SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1155 เมื่อ 06 เม.ย. 14, 09:34
|
|
วิกี้ไทยบันทึกว่า คณะแห่งพระเยซูเจ้า (Society of Jesus) หรือที่มักรู้จักกันในนามคณะเยสุอิต (Jesuits) เป็นคณะนักบวชคาทอลิกก่อตั้งโดยนักบุญชาวสเปน - Ignatius of Loyola ในศตวรรษที่ 16 นักบวชในคณะนี้มีสมญาว่า ทหารของพระไครสต์(Soldiers of Christ) หรือ ทหารของพระสันตะปาปา (Foot soldiers of the Pope) เพราะท่านนักบุญผู้ก่อตั้ง เคยเป็นอัศวินมาก่อน ปัจจุบันนักบวชเยสุอิตทำงานสอนศาสนาใน 112 ประเทศ มีชื่อเสียงในทางการศึกษา และการส่งเสริมวัฒนธรรม นอกจากนั้นยังมีส่วนร่วมในการต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนด้วย
สัญญลักษณ์ของคณะ เป็นรัศมีรายรอบกางเขนและอักษรย่อพระนามพระไครสต์พร้อมกางเขน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1156 เมื่อ 06 เม.ย. 14, 09:50
|
|
ผู้ร่วมในกลุ่มนี้ได้ตั้งคำปฏิญาณถือความความยากจนและพรหมจรรย์ เพื่อ "เข้าทำงานกับ โรงพยายาลและเผยแพร่ศาสนาที่กรุงเยรูซาเลม หรือเพื่อไปยังที่ใดๆ ที่พระสันตะปาปามึความประสงค์ จะส่งไปโดยไม่ทักท้วง"
จากหนังคุณภาพเรื่อง The Mission Jeremy Irons รับบทนักบวชเยซูอิตเดินทาง ไป Paraguay ในช่วงทศวรรษ 1750s เพื่อเผยแผ่คริสต์ศาสนา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1157 เมื่อ 06 เม.ย. 14, 09:56
|
|
กลุ่มนี้เรียกตนเองว่า กองกำลังพระเยซู(Company of Jesus) เพราะผู้เป็นสมาชิก มีความรู้สึกว่าที่มาพบปะกันได้ก็เป็นเพราะอำนาจของพระเยซู คำว่า กองกำลัง เป็นนัยมาจาก ศัพท์ที่ใช้ในการเรียกกองทหาร และยังแสดงถึงความเป็นสาวกหรือผู้ติดตามพระเยซู (คำว่า Company มาจากภาษาละติน cum และ pane ซึ่งแปลว่า “bread with” หรือผู้ที่กินอาหารด้วยกัน ต่อมาในปี ค.ศ. 1540 กลุ่มก่อตั้งเรียกตนเองว่า Society of Jesus คำว่า societas ในภาษาละตินมาจากคำว่า socius หรือ ผู้ร่วม หรือ สหาย) ในปีค.ศ. 1537 กลุ่มนี้ได้เดินทางไปประเทศอิตาลีเพื่อยึ่นคำขออนุมัติการตั้งคณะใหม่ต่อ พระสันตะปาปา และต่อมาสมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 3 ทรงอนุมัติ
พระสันตปาปา พอล ที่สามรับรองคณะแห่งพระเยซูเจ้า เมื่อวันที่ 27 กันยายน 1540 ภาพวาดโดยศิลปินไม่ปรากฏนามที่โบสถ์ Gesu, โรม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1158 เมื่อ 06 เม.ย. 14, 10:01
|
|
เมื่อครั้งเกิดการปฏิรูปแคธอลิค(Catholic Reformation) นั้น กระแสนี้ไม่ได้เป็นที่ สนใจในดูบรอฟนิค ที่นี่จึงไม่มีความต้องการคณะเยซูอิตซึ่งเป็นคณะปฏิรูปคู่เคียง(Counter- Reformation) แต่ในปี 1552 หนึ่งในคณะชุดแรกของท่านนักบุญก็ได้รับเชิญมาเทศน์ที่นี่ และหลังจากนั้นก็ยังมีสมาชิกท่านอื่นๆ รับเชิญมาในฐานะมิชชันรีและครู ครั้นเกิดเหตุการณ์ปราบกบฏต้านภาษีบนเกาะในแถบนี้เมื่อปี 1602 ที่มีนักบวชถูกสังหาร สองท่าน ทางการจึงต้องรับคณะเยซูอิตเข้ามาเพื่อแลกกับการยกเลิกคำสั่งลงโทษแบนของโป๊ป
พระสันตะปาปาฟรานซิส องค์ปัจจุบันชาวอาร์เจนตินา นอกจากจะทรงเป็นโป๊ปองค์ใหม่ที่ไม่ใช่ชาวยุโรป ในรอบเกือบ 1,300 ปี และเป็นชาวอเมริกาใต้คนแรกที่ได้รับตำแหน่งประมุขแห่งคริสตจักรนิกาย โรมันคาทอลิกแล้ว ยังเป็นโป๊ปพระองค์แรกที่มาจากการเป็นนักบวชของคณะเยซูอิทด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1159 เมื่อ 07 เม.ย. 14, 09:50
|
|
Staircase of the Jesuits(Scalinata) บันไดสไตล์บารอค ที่ขั้นบันไดโอบอยู่ ในโค้งวงกลมนี้ ออกแบบสร้างขึ้นในปี 1738 โดย Pietro Passalacqua ผู้ฝากผลงาน โบสถ์หลายแห่งในโรม ภาพบันไดช่วงบน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1160 เมื่อ 07 เม.ย. 14, 09:52
|
|
