เรือนไทย

General Category => ประวัติศาสตร์ไทย => ข้อความที่เริ่มโดย: เทาชมพู ที่ 22 มิ.ย. 05, 19:51



กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 มิ.ย. 05, 19:51
 หลายครั้งที่ผ่านไปตามถนนวิภาวดีรังสิต  ที่มีการจราจรหนาแน่น  สมเป็นถนนสายสำคัญสายหนึ่งของเมืองหลวง  ดิฉันมักจะนึกถึงที่มาของชื่อถนน    
ซึ่งเรียกได้เต็มปากว่า  เป็นพระนามของวีรสตรีพระองค์หนึ่งของยุครัตนโกสินทร์
ชวนให้นึกต่อไปถึงโคลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ประวัติวีรบุรุษไซร้........เตือนใจ เรานา
ว่าอาจจะยังชนม์...........เลิศได้
และยามจะบรรลัย..........ทิ้งซึ่ง
รอยบาทเหยียบแน่นไว้.........แทบพื้นทรายสมัย

ทรงแปลจากบทกวีของ Henry Wordsworth Longfellow ที่ว่า
Lives of great men all remind us
We can make our lives sublime
And, departing leave behind us
Footprints on the sand of time.

ถ้า "วีรบุรุษ" ในที่นี้ หมายความรวมถึง "วีรสตรี" โคลงพระราชนิพนธ์บทนี้ ก็เหมาะสมกับ
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต มากที่สุด

นักอักษรศาสตร์และผู้รักการอ่านนิยาย รู้จักพระองค์ในนามปากกา ว. ณ ประมวญมารค  ผู้สร้าง ปริศนา รัตนาวดี  เจ้าสาวของอานนท์   ฯลฯ  เป็นที่ลื่อเลื่องในวงการประพันธ์ตั้งแต่กว่า ๕๐ ปีก่อน
ผู้ชอบอ่านชีวประวัติบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ของยุโรป คงรู้จักพระนิพนธ์ พระราชินีนาถวิคตอเรีย   คลั่งเพราะรัก  และฤทธีราชินีสาว
ส่วนผู้รักชาติ รู้จักพระองค์ในนามวีรสตรีผู้พลีพระชนม์ชีพเพื่อชาติ    สมัยที่ไทยมีศึกต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายเมื่อกว่า๓๐ ปีก่อน

เชิญติดตามพระประวัตินะคะ


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 มิ.ย. 05, 19:54
 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิตทรงมีพระนามเดิมว่า หม่อมเจ้า(หญิง)วิภาวดี  รัชนี
ประสูติเมื่อ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๔๖๓
ทรงเป็นพระธิดาในพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ   (พระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัส)   ผู้เป็นพระราชโอรสในกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ  กรมพระราชวังบวรสถานมงคล พระองค์สุดท้ายของไทย

ผู้รักวรรณคดี คงทราบดีว่า กรมหมื่นพิทยาลงกรณ หรือน.ม.ส. (นามปากกา ทรงนำมาจากอักษรท้ายชื่อพระนาม) ทรงเป็นกวีเอกองค์หนึ่งของไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๖
พระนิพนธ์ "สามกรุง" " กนกนคร" "นิทานเวตาล" " พระนลคำฉันท์" เป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย

พระมารดาของพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต หรือหม่อมเจ้า(หญิง) พรพิมลพรรณ วรวรรณ  เป็นพระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์(พระองค์เจ้าวรวรรณากร)   พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๔  ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเขียน

พระองค์เจ้าหญิงวิภาวดี ทรงมีพระอนุชาร่วมพระมารดาเดียวกันอีกองค์หนึ่ง คือหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 มิ.ย. 05, 19:55
 กรมพระนราธิปฯ ทรงเป็นทั้งศิลปินและกวี      กรมหมื่นพิทยาลงกรณก็ทรงเป็นกวี    
สายเลือดของกวีของทั้งสองฝ่ายสืบมาถึงพระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิตอย่างเต็มเปี่ยม     จึงทรงแต่ง "ปริศนา" ขึ้นได้ตั้งแต่พระชนม์ยังน้อย แค่พระชันษาไม่เกิน ๒๐ ปี  
อยู่ในช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา

ดังที่ทรงเล่าว่า

" เรื่องปริศนานี้   ข้าพเจ้าเขียนขึ้นเมื่ออายุไม่เกิน ๒๐ ปี   คือเมื่อออกจากโรงเรียนมาอยู่บ้านใหม่ๆ
ใช้เวลาถึง ๓ ปีถึงเขียนเรื่องปริศนาจบ      
ท่านเจ้าของโรงพิมพ์ประมวญมารค( ทรงหมายถึงกรมหมื่นพิทยาลงกรณ) รับไว้เพื่อลงในหนังสือพิมพ์รายอาทิตย์ ประมวญสาร
อีก ๒ อาทิตย์เรื่อง "ปริศนา" จะลงพิมพ์  โรงพิมพ์ประมวญมารคก็ถูกระเบิด  เพลิงไหม้หมด    
ข้าพเจ้าได้เสี่ยงชีวิตวิ่งฝ่าไฟเข้าไปในออฟฟิศ ของโรงพิมพ์ซึ่งกำลังไฟลุก     ไปเอาต้นฉบับเรื่อง"ปริศนา"ซึ่งอยู่ในนั้น    
มิฉะนั้น ปริศนาก็คงตายเสียในไฟ    ไม่มีโอกาสให้ใครได้รู้จักเกิน ๔ คน"

ผลจากทรงวิ่งเข้าไปในกองไฟ  สูดควันไฟเข้าไปมากทำให้ประชวรค่อนข้างหนัก   แต่ก็ทรงโชคดีที่หายได้เป็นปกติ


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 มิ.ย. 05, 12:36
 ทางด้านการศึกษา  พระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต ทรงเริ่มต้นที่ร.ร.ผดุงดรุณี อยู่ ๑ ปี
แล้วย้ายมาเข้าที่ร.ร. วัฒนาวิทยาลัย ไม่ถึงปี ก็เสด็จไปศึกษาที่ร.ร.มาแตร์เดอีวิทยาลัย จนจบชั้นมัธยมปีที่ ๘

การเรียนในสมัยของท่าน  แบ่งไม่เหมือนสมัยนี้ เขาแบ่งกันแบบนี้ค่ะ
อนุบาล จะเรียนหรือไม่เรียนก็ได้
ประถมปีที่ ๑-๔ เป็นภาคบังคับที่เด็กไทยทุกคนต้องเรียน
มัธยมปีที่ ๑-๖
มัธยมปีที่ ๗-๘  ถือเป็นชั้นสูงสุดของโรงเรียน
เมื่อจบมัธยมปีที่ ๖ แล้ว  จะไม่ต่อชั้น ๗-๘ แต่ไปเข้าเรียนโรงเรียนอาชีวะ  ก็ได้ค่ะ
ถ้าเรียนชั้น ๗-๘ แล้ว จะหยุดแค่นั้นก็ถือว่าเรียนมากพอตัวแล้ว  ไม่ต้องต่อที่ไหนก็มีความรู้พอจะเข้าทำงานได้  
ที่จริงครูสมัยนั้นจำนวนมากก็จบมัธยม ๘ นี่แหละ
แต่ถ้าเรียนต่อขั้นมหาวิทยาลัยก็ต้องจบมัธยมปีที่ ๘ เสียก่อน

ร.ร.มาแตร์เดอีฯ  เปิดชั้นพิเศษ ที่ไม่ค่อยจะมีโรงเรียนอื่นสอนกันนัก  พูดจริงๆคือไม่รู้ว่ามีที่ไหนสอนกันอีกหรือเปล่าในประเทศไทย
เป็นหลักสูตรของยุโรป เรียกว่าฟินิชชิง คอร์ส  (Finishing Course) ต้องเรียน ๓ ปีถึงจบหลักสูตร
ฟินิชชิง คอร์ส  สอนเด็กสาวที่ไม่ประสงค์จะเรียนต่อขั้นมหาวิทยาลัย  แต่เรียนรู้วิชาต่างๆที่จะเป็นประโยชน์แก่ตนเองต่อไปภายหน้า  
เช่นเรียนภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส (ในสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง  ฝรั่งเศสเป็นภาษาสำคัญอีกภาษาหนึ่งของยุโรป)
เรียนการเข้าสังคม เช่นการแต่งกายให้เหมาะสมกับกาลเทศ   มารยาทสังคม  ลีลาศ
การจัดโต๊ะดินเนอร์   จัดดอกไม้  ต้อนรับแขกในฐานะเจ้าภาพสตรี  
ความรู้รอบตัว ในการสมาคม   การดูแลบ้านช่องให้มีระเบียบสวยงาม รวมทั้งการควบคุมเรื่องเงินทองให้ดีด้วย

ต่อมาหลังสงครามโลกครั้งที่สอง  วิชาสาขานี้ก็เลิกสอนไป  มีแต่เรียนชั้นมัธยม ๗ และ ๘  เท่านั้น

หลักสูตรฟินิชชิ่ง คอร์สนี่แหละที่พระองค์เจ้าหญิงทรงนำมาเป็นฉากของ ชั้นพิเศษ ๑และ ๒ ของโรงเรียนสิกขาลัย ในเรื่องปริศนา
ที่ท่านหญิงรัตนาวดีน้องพระเอก  เป็นหัวโจกซุกซนทำอะไรแผลงๆ กับเพื่อนนักเรียนด้วยกัน   ตามประสาเด็กสาววัยรุ่นเมื่อ ๖๐ ปีก่อนพึงจะซุกซนได้


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 มิ.ย. 05, 12:43
 การเรียนในร.ร.สมัยนั้น  ผู้สอนเป็นแม่ชีชาวอเมริกันและยุโรป  กวดขันเรื่องภาษาแก่เด็กนักเรียนอย่างเอาจริงเอาจัง
ตำราต่างๆล้วนเป็นภาษาอังกฤษ  แม้แต่ตำราคณิตศาสตร์ก็เรียนเป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ
เด็กนักเรียนจึงอ่านเขียนและพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง

พระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีฯ ทรงเล่าว่า

" พูดอังกฤษได้คล่องตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนอยู่   เพราะได้ศึกษาจากมาแมร์เจ็มมะ   ซึ่งจ้ำจี้จ้ำไชขนาดหนักมาตั้งแต่เด็ก  ต่อมาก็เรียนจากมหาวิทยาลัยน.ม.ส.  
ได้เคยเป็นเลขานุการของพ่อตอนพระเนตรเป็นต้อ    ก็ทรงบอกให้ฉันเขียนหน้าห้าไปลงหนังสือ "ประมวญวัน" ทุกวัน
และยังรับคำบอกของท่าน เรื่อง "สามกรุง" และอื่นๆ
เป็นเล่มๆทีเดียว"


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ก.ค. 05, 10:23
 การที่ได้ทรงคลุกคลีอยู่กับหนังสือ และยังทรงได้ใกล้ชิดกับเสด็จพ่อ ผู้ทรงเป็นกวีเอก  ทำให้พระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต สนพระทัยที่จะนิพนธ์ขึ้นเองบ้าง  เมื่อพระชันษาเพียง 14 ปี

พระนิพนธ์เรื่องแรก ไม่ใช่ "ปริศนา" แต่เป็นเรื่องแปล ชื่อ "เด็กจอมแก่น"
ทรงแปลจากหนังสือรวมเรื่องสั้นชุด William ของ Richmal Crompton
ซึ่งเป็นนักเขียนวรรณกรรมเยาวชนชื่อดังของอังกฤษ ในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 1

วิลเลียม เป็นเด็กชายอายุ 11 ปี   อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆในชนบทของอังกฤษ
มีเพื่อนร่วมแก๊งค์อีก  3 คน ชื่อจินเจอร์   ดักลาส  เฮนรี่  เรียกตัวเองว่า คณะนอกกฎหมาย หรือ The Outlaws
เจตนาดีของวิลเลียม ด้วยความไร้เดียงสาประสาเด็ก  ก่อเรื่องปวดเศียรเวียนเกล้าให้ผู้ใหญ่เวียนหัวไปตามๆกัน  
แต่ก็ขบขันครื้นเครงสำหรับคนอ่าน

เรื่องนี้เมื่อลงพิมพ์ ใน " ประมวญสาร" เป็นเรื่องที่ขายดีมาก
นักเรียน ร.ร. กรุงเทพคริสเตียนที่อยู่ใกล้โรงพิมพ์  แห่กันมาซื้อจนเกลี้ยงโรงพิมพ์
กลายเป็นเรื่องขายดี เพราะเด็กนักเรียนชอบอ่าน

ทรงรำลึกว่า
"การที่ข้าพเจ้ากลายเป็นนักเขียนขึ้นมาตั้งแต่อายุ 14 ปีนั้น ก็เพราะข้าพเจ้ามีพ่อแม่ที่เข้มงวด    อยากให้ข้าพเจ้ารู้ค่าของเงิน
จึงไม่ได้ตามใจข้าพเจ้าให้เงินทองใช้จนเหลือเฟือ     แต่สนับสนุนข้าพเจ้าในทางที่ควร
คือสอนให้มีมานะ  ให้รู้จักใช้หัวคิดที่จะทำโน่นทำนี่เพื่อถึงจุดหมายในความต้องการของตน...
ถ้าพ่อแม่ของข้าพเจ้าไม่ฉลาด    เห็นการณ์ไกลและสนับสนุนข้าพเจ้าในทางที่ถูกที่ควรแล้ว
ว.ณ ประมวญมารค ก็คงจะไม่มีกำเนิดขึ้นมาในโลก    คงจะดำดินอยู่ตลอดชีวิต
ไม่มีผลงานออกมาให้ใครได้อ่านสักชิ้นเดียวเป็นแน่"

ขอออกนอกเรื่องหน่อยค่ะ

ดิฉันพยายามหาหนังสือชุด WIlliam มาด้วยความลำบาก เพราะไม่มีวางจำหน่าย
ต้องซื้อเป็นหนังสือมือสอง
ก็ได้มาเยอะพอสมควร  หลายสิบชุด
อ่านแล้วสนุกคุ้มความลำบากทีเดียว

พระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต ทรงแปลด้วยภาษาอ่านง่ายๆ สบายๆ
เป็นสำนวนไทยๆ ไม่มีกลิ่นนมกลิ่นเนย
แสดงถึงพระอัจฉริยภาพทางการนิพนธ์ ตั้งแต่พระชนม์ได้แค่ 14 อย่างแท้จริง


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: paganini ที่ 12 ก.ค. 05, 11:15
 แฟนขาประจำของคุณเทาชมพูรออ่านอยู่ครับบบ

เดี๋ยวว่างๆจะชวนคุยเรื่องเพชรพระอุมา ตอนนี้ผมอ่านมาถึงเล่ม 46 แล้ว อ่านมาด้วยความทรมาณทรกรรมอย่างแสนสาหัส


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.ค. 05, 17:15
 กระทู้นี้คงช้าค่ะ ค่อยเป็นค่อยไป  
เพราะต้องอ่านหนังสือหลายเล่ม
เอามาเรียบเรียงใหม่

ว่างเมื่อไร  เชิญตั้งกระทู้เพชรพระอุมานะคะ
ดิฉันเป็นแฟนพันธุ์(เกือบ) แท้คนหนึ่งของเรื่องนี้
ชอบภาค ๑ มากกว่าชอบภาค ๒ และ ๓ ของเรื่อง  


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ก.ค. 05, 10:50
 ปริศนา ออกสู่สายตาคนอ่านในนิตยสารเดลิเมล์วันจันทร์ เมื่อประมาณ พ.ศ. 2497 หลังสิ้นสุดสงครามโลกแล้วเกือบ 10 ปี
ทรงเล่าว่า
"มีคนติดมาก    ไปที่ไหนก็พูดถึง    หนังสือพิมพ์ต้องเพิ่มจำนวนพิมพ์จากกพันเป็นหมื่นทุกสัปดาห์ที่หนังสือออก
นักอ่านตามหัวเมืองเป็นจำนวนมากมายจะไปคอยดักรับหนังสือที่สถานี  เต็มทุกสถานี
ตั้งแต่อยุธยาไปจนถึงเชียงใหม่ทีเดียว  ทางใต้ทางอีสานก็เช่นกัน
และเมื่อพิมพ์จำหน่ายเป็นเล่มก็ทำสถิติในการขายดี"

ปริศนาเป็นสาวน้อยนักเรียนนอก ฉลาด ประเปรียว กล้า ผิดหญิงไทยร่วมสมัยทั่วไป
แต่ถึงกล้าก็ไม่เคยประพฤติเสียหาย   แต่ทำให้คนอ่านทึ่ง ว่าเธอโดดเด่น แปลกกว่านางเอกเรียบร้อยในนิยายอื่นๆที่คนไทยคุ้นเคย
ส่วนพระเอก ก็เลอเลิศ   เป็นหม่อมเจ้าชายที่โก้ เก่ง ฉลาด ร่ำรวยและแสนดี
ทรงบรรยายไว้ว่า
" ร่ำรวยมหาศาล   หยิ่งราวกับมาจากสวรรค์  โก้ราวกับพระเอกหนัง"

เมื่อมีการประกวดปริศนา   ให้หญิงสาวส่งภาพมาที่นิตยสารเพื่อดูว่าใครจะเข้าเค้าที่สุด
ก็มีรูปถ่ายหลั่งไหลมาหลายหมื่นใบ
แต่หญิงสาวที่พระองค์เจ้าวิภาวดี ฯ ทรงเห็นว่าเหมือนปริศนาที่สุด กลับไม่ใช่หนึ่งในคนที่ส่งรูปถ่ายมา
แต่เป็นลูกสาวอดีตเอกอัครราชทูตไทย ชื่อคุณวาสนา กระแสสินธุ์
เป็นหญิงสาวอายุราว 19-20 หน้าตาจิ้มลิ้ม ตากลมโต ผมหยิก ร่างระหงบาง
ภาพเธอลงเป็นภาพประกอบในปริศนา รวมเล่มครั้งแรก
เพิ่งเห็นแวบๆในร้านหนังสือเก่า ในงานมหกรรมหนังสือ  แต่ยังไม่ทันได้ซื้อเพราะมัวเลือกเรื่องอื่นอยู่  เลยหาไม่เจออีก

ส่วนท่านชายพจน์ปรีชา   ผู้นิพนธ์ทรงบรรยายว่า
สูงใหญ่ โก้ มีหนวดราวกับเออร์รอล ฟลินน์


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ก.ค. 05, 11:09
 ตอนที่อ่านปริศนาครั้งแรก  ไม่รู้ว่าเออร์รอล ฟลินน์หน้าตาเป็นยังไง
ได้แต่เดาว่าเป็นดาราฝรั่ง รุ่นเก๋า  ซึ่งคงตายไปนานแล้ว
จนกระทั่งใช้เน็ตเป็น ถึงหารูปเออร์รอล ฟลินน์เจอ

ไม่นานมานี้ได้ดีวีดี หนังเก่าของฮอลลีวู้ดมาชุดหนึ่ง
เรื่อง The Adventures of Robin Hood  
เออร์รอล ฟลินน์เล่นเป็นพระเอกคู่กับโอลิเวีย เดอ ฮาวิลแลนด์ค่ะ
หล่อมาก

ค้นหาภาพถ่ายของเขามาลงให้ดู  
ลองวาดภาพว่าท่านชายพจน์หล่อ ไว้หนวดเรียวแบบนี้


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ก.ค. 05, 11:14
 นี่ค่ะ โรบินฮู้ด


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 ก.ค. 05, 18:17
 มาต่อค่ะ
กระทู้นี้เงียบเหงา   ไม่ค่อยมีใครเข้ามาคุยขัดจังหวะหรือผสมโรงบ้างเลย
*********************************************
พระสหายสนิทชื่อ เกรส เปเรร่า ได้บันทึกไว้ว่า
"อุปนิสัยบางอย่างของปริศนา เป็นขององค์ท่านเอง    เช่นปริศนาแม้จะเก่งและมีนิสัยชอบเล่นเพียงใด แต่ก็อยู่ในโอวาทของผู้ใหญ่เสมอ  
ทั้งเป็นคนช่างคิด และรู้ว่าอะไรเหมาะอะไรควรแค่ไหน    
เพราะในส่วนพระองค์ของท่านหญิงแล้ว เสด็จพ่อและท่านแม่รับสั่งอย่างไร  ท่านก็ทรงปฏิบัติตามเสมอ
และจะเสด็จไหนก็ทูลท่านแม่ก่อนเสมอไม่เคยขาด
 
