กระทู้: กินข้าวด้วยกัน - เรื่องของความรักในฝ่ายในจีน เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 04 ม.ค. 15, 15:01 ฝ่ายใน หลายคนมักนึกถึงดินแดนแห่งสตรี ประหนึ่งเมืองลับแล อย่างไรก็ตาม ฝ่ายในที่มีแต่หญิงล้วนๆนี้เป็นฝ่ายในไทยสมัยรัตนโกสินทร์ แต่ว่าในต่างแดน อาทิ ตุรกี อิยิปต์ อินเดีย เปอร์เซีย จีน ฝ่ายในไม่ใช่มีแค่ผู้หญิงล้วนๆ ฝ่ายในมีทั้งผู้หญิงจำนวนมหาศาล และผู้ชายจำนวนมากเกินกว่าจะนับ แต่ผู้ชายที่ว่าเป็นผู้ชายที่ผ่านการตัดอวัยวะเพศชายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คนไทยเรียกคนเหล่านี้ว่า “ขันที”
เขตพระราชฐานชั้นในของพระราชวังหลวงของจีน กระทู้: กินข้าวด้วยกัน - เรื่องของความรักในฝ่ายในจีน เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 04 ม.ค. 15, 15:02 จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเมื่อชายกับหญิงอยู่ด้วยกัน ความรักจะบังเกิดขึ้น แม้ฝ่ายชายจะกลายเป็นขันทีไปแล้วก็ตาม นอกจากความรักระหว่างชายและหญิงที่ว่า ความรักระหว่างชายกับชาย และหญิงกับหญิงก็มีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน ในประวัติศาสตร์จีน ขันทีรักกับนางข้าหลวง นางข้าหลวงรักกันเอง หรือขันทีรักกับขันที ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไร ความรักเช่นนี้ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ แล้วในหลายราชวงศ์ หลายรัชกาลก็ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องต้องห้ามแต่อย่างไร
ภาพการแต่งกายของนางในสมัยราชวงศ์ถัง กระทู้: กินข้าวด้วยกัน - เรื่องของความรักในฝ่ายในจีน เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 04 ม.ค. 15, 15:05 ขันทีในภาษาจีนเรียกกันโดยทั่วไปว่า ไท่เจียน (太监:tian jian)ส่วนนางข้าหลวงรับใช้ในวัง เรียกว่า “กงนู่” (宫女:gong nv) คนในวังรักกันเช่นนี้ เรียกว่า “ตุ้ยสือ” (对食: dui shi) แปลตรงๆว่า กินอาหารด้วยกัน คำนี้เกิดจากพฤติกรรมของคนสองคน ซึ่งแทนที่จะกินข้าวร่วมกับข้าหลวงนางในหรือขันทีคนอื่น กลับกินข้าวด้วยกันสองคนเงียบๆงุ้งงิ้งมุ้งมิ้ง
คำว่า “ตุ้ยสือ” ปรากฎขึ้นครั้งแรกในบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์ฮั่น ในหนังสือชื่อว่า “ฮั่นชู” (汉书:han shu) แปลตรงๆก็คือหนังสือประวัติศาสตร์ราชวงศ์ฮั่น ในหนังสือกล่าวถึงนางข้าหลวงในวังพบรักกันอยู่กินกันฉันสามีภรรยาในวัง การแต่งกายของนางในสมัยราชวงศ์ฮั่น กระทู้: กินข้าวด้วยกัน - เรื่องของความรักในฝ่ายในจีน เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 04 ม.ค. 15, 15:12 คำว่า “ตุ้ยสือ” ปรากฎขึ้นครั้งแรกในบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์ฮั่น ในหนังสือชื่อว่า “ฮั่นชู” (汉书:han shu) แปลตรงๆก็คือหนังสือประวัติศาสตร์ราชวงศ์ฮั่น ในหนังสือกล่าวถึงนางข้าหลวงในวังพบรักกันอยู่กินกันฉันสามีภรรยาในวัง
