่ลึกซึ้งเท่าท่าน ความชอบพรรคการเมืองก็คนละแบบด้วย (พรรคของท่านคงเห็นอย่างที่ท่านแสดงความเห็นไว้กระมัง)

แขวะจบแล้วครับ "ท่าน" ที่ว่านี้ เป็นใคร ผมไม่บอก แต่การแสดงความคิดเห็นของท่านผู้นั้นแสดงโดยเปิดเผยในการอภิปรายครั้งหนึ่ง เป็นข่าวลง นสพ. ไทยเมื่อไม่นานมานี้ด้วยซ้ำ ดังนั้นน่าจะมีคนจำได้ (ผมยังจำได้เลย) และเมื่อเป็นข่าวเปิดไปแล้ว ผมก็คิดว่าท่านคงไม่ว่า ที่ผมเพียงแต่เอามาเล่าใหม่ ว่า สิ่งที่ท่านเห็น (โดยมีสิทธิที่จะเห็นเช่นนั้น) ว่าไม่ค่อยเข้าท่า น่ะ เผอิญไม่กี่เดือนต่อมา สหประชาชาติเขาเห็นว่าเข้าท่ามาก ก็เท่านั้นเอง - ขอรับกระผม


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 29 พ.ค. 06, 20:31
 ใน คห. 20 นี้ ผมไม่ได้เอ่ยชื่อ "ท่าน" ผู้ใดไว้เลย และไม่ได้เอ่ยถึงชื่อพรรคของท่านด้วย

อย่างไรก็ตามผมขอให้อนุญาตล่วงหน้าไว้ตรงนี้ว่า ถ้าวิชาการทีมพิจารณาแล้ว เห็นสมควรตัด คห. ที่ นกข. แขวะลอยๆ คือ คห. 20 ออก ผมก็ยินดีให้ลบได้เลยครับ


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: กิตติ ที่ 30 พ.ค. 06, 14:59
 ขอให้พระองค์ ทรงพระเจริญ 5 ด้วยกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: Gabriel ที่ 30 พ.ค. 06, 21:05

ขอให้พระองค์ จงทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน
เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร ปกป้องแผ่นดินสยามประเทศชั่วกาลนานเทอญ
...ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ใต้ฝ่าละอองธุรีพระบาทปรกเกล้าปรกกระหม่อม...  


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: เซล่ามูน ที่ 03 มิ.ย. 06, 12:08
 ขอให้ทรงเป็นมิ่งหวัญของปวงชนชาวไทยตลอดไปเพค่ะ


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: ครู...ชิต ที่ 05 มิ.ย. 06, 00:58

ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ

Thailand ‘Development King’ to receive first Human Development Lifetime Achievement Award
 http://www.undp.or.th/news/news-060526.html

งานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี
 http://www.60thcelebrations.com/th/projects.html  


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 05 มิ.ย. 06, 18:30
 มีใครในที่นี้สนใจคำปราศรัยของท่านโคฟี อันนัน กับของ ฯพณฯ ป๋าเปรม เป็นภาษาอังกฤษบ้างครับ ผมยังไม่ได้ใส่ไว้ ที่ใส่ข้างบนนั้นเป็นแต่คำแปลภาษาไทย (ผมไม่ได้แปลเองหรอกน่า คนที่เก่งกว่าผมท่านแปลไว้ครับ)


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: ผาง-ผาง ที่ 07 มิ.ย. 06, 20:23
 ขอจงทรงพระเจริญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: มีมี่ ที่ 15 มิ.ย. 06, 15:37
 ขอทรงพระเจริญ พระชนม์มายุยิ่งยืนนาน  ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: ornyupa ที่ 15 มิ.ย. 06, 18:02

ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนพ่อมองเห็นเราเสมอ  


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: เด็กเรียน(ไม่ค่อยรู้เรื่อง) ที่ 18 มิ.ย. 06, 09:25
 ขอทรงพระเจริญ พระชนม์มายุยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ  นักเรียนม.6/2 โรงเรียนแม่ใจวิทยาคม


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: Japonica ที่ 18 มิ.ย. 06, 16:01

พระจริยาวัตรที่น่ารักของสมเด็จพระเทพฯ

เหมือนหูของผมจะฟั่นเฟือน ได้ยินในหลวงทรงตรัสว่า "อะไรกันเนี่ย" เมื่อสมเด็จพระเทพฯ
ทรงชะโงกออกมาทางสีหบัญชร เพื่อทรงถ่ายรูปพสกนิกรและแย้มพระสรวล เป็นพระจริยาวัตร
ที่น่ารักมาก ในที่สุดพระองค์ทรงพระราชทานภาพฝีพระหัตถ์ให้ประชาชนคนไทย 4 ภาพ
ได้เห็นกันหรือยังครับ จะได้แปะให้ชม


ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ  


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 23 มิ.ย. 06, 17:42
 เอาคำกล่าวของท่านประธานองคมนตรีเปรมฯ ตามที่ท่านกล่าวจริง มาลงนะครับ คำแปลอยู่ใน คห. ที่ 7


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 23 มิ.ย. 06, 17:43
 Statement byH.E. General Prem Tinsulanonda, President of the Privy Council and Statesman, at the High Level Panel on “His Majesty the King and Human Development”  26 May 2006

“Mr. Kofi Annan, Secretary-General of the United Nations,
Dr. Surakiart Sathirathai, Deputy Prime Minister,
Dr. Kantathi Suphamongkhon, Minister of Foreign Affairs,
Excellencies, Ladies and Gentlemen,

It is an honor for me to be invited to participate at this High Level Panel on His Majesty the King and Human Development and to speak as someone who has had the high privilege of observing His Majesty at close quarters.  This Panel is being convened at a time of great joy and celebration for the Thai people and nation.  For next month, on June 9th, the entire Kingdom will come together to celebrate the auspicious occasion of the Sixtieth Anniversary of His Majesty the King’s Accession to the Throne, making our beloved Monarch the longest reigning Monarch in the world.

I am also pleased to join others in welcoming His Excellency, Mr. Kofi Annan, the Secretary-General of the United Nations, who is visiting Thailand and who will be personally presenting the UNDP’s (United Nations Development Program) Human Development Lifetime Achievement Award to His Majesty the King on this auspicious occasion. This is indeed a source of great pride to all the Thai people.

The United Nations, in particular, the UNDP, is to be commended for having helped pioneer the idea of human development at the global level.  The idea of putting people first in development policies has found resonance throughout the international community.  The pledge to human development was renewed by the international community in the Millennium Declaration in the year 2000 and subsequently in the World Summit Outcome Document last year, which clearly bears the imprint of UN Secretary-General Kofi Annan.

But what of Thailand?

Excellencies,

The title of this High Level Panel, “His Majesty the King and Human Development” is most appropriate. It reflects, I believe, one of the main thrusts of His Majesty’s commitments and achievements in Thailand for the past sixty years of His reign. During this time, the Thai people have been blessed by having benefitted from the tireless efforts of His Majesty in easing the plight and improving the welfare of His subjects.  To me, therefore, the story of His Majesty’s lifelong work is very much a story of promoting human development.

Sixty years ago, at His Majesty’s coronation in 1946, His Majesty articulated his overriding goal: “We shall reign in righteousness for the benefits and happiness of the Siamese people.”  Those words encapsulate the commitment of His Majesty to placing the people of Thailand at the very heart of His reign and at the center of His initiatives.  

Throughout the six decades since then, these words of commitment have been reflected in deeds.  His Majesty has visited every province of the kingdom to learn first hand the challenges facing the people and to help. I still recall the pioneering visit made by Their Majesties the King and Queen to the impoverished Northeast in 1955. Over the course of twenty-two arduous days, the Royal Couple visited villages and cities, talking to ordinary people and civil servants, learning of their problems and concerns.  Since then, such visits have become a regular feature of His reign.  

Countless Royal Initiatives followed to bring development to people in the most remote corners of the kingdom. The Chai Pattana Foundation was established to provide initial financial support for development projects.  His Majesty’s learning centers served as venues for experimentation of new crops that would enable farmers to enjoy more productive crop yields.  In all of these initiatives, the focus has always been on what the people need. In His Majesty’s words, “In working out a program to help people, it is necessary to know the people that you intend to help.”

Excellencies, Ladies and Gentlemen,

The list of Royal Initiatives is endless. A one day discussion would not do justice to sixty years of His Majesty’s contributions. Rather, I wish to reflect on what I see are His Majesty’s key guiding principles imparted to the Thai people in pursuing their lives and development.

First, His Majesty has always emphasized the importance of moderation in pursuing ones lives. The “middle path”, when practiced at the level of individuals, families and communities, as well as collectively in pursuing a balanced national development strategy, will provide a firm foundation to face the challenges of today’s globalized world.  It is reflected in His Majesty’s “Sufficiency Economy” which, though practiced for a long time, gained prominence in the aftermath of the 1997 financial crisis. “Sufficiency Economy” involves applying moderation in all human endeavors. It lessens our appetite for wealth and wasteful consumption. It does not advocate isolationism but facilitates smoother integration into the global economy. And it helps strengthen the moral fiber of the nation by promoting honesty and integrity.

