1
จากข้างต้นเช่นกัน ทำให้ผมได้เจอเรื่องราวกันเนื่องมาจากนักโทษการเมือง ใคดดีกบฏพระยาทรง ที่ศาลพิเศษ ๒๔๘๒ พิพากษาจำคุกตลอดชีวิต
ศาสนาเป็นที่มาของกฎหมายภาษาของม.ร.ว.นิมิตรมงคล ไม่ว่าในโอกาสสถานการณ์ใด เป็นภาษาที่ไพเราะสละสลวย ให้อารมณ์สะเทือนใจได้ดีเสมอ โดยไม่ต้องพร่ำรำพันมากมาย
2
เพื่อจะขยายเรื่องที่พ่อของผมเขียนไว้ให้ผู้อ่านสิ้นสงสัย ผมจะขอเล่าคดีความของนายยันต์ วินิจนัยภาค นักโทษการเมืองในคดีกบฏพระยาทรงสุรเดช ต่อจากกระทู้ที่เคยเขียนไว้ให้จบครับหลังจากพิจารณาคดีอยู่สักสิบเดือน ศาลพิเศษก็พิพากษาคดีทั้งหมด คำพิพากษาศาลพิเศษฉบับนี้ รัฐบาลลงทุนตีพิมพ์ออกมาเองเพื่อบำบัดความสงสัยของประชาชนว่ามันจะอะไรกันขนาดนั้น อยู่ๆก็มีการกวาดจับ มีการตั้งศาลพิเศษแล้วก็เงียบหาย อยู่ๆก็เป็นข่าวอันน่าตระหนกว่ามีการประหารชีวิตกันถึง18ศพ กบฏในสมัยสมบูรณายาสิทธิราชยังไม่ฆ่าแกงอะไรกันถึงขนาดนั้น
เนื้อความในหนังสือดังกล่าว ผู้อ่านที่เป็นกลางและไม่ทราบเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรเลยก็อาจคล้อยตามได้ง่ายเพราะเห็นว่ามีพยานเยอะแยะมาให้การในศาล ผูกโยงกันไปผูกโยงกันมาสลับซับซ้อนเป็นขบวนการใหญ่ และมีจำเลยจำนวนหนึ่งที่ศาลตัดสินว่าไม่ผิดให้ปล่อยตัวไปด้วย ดังนั้น พวกที่ศาลลงโทษก็คงจะยุติธรรมสาสมดีแล้ว สำหรับพวกที่สนับสนุนฝ่ายรัฐบาลอย่างตาบอดหูดับนั้นไม่ต้องพูดถึง ต่างแซ่ซ้องกฤษดานุภาพของท่านผู้นำกันอย่างระเบ็งเซ็งแซ่ ครอบครัวจำเลยผู้เคราะห์ร้ายทั้งหลายแทบจะอยู่ในสังคมไม่ได้ บางคนเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลไปเลยเพื่อแสดงให้ชัดๆว่า ฉันไม่ใช่พวกนั้นนะจ๊ะ ท่านทั้งหลาย
ความอยุติธรรมของศาลพิเศษ ๒๔๘๒
หมายเหตุ : ผมขออนุญาตท่านอาจารย์ เชื่อมกระทู้ทั้งสองตรงจุดนี้ เข้าไว้ด้วยกันครับ