ยิ่งกว่านั้น   สิ่งใดท่านโปรดเป็นพิเศษท่านก็ทรงเขียนไว้ในเรื่อง "ปริศนา" เช่นกัน   เช่นกระโปรงขาวบานสำหรับงานราตรี    เข็มกลัดรูปดอกไม้ที่ท่านแม่ประทาน ในวันประสูติ
ปริศนาก็มีกระโปรงขาวบานสวยสะดุดตา   และเข็มกลัดรูปดอกไม้จากคุณนายสมรในวันเกิดเช่นเดียวกัน"
ยังมีพระนิสัยอีกหลายอย่างที่ทรงจำลองไว้ในตัวปริศนา  

เช่นโปรดสิ่งแปลกๆใหม่ๆ กล้าเสี่ยง
โปรดขับรถยนต์
โปรดสุนัข
เป็นองค์ของท่านเอง
สิ่งใดที่สนพระทัยก็ค้นคว้าด้วยพระองค์เอง
โปรดที่จะเสด็จไปหาเพื่อนสนิทที่บ้านอยู่ด้านหลังวัง  มีรั้วเดียวกัน   ทรงปีนข้ามไปด้วยการหาบันไดไม้ไผ่มาพาดรั้วทั้งสองด้าน  
พอทรงปีนบันไดไปจนสุดกำแพงก็ทรงลงไปอีกฟากหนึ่งด้วยบันไดที่พาดรอรับอยู่   สะดวกกว่าอ้อมไปทางหน้าวัง เดินไปตามถนนเพื่อเข้าประตูหน้าบ้านเพื่อน
เหตุการณ์นี้ก็ทรงใส่ไว้ในบ้านของปริศนาและบ้านของนพ เพื่อนสนิทของปริศนา
โปรด Serenade ของ Schubert ซึ่งทรงใส่ไว้ในเรื่องเช่นกัน
โปรดว่ายน้ำ  และเก่งภาษาอังกฤษ เช่นเดียวกับปริศนา
โปรดตั้งชื่อคนให้แปลกๆ อย่างชื่อเกรส  ข้าหลวงในวังเรียกไม่ชัดก็กลายเป็นคุณเกด  
ส่วนปริศนาเรียกตัวละครอีกตัวที่ชื่อเสมอว่า นาย Always


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 ก.ค. 05, 18:34
 พูดถึงแฟชั่นในเรื่องปริศนา     เป็นแฟชั่นยุค 1940s ซึ่งหารูปในเน็ตไม่เจอ  แต่รู้ว่ามันเป็นแบบไหน
เป็นแฟชั่นที่หรูหราอย่างนางเอกนิยายไทยร่วมสมัยไม่เคยใส่
นางเอกในเรื่องอื่นๆยังนุ่งผ้าซิ่นหรืออย่างดีก็กระโปรง  แต่ปริศนาสวมชุดราตรีผ้าโปร่งสีขาว ใช้ผ้าถึง ๓๐ เมตร  บนเนื้อผ้าติดดาวเงินเล็กๆ ทั่วตัว
กระทบแสงไฟแล้วเป็นประกายแว๊บๆไปทั้งตัว   ไฟสีอะไรก็ย้อมสีดาวเงินให้กลายเป็นสีนั้น

แฟชั่นผ้าโปร่ง ๓๐ เมตร แบบที่ปริศนาสวม จนบัดนี้ยังไม่ล้าสมัย
แต่ฝรั่งเขาไปแต่งเป็นชุดเจ้าสาวกันค่ะ   เพียงแต่ไม่มีดาวเงิน


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 ก.ค. 05, 18:34
 นี่คือผ้าโปร่ง tulle แบบที่ปริศนาสวม


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: ดารากร ที่ 17 ก.ค. 05, 11:27

ดิฉันชอบเรื่องปริศนามากค่ะ จนต้องตามอ่านเรื่องเจ้าสาวของอานนท์ กับท่านหญิงรัตนาวดีต่อ ชุดสวยมากนะคะ คุณเทาชมพู น่าจะสวยสูสีกับชุดคุณรตี แต่คงไม่หวือหวาเท่า

เรื่องปริศนาทำให้ดิฉันนึกถึงหัวหินค่ะ ตอนที่ท่านชายพจน์ลงมาจากทางเหนือ มาหาปริศนา

รูปพระอาทิตย์ขึ้นที่หัวหินค่ะ


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: ดารากร ที่ 17 ก.ค. 05, 11:29

สถานีรถไฟหัวหิน ซึ่งเป็นฉากหนึ่งในเรื่องปริศนา  


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ก.ค. 05, 12:40
 กลับไปค้นแฟชั่นสมัย 1940s มาให้คุณดารากรดูค่ะ
รตีน่าจะสวมชุดราตรีแบบนี้ไปวังศิลาขาว


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: ดารากร ที่ 17 ก.ค. 05, 13:06
 ขอบคุณคุณเทาชมพูมากนะคะ นึกภาพตอนรตีเฉิดฉายไปวังศิลาขาวออกเลยล่ะค่ะ


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ก.ค. 05, 17:38
 ผู้นิพนธ์ ทรงบรรยายปริศนาว่า ผมหยิกตามธรรมชาติ ยาวประบ่า
ปกติ ปริศนาผมค่อนข้างยุ่งเพราะไม่ค่อยจะหวี  เมื่อไรหวีทั่วศีรษะผมก็จะสวย

คำว่า ผมหยิก  ดิฉันเคยสงสัยว่าเป็นยังไง
หยิกแต่ละยุคไม่เหมือนกัน
หยิกแบบฟูฟ่อง  หยิกแบบเป็นคลื่นใหญ่ๆ หรือว่าม้วนเป็นขอดติดหนังหัว ก็ไม่รู้
จนไปค้นภาพดาราสาวยุค 1940s มา  ก็เลยนึกออกว่าผมปริศนาคงหยิกเป็นลอนแบบนี้


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ก.ค. 05, 17:40
 ผมหยิกยุค 1940s อีกแบบค่ะ
ใส่เสื้อสายเดี่ยวเสียด้วย


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ก.ค. 05, 17:43
 ภาพนี้ไม่เกี่ยวกับปริศนา แต่เป็นสาวเซกซี่ในยุค 1940s
รตีอาจจะเซกซี่แบบนี้
(สงสารนางแบบนะคะ นอนห้อยหัว
กว่าจะถ่ายภาพเสร็จคงทั้งเมื่อยทั้งเวียนหัวน่าดู)


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 18 ก.ค. 05, 20:37
 แวะเข้ามาอ่านเรื่องของท่านหญิงวิภาวดี กับดูภาพสวยๆของอาจารย์เทาชมพูครับ


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: Andreas ที่ 19 ก.ค. 05, 02:57
 Always waiting for khun เทาชมพู kharb.


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.ค. 05, 07:31
 มาต่อค่ะ

พระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต  ทรงเสกสมรสกับหม่อมเจ้าปิยะรังสิต รังสิต  เมื่อ วันที่  6 พฤษภาคม 2489
โดยได้รับพระราชทานน้ำพระมหาสังข์  จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล
ทรงมีธิดา 2 คนคือ ม.ร.ว. วิภานันท์  และ ม.ร.ว. ปรียนันทนา

หม่อมเจ้าปิยะรังสิต ทรงเป็นพระโอรสในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาชัยนาทนเรนทร

ทั้งสององค์ นับว่าสมศักดิ์สมตระกูลกันอย่างยิ่ง   เหมือนพระเอกนางเอกในเรื่อง "รัตนาวดี"

เรื่องนี้ นิพนธ์ขึ้นเป็นที่ระลึกจากเมื่อครั้งเสด็จไปท่องเที่ยว(ฮันนีมูน) ในยุโรป หลังเสกสมรส เมื่อพ.ศ. 2490
เนื้อเรื่องเป็นการเดินทางด้วยรถยนต์  ไปท่องเที่ยวในประเทศต่างๆ  ตั้งแต่อังกฤษจนถึงอิตาลี
ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2ซึ่งคนไทยน้อยคนนักจะมีโอกาสได้ไปเยือน


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.ค. 05, 07:43
 เนื้อเรื่องที่ทรงผูกขึ้นมา อยู่ในแนวโรแมนติค  ใช้จดหมายเล่าสู่กันฟัง เป็นการดำเนินเรื่อง   สร้างตัวละครเพื่อดึงอารมณ์ผู้อ่านไปตามโครงเรื่องที่วางไว้

เรื่องก็คือ หม่อมเจ้าหญิงรัตนาวดีซึ่งเคยเป็นเด็กนักเรียนรุ่นสาวใน "ปริศนา" บัดนี้ทรงเรียนจนจบมหาวิทยาลัยแล้ว   เจ้าพี่คือหม่อมเจ้าพจนปรีชาก็ประทานรางวัลให้ไปเที่ยวยุโรป
โดยมี ป้าสร้อย  พี่เลี้ยงชาววังไปเป็นเพื่อนด้วย

เดินทางไปถึงลอนดอน  ปรากฏว่าหม่อมเจ้าดนัยวัฒนา ข้าราชการสถานทูต ซึ่งพระญาติและพระสหายของท่านชายพจน์ฯ เสด็จไปพักร้อน
ก็เลยไม่ทรงทราบว่าท่านหญิงมาถึงลอนดอนแล้ว
ก็เลยหายเงียบ  ไม่ได้มาต้อนรับอย่างที่ควรจะทำ  ทำให้ท่านหญิงทั้งผิดหวังทั้งกริ้ว ที่ต้องตกอยู่ในลอนดอนองค์เดียวตั้งหลายวัน

เมื่อเสด็จไปที่แฟลตของท่านชาย  ท่านกำลังทำกับข้าวอยู่  ท่านหญิงก็เลยเข้าพระทัยผิดว่าเป็นมหาดเล็ก
ท่านชายก็ยอมตกบันไดพลอยโจน   และทำหน้าที่คนขับรถให้ท่านหญิงได้ท่องเที่ยวยุโรป

ท่านชายก็ตกอยู่ในฐานะกระต่ายหมายจันทร์    มีป้าสร้อยเป็นแชปเปอโรนที่เฝ้าท่านหญิงไม่ให้คลาดสายตา
มีตัวละครอื่นๆที่เข้ามาในเส้นทางท่องเที่ยว เป็นผงชูรสของเรื่อง
จนกระทั่งความจริงเปิดเผยในตอนจบ   ทั้งสององค์ก็จบด้วยความหวานชื่น
ดังที่ท่านหญิงเขียนบันทึกไว้ว่า

"เอ  นี่ก็ดึกเต็มทีแล้ว   เรายังนั่งนึกถึงความรักของเรา  มัวเขียนไดอารี่อยู่จนป่านนี้
สมุดเล่มนี้เราจะเก็บไว้บันทึกเหตุการณ์ที่สำคัญๆในชีวิตของเราและพี่ดนัย  
เราจะเก็บไว้อ่านในยามแก่เฒ่า   จะได้ชุ่มชื่นหัวใจ
และ re-live our romance over and over again.


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 19 ก.ค. 05, 08:47
 เพลงประกอบละครเรื่องปริศนาครับ

หากฉัน เพ่งมองตาเธอให้ลึกหน่อย
อย่างน้อย อาจทำให้ต้องเฉลียวใจ
ว่ามีความหมายใด ซ่อนในดวงฤทัย
บ่งบอกความในใจที่ดวงตา

หากรู้ ว่ารักเจ้ายังหลีกเร้นหลบ
ถ้าพบ จะพาดวงใจเปี่ยมรักมา
แอบอารมณ์ละมุน  อุ่นไอรักชักพา
ให้วิญญาณสองเรา รื่นสราญ

โอ้ความรัก นั่นอยู่ไหน ใย จึงไม่เห็น
มองหา เช้าเย็น มิพบพาน

ใจเอ๋ยใจเรา โฉดเขลาหรือนั่น
ปล่อยรักนั้นให้เดินผ่านไป

หากฉัน เพ่งมองตาเธอให้ลึกหน่อย
อย่างน้อย อาจทำให้ต้องเฉลียวใจ
ว่ามีความรักซอน ซ่อนในดวงฤทัย
อาบอุ่นใจสองเราเรื่อยมา


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.ค. 05, 09:21
 หมู่นี้คุณจ้ออารมณ์ดีจังนะคะ


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: kenkorn ที่ 20 ก.ค. 05, 16:56
 อืมยิ่งอ่านยิ่งน่าสนใจ
ผมยังสนใจเรื่อง น้ำตกวิภาวดี จ.สุราษฏร์ธาณีด้วยว่าจะเกี่ยวกับชื่อถนนหรือเปล่า


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ก.ค. 05, 17:41
 ตอบคุณ kenkorn  

พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ขณะดำรงพระยศเป็นหม่อมเจ้าหญิงวิภาวดี   รังสิต  สิ้นชีพิตักษัยเพราะถูกกระสุนจากผู้ก่อการร้ายยิงทะลุเฮลีคอปเตอร์
เมื่อเสด็จพร้อมทหาร ไปรับตำรวจตระเวนชายแดนผู้บาดเจ็บจากการต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย
ณ ตำบลบ้านส้อง อ.เวียงสระ จ. สุราษฎร์ธานี
เมื่อวันที่16 กุมภาพันธ์ 2520

น้ำตกนั้นตั้งชื่อเป็นอนุสรณ์ถึงท่านค่ะ


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: kenkorn ที่ 20 ก.ค. 05, 18:11
 อืม...ขอบคุณแฮะ


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ก.ค. 05, 11:24
 นิยายที่อยู่ในชุดเดียวกับ"ปริศนา" เพราะมีตัวละครแตกแขนงมาจากเรื่องแรกอีกเช่นกัน
คือ "เจ้าสาวของอานนท์"
เรื่องนี้ อานนท์วิศวกรหนุ่มจากสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตัวละครรองในเรื่องปริศนา  มารับบทพระเอก

บทบาทของอานนท์  คือชายหนุ่มผู้แสวงหาหญิงสาวที่เหมาะจะมาเป็นเจ้าสาวของเขา
แต่ไม่ว่ากี่คนที่เขาพบ ก็ "ไม่ใช่" ไปเสียทั้งนั้น
จนกระทั่งไปติดตั้งเครื่องจักรที่โรงงานมะพร้าว ในสวนของคุณนายตวัน เศรษฐินีลือชื่อของคลองน้ำวน
เขาจึงพบครอบครัวชาวสวนที่ศิวิไลซ์อย่างไม่เคยนึกฝัน
โส ลูกชายของคุณนายตวันเรียนอยู่ที่อังกฤษ   ปลูกบ้านในสวนแบบล็อคเคบินในหนังสือฝรั่ง
ครอบครัวนี้เลี้ยงแขกด้วยอาหารฝรั่งเศสอย่างดี  รสเหมือนกินในร้านหรูๆของปารีส
มีเครื่องแก้วเจียระไน และลูกไม้ถักดอยลี่ปูโต๊ะ
อานนท์พบรักกับ สุ สาวน้อยน้องสาวของโส ซึ่งตอนแรกเขานึกว่าเป็นเด็กผู้ชาย
สุเป็นผู้หญิงเก่ง  ขับเรือ เล่นสกีน้ำ ฟังเพลงคลาสสิค  พูดภาษาอังกฤษและจีนเก่ง
เกิดและโตในกัวลาลัมเปอร์ พอเรียนจบมารดาก็พาไปเที่ยวรอบโลกมาหนึ่งปี
เพื่อเปิดหูเปิดตา

นอกจากนี้ พระองค์เจ้าวิภาวดีฯ ยังทรงเพิ่มรสชาติปัญหาชีวิตครอบครัวที่เข้มข้นว่าสองเรื่องแรกลงในเรื่องนี้
คือชีวิตครอบครัวที่ยุ่งเหยิงแบบคลื่นใต้น้ำของพระยาสุทธาฯ  ลุงของปริศนา
พระยาสุทธาฯ จำต้องสละความสุขส่วนตัวของท่านและตวันภรรยาคนแรก
เพื่อแต่งงานกับภรรยาคนที่สอง ชื่อคุณหญิงเจริญตามคำบังคับของมารดา  
แต่ชีวิตสมรสก็ล้มเหลว   ภรรยาคนแรกหนีหายไปพร้อมลูกในท้อง  
ภรรยาคนที่สองเป็นแม่บ้านไร้คุณภาพ
เจ้าคุณกับคุณหญิงแยกกันโดยพฤตินัยตั้งแต่ก่อนลูกคนที่สามเกิด   แต่ก็อยู่ในบ้านเดียวกันอย่างแกนๆ
ความปล่อยปละละเลยของคุณหญิงเจริญส่งผลให้สวนิตลูกสาวคนโต
กลายเป็นเด็กสาวเหลวไหลใจแตก
ไม่รู้จักศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิง   อยากทำอะไรก็ทำแม้แต่หนีตามผู้ชายและท้องไม่มีพ่อ
ไพจิตรลูกคนที่สองก็เป็นเด็กหนุ่มที่เงอะงะขลาดอาย ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง
นิศาลูกสาวคนสุดท้องเป็นเด็กใฝ่ดีเรียนเก่ง แต่กิริยามารยาทยังขาดการอบรม
ผิดกับคุณนายตวันภรรยาคนแรก ที่เลี้ยงลูกฝาแฝดอย่างดี  จบเติบโตเป็นหนุ่มสาวที่สวยงาม มีการศึกษาดี  วางตัวดี และมีอนาคตดี

ในตอนท้ายครอบครัวที่พลัดพรากกันไปก็ได้กลับคืนมารวมกันอีกครั้ง
พร้อมกับอานนท์ก็ได้แต่งงานกับหญิงสาวที่ตรงกับความใฝ่ฝันของเขา


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ก.ค. 05, 16:38
 เมื่อ รัตนาวดี ทำเป็นละครโทรทัศน์ ทางทีวีช่อง 3 แสดงนำโดยขวัญฤดี กลมกล่อม และเกรียงไกร อุณหะนันทน์
มีเพลงประกอบไพเราะมาก

ลมโบกโบยพลิ้วมา พาหมู่ใบไม้ปลิว โรยร่อนตัวละลิ่วลงต่ำ
กายเมื่อต้องสายลม พร่างพรมชื่นฉ่ำ เย็นซ่านทรวงลึกล้ำฉ่ำใจ
รักโบกโบยต้องลม พาผสมรักมา แทรกอุราล้อมดวงฤทัย
ยากเมื่อรักต้องลมตระโบมหัวใจ ช่างอบอุ่นสดใสชื่นบาน

โอ้รักที่ก่อ นี้รอที่เกิด ความรักบรรเจิดทุกสถาน
หากรักเต็มปรี่ฤดีใดนั่น ไม่เลือกวันเลือกเวลา
เป็นผู้ดีหรือไพร่ เป็นผู้ใดไหนกัน ไม่อาจบังขวางกั้นรักไหลบ่า
รวมจิตใจสองดวง ห่วงใยใฝ่หา รักที่ปรารถนาร่วมเรียง"


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ก.ค. 05, 16:50
 พระนิพนธ์ประเภทนวนิยายอีกเรื่องหนึ่ง ที่มีผู้อ่านพูดถึงน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆ
ทั้งที่เป็นนวนิยายชีวิตที่มีสาระโดดเด่น  แจกแจงพฤติกรรมของมนุษย์ได้อย่างน่าทึ่ง
และไม่ซ้ำแบบนวนิยายอื่นๆ ไม่ว่ายุคเดียวกันหรือยุคต่อมา
คือ
"นี่หรือชีวิต"