Second, there is a need for people to have perseverance to face up to hardships and suffering.  Whatever challenge to human security that an individual faces, it can be overcome.  But one needs to work hard. This applies to development.  There is no quick fix for any problem, no easy way to getting at a solution. We need to rely on ourselves first.  Lord Buddha once taught over two millennia ago that “Thou art thine own refuge”.  That is why His Majesty’s Royal Initiatives have been oriented to “helping people to help themselves.”  

Third, people should maintain their individuality—in identifying problems and in choosing solutions. It presupposes freedom of choice for the individual. But it also suggests that choices be made wisely. This requires that people have a keen sense of awareness. At the same time, people should be willing to make sacrifices to help the community, village or country, to contribute to the common good.  We can have both.  His Majesty once said, “To act for the common good does not mean that everyone must make sacrifices to the extent of denuding oneself.  It means that we should sacrifice what can be sacrificed in order for the people to survive.”

And fourth, people should cherish the sense of being Thai.  We are an old nation of rich cultural heritage and a wealth of collective wisdom accumulated over many generations.  The Thai people should not only be proud of this—they should seek to make use of this local knowledge in earning their living. Knowledge from the outside world is also important. Nevertheless, His Majesty urges prudence in the application of knowledge, from whatever source. We should be more selective in what we seek to embrace.    

Excellencies, Ladies and Gentlemen,

His Majesty has been called a Working Monarch by some, a Development King by others.  But in the center of His heart lies the people of Thailand.  That is why our Beloved Monarch, the Soul of the Nation, has always been and will always be the leading force for human development in this country.  And for this, we, the Thai people, are deeply grateful.

Excellencies, Ladies and Gentlemen,

It is now my privilege to declare open this High Level Panel.” //


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 23 มิ.ย. 06, 17:47
 และต่อไปนี้ก็เป็นตัวคำกล่าวของท่านเลขาธิการสหประชาชาติ โคฟี่ อันนัน เป็นภาษษอังกฤษที่ท่านกล่าวที่กระทรวงการต่างประเทศวัที่ 26 พ.ค. 49 ก่อนที่จะไปเข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล
คำแปล อยู่ใน คห. ที่ 6


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 23 มิ.ย. 06, 17:48
 THE UNITED NATIONS SECRETARY-GENERAL ADDRESS TO THE HIGH-LEVEL PANEL ON HIS MAJESTY THE KING AND HUMAN DEVELOPMENT, Bangkok, 26 May 2006


"Your Excellency,
Ladies and Gentlemen,

Later today I will have the honour to present the United Nations Development Programme’s inaugural Human Development Lifetime Achievement Award to His Majesty King Bhumibol Adulyadej. I feel especially privileged to do so on the sixtieth anniversary of His Majesty’s accession to the throne.

For the United Nation, this ceremony has special significance for another reason as well: it marks the very first time that we recognize outstanding contributions to development through this Award.

Human development, reduced to its essence, is a very simple concept: it is about empowering people. Not the few, not even the many, but all people. It is about empowering them through education, through opportunity, through health care and nutrition. It is about empowering individuals with choices so that they may live healthy, knowledgeable and creative lives.

Human development puts the individual at the centre of development. It emphasizes economic growth and sustainability, human rights and security, equity and political participation.

The United Nations prioritises such development at the very centre of its agenda, and we put tremendous effort into promoting it. We do it through UNDP’s global and national Human Development Reports. We do it through the development work of UN Country Teams in 166 countries across the world. And we do it through this award.

After all, if human development is about putting people first, there can no better advocate for it than His Majesty.

At his coronation in 1946, His Majesty uttered the famous Oath of Accession: “We shall reign with righteousness, for the benefit and happiness of the Siamese people”. Ever since, His Majesty has lived this Oath, selflessly devoting his time and efforts to the wellbeing and welfare of the people of Thailand, regardless of their ethnicity, religion or legal status.

As the world’s “Development King”, His Majesty reached out to the poorest and the most vulnerable people of Thailand, listened to their problems, and empowered them to take their lives into their own hands.

His Majesty’s rural development projects have benefited millions of people across Thailand. They have prompted small-scale agriculture; appropriate farming technologies; sustainable use of water resources; conservation; and flood and drought mitigation.

In Northern Thailand, His Majesty’s rural development initiatives have helped reduce opium harvests through crop substitution. At the same time, these projects have improved access to healthcare and education for the local population, and brought significant benefits to the ethnic groups living in the mountainous region along the Myanmar and Lao borders.

His Majesty’s active support for a wide range of social causes has proved crucial to their success. From promoting child health to combating iodine deficiency, from campaigning against disease to increasing access to education, programmes supported by His Majesty impact the every day lives of millions of his subjects.

