เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 15 16 [17] 18 19 ... 23
  พิมพ์  
อ่าน: 130148 คนเขียนเพลง
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 240  เมื่อ 06 พ.ย. 08, 10:53

อันว่าสิ่งเสพติดนั้น ไม่มีอะไรดี คนรุ่นใหม่เขาไม่ทำกัน คนรุ่นเก่าๆเขาก็เฝ้าเพียรบอก ว่าเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปตอนนั้น และไม่ใช่ว่างานดีๆจะเกิดจากสิ่งเสพติดเสมอไป เอริค ก็ทำงานได้ดี เมื่อตัดขาดได้ แม้จนวันนี้ ยังมีดารา นักร้อง จบชีวิตไปแบบไม่รู้สาเหตุก็เพราะใช้ยาเกินขนาด น่าเสียดาย
จิม มอริสันเป็นคนหนึ่งละ
อย่างไรก็ตาม ได้ยินชื่อเพลง โคเคนครั้งแรก ดิฉันสะดุ้งนิดๆ
อื้อหือ กล้าตั้งชื่อชัดขนาดนั้นเชียวหรือ
เพลงนี้ไม่ใช่เอริคแต่งค่ะ แต่เป็นนักดนตรีรุ่นพี่ชาวอเมริกันที่แต่งไว้ เขาชื่อ เจเจ คาล หรือชื่อเต็มว่า ฌอง ชาค คาล
เอริคนั้นชอบไปสุงสิงกับเจเจคาล เมื่อเริ่มร้องเพลงใหม่ๆ ก็หยิบเพลงโคเคนและ หลังเที่ยงคืน ของคาลมาเล่นจนดัง
เขาหวนกลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้ง ในอัลบั้ม“THE ROAD TO ESCONDIDO”
เอริคบอกว่า
"This was the realization of what may have been my last ambition, to work with the man who's music has inspired me for as long as I can remember, there are not enough words for me to describe what he represents to me, musically and personally, and anyway I wouldn't want to embarrass him by going overboard, for he is a truly humble man.....I think it's enough to say that we had fun, made a great record, and I for one already want to make another,"


บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 241  เมื่อ 06 พ.ย. 08, 11:14

ย้ายฟากไปอเมริกาบ้าง จิม มอริสัน ตำนานร็อคของอเมริกัน เจ้าของหน้าตาหล่อลึก(ไม่ใช่หล่อเล็ก) นอกจากเพลงlight my fireที่ใครต่อใครเอามาร้องกันมากมาย ยังมี hello I love you และอีกหลายเพลง
เพลงนี้ค่ะ คนที่เป็นแฟนคนเขียนเพลง ขอให้เขียนถึงหน่อย
ดิฉันก็ไม่รู้อะไรมากมาย นอกจากเมื่อช่วงที่เครื่องเสียงแข่งกันขายโฮมเธียเตอร์ สิบกว่าปีก่อนนั้น เราทำโฆษณาให้ kenwood แล้วเลือกเพลงนี้มาทำหนัง แต่ไม่สะใจเล้ย ลูกค้าไม่มีงบมากพอ โธ่ หลอกให้เราคิดเกือบตาย
เปิดเพลงขึ้นมาด้วยเสียงฝนตก เสียงดนตรี และพายุกระหน่ำ สมัยนั้น เขาไม่ได้เล่นเอ็ฟเฝ็คเพียบอย่างสมัยนี้หรอกนะคะ
เพลง riders on the storm ค่ะ

เพลงสุดท้ายของจิม มอริสัน
ที่แทรกเรื่องราวของฆาตกรโหดนักโบกรถ บิลลี่ คุก
 


บันทึกการเข้า
Bana
องคต
*****
ตอบ: 439



ความคิดเห็นที่ 242  เมื่อ 07 พ.ย. 08, 00:54

ไม่นึกว่าคุณกุ้งจะชอบศิลปินสไตล์นี้ด้วย  จิมศิลปินขี้เมาและเดอะดอร์ส  ครับนักดนตรียุคนี้เป็นระบบฝีมือล้วนๆ  ไม่มีเทคนิคอื่นๆมาช่วยในเรื่องเอฟเฟค  อย่างจิมมี่ เฮนดริก หรือ เจฟ เบค นี่ก็จะใช้กีตาร์ทำเลยครับ  แต่หาการแสดงสดของรุ่นนี้ยากมาก

