ผมมองว่าทั้งพุทธประวัติที่น่าเหลือเชื่อ รวมทั้งพระธรรมบางข้อนั้น ถูกเพิ่มเติมเข้ามาในระยะหลังครับ เหมือนอย่างที่คุณเทาชมพูกล่าวไว้ในท้ายความเห็นที่ ๒ ตามความคิดเห็นของผมการสังคายนาครั้งที่ ๑ น่าจะไม่มีข้อผิดพลาด ไม่มีการเพิ่มเติมหรือตกหล่น เนื่องจากพระสงฆ์ที่เข้าร่วมการสังคายนาได้ทันรับฟังพระประวัติ ตลอดจนพระธรรมจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้า ส่วนในการสังคายนาครั้งที่ ๒ นั้นถ้ามีวิธีการสังคายนาอย่างที่ท่านพระธรรมปิฎกกล่าวไว้ ก็น่าเชื่อถือได้ว่า จะไม่ผิดเพี้ยนไปจากการสังคายนาในครั้งที่ ๑ ส่วนการสังคายนาครั้งที่ ๓ เป็นต้นมานี่ผมไม่แน่ใจแล้วว่าจะมีส่วนใดเพิ่มเข้ามา ส่วนใดตกหล่นไปหรือไม่ เพราะจากที่อ่านข้อเขียนของนักวิชาการศาสนาหลายๆ ท่านก็มีความเห็นตรงกันว่า เริ่มมีการแต่งอรรถกถาเพิ่มเติมขึ้นมา อย่างในพระไตรปิฎกฉบับประชาชนที่สุชีพ ปุณยานุภาพ ได้รวบรวมไว้ ก็บอกไว้ว่าได้มีการแต่งเพิ่มเติมจากของเดิมแต่ขยายให้พิสดารออกไป (พิสดารในที่นี้ผมแปลว่าเพิ่มเติมเรื่องเหลือเชื่อต่างๆ เข้ามา จริงๆ แล้วเค้าอาจจะแปลว่าเพิ่มเติมขยายให้ละเอียดกว่าเดิมเพื่ออธิบายของเก่าให้จัดเจนยิ่งขึ้นก็ได้)
อ.เสถียรพงษ์ วรรณปกเองก็ได้กล่าวไว้ว่าสมัยสังคายนาครั้งที่ ๑ และครั้งที่ ๒ ก็ยังไม่มีพระไตรปิฎก แต่ได้มีการรวบพระพุทธวจนะออกเป็นหมวดๆ อยู่แล้ว ปิฎกเพิ่งจะมาครบ ๓ เมื่อมีสังคายนาครั้งที่ ๓ นี่เอง (พล.ต.เดช ตุลยวรรธนะ ก็บอกไว้สมัยก่อนมีแค่ ๒ ปิฎก คือ วินัยปิฎก และสุตตันตปิฎก ส่วนอธิธรรมปิฎกมาแต่งเพิ่มทีหลัง)ผมจึงมีความเชื่อโดยส่วนตัวว่าเรื่องต่างๆ ที่เป็นอิทธิปาฏิหาริย์ หรือ เรื่องเทวดา นรก สวรรค์ หรือเรื่องชาดกนี่ก็เพิ่มเข้ามาทีหลัง โดยเฉพาะเรื่องเทวดาต่างๆ เชื่อว่าเพิ่มขึ้นมาเพื่อให้ลัทธิพราหมณ์เข้ามามีส่วนในศาสนาพุทธ เพื่อต้องการให้กลมกลืนกับศาสนาพุทธพุทธแน่นอน ซี่งต่อมาก็ประสบผลสำเร็จจนขณะนี้พราหมณ์เขาถือว่าพระพุทธเจ้าเป็นปางอวตารที่ ๙ ของพระนารายณ์ไปแล้ว ทำให้พุทธในอินเดียเสื่อมลง จนปัจจุบันนี้มีคนนับถือศาสนาพุทธเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์
แต่เรื่องอิทธิปาฏิหาริย์นี่ก็แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละท่านครับ บางสิ่งก็เป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ยาก หรือพิสูจน์ไม่ได้ในทางวิทยาศาสตร์เหมือนที่คุณเทาชมพูว่าไว้ แต่อย่างน้อยๆ ก็ขอให้ได้ใช้หลักกาลามสูตรก่อน เมื่อพิจารณาแล้วเห็นควรเชื่อจึงเชื่อครับ
พอดีผมไปเจอบทความหนึ่ง เห็นว่าน่าสนใจดี เลยนำมาฝากครับ
http://www.geocities.com/dugdaemagazine/column2.htm