At the same time, His Majesty’s visionary thinking has helped shape the global development dialogue.

His Majesty’s “Sufficiency Economy” philosophy — emphasizing moderation, responsible consumption, and resilience to external shocks — is of great relevance to communities everywhere during these times of rapid globalization. The philosophy’s “middle path” approach strongly reinforces the United Nations’ own advocacy of a people-centred and sustainable path toward human development.

His Majesty’s development agenda and visionary thinking are an inspiration to his subjects, and to people everywhere.

With today’s Award, we hope to further promote the ideas and experiences of His Majesty’s work, and to help draw attention to their underlying thinking well beyond the borders of the Kingdom of Thailand.

For His Majesty’s extraordinary achievements and deep and unwavering commitment to human development, this afternoon it will be my great honour to present to His Majesty the UNDP’s first ever Lifetime Achievement Award.

Thank you."//


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: ยาหอม ยาหม่อง ที่ 23 มิ.ย. 06, 19:06
 ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ มีพระชนม์มายุยืนนาน
เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของคนไทยตลอดไป


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 23 มิ.ย. 06, 20:04
 อันนี้จากเว็บไซต์ของ UNDP ครับ



"Thailand ‘Development King’ to receive first Human Development Lifetime Achievement Award



26 May 2006: UN Secretary General Kofi Annan will present the first ever United Nations Development Programme Human Development Lifetime Achievement Award to His Majesty King Bhumibol Adulyadej of Thailand for his extraordinary contribution to human development on the occasion of the sixtieth anniversary of his accession to the throne.



This special prize is to be given to leaders who have over the years exemplified dedication in their leadership to the values underlying human development – social justice, growth with equity, human security, democratic governance and environmental sustainability.



During his 60 year reign, H.M. the King has tirelessly helped improve the lives of poor people across Thailand and has traveled across the entire country visiting communities even in the most remote areas.



His Majesty has also made an invaluable contribution to human development through his philosophy of "Sufficiency Economy". With its emphasis on sustainable development, responsible consumption, diversification of household-level production, resilience to external shocks, and community empowerment, His Majesty's philosophy is a powerful way of reducing poverty and protecting poor communities against the vagaries of globalization.



“His Majesty has selflessly devoted his time and effort to the wellbeing and welfare of the Thai people”, says UNDP Resident Representative Joana Merlin-Scholtes. “Through this prestigious Award, UNDP pays tribute to his Majesty’s development work and visionary thinking.”



Other Human Development Awards include the biennial Mahbub ul Haq Award for Outstanding Contribution to Human Development given to national or world leaders — previously awarded to President Fernando Henrique Cardoso of Brazil in 2002 and founder of Bangladesh’s Rural Advancement Committee, Fazle Hasan Abed, in 2004 — as well as five categories of awards for outstanding National Human Development Reports.



The United Nations Development Programme promotes human development through the publication of global and national Human Development Reports, and through the work of UN offices on the ground in 166 countries across the world. This award is an important part of this vast undertaking. Thailand’s forthcoming National Human Development Report in 2007 will focus on His Majesty’s Sufficiency Economy Philosophy on the occasion of the King’s eightieth birthday.



For information, please contact:



Punnipa Ruangtorsak, punnipa.ruangtorsak@undp.org, 662 288 2130

Cherie Hart, cherie.hart@undp.org, 661 918 1564



_______________



About UNDP: UNDP is the UN's global development network, advocating for change and connecting countries to knowledge, experience and resources to help people build a better life. The organization is on the ground in 166 countries." //


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: มุดฉานะ ที่ 25 มิ.ย. 06, 14:35
 อยากเห็นภาพฝีพระหัตถ์พระเทพฯค่ะ...เพราะยังไม่มีโอกาสไปหาดูเลย...(คน.ตจว.ผู้อยู่ชายขอบ..)...อนุเคราะห์หน่อยเต้อะค่ะ..


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: หมูน้อยในกะลา ที่ 25 มิ.ย. 06, 15:43

.

