ส้วมในประเทศไทย จากอดีตจนถึงปัจจุบัน มีวิวัฒนาการเรื่อยมาตามลำดับ
ส้วมหลุม ถือเป็นส้วมแบบแรกที่คนไทยใช้ เป็นหลุมดินที่มีทั้งแบบหลุมแห้งและหลุมเปียก ขุดเป็นหลุมกลมหรือสี่เหลี่ยม แล้วปลูกตัวเรือนครอบหลุมไว้
ส้วมถังเท มีลักษณะคล้ายส้วมหลุม แต่ใช้ถังวางไว้ในหลุมใต้ฐานไม้สำหรับรองรับอุจจาระผู้ขับถ่าย แล้วค่อยนำไปเททิ้ง ซึ่งมักจะนำถังไปเททิ้งวันละครั้ง
ส้วมบุญสะอาด ประดิษฐ์โดยนายอินทร์ บุญสะอาด ผู้ตรวจการสุขาภิบาลประจำอำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลักษณะพิเศษคือมีกลไกป้องกันปัญหาการลืมปิดฝาหลุมถ่าย
ส้วมคอห่าน ผู้ประดิษฐ์คือ พระยานครพระราม (สวัสดิ์ มหากายี) ผู้สำเร็จราชการมณฑลพิษณุโลก ได้คิดค้นการใช้หัวส้วมแบบคอห่านร่วมกับระบบบ่อเกรอะบ่อซึม ซึ่งคนทั่วไปมักเรียกว่า ส้วมซึม ทำให้การขับถ่ายในส้วมมีความสะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้น
ส้วมชักโครก เป็นส้วมที่มีส่วนประกอบค่อนข้างสลับซับซ้อน ที่เรียกว่าชักโครก คงเพราะเมื่อถ่ายเสร็จต้องชักคันโยกปล่อยน้ำลงมา และมีเสียงดังโครก จึงเรียกตามนั้น ผู้ประดิษฐ์ส้วมชักโครกรุ่นแรกขึ้นคือ เซอร์จอห์น แฮริงตัน ขุนนางชาวอังกฤษ เมื่อ พ.ศ. ๒๑๓๙ ต่อมาใน พ.ศ. ๒๓๑๘ อเล็กซานเดอร์ คัมมิงส์ ก็ได้พัฒนาส้วมชักโครกแบบใหม่ ให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น และเป็นต้นแบบของส้วมชักโครกที่ใช้งานในปัจจุบัน ในประเทศไทยส้วมชักโครกเป็นที่นิยมแพร่หลายหลังช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ เนื่องจากมีการสร้างบ้านแบบสมัยใหม่มากขึ้น จากนั้นก็นิยมต่อ ๆ มาจนปัจจุบัน เพราะมีการออกแบบให้ทันสมัยและน่าใช้ยิ่งขึ้น
ส้วมในต่างประเทศ มีคำเรียกต่าง ๆ กัน เช่น toilet , rest room, lavatory, W.C (ย่อมาจาก water closet) และ bathroom เป็นต้น ซึ่งเรามักจะคุ้นชินอยู่แล้ว แต่ที่แปลกกว่าที่อื่น คือ ประเทศเยอรมัน ที่เขาใช้คำว่า Damen (ดาเมน) กับห้องส้วมหญิง และคำว่า Heren (เฮอร์เร่น) กับห้องส้วมชาย ซึ่งหากเราไปจำภาษาอังกฤษที่ว่า Men แปลว่า ชาย และ Her ที่หมายถึงผู้หญิง แล้วเข้าตามนั้นละก้อ อาจจะมีการหน้าแตก เพราะเข้าผิดห้องได้ อย่างไรก็ดี ส่วนใหญ่ห้องส้วมทุกแห่ง มักจะมีสัญลักษณ์สากลเป็นรูปชาย-หญิงในแบบต่าง ๆ ติดไว้ เพื่อให้แยกออก
ในหลาย ๆ ประเทศ นอกเหนือไปจากส้วมชักโครกแล้ว เรายังอาจพบ โถอนามัย ที่ฝรั่งเรียกว่า bidet (อ่านว่า บิ-เด) ตั้งอยู่ข้าง ๆ ซึ่งจะมีหัวก๊อกน้ำติดอยู่ ก๊อกนี้บางแห่งจะมีทั้งน้ำร้อน-น้ำเย็นให้เลือก ใช้ได้หลายภารกิจ เช่น ใช้ล้างชำระของสงวนหรือก้นหลังจากเสร็จภารกิจ ใช้ล้างเท้า ใช้ซักผ้า และใช้อาบน้ำเด็ก เป็นต้น
ข้อมูลจาก
กรมส่งเสริมวัฒนธรรม