อาจจะเป็นเพราะคนอ่านพระนิพนธ์ส่วนใหญ่ ติดกับความสุขสดชื่นจากเรื่องปริศนา
และเป็นรสนิยมของคนอ่านจำนวนมากที่ชอบเรื่องพระเอกนางเอก รักกัน เข้าใจผิดกันและจบกันด้วยความสุข
จึงไม่ติดใจเรื่องชีวิตที่ประสบชะตากรรมกันไปคนละแบบ ของพี่น้องสามสาว
ชื่อเพ็ญ ลักษณา และวิไล  
เป็นชีวิตในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง จนถึงราวๆกึ่งพุทธกาล พ.ศ
2500

เพ็ญเป็นพี่สาวคนโตที่สุขุม โอบอ้อมอารี มีชีวิตครอบครัวที่เป็นสุขกับคุณหลวงเมธาวที สามีที่ดีงามพอกัน
ทั้งสองไม่มีลูก  ชีวิตก็เลยต้องอุปการะหลานๆลูกของน้องสาวทั้งสองแทน

ลักษณาแต่งงานกับนายโอภาส  ชายหนุ่มฐานะปานกลางค่อนข้างดี  หน้าตาดี  ด้วยความหลงรักเขาอย่างไม่ลืมหูลืมตา
เมื่อแต่งไปแล้ว มีลูกด้วยกัน 3 คนเธอเพิ่งตระหนักว่าสามีเป็นโรคจิต  มีอาการแบบพวกซาดิสม์ อ่อนๆ
คือต้องกลั่นแกล้งทรมานลูกเมีย เหมือนเป็นศัตรู  เพื่อความสนุกของตน

ลักษณาพยายามทุกทางที่จะให้สามีเลิกนิสัยนี้  แต่เธอก็หมดหวัง ชีวิตเธอและลูกตกอยู่ในความอกสั่นขวัญแขวน ขึ้นกับอารมณ์ดีหรือร้ายของสามี
แต่ลักษณาก็มีทิฐิในทางผิด  ไม่ยอมกลับไปหาความช่วยเหลือจากพี่น้อง เพื่อให้อนาคตของลูกดีกว่านี้
ปล่อยตัวเองไปตามบุญตามกรรม จนติดเหล้า ติดมอร์ฟีน แล้วตายไปในวัยกลางคน
ลูกชายคนกลางหนีออกจากบ้านเพราะทนพ่อข่มเหงน้ำใจไม่ไหว  ลูกสาวคนโตกลายเป็นคนเก็บกดมองโลกในแง่ร้าย  เพราะพ่อกลั่นแกล้งไม่ให้เธอมีโอกาสมีความรักอย่างเด็กสาวอื่นๆ  แต่บีบบังคับปกครองเธอไว้ในอำนาจของเขา
ลูกสาวคนเล็กเท่านั้นที่รอดไปได้  แต่ก็ต้องหวุดหวิดกับภัยจากชายชั่วที่เป็นชู้ของน้าสาว
จนได้พบแสงสว่างจากครอบครัวของลุงและป้า   ได้พบผู้ชายดีและแต่งงานกันในที่สุด


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ก.ค. 05, 17:00
 วิไลน้องสาวคนเล็กในสามสาว เป็นผู้หญิงที่มีบุญเก่าติดตัวมามาก  
นับเป็นตัวละครที่โชคดีที่สุดในเรื่อง  คือสวยมาก  เกิดในครอบครัวดี ไม่เคยลำบาก
แล้วยังได้สามีดี เป็นลูกชายเศรษฐีที่นิสัยดี รักและตามใจภรรยาทุกอย่าง
ทำให้วิไลอยู่เหมือนนางพญา ชีวิตหรูหรา อยากได้อะไรก็ได้ทุกอย่างที่เงินเนรมิตได้
ผู้ชายทั้งหนุ่มและไม่หนุ่มพากันห้อมล้อมเอาอกเอาใจ แม้ว่าเธอมีลูกแล้วก็ตาม

วิไลดำเนินชีวิตตรงกันข้ามกับลักษณา คือเธอบั่นทอนทำลายจิตใจคนทุกคนที่รักเธอ
ด้วยความหยิ่ง อวดดี  หลงตัวเองและเห็นแก่ตัว   ไม่มีความเป็นภรรยาและแม่
จนสามีทนไม่ไหวขอหย่า ไปแต่งงานใหม่  
กรรมบันดาลให้วิไลหลงรักแมงดาปีกทอง  จนลูกสาวทนไม่ได้ต้องตัดขาดจากแม่ไปอยู่กับป้า
ในตอนจบของเรื่องวิไลก็สูญเสียทุกอย่างที่เคยมี  ทั้งความรัก เงินทองและเกียรติ   พาชีวิตไปอับปางกับผู้ชายที่ปอกลอกเธอ

เรื่องนี้เล่าด้วยสำนวนน่าอ่าน ไม่บีบคั้นอารมณ์ผู้อ่าน  แฝงความสนุกสนานตามแบบของผู้นิพนธ์
แต่อาจจะด้วยเนื้อเรื่องที่หนักหนาชวนหดหู่  แม้ในตอนจบมีความสุขหลงเหลืออยู่บ้าง  ก็ไม่บรรเทาได้มากนัก
เรื่องนี้จึงไม่ค่อยจะมีคนเอ่ยถึง  แต่ถ้าอ่าน ก็จะพบสาระที่น่าคิดในการดำเนินชีวิตแฝงอยู่เกือบทุกหน้า


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.ค. 05, 10:37
 นวนิยายขนาดสั้นอีกเรื่องหนึ่งที่คนอ่านรู้จักกันแพร่หลายรองลงมาจากปริศนา  
เพราะเป็นหนังสืออ่านนอกเวลาของชั้นมัธยมศึกษาอยู่หลายปี
คือ "นิกกับพิม"

เป็นจดหมายโต้ตอบกันระหว่างหมา 2 ตัว (คนเขียนก็คือเจ้าของ)
นิก หมาบ๊อกเซอร์  ที่หมู่บ้านภูเขียว  และพิม หมาพูเดิ้ล ในหมู่บ้านในสวิตเซอร์แลนด์
เล่าเรื่องของนายผ่านสายตาหมาแสนรู้
มีทัศนะแปลกๆ ที่คนรักหมาเท่านั้นจะเห็นเป็นของไม่แปลก
เช่นของหอมของมนุษย์ หมารู้สึกว่าเหม็น  แต่ของเหม็นของมนุษย์  กลับเป็นของหอมของหมา

เป็นเรื่องที่อ่านได้ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก  สำนวนภาษาสดใส ร่าเริง ทำให้คนอ่านพลอยยิ้มไปด้วยกับความฉลาดและไร้เดียงสาของนิก กับ พิม


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.ค. 05, 11:41
 นวนิยายอีกชุดหนึ่งที่มีคุณค่ามากต่อวงวรรณกรรมไทย
หาผู้ที่จะเขียนได้ยาก
คือนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ยุโรป   ที่พระองค์เจ้าวิภาวดีฯทรงเรียบเรียงขึ้นจากการค้นคว้าหนังสือจำนวนมาก
แล้วทรงเล่าด้วยสำนวนของพระองค์เอง เป็นภาษาไทย ที่น่าอ่าน

มีเรื่องยาว 3 เรื่อง
คือ
พระราชินีนาถวิกตอเรีย
คลั่งเพราะรัก
และฤทธีราชินีสาว

เรื่องขนาดสั้นอีกเรื่องคือ อภินิหารคมดาบ

ในที่นี้ขอเล่ารายละเอียดเฉพาะเรื่องพระราชินีนาถวิกตอเรียนะคะ

เรื่องนี้แม้ว่าเป็นประวัติศาสตร์  แต่ก็เล่าให้อ่านง่ายในรูปคล้ายนิยาย  มีตัวละคร ฉาก บทสนทนา  จนทำให้คนอ่านติดตามเรื่องได้อย่างมีรสชาติ
เริ่มต้นด้วยฉากที่พระราชินีนาถ เมื่อครั้งทรงเป็นเจ้าหญิงอเลกซานดรินาวิกตอเรีย พระชันษา 18 ปี
ทรงอยู่ในพระราชวังพร้อมพระมารดา ดัชเชสออฟเคนท์ผู้เป็นม่ายพระสวามี อย่างเงียบๆ ค่อนข้างประหยัด เพราะดัชเชสไม่ได้มีรายได้อะไรมากมาย

ผู้นิพินธ์ได้เล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในชีวิตเจ้าหญิงไว้ ซึ่งตำราประวัติศาสตร์มักไม่กล่าวถึง  แต่เมื่อนำลงในเรื่องนี้ก็ให้ภาพที่มีสีสันเอาการ
ดัชเชสออฟเคนท์ทรงเลี้ยงดูพระธิดาอย่างเข้มงวด    ถ้าเป็นสมัยนี้ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้  แต่ในสมัยครึ่งแรกของศตวรรษที่ 19 เป็นเรื่องไม่แปลกนัก
ความเข้มงวดรวมถึงการที่เจ้าหญิงไม่มีวันได้อยู่ตามลำพังเป็นอันขาด แทบจะตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
เมื่อเข้าบรรทม พระมารดาก็บรรทมในห้องเดียวกัน
เสด็จไปไหนมาไหนในวัง พระมารดาก็ต้องเสด็จด้วยเสมอ    หรืออย่างน้อยถ้าไม่เสด็จ เจ้าหญิงอยู่ไหน ต้องมีพระพี่เลี้ยงอยู่ด้วย
กล่าวกันว่าไม่เคยเสด็จลงบันไดตามลำพังโดยไม่มีใครจูงเสียด้วยซ้ำ  คุมกันแจอย่างไม่น่าเชื่อ

ทันทีที่พระเจ้าวิลเลียมที่ 4 ผู้เป็นทูลกระหม่อมลุง เสด็จสวรรคต ราชสมบัติตกอยู่กับเจ้าหญิง
สิ่งแรกที่พระราชินีนาถสาวน้อยทรงทำ  คือโปรดเกล้าฯให้ยกเตียงออกจากห้องบรรทมเดียวกับพระมารดา
แยกบรรทมต่างหาก   เสด็จไปไหนมาไหนเอง  โปรดเกล้าฯให้อัครมหาเสนาบดีได้เข้าเฝ้าตามลำพัง

ทรงเขียนบันทึกประจำวันไว้อย่างละเอียด  และขีดเส้นใต้คำว่า "ตามลำพัง" หรือ "คนเดียว" ไว้ ทุกคำ


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.ค. 05, 13:16

พระบรมฉายาทิสสลักษณ์พระราชินีนาถวิกตอเรีย
ประมาณพระชนม์ 18 พรรษา


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.ค. 05, 13:17

เมื่อทรงขึ้นครองราชย์


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: ดารากร ที่ 24 ก.ค. 05, 02:48
 น่าเห็นใจพระองค์ท่านตอนยังทรงพระเยาว์นะคะ ที่เสด็จแม่คอยคุมแจเลย

หลังสอบดิฉันจะไปลองหาหนังสือแนวชีวิตของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิตมาอ่านดูค่ะ แต่ก่อนเคยอ่านแค่นวนิยายชุดปริศนา แล้วก็นิกกับพิมเท่านั้น


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ค. 05, 08:46
 การที่พระราชินีนาถทรงได้รับการเลี้ยงดูแบบ ไข่ในหิน ไม่ได้ทรงทำให้เป็นผู้หญิงอ่อนแอปวกเปียก
ตรงกันข้าม ทรงพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นหญิงสาวที่ฉลาดเฉลียว เป็นตัวของตัวเอง และฉลาดในการตัดสินใจ
ไม่นานหลังครองราชย์ก็ทรง "จัดการ" กับเสด็จแม่ได้อย่างเด็ดขาดแต่ละมุนละม่อม  ดัชเชสไม่มีอำนาจบงการอยู่เบื้องหลังได้อย่างที่คนนึกว่าท่านจะมี
แม้แต่พระพี่เลี้ยงเลห์เซน ที่ทำท่าว่าจะเข้ามาแทนดัชเชส   ก็พ้นจากหน้าที่ไปหลังพระราชินีนาถอภิเษกสมรส
บุคคลเดียวที่พระราชินีนาถทรงรักและไว้พระทัยอย่างสูงสุดคือพระสวามี
เจ้าชายอัลเบิร์ต แห่งซักซ์-โคบวก-โกธา (ออกเสียงตามในเรื่อง)
เจ้าชายเองก็ทรงเป็นสามีที่ดีเลิศ สมกับความรักของพระราชินีนาถ

ความรักของสองพระองค์เป็นตำนานรักของเจ้านายในยุโรปก็ว่าได้
เพราะร้อยและร้อย  เจ้านายระดับครองอาณาจักร อภิเษกสมรสกันด้วยความเหมาะสมทางการเมือง   ไม่ใช่สมัครใจ
99% อยู่กันไปอย่างแกนๆ ตามหน้าที่  ฝ่ายหญิงก็มักระทมขมขื่นกับความไม่ไยดีของพระสวามี
แต่ว่าพระราชินีนาถ ทรงเลือกคู่อภิเษกเอง ด้วยความพอพระทัยส่วนพระองค์
คือเสนาบดีที่เกี่ยวข้อง ทำหน้าที่กลั่นกรอง เลือกรายพระนามเจ้านายหนุ่มๆที่เหมาะสมมาให้ชั้นหนึ่งก่อน
แต่การตัดสินพระทัยเป็นของพระราชินีนาถเอง


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ค. 05, 09:26
 เจ้าชายที่ทรงเลือก เป็นเจ้าชายหนุ่ม  พระญาติทางฝ่ายดัชเชส
เจ้าชายอัลเบิร์ตได้ชื่อว่าเป็นชายงามเลื่องลือที่สุดองค์หนึ่งในยุโรป
ทรงได้รับการศึกษาอย่างดี  พระนิสัยดี  ความประพฤติดีงาม
พระราชินีนาถทรงหลงรักเจ้าชาย เท่าหญิงสาวจะหลงรักชายหนุ่มได้

ฉากที่พระราชินีนาถเป็นฝ่ายทูลขอสมรสกับเจ้าชาย (ตามธรรมเนียมของพระราชินีนาถ)  เป็นฉากที่พระองค์เจ้าวิภาวดีฯ ทรงบรรยายได้น่ารักน่าเอ็นดูมาก
ขอให้นึกภาพว่าหญิงสาวสมัยนั้น ซึ่งถูกเลี้ยงมาอย่างโบราณ  ต้องขอแต่งงานกับฝ่ายชาย  จะอึดอัดกระดากอายสักแค่ไหน
แต่เจ้าชายก็แสนดี   ทั้งที่ถูกเจ้าชายเออร์เนส พระเชษฐาสั่งห้ามทุกอย่างไม่ให้เกี่ยวข้อง(เพราะพระเชษฐาอยากจะเป็นพระสวามีเสียเอง)
ก็ทรงช่วยบรรเทาความกระดากกระเดื่องของพระราชินีนาถ  ช่วยรวบรัดเหตุการณ์ด้วยการตอบรับอย่างละมุนละม่อม
เรื่องความรักก็จบลงด้วยความสุข

หาพระรูปเจ้าชายมาให้ดูว่าหล่อขนาดไหน


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ก.ค. 05, 16:09
 พระราชินีนาถกับเจ้าชายอภิเษกสมรสกันด้วยความรัก  ทรงอยู่กันมาอย่างเป็นสุข
แต่ก็ไม่วายจะมีเรื่องเล็กๆน้อยๆ กระทบกระทั่งกันแบบลิ้นกับฟัน
เรื่องที่เล่าไว้ในหนังสือเล่มนี้ ก็อย่างเช่นทรงแง่งอนทะเลาะกันบ้าง  พระราชินีนาถทรงหึงนางพระกำนัลสาวสวยบ้าง
แต่ก็เป็นการหึงไปเปล่าๆปลี้ๆ เจ้าชายไม่ใช่ชายเจ้าชู้   ทรงซื่อสัตย์และรักครอบครัวเป็นอันดับหนึ่ง

คุณสมบัติอันดีงามปราศจากตำหนิ ทำให้เจ้าชายไม่เพียงแต่กุมพระทัยพระราชินีนาถไว้ได้ตลอด แต่ทรงชนะใจคนอังกฤษด้วย

สมัยวิกตอเรียน เป็นสมัยที่คนมีนิยมครอบครัวขนาดใหญ่  พระราชินีนาถและเจ้าชายพระสวามีทรงมีพระราชโอรสธิดาถึง ๙ พระองค์

เจ้าชายทรงงานหนักมาก  ทรงทำทุกอย่างเพื่อราชอาณาจักร เป็นผู้ที่พระราชินีนาถทรงเชื่อถือมากที่สุด
แต่น่าเสียดายว่าพระชันษาแค่ ๔๒ ปี ก็ประชวรหนัก ประกอบกับหมอหลวงก็เป็นคนหัวโบราณ วินิจฉัยโรคไม่ถูก
ทำให้เจ้าชายสิ้นพระชนม์ลง อย่างไม่น่าจะเป็น

ต่อจากนั้นจนสิ้นรัชกาล  พระราชินีนาถทรงระทมทุกข์แสนสาหัส  ทรงฉลองพระองค์ไว้ทุกข์สีดำมืดจนเสด็จสวรรคต

มีภาพหลายภาพที่แสดงความผูกพันในครอบครัว
พระราชินีนาถและพระราชโอรสธิดา ทรงนำพระฉายาทิสสลักษณหรือรูปปั้นของเจ้าชายมาตั้งไว้ด้วย ยามฉายพระรูป
แทนความหมายว่า เจ้าชายยังทรงอยู่ในครอบครัวเสมอ

ภาพนี้เจ้าฟ้าหญิง ๕ พระองค์  ทรงฉายพร้อมรูปปั้นของพระราชบิดา


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ก.ค. 05, 16:34

พระบรมฉายาลักษณ์ ไม่นานก่อนเจ้าชายสิ้นพระชนม์


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.ค. 05, 16:35
 แม้ทุกข์โศกแค่ไหน   พระราชินีนาถก็ยังทรงทำหน้าที่ต่อไป ด้วยศักดิ์ศรีของนางกษัตริย์อย่างน่าชมเชย
พระราชโอรสธิดาทรงจำเริญวัยขึ้น ก็ได้อภิเษกไปกับเจ้านายสำคัญๆ ทั่วยุโรป  
เมื่อเข้าไปเกี่ยวดองกับราชวงศ์ต่างๆ มากมาย  พระเดชานุภาพของพระราชินีนาถก็ยิ่งแผ่กว้างไพศาล
อังกฤษเข้าสู่ยุคจักรวรรดิ  มีอาณานิคมทั่วโลก  จนได้ชื่อว่าพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินในจักรภพอังกฤษ
พระราชินีนาถทรงผ่านเหตุการณ์ต่างๆทั้งร้ายและดีมากมาย   ถูกลอบปลงพระชนม์ก็หลายครั้งแต่ก็ทรงแคล้วคลาดทุกครั้ง
ในบั้นปลายทรงมีมหาดเล็กที่จงรักภักดีชื่อจอห์น บราวน์  ซึ่งทรงไว้วางพระทัยในความซื่อสัตย์ของเขา
แต่บราวน์ไม่เป็นที่นิยมของราชสำนัก  เพราะนิสัยกระด้างหยาบคาย ไม่รู้จักมารยาทผู้ลากมากดี

นี่คือภาพบราวน์กำลังจูงม้าให้พระราชินีนาถ


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.ค. 05, 16:41
 ราชสำนักในสมัยนั้น  เข้มงวดเรื่องศีลธรรมจรรยายิ่งกว่าครั้งใดๆ
ใครที่ประพฤติผิดนอกใจคู่สมรส อาจถูกขับไล่ออกจากราชสำนักได้ง่ายๆ
กุลสตรีจะต้องไม่พูดถึง "ขา" และ "อก" ถือเป็นคำหยาบ
แม้แต่โต๊ะก็ต้องคลุมผ้าถึงพื้นมิให้เห็น "ขา"   อกไก่ใช้คำว่า white meat ขาไก่คือ dark meat
พระราชินีนาถทรงยึดแนวความประพฤติของพระสวามีเป็นหลัก
เจ้าชายทรงเป็นชายที่ไม่สนใจเรื่องผู้หญิง  การพนัน เหล้าหรือแม้แต่บุหรี่  ไม่โปรดสังคมเฮฮาสนุกสนาน  ทรงทำแต่งานและอยู่ใกล้ชิดครอบครัว