เอามาฝากครับผม

เป็นภาพถ่ายฝีพระหัตถ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีจากพระที่นั่งอนันตสมาคม


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: หมูน้อยในกะลา ที่ 25 มิ.ย. 06, 15:45

ประชาชน


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: หมูน้อยในกะลา ที่ 25 มิ.ย. 06, 15:46

.
ทูตานุทูต


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: หมูน้อยในกะลา ที่ 25 มิ.ย. 06, 15:48

ทรงถ่ายจากในรถยนต์


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: หมูน้อยในกะลา ที่ 25 มิ.ย. 06, 15:49

ทรงพระเจริญ


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 26 มิ.ย. 06, 15:33
 ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแจมครับ

ขอจงทรงพระเจริญ


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 26 มิ.ย. 06, 16:54
 สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลาม ทรงมีพระราชดำรัสในนามพระประมุขและผู้แทนพระองค์ทั้ง 25 ประเทศ ถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสงานถวายพระกระยาหารค่ำแด่พระประมุขและพระราชวงศ์ต่างประเทศ ณ พระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร วันอังคารที่ 13 มิถุนายน 2549
ฝ่าพระบาท
สมเด็จพระราชินี
พระประมุขและพระราชวงศ์
ท่านผู้มีเกียรติทั้งหลาย


ฝ่าพระบาท
       หม่อมฉัน องค์พระประมุขและพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์ ณ ที่นี้ มีความปีติชื่นชมและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาส มาพร้อมเพรียงกัน ในวันนี้ด้วยเหตุผลสองประการ

       ประการแรก หม่อมฉัน องค์พระประมุขและพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์ ได้มาพร้อมเพรียงกัน ณ ที่นี้ ด้วยความปรารถนาเฉก เช่นเดียวกับประชาชนทุกคนในผืนแผ่นดินไทยอันทรงไว้ซึ่งประวัติศาสตร์ที่ ยาวนานและน่าภาคภูมิใจ นั่นคือ เพื่อถวายพระพรแด่ฝ่าพระบาท และสมเด็จพระราชินี ผู้เป็นที่รักของ พระองค์ด้วยความเคารพและชื่นชมในพระบารมีเป็นล้นพ้น ตลอดจนเพื่อมอบความปรารถนาดี อย่างจริงใจให้แก่ปวงชนชาวไทยทุกคน

       อย่างไรก็ดี สำหรับวโรกาสอันสำคัญยิ่งเช่นวันนี้ คงจักต้องมีสิ่งใดที่มากเกินกว่าเพียงการแสดงไมตรีจิตให้กัน ไม่ว่าไมตรีจิตนั้น จะอบอุ่นหรือจริงใจสักเพียงใด

       ดังนั้น เหตุผลสำคัญประการที่สองที่สำคัญเยี่ยงกัน ที่เราต่างมาพร้อมเพรียงกัน ณ ประเทศที่งดงามของฝ่าพระบาทในวันนี้ ก็เพื่อร่วมกันถวายพระเกียรติแด่ฝ่าพระบาท

ฝ่าพระบาท
       หม่อมฉัน องค์พระประมุขและพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์ มาร่วมพร้อมเพรียงกันในวันนี้ เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติและ พระบารมีของฝ่าพระบาทผู้ทรงเป็นทั้งผู้นำ ผู้ให้แรงบันดาลใจ และองค์พระประมุขของประเทศผู้เป็นที่เคารพยิ่งของปวงชนชาวไทยทุกคน

       ฝ่าพระบาททรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระเจริญอยู่ในสิริราชสมบัติยาวนานที่สุดพระองค์หนึ่งในประวัติศาสตร์ ระยะเวลาที่ฝ่าพระบาททรงครองสิริราชสมบัตินั้น เป็นสิ่งหนึ่งที่จะถูกจารึกไว้เพื่อเป็นบันทึกทางวิชาการ อย่างไรก็ดี แน่นอนว่า เราทุกคน ณ ที่นี้ มิได้เดินทางมาเพียงเพื่อจะร่วมเฉลิมฉลองบทบันทึกเหล่านี้ เราทุกคนมาพร้อมเพรียงกัน ณ ที่นี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่ฝ่าพระบาท
และเพื่อร่วมแสดงความปลาบปลื้มและชื่นชมในพระราชกรณียกิจทั้งปวงที่พระองค์ทรงบำเพ็ญมาด้วยพระปรีชาสามารถอันเปี่ยมล้น

       หกสิบปีที่พระองค์ทรงครองสิริราชสมบัติ มิได้เป็นเพียงหกสิบปีในประวัติศาสตร์ของชาติไทย แต่เป็นหกสิบปีที่เป็นประวัติศาสตร์ ของเราทุกคน เป็นประวัติศาสตร์ที่ได้ประสบทั้งสิ่งดีและสิ่งร้าย ทั้งความปลื้มปีติและความโศกเศร้า ทั้งเรื่องที่น่าตื่นเต้นยินดีและเรื่องที่น่าสิ้นหวัง

       ห้วงเวลาที่ผ่านมาเป็นห้วงที่เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างรวดเร็วและกว้างไกลมากที่สุดเท่าที่เคยประสบมาในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ท้าทายการดำรงอยู่ของเราในทุกมิติ โดยเฉพาะความเป็นชาติอันธำรงไว้ซึ่งอธิปไตย ในยามที่ถูกท้าทายเช่นนี้ สิ่งที่เราทุกคนเพรียกหาคือ การตัดสินใจที่ถูกต้องและเฉียบแหลม

