ความเป็นไปไม่ได้ในความเป็นไปได้
อย่างไรก็ตาม ตำนานศรีปราชญ์แม้จะเป็นเรื่องที่เป็นตำนานและก็ระบุชื่อผู้คนสถานที่ไว้มาก กระนั้นตำนานศรีปราชญ์ก็ยังมีช่องโหว่และความไม่สมจริงมากมายตามลำดับ คือ
1. ตำนานศรีปราชญ์กล่าวว่า ในราตรีกาลหนึ่งพระนารายณ์ทรงสำราญอยู่ด้วยกวีกีฬากับบรรดานักปราชญ์ราชกวี พระองค์ทรงพระราชนิพนธ์โคลงขึ้น 2 บทว่า
อันใดย้ำแก้มแม่ หมองหมาย
ยุงเหลือบฤๅริ้นพราย ลอบย้ำ
ทรงแต่งค้างไว้แค่นี้ แล้วโปรดให้พระยาโหราธิบดี ไปแต่งต่อให้จบ เมื่อพระยาโหราธิบดีมาถึงบ้านคิดเท่าไรก็คิดไม่ออก จึงเอากระดานที่มีพระราชนิพนธ์ค้างวางไว้ จนถึงเลาเช้า ก็ออกไปรับประทานอาหาร กลับมาก็พบโคลงต่อจนครบบท ว่า
ผิวคนแต่จะกราย ยังยาก
ใครจะอาจให้ช้ำ ชอกเนื้อเรียมสงวน
ครั้งถึงเวลาเข้าเฝ้าจึงนำขึ้นทูลถวาย พระนารายณ์ทอดพระเนตรทรงสงสัยตรัสถามว่าใครแต่ง เพราะดูหนุ่มกว่าวัยพระโหราธิบดี เมื่อทรงทราบว่าลูกพระโหราธิบดีอายุ 9 ขวบ (บางฉบับบางรายว่า 12 ขวบ) เป็นคนแต่งก็ทรงไม่เชื่อว่าเด็กอายุ 9 ขวบ จะแต่งได้...
โดยธรรมดาของกวีย่อมมีนิสัยอย่างหนึ่งคือทิฐิแรงกล้า ยิ่งพระนารายณ์ทรงเป็นถึงพระมหากษัตริย์ยิ่งทรงมีขัตติยะมานะสูงส่งไฉนพระองค์จึงนำโคลงที่ค้างไว้ให้ผู้อื่นแต่งต่อและทำไมไม่ทรงให้กวีอื่นที่มีฝีมือสูงส่งเช่น พระศรีมโหสถ ผู้แต่งโคลงเฉลิมพระเกียรติ กาพย์ห่อโคลง โคลงอักษรสามหมู่หรือพระมหาราชครูผู้แต่งฉันท์สมุทรโฆษตอนต้น – เสือโคคำฉันท์ ในด้านกวีนิพนธ์พระโหราธิบดีไม่ค่อยปรากฏผลงานนอกจากราวบรวมตำราจินดามณีและคาดว่ามีพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา (ฉบับหลวงประเสริฐฯ) อีกชิ้นหนึ่งทั้งองศ์พระนารายณ์เองก็ทรงมีพระราชนิพนธ์โคลงทางสุภาษิตไว้คือ ราชสวัสดิ์ (63 บท) พาลีสอนน้อง (32 บท) และทศรสสอนพระราม (12 บท ) และในปีที่พระองค์ทรงแต่งโคลงค้างไว้คือปี 2205 ทรงมีพระชนมายุ 30 พรรษา ซึ่งกำลังอยู่ในวัยฉกรรจ์ของวัยหนุ่ม ซึ่งนัยนี้แล้ว งานเพียงแต่งโคลงให้จบบทคงไม่เหลือพระกำลังที่จะทรงแต่ง และยิ่งถ้าศรีปราชญ์เมื่ออายุ 9 ขวบ แต่งจบได้และเชื่อมความสนิทแล้ว งานของศรีปราชญ์ในระยะต่อมาน่าจะมีมากกว่า 2 เล่ม คือ กำสรวลและอนิรุทธ์คำฉันท์ (ตามความเชื่อดั้งเดิม) เพราะนี่คือผลแสดงความเป็นมหากวีอย่างยิ่งเท่าที่กวีไทยจะมีมาในประวัติศาสตร์
2. ในปี พ.ศ.2208 พระนารายณ์โปรดให้สร้างเมืองลพบุรีเป็นราชธานีที่ 2 เพราะทรงเล็งเห็นว่ากรุงศรีอยุธยาอยู่ใกล้ปากอ่าว ง่ายต่อการถูกปิดล้อมและถูกบุกรุกจากต่างชาติ เพราะรัชสมัยนี้มีชาวต่างประเทศ เช่น อังกฤษ, ฝรั่งเศส, ฮอลันดา ฯลฯ มาติต่อทางด้านการค้าขาย, ศาสนาและพยายามล่าอาณานิคมด้วย...อังกฤษและฮอลันดาถึงกับวางอำนาจเอาเรือรบมาปิดอ่าวไทย จนพระนารายณ์ถึงกับต้องยอมแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการเซ็นต์สัญญาทางการค้ากับฮอลันดา ซึ่งเป็นการเสียเปรียบอย่างมาก การสร้างลพบุรีเป็นราชธานี ก็เป็นพระราชกุศลอย่างหนึ่งเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกปิดล้อมอ่าวโจมตีอีก
สมเด็จพระนารายณ์โปรดประทับที่พระราชวังลพบุรีมาก เสด็จแปรพระราชฐานไปประทับเป็นประจำราวปีละ 8 – 9 เดือน คงเสด็จมาประทับ ณ กรุงศรีอยุธยาปีละ 3 – 4 เดือน หรือเฉพาะในเวลามีงานพระราชพิธีเท่านั้น