เพลงของจิม  เหมือนคนบ่นหรือรำพึง  เนื้อหาแฝงปรัชญายากที่ผมจะแปล  อย่างเพลงนี้ครับ ชื่อ The end คนชอบสไตล์นี้จริงๆถึงชอบฟังครับ  แต่พรรคพวกส่วนมากของผมไม่ค่อยชอบ  แต่ผมฟังได้เรื่อยๆครับ......... แลบลิ้น


The Doors
The End

This is the end
Beautiful friend
This is the end
My only friend, the end

Of our elaborate plans, the end
Of everything that stands, the end
No safety or surprise, the end
I'll never look into your eyes...again

Can you picture what will be
So limitless and free
Desperately in need...of some...stranger's hand
In a...desperate land

Lost in a Roman...wilderness of pain
And all the children are insane
All the children are insane
Waiting for the summer rain, yeah

There's danger on the edge of town
Ride the King's highway, baby
Weird scenes inside the gold mine
Ride the highway west, baby

Ride the snake, ride the snake
To the lake, the ancient lake, baby
The snake is long, seven miles
Ride the snake...he's old, and his skin is cold

The west is the best
The west is the best
Get here, and we'll do the rest
 
The blue bus is callin' us
The blue bus is callin' us
Driver, where you taken' us

The killer awoke before dawn, he put his boots on
He took a face from the ancient gallery
And he walked on down the hall
He went into the room where his sister lived, and...then he
Paid a visit to his brother, and then he
He walked on down the hall, and
And he came to a door...and he looked inside
Father, yes son, I want to kill you
Mother...I want to...fuck you

C'mon baby, take a chance with us
C'mon baby, take a chance with us
C'mon baby, take a chance with us
And meet me at the back of the blue bus
Doin' a blue rock
On a blue bus
Doin' a blue rock
C'mon, yeah
Kill, kill, kill, kill, kill, kill
This is the end
Beautiful friend
This is the end
My only friend, the end
It hurts to set you free
But you'll never follow me
The end of laughter and soft lies
The end of nights we tried to die
This is the end


บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 243  เมื่อ 08 พ.ย. 08, 01:25



Riders on the storm
Riders on the storm
Into this house were born
Into this world were thrown
Like a dog without a bone
An actor out alone
Riders on the storm

ท่ามกลางพายุฝนฟ้าคะนอง
คนขับรถทั้งหลาย
ที่กำเนิดมาในบ้านหลังนี้
เหวี่ยงร่อนไปมาในโลกใบนี้
ฉวัดเฉวียนเหมือนสุนัขไร้กระดูก
โดดเดี่ยว เหมือนเล่นโชว์เดี่ยว
เผชิญเส้นทางท่ามกลางพายุ

There's a killer on the road
His brain is squirmin like a toad
Take a long holiday
Let your children play
If ya give this man a ride
Sweet memory will die
Killer on the road, yeah
มีฆาตกรบนถนน
หัวสมองเต้นกระตุกเหมือนหนังคางคก
รอเวลาวันหยุดยาว
ที่เหยื่อพาเด็กๆไปเที่ยว
ถ้าคุณเผลอรับชายคนนี้ขึ้นมา
อดีตอันแสนหวานจะดับดิ้น
ด้วยฝีมือไอ้ฆาตกรบนถนนนั่น


Girl ya gotta love your man
Girl ya gotta love your man
Take him by the hand
Make him understand
The world on you depends
Our life will never end
Gotta love your man, yeah
สาวๆเอ๊ย จงรักสุภาพบุรุษของคุณ
ดูแลเขาให้ดี
ทำให้เขาเข้าใจ
โลกนี้ขึ้นอยู่กับคุณ
แล้วชีวิตของเราจะไม่มีวันสูญสิ้น
รักเขาให้มากนะ สาวเอย


บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 244  เมื่อ 09 พ.ย. 08, 08:01

