เรือนไทย

General Category => ศิลปะวัฒนธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: แหวน ที่ 05 พ.ย. 00, 18:00



กระทู้: เพลงดาวลูกไก่
เริ่มกระทู้โดย: แหวน ที่ 05 พ.ย. 00, 18:00
ใครจำเพลงแหล่ดาวลูกไก่ได้บ้างคะ อยากรื้อฟื้นความทรงจำสมัยเด็กๆค่ะ


กระทู้: เพลงดาวลูกไก่
เริ่มกระทู้โดย: ทิด ที่ 01 พ.ย. 00, 14:57
เพลงแหล่ ดาวลูกไก่ โดย พร ภิรมย์

ภาคหนึ่ง


โอ้ชีวิตคิดไฉน.............................ใครหนอใครลิขิต
ปกาศิตของศิวะ...........................หรือของพระพรหมเจ้า
บ้างกำเนิดเกิดมา........................พอลืมตามองโลก
บ้างมีโชคบ้างอับโชค...................มีสุขโศกปนเศร้า
แต่จอมนราพิสุทธ๋........................ท่านสอนพุทธบริษัท
เป็นธรรมะปรมาศ.......................อ้างถึงอำนาจกรรมเก่า
ว่ากุศลาธรรมา...........................มนุษย์เกิดมามีสุข
อกุศลาพาให้ทุกข.......................ดังไฟที่ลุกรุมเร้า
บ้างกึ่งดีกึ่งชั่ว...........................เพราะตัวของตัวมัววุ่น
สร้างทั้งบุญทั้งบาป.....................เหมือนดำที่ฉาบด้วยขาว
ผมมิใช่บัณฑิต...........................อันมีจิตเสน่หา
ที่จะเป็นนาคเทศนา...................มาเจรจายั่วเย้า
จึงตั้งศรัทธาสาทก.....................เรื่องยาจกยากจน
มีตากับยายสองคน....................ปลูกบ้านอยู่บนเชิงเขา
แกเลี้ยงแม่ไก่อ.........................มีลูกอยู่เจ็ดตัว
เช้าก็ออกไปริมรั้ว....................จิกกินเม็ดถั่วเม็ดข้าว
เวลามีเหยี่ยวเฉี่ยวโฉบ.............ซิแม่ก็โอบปีกอุ้ม
กางสองปีกออกคลุม.................พาลูกทั้งกลุ่มเข้าเล้า
แม่ไก่จะปลอบขวัญลูก..............เสียงกรุ๊กกรุ๊กปลุกขวัญ
ลูกตอบเจี๊ยบๆเสียงลั่น.............ทั้งๆที่ขวัญเขย่า
แล้วเขี่ยข้าวออกเผื่อ................ต่างคุ้ยเหยื่อออกให้
ลูกไก่แม่ไก่ไร้ทุกข์ .................สิไม่มีสุขใดเท่า
ถึงคราวจะสิ้นชีวิต...................เมื่อใกล้อาทิตย์อัศดง
มีภิกษุหนึ่งองค์........................เดินออกจากดงชายเขา
ธุดงค์เดียวด้นดั้น....................เห็นสายันห์สมัย
หยุดกางกลดพลันทันใด...........หลังบ้านตายายผู้เฒ่า
อยากรู้เรื่องต่อก็ต้อง................เปิดหน้าสองฟังเอา


กระทู้: เพลงดาวลูกไก่
เริ่มกระทู้โดย: ทิด ที่ 01 พ.ย. 00, 15:02
เพลงแหล่ ดาวลูกไก่ โดย พร ภิรมย์

