ท่าทีของปรีดีกับกบฏพระยาทรงสุรเดชมีว่าอย่างไรบ้างครับ
ขณะนั้นปรีดีเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (พ.ศ.2481-พ.ศ.2484)
และทราบแต่เพียงว่าพระยาทรงสุรเดชขัดแย้งกับปรีดีเรื่องสมุดปกเหลือง
ความขัดแย้งเรื่องสมุดปกเหลืองนั้นจบไปนานหลายปีแล้ว หลวงพิบูลจึงได้ยึดอำนาจขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีโดยกำจัดผู้ก่อการคณะราษฎรสายทหารที่มีฉายาว่าสี่ทหารเสือออกไปจากวงโคจรทางการเมือง นายปรีดีเป็นผู้ก่อการฝ่ายพลเรือนจึงไม่เกี่ยวกับเขา และท่านก็น่าจะฉลาดพอที่จะไม่เข้าไปขวางทางปืน
แต่เมือสาบานไว้ว่าจะไม่ฆ่ากัน พระยาทรงสุรเดชและพระยาฤทธ์อัคเนย์จึงถูกเนรเทศ มีข่าวว่าพระประศาสน์พิทยายุทธก็จะโดนเช่นนั้นด้วย แต่นายปรีดีได้เข้าไปขอร้องหลวงพิบูล ให้แต่งตั้งไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทยประจำจักรวรรดิไรช์ที่สามแทน พระประศาสน์พิทยายุทธจึงพ้นจากภัยการเมือง แม้จะต้องอพยพอย่างฉุกละหุกไปอยู่กรุงเบอร์ลินพร้อมกับครอบครัวในขณะที่สงครามโลกใกล้ระเบิดเต็มที แต่ก็เป็นถิ่นเดิมที่คุ้นเคย มีเงินเดือนตำแหน่งหน้าที่มีเกียรติ ถือว่าชะตากรรมดีกว่าเพื่อนผู้ก่อการทั้งสองมาก
การที่หลวงพิบูลยอมนายปรีดีตรงนี้ ก็แสดงให้เห็นถึงสัมพันธภาพอันราบเรียบของทั้งคู่ อย่างน้อยก็ยังไม่ขัดใจกันเรื่องของอำนาจและวิถีทางการเมืองคราวนั้น