ภาพตุ๊กตาขันทีสมัยราชวงศ์ฮั่น กระทู้: กินข้าวด้วยกัน - เรื่องของความรักในฝ่ายในจีน เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 04 ม.ค. 15, 15:13 อย่างไรก็ตามกาลเวลาผ่านไป คำว่า “ตุ้ยสือ” ก็เริ่มขยายความรวมไปถึงขันทีรักกับนางข้าหลวง การขยายความครั้งแรกที่ทำให้คนรู้ว่าขันทีมีความรักกับนางข้าหลวงรับใช้นี้ปรากฎในหลังสือเรื่อง “กงชือ” (宫词: gong ci) แปลว่า “เรื่องในวัง” อันเขียนสมัยราชวงศ์ถัง แต่ว่าในยุคหลังนี้ คำว่า “ตุ้ยสือ” แม้จะแสดงถึงความรักระหว่างคนในวัง แต่ว่าก็หมายถึงรักแบบฉาบฉวย หรือที่คนไทยในสมัยนี้เรียกว่า เป็น “กิ๊ก” มากกว่าเพื่อน แต่หาใช่คนรักไม่ แต่ว่าถ้ารักกันจริงๆตกลงปลงใจใช้ชีวิตร่วมกันดั่งสามีภรรยา จะเรียกว่า “ฉ่ายหู้” (菜户: cai hu) โดยคำว่า “หู้” (户:hu)แปลว่า ครอบครัว ครัวเรือน ดังนั้น คำนี้ จึงหมายความว่า “กินอาหารแบบครอบครัว” แสดงให้เห็นความหมายว่ามีรักลึกซึ้งลึกล้ำกว่า “ตุ้ยสือ” ที่จากรากศัพท์แปลว่ากินข้าวด้วยกัน (สองคน)
ภาพนางข้าหลวงกับขันทีในสมัยราชวงศ์ชิง "กินข้าว" ด้วยกัน กระทู้: กินข้าวด้วยกัน - เรื่องของความรักในฝ่ายในจีน เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 04 ม.ค. 15, 15:14 คำว่า “ฉ่ายหู้” ปรากฎขึ้นครั้งแรกในสมัยราชวงศ์ซ่ง และปรากฎเรื่อยมา แต่ที่น่าจะมีสีสันที่สุดคงไม่พ้นยุคราชวงศ์หมิง ซึ่งบันทึกเรื่องราวไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิง “หมิงซือ”(明史:ming shi) เลยทีเดียว เนื่องจากช่วงต้นราชวงศ์หมิง ปฐมจักรพรรดิหมิงไท่จู (明太祖:ming tai zu) ไม่โปรด และสังห้ามมีความรักเช่นนี้เด็ดขาด แต่ก็เกิดมีขันทีไปรักกับนางข้าหลวงจนได้ สุดท้ายจึงถูกประหารด้วยการถลกหนังทั้งคู่ เพราะถือว่าดูถูกรั้ววัง
การแต่งกายของขันทีสมัยมราชวงศ์หมิง กระทู้: กินข้าวด้วยกัน - เรื่องของความรักในฝ่ายในจีน เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 04 ม.ค. 15, 15:15 อย่างไรก็ตามในรัชกาลพระเจ้าหมิงเหรินจง (明仁宗:ming ren zong) หรือที่เรารู้จักกันในนามพระเจ้าหยงเล่อผู้โด่งดังในการส่งกองเรือมหาสมบัติตะลุยทั่วโลก ในรัชกาลนี้ทรงใช้งานและวางพระทัยในขันที ดังนั้น พระองค์จึงทรงรู้สึกว่า ไม่ให้ขันทีมีความรักดูใจร้ายผิดมนุษย์มนาไปหน่อย จึงมีพระบรมราชโองการให้ขันที นางในมีรักได้อย่างอิสระ ไม่ถือว่ามีโทษ ภายหลังในสมัยราชวงศ์หมิง ขันทีกุมอำนาจ และไม่บ่อยนักที่จะปลดระวางนางข้าหลวงกลับบ้านเดิม ดังนั้น ความรักในวังยิ่งเป็นเรื่องปรกติ กระทั่งเรื่องเล็กๆน้อยๆของขันทีอกหักยังมีบันทึกไว้ อาทิ ในสมัยพระเจ้าหมิงกวงจง (明光宗:ming guang zong) ที่รู้จักกันทั่วไปว่า พระเจ้าหว่านลี้ มีขันทีคนหนึ่งนามว่าซ่งเป่า (宋保:song bao) ไปรักและตกลงใช้ชีวิตคู่กับนางข้าหลวงแซ่อู่ (吴:wu) แต่ภายหลังนางมีชู้ ขันทีซ่งเป่ารับไม่ได้ อกหักเหลือจะห้าม สุดท้ายจึงทูลลาออกจากวังไปบวชเป็นพระ
