หลายปีมาแล้ว ไปทำวีซ่าที่สถานทูตแคนาดาที่ตึก "อับดุลราฮิม เพลส" ยังสงสัยว่าทำไมฟังดูแปลก ๆ ออกไปทางชื่อแขกเผอิญได้เห็นเรื่องที่คุณ
บุญเกื้อ ปุสสเทโว เล่าไว้เกี่ยวกับ "บ้านอับดุลราฮิม" จึงขออนุญาตนำมาถ่ายทอดอีกที
บนถนนพระราม ๔ ตรงข้ามสวนลุมพินี จะมีอาคารสูง ๓๔ ชั้นหลังหนึ่งซึ่งมีรูปทรงสวยสะดุดตา บนยอดตึกมีเอกลักษณ์เป็นรูปสามเหลี่ยมทรงปิรามิดสีทองอร่ามชื่อว่าตึก "อับดุลราฮิม เพลส" และที่อยู่เคียงข้างกันนั้นคือ "บ้านอับดุลราฮิม" ของคุณยายประชุม อับดุลราฮิม (สาวโสดที่ไร้ซึ่งทายาทโดยธรรมที่จะมารับมรดก) ทั้งอาคารสูงและบ้านหลังนี้ตั้งอยู่บนที่ดินกรรมสิทธิ์ของคุณยายประชุม กับนางสาวเรณู อับดุลราฮิม น้องสาวของท่านซึ่งก็เป็นสาวโสดและเสียชีวิตไปแล้วหลายสิบปี ท่านจึงเป็นผู้จัดการมรดกมีอำนาจจัดการที่ดินผืนนี้แต่เพียงผู้เดียว บนเนื้อที่กว่า ๑๐ ไร่ โดยแบ่งพื้นที่ให้เช่าเพื่อสร้างอาคารและเหลือเป็นเขตบ้านพักหลังนี้ไว้เนื้อที่กว้างถึง ๓ ไร่ ๒ งาน
บ้านอับดุลราฮิม สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๐ ในช่วงปลายสมัยรัชกาลที่ ๕ คุณพ่อของคุณยายประชุมซึ่งเป็นพ่อค้าอินเดียพวกดาวูดีโบห์รา แขกย่านตึกขาว เป็นเจ้าของห้าง เอช อับดุลราฮิม ผู้มั่งคั่ง ต้องการสร้างไว้สำหรับเป็นบ้านพักตากอากาศแบบบังกะโลหัวหิน เนื่องจากไม่มีเวลาไปพักตากอากาศถึงหัวหิน จึงมาสร้างที่ชานเมือง ซึ่งในเวลานั้นย่านนี้ถือว่าเป็นชนบทที่เป็นท้องนาท้องสวน คุณยายประชุมเล่าว่าตอนที่ท่านเด็ก แถวนี้ยังมีโรงสีข้าวกังหันลมขนาดใหญ่ตั้งอยู่ คนทั่วไปจึงเรียกชื่อนี้กันติดปากเรื่อยมาว่าย่าน "สีลม"
ลักษณะบ้านเป็นอาคารไม้ทรงมะนิลาหลังคาปั้นหยาที่เปิดหน้าจั่ว มุงหลังคากระเบื้องว่าวสีขาว โครงสร้างชั้นล่างเป็นปูน ชั้นบนพื้นและผนังเป็นไม้ ด้านนอกทาด้วยสีเขียวของชาวมุสลิม มีมุขสองข้างยื่นออกมา คลุมด้วยหลังคาปีกนก ยกพื้นปล่อยใต้ถุนโล่ง ใช้เป็นที่นั่งเล่น พักผ่อนและรับแขก มีช่องระบายอากาศบานเกล็ดไม้เหนือหน้าต่าง หน้าจั่วหลังคาประดับไม้ฉลุลวดลายอย่างละเอียดประณีตสวยงาม อันเป็นลักษณะสถาปัตยกรรมปลายสมัยรัชกาลที่ ๕ เดิมทีนั้นบริเวณบ้านมีต้นจามจุรีขนาดใหญ่หลายต้นทำให้ร่มรื่นอากาศเย็นสบาย คุณยายประชุมบอกว่า"ต้นไม้ทำให้ที่บ้านนี้มีอากาศบริสุทธิ์ จะได้ไม่ต้องไปแย่งกันหายใจที่สวนลุมกับใครเขา" ซึ่งปัจจุบันตัดโค่นออกแล้วจัดสวนขึ้นใหม่ทำให้โล่งตาไปอีกแบบ
หมายเหตุ : บ้านหลังนี้เคยมีตำนานเป็นที่ตั้งบัลลังก์พิจารณาของศาลอาญากรุงเทพใต้ มีผู้พิพากษาเต็มองค์คณะทำการสืบพยานปากคุณยายประชุม เจ้าของบ้าน ทนายทั้งฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลยมาสืบซักค้านกันที่นี่นับเป็นประวัติเหตุการณ์สำคัญที่ศาลมีการออกมาตั้งบัลลังก์สืบพยานนอกศาล โดยใช้บ้านโจทก์แทนห้องพิจารณา ในคดีเลขดำที่ ๙๖๘๗/๔๓ เมื่อวันที ๑๐ กันยายน ๒๕๔๔
ช่วง พ.ศ. ๒๕๔๒ คุณบุญเกื้อเล่าว่าเคยเป็นแขกมาทานข้าวที่บ้านนี้กับคุณยายประชุม ท่านพูดให้ฟังด้วยตัวท่านเองว่า ท่านมีความประสงค์อย่างแรงกล้าที่จะถวายบ้านและที่ดินผืนนี้ให้แก่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี หลังจากที่ท่านเสียชีวิตไปแล้วอีกด้วย
จากหนังสือ ๑๗๔ มรดกสถาปัตยกรรมไทยในสยาม ของสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์