มีเกร็ดที่น่าสนใจจากเพลงนี้ค่ะ คุณบานา
เนื้อหาของเพลงถือกันว่า จิม ได้รับอิทธิพลจากฆาตกรนักโบก ที่เป็นอดีตคนคุก หลุดออกมา แล้วทำทีเป็นโบกรถ พอครอบครัวหนึ่งรับ ก็จัดการฆ่าหมู่ทั้งพ่อ แม่ เด็กรวมห้าศพ เป็นเรื่องราวใหญ่โต และไม่ใช่แค่กรณีเดียว
ยังมีอีก จนถูกจับได้และรับโทษประหารชีวิตด้วยการรมแกสไปในที่สุด นักวิจารณ์ว่าติดคุกตลอดชีวิตยังน้อยไป
แต่มีอีกหลายคนเล่าว่า เป็นสัญลักษณ์ของตัวจิม ที่เปรียบตัวเขาเองเป็นนักซิ่งท่ามกลางพายุ ซึ่งเหมือนอยู่ระหว่างชีวิตกับความตาย เขียนเพื่อคนรักของเขาที่ชื่อแพมเมล่า
แพมเมล่าคือสาวที่อยู่กับเขาวันที่เสียชีวิตที่ปารีส นัยว่า เสพยาเกินขนาด แล้วบ่นว่าร้อนมาก อยากอาบน้ำ เลยตายในอ่างน้ำ
แพมเมล่าเสียชีวิตในอีกสามปีต่อมา
บางคนก็เล่าว่า สมัยที่จิมเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งรัฐฟลอริดา แล้วต้องโบกรถไปหาคนรักเสมอๆ เผชิญความเหงา มืด ภัยบนถนนต่างๆนานา
ray manzarek หนึ่งในเดอะ ดอร์ส์ เป็นมือเปียโนไฟฟ้าที่ทำเสียงฝนด้วยเปียโนของเขา
ทำได้บรรยากาศดีมากเลยค่ะ
robby kreiger สมาชิกหนึ่งของวง เล่าว่าจิมได้แรงบันดาลใจมากจากเพลง "(Ghost) Riders in the Sky: A Cowboy Legend"
อีกเรื่องหนึ่งก็คือ อิทธิพลจากอุบัติเหตุซึ่งถือเป็นโศกนาฏกรรมหนึ่งที่คนขับรถเร็วไร้าเหตุได้ชนรถบรรทุกของชาวพื้นเมืองเผ่านาวาโฮ เสียชีวิตทั้งคัน เตือนพวกขับรถที่ใช้ความเร็วสูงทั้งหลาย

การวางโครงของชื่อและคำร้อง จิมได้แรงบันดาลใจจากกวีชาวฝรั่งเศสชื่อ ลวี อารากง ชื่อ riders of the hurricane


บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 245  เมื่อ 10 พ.ย. 08, 11:26