ภาพพระเจ้าหมิงเหรินจง (明仁宗:ming ren zong) หรือที่เรารู้จักกันในนามพระเจ้าหยงเล่อ กระทู้: กินข้าวด้วยกัน - เรื่องของความรักในฝ่ายในจีน เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 04 ม.ค. 15, 15:17 ความรักของขันทีและนางในนี้ทำให้กวี รวมไปถึงนักจดบันทึกหลายคนประทับใจ และเขียนไว้ในงานของต้นมีไม่น้อย อาทิ ในหนังสือ “บันทึกประวัติศาสตร์นอกกรอบรัชสมัยพระเจ้าหว่านลี้” (万历野获编:Wan li ye huo bian) เขียนโดยเซินเต๋อฟู่ (沈德符: shen de fu) ได้เขียนบันทึกเรื่องราวความรักที่เขาได้พบระหว่างขันทีและนางในว่า “ขันทีและนางข้าหลวงรักกัน ใช้ชีวิตร่วมกันเหมือนสามีภรรยาทั่วไป ขันทีซื้อของให้นางข้าหลวง นางข้าหลวงก็ปรนติบัติขันที เช่นเดียวกับสิ่งทีสามีและภรรยากระทำต่อกัน”
ภาพเซินเต๋อฟู่ (沈德符: shen de fu) กระทู้: กินข้าวด้วยกัน - เรื่องของความรักในฝ่ายในจีน เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 04 ม.ค. 15, 15:20 ผู้เขียนยังได้เขียนเรื่องความรักและการดูแลกันแม้จะอีกฝ่ายจะลาโลกไปด้วย กล่าวคือ“ครั้งหนึ่งบัณฑิตได้พบขันทีผู้หนึ่งไปวัด คนในวัดบอกบัณฑิตว่าขันทีผู้นี้มาทำบุญให้ดวงวิญญาณนางข้าหลวงคนหนึ่งที่ตายทุกปี เหมือนที่สามีที่รักภรรยาคนหนึ่งพึงกระทำเพื่อรำลึกถึงภรรยาผู้วายชนม์” นอกจากนี้ ผู้เขียนยังได้กล่าวว่า “เรื่องราวความรักของขันทีและนางข้าหลวงในยุคนั้นดูเป็นเรื่องธรรมดา จนกระทั่งฮ่องเต้หรือฮ่องเฮาอาจจะตรัสถามขันทีว่า “ฉ่ายหู้ของเจ้าเป็นใครรึ” ขันทีก็จะกราบทูลตอบชื่อเช่นเดียวกับคนธรรมดาๆ ที่กราบทูลชื่อ”
ภาพมงกุฎฮ่องเฮาสมัยราชวงศ์หมิง และภาพการแต่งกายของฮ่องเต้และฮ่องเฮาสมัยราชวงศ์หมิง กระทู้: กินข้าวด้วยกัน - เรื่องของความรักในฝ่ายในจีน เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 04 ม.ค. 15, 15:23 นอกจากขันทีจะใช้ชีวิตแบบสามีภรรยากับนางข้าหลวงในวัง ขันทียังสามารถแต่งงานได้ตามปรกติเช่นกัน เรื่องนี้ปรากฎมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฉินเรื่อยไปจนถึงราชวงศ์ชิง นอกจากนี้ ในบางกรณีขันทีก็ยังอาจจะรับพระราชทานนางข้าหลวงให้เป็นภรรยาพระราชทานได้ด้วย ในสมัยในสมัยราชวงศ์ชิง แม้จะขันทีจะถูกควบคุมมาก ด้านการมีความรัก ขันทีไม่ได้รับอนุญาติให้มีความรักใช้ชีวิตกันในวังกับนางข้าหลวงแบบในสมัยราชวงศ์หมิง แต่ว่าอนุญาติให้แต่งงานเป็นเรื่องเป็นราวได้แทน นางข้าหลวงในสมัยราชวงศ์ชิงนี้จะมีการปลดระวางทุกปี เมื่ออายุ ได้ ๒๕ ปี สามารถกลับบ้านเดิม และออกไปแต่งงานได้ตามปรกติ ดังนั้นจึงปรากฎว่ามีขันทีบางคนแต่งงานกับนางข้าหลวงชาววัง หรือบางคนอาจจะแต่งงานกับสตรีสตรีนอกวังก็ได้