ภาคสอง


พระธุดงค์ปลงกรด..................ตะวันก็หมดแสงส่อง
อาศัยโคมทองจันทรา...............ลอยขึ้นมายอดเขา
ฝ่ายว่าสองยายตา....................เกิดศรัทธาสงสาร
พระผู้ภิกขาจาร......................ต้องขาดอาหารมื้อเช้า
...ดงกันดารย่านนี้...................รึก็ไม่มีบ้านอื่น
ข้าวจะกล้ำน้ำจะกลืน...............จะมีใครยื่นให้เล่า
พวกฟักแฟงแตงกวา...............ของเราก็มาตายหมด
นึกสงสารพระจะอด................ทั้งสองกำศรตโศรกเศร้า
สักครู่หนึ่งตาจึงเอ่ย.................นี่หนายายเอยตอนแจ้ง
ต้องเชือดแม่ไก่แล้วแกง..........ฝ่ายยายไม่แย้งตาเฒ่า
ส่วนแม่ไก่ได้ยิน.....................น้ำตารินหลั่งไหล
ครั้นจะรีบหนีไป....................คงต้องตายเปล่าเปล่า
อ้าปากออกบอกลูก................แม่ต้องถูกตาเชือด
คอยดูเลือดแม่ไหล................พรุ่งนี้ต้องตายจากเจ้า
มาเถิดลูกมาซุกอก................ให้แม่ได้กกก่อนตาย
แม่ขอกกเป็นครั้งสุดท้าย........แล้วแม่ต้องตายตอนเช้า
อย่าทะเลาะเบาะแว้ง...............อย่าขัดแย้งเหยียดหยัน
จงรู้จักรักกัน.........................อย่าผลุนผลันสับเพร่า
เจ้าตัวใหญ่สายสวาท..............อย่าเกรี้ยวกราดน้องๆ
จงปกครองดูแล.....................ให้เหมือนดังแม่เลี้ยงเจ้า
น่าสงสารแม่ไก่......................น้ำตาไหลสอนลูก
เช้าก็ถูกตาเชือด...................ต้องหลั่งเลือดนองเล้า
ส่วนลูกไก่ทั้งเจ็ด...................เหมือนถูกเด็ดดวงใจ
จึงพากันโดดเข้ากองไฟ.........ตายตามแม่ไก่ดังกล่าว
ด้วยอานิสงค์ใจประเสริฐ.........ลูกไก่ไปเกิดเป็นดาว


กระทู้: เพลงดาวลูกไก่
เริ่มกระทู้โดย: แหวน ที่ 01 พ.ย. 00, 15:23
รวดเร็วทันใจดีจังค่ะ ขอบคุณมากค่ะคุณทิด
ฟังแล้วเศร้า สงสารแม่ไก่กับลูกไก่ค่ะ


กระทู้: เพลงดาวลูกไก่
เริ่มกระทู้โดย: พวงร้อย ที่ 02 พ.ย. 00, 02:17
หารูปประกอบมาให้ค่ะ


กระทู้: เพลงดาวลูกไก่
เริ่มกระทู้โดย: ดาว ที่ 02 พ.ย. 00, 06:43
ส่วนไหนเป็นดาวแม่ไก่ส่วนไหนเป็นดาวลูกไก่คะคุณพวงร้อย


กระทู้: เพลงดาวลูกไก่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 พ.ย. 00, 13:36
คุณพวงร้อยยังไม่เข้ามาตอบเลยค่ะ

ระหว่างนี้คั่นรายการด้วยการขยายความต่อถึงดาวลูกไก่   ฉบับของฝรั่ง
ดาวลูกไก่ เป็นกลุ่มดาว ชื่อภาษาอังกฤษว่า Pleides
ชื่อนี้มาจากเทวตำนานของกรีกค่ะ
ทางกรีกถือว่ามี ๗ ดวง  เป็นชื่อลูกสาวทั้งเจ็ดของ ยักษ์แอตลาสผู้ทำหน้าที่แบกโลกไว้
กลุ่มดาวพลีอะดีส มีชื่อเรียงกันตั้งแต่พี่คนโตถึงน้องสาวคนเล็กว่า
Maia,  Electra, Celaeno, Taygeta, Merope, Alcyone, and Sterope
เดิมเป็นหญิงสาว แต่กลายร่างเป็นดวงดาวไป  
สนใจไปหา Greek Mythology อ่านดูนะคะ
.