บุคคลที่ตรงกันข้ามคือพระราชโอรสพระองค์ใหญ่  เอ็ดเวิร์ด อัลเบิร์ต  ปรินซ์ออฟเวลส์ ผู้ทรงใช้ชีวิตวัยหนุ่มแบบหนุ่มเจ้าสำราญ จนกระทั่งแก่
เป็นที่กริ้วของสมเด็จแม่  จนเจอกันทีไรก็มีเรื่องขัดพระทัย  ให้พระราชินีนาถทรงเสียพระอารมณ์แทบทุกครั้ง
แต่เจ้าชายก็ทรงเป็นผู้มีพระอารมณ์ดี สนุกสนาน เป็นที่รักของประชาชน

ปรินซ์ออฟเวลส์พระองค์นี้ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระราชมารดา  เป็นพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7
เป็นผู้ที่รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งเสด็จยุโรป
และเสด็จสวรรคตในเวลาไล่เลี่ยกัน  ก่อนหน้าพระเจ้าอยู่หัวของสยามไม่กี่วัน


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ก.ค. 05, 09:06
 สิ่งละอันพันละน้อยที่นำมาลงต่อไปนี้ ไม่ได้มาจากหนังสือ
แต่ดิฉันเคยรวบรวมไว้ ว่ามีอะไรบ้างที่เป็นแบบ "วิกตอเรียน"
บางอย่างก็ยังเห็นกันอยู่จนถึงปัจจุบัน  เพียงแต่เรามักไม่รู้ว่ามันมีกำเนิดมาจากสมัยที่อังกฤษยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

นี่คือโซฟาแบบวิกตอเรียน  ออกแบบให้กว้าง  ถ้าผู้หญิงนุ่งกระโปรงสุ่มไก่ ใช้ผ้า 30เมตร นั่งอยู่มุมหนึ่ง กระโปรงเธอก็มีเนื้อที่พอจะแผ่ไปได้ถึงกลางโซฟา   ส่วนเจ้าหนุ่มนั่งอยู่อีกมุม


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ก.ค. 05, 09:09

รองเท้าส้นสูงแบบวิกตอเรียน
ประดับระบายและดอกไม้  เป็นผู้ยิ้งผู้หญิง
ตามภาพลักษณ์สมัยนั้นว่าผู้หญิงจะต้องสวย อ่อนหวานและเปราะบางน่าทะนุถนอม


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ก.ค. 05, 10:10
 บ้านแบบวิกตอเรียน


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ก.ค. 05, 10:11
 ตู้หัวเตียง แบบวิกตอเรียน


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ก.ค. 05, 10:13

ลูกไม้แบบวิกตอเรียน


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ก.ค. 05, 10:34
 เรื่องอิงประวัติศาสตร์อีกเรื่องที่แนะนำให้อ่าน ก็คือ คลั่งเพราะรัก
แต่ขอเล่าเพียงสั้นๆ
เป็นพระประวัติของเจ้าหญิงฮวนน่าแห่งอารากอน (สเปน)
ซึ่งอภิเษกสมรสกับเจ้าชายฟิลลิปแห่งออสเตรีย  ผู้ได้สมญาว่า "รูปหล่อ"
Philip the Handsome
เจ้าชายก็ทรงเจ้าชู้สมกับความหล่อ   ไปมีพระสนมชื่อเคานเตสแจเมน เดอ ฟัว
ซึ่งต่อมาเมื่อหลุดจากตำแหน่งพระสนมแล้ว ก็กลับมาเป็นแม่เลี้ยงของเจ้าหญิง
เพราะพระเจ้าเฟอร์ดินานด์ พระบิดาเจ้าหญิง ทรงเป็นชายแก่ที่ยังกระชุ่มกระชวย   ในเรื่องก็แสดงให้เห็นความเจ้าเล่ห์มากเอาการ

เมื่อฟิลลิปสิ้นพระชนม์  ความเศร้าโศกเสียใจทำให้เจ้าหญิงฮวนน่าเสียพระสติ
ทรงเก็บพระศพเจ้าชายไว้ข้างพระกาย เป็นเวลาถึง 10 ปีเต็ม

ประวัติศาสตร์สเปนและออสเตรียอาจไม่คุ้นหูคนไทยนัก  แต่เรื่องนี้ผู้นิพนธ์ทรงลำดับเรื่องและเล่าอย่างให้เข้าใจกันง่าย ไม่ซับซ้อน
เป็นหนังสืออิงประวัติศาสตร์ที่อ่านเสาะหามาอ่านอีกเล่มหนึ่ง


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: Andreas ที่ 28 ก.ค. 05, 22:09
 This is such a beautiful way of telling us the story...


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ก.ค. 05, 07:46

นอกจากเรื่องอิงประวัติศาสตร์ที่บอกรายชื่อไว้ข้างบนนี้แล้ว
พระนิพนธ์เรื่องสั้นๆตลอดจนเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยต่างๆยังมีอีกหลายเรื่องด้วยกัน
ในจำนวนนี้ มีเรื่องนักสืบหนุ่มสาวสองสามีภรรยา ชื่อ ศุกระวาร กับมาณศรี
เป็นเรื่องสืบสวนที่สนุกมากค่ะ มีหลายตอน  บททำเป็นละครวิทยุก็มี
แล้วก็มีเรื่องผี ขนาดสั้น ด้วย

มีสารคดี  ชื่อ "เรื่องตามเสด็จอเมริกา  จดหมายถึงเพื่อน จากหม่อมเจ้าวิภาวดี รังสิต 14 มิถุนายน ถึง 18 สิงหาคม พ.ศ. 2503 เล่าถึงเหตุการณ์เมื่อตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ
เมื่อครั้งเสด็จเยือนสหรัฐอเมริกาและยุโรป  พ.ศ. 2503
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วได้ทั้งความบันเทิงและสาระ
ทรงบรรยายละเอียดลออ จนคนอ่านอาจจะรู้สึกเหมือนได้ตามขบวนเสด็จไปด้วยตนเองทีเดียว

พระบรมฉายาลักษณ์ข้างบนนี้คือสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระเจ้าโอลาฟแห่งนอร์เวย์และสมเด็จพระราชินีมาร์ธา
เป็นภาพเมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินเยือนสหรัฐอเมริกาและยุโรป 2503


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ส.ค. 05, 08:54
นอกจากนี้ ก็คือสารคดีเรื่อง
- ตามเสด็จปากีสถาน
ทรงบันทึกพระราชกรณียกิจในพระบบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในโอกาสที่เสด็จเยือนปากีสถานอย่างเป็นทางการ เมื่อ พ.ศ. 2505
- เสด็จดอย  จดหมายเหตุรายวันคราประทับภูพิงคราชนิเวศน์ เชียงใหม่ พ.ศ. 2513

ขอยกตัวอยางพระนิพนธ์บางตอนมาลงค่ะ

เสาร์ 31 มกราคม 2513
เวลา 16.30 น. ทั้งสองพระองค์เสด็จไปดอยปุยเพื่อทรงพระดำเนินขึ้นลงเขาต่างๆ แถวนั้นหนักไปกว่าเมื่อวาน    สมเด็จพระบรมราชินีนาถทรงลื่นล้ม พระชานุเป็นแผลข้างหนึ่ง   ผู้ตามเสด็จบางคน" ไม่ไหว" ต้องให้ทหารช่วยฉุดขึ้นเขาไปยังดอยหมู
เสด็จกลับที่ประทับเวลา 19.15 น.

อังคาร 3 กุมภาพันธ์ 2513
เวลา 16.30 น. เสด็จฯโดยรถพระที่นั่งไปยังดอยปุย   เสด็จทรงพระดำเนินลงเขา 6 ลูก ไปถึงเขตอำเภอแม่ริม  แล้วเสด็จฯ กลับทางเดิม  
ขึ้นถึงดอยปุย นับว่าหนักมาก  
ข้าราชบริพาบางคนไม่ได้ตามเสด็จ   มีบางคนที่ตามเสด็จลง แล้วขึ้นไม่ไหว  ต้องให้ตำรวจชายแดนใช้เชือกผูกเอวจูงขึ้น  
ท่านผู้ใหญ่บางท่านลงไปแล้วขึ้นไม่ไหวเพราะเขาชันนัก  ได้ขอร้องให้ทหารหนุ่มๆดันขึ้น   ซึ่งพอมาถึงยอดเขา ผู้ดันหอบแฮ่ก.... แต่ผู้ถูกดันสบายดี


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ส.ค. 05, 09:31
 พระองค์เจ้าวิภาวดีฯ เริ่มเข้ารับราชการสนองพระเดชพระคุณในการโดยเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรทั่วประเทศ ตั้งแต่พ.ศ. 2500  
ทรงดำรงตำแหน่งเลขานุการส่วนพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ  
ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้โดยเสด็จในตำแหน่งนางสนองพระโอษฐ์  ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ หลายประเทศด้วยกันทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรป เอเชียและออสเตรเลีย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงกระกรุณาโปรดเกล้าฯให้พระองค์เจ้าวิภาวดีฯ เสด็จไปปฏิบัติพระราชภารกิจแทนพระองค์ในการเยี่ยมเยียนราษฎร
ครั้งแรกที่บ้านส้อง อ.เวียงสระ สุราษฎร์ธานี
ต่อไปที่อ.พระแสง
ก็เสด็จไปด้วยพระวิริยะอุตสาหะ  ไม่ได้คำนึงถึงความลำบากในถิ่นทุรกันดาร
ตั้งพระทัยว่าจะทรงช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบความลำบากยากแค้น  ในถิ่นที่ราชการอาจจะยังเข้าไปช่วยเหลือไม่ได้มากนัก  

ทรงเล่าถึง อ.พระแสง ไว้ในพระนิพนธ์ " เล่าเรื่องเมืองพระแสง" ว่า

"การเดินทางระยะทางเพียง 16 กิโลเมตร  จากสถานีบ้านส้องไปพระแสงนั้นทุลักทุเลมาก  ตอนแรกข้าพเจ้านั่งรถจิ๊ปบุกไปตามที่กว้างพอใช้
แต่ลื่นและเป็นหลุมเป็นบ่อทำให้กระเทือนมาก
แต่นั่งรถจิ๊ปไปได้ไม่นาน ถนนก็เละ และแคบเข้าทุกที  ข้าพเจ้าก็เลยต้องลงจากรถจิ๊ปเดินลุยโคลนไปพักใหญ่
พอค่อยหายเละ ก็ไปเกาะท้ายรถจักรยานยนต์  ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า "ฮอนด้า"คดเคี้ยวไปตามทุ่งนา ทุ่งหญ้า สวนยาง ป่าไม้
ผ่านบ้านเรือนราษฎร ข้ามขอนไม้  ในที่สุดลงไปแล่นอยู่ในลำธารก็หลายครั้ง
ทางบางตอนก็ต้องลงจากรถ เดินไปเพราะแคบมาก
หนามเกี่ยวเนื้อตัวเป็นริ้วเป็นรอย และเฉอะแฉะจนจักรยานยนต์ลื่นไปมา"


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ส.ค. 05, 10:29
 เส้นทางที่ลำบากในการติดต่อกับสังคมภายนอก  ทำให้พระแสงเป็นเหมือนเมืองปิด
ทรงเล่าว่า
ในอำเภอพระแสง มีบ้านไม้ของราชการเพียง 3-4 หลัง คือที่ว่าการอำเภอซึ่งจวนจะพัง  เอียงโย้ไปทางซ้ายทั้งหลัง
สถานีตำรวจก็สภาพใกล้พังพอกัน เอียงโย้ไปทางขวา
สถานีอนามัย ใหม่กว่าเพราะสร้างเมื่อ พ.ศ. 2478 ยังคงยืนตรงพอใช้

ราษฎรมีฐานะยากจน  แทบไม่เคยติดต่อกับคนนอกหมู่บ้าน  
ข้าราชการไม่มีบ้านพัก  ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ไม่เคยไปตรวจงาน
ความทุรกันดารของพระแสงเป็นที่พูดกันทีเล่นทีจริงว่า ไปเวียตนาม(ซึ่งอยู่ในภาวะสงคราม) ดีกว่าไปพระแสง

หลังจากพระองค์เจ้าววิภาวดีฯเสด็จเยี่ยมพระแสง  เมื่อ เสด็จกลับก็ทรงเผยแพร่เรื่อง พระแสง ให้เป็นที่รู้จักกัน   ความสนใจจึงเริ่มหลั่งไหลจากส่วนกลางไปที่หมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนับสนุน"หน่วยพระราชทาน" ที่ข้าราชการอนามัยชั้นตรีผู้หนึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้จัดตั้งขึ้น เพื่อบำบัดรักษาโรคแก่ราษฎรตามหมู่บ้านต่างๆ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  พระราชทานทุนเพื่อก่อตั้ง"มูลนิธิพัฒนาอนามัยจังหวัดสุรษฎร์ธานี"
นอกจากนี้ เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมพระแสงถึง 2 ครั้งในช่วงปีพ.ศ. 2511-12
ครั้งแรกเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ
ครั้งที่สองเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ
ยังความปลาบปลื้มแก่ราษฎรชาวพระแสงอย่างล้นพ้น

หน่วยราชการต่างๆก็เริ่มทยอยกันให้ความช่วยเหลือพระแสง  มีโครงการต่างๆเพื่อพัฒนาพระแสง
เพียง 3-4 ปี หลังจากพระองค์เจ้าวิภาวดีเสด็จไปพระแสงครั้งแรก
พระแสงก็กลายเป็นเมืองเปิด   ไม่ห่างไกลอีกต่อไป


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 07 ส.ค. 05, 10:53
 แวะมาตามอ่านกระทู้อาจารย์เทาชมพูครับผม


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 10 ส.ค. 05, 17:50
 I have picture of Praongjao Vibhavadee on the wedding ka, but the file is too big, what can I do ka?


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 05, 11:00
 ย่อภาพลงให้เหลือไม่เกิน 40 kb. ค่ะ
แล้วค่อยโพสต์


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 14 ส.ค. 05, 17:13

เอาเรามาเข้าเรื่องกันบ้างนะครับ ผมไปค้นข้อมูลมาในกูเกิล ดอท คอม 203.170.173.156/rLocal/stories.php?page=3&topic=3 เขา บอกว่า พระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต อาจจะไม่เคยได้ยินกัน แต่ถ้าบอกว่า ว.ณ ประมวลมารค อาจจะเคยได้ยินนะครับ ที่ประพันธ์เรื่อง ปริศนา  รัตนาวดี นิกกับพิม พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต มีพระนามเดิมว่า หม่อมเจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต หรือพระนามปากกาในการประพันธ์ว่า ว.ณ ประมวลมารค
เป็นพระธิดาของ พระเจ้าวรวงค์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ (พระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัส)
ประสูติเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2463
มีพระอนุชาร่วมพระบิดา-มารดา คือ หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี
หม่อมเจ้าวิภาวดีรังสิต ได้เสกสมรสกับ หม่อมเจ้าปิยะรังสิต รังสิต เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 มีธิดา 2 องค์คือ ม.ร.ว.วิภานันท์ คงศิริ และ ม.ร.ว.ปริยานันทนา รังสิต
สิ้นชีพิตักษัย เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2520 ขณะปฎิบัติหน้าที่ราชการชายแดน
พระชนมายุได้63 พรรษา  


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 14 ส.ค. 05, 17:22

Queen Elizabate 1  


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: ครูไผ่ ที่ 15 ส.ค. 05, 04:05
 ความเห็นที่ 59 รูปใครคะ คุณ vun


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 ส.ค. 05, 10:52

จะมาเล่าต่อในสัปดาห์นี้ค่ะ


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: ครูไผ่ ที่ 15 ส.ค. 05, 21:06
 คุณ Nuchan ในความเห็นที่ 57  
ถ้าไฟล์รูปภาพไม่ใหญ่เกิน 2 เม็กกะไบต์ ส่งเข้า mail ครูไผ่นะคะ จะแปลงให้เหลือไม่เกิน 50 กิโลไบต์แล้ว post ให้  อยากเห็นรูปท่านค่ะ


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: paganini ที่ 16 ส.ค. 05, 00:09
 ติดตามตลอดครับอาจารย์


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ส.ค. 05, 11:04
 ต่อค่ะ

"หน่วยพระราชทาน" ที่พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิตเสด็จไปเพื่อเยี่ยมเยียนราษฎร ไม่ได้มีแต่ทางใต้ แต่ทรงขึ้นเหนือไปเยี่ยมชาวเขา ที่เชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน
การเดินทางก็ไม่ใช่ว่าไปทางรถยนต์   เพราะเส้นทางไกลจนไม่มีทางรถยนต์  ต้องพากันเดินไป

ทรงบันทึกไว้ตอนหนึ่งเมื่อเสด็จไปเยี่ยมหมู่บ้านลัวะ ว่า

" เราต้องผ่านทุ่งนาของพวกลั้วะบ้านกองลอยไปนานโข  
จึงถึงป่าโปร่งซึ่งต้องเดินผ่านอีกหลายกิโลเมตร  แล้วก็ค่อยๆขึ้นเขา
เมื่อแรกก็เป็นเขาลาดๆ แต่ยิ่งเดินก็ยิ่งชันขึ้นทุกที
บางทีก็ต้องเดินไปตามลำห้วย    
เดี๋ยวก็ต้องข้ามลำห้วยซึ่งถ้าแคบ และมีก้อนหินวางอยู่เป็นแห่งๆ
ก็พอจะข้ามไม่ให้รองเท้าเปียกได้
แต่บางทีลำห้วยกว้าง  น้ำลึกถึงเข่าก็ไม่มีทางอื่น
นอกจากเดินลุยน้ำเย็นเจี๊ยบนั้นไป


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ส.ค. 05, 11:06
 เดี๋ยวก็ต้องเดินไปตามสันเขา ซึ่งแคบมากและชัน
บางทีก็ต้องเดินตรงทางแคบซึ่งมีเขาชันอยู่ข้างหนึ่ง  เหวอีกข้างหนึ่ง
แต่ถ้าต้องสวนทางกับพวกม้าหรือล่อขนของของชาวเขาละก็
พวกเราจำที่จะต้องหลบตะเกียกตะกายปีนเขาขึ้นไป
ห้อยตัวต่องแต่งเกาะหินหรือกิ่งไม้ไว้ไม่ให้ลื่นลงมาโดยเร็วที่สุด
ให้พ้นทางของมัน
ถ้ามัวชักช้างุ่มง่ามอยู่บนทางเดินแคบๆซึ่งเอียงไปทางเหว
ก็จะถูกเจ้าพวกนั้นชนตกเหวโดยไม่ทันรู้ตัว
เพราะเจ้าสัตว์พวกนั้นออกจะอันธพาล   เป็นเจ้าของถิ่น  ไม่มีการหลบทางให้ใครเลย
แม้แต่เจ้าของของมันเอง  มันก็พยายามเบียดให้เดินหมิ่นๆใกล้เหวให้มากที่สุดเสมอ

ตกลงเป็นอันว่าวันนั้นเราไต่ภูเขาสูงๆถึง 11 ลูก
เขาต่ำๆลาดๆ กับป่าโปร่งและทุ่งนา ที่ราบไม่นับ
ครูบอกว่าระยะทางคงไม่น้อยกว่า 30 กิโลเมตร"


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ส.ค. 05, 11:21
 เส้นทางทุรกันดารตั้งแต่เหนือจดใต้ มิได้ทำให้พระองค์เจ้าวิภาวดีฯทรงย่อท้อ
ตรงกันข้าม  ทรงเผชิญและปรับพระองค์ได้ทุกครั้ง พร้อมที่จะทรงเดินทางครั้งต่อไป
หลังพระภารกิจครั้งก่อนจบลง
ไม่ว่าเผชิญอากาศหนาวเย็นจับใจทางเหนือ  ฝนตกหนักทางใต้  ปีนเขาทางเหนือและฝ่าป่าดงทางใต้ ที่พักแรมตามมีตามเกิด  อาหารการกินเท่าที่จะหาได้   ก็ทรงมองทุกอย่างด้วยพระอารมณ์แจ่มใส  
เห็นเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยาก  
เพื่อเยี่ยมเยียนไต่ถามทุกข์สุขของประชาชน  ประทานความช่วยเหลือเรื่องปัจจัย 4 เท่าที่จะทำได้
เรื่องเล็กๆน้อยๆที่ทรงเจอ ชาวกรุงผู้ไม่เคยตรากตรำอาจเห็นเป็นเรื่องลำบาก   ก็ทรงเห็นเป็นเรื่องขำขัน  ไม่ได้เห็นเป็นอุปสรรคแต่อย่างใด