ภาพขันทีและข้าหลวงในสมัยราชวงศ์ชิง กระทู้: กินข้าวด้วยกัน - เรื่องของความรักในฝ่ายในจีน เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 04 ม.ค. 15, 15:23 ความรักเป็นเรื่องปรกติธรรมดาของโลก อาจจะเกิดได้ทุกที ทุกเพศ ทุกวัย กระทั่งกับคนที่หลายคนคิดว่าไม่น่าจะมีความรักได้ ความรักก็ยังบังเกิดได้ อาจจะเกิดกับชายหญิง ชายพิการกับหญิง หญิงกับหญิง หรือชายกับชาย
ความรักเกิดได้ทุกหนทุกแห่ง แม้จะอยู่ในที่ลึกที่สุดของแผ่นดิน ดั่งเช่นเขตพระราชฐานชั้นในอันแสนลึกลับของวังต้องห้ามก็ตาม ภาพขันทีเข้าไปหานางข้าหลวง ศิลปะสมัยราชวงศ์ชิง กระทู้: กินข้าวด้วยกัน - เรื่องของความรักในฝ่ายในจีน เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ม.ค. 15, 15:44 เรื่องนี้น่าสนใจมาก ไม่เคยรู้มาก่อนว่าขันทีมีความรักและอยู่กินฉันสามีภรรยากับนางในวังได้
เพราะเท่าที่รู้มา คนเป็นขันทีจะถูกตอนอวัยวะเพศจนใช้การไม่ได้ เพื่อความปลอดภัยในการรับใช้อยู่ในวัง ปนเปกับสตรีมากหน้าหลายตา มีหมอมาชันสูตรว่าถูกตอนจริง เคยสงสัยเหมือนกันว่าชายแท้ที่ถูกตอนแล้ว ยังเกิดอารมณ์ทางเพศเมื่อคลุกคลีกับสาวๆอยู่หรือไม่ อ่านสามก๊กฉบับวณิพกของยาขอบ ยาขอบก็เชื่อว่าพวกนี้หมดความรู้สึกไปแล้ว เมื่อความกระหายด้านหนึ่งถูกกดให้หายไป มันก็ไปโผล่อีกด้านคือความกระหายอำนาจ จึงทำให้ขันทีลุกขึ้นกุมอำนาจอย่างมากมายเช่นในตอนต้นเรื่องสามก๊ก จากที่คุณหาญบิงเล่ามา ฟังเหมือนกับว่าขันทีเหล่านี้ไม่ได้ถูกตอน เป็นชายแท้เข้าไปคลุกคลีตีโมงกับหญิงสาวได้โดยไม่มีอุปสรรคใดๆ นอกจากต้องห้ามใจตัวเอง จึงเป็นธรรมดาอยู่เองที่ห้ามไม่สำเร็จ ขอถามตามหลักการแพทย์ ชายที่ถูกตอน มีความรู้สึกเหมือนชายที่เสื่อมสมรรถภาพ (impotent) ไหมคะ ถ้าไม่ ก็แปลว่าพวกนี้ก็ยังมีความรู้สึกอย่างชายแท้ทั่วไป เพียงแต่พิการเท่านั้นเอง กระทู้: กินข้าวด้วยกัน - เรื่องของความรักในฝ่ายในจีน เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 04 ม.ค. 15, 16:33 อันนี้ขอเสริมนิดหน่อยครับ
๑. คำว่า "ฉ่ายหู้" (菜户: cai hu) นอกจากจะหมายถึงการใช้ชีวิตคู่แบบสามีภรรยาแล้ว ไม่ใช่คบๆแบบกิ๊กๆกั๊กๆ จะใช้สื่อถึงเฉพาะ ความสัมพันธ์ระหว่างขันทีกับนางข้าหลวง แต่คำว่า "ตุ้ยสือ" (对食: dui shi) สามารถใช้ได้หมด ทั้งขันทีกับขันที นางข้าหลวงกับนางข้าหลวง และ ขันทีกับนางข้าหลวง ๒. ขันทีจีนแม้จะถูกตัดอวัยวะเพศแล้ว แต่ว่าในความคิดของจีน รวมถึงนักประวัติศาสตร์จีน กล่าวว่า ขันทีโดยมากยังมีความต้องการทางเพศ และต้องการแสดงว่าตนยังเป็นชายอย่างสมบูรณ์ ดังนั้น จึงมีคู่รักเป็นหญิง และแต่งงานแบบชายธรรมดาทั่วไป แม้จะไม่สามารถร่วมเพศจริงๆได้ก็ตาม ก็จะใช้อุปกรณ์ต่างๆมาช่วย ๓. ขันทีที่กล่าวมาข้างต้นนี้ทั้งหมดถูกตัดอวัยวะเพศชายแล้ว แต่ว่าก็เป็นชายแท้ ภาพอุปกรณ์ที่ขันทีใช้ในการร่วมเพศแกะสลักจากงาช้าง สมัยราชวงศ์ชิง กระทู้: กินข้าวด้วยกัน - เรื่องของความรักในฝ่ายในจีน เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 04 ม.ค. 15, 16:34 อุปกรณ์ทางเพศสมัยราชวงศ์หมิง ทำจากหินสลัก
