คิดแบบเอาใจช่วยชาวบ้านว่า สมัยนั้นป่ามีมากกว่าหมู่บ้านหลายสิบเท่า แม่น้ำลำธารและน้ำตกมีเพียบ ไซยาไนด์ไหลปนไปกับน้ำแรงจนอาจไม่เป็นอันตรายกับชาวบ้านที่ปลูกบ้านอยู่ริมลำธารห้วยหนองคลองละหาน
คิดอีกทางคือ ถึงตายกันไปบ้างก็ไม่มีใครสืบเสาะหาหลักฐานได้อยู่ดี ว่าลุงหรือพี่คนนี้ไปวักน้ำกินอยู่ดีๆทำไมล้มตายลงในพริบตาเดียว
มันไม่พริบตาน่ะซีครับ เพราะความที่มันเจือจางอย่างว่า แต่สารพิษที่เข้าไปในร่างกายจะไม่ถูกขับถ่ายออกไปได้โดยง่าย แต่จะเป็นพิษต่ออวัยวะภายในต่างๆ
ข้างล่างเป็นข้อมูลจากระโยงนี้ครับ
http://www.komchadluek.net/detail/20150123/199909.html........จากผลการสุ่มตรวจสารโลหะหนักในเลือดของประชาชนกว่า 600 คน ในพื้นที่ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตรพบว่า กว่า 200 ตัวอย่างหรือคิดเป็นร้อยละ 30 มีสารโลหะหนักในเลือด มีรหัสพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอบางส่วนหายไป หากเป็นส่วนโครโมโซมที่ควบคุมการเกิดมะเร็งและยังได้รับสารดังกล่าวอย่างต่อเนื่องยาวนานทั้งจากอาหาร อากาศ น้ำดื่มและจากห่วงโช่อาหารทุกชนิดที่เข้าสู่ร่างกาย ก็จะมีผลให้ป่วยเป็นมะเร็งได้ทั้งสิ้น สารโลหะหนักที่เป็นตัวร้ายของงานนี้คือ สารหนู แมงกานีส โดยเฉพาะสารหนู เพราะสารหนูถูกจัดเป็นสารก่อมะเร็งประเภทที่ 1 คือมีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ มี 2 รูปแบบ คือสารหนูอินทรีย์และสารหนูอนินทรีย์ สารหนูอินทรีย์จะผ่านเข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็วและไม่ค่อยเป็นอันตราย แต่สารหนูอนินทรีย์มีอันตรายมากกว่า ถ้าได้รับในปริมาณมากจะมีอาการพิษเฉียบพลันคือ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง กล้ามเนื้อเกร็งและเสียชีวิตจากหัวใจล้มเหลว แต่ถ้าได้รับในปริมาณน้อยค่อยๆ สะสม จะมีอาการเรื้อรัง เช่น ผิวหนังเปลี่ยนสีเป็นจุดสีน้ำตาลกระดำกระด่าง มีตุ่มตามฝ่ามือฝ่าเท้า มีปัญหาทางระบบหลอดเลือด ระบบประสาท ระบบเลือด อวัยวะเป้าหมายที่สารหนูกระจายไปสะสมคือ เส้นผม ขน เล็บและสมอง ผู้ที่ได้รับสารหนูเข้าไปมักจะมีรอยแถบสีขาวบนเล็บมือและเล็บเท้า แสดงถึงการหยุดชะงักของการเจริญเติบโตของเล็บนั่นเอง สารหนูจะขับถ่ายทางปัสสาวะเป็นส่วนใหญ่ภายใน 2-8 ชั่วโมงหลังจากที่ได้รับเข้าไป แต่ถ้ามีการสะสมไว้นานและได้รับในปริมาณมากอาจจะใช้ระยะเวลานานถึง 70 วัน สารหนูจึงจะหมดไปจากกระแสเลือด และที่สำคัญสารหนูสามารถรบกวนการทำงานทางชีวเคมีของสารพันธุกรรมดีเอ็นเอและอาร์เอ็นเอ สารหนูจึงเป็นทั้งสารก่อการกลายพันธุ์และสารก่อมะเร็งด้วย โดยมีหลักฐานทางการแพทย์ว่าเป็นสาเหตุของมะเร็งผิวหนัง มะเร็งปอดและมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ นอกจากนั้นการทำเหมืองยังมีสารอื่นๆ แพร่กระจาย เช่น ฝุ่นซิลิก้า เรดอน ซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งปอดอีกด้วย
ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่บริษัทได้รับสัมปทานเหมืองแร่ทองคำ ชาวบ้านได้รับผลกระทบด้านสุขภาพมาตลอด มีเรื่องมีราวถึงขั้นฟ้องศาลปกครอง แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุปแต่อย่างไร......