กระทู้: เพลงดาวลูกไก่
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 พ.ย. 00, 13:37
ขอโทษ ชื่อตกไปตัวหนึ่ง
ดาวลูกไก่ = Pleiades อ่านว่า พลีอะดีส ค่ะ


กระทู้: เพลงดาวลูกไก่
เริ่มกระทู้โดย: พวงร้อย ที่ 03 พ.ย. 00, 14:06
ไม่ทราบซีคะ  ว่าดาวไหนเป็นลูกไก่แม่ไก่  ทราบแต่ตำนานทางกรีกน่ะค่ะ  ไพลอาดีส  แปลว่า นกเขา เป็นเจ็ดสาวพี่น้อง  ลูกของ

Atlas(ที่เป็นคนแบกโลกน่ะค่ะ) และ Pleione  ตามตำนานว่า  Pleione พาลูกไปเที่ยว(เพราะสามีคือ แอ๊ตลัส ถูกสาปให้ไปแบกของหนักอยู่  

มาเที่ยวด้วยไม่ได้)   ไปเจอ นายพราน โอไรอัน  โอไรอันเกิดมาหลงรักคุณแม่ลูกเจ็ดเข้า  ก็เที่ยวตามตื฿๊อ  คุณแม่คุณลูกก็หนีหัวซุกหัวซุน  

ซุสเกิดสงสารเลยแปลงให้เป็น นกเขาเหิรฟ้า  ไปเกิดเป็นดาว  เกาะหลังวัวทอรัส (กลุ่มดาววัว)  โอไรอันก็ยังตามมา  เลยสู้กับวัวอยู่บนฟ้า  โดยมี

กลุ่มนกเขาเจ็ดตัวเกาะบ่าวัวอยู่



ถ้ามองด้วยตาเปล่า  จะเห็นแค่หกดวง  บางตำนานก็ว่า  เพราะนางหนึ่งคือ Merope ไม่รักดี  

แทนที่จะไปเป็นเมียเทพเจ้าซุส(ซึ่งมีเมียนับไม่ถ้วนอยู่แล้ว)  กลับไปแต่งงานกับมนุษย์เดินดิน  ให้เป็นที่ขายหน้าพ่อแม่  เลยต้องหลยลี้หนีหน้ามนุษย์  

ปล่อยให้พี่ๆที่ได้ดิบได้ดีเป็นนางบำเรอของซุส  มาอวดโฉมบนฟ้าอยู่หกคน



ตามผังดาวที่ถ่ายด้วยกล้อง  ก็มองเห็นมากกว่าหกดวง  เค้าก็กำกับให้ดาวพ่อดาวแม่  คือ Atlas และ Pleione มาคุมลูกสาวอยู่ด้วย


กระทู้: เพลงดาวลูกไก่
เริ่มกระทู้โดย: พวงร้อย ที่ 04 พ.ย. 00, 01:32
เข้ามาก่อนคุณเทาชมพูนิดนึงเลยไม่ทันเห็นค่ะ

สำเเนียงของดิฉันมันเป็นแบบลูงทุ่งมะกันน่ะค่ะ  อิอิ

ลืมบอกไปว่ารูปมาจาก Anglo Australian Observatory/Royal Observatory Edinburgh ค่ะ


กระทู้: เพลงดาวลูกไก่
เริ่มกระทู้โดย: ด.เด็ก ที่ 05 พ.ย. 00, 06:04
ด้วยอานิสงส์อันประเสริฐ
   ลูกไก่จึงไปเกิดเป็น........ไข่ดาว


กระทู้: เพลงดาวลูกไก่
เริ่มกระทู้โดย: ด.เด็ก ที่ 05 พ.ย. 00, 06:04
ด้วยอานิสงส์อันประเสริฐ
   ลูกไก่จึงไปเกิดเป็น........ไข่ดาว


กระทู้: เพลงดาวลูกไก่
เริ่มกระทู้โดย: อินทาเนีย ที่ 06 พ.ย. 00, 06:07
ดาวลูกไก่ของไทยคือดาวนักษัตรกฤตติกาของอินเดีย และดาวแม่ไก่คือดาวนักษัตรภรณี ดาวนักษัตรทั้งสองหมู่อยู่ติดกัน

(หากสนใจชื่อเพราะๆของดาวนักษัตรทั้ง ๒๗ หมู่ เชิญอ่านได้ที่กระทู้ ๑๐๙ ความคิดเห็นที่ ๑๒ ครับ)