กระทู้: กินข้าวด้วยกัน - เรื่องของความรักในฝ่ายในจีน เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 04 ม.ค. 15, 16:35 อุปกรณ์ทางเพศสมัยราชวงศ์ซ่ง ทำจากหินสลัก
กระทู้: กินข้าวด้วยกัน - เรื่องของความรักในฝ่ายในจีน เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 04 ม.ค. 15, 16:37 อุปกรณ์ทางเพศสมัยราชวงศ์ฮั่น ทำจากสัมฤทธิ์
กระทู้: กินข้าวด้วยกัน - เรื่องของความรักในฝ่ายในจีน เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 04 ม.ค. 15, 19:05 ถ้าจำไม่ผิด ขันทีทีถูกตอนจะมี 2 แบบครับ
แบบแรกถูกตอนจนเหี้ยนเตียนไม่เหลือหลอ คือทั้งอวัยวะสืบพันธุ์และอัณฑะ ขันทีประเภทนี้ฮอร์โมนจะเปลี่ยนแปลง จะตุ้งติ้ง น่าจะไม่เหลืออารมณ์ทางเพศ พวกนี้จะเอาไว้รับใช้ใกล้ชิดฝ่ายใน พวกที่สอง ตัดแต่อวัยวะสืบพันธุ์ แต่ยังเหลืออัณฑะ ฮอร์โมนต่างๆ ยังปกติ ทำให้ยังมีเรี่ยวแรงแบบผู้ชาย เอาไว้ทำงานหนักแบกหามกุลี ขันทีแบบนี้น่าจะยังมีอารมณ์ทางเพศ กระทู้: กินข้าวด้วยกัน - เรื่องของความรักในฝ่ายในจีน เริ่มกระทู้โดย: Rangson Boontham ที่ 04 ม.ค. 15, 21:02 เพิ่งจะถึงบางอ้อ กับสำนวนทีว่า "มีคนร่วมโต๊ะอาหาร" ในเรื่อง ศึกบุปผาวังมังกร คุณหมีเซียะซึ่งแสดงเป็นจงเสวี่ยเสียมีความรักกับขันทีปู้จี๋เสียง ;D
ขอบคุณ คุณ han_bing สำหรับความรู้เรื่องนี้ครับ ภาพประกอบจากจาก http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2010/02/A8924372/A8924372.html (http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2010/02/A8924372/A8924372.html) กระทู้: กินข้าวด้วยกัน - เรื่องของความรักในฝ่ายในจีน เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 04 ม.ค. 15, 21:46 เห็นคุณหมีเซียะ (米雪) แล้ว นึกถึงภาพในบทบาทคุณอึ้งย้ง (黃蓉) แห่งมังกรหยก เมื่อ ๔๐ ปีที่แล้วเชียว ;D
กระทู้: กินข้าวด้วยกัน - เรื่องของความรักในฝ่ายในจีน เริ่มกระทู้โดย: Jalito ที่ 04 ม.ค. 15, 22:23 โอ...40 ปีแล้วหรือนี่ !!!
กระทู้: กินข้าวด้วยกัน - เรื่องของความรักในฝ่ายในจีน เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 20 มี.ค. 15, 17:37 หมีเซียะปัจจุบันวัย ๖๐ ปี ญาญ่าก็ญาญ่าเถอะข่มรัศมีไม่ลงจริง ๆ ;D
ภาพจาก เว็บสนุก (http://news.sanook.com/1764317/) กระทู้: กินข้าวด้วยกัน - เรื่องของความรักในฝ่ายในจีน เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 มี.ค. 15, 09:10 เรื่องเล่าเช้านี้ หมีเซียะ เผยเคล็ดลับความงามอมตะในวัย 59 (20 มี.ค.58) (http://www.youtube.com/watch?v=vo_GPYeWrRM#ws)
กระทู้: กินข้าวด้วยกัน - เรื่องของความรักในฝ่ายในจีน เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 23 ก.ย. 15, 15:42 แม่นางย้งยี้ในชุดไทยยังงามสง่าเช่นเดิม ;D
|