มีอีกเรื่องเล่าว่า สมัยจิม มอริสันยังเด็ก เขาตามพ่อแม่ไปเที่ยว ขณะที่ผ่านอุบัติเหตุบนท้องถนน ที่รัฐนิวเม็กซิโก จิมได้รับแรงสั่นสะเทือนจากอุบัติเหตุครั้งนั้นมาในมโนสำนึก ว่ากันว่าเป็นรถชนรถบรรทุกชาวพื้นเมืองอเมริกัน คนมุงกันฟังไม่ได้ศัพท์ ภาพของสีแดง และร่างกายคนเกลื่อนกลาดติดมาในตัวเขาได้อย่างไรไม่ทราบ จิมเองเหมือนรับรู้ถึงวิญญาณใครสักคนหนึ่งที่ร่อนเร่อยู่ตรงนั้น หลอกหลอน ทำให้เขาเขียนถึง riders on the storm ขึ้นมา
ตอนที่เรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยยูซีแอลเอ เขาพบกับเรย์ และรอนนี่ ทั้งคู่เก่งมาก เรย์เป็นมือเปียโนไฟฟ้าของเพลงนี้ และรอนนี่ ก็เล่นกีตาร์ ฟังเพลงนี้ซึ่งยาวถึง 7 นาที คุณจะได้เสพรสชาติของดนตรี อย่างไม่เบื่อหน่าย เต็มเหยียด
ตอนที่ทำเพลง โพรดิวเซอร์เจ้าประจำบ่นว่า ทำทำไม ตั้งเจ็ดนาที ดีเจไหนมันจะยอมเปิดให้
แต่จิมไม่สน ไม่ทำ ก็เปลี่ยนโพรดิวเซอร์ได้
เพลงนี้จึงเป็นเพลงไม่กี่เพลงที่คงความยาวเอาไว้ จนกระทั่งมีเสียงเรียกร้องว่า ช่วยทำเวอร์ชั่นสั้นมาหน่อยได้ไหม จะได้เปิดแผ่นได้
แต่ยังไงก็ตามผู้ฟังก็ตามขอฟังเวอร์ชั่นเต็มกันค่ะ เพราะได้อรรถรสทางดนตรี ทั้งจากเสียงน้ำ เสียงฝน เสียงพายุ และการโซโลที่สุดยอด
รอนนี่ขึ้นระดับครูก็จากเพลงนี้
...
หลายคนกล่าวขวัญถึงฝีมือกวีของจิมว่า ถ้ายัยแพมเมลาแกไม่คอยหยิบยื่นยาเสพติดต่างๆนานาให้จิม ป่านนี้ เราอาจะยังได้ฟังเพลงดีๆของเขามากกว่านี้ก็ได้ เรื่องของเรื่องมันทั้งซับซ้อนซ่อนปม จิมเองเคยพูดเปรยๆว่า ผมเป็นหมายเลขสาม
ให้ตีความกันว่า การตายของเขานั้น เช่นเดียวกับจิมมี่ เฮนดริกซ์ และเจนิส จัปลิน ..นั้น เพราะทั้งคู่เป็นแอคทิวิสต์ ในยุคที่การระบายสีคอมมิวนิสต์ของรัฐบาลอเมริกันเฟื่องฟู เพราะยุคนั้น มีความพยายามที่จะกำจัดใครก็ได้ที่มีอิทธิพลกับมวลชนในด้านความคิดต่อต้านสงคราม
แต่จริงๆแล้ว สาเหตุที่แท้จริง ดูเหมือนจะเป็นเพราะเสพยาเสพติดเกินขนาดกันเสียทั้งนั้น
คนก็เลยไม่ค่อยแยแสกัน
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 246  เมื่อ 10 พ.ย. 08, 11:38

กลับไปที่จอร์จ กับเอริคค่ะ
เพลง while my guitar gently weeps เป็นอีกเพลงที่จอร์จ แฮริสัน แต่งขึ้น จอร์จมักจะโดนจอห์น เลนนอน เพื่อนร่วมวงที่อีโก้จัด แซวอยู่เสมอ เพลงนี้เมื่อทำเดมโมเสร็จ จอห์นได้ฟังก็อึ้ง แต่ไม่วายปากเสีย ไม่ชอบ ไม่ชื่นชมอีกน่ะแหละ
แต่พอลไม่ใช่อย่างนั้น พอลเล่นคีย์บอร์ดให้เลย
แต่ความเด่นของเพลงต้องเป็นกีตาร์ ก็ชื่อมันก็บอกโทนโท่อยู่แล้วนี่คะ ว่าเมื่อกีตาร์ของฉัน ร้องไห้ อย่างนิ่มๆ
จอร์จแต่งไป ก็รู้ว่า คนที่จะเล่นกีตาร์สำเนียงนี้ได้สำหรับเขาแล้วคือเอริค แคลปตันเท่านั้น
ไปชวนเอริคมาเล่นดีกว่า
ครีเอทีฟก็งี้ค่ะ เขียนสป็อตเสร็จ ก็รู้ว่า ฟิลลิ่งแบบนี้ จะให้ใครอ่าน ขืนยัดเยียดเสียงตัวเอง คงไม่ได้
และบางที เมื่อเราทำเพลง แล้วต้องทั้งร้อง ทั้งเล่นไปด้วย มันต้องแยกประสาท ทำให้สมบูรณ์ทั้งสองอย่าง บางครั้ง มันก็ทำไม่ได้ ยังไม่เก่งพอ
จอร์จเลยไปเอาเอริคมาเล่น
เอริคเต็มใจสุดๆ ออกเงิน เดินไปซื้อกีตาร์ใหม่ตัวหนึ่ง เข้าสตูดิโอมาเล่น เล่นเสร็จ ยกให้เพื่อน คือจอร์จเลย
ป่านนี้ กีตาร์ตัวประวัติศาสตร์นั้น ถูกอีหยิบ หายไปเรียบร้อย...


บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 247  เมื่อ 10 พ.ย. 08, 13:59



WHILE MY GUITAR GENTLY WEEPS
written by George Harrison

ฉันมองเธอ สิ่งที่เห็น เป็นเพียงความรักที่หลับไหลอยู่
ในขณะที่กีตาร์ฉันร่ำไห้อย่างแผ่วเบา
ฉันมองพื้น ก็รู้ว่าถึงเวลาต้องปัดกวาดเสียที
ถึงกระนั้น กีตาร์ของฉันก็ยังคร่ำครวญ
ไม่รู้เลยว่า ทำไมไม่มีใครบอกเธอถึงวิธีเผยความรัก
ไม่รู้เลยว่า มีคนควบคุมเธออยู่ได้อย่างไร
พวกเขาทั้งซื้อ และขายเธอแล้ว

I look at you all see the love there that's sleeping
While my guitar gently weeps
I look at the floor and I see it needs sweeping
Still my guitar gently weeps
I don't know why nobody told you how to unfold your love
I don't know how someone controlled you
They bought and sold you.

ฉันเฝ้ามองโลก และเริ่มรู้สึกว่ามันกำลังหมุน
ขณะที่กีตาร์ของฉันร่ำไห้อย่างนุ่มนวล
ทุกความผิดที่ฉันทำ ฉันกำลังเรียนรู้มัน
แม้แต่กีตาร์ก็ยังร้องไห้
ฉันไม่รู้ว่า เธอเบี่ยงเบนไปได้อย่างไร
เธอหลงผิดด้วยนะ
ฉันไม่รู้ว่าเธฮแปรเปลี่ยนไปได้อย่างไร
ไม่มีใครเตือนเธออีกแล้ว

I look at the world and I notice its turning
While my guitar gently weeps
With every mistake we must surely be learning
Still my guitar gently weeps
I dont know how you were diverted
You were perverted too
I dont know how you were inverted
No one alerted you.

เมื่อเข้าสู่วัยกลางคน เอริคมายืนเล่นกีตาร์ให้กับความหลังฝังใจในเพลงนี้ของจอร์จ ความหลังมันฝังอยู่ในอดีต ไม่ว่าจอร์จจะให้สัมภาษณ์ว่าเขาได้แรงบันดาลใจมาจากไหน ดิฉันก็คิดว่า มันน่าจะเป็นความตึงเครียดระหว่างเขากับแพทตี้นั่นแหละ จะรู้หรือไม่ไม่มีใครบอกได้ว่า ตอนนั้น เขาค้นพบรักอำพรางของเอริคหรือยัง




บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 248  เมื่อ 10 พ.ย. 08, 15:26

เอริค เป็นเพื่อนรักที่ถูกอัธยาศัยกับจอร์จ เอริคเคยให้สัมภาษณ์หนังสือผู้ชาย เอสไควร์เรื่อง " What I 've learned"
สิ่งที่เขาเสียใจที่สุดในชีวิต มีหลายเรื่อง รวมถึงเข้าไปล่วงล้ำชีวิตแต่งงานของจอร์จ แฮริสัน

I have regrets, obviously. Countless. One of the great regrets was getting involved with George Harrison’s marriage. What is that fabulous song that Dylan plays? “Don’t go mistaking paradise for that home across the road.” I don’t know what inspired that song, but my experience is exactly what it’s about.


