เมื่อการก่อสร้างเริ่มดำเนินการได้ราว ๒ ปีกว่า กลับพบปัญหาและอุปสรรค์ต่าง ๆ จากการก่อสร้างคือ สั่งของเข้ามาผิดสเป๊ค ต้องใช้เวลานานในการแก้ไข และยังมีกรณีการเสียชีวิตของคนงานก่อสร้าง ซึ่งล่าช้ามากมากแล้วทำให้ขวัญและกำลังใจการก่อสร้างเริ่มสั่นคลอน จุดนี้เองทำให้เกิดความที่จะสร้างสิ่งก่อสร้างอันหนึ่งขึ้นมาเพื่อบรรเทา ปัดเป่า และเรียกขวัญกำลังใจให้กลับมาเหมือนเดิม การติดต่อผ่านผู้ใหญ่สู่ พล.ต.อ. เผ่า ศรียานนท์ ขอความช่วยเหลือไปยัง พล.ร.ต. หลวงสุวิชานแพทย์ ผู้ซึ่งเชี่ยวชาญด้านโหราศาตร์มาทำการดูสถานที่ก่อสร้าง
พล.ร.ต. หลวงสุวิชานแพทย์ แนะว่าเนื่องจากชื่อของโรงแรมนั้นเป็นอุปสรรคในการดังกล่าว ท่านจึงได้ทำการสักการะท้าวมหาพรหมและบอกว่าหากโรงแรมสร้างเสร็จดีแล้ว ก็จะสร้างศาลพระพรหมขึ้นในโรงแรมเพื่อเป็นการบนบานเอาไว้ และแล้วการก่อสร้างโรงแรมก็สำเร็จและมีพิธีเปิดโรงแรมเอราวัณ ในวันที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๙
หลังจากนั้นเมื่อโรงแรมแล้วเสร็จจึงมีการก่อสร้างศาลท้าวมหาพรหมในเวลาต่อมา โดยเลือกที่ตั้งมุมสี่แยกราชประสงค์หันหน้าออกถนน จึงเป็นที่มาของการสร้างศาลดังกล่าวขึ้นในสังคมไทยยุค ๒๔๙๙
จริง ๆ แล้วคุณหลวงฯ ไม่ได้เชี่ยวชาญวิชาโหราศาสตร์นะครับ ถ้าจะให้ถูกต้องเรียกว่าเป็นจิตศาสตร์เสียมากกว่าครับ
เพราะมีหลายครั้งที่ท่านได้รับการเชิญให้ไปช่วยประกอบพิธีกรรมครับ
พื้นเพแต่เดิมท่านเป็นคนสมุทรสาคร ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่อยู่ตามที่คุณลุงไก่บอกมาครับ
ตระกูลของท่านแต่เดิม ก็เป็นผู้ศรัทธาปฏิปทาของพระครูวิหารกิจจานุการ( ปาน โสนันโท ) วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นทุนเดิมอยู่แล้วครับ และคุณหลวงฯ ก็มีศักดิ์เป็นน้าของพระราชพรหมยาน (วีระ ถาวโร ปธ.๔) วัดจันทาราม(ท่าซุง) จ. อุทัยธานี ครับ