       ทุกครั้งฝ่าพระบาทได้ทรงใช้พระราชปรีชาญาณ พระสติปัญญา พระวิริยะอุตสาหะ ตลอดจนความองอาจและกล้าหาญ ที่พระองค์ทรงมีอยู่อย่างท่วมท้น ในการนำประเทศให้พ้นภัย ฝ่าพระบาทไม่เคยทรงอยู่ห่างไกลจากประชาชนของพระองค
์ ไม่เคยทรงมีพระราชดำริให้ประชาชนเป็นเพียงผู้ฟังคำสั่งหรือบริวาร ในทางตรงกันข้าม ฝ่าพระบาททรงอยู่เคียงข้างพสกนิกรของพระองค์ และทรงร่วมทุกข์ร่วมสุขกับประชาชนชาวไทยตลอดมา

       ฝ่าพระบาททรงทำให้ประชาชนชาวไทยทุกคนมีความภาคภูมิใจอย่างสุดซึ้งในเอกลักษณ์และมรดกตกทอดทางวัฒนธรรม อีกทั้งยังได้ตระหนักด้วยว่า ประเทศไทยนั้นเป็นผืนแผ่นดินที่เป็นของชาวไทยทุกคนอย่างแท้จริง และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ฝ่าพระบาททรงทำให้ชาวไทยทุกคนมีความเชื่อมั่นในตนเอง

       ทั้งหมดนี้เป็นการขยายผลมาจากแบบอย่างความสำเร็จของฝ่าพระบาทแทบทั้งสิ้น พระปรีชาสามารถของฝ่าพระบาท เป็นศูนย์รวม แห่งแรงบันดาลใจให้แก่ประชาชนของพระองค์ตลอดมา ไม่ว่าจะเป็นในด้าน วิชาการ ศิลปะ วิทยาศาสตร์ หรือแม้แต่การที่ทรงเป็น แบบอย่างที่เรียบง่ายของการเป็นพ่อผู้มีแต่ความรักและเสียสละเพื่อลูก

       ณ วันนี้ ประชาคมโลกต่างตระหนักถึงความสำเร็จทั้งหลายทั้งปวงของฝ่าพระบาท หม่อมฉัน องค์พระประมุข และพระราชอาคันตุกะ ทุกพระองค์ที่มาพร้อมเพรียงกัน ณ ที่นี้ จึงมีความปลาบปลื้มปีติยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่องค์การสหประชาชาติได้ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล ความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์แด่ฝ่าพระบาท

ฝ่าพระบาท
       พระราชกรณียกิจและความสำเร็จทั้งหมดที่กล่าวมาของฝ่าพระบาท ทำให้หม่อมฉัน องค์พระประมุขและพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์ ณ ที่นี้ ต่างรู้ซึ้งตระหนักได้ดีว่า เหตุใดประชาชนของพระองค์จึงได้พร้อมใจกันน้อมเกล้าฯ ถวายพระราชสมัญญา มหาราช

       แต่หม่อมฉัน ตลอดจนองค์พระประมุขและพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์ที่มีไมตรีจิตพรั่งพร้อมกันมาร่วมงานในวันนี้ ขอถวายพระราชสมัญญาที่เรียบง่ายแต่มีค่าและสะท้อนถึงความรู้สึกของหม่อมฉันและทุก พระองค์ ณ ที่นี้ คือฝ่าพระบาททรงเป็น "มิตรที่รักและพึงเคารพอย่างที่สุดของพวกเรา"

       ฝ่าพระบาททรงเป็นพลังบันดาลใจให้กับพวกเราเหล่าพระประมุขด้วยกัน และสิ่งนี้คือเหตุสำคัญล้ำลึก ของความพร้อมเพรียงกัน มาถวายพระเกียรติในครั้งนี้

       หม่อมฉัน องค์พระประมุขและพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์ ณ ที่นี้ ขอถวายพระพรฝ่าพระบาท และสมเด็จพระราชินี ทรงพระเกษมสำราญ และทรงพระเจริญ พระชนม์สุขสิริสวัสดิ์พร้อมทุกประการทั้งขอให้ประเทศและประชาชาติไทย
มีความวัฒนาผาสุกยั่งยืนนานตลอดไป


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: หมูน้อยในกะลา ที่ 26 มิ.ย. 06, 17:14

.