บันทึกการเข้า
Bana
องคต
*****
ตอบ: 439



ความคิดเห็นที่ 249  เมื่อ 10 พ.ย. 08, 22:54

อิอิ.....มัวแต่เกี่ยวข้าวไม่ได้เข้ามาซะนาน  เนื้อหาคุณกุ้งเพียบเลย  เพลงกีตาร์สะอื้น(สำนวนผมเอง)เป็นเพลงที่คนชอบจอร์จต้องชอบเพลงนี้ด้วย  แน่นอนครับซาวน์ดโดยรวมไม่มีสำเนียงของบีทเทิ้ลเลย  นอกจากเสียงร้อง  หลายเพลงของจอร์จทำให้ผมทึ่งในความสามารถของบีทเทิ้ล  เพราะทุกคนในวงมีความสามารถจริงๆและมีความแตกต่างกันมากด้วย  แต่เข้าก็มารวมกันสร้างตำนานระบือโลกได้ลงตัว

จิม , จิมมี่ หรือศิลปินอื่นๆเป็นไอดอลในด้านฝีมือและก็ยังเป็นตัวอย่างเรื่องยาเสพติดด้วย  คนรุ่นหลังที่ต้องมาเสียผู้เสียคนกับยาก็เยอะ  เพราะหลงใหลทั้งเสียงเพลงและเอาอย่างทั้งการเสพยา  ซึ่งน่าเสียดายจริงๆ  ส่วนเรื่องของแพทตี้  ได้แต่ปลงครับ  ไม่รู้จะโทษใครเพราะพอกันทั้งสามคน(แต่คุณแพทตี้ก็สวยเซ็กซี่ระเบิดจริงๆ) ..........อิอิ

มีเพลงนึงของจอร์จผมชอบฟังและชอบเล่นกีตาร์  ชื่อเพลง dark sweet lady คงไม่ได้แต่งให้แพทตี้อีกนะครับ


: Dark Sweet Lady
George Harrison
 
My dark sweet lady
You really got to me
You gave me everything
I've really fallen.

You came and helped me through
When I'd let go
You came from out the blue
Never have known what I'd done without you.

My dark sweet lady
Your heart so close to mine
You shine so heavenly . . . and
I love you dearly.
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 250  เมื่อ 11 พ.ย. 08, 09:54



เป็นมิวสิควิดีโอเพลง something ค่ะ
จะเห็นตัวละครสำคัญทั้ง 8 ของวงสี่เต่าทองได้อย่างดี ตั้งแต่แพทตี้ จอร์จ ริงโก้ มอรีน จอห์น โยโกะ พอล และลินดา
เขาว่ากันว่า บรรดาผู้ชายทั้งหลาย ยังคงเป็นเพื่อนกันได้ ตราบใดที่ไม่เอาบรรดาภรรยาทั้งหลายเข้ามายุ่ง สำหรับกรณีของบีทเติ้ลส์ คนที่ทำให้วงเริ่มแตกสามัคคี ก็คือโยโกะ โอโน ลำพังสูญเสียไบรอัน เอปสตีนไป วงก็เซ็งๆอยู่แล้ว แต่ก็พอประคับประคองกันไปได้
แต่พอสาวตาดำ ผมดำ ท่าเซอร์ก้าวล่วงเข้ามา ความหลงตัวเองของจอห์นก็เลยเป็นสิ่งที่เพื่อนๆทั้งหลายรับไม่ได้
แตกกันไป..
ตอนนั้น รักทำให้ตาบอด
จอห์นไม่แคร์ เพราะโลกของเขา คือโยโกะเท่านั้น

(เกี่ยวข้าวเพลิน ข้าวนาปี หรือข้าว 90 วันคะคุณบานา)


บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 251  เมื่อ 11 พ.ย. 08, 10:11



ส่วนวิดิโอนี้ อุทิศให้กับจอร์จ มีรูปภรรยาคนสุดท้ายที่ชื่อ ออลิเวีย ทรินิแดด อารีอาส ซึ่งมีทายาทร่วมกับเขาชื่อธานี ก่อนการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งของจอร์จด้วย เรื่องของจอร์จไม่ได้จบเศร้าเท่าจอห์นค่ะ แต่ก็เกือบตาย เพราะโดนชายโรคจิตบุกเข้าบ้านจ้วงแทงหน้าอก อาการสาหัสอยู่เหมือนกัน


ส่วนเพลงนี้คือ I need you ดูภาพแล้วนึกถึงชีวิตวัยรุ่นช่วงนั้น ถ้าไม่ยุ่งกับยาเสพติดได้ นับว่าเป็นเรื่องดีที่สุด


เมื่อจอร์จจากไป ครั้งหนึ่งที่เอริค พอล ริงโก้ และธานี ร่วมกันเล่นเพลง while my guitar gently weeps ให้กับผู้เขียนเพลงซึ่งอาจจะฟังอยู่ในอีกมิติหนึ่ง

คุณบานาพูดถึงมือกีตาร์ระดับเทพที่ชื่อ จิมี่ เฮนดริกซ์
ดิฉันนึกถึงเพลงของเขา Little wing ค่ะ


บันทึกการเข้า
Bana
องคต
*****
ตอบ: 439



ความคิดเห็นที่ 252  เมื่อ 12 พ.ย. 08, 02:10

นั่นล่ะครับความแตกต่างของพวกเขาทั้ง 4 คน  ที่แสดงออกมาในเรื่องรสนิยมเกี่ยวกับคู่ครอง  สาวๆของเขาจะต่างสไตล์กันลิบลับ  ในกระบวนทั้ง 4 คนคนที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับยาน้อยที่สุดเห็นจะเป็นริงโก้  ยังมีเพลงที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ของเขาด้วยชื่อเพลง no no song  เป็นเพลงที่พอฟังได้  แต่ไม่ทราบว่าเพลงนี้ดงหรือเปล่า  และที่เมืองไทยเป็นที่รู้จักกันไม๊ครับ  แต่ยังไง 4 หนุ่มจากลิเวอร์พูลก็เป็นอมตะนิรันดร์กาลที่คงไม่มีใครจะเทียบได้  และวันนี้เขาก็ได้รับรางวัล เวิร์ลมิวสิคอวอร์ด  ในฐานะเพลงที่ขายดีตลอดกาล  ผมแม้จะไม่ใช่แฟนบีทเทิ้ลตัวยงเหมือนคุณพ่อ  แต่จากประวัติและผลงาน(ไม่นับชีวิตและนิสัยส่วนตัว)  ต้องยอมรับล่ะครับว่าเขายอดจริงๆ  เพลงบี้ทเทิ้ลถ้าถามว่าชอบเพลงไหนที่สุด  เพลง I will ครับ  แม้ส่วนตัวผมมันยุค cold play แต่ก็ฟังได้ทุกศิลปินโดยไม่เคยรังเกียจว่าเป็นเพลงประเภทไหนเก่าหรือใหม่

ขอบคุณมากครับสำหรับเพลงที่คุณกุ้งนำมาผาก  ผมชอบ I need you ที่สุด  เพลงนี้ดีจริงๆ

         NO no song
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 253  เมื่อ 12 พ.ย. 08, 15:37

I NEED YOU
Lyrics:George Harrison

You don't realize how much I need you
Love you all the time and never leave you
Please come on back to me
I'm lonely as can be
I need you

Said you had a thing or two to tell me
How was I to know you would upset me
I didn't realize
As I looked in you eyes
You told me

Oh, yes you told me
you don't want my lovin' anymore
That's when it hurt me
And feeling like this
I just can't go on anymore

Please remember how I feel about you
I could never really live without you
So come on back and see
Just what you mean to me
I need you

Oh, yes you told me
you don't want my lovin' anymore
That's when it hurt me
And feeling like this
I just can't go on anymore

Please remember how I feel about you
I could never really live without you
So come on back and see
Just what you mean to me
I need you
I need you
I need you


บันทึกการเข้า
Bana
องคต
*****
ตอบ: 439



ความคิดเห็นที่ 254  เมื่อ 14 พ.ย. 08, 00:55

ยอมรับว่าหายากสุดๆ  สำหรับการแสดงของ จิมิ  โดยเฉพาะ 2 เพลงที่ผมชอบ hey joe กับ little wing  สิ่งที่ผมอิจฉาคุณกุ้งที่สุดก็คือได้ทันร่วมสมัยกับสุดยอดศิลปินหลายท่าน ......... ลังเล

Little wing
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 15 16 [17] 18 19 ... 23
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.075 วินาที กับ 19 คำสั่ง