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ส.ค. 05, 11:22
 " คืนนั้นเป็นคืนที่พวกเราต้องทรมานหลายอย่าง  นอกจากจะต้องการอากาศสดสำหรับสูดเข้าปอดฯลฯ แล้ว  
ยังต้องฟังเสียงกรนของแม้วในกระต๊อบอีกด้วย  
ข้าพเจ้าเชื่อว่าไม่มีมนุษย์ใดจะกรนดังเท่าแม้วที่สูบฝิ่นเป็นแน่
พวกเราต่างปลงอนิจจังพลางเกิดเส้นตื้นหัวเราะกันไปพลาง  กว่าจะเหนื่อยจนหลับไปได้ก็ดึกโข"

และ

" พอกลับมากรุงเทพ   ลูกน้องฝ่ายหญิงคนที่หนึ่งของข้าพเจ้าก็ใส่เฝือกเดินกระโผลกกระเผลกถือไม้เท้าไปหลายวัน
ได้ความจากหมอว่าเอ็นที่ข้อเท้าฉีกไปเอ็นหนึ่ง  มีเลือดคั่งอยู่ข้างใน
ส่วนคุณหมอสวัสดิ์ก็หัวเข่าบวม  เป็นแผลไป 2 นิ้วต้องสวมรองเท้าคีบ
ส่วนคุณดุสิตนั้นฝ่าเท้ากับส้นเท้าหนังหนาราวกับ "ตีนแรด" ตามที่คุณหมอสวัสดิ์ว่า
เพราะเดินๆไปรองเท้าเกิดทรยศ   เลยต้องสวมแต่ถุงเท้าเดิน
ผู้ชายอีกสองคนในคณะก็เป็นหวัดงอมแงมไปคนหนึ่ง
ส่วนนิ้วเท้าของทั้งคู่ก็มีตาปลาขนาดยักษ์เกิดขึ้นมาเต็มคนละ 10 แห่ง
มีแต่ลูกน้องฝ่ายหญิงคนที่สอง นายประเทืองกับข้าพเจ้าเท่านั้น
ซึ่งนอกจากน่องแข็งโป๊ก มีกล้ามเนื้อขึ้นอยู่ไม่กี่วันก็หายเป็นปกติ"

ทรงเล่าในตอนท้ายว่า  เมื่อทรงชวนให้ไปเดินทางเยี่ยมเยียนประชาชนกันอีก
ทุกคนก็รับคำทันที


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 16 ส.ค. 05, 18:41
 อ๋อ ราชินีวิคตอเรีย อังกฤษไงครับ


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ส.ค. 05, 10:10
 ในปี 2520 สถานการณ์การก่อการร้ายทางภาคใต้รุนแรงมาก   จนพูดกันว่าภาคใต้กำลังลุกเป็นไฟ        
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์   พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ทรงมีกำหนดเสด็จภาคใต้เพื่อนำสิ่งของพระราชทานไปประทานแก่ตำรวจ ทหารและอ.ส. ที่ปฏิบัติการในแนวหน้า
ทั้งที่เพิ่งเสด็จกลับจากน่านและสุโขทัยก่อนหน้านี้วันเดียว  ก็เสด็จลงภาคใต้ทันที
ทรงนิมนต์พระภิกษุที่มีประชาชนเคารพนับถือร่วมคณะไปด้วย 2 รูป  คือ พระมหาวีระเถวโร (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ) วัดท่าซุง สิงห์บุรี   และ หลวงปู่ พระครูบาธรรมไชย  วัดทุ่งหลวง  อ. แม่แตง  จ.เชียงใหม่

เส้นทางรถยนต์ที่จะเสด็จไปนครศรีธรรมราช ไม่ปลอดภัย และเสียเวลามาก  จึงเสด็จโดยเฮลีคอปเตอร์แทน ไปที่ที่ทำการกองร้อย
หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ได้แสดงธรรมและให้พรแก่ตำรวจตระเวนชายแดน
ท่านได้มอบผ้ายันต์ธงมหาพิชัยสงคราม และเหรียญเอกราช แก่ตำรวจทุกคน
หลวงปู่ธรรมไชย ได้ประพรมน้ำมนต์ให้ตำรวจทุกคน

ทรงพักค้างแรมที่ทุ่งสง   ทำสังฆทานอุทิศส่วนกุศลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจของสุราษฎร์ธานี
ที่ถูกผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์โจมตีที่สถานีตำรวจจนเสียชีวิต รวม 5 นาย


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ส.ค. 05, 10:28
 ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ประมาณตีสอง  ผู้ก่อการร้ายกลุ่มหนึ่งได้เข้าโจมตีสถานีตำรวจคลองปาง เขตติดต่อกับทุ่งสง  ห่างจากที่ประทับประมาณ 11 ก.ม.  
ปิดล้อมและระดมยิงเข้าไป  พร้อมทั้งประกาศให้ยอมแพ้วางอาวุธ มอบให้ทางฝ่ายผู้โจมตี
แต่ตำรวจประจำสถานี ยิงต่อสู้ผู้ก่อการร้ายมิให้เข้าเผาทำลายและยึดอาวุธของฝ่ายตำรวจได้สำเร็จ   ได้ยิงต่อสู้จนผู้ก่อการร้ายบาดเจ็บ ล่าถอยไป

เมื่อตอนเช้าความทราบถึงพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีฯ ก็เสด็จไปพร้อมกับตำรวจตระเวนชายแดนเพื่อเยี่ยมเยียนสร้างขวัญกำลังใจให้ตำรวจ

วันที่ 16 กุมภาพันธ์   มีกำหนดเสด็จต่อไปที่อ.เคียนซา และอ.พระแสง  
ระหว่างเดินทางทางเฮลีคอปเตอร์  
ทรงทราบจากวิทยุว่า  มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนซึ่งไปสร้างบ้านพักพระราชทานให้ราษฎร ที่ บ.เหนือคลอง   ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ สุราษฎร์ธานี
ได้รับบาดเจ็บจากกับระเบิดของผู้ก่อการร้าย    อาการสาหัส
ก็ทรงห่วงใยผู้บาดเจ็บ  เห็นความจำเป็นที่จะต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน  

แทนที่จะให้เฮลีคอปเตอร์ส่งเสด็จที่เคียนซาก่อน แล้วค่อยย้อนกลับมารับผู้บาดเจ็บ อย่างที่นายตำรวจผู้ถวายอารักขาทูล
ก็ทรงให้นำเฮลีคอปเตอร์ลงเพื่อแวะรับผู้บาดเจ็บกลับไปด้วยกัน เสียเลย  ได้ไม่เสียเวลา
โดยไม่ทรงห่วงสวัสดิภาพของพระองค์เอง
เนื้อที่ว่างในเฮลิคอปเตอร์ไม่พอ  ก็ทรงให้คณะลงไปก่อนที่ บก.ร้อย จุดใกล้ที่เกิดเหตุ  
เหลือแต่พระองค์เองกับนายแพทย์ กับเจ้าหน้าที่ ใน ฮ.  ไปรับผู้บาดเจ็บ

คำสั่งสุดท้าย ที่ทรงเขียนก็คือ
" เดี๋ยวให้ทุกคนลง   เจ้าหญิง( ทรงหมายถึงพระองค์เอง  เป็นคำที่หลวงปู่ธรรมไชยเรียก) จะไปรับคนเจ็บ 2 คนกับหมอ กับผู้กำกับ
หลวงพ่อ หลวงปู่ คอยสักครู่ที่โรงตำรวจ
หลวงพ่อ หลวงปู่ สวดมนตร์คุ้มครองให้พวกเราปลอดภัยด้วย
หมู่นี้มันยิงเรือบินเกือบทุกวัน
เดี๋ยวจะมารับไปพระแสงเคียนซา"


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: หยดน้ำ ที่ 17 ส.ค. 05, 17:23
 มาติดตามอ่านด้วยคนครับ  *_*


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ส.ค. 05, 11:28
 การบินของ ฮ.ช่วงนี้เปิดประตูทั้ง 2 ด้าน  

ขณะที่เครื่อง ฮ.บินมาเหนือสวนผลไม้และสวนยาง   นักบินมองเห็นบ้านพระราชทานซึ่งเป็นเป้าหมายที่จะลงจอดรับคนบาดเจ็บ  ห่างไปประมาณ 1 ก.ม.เศษ  
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงปืนรัวขึ้นถี่ยิบจากเบื้องล่าง  กระสุนชุดแรกพุ่งขึ้นมา ทะลุขาพ.ต.ท. สุดินทร์ สิงหรา ณ อยุธยา(ยศในขณะนั้น) ผู้กำกับ ตชด.เขต 8  
ผู้กำกับฯตะโกนสั่งให้นักบินนำ ฮ.ขึ้นสูงทันที    เสียงกระสุนปืนกระทบเครื่องบินดังก้องไปหมดทั่วลำ

ในช่วงความชุลมุนวุ่นวายนี้เอง  ก็ได้ยินเสียงรับสั่งว่า
"ฉันถูกยิง"
ผกก.หันไปดูเห็นพระพักตร์ฟุบ พระองค์ซวนมา จึงประคององค์ไว้  ส่วนนายแพทย์และพยาบาลพยายามอุดปากแผลห้ามเลือด
ขณะที่ ฮ.กำลังร่อนลง   ผกก.สบตานายแพทย์ เห็นส่ายศีรษะ ก็เข้าใจทันทีว่าหมดหวัง

ผกก.สั่งฮ.ให้บินไปที่ร.พ.สุราษฎร์ซึ่งใกล้ที่สุด   แต่เครื่องได้รับการเสียหายหนักจากการระดมยิงของผู้ก่อการร้าย  เข็มเครื่องวัดทุกตัวไม่ทำงาน
และเครื่องอาจระเบิดได้ทุกวินาที   นักบินจำต้องร่อนลงที่สนามหน้าโรงเรียนวัดบ้านส้อง

เมื่อเครื่องลงถึงพื้นดินแล้ว ผกก.วิทยุสั่งการไปที่บก.ร้อยให้นิมนต์หลวงพ่อและหลวงปู่เดินทางมาโดยเร็วที่สุด  

ในระหว่างนี้นายแพทย์ได้ถวายน้ำเกลือ    พระอาการดีขึ้นอย่างประหลาด   ไม่มีอาการทุรนทุราย
รับสั่งทั้งที่ยังหลับพระเนตรว่า
"ตชด.เป็นอย่างไรบ้าง   เอาออกมาได้หรือยัง   ให้รีบไปส่งโรงพยาบาล
อย่าให้พวกมันรู้ว่าฉันถูกยิง  มันจะเหิมเกริม   หนาว ปวด เมื่อย"

สักครู่ก็รับสั่งต่อไปว่า
" ฉันไม่ได้เป็นไรแล้ว  ตชด.มาหรือยัง  ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลด่วน"
รับสั่งย้ำว่า
"คุณสุดินทร์  นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาลเร็วเข้า"


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ส.ค. 05, 12:33
 อาวุธที่ผู้ก่อการร้ายใช้โจมตีฮ. เป็นอาวุธสงคราม คือ เอ็ม 16 และเอ็ม 20
สำหรับเอ็ม 20 ผู้ก่อการร้ายเคยใช้โจมตีเจ้าหน้าที่จังหวัดตากมาแล้ว  มีวิถีกระสุนไกลมากถึง 2000 ฟุต

แม้ทรงรับบาดเจ็บสาหัส ก็ทรงห่วงถึงตชด.ที่ได้รับบาดเจ็บมากกว่าห่วงพระอาการ  
นายแพทย์และพยาบาลทูลตอบให้สบายพระทัยว่า นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลแล้ว
ก็ทรงรู้ทัน รับสั่งว่า "ฮ.ยังไม่ขึ้น"

จนนายแพทย์ต้องแก้ตัว เปลี่ยนคำตอบว่า
"ผกก.นำคนเจ็บไปไว้โรงพยาบาลบ้านส้องแล้ว"
จึงหยุดรับสั่ง

หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ และหลวงปู่ธรรมไชยเดินทางมาถึงไล่เลี่ยกับนายแพทย์และพนักงาน อ.เวียงสระ  
พระองค์เจ้าวิภาวดี ฯ ยังทรงมีพระสติดีอยู่  แม้ว่าพระอาการทรุดหนักมากแล้ว  

รับสั่งว่า
"ร้อน หิวน้ำ ขอน้ำกินหน่อย   หลวงพ่อ หลวงปู่ ช่วยไปนิพพาน   ไม่เกิดแล้ว"
หลวงปู่ตอบว่า
" การที่จะไปนิพพานน่ะดี   แต่ท่านหญิงยังมีประโยชน์ต่อประเทศชาติมาก"
ก็รับสั่งว่า
"ให้กราบบังคมทูลพระเจ้าอยู่หัว  ท่านชาย( ทรงหมายถึงหม่อมเจ้าปิยะรังสิต) ท่านแม่"
ทรงย้ำอยู่ 2 ครั้ง แล้วไม่รับสั่งอะไรอีก

ฮ.จากสุราษฎร์ธานี เดินทางมาถึง  นำพระองค์เจ้าวิภาวดีฯ ไปที่โรงพยาบาลสุราษฎร์  
ในระหว่างทาง   นายแพทย์ผู้เฝ้าพระอาการอย่างใกล้ชิด  แจ้งว่า สิ้นพระทัยแล้ว
ฮ.จึงนำพระศพมาที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีเพื่อแต่งพระศพ และถวายธงชาติคลุมพระศพ
ต่อจากนั้น   เครื่องบินจากกรุงเทพ ซึ่งไปตรวจราชการทางใต้  ก็รับพระศพกลับมาสู่กรุงเทพ


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ส.ค. 05, 13:20
 ข่าวการสิ้นชีพิตักษัยของหม่อมเจ้าวิภาวดี รังสิต  เป็นข่าวใหญ่พาดหัวหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ
เป็นเรื่องสั่นสะเทือนจิตใจของประชาชนอย่างมาก   ที่พระบรมวงศานุวงศ์ และผู้แทนพระองค์พระ
บาทพระเจ้าอยู่หัว  ในการเสด็จเยี่ยมประชาชน โดยเฉพาะในหน่วยพระราชทาน ต้องจบพระชนม์ชีพลงด้วยน้ำมือผู้ก่อการร้ายในภาคใต้
ขณะที่ทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจเพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ผู้บาดเจ็บจากการปฏิบัติงาน

นายธานินทร์ กรัยวิเชียร นายกรัฐมนตรี ได้รายงานต่อประชาชนทางสถานีวิทยุและโทรทัศน์ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2520  
ว่า
"ม.จ.วิภาวดี รังสิต  ถึงชีพิตักษัยด้วยน้ำมือของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ในวันที่เกิดเหตุคือวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ศกนี้..."

ตามมาด้วยรายละเอียด ตรงกับที่ดิฉันพิมพ์ไว้ในความเห็นข้างบน
และลงท้ายว่า
"ม.จ.วิภาวดี รังสิต ท่านทรงเป็นผู้ทำบุญโดยไม่หวังบุญ   ท่านทรงกระทำทุกอย่างโดยมีเมตตาธรรม  หวังประโยชน์สุขและความเจริญที่จะให้บังเกิดกับประชาชนโดยแท้
ท่านทรงบำเพ็ญกุศลนี้มาเป็นเวลานานปี  จนกระทั่งเกิดเหตุขึ้นในครั้งนี้
ท่านทรงกระทำโดยมิได้หวังอะไรเป็นส่วนพระองค์เลย
ท่านทรงแนะนำอาชีพส่งเสริมหัตถกรรม การเพาะปลูก  หาแพทย์ไปรักษาพยาบาลคนที่เจ็บป่วย  จัดสิ่งของหยูกยาไปช่วยชาวบ้านผู้ที่ยากไร้
เมื่อท่านถึงชีพิตักษัยคราวนี้จึงเป็นเรื่องที่สลดใจอย่างยิ่ง    และรัฐบาลตระหนักเป็นอันดีในวีรกรรมของท่าน
ท่านเป็นสตรีผู้กล้าหาญ  ท่านไม่ได้ถึงชีพิตักษัยไปโดยเปล่าประโยชน์  
วีกรรมของท่านยังคงเป็นสิ่งเตือนใจเราอยู่   ผมใคร่ที่จะขออัญเชิญกระแสพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ มากล่าวไว้ ณ ที่นี้ คือ
" การถึงชีพิตักษัยของหม่อมเจ้าวิภาวดีฯ นั้น  เป็นการปฏิบัติภารกิจของพระองค์ ซึ่งภารกิจอันนี้ พวกเราชาวไทยที่อยู่เบื้องหลังจะต้องจัดทำต่อไป"


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: ครูไผ่ ที่ 20 ส.ค. 05, 13:57
 ท่านเป็นวีรสตรีค่ะ
ทำไมผู้ทำความดีจึงได้รับผลแบบนี้
แล้วจะเป็นแรงจูงใจให้คนอยากทำความดีได้อย่างไร


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ส.ค. 05, 13:59
 ในท่ามกลางความรู้สึกอันสับสนของเราท่านทั้งหลาย   ต่อการสูญเสียครั้งสำคัญนี้  
ความรู้สึกหนึ่งที่เราทั้งหลายมองเห็นชัดร่วมกัน ก็คือ ม.จ.วิภาวดี รังสิต ต้องถึงชีพิตักษัย
ก็เพราะน้ำพระทัยอันโอบเอื้ออาทรของท่านในอันที่จะเข้าช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ที่บาดเจ็บเพราะน้ำมือผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์
ความเวทนาสงสารไม่อาจทอดทิ้งเพื่อนร่วมชาติที่ต้องการความช่วยเหลือเหล่านั้นทำให้ม.จ.วิภาวดี รังสิต  มิได้คำนึงถึงภัยอันตรายส่วนตัว  

ทรงเป็นแบบอย่างของคนไทยที่เปี่ยมล้นด้วยความรัก  ความเสียสละ เพื่อชาติ
ทั้งที่ทรงถึงพร้อมด้วยชาติวุฒิ คุณวุฒิ ทรัพย์ศฤงคาร และแวดล้อมด้วคนรักใคร่ใกล้ชิด
แต่ก็ทรงสละความสุขส่วนตัวนั้นๆ ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจให้แก่งานของประเทศชาติ
โดยทรงมุ่งหมายจะผดุงรักษาความเป็นชาติไทยของเราไว้  แม้จะต้องแลกด้วยพระชนมชีพก็ตาม
..........................
การสูญเสียม.จ.วิภาวดี รังสิต เปรียบเสมือนดวงไฟดวงหนึ่งที่ดับวูบลง   แต่เปลวไฟแห่งความรักชาติ  ความกล้าหาญ  ความเสียสละเพื่อชาติ
ที่ม.จ.วิภาวดี รังสิต ได้ทรงจุดนำทางไว้ จะลุกโพลงในจิตใจของเลือดเนื้อไทยชั่วนิจนิรันดร์"

จากบทความ
" แด่การจากไปของม.จ.วิภาวดี รังสิต"
ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2520


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ส.ค. 05, 14:11
 คุณครูไผ่
ดิฉันขอยกข้อความข้างล่างนี้มาตอบคำถามของคุณ

" ถึงแม้ว่าม.จ.วิภาวดี รังสิต  จะจากพวกเราคนไทยไปแล้วก็ตาม  แต่ปณิธานของท่านหญิงในอันที่จะปกป้องเลือดเนื้อไทยและรักษาความเป็นไทของชาติเราให้คงอยู่
จะเป็นสิ่งที่คนไทยทุกคน จะสืบทอดยึดมั่นตลอดไป
หากดวงพระวิญญาณของม.จ.วิภาวดี รังสิต จะได้ทรงล่วงรู้ในข้อนี้ ท่านหญิงก็คงจะทรงยินดีว่า
ความเศร้าโศกสูญเสียท่านหญิงไปในครั้งนี้  
ได้เป็นแรงใจอย่างใหญ่หลวงต่อคนไทย ที่พร้อมจะสู้ศัตรูของชาติ  เพื่อรักษาความเป็นชาติของเราไว้ให้จงได้
อันเป็นปณิธานสูงสุดเหนือสิ่งอื่นใดของท่านหญิงนั่นเอง"