ขอบพระคุณคุณนิลกังขาที่ได้กรุณานำบทความ และเรื่องราวดีๆ มาแบ่งปันให้สมาชิกในเรือนได้ อ่าน ได้ดู ได้รับรู้ และได้ประทับใจกันครับ


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 27 มิ.ย. 06, 20:08
 ตัวพระราชดำรัสภาษาอังกฤษของสุลต่านบรูไนครับ



Below is the text of the speech by His Majesty Sultan Haji Hassanal Bolkiah Mu'izzaddin Waddaulah Sultan Dan Yang Di-Pertuan of Brunei Darussalam at a banquet in honour of the 60th Anniversary of the Coronation of His Majesty King Bhumibol Adulyadej.





"Your Majesty King Bhumibol Adulyadej,

Your Majesty Queen Sirikit,

Your Majesties,

Your Royal Highnesses,

Ladies and Gentlemen,



Your Majesty,



We have the honour and great pleasure to join Your Majesties today for two reasons.



Firstly we are here, like the people everywhere in this proud and ancient Kingdom, to offer a very simple personal message to Your Majesty and your beloved Queen Sirikit.



We offer our warmest congratulations and our heartfelt best wishes to you both and to the people of Thailand. We do this with the deepest of respect.



This occasion, however, demands much more than our simple goodwill no matter how warmly and sincerely it is expressed.



So, there is another equally important reason for our presence in your beautiful country. If there is a single word to express it, Your Majesty, I believe it would be the word, "honour".



We are here, Your Majesty, to honour you and your people and to honour your life as their leader, their inspiration and their revered Head of State.



Your Majesty's reign is one of the longest in history. That, however, is a matter of academic record and we are not here to celebrate mere records.



We are here to honour the substance of that reign. We are here to express our profound esteem for the personal qualities with which Your Majesty has so enriched it.



Its 60 years are not just 60 years in the history of Thailand. They are, in so many ways, the history of our times, the good and the bad, the joyous and the sad, the exciting and the desperate.



These times have brought the most rapid and far-reaching changes even seen in man's history. They have challenged every aspect of our existence, above all as sovereign nations. They have presented moments when great decisions and judgement have been called for.



To these moments, Your Majesty has brought the dignity, wisdom, courage that we all seek to offer those we are called upon to lead.



You have never sought to distance yourself from the lives of your people. You have never asked them to be followers or mere subjects. You have shared their joys, fears and disappointments.



You have made them deeply proud of their heritage and their identity. You have made your people feel that the Kingdom of Thailand is indeed their own Kingdom. Above all, I feel, you have given them confidence.



Much of this comes from Your Majesty's own personal achievements. These have rightly been a source of great inspiration to your people whether academic, artistic, and scientific, or in the most human of terms the simple example of a good and loving father.



All these achievements have now been recognised by the international community. And we offer you our warmest congratulations on the Lifetime Achievement Award that has been conferred by the United Nations.



Your Majesty, in recognising all these accomplishments some accounts of your reign have accorded you the title 'The Great". We can all understand why.



But, for us who have come to honour you here, a simpler title expresses our feeling. It is a dear and very special title.



You are "Our Friend and Our Most Respected colleague".



You inspire us all and we, Your Majesty's peers and admirers, honour you most deeply for this.



We are also extremely grateful to Your Majesty's Government and to Prime Minister Thaksin Shinawatra for the opportunity we have had to express these feelings of great respect in person.



In arranging this unique gathering, they honour us as well. It has been a privilege to share their celebrations on this wonderful occasion and we wish Your Majesties and the people of the Kingdom of Thailand many more years of great happiness and prosperity.



Thank you."


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 27 มิ.ย. 06, 20:11
 ทำไมคำแปลของทำเนียบจึงแปล records ว่าบทบันทึก? ดูตามความหมาย ผมนึกว่าน่าจะแปลทำนองว่า สถิติ หรืออะไรทำนองนั้น หรือ "ประวัติการณ์" คือ รัชสมัยของในหลวงยาวนานเป็นประวัติการณ์ มากกว่า ?


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 27 มิ.ย. 06, 20:12
 ขอบคุณคุณหมูฯ ครับ


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 27 มิ.ย. 06, 20:13
 อีกสัก คห. เถอะน่า...
ทรงพระเจริญ


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 27 มิ.ย. 06, 20:14
 เย้ - ไฟติดกระทู้แล้ว...


