เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2 3 ... 10
 1 
 เมื่อ: วันนี้ เวลา 22:02 
เริ่มโดย เทาชมพู - ความคิดเห็นล่าสุด โดย เทาชมพู
  ตอนตั้งคำถามก็กลัวอยู่เหมือนกันว่า คำตอบคือ อีกไม่นาน AI จะพัฒนาได้ถึงขั้นรับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมกันบ้าง  คุณประกอบมาช่วยทำให้ความกลัวกลายเป็นความจริง
  ดิฉันก็คงจะมี AI ประจำตัวมาตอบในเรือนไทยให้  แทนที่จะต้องไปค้นคว้าหาคำตอบเอง ก็ถามเจ้า AI ว่าช่วยตอบให้ที   ไหนวิเคราะห์ซิว่าลุงวอลต์ ดิสนีย์แกเก่งยังไงถึงเอาการ์ตูนมาแซงหน้าพระเอกนางเอกคนจริงๆในฮอลลีวู้ดไปได้หมด     AI คิดไม่ถึงเสี้ยววินาทีก็เจาะลึกถึงสมองทุกส่วนของดิสนีย์ตามประวัติการรักษา ที่มันไปขุดเอามาได้ ให้คำตอบถูกต้องแม่นยำทั้งหลักศิลปะและการแพทย์
  แสดงว่าเทาชมพูจะตกงาน  เพราะ GPT PG (pinkandgrey) แย่งงานไปแล้ว

 2 
 เมื่อ: วันนี้ เวลา 21:51 
เริ่มโดย เทาชมพู - ความคิดเห็นล่าสุด โดย เทาชมพู
ChatGPT 4o นอกจากจะทำให้วงการนักเขียนสะเทือนแล้ว ยังมีอีกหลายวงการที่ต้องสะเทือนไปด้วย
ดูคลิปนี้แล้ว ตกงานกันอีกหลายอาชีพเชียวละค่ะ

 3 
 เมื่อ: วันนี้ เวลา 21:04 
เริ่มโดย เทาชมพู - ความคิดเห็นล่าสุด โดย ประกอบ
  พิมพ์ไปแล้วเกิดสงสัยขึ้นมาอีกข้อ
  งานทางศิลปะ (รวมวรรณกรรมด้วย) เป็นงานที่เกิดจากอารมณ์ ไม่ใช่เหตุผล    คนที่แต่งกลอนสุภาพอย่างสุนทรภู่ได้ถูกต้อง หาได้ไม่ยาก  แต่พลังทางวรรณศิลป์อย่างสุนทรภู่ยังไม่มีใครมีเหมือน   ข้อนี้ถ้าไปถามคนอังกฤษ คงต้องยกเชคสเปียร์แทนสุนทรภู่ 
  ถ้าให้ AI แต่งชิ้นงานอย่างพระอภัยมณีภาค 2  ให้ยิ่งใหญ่เหมือนภาค 1   หรือแต่งโรมิโอกับจูเลียตภาค 2 ยังไงก็ได้ให้หนุ่มสาวสองคนนี้ฟื้นขึ้นมา อย่างแนบเนียนเพื่อดำเนินเรื่องต่อไปให้ซาบซึ้งตรึงใจเท่ากับเจ้าของเดิมแต่ง    คุณม้า และท่านอื่นๆ คิดว่า AI มีศักยภาพทำได้ไหม
  ดิฉันยังอยากจะสั่ง AI ตัวใหม่ที่เก่งเป็นบรมครู ให้แต่งสามก๊กแข่งกับหลอกว้านจง  ทำยังไงให้โจโฉเป็นพระเอกให้ได้ ส่วนเล่าปี่เป็นผู้ร้ายชนิดไม่มีข้อแม้    รสชาติการอ่านคงแปลกตาน่าตื่นเต้นขึ้นมากนะคะ
   และ AI พัฒนาถึงขั้นวาดรูปแซงขึ้นหน้าแวนโกะและปิดกัสโซได้หรือเปล่า

ณ วันนี้ศักยภาพ AI ในการแต่งชิ้นงานแบบเชคสเปียร์หรือสุนทรภู่ยังไปไม่ถึงครับ  แต่เป็นแค่เรื่องของเวลาเท่านั้น ผมเชื่อว่าอีกไม่นานก็คงทำได้ เพราะพัฒนาการของ AI ก็คือการเรียนรู้ที่เรียนรู้มากขึ้นเรื่อย ๆ ในทุก generation ของมัน ที่แต่ละเจนก็ใช้เวลาไม่นานด้วย ตอนนี้เราอยู่ที่  GPT-4o แต่ใน lab ของ OpenAI  ไม่รู้ไปถึงไหนแล้ว  ที่ยังไม่มีตัวที่ใหม่หรือฉลาดกว่านี้ อาจจะเพราะเค้ากำลังหาทางควบคุมมันอยู่ก็ได้ เพราะมันอาจจะเก่งจนน่าตกใจ หลอนน้อยลง ข้อมูลแม่นยำมากขึ้น จนคนเราจะหาทางไม่ให้คนตกเป็นทาสแบบไม่รู้ตัวได้ยาก

ในอนาคตอันใกล้นี่ทุกคนคงมีจาวิสส่วนตัวที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วย คุยตอบโต้ได้เหมือนในหนัง และคงมีคนที่คบหาหรือมี  AI เป็นเพื่อนมากกว่าจะคบคน เพราะ AI มันฉลาดจนรู้ว่าเราเป็นคนแบบไหน ตอบโต้ยังไงเราถึงชอบ และจะปั่นเงินจากเราแบบไหนเนียน ๆ

โดยส่วนตัวพวก AI เฉพาะทางที่พัฒนาให้ฉลาด ๆ เช่นอ่านฟิล์ม Xray อ่านอัตราการเต้นหัวใจจากใบหน้า หรือ  self-driving นี่ผมยินดีมาก ๆ แต่พวก generative AI นี่บอกตรง ๆ ว่าผมกลัวมันจริง ๆ ครับ


 4 
 เมื่อ: วันนี้ เวลา 09:35 
เริ่มโดย เทาชมพู - ความคิดเห็นล่าสุด โดย เพ็ญชมพู
ChatGPT 4o นอกจากจะทำให้วงการนักเขียนสะเทือนแล้ว ยังมีอีกหลายวงการที่ต้องสะเทือนไปด้วย


 5 
 เมื่อ: 20 พ.ค. 24, 21:50 
เริ่มโดย เทาชมพู - ความคิดเห็นล่าสุด โดย เทาชมพู
   ดิสนีย์บัดนี้กลายเป็นพยัคฆ์ติดปีก บินร่อนขึ้นสู่ฟ้ากว้าง ด้วยการ์ตูนยาวเรื่องที่  2     เขาเลือกวรรณกรรมเยาวชนรื่องดังจากอิตาลี เรื่อง Pinocchio ของ Carlo Collodi ซึ่งเป็นเรื่องเก่าแก่ย้อนหลังไปตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19  ความจริงเนื้อเรื่องดาร์คมาก  มีฉากโหดๆ ทารุณ เลือดตกยางออก และความตาย หลายฉากจนไม่น่าเป็นเรื่องสำหรับเด็ก   แต่คติสอนใจในเรื่องก็เหมาะกับเยาวชนในยุคนั้น เช่นถ้าหนีโรงเรียน ไม่ตั้งใจเรียนหนังสือก็จะกลายเป็นคนโง่ เป็นชนชั้นแรงงานเหนื่อยยากไปจนตาย
   ดิสนีย์จึงเอาเรื่องมาขัดเกลา ถากส่วนร้ายๆทิ้งไป เหลือแต่ความน่ารักน่าเอ็นดูไร้พิษสง  ถูกใจพ่อแม่และลูกอย่างมาก  เพิ่มบทตัวละครประกอบให้น่ารักเช่นเจ้าจิมมินี่คริกเก็ต จิ้งหรีดน้อย และบลูแฟรี่ ที่ได้ต้นแบบจากดาราสาวสวยทรงเสน่ห์ของฮอลลีวู้ดในยุคนั้น
   เจ้าตุ๊กตาไม้จึงกลายมาเป็นตัวละครอมตะอีกตัวของดิสนีย์

 6 
 เมื่อ: 19 พ.ค. 24, 20:35 
เริ่มโดย เทาชมพู - ความคิดเห็นล่าสุด โดย เพ็ญชมพู



 7 
 เมื่อ: 19 พ.ค. 24, 19:52 
เริ่มโดย เทาชมพู - ความคิดเห็นล่าสุด โดย เทาชมพู
  ความสำเร็จมหาศาลของการ์ตูนสโนไวท์ ทำให้ในปีนั้น   เรื่องนี้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสคาร์ หรือรางวัลตุ๊กตาทอง สาขาเพลงยอดเยี่ยม  ในปี 1937  ต่อมาในปี 1938   องค์กรได้มอบรางวัลตุ๊กตาทองเกียรติยศให้ดิสนีย์   คือตุ๊กตาทองขนาดมาตรฐาน 1 ตัว และตุ๊กตาทองตัวน้อยๆ อีก 7 ตัวรายล้อม
  ผู้มอบรางวัลคือดาราเด็กที่โด่งดังที่สุดในยุคนั้น เชอร์ลี่ เทมเปิ้ล   เธอทำหน้าที่ตัวแทนของเด็กๆทั่วโลกที่เป็นแฟนการ์ตูนของดิสนีย์

 8 
 เมื่อ: 18 พ.ค. 24, 18:44 
เริ่มโดย เพ็ญชมพู - ความคิดเห็นล่าสุด โดย เทาชมพู
“หมอธีระวัฒน์” เผยโควิดหลุดมาจากห้องแล็บเป็นเรื่องจริง โดยฝีมือของอดีต ผอ.สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ ร่วมกับ “หมอใหญ่เฟาซี” และอีกหลายคน ผ่านเงินทุนจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ที่มี Eco Health Alliance ซึ่งได้พัฒนาเชื้อไวรัสร่วมกับสถาบันวิจัยอู่ฮั่น เป็นตัวกลาง ล่าสุดถูกรัฐสภาสหรัฐสอบสวนและสั่งยุติการให้เงินสนับสนุนแล้ว

วันนี้(18 พ.ค.) ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์พิเศษสาขาประสาทวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก  ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ว่า ความชั่วปรากฏ พฤษภาคม 2024 ความจริงปรากฏชัดจากที่ถูกป้ายสี “โควิดมาจากห้องแล็บ (lab leak)” ว่าเป็นทฤษฎีสมคบคิด แท้ที่จริงแล้วเป็นเรื่องจริง

และเปิดเผยการปฏิบัติอย่างโหดเหี้ยม ของผู้ที่เป็นหัวหน้าองค์กร เช่น NIH Francis Collins (นายฟรานซิส คอลลินส์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (National Institutes of Health) ของสหรัฐอเมริกา) ที่ abuse ใช้อำนาจในทางที่ผิดในสหรัฐ ทำลายนักวิทยาศาสตร์ที่เสนอหลักฐานของกำเนิดโควิดจริงๆ

และทั้งนี้ยังมีโขลงของผู้มีอำนาจเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้ง Fauci (นายแอนโทนี เฟาซี อดีตหัวหน้าคณะที่ปรึกษาด้านการสาธารณสุข ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19) และกลุ่มที่บิดเบือน รวมไปถึงหัวหน้า CDC ซึ่งหน่วยงานของสหรัฐ NIH CDC USAID DARPA ผ่านเงินทุนจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ลงมาที่ตัวกลาง Eco Health Alliance ของ Peter Daszak และทำการวิจัยและพัฒนาไวรัสโควิดกับสถาบันวิจัยไวรัสอู่ฮั่น จนสำเร็จก่อนที่จะเกิดระบาดโควิดในปลายปี 2019 รวมทั้ง NIH ถือสิทธิบัตรครอบครองวัคซีนโควิดก่อนหน้าปี 2018 ด้วยซ้ำ

15 พฤษภาคม 2024 องค์กร Eco Health Alliance ถูกตัดสินจากหลักฐานที่รัฐสภาสืบสวนสอบสวนมาตลอด ยุติเงินทุนที่ได้รับที่นำไปใช้สำหรับตัวเองและส่งผ่านไปให้องค์กรอื่นและประเทศอื่นเก็บไวรัสจากสัตว์ป่าและรายงานข้อมูลมาเพื่อสร้างไวรัสใหม่ และอยู่ในกระบวนการที่องค์กรนี้จะถูกเพิกถอนสิทธิ์ (disbarment)

คนอื่นๆ ที่เป็นตัวการในเรื่องนี้กำลังถูกทยอยจัดการตามลำดับ และใครที่รับผิดชอบต่อการเสียชีวิตหลาย 10 ล้านคนทั่วโลก และยังเกี่ยวโยงไปถึงวัคซีนโควิดและการปกปิดผลกระทบผลข้างเคียงของวัคซีน

จับตาดูองค์กรใหญ่และหน่วยงานโรงเรียนแพทย์สถาบันในประเทศไทยที่รับเงินทำธุรกิจข้ามชาติจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ ทั้งๆ ที่รู้ถึงเรื่องเหล่านี้และอันตรายที่เกิดขึ้นแล้วและกำลังจะขึ้นถ้ายังคงทำต่อ แต่เห็นแก่เงินเป็นสรณะ  องค์กรและบุคคลต่างๆ เหล่านี้จะเป็นกลุ่มเดียวกันที่พยายามปิดบังผลกระทบของวัคซีนที่ทำให้ตายและพิการและมีผลในระยะยาว

หลักฐานที่นำมากล่าวนี้มีมากมายและเป็นบันทึกของรัฐสภาสหรัฐจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้

 9 
 เมื่อ: 18 พ.ค. 24, 11:22 
เริ่มโดย agree - ความคิดเห็นล่าสุด โดย SILA
           บทความของคุณสุจิตต์ข้างต้นดังกล่าวแบบว่า (คำเรียกตน) คนไทย หลักฐานเก่าสุดที่ใช้คำนี้มาจากบันทึก ลา ลูแบร์ ที่ว่า
ชาวสยามเรียกตนเองว่า ไทย

           และจากอีกบทความของคุณสุจิตต์กล่าวว่า ส่วนคนไทย (หมายถึงคนในภาษาและวัฒนธรรมไท-ไต) มีบรรพชนกลุ่มหนึ่งเป็น “ชาวเขา”
บริเวณที่เรียกโซเมีย (ZOMIA) อยู่จีนตอนใต้

           https://www.matichon.co.th/columnists/news_2306932

           คนพูดภาษาตระกูลไท-ไตและคนหลากหลายชาติพันธุ์บริเวณโซเมีย ต่อไปข้างหน้าจะมีความเคลื่อนไหวโยกย้ายไปมาหลายทิศทาง
ตามเส้นทางการค้าภายใน
           กระทั่งลงไปตั้งหลักแหล่งมีอำนาจทางภาษาและวัฒนธรรมอยู่ร่วมกับคนในตระกูลภาษาอื่นๆ บริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา เช่น ชวา-มลายู,
มอญ-เขมร, ทิเบต-พม่า เป็นต้น แล้วรับภาษาและวัฒนธรรมเหล่านั้นรวมกับภาษาและวัฒนธรรมจากจีน, อินเดีย, เปอร์เซีย (อิหร่าน) ฯลฯ
           ครั้นนานไปได้กลายตนแล้วเรียกตนเองด้วยชื่อสมมุติใหม่ว่าไทย ซึ่งล้วนเป็นบรรพชนคนไทยปัจจุบัน

           https://www.matichonweekly.com/column/article_742393

 10 
 เมื่อ: 18 พ.ค. 24, 11:10 
เริ่มโดย เทาชมพู - ความคิดเห็นล่าสุด โดย เทาชมพู
    ดิสนีย์ทุ่มเทเงินลงไปในการสร้างการ์ตูนเรื่องนี้ มหาศาล ถึง 1.5 ล้านดอลล่าร์  ในยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2  เป็นเหตุให้ฮอลลีวู้ดจับตามองด้วยความเสียวไส้ ว่าใครจะอยากมาดูการ์ตูนที่แพงกว่าหนังดังๆเสียอีก    ในเมื่อตอนนั้น หนังดี เพลงไพเราะ ระบำงามตา และดาราดังก็มีกันให้ดูเกลื่อนโรงไปหมด
   พอการ์ตูนออกฉาย  บรรดาผู้จับตามองในทางร้ายก็หงายเก๋งไปตามๆกัน  เพราะหนังทำเงินถึง 8 ล้านดอลล่าร์  สูงสุดในบรรดาหนังทุกเรื่องในปีนั้น   ผู้คนแห่แหนกันมาดูสโนไวท์และคนแคระกัน จนเป็นปรากฏการณ์ของปี  
    ถ้าอยากดูทั้งเรื่อง  เข้าไปตามลิ้งค์นี้ค่ะ

    

หน้า: [1] 2 3 ... 10
Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.077 วินาที กับ 16 คำสั่ง