เมื่อแรกเห็นนักท่องเที่ยวอดนึกถึงบันไดสเปนในโรมซึ่งสร้างเมื่อหนึ่งทศวรรษก่อน ที่นี่ไม่ได้ แม้ว่าความกว้างใหญ่จะต่างกันโดยชัดเจน
ภาพบันไดไร้ผู้คนจากเน็ท
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1161 เมื่อ 07 เม.ย. 14, 09:54
|
|
บันไดในวันนี้ก็ได้รับการบูรณะหลังได้รับความเสียหายจากสงคราม
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1162 เมื่อ 07 เม.ย. 14, 09:56
|
|
กลุ่มอาคารบนเนินแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่ามีรูปลักษณ์แบบบารอคที่เหนือกว่า ที่อื่นใดในแดลเมเชีย
จากรูปจะเห็นส่วนด้านหน้าอาคารโบสถ์บารอคที่แบบบาง ครีบยันด้านข้างแบบเรียบง่าย และโบสถ์ข้าง เบื้องหน้าโบสถ์(ทางซ้ายมือในภาพ)คือวิทยาลัย Collegium Ragusinum
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1163 เมื่อ 07 เม.ย. 14, 09:59
|
|
เนื่องด้วยปัญหาความขัดแย้งหลายครั้งระหว่างครูชาวอิตาลีกับชาวเมือง ในปี 1555 ท่านบิชอป Beccadelli ได้ขอให้คณะเยซูอิตก่อตั้งวิทยาลัยขึ้น แต่คงเป็นเพียงแนวดำริยังไม่ เป็นรูปเป็นร่าง กระทั่งปี 1653 หลังจากได้รับเงินบริจาคจึงเริ่มวางแผนและดำเนินการสร้าง โบสถ์และวิทยาลัย แต่ก็ต้องสะดุดหยุดพักจากเหตุแผ่นดินไหว จนถึงปลายศตวรรษจึงได้เริ่ม โครงการต่อ
โบสถ์คณะแห่งพระเยซูเจ้า(Jesuit Society) นี้เป็นผลงานของจิตรกรและสถาปนิก ผู้เชี่ยวชาญแนวทางเยซูอิต Ignazio Pozzo สร้างขึ้นในช่วงปี 1669 - 1703 แล้วเสร็จ สมบูรณ์ในปี 1725
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1164 เมื่อ 07 เม.ย. 14, 10:00
|
|
ตามรูปแบบโบสถ์ Gesu ในโรม ซึ่งถือว่าเป็นโบสถ์แม่ของคณะแห่งพระเยซูเจ้า
โบสถ์ Gesu ต้นแบบโบสถ์เยซูอิต
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1165 เมื่อ 07 เม.ย. 14, 10:06
|
|
อาคารสไตล์บารอคนี้มีลักษณะคล้ายกับโบสถ์โรมันเยซูอิตในที่อื่นช่วงระหว่างศตวรรษ ที่ 17 - 18 ซึ่งสมาชิกของคณะที่เป็นสถาปนิกได้วางแบบแผนรังสรรค์สร้างโบสถ์สไตล์เยซูอิต ที่ฉายฉานความรุ่งโรจน์ของโบสถ์แคธอลิค แต่ก็ยังคงแนวทางสถาปัตยกรรมซึ่งเห็นได้ที่อาสน วิหารของดูบรอฟนิค(ที่ได้ชมไปแล้ว) ด้านหน้าโบสถ์แสดงลักษณะเฉพาะของแนวปฏิรูปคู่เคียง(Counter-Reformation) นั่นคือ รูปทรงโค้ง(bent forms), เสากลมและเสาอิงผนังรูปสี่เหลี่ยม(pilasters), หน้าจั่ว (pediments), งานปั้น(mouldings) และ บัวคอร์นิซในส่วนภายใน(cornices interior) - cornice คือส่วนประดับแนวนอนอยู่บนสุดของเสา, อาคารหรือเฟอร์นิเจอร์ หอระฆังของโบสถ์แขวนระฆังที่เก่าแก่ที่สุดในดูบรอฟนิค หล่อขึ้นในปี 1355
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1166 เมื่อ 07 เม.ย. 14, 10:12
|
|
พื้นที่ด้านหน้าโบสถ์คือจตุรัสหลักอีกแห่งหนึ่งของเมือง ซึ่งได้ชื่อตามหนึ่งใน ศิษย์เก่าของสถาบันแห่งนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1167 เมื่อ 07 เม.ย. 14, 10:14
|
|
Roger Joseph Boscovich(Rudjer Boskovic, 1711-1787) ผู้มีชื่อเสียงได้ รับการยอมรับว่าเป็นนักปรัชญาและนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโครเอเชีย อีกทั้งยังได้ รับการยกย่องในยุโรป
ภาพเหมือนผลงานของจิตรกรชาวอังกฤษ Robert Edge Pine
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1168 เมื่อ 08 เม.ย. 14, 09:50
|
|
เหนือประตูทางเข้าที่ขนาบด้วยเสาคอรินเธียน เป็นรูปสลักเทพพิทักษ์ชี้นิ้วลงมา ที่อักษร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1169 เมื่อ 08 เม.ย. 14, 09:51
|
|
IHS ซึ่งเป็น(อักษรย่อ) พระนามของพระไครสต์ ที่แรกเริ่มจากอักษรกรีก แล้วแปลงเป็นละตินในเวลาต่อมา ส่วนเหนืออักษร H เป็นรูปกางเขน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|