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: มีมี่2009 ที่ 04 ก.ค. 06, 15:22
 ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: น้ำเงิน ที่ 10 ก.ค. 06, 17:20

ขอพระองค์ทรงพระเกษมสำราญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: มุดฉานะ ที่ 01 พ.ย. 06, 21:00
 พระเทพทรงน่ารักจัง ... ธรรมชาติมากๆ ทรงพระเจริญค่ะ


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: Gotz21 ที่ 04 ธ.ค. 06, 23:57
 ทรงพระเจริญเพคะ


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: เดะน้อยขี้สงสัย ที่ 05 ธ.ค. 06, 20:03
 ...มีสิ่งที่ผมสงสัยมาเสมอว่า  การที่เราได้ยินแต่ผู้คนพูดว่าเรารักในหลวง  แต่เหตุใดบุคคลเหล่านั้นจึงไม่ปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์  ทั้งที่พระราชดำริของท่านล้วนแต่ทำให้คนเราเกิดความสุขที่ยั่งยืน อย่างแท้จริง...


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: thawankesmala ที่ 07 ธ.ค. 06, 15:20
 ไม่ต้องสงสัยหรอกครับ คุณทำตามเองคุณก็ได้ประโยชน์เอง คนอื่นใครจะทำตามหรือไม่ เราบังคับเขาไม่ได้  


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: iko ที่ 15 ธ.ค. 06, 16:04
 เห็นด้วยค่ะเราทำตัวเองให้ดีที่สุดเท่านั้นก็พอหากเรารักในหลวงจริงๆ


กระทู้: กระทู้พิเศษ เฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์นักพัฒนา
เริ่มกระทู้โดย: toberoyalto ที่ 08 ม.ค. 09, 15:29
01 พระมหากษัตริย์นักพัฒนา
ตลอดระยะเวลาแห่งการครองสิริราชสมบัติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ชนบททั่วทุกภูมิภาคของประเทศ จึงทำให้ทรงทราบปัญหาความทุกข์ยากที่บังเกิดแก่พสกนิกรของพระองค์ และนี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ก่อให้เกิดการดำเนินงานพัฒนา อันเนื่องมาจากพระราชดำริที่ปรากฏอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เป็นจำนวนมากมายเกินกว่าจะพรรณนาได้หมดสิ้นงานพัฒนาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทุกโครงการ ล้วนตั้งอยู่บนหลักการที่ทรงพระราชทานว่า “ทำให้ง่าย และให้สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ” แต่เบื้องหลังความง่ายดังกล่าวนั้น คือการกลั่นกรอง “ความรู้” และ”ความคิด” จากการค้นคว้าทดลองตามหลักวิชา นำมาปรับจากทฤษฎีให้เป็นทางปฏิบัติ ที่มีประสิทธิภาพสูง สอดคล้องกับสภาพของประเทศและเหมาะสมต่อการนำไปใช้ในแต่ละภูมิภาค และเพราะปัญหา ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงเฉพาะภูมิภาคใดภาคหนึ่งเท่านั้นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จึงปรากฏให้เห็นแม้ในท่ามกลางมหานครของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินงานด้านใดก็ตาม ข้อเท็จจริงประการหนึ่งที่เป็นที่ประจักษ์มาโดยตลอดคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นแบบอย่างที่ล้ำเลิศของงานพัฒนา ด้วยทรงให้ความสำคัญกับการค้นคว้า วิเคราะห์และทดลองครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่จะนำผลลัพธ์ที่ได้มาพระราชทานแก่ประชาชนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือพระมหากษัตริย์ที่ทรงทำงานหนักที่สุด ทรงตรากตรำพระวรกายเพื่อพสกนิกรของพระองค์ เพื่อเป็นแนวทางสำคัญสำหรับประชาชาติไทย ในการริเริ่มสร้างสรรค์คุณประโยชน์ให้แก่ตนเอง สังคม และประเทศชาติสืบไป
01 The Developer Monarch
His Majesty has traveled to every region of the Kingdom throughout his reign so he has first hand information with deep understanding of the roots of his subjects’ poverty. This was the beginning of the numerous royally initiated and supported projects seen all over the kingdom.
His Majesty’s development projects are all based on his philosophy “Simplify and work in accordance with the Laws of Nature”
Behind the simplification is a distillate of ‘knowledge’ and ‘thought’ derived from research and experimentation which makes the theories highly practical and applicable according to each of the country’s regional environments and their individual capabilities.
And because problems are not restricted to any one particular region of the Kingdom, Royal Support Projects are seen even in the Bangkok Metropolis.
Whatever field the project derives from there is one universal fact that runs throughout which is HM the King is the ultimate exemplar of development work because on every occasion His Majesty has given importance to research, analysis and experimentation before the product or result was distributed to the people or departments involved for guidance prior to implementation.
HM the King is an incredibly hardworking Monarch, sacrificing his own physical wellbeing for his subjects in his tireless guidance to initiate and create projects beneficial to not only themselves but also to their communities and their country.