จากบทความเดียวกับใน คห. 77

พระปณิธานในการบำเพ็ญพระกรณียกิจของพระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ก็ไม่แตกต่างจากเพลงพระราชิพนธ์ ความฝันอันสูงสุด ที่ว่า

ขอฝันใฝ่ ในฝันอันเหลือเชื่อ  
ขอสู้ศึกทุกเมื่อ ไม่หวั่นไหว  
ขอทนทุกข์ รุกโรมโหมกายใจ
ขอฝ่าฟัน ผองภัยด้วยใจทะนง  
       
จะแน่วแน่ แก้ไขในสิ่งผิด  
จะรักชาติ จนชีวิตเป็นผุยผง  
จะยอมตาย หมายให้เกียรติดำรง  
จะปิดทอง หลังองค์พระปฏิมา  
       
ไม่ท้อถอย คอยสร้างสิ่งที่ควร  
ไม่เรรวน พะว้าพะวังคิดกังขา  
ไม่เคืองแค้น น้อยใจ ในโชคชะตา  
ไม่เสียดาย ชีวา ถ้าสิ้นไป  
       
นี่คือ ปณิธานที่หาญมุ่ง  
หมายผดุงยุติธรรม์ อันสดใส  
ถึงทนทุกข์ ทรมาน นานเท่าใด
ยังมั่นใจรักชาติ องอาจครัน  
       
โลกมนุษย์ ย่อมจะดี กว่านี้แน่
เพราะมีผู้ไม่ยอมแพ้ แม้ถูกหยัน  
จะยืนหยัด สู้ไป ใฝ่ประจัญ
ยอมอาสัญ ก็เพราะปอง เทิดผองไทย


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ส.ค. 05, 09:17
 คุณ vun ดิฉันย้ายความเห็นของคุณ(ซึ่งผิดเรื่อง) ไปไว้ที่กระทู้เครื่องเรือนแล้ว
 http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Cid=20&Pid=35175  


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ส.ค. 05, 12:08
 ในงานบำเพ็ญพระราขกุศล 7 วัน  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ได้โปรดเกล้าฯพระราชทานพวงมาลาดอกไม้สด ประดับหน้าโกศพระศพ
พวงมาลาทั้งสองเป็นรูปวงรี    บนยอดมีพระปรมาภิไธยย่อ ภปร  และพระนามาภิไธยย่อ สก  
โดยมีแถบธงชาติไทยพาดขวางพวงมาลา
พวงมาลาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทาน มีข้อความจารึกว่า

" จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด
จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง
จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง
จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา"

ส่วนพวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีข้อความจารึกว่า

" ทิวาวารผ่านมาเยือนหล้าโลก
พร้อมความโศกสลดไห้ฤทัยหาย
อริราชพิฆาตร่างท่านวางวาย
แสนเสียดายชีพกล้า วิภาวดี"


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ส.ค. 05, 12:16

ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต มาสักการะ พระรูปพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต
จาก
วันวิภาวดีรังสิตรำลึก ที่อำเภอพระแสง
 http://phrasaeng.coolfreepage.com/activity/vipa45.html  


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ส.ค. 05, 12:30
 จากคำบอกเล่าของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
 http://www.thaisquare.com/Dhamma/afterdeath/chapter16.htm

พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดี รังสิต ก่อนสิ้นชีพิตักษัยทรงเปล่งวาจาว่า “หญิงขอลาไปนิพพาน”

     “..เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๒๐ อาตมาได้มีโอกาสเดินทางไปเยี่ยมตำรวจตระเวนชายแดนทางภาคใต้กับ ท่านหญิงวิภาวดี รังสิต คืนวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๐ อาตมานอนพักที่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนเขต ๘ พอ ๖ ทุ่มเศษก็ตื่นดูนาฬิกา คิดว่าเมื่อคืนที่แล้วก็ตื่น ๖ ทุ่มเศษ ที่คลองปางมีเรื่องตำรวจตระเวนชายแดนถูกยิง วันนี้ก็ตื่น ๖ ทุ่มเศษอีก ไม่ทราบว่าจะมีเรื่องอะไรอีก พอตื่นขึ้นมาแล้วก็นอนไม่หลับ จึงทำสมณธรรมตามแบบพระ พระมีกิจที่ต้องทำอันหนึ่งคือ เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วต้องทำสมณธรรม เมื่อทำไปจิตถึงที่สุดเวลาประมาณตี ๒ ปรากฏว่ามีฉัพพรรณรังสีรัศมี ๖ ประการปรากฏชัด มีแสงสว่างไสวเหมือนไฟฟ้าสักแสนแรงเทียนในห้อง เมื่อแสงสว่างหายไปก็ปรากฏรูปพระคล้ายพระสงฆ์มีความสวยสดงดงามมาก มีแสง ๖ สีพุ่งออกจากพระวรกาย ถ้าภาพอย่างนี้ปรากฏทางพระพุทธศาสนาท่านเรียกว่าเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อปรากฏเป็นพระรูปพระโฉมขึ้นมาแล้วก็ทรงแย้มพระโอษฐ์แล้วก็ตรัสว่า “วิภาวดี เสร็จกิจแล้ว กิจอื่นที่จะต้องทำไม่มีต่อไปอีก” คำว่า “เสร็จกิจ” ก็หมายถึง “กิจที่จะต้องปฏิบัติตัดกิเลสเป็นสมุจเฉทประหารไม่มีแล้วที่จะต้องทำ” เมื่อมีพระสุรเสียงตรัสจบแล้วภาพนั้นก็หายไป อาตมาก็คิดในใจว่า เสียงอย่างนี้ ภาพอย่างนี้ เราเคยพบ เมื่อตรัสอย่างนี้เป็นพุทธพยากรณ์ ก็แสดงว่าท่านหญิงวิภาวดี รังสิต ต้องเป็นพระอรหันต์ พูดกันตามทัศนะถ้าหากว่าเป็นอย่างนั้น เมื่อเสียงหมดไปภาพหายไป อาตมาก็นอนไม่หลับเพราะไม่อยากจะหลับ ก็เจริญสมณธรรมเรื่อยไป ปรากฏว่าเวลา ๔ นาฬิกามีภาพประหลาดเกิดขึ้น เป็นภาพดวงไฟเล็กดวงนิดเดียวมีความร้ายแรงมากร้อนจัด และมีภาพ พันตำรวจโท สุดินทร์ สิงหรา ณ อยุธยา ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนเขต ๘ ยืนอยู่แล้วล้มลงทับภาพดวงไฟนั้น แล้วลุกขึ้นมาจากไฟแต่ไม่ไหม้ แล้วภาพไฟก็หายไป เมื่อเห็นภาพนี้ก็เข้าใจว่า วันพรุ่งนี้เหตุร้ายจะต้องเกิดกับเราแล้ว และก็เป็นเหตุร้ายที่เราแก้ไขไม่ได้เพราะภาพไฟที่ปรากฏร้ายแรงมาก พยายามดับเท่าไรก็ไม่ดับ ความร้ายแรงของไฟไม่สลายตัวและก็ไม่ย่อหย่อนลงไป

     ความจริงท่านหญิงวิภาวดี รังสิต เป็นลูกศิษย์เจริญพระกรรมฐานกับอาตมาเป็นเวลา ๘ เดือน หลังจากที่ท่านมาเรียนพระกรรมฐานด้วยสัก ๗ วัน ไม่ใช่เกาะครูเป็นแต่เพียงมาศึกษาพอเข้าใจแล้วก็กลับไปปฏิบัติเอง ๗ วันผ่านไปก็ปรากฏว่าท่านได้ธรรมปีติเป็นกรณีพิเศษเป็น อุพเพงคาปีติ สามารถควบคุมสมาธิได้ตามเวลาที่ต้องการ หลังจากนั้นท่านก็เจริญวิปัสสนาญาณ เพราะกรรมฐานมี ๒  อย่างคือ สมถภาวนาด้านสมาธิจิตซึ่งต้องควบคู่กับวิปัสสนาญาณ ถ้าฝึกเฉพาะสมถภาวนาไม่ฝึกควบคู่กับวิปัสสนาญาณ ก็เอาดีไม่ได้ เมื่อสมาธิเข้มข้นดีแต่วิปัสสนายังอ่อน ตอนหลังท่านก็พยายามฝึกควบวิปัสสนาญาณให้มีความเข้มแข็งเท่าสมาธิจิต

     จากนั้นมาท่านหญิงวิภาวดีก็ตรัสเป็นปกติว่า “ชีวิตไม่มีความหมาย สมบัติในวังวิทยุไม่มีความหมาย” ความหมายของท่านก็คือ “พระนิพพาน” ฉะนั้นทรัพย์สินใดๆ ที่มีอยู่ก็ดีไม่ต้องการสะสมไว้ มีความต้องการอย่างเดียวคือ “ทำอย่างไรชาวไทยทั้งประเทศจึงจะมีความสุข” ท่านเสียสละทุกอย่าง ทรัพย์สินส่วนพระองค์ท่านเสียสละมาก

     การเจริญพระกรรมฐานของท่านเข้าถึงจุดปลายคือเปล่งวาจา “ต้องการพระนิพพาน” ก่อนสิ้นชีพิตักษัยประมาณ ๓ เดือน พบหน้าใครท่านก็พูดว่า “ทรัพย์สมบัติในวังวิทยุไม่มีความหมาย ชีวิตไม่มีความหมาย ฉันต้องการอย่างเดียวคือพระนิพพาน” แสดงว่าท่านมีจิตใจจับพระนิพพานเป็นอารมณ์จริงๆ มาเป็นเวลา ๓ เดือน ถ้าพูดกันตามพระไตรปิฎก คนที่จะมีอารมณ์รักพระนิพพานจริงๆ ก็ตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป แต่ท่านหญิงตอนนั้นจะเป็นพระโสดาบันหรือไม่นั้น อาตมาไม่รับรองเพราะไม่ใช่พระพุทธเจ้า พูดตามอาการที่ปรากฏ

     รุ่งเช้าวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๐ เวลาก่อน ๗ นาฬิกา อาตมาก็รีบไปที่โรงปูนซิเมนต์ที่พักของท่านหญิงวิภาวดี ก่อนขึ้นฮ. ก็ประชุมกันก่อนว่า วันนี้เราจะไปพระแสงกับเคียนซา แต่ก่อนไปต้องไปรับตำรวจที่บาดเจ็บ ๒ คนที่บ้านหลังคลองที่ไปเมื่อวันวาน และการไปคราวนี้ขอให้คนที่ไปกับฮ. ลงที่กองร้อย ๓ ตำรวจตระเวนชายแดนซึ่งอยู่ห่างจากสถานที่ที่จะไปรับตำรวจบาดเจ็บ ๑ กิโลเมตร แม้แต่ท่านหญิงวิภาวดีก็ต้องลงเช่นเดียวกัน ขอให้ฮ. ไปรับโดยเฉพาะแล้วนำตำรวจบาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี แวะเติมน้ำมันก่อนแล้วกลับมารับพวกเราประมาณเที่ยง หลังจากฉันเพลที่กองร้อย ๓ ตชด.แล้ว พวกเราจะไปเคียนซากับพระแสง ไปเยี่ยมตำรวจอีก ๒  จุด แต่อาตมาก็บอกทุกคนว่า “วันนี้พวกเราสู้เขาไม่ได้ ไม่เหมือนเมื่อวานนี้เราสู้เขาได้ เราจึงกล้าลงกลางฐานที่ตั้งของเขานับจำนวนร้อยที่ติดอาวุธ เราก็กล้าลง แต่วันนี้เราทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะเป็นวันเปิดเราสู้เขาไม่ได้”

     ขอบรรดาท่านพุทธบริษัทโปรดทราบว่า คนเราที่บอกว่าเก่ง หนังเหนียว เนื้อเหนียว กระดูกเหนียว ยิงไม่เข้า ฟันไม่เข้าก็ตาม ทั้งๆ ที่คล้องพระอยู่ แต่วันหนึ่งก็ถูกยิงตายได้ถ้าเป็นวันเปิด เป็นอันว่าถ้าวันเปิดประสบกับใครก็ตาม คนนั้นไม่สามารถเอาชีวิตรอดได้ และวันนั้นความจริงอาตมาก็ทราบว่า ถ้าร่วมไปที่บ้านหลังคลองก็ดี ที่เคียนซาหรือที่พระแสงก็ดี อาตมาเองก็จะถูกยิงที่ขาต่ำกว่าเข่า ไม่ถูกกระดูกแต่ถูกเนื้อตรงน่อง แต่ก็ตั้งใจว่าเมื่อพูดว่าจะไปแล้วก็ต้องไป ชีวิตตำรวจทหารเขาเสียสละได้เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และปวงชนชาวไทย ก็ไอ้เลือดเรานิดหนึ่งไม่เกิน ๑๐๐ ซีซี ที่ต้องหลั่งไหลออกจากกาย เพราะการเข้าไปเยี่ยมคนที่มีคุณ ทำไมเราจะสละไม่ได้ เป็นอันว่าวันนั้นยอมเสียเลือดเพราะรู้แล้วว่าถ้าไปก็เสียเลือดตัวเอง จะคุ้มครองไม่ได้

     สำหรับท่านหญิงวิภาวดีอาตมาก็หนักใจมาก เพราะนิมิตตอนกลางคืนบอกชัดว่าอย่างไรก็ตาม “วันนี้ท่านหญิงวิภาวดี จะไม่สิ้นชีวิตไม่ได้ เพราะว่าเป็นจุดจบ” ถ้าพุทธพยากรณ์นั้นเป็นจริง คือว่า “ตามธรรมดาฆราวาสถ้าเป็นพระอรหันต์วันนี้ วันรุ่งขึ้นก็ต้องนิพพาน” การนิพพานของพระอรหันต์ที่ยังเป็นฆราวาสที่ไม่สามารถบวชเป็นพระได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงบวชไม่ได้ ผู้ชายถ้าบวชทันได้ไม่เป็นไร

     ฉะนั้น “การนิพพานของพระอรหันต์ที่ยังเป็นฆราวาสนี่ ก็ต้องนิพพานด้วยอุบัติเหตุ” อย่างในสมัยเมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ เมื่อบุคคลใดได้บรรลุอรหัตผล องค์สมเด็จพระทศพลทรงทราบว่า ถ้าเขาไม่เคยถวายผ้าไตรจีวรไว้ในพระพุทธศาสนาในชาติก่อน ถ้าพระองค์ตรัสว่า “เอหิภิกขุ” แปลว่า “เจ้าจงเป็นภิกษุมาเถิด” ผ้าไตรจีวรที่สำเร็จด้วยฤทธิ์ก็ไม่มี เป็นอันว่าการบวชไม่สมบูรณ์แบบ พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า “ถ้าเธอจะบวช ขอให้เธอไปหาผ้าจีวรมาก่อน ได้ผ้ามาแล้วตถาคตจะบวชให้” แล้วท่านผู้นั้นเดินไปหาผ้าทีไร ก็ถูกวัวแม่ลูกอ่อนขวิดตายทุกที จะนิพพานโดยลักษณะนั้น สำหรับท่านหญิงวิภาวดีก็เช่นเดียวกัน  ปัจจุบันหาวัวแม่ลูกอ่อนไม่ได้ ถ้าจะให้รถชนตายเจ้าของรถก็มีความผิด จะให้ตกต้นไม้ตาย ท่านก็ไม่ได้ขึ้นต้นไม้ เพราะการตายของพระอรหันต์จะต้องไม่มีโทษแก่บุคคลที่ทำให้ตาย เมื่อข้าศึกยิงมาข้าศึกไม่มีโทษเพราะไม่รู้ว่าใครเป็นคนยิง เมื่ออาตมาทราบอย่างนี้ก็เลยเตือนท่านว่า “ท่านหญิง วันนี้เราสู้เขาไม่ได้ ยังไงๆ ที่บ้านหลังคลองท่านหญิงจะไปไม่ได้ ต้องลงพร้อมกับอาตมาที่กองร้อย ๓” ท่านก็ตกลง

     เมื่อถึงกองร้อย ๓ เครื่องบินส่งพวกเราลงกันหมด พอเครื่องบินขึ้นปรากฏว่าท่านหญิงวิภาวดีไม่ลง พอเหลียวไปดูถาม พระครูบาธรรมชัย ที่ไปด้วยกันว่า “หลวงปู่ ท่านหญิงไม่ลงรึ” เพราะท่านลงทีหลัง หลวงปู่บอกว่า “ท่านหญิงเขียนจดหมายใส่ย่ามมาให้” ขณะกำลังอ่านอยู่นั่นเอง เจ้าหน้าที่วิทยุวิ่งมาแจ้งว่า “หลวงพ่อครับ เครื่องบินเราถูกยิง” พอเขาบอกเท่านั้นก็บอกเขาไปว่า “เราเสียท่าเขาแล้ว”

     ต่อจากนั้นตำรวจก็เอารถยนต์มารับอาตมาไปที่เครื่องบินลงที่บ้านส้อง ไปถึงก็พบว่าเครื่องบินถูกยิง ๙๘ รู แต่ทะลุเพียงนัดเดียวนอกนั้นไม่ทะลุเครื่องบินเลย กระสุนนัดนั้นแหละที่สังหารท่านหญิงวิภาวดี คือทะลุท้องเครื่องบินขึ้นมาทะลุหัวรองเท้าของผู้กำกับฯ สุดินทร์ แล้วทะลุเข้าข้างหลังท่านหญิงวิภาวดี เมื่อรู้ว่า ฮ.ถูกยิงทุกคนก็เข้าล้อมท่านหญิงหมด แต่จุดที่คนล้อมกระสุนไม่เข้าแต่ไปเข้าจุดว่าง เมื่ออาตมาไปถึงเห็นท่านหญิงนอนนิ่ง จึงขึ้นไปบนเครื่องบินก็ทำพิธีแบบพระ “ขออาราธนาบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอริยสงฆ์ทั้งหมด อาราธนาขอให้บรรเทาทุกขเวทนาของท่าน” เพราะทราบว่าท่านเจ็บมาก เห็นท่านนอนเฉยๆ จึงถามว่า “ท่านหญิงปวดไหม” ท่านก็ตรัสว่า “ปวดเจ้าค่ะ หายใจขัดๆ”

     แล้วท่านก็เปล่งวาจาดังๆ ว่า “โลกนี้เป็นทุกข์ ร่างกายเป็นทุกข์ ไม่ต้องการอีก ขอไปนิพพาน ขอลาไปนิพพาน” แล้วก็เปล่งวาจาดังขึ้นอีกว่า “หลวงพ่อ หลวงปู่ กรุณากราบทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงทราบ และทูลท่านชายปิยะให้ทรงทราบด้วยว่า หญิงขอลาไปนิพพาน” แล้วท่านก็เปล่งวาจาอีกว่า “นิพพาน นิพพาน นิพพาน”  นิ่งสักประเดี๋ยวเวลาผ่านไป ๓ นาทีได้ ท่านก็เปล่งเสียงดังๆ ว่า “โอ สว่างแล้วๆ เห็นนิพพานแล้วๆ นิพพานสวยเหลือเกิน หญิงขอลาไปนิพพานแล้ว หลวงปู่ หลวงพ่อ หญิงขอลาไปนิพพาน ขอหลวงพ่อได้กรุณากราบทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ และท่านชายปิยะด้วยว่า หญิงขอลาไปนิพพาน” พอสิ้นเสียงก็ปรากฏว่าท่านสิ้นลมปราณ

     การที่นำเรื่องของท่านหญิงวิภาวดีมาเล่าให้ฟัง ก็เพราะเป็นเรื่องที่วิพากษ์วิจารณ์กันมากว่า อาตมาทราบได้อย่างไรว่าท่านหญิงวิภาวดีจะไปไหน ความจริงรู้ได้อย่างไรนี้ตอบไม่ยาก เพราะว่าจะไปไหนนั้นก็อาศัยการเปล่งวาจาของท่านเป็นเหตุ คนถูกยิงเจ็บขนาดนั้น เสียงครางนิดหนึ่งก็ไม่มี การบิดตัวแสดงอาการเจ็บหน่อยหนึ่งก็ไม่มี นอนสงบนิ่งเป็นปกติเหมือนกับคนนอนหลับแบบสบายๆ แต่พอไปถามเข้าว่า “เจ็บไหม” ท่านก็บอกว่า “เจ็บมากและก็มีหายใจขัดๆ” เวลาพูดเสียงก็ปกติ ก่อนจะสิ้นชีพสังขารก็เปล่งวาจาว่า “ขอไปนิพพาน” โดยเฉพาะตอนสุดท้ายที่พูดว่า “สว่างแล้ว สว่างแล้ว” เสียงสดใสมากแสดงอาการดีใจเหมือนคนไม่เจ็บ มีพระโอษฐ์ยิ้มแสดงความรื่นเริง หน้าตาสดชื่น พระสุรเสียงดังชัดมากแสดงอาการดีใจ เพราะเคยทำงานด้วยกันจึงรู้ว่า เวลาท่านดีใจท่านมีเสียงแบบไหนแสดงกิริยาแบบไหน วันนั้นแสดงแบบนั้นทั้งหมด เมื่อท่านบอกว่า ท่านจะไปนิพพาน เราก็ต้องบอกว่าท่านไปพระนิพพาน เพราะท่านพูดแล้วท่านก็ตาย เราจะไปเถียงท่านไม่ได้ ท่านจะไปหรือไม่ไปก็เป็นเรื่องของท่าน

     และก็มีคนถามว่า “ในเมื่ออาตมาทราบว่าจะมีอุบัติเหตุแบบนั้น ทำไมจึงไม่ช่วยป้องกัน” อาตมาก็มานั่งนึกว่า คนที่เขาพูดนี่คงคิดว่าอาตมาเองคงจะไม่ตาย เพราะคนอื่นจะตายป้องกันเขาได้ ตัวเองมันก็ต้องไม่ตาย แต่เขาคงลืมไปกระมังว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นอาจารย์ใหญ่ของอาตมาจริงๆ ท่านก็ต้องนิพพาน (ภาษาชาวบ้านเรียกว่าตาย) หรือ พระโมคคัลลาน์ พระอัครสาวกฝ่ายซ้ายผู้มีฤทธิ์ถูกโจรทุบ เวลานั้นองค์สมเด็จพระบรมครูก็ยังทรงพระชนม์อยู่ ทำไมไม่ช่วยป้องกันไว้ แต่นั่นเป็นกฎของกรรม พระโมคคัลลาน์ถูกโจรล้อมท่านก็หนีไป ๒ ครั้ง พอโจรมาล้อมเป็นครั้งที่ ๓ ท่านก็มาพิจารณาว่า “มันเรื่องอะไร” ก็ทราบว่า “กรรมที่จะเกิดขึ้นนี้เป็นกรรมเมื่อ ๑๐๐ อัตภาพมาแล้ว เราเคยทุบพ่อทุบแม่ตาย กรรมนั้นมาสนอง” ท่านจึงยอมให้โจรทุบ เมื่อโจรทุบแล้วท่านก็ไม่ยอมตาย เมื่อโจรไปแล้วท่านก็ประสานกาย ประสานกระดูก เหาะไปกราบทูลลาพระพุทธเจ้าเข้านิพพาน

     เป็นอันว่าถ้าคนจำจะต้องตาย แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ยังทรงร่างกายอยู่ไม่ได้ ปล่อยให้ร่างกายพัง พระโมคคัลลาน์ท่านเป็นจอมฤทธิ์ ท่านก็ไม่สามารถจะป้องกันตัวท่านเองได้ แล้วการที่อาตมาจะไปบังคับให้ท่านหญิงวิภาวดีไม่ตายจะได้ไหม ถ้าจะพูดกันอีกที โยมผู้ชายและโยมผู้หญิงท่านเป็นพ่อเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดอาตมา ชีวิตจะทรงอยู่ได้ก็เพราะอาศัยท่าน แต่เวลาที่ท่านทั้งสองจะตาย อาตมาก็ห้ามไม่ได้ แล้วจะให้ไปห้ามใครได้ เป็นอันว่าเรื่องของท่านหญิงวิภาวดี รังสิต ทำไมต้องตายและอาตมาทำไมไม่ป้องกันไว้ ก็ขอจบเพียงเท่านี้..”


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 23 ส.ค. 05, 13:01
 I am mailing a few photos of Praongjao Vibha and husband standing side by side with King Rama 8 to Khun Taochompoo to help post on the board. Another picture she carries the first and the second baby. Both babies look a bit caucasian (farang-thai mix).


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: นันทิ ที่ 23 ส.ค. 05, 15:38
 อ่านถึงตอนที่ท่านสิ้นฯ แล้วน้ำตาซึมเลยค่ะ

ขอบคุณคุณเทาชมพูมากค่ะ ที่มาเล่าเรื่องให้ฟัง


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ส.ค. 05, 18:04
 ยังไม่ได้รับเมล์ค่ะ  ไม่ทราบว่าส่งไปที่เมล์ไหน


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 23 ส.ค. 05, 19:10
 I used e-mail pinkandgrey@vichakarn.com but bounced back to me. I tried to mail Bamboo teacher but couldn't find one. Finally I sent 3 pics to khun Tibor and and asked her to help post on Vibhavadee board.

Reach me at supanee@nstda.or.th, and I can send via mail, not too big 58 k. each.

It seemed the couple were very close to the King Rama 8 family, by standing side by side with the King.

Allow me some time to get Thai fonts in order. I just discovered this web and enjoyed.

Your sharing inspired me so much. I visited bookstore and purchasedb 4 novels of Praong Vibhavadee, Nanmeebook, 20% discount until the end of this mth. This yr my donation allowance for 10000 baht will go to her Foundation to help the South, but I googled it and found no contact no. and address. Proceeds from novel sale will also go to charity.

Thanks, Aj Taochompoo, you and me both contributed to the pity South ka.


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 23 ส.ค. 05, 20:51
 อ่อ ผิดกระทู้ครับผมเปิดกระทู้ทีหลายกระทู้ผมเลยงงๆ


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: vun ที่ 23 ส.ค. 05, 20:56
 แม้พระองค์ท่านจะทรงเสด็จสู่สวรรคาลัยไปแล้ว แต่คุณงามความดีของท่านก็ยังคงประดับอยู่ในดวงใจของทุกคน ชั่วนิรันดร์....


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 24 ส.ค. 05, 00:16

ได้รับ FWD mail จากพี่ที่น่ารักในความเห็นที่ 57 นะครับ
เลยขอนำภาพหายากชุดนี้มาโพสไว้ที่นี่นนะครับ


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 24 ส.ค. 05, 00:21

ขอบคุณสำหรับภาพหายากภาพนี้


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 24 ส.ค. 05, 00:29

ภาพไม่ขึ้นครับ


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 24 ส.ค. 05, 00:32

และภาพที่ผมชอบที่สุดภาพนี้ครับ


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ส.ค. 05, 09:14
 ขอบคุณค่ะคุณ Nuchan และคุณติบอ

หม่อมเจ้าหญิงวิภาวดี และหม่อมเจ้าปิยะรังสิต ทรงรับพระราชทานน้ำสังข์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล

เด็กน้อยที่ทรงอุ้มอยู่คือม.ร.ว. วิภานันท์  บุตรสาวคนโต
ส่วนภาพสุดท้ายคือ ม.ร.ว. ปรียนันทนา  บุตรสาวคนเล็ก


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ส.ค. 05, 11:36
หนังสืออ้างอิง

1) ว.ณ ประมวญมารค  พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต  โดย นวลจันทร์ รัตนากร  ชุติมา สัจจานันท์ และมารศรี ศิวรักษ์
2) พระนิพนธ์ นี่หรือชีวิต
3) พระนิพนธ์ ปริศนา
4) พระนิพนธ์แปล พระราชินีนาถวิกตอเรีย
5) พระนิพนธ์แปล คลั่งเพราะรัก
6) พระนิพนธ์ เรื่องหลายรส


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 25 ส.ค. 05, 11:45
 Correct me if I'm wrong ka. The just past May 5, 2005, MRW Preeyanantana received higher class of honorary, entitling her to use prefix "Tanpooying", together with MRW Pawaree (youngest daughter of MJ Peesadej) Does that mean she should be called "Tanpooying Preeyanantana" and not MRW Preeyanantana any more?


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: ถาวภักดิ์ ที่ 25 ส.ค. 05, 13:38
 ดีจังที่ อ.เทาฯ เผยแพร่คำเล่าของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานเถระ

มุมหนึ่ง พระองค์หญิงทรงเหมือนเจ้าหญิงในนิยาย บ้างก็ให้ความเห็นว่า ทรงงดงาม สดใส เก่ง กล้า มีเสน่ห์ เช่นเดียวกับตัวละครเอกขององค์ท่านเอง คือ ปริศนา

อีกมุมหนึ่ง ทรงเป็นอุบาสิกาผู้เปี่ยมล้นด้วยศรัทธาและความเพียร ในการปฏิบัติตามคำสอนแห่งพระบรมศาสดา  ครั้งหนึ่งถึงกับออกพระโอษฐ์ความว่า เบื่อ สมบัติทั้งหลายไม่ทรงต้องการ วังวิทยุก็ไม่มีความหมาย  อยากไปอยู่วัด อยากไปอยู่กุฏิที่ทรงสร้างถวายวัดของหลวงปู่ธรรมชัยไว้ที่เชียงใหม่

พระองค์หญิงทรงปฏิบัติธรรมอย่างเอาจริง เป็นผู้ที่ถวายสนทนาธรรมกับพระเจ้าอยู่หัวได้อย่างออกรส จนครั้งหนึ่งทรงมีพระราชกระแสความว่า ...ท่านหญิงล่วงหน้าไปไกล ฉันไม่ยอม... พระสงฆ์ที่ท่านหญิงดูจะให้ความเคารพมากที่สุด 2 องค์ คือ หลวงปู่ครูบาธรรมชัยแห่งวัดทุ่งหลวง จ.เชียงใหม่ และพระเดชพระคุณพระราชพรหมยานเถระแห่งวัดจันทาราม จ.อุทัยธานี

ยังมีเรื่องราวอีกส่วนหนึ่งของท่านหญิงที่เคยปรากฏในหนังสือที่ถูกจัดพิมพ์ขึ้นโดยวัดจันทาราม(ท่าซุง) เช่น (ดูเหมือน)เป็น
บันทึกของภริยาของท่านพล อ.ท. ม.ร.ว.เสริม ศุขสวัสดิ์ อดีตเจ้ากราสื่อสารฯ  หรือจะเป็นของภริยาท่าน พล ร.อ.จิตต์ สังขดุลย์ อดีต ผบ.ทร.และปลัดกระทรวงกลาโหม ก็ไม่สู้แน่ใจ  ที่สะท้อนถึงความเป็นลูกศิษย์วัดทั้งกาย วาจา ใจ ของพระองค์หญิง  ที่แม้หลวงพ่อวัดท่าซุงยังออกปากสรรเสริญให้คนอื่นดูเป็นตัวอย่าง ความดีของศิษย์ฆราวาสกลุ่มนี้ความว่า พอเข้าวัดก็ถอดเครื่องทรง เครื่องแบบ ยศ ศักดิ์กองไว้นอกวัด นอนศาลาวัดเรียงกันเหมือนเด็กอนุบาล...


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ส.ค. 05, 18:06
ม.ร.ว. ปรียนันทนา  ปัจจุบันคือ  
ท่านผู้หญิงปรียนันทนา รังสิต


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ส.ค. 05, 09:32
ตอบ คห. 87 เรื่องมูลนิธิวิภาวดีรังสิต
Vibhavadi Rangsit Foundation

ติดต่อ : มูลนิธิวิภาวดีรังสิต เลขที่ 93/3 อาคารบ้านเทพลิต ถนนวิทยุแขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10330
โทรศัพท์ : 0-2651-4480-90
โทรสาร : 0-2651-4499

อีเมลล์ : to_nandana@yahoo.com

แนะนำมูลนิธิ :

ภายหลังการสิ้นพระชนม์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2520 หม่อมเจ้าปิยะรังสิต รังสิต ทรงวิตกว่าพระกรณียกิจของพระองค์หญิง ในด้านการพัฒนาและช่วยเหลือประชาชนทางภาคใต้ จะหยุดชะงักลง จึงทรงก่อตั้งมูลนิธิวิภาวดีรังสิตขึ้นเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2520 เพื่อเป็นอนุสรณ์และสืบทอดงานของพระองค์หญิงต่อไป กระทรวงมหาดไทยได้อนุญาตให้จัดตั้งและจดทะเบียนกับกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2520 เลขทะเบียน 999 และเมื่อหม่อมเจ้าปิยะรังสิต รังสิต ถึงชีพตักษัยแล้ว หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ทรงเป็นองค์ประธานมูลนิธิแทน ปัจจุบันท่านผู้หญิงทัศนีย์ บุณยคุปต์ ดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิ และมีหม่อมราชวงศ์ปรียนันทนา รังสิต รองประธานมูลนิธิเป็นผู้ดำเนินกิจการต่างๆ ของมูลนิธิ


วัตถุประสงค์ :

ให้การช่วยเหลือประชาชนในท้องถิ่นทุรกันดารที่ขาดแคลนเครื่องอุปโภคบริโภค ช่วยเหลือบุคคลที่ประสบภัย ส่งเสริมการศึกษาและให้ความรู้แก่เยาวชน ส่งเสริมพระพุทธศาสนาและช่วยเหลือกิจการสงฆ์ ให้การช่วยเหลือในการพัฒนาชุมชนและวางแผนครอบครัว ส่งเสริมฟื้นฟูศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน สนับสนุนกิจการพิพิธภัณฑ์และเผยแพร่ความรู้ในการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
มูลนิธิฯ หวังว่าด้วยแรงศรัทธาของผู้ที่ระลึกในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต จะทำให้มูลนิธิฯ มีกำลังและความสามารถดำเนินการให้ความช่วยเหลือต่างๆ ตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิฯ ได้มากขึ้น และทางมูลนิธิฯหวังที่จะให้การสนับสนุนแก่โครงการที่ชุมชนต่างๆ ได้ริเริ่มขึ้นเองและมีแนวทางแก้ปัญหาของตนเอง แต่ยังขาดแคลนด้านทุนทรัพย์ในการริเริ่มดำเนินการ ทั้งนี้เพื่อเกื้อหนุนให้ประชาชนได้มีส่วนสำคัญในการรับผิดชอบต่อการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ในท้องถิ่นของชุมชนที่ตนได้อาศัยอยู่
การดำเนินงานของมูลนิธิฯ จำกัดอยู่ในเขตภาคใต้เท่านั้น เพราะเป็นท้องถิ่นที่พระองค์หญิงได้ทรงปฏิบัติภารกิจเมื่อยังทรงพระชนม์อยู่ การดำเนินงานของมูลนิธิฯ ดังกล่าวจะไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่อย่างใด


กิจกรรมมูลนิธิ :

- มอบทุนการศึกษาในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษาให้นักเรียนที่เรียนดีแต่ครอบครัวมีฐานะที่ขาดแคลน
หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกมีดังนี้ นักเรียนจะต้องได้คะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 3.00 ในปีที่ผ่านมาและครอบครัวมีฐานะที่ขาดแคลน
- มอบทุนการศึกษาให้นักเรียนที่เรียนดีแต่ครอบครัวมีฐานะที่ขาดแคลน และนักเรียนที่อยู่ในการกำกับดูแลของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ในสังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนภาคใต้
- ทั้งนี้ได้มอบทุนการศึกษาประเภทต่าง ๆ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เป็นจำนวนทั้งสิ้น 2,646 ทุน
นอกจากนี้ มูลนิธิฯ ยังมอบทุนการศึกษาให้แก่ครอบครัวของผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส
- สร้างศาลาเอนกประสงค์ ถังเก็บน้ำฝนถวายวัดและบริจาคเงินเพื่อซ่อมแซมบำรุงวัด
- มอบถุงยังชีพมูลนิธิวิภาวดีรังสิตให้แก่ผู้ประสบภัยคลื่นยักษ์สึนามิ
- สนับสนุนห้องสมุดสำหรับโรงเรียนในท้องถิ่นทุรกันดาร


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ส.ค. 05, 09:44
เพลง อาลัย พระเจ้าวรวงค์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต
จากหนังสือ"รวมบทเพลง"ของกองทัพภาคที่ ๒

ทิวาวารผ่านมาเยือนหล้าโลก
พร้อมด้วยโศกสลดให้ฤทัยหาย
อริราชพิฆาตร่างท่านวางวาย
แสนเสียดายชีพกล้า "วิภาวดี"

สมเป็นราชตระกูลประยูรวงค์
ผู้มั่นคงแน่วแน่ต่อหน้าที่
ดำเนินรอยยุคลบาทเป็นชาติพลี
ขอสดุดี "วีรสตรี" แห่งผองไทย

พระนามจารึกในประวัติศาสตร์
พระโลหิตทุกหยาดสละให้
ผสานผสมกลมกลืนผืนไผท
เพราะรักท่วมหทัยในแผ่นดิน

จักจดจำวีรกรรมอันสูงส่ง
แม้ร่างคลุมไตรรงค์จะสูญสิ้น
ปณิธานธำรงอยู่คู่ธรณิน
ตราบชีพดิ้นดับด้วยอุดมการณ์


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 30 ส.ค. 05, 18:51
 ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงสำหรับรายละเอียดมูลนิธิที่ดิฉันกำลังหาค่ะ


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 05 ก.ย. 05, 18:58
 ดิฉันกำลังอ่านเรื่องปริศนาอยู่ค่ะ ท่านชายพจน์พึ่งสวมแหวนหมั้นปริศนาแล้วพามาส่งที่บ้าน จากนั้นปริศนาก็วิ่งขึ้นเรือนไป ท่านชายพูดว่า “La belle dame sans merci” แล้วปริศนาก็วิ่งกลับลงมาทูลอะไรบางอย่าง ดิฉันอยากทราบว่าภาษาฝรั่งเศสนั้นแปลว่าอะไรค่ะ


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 05, 14:33
La belle dame sans merci  แปลเป็นภาษาอังกฤษ ก็คือ The beautiful lady without mercy
แปลเป็นไทยอีกทีว่า นางงามผู้ไร้ความกรุณา
หรือจะแปลเป็นภาษาเพลงลูกทุ่ง ก็ได้ความว่า "คนสวยใจดำ" อะไรทำนองนี้

ตอนนั้นปริศนาวิ่งขึ้นบ้านไป   ท่านชายก็เลยตัดพ้อทำนองว่า ใจดำจัง ล่ำลากันให้สวีทหน่อยก็ไม่ได้

La Belle Dame sans Merci เป็นชื่อบทกวีที่ลือชื่อของ John Keats กวีชาวอังกฤษ
เนื้อเรื่องเป็นบรรยากาศของยุคกลาง  เล่าถึงอัศวินหนุ่มผู้เสียทีตกเป็นทาสมายาของนาง enchantress ที่ได้รับสมญาตามชื่อบทกวี
ลอกเอามาให้อ่าน   ถ้าคุณ nuchan ไม่ชอบภาษาอังกฤษโบราณจะอ่านข้ามไปก็ได้ค่ะ
ดูแต่รูปก็พอ  ภาพวาดนี้ศิลปินได้แรงบันดาลใจจากบทกวีของคีทส์

O WHAT can ail thee, knight-at-arms,  
 Alone and palely loitering?  
The sedge has wither’d from the lake,  
 And no birds sing.  
 
O what can ail thee, knight-at-arms!          
 So haggard and so woe-begone?  
The squirrel’s granary is full,  
 And the harvest’s done.  
 

I see a lily on thy brow  
 With anguish moist and fever dew,        
And on thy cheeks a fading rose  
 Fast withereth too.  
 

I met a lady in the meads,  
 Full beautiful—a faery’s child,  
Her hair was long, her foot was light,        
 And her eyes were wild.  


I made a garland for her head,  
 And bracelets too, and fragrant zone;  
She look’d at me as she did love,  
 And made sweet moan.          

I set her on my pacing steed,  
 And nothing else saw all day long,  
For sidelong would she bend, and sing  
 A faery’s song.  
 

She found me roots of relish sweet,          
 And honey wild, and manna dew,  
And sure in language strange she said—  
 “I love thee true.”  
 

She took me to her elfin grot,  
 And there she wept, and sigh’d fill sore,          
And there I shut her wild wild eyes  
 With kisses four.  


And there she lulled me asleep,  
 And there I dream’d—Ah! woe betide!  
The latest dream I ever dream’d        
 On the cold hill’s side.  
 .

I saw pale kings and princes too,  
 Pale warriors, death-pale were they all;  
They cried—“La Belle Dame sans Merci  
 Hath thee in thrall!”          
 

I saw their starved lips in the gloam,  
 With horrid warning gaped wide,  
And I awoke and found me here,  
 On the cold hill’s side.  


And this is why I sojourn here,        
 Alone and palely loitering,  
Though the sedge is wither’d from the lake,  
 And no birds sing.


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 06 ก.ย. 05, 16:48
 ขอบพระคุณค่ะ ไยอาจารย์เทาฯจะจำรายละเอียดปริศนาได้ขนาดนี้เชียวหรือค่ะ? ดิฉันทึ่งมาก พูดถึงอังกฤษ โบราณที่อาจารย์ยกมาให้ดูแล้วขนลุก อาจารย์ที่ปรึกษายอมให้ดิฉันแลกเปลี่ยน English Literature เป็น Modern Literature แทนจึงอ่านไม่มากแค่ The Old Man and the Sea, For Whom the Bell Tolls, Snow of the Kilimanjaro ก็ไม่เลวนัก แต่ต้องลงฟิสิกส์และ Mandarin เอาไว้ฉุดเกรด just in case ค่ะ
ตอนนี้ขอเก็บแรงไว้อ่านเพชรพระอุมา  พึ่งซื้อมาทั้งชุดที่เมืองทอง เมื่อวานถึงตอนเปิบพิสดาร ที่รพินทร์รินเลือดค่างผสมเหล้าให้คุณชายเชษฐาและไชยยันตร์ ดิฉันเลยปิดหนังสือ หาลูกอมมาอมอย่างเร่งด่วนค่ะ


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.ย. 05, 11:25
 คุณ Nuchan คงจะอ่านถึงตอนที่ม.ร.ว. เชษฐาเล่าเรื่องกินสมองค่างสดๆ เฉาะกระโหลก เฉาะออกมา   บีบมะนาว ใส่พริกขี้หนู เหยาะเกลือ   แล้วบอกว่าหอยนางรมสู้ไม่ได้
อ่านแล้วก็พะอืดพะอมเหมือนกัน

ภาษาของโคลงข้างบนนี้ ทำความเข้าใจไม่ยากหรอกค่ะ  
ถ้าอยากอ่าน บอกมาก็ได้ดิฉันจะไปตั้งกระทู้เล่าให้ฟัง


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: ถาวภักดิ์ ที่ 08 ก.ย. 05, 14:00
 ถ้าชอบทั้ง ปริศนา เจ้าสาวของอานนท์ รัตนาวดี
และเพชรพระอุมา

ถ้ายังไม่เคยอ่าน ต้องตั้งเป้าอ่าน มัสยา สกาวเดือน และรัศมีแข ของพนมเทียนด้วยครับ  ไม่ผิดหวังแน่

ไม่รู้ว่าดูข้ามเอง หรือไม่มีใครพูดถึง นิคกับพิม ของพระองค์หญิงท่าน  ผมถือว่าเป็นชิ้นโบว์แดงเลย ให้ความบันเทิงได้ทุกเพศทุกวัย น่าจะจัดเป็นวรรณกรรมเยาวชนของชาติเล่มเอกเล่มหนึ่งด้วยซ้ำไป


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 08 ก.ย. 05, 16:26
 ดิฉันอ่านปริศนาครั้งแรกเมื่อปี 2520 ที่ลงเป็นตอนๆในเดลินิวส์หลัง tragedy  และไม่ได้อ่านนิยายไทยอีกเลยเกือบ 20 ปี สมัยนั้นมีการนำภาพคู่พระคู่นางมาลงด้วย เช่น อมรา อัศวนนท์ เป็นปริศนา คู่กับพระเอกนึกชื่อไม่ออก หล่อดี แต่ตอนนั้นยังไม่เกิด

ไม่น่าเชื่อว่าภาษาไทยในปี 2584 ที่พระองค์ท่านใช้เรียบเรียง จะยังคงสละสลวย และทันสมัยในปัจจุบัน ยกเว้นศัพท์คำว่า “ขวาง”   “เปิ่น”  “บอกว่าซี”  ที่ดิฉันไม่คุ้นหรือไม่เคยใช้  (ภาษาไทยของดิฉันเป็น version ใกล้ภาคกลาง เมื่อลงวิชาเลือก linguistics, semantics, syntax จึงทราบว่าแตกต่างจาก version กรุงเทพฯพอสมควร)


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 08 ก.ย. 05, 16:30
 -เครื่องหมาย quote, unqute ข้างบนกลายเป็นตัวเลขอะไรซะแล้ว!

นิยายของพนมเทียนที่คุณถาวรภักดิ์กล่าวถึง สนุกทุกเรื่อง แต่ว่าตัวนำของพนมเทียน  of  noble quality มากเกินไป ที่ผิดหวังพนมเทียนก็มีสารคดีเรื่อง เหล็กไหล เรื่องเดียว ที่จบแบบป๋าหี่ ทั้งๆที่สู้ติดตามทีละตอนๆ อย่างใจจดใจจ่อในเดลินิวส์ทุกวัน ถ้ำที่ไปตัดเหล็กไหลส่วนใหญ่ก็คุ้นๆใกล้บ้าน

เมื่อวันอาทิตย์ คนที่บ้านนอนเรียงปลาทู อ่านเพชรพระอุมาคนละเล่ม ใครคว้าได้เล่มไหนไม่สำคัญ อ่านรู้เรื่องหมด แค่อ่านบทรพินทร์เถียงกับ ม.ร.ว.ดารินก็คุ้มแล้วค่ะ จะเว่อก็มีเพียงย่ามของรพินทร์ ที่เหมือนย่ามโดเรมอน มีของทุกอย่างที่ต้องการ  กับจำนวนกระสุนที่ยิงไม่รู้จักหมด
เรื่องต่อไปที่ดิฉันซื้อจากเมืองทองที่กำลังจะอ่าน คือคู่กรรมค่ะ แต่ได้ยินว่าต้องเตรียมผ้าเช็ดหน้า
(นอนเรียงปลาทู หมายความว่า นอนเรียงกันเหมือนปลาทูในเข่งค่ะ)


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: สะใภ้จ้าว ที่ 09 ก.ย. 05, 22:35
 ชอบละครเรื่องปริศนาเหมือนกันนะครับ


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 10 ก.ย. 05, 18:34

พระเจ้าวรวงค์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ (พระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัส) (นมส.)
อาจารย์เทาฯว่างเมื่อไร เขียนนิทานเวตาลบ้างสิค่ะ อยากอ่านจังเลย


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.ย. 05, 09:32
 อ่านนิทานเวตาล ได้ที่นี่ค่ะ
 http://olddreamz.com/bookshelf/vetal/vetala.html  


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: ชล ที่ 24 ม.ค. 06, 16:05
อยากทราบว่า "อัฐิ" ของหม่อมเจ้าหญิงวิภาวดี รังสิตอยู่ที่ไหนคะ รบกวนตอบให้ด้วยค่ะ ดิฉันอยากจะไปไหว้ท่านค่ะ


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: ชล ที่ 02 มี.ค. 06, 13:24
อ.เทาชมพูค่ะ ดิฉันอยากทราบสถานที่เก็บอัฐิของพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิตมากเลยค่ะ ดิฉันอยากจะไปไหว้ท่านค่ะ
รบกวนช่วยตอบด้วยน่ะค่ะ


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 02 มี.ค. 06, 14:24
 ตอบคุณชล
ตอนแรกดิฉันจะให้คุณหมุนไปถามเบอร์ด้านล่าง แต่นึกอย่างไรไม่ทราบจึงหมุนให้คุณ
ทางโอเปอร์เรเตอร์คาดคั้นว่าดิฉันเป็นใครและจะเอาข้อมูลไปทำอะไร ดิฉันก็ตอบความจริงไป
ปรากฎว่าเขาถามว่าดิฉันคือคนที่เคย request เลขบัญชีเพื่อบริจาคแล้วเงียบหายไปใช่ไหม
ดิฉันตอบว่าใช่ เคยจะทำบุญให้มูลนิธินี้ แต่อืดอาดยืดยาด กว่าจะตอบเมล์ it took so long.
อีกอย่างหนึ่งช่วงนั้นดิฉันขาหัก ธนาคารไกลๆก็ไม่สะดวก สะดวกแต่  BBL ซึ่งคุณอ๊อฟ ที่วิชาการ.คอม หาเลขบัญชีให้ดิฉันได้ทันควัน
ดิฉันจึงเทงบทำบุญประจำปีให้เวบนี้ไปหมด

ทางมูลนิธิบอกว่าคุณอยู่สุราษฎร์ฯ เคยโทรไปถามมูลนิธิแล้ว แล้วจะเอาอะไรกันอีก ตอบแบบไม่แยแส
ทางที่ดีในเมื่อคุณอยู่สุราฏร์ ก็ไปไหว้พระรูปท่านที่ อ. พระแสงก็แล้วกันค่ะ

**************
ติดต่อ : มูลนิธิวิภาวดีรังสิต เลขที่ 93/3 อาคารบ้านเทพลิต ถนนวิทยุแขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10330
โทรศัพท์ : 0-2651-4480-90
โทรสาร : 0-2651-4499
อีเมลล์ : to_nandana@yahoo.com


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 มี.ค. 06, 14:37
 ขอบคุณค่ะคุณนุชนาที่ช่วยตอบ  


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 02 มี.ค. 06, 17:40
 พระอนุสาวรีย์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต นั้นมีหลายแห่งครับ เท่าที่ทราบยังมีอยู่อีกที่คือที่ วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ อำเภอดอนสัก สุราษฎร์ธานี แล้วก็ที่ค่ายวิภาวดี อำเภอเมือง สุราษฎร์ธานี

ส่วนพระอัฐิหรือพระอังคารนั้นผมไม่แน่ใจ หากจะให้ "เดา" ย้ำนะครับว่าเดา ก็เป็นไปได้ว่าจะบรรจุอยู่ที่สุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ในฐานะที่ทรงเป็น "สะใภ้" ราชสกุลรังสิต ซึ่งเป็นราชสกุลในมหาสาขารัชกาลที่ ๕ และในสุสานหลวงมีอนุสาวรีย์องค์หนึ่งเป็นที่บรรจุพระอัฐิและพระอังคารของเจ้านายในราชสกุลรังสิต (รวมทั้งอัฐิเจ้าจอมหม่อมราชวงศ์น้อม ในรัชกาลที่ ๕)

หรือ..หากว่าเป็นสถานที่บรรจุพระอัฐิและพระอังคารของเจ้านายในราชสกุลวังหน้า ซึ่งหมายรวมถึงราชสกุล "รัชนี" ที่พระองค์หญิงวิภาฯ ประสูติด้วย ก็คือที่ท้ายจระนำ พระอุโบสถ วัดชนะสงคราม ครับ

แต่โดยความคิดเห็นของผม ผมว่าหากประสงค์จะแสดงกตเวทิตามธรรมต่อพระองค์หญิงฯ แล้ว ไม่ว่าจะกราบไหว้ระลึกถึง หรือบำเพ็ญกุศลสนองพระเดชพระคุณอุทิศถวาย ณ ที่ไหนก็ตาม หากทรงสถิตอยู่ในที่ที่จะทรงหยั่งทราบได้ ก็น่าจะทรงอนุโมทนาได้เหมือนกันครับ


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 02 มี.ค. 06, 17:42
 ขออภัยครับ ขอแก้คำว่าเจ้าจอมหม่อมราชวงศ์น้อมเป็น "เจ้าจอมมารดา หม่อมราชวงศ์เนื่อง ในรัชกาลที่ ๕" ครับ


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: ชล ที่ 03 เม.ย. 06, 17:38
 ขอบคุณค่ะสำหรับคำตอบและคำแนะนำของคุณ Nuchana และคุณ UP แต่ขอแก้ข้อมูลนิดหนึ่งค่ะ ดิฉันได้ย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ นานแล้วค่ะ และดิฉันได้โทรไปเช็คที่มูลนิธิหลังจากได้อ่านข้อมูลของ อ.เทาชมพู แต่ไม่ได้รับคำตอบอะไรเลย และก็โดนซักเหมือนคุณ Nuchana ค่ะ ตกใจเหมือนกันว่าทำอะไรผิด หลังจากนั้นก็เลยคิดว่าหาคำตอบจาก อ.เทาชมพูหรือเพื่อนใน Wave นี้ง่ายกว่า ยังไงก็ขอขอบคุณมาก ๆ เลยน่ะค่ะที่ทำให้คุณยุ่งยากไปด้วย


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 15 ก.พ. 17, 10:12
            เวลาวันผ่านไปไวเหลือเชื่อ กระทู้นี้ตั้งเมื่อปี ๐๕ และ พรุ่งนี้วันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ก็จะเป็น
วันครบ ๔๐ ปีที่พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิตจากไป

           วันนี้บางกอกโพสท์มีเรื่องราวนำเสนอเพื่อร่วมรำลึกถึงพระองค์ท่าน เชิญผู้สนใจอ่านได้ที่

http://www.bangkokpost.com/lifestyle/social-and-lifestyle/1198833/forever-grateful


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 15 ก.พ. 17, 10:14
             บางส่วนจากบทความตอนท้าย

     Her death broke the heart of her husband, HSH Prince Piyarangsit,
who penned a short story entitled Following Ratnavadi's Footsteps in 1978
in the form of a letter written by MC Dnaivadhana and addressed
to Khun Ked, an old friend of his and his late wife MC Ratnavadi.

     "First, I have to apologise for impersonating other people again --
this time Prince Dnai. However, it should be all right since I was
really good at disguising myself as Mr Lek last time, wasn't I?
     This time, I want to pose as Prince Dnai, but the elderly Dnai,
because it was 30 years ago when he was on the trip with Princess Ratna.
     Time flies. The princess has gone while I still want to return to
places where we went together. I do it though I know I must shed my tears.
People may be right if they say I am lunatic."


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 15 ก.พ. 17, 10:20
          หลังจากที่พระองค์ท่านจากไป รายการสนทนาทางทีวีที่มีคุณชายถนัดศรีเป็นผู้ดำเนินรายการ
ได้ทูลเชิญท่านชายม.จ.ปิยะรังสิต รังสิต มาสนทนารำลึกถึงพระองค์หญิง
          ยังจำได้ว่าในรายการได้มีการฉายภาพยนตร์ส่วนพระองค์เมื่อครั้งพระองค์หญิงตามเสด็จในหลวง
รัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ ลงใต้ ภาพที่ยังจำได้นั้นคือ ณ น้ำตกแห่งหนึ่ง, พระองค์หญิงทรง
ก้มประนมมือน้อมศิระรับพระมหากรุณาฯ จากในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่ทรงสระเกศาให้
          รายการดำเนินไปด้วยบรรยากาศแห่งความเศร้าโศกอาลัย ท่านชายทรงกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ
ว่าเป็นการสูญเสียอันยิ่งใหญ่ที่สุด และท้ายที่สุดคุณชายพิธีกรซึ่งอยู่ในอาการเสียใจไม่น้อยก็ได้กล่าวปิด
รายการอย่างสั้นๆ (เหมือนกับว่าไม่อาจจะกลั้นความโศกเศร้าอีกต่อไปไว้ได้แลัว) ด้วยเสียงอันสั่นเครือ
และน้ำตาคลอเช่นกัน

(silpa-mag.com)


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: visitna ที่ 21 ก.พ. 17, 07:41
มีโอกาสได้ตามไปกับท่านสองครั้ง
ได้ขึ้น ฮอ. ตำรวจลำสีขาวตราโล่ห์
ฮอ.มารับหมอในเขตนครศรีธรรมราช
บินข้ามแนวเขาเข้าไปในเขตสุราษฎร์

ผมเพิ่งจบใหม่ลูกพี่ใช้ให้ไปดูแลท่าน
ไปสองครั้งติดกัน

ในเครื่องมีที่นั่งสามแถว
แถวแรกนักบิน
แถวสองเป็นท่านนั่งซ้าย   ด้านขวาเป็นคนติดตามท่าน
แถวสามผมนั่ง กับตำรวจ ฝ่ายปกครอง รวมสามคน
พอเครื่องบินขึ้นท่านจะส่งกล่องยาอมเม็ดเล็กเคลือบสีดำแจกกันเคาะออกมาคนละเม็ด(จำชื่อไม่ได้)
ท่านชมนักบินว่าบินเก่ง และ คุยหลายเรื่องให้ฟัง
ทั้งสองครั้งเรียบร้อยดี
 
ครั้งถัดมาลูกพี่ผมไปเอง หมอสุพาศน์
ครั้งนี้ที่เกิดเหตุท่านโดนยิง


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 21 ก.พ. 17, 13:46
เพิ่งซื้อหนังสือของว.ณ ประมวญมารค คลั่งเพราะรัก ฤทธิ์ราชินีสาว พระราชินีนาถวิกตอเรีย 3เล่มนี้มาค่ะ เป็นหนังสือเก่า ยังไม่ได้อ่านเลย อยากอ่านมานานแล้ว


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ก.พ. 17, 18:56
ควรอ่านอย่างยิ่งค่ะ


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: บุหงาส่าหรี ที่ 22 ก.พ. 17, 12:44
เคยอ่าน 'นิกกับพิม' ครั้งแรกประมาณ ๗-๘ ขวบค่ะ จำได้ว่าติดงอมแงม เป็นหนังสือจากห้องสมุดโรงเรียนคุณป้า ทีนี้พอเปิดเทอมก็เลยต้องส่งคืนเขา ตามหาอยู่นานว่าจะซื้อเก็บไว้อ่าน เพิ่งมาหาเจอตอนโตๆแล้ว แล้วเลยได้อ่านผลงานเล่มอื่นๆของท่านที่วางขายข้างๆกันด้วย  ชอบเรื่อง 'ปริศนา' มากที่สุด มาอ่านกระทู้นี้จึงได้รู้ว่าเรื่องปริศนาแต่งก่อนดิฉันเกิดถึง ๕๐ กว่าปี


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: ราชประชา ที่ 22 ก.พ. 17, 13:45
หาข้อมูลจากอาจารย์กู๋บอกว่า "ปริศนา" ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร เดลิเมล์ วันจันทร์ ฉบับวันที่ 1 ตุลาคม 2494 เท็จจริงประการใดครับอาจารย์


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ก.พ. 17, 16:08
จำวันเวลาและปีไม่ได้ค่ะ  แต่จำได้ว่าเคยตีพิมพ์ในเดลิเมลฺ์วันจันทร์
มีการประกวดปริศนาจากภาพถ่าย   มีสาวงามส่งภาพเข้าประกวดมากมายจากทั่วประเทศ
แต่หญิงสาวที่ได้สวมบทบาทแต่งกายเป็นปริศนาในฉบับพิมพ์ครั้งแรก คือคุณวาสนา กระแสสินธุ์   ค่ะ  เป็นสาวไทยที่สวยมาก ตากลมโต หน้าหวาน เหมือนปริศนาที่องค์ผู้นิพนธ์ ทรงบรรรยายไว้ไม่มีผิด


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 28 ก.พ. 17, 10:47
สารภาพว่าตอนยังไม่ได้อ่านนิกกับพิมจินตนาการว่าเป็นเรื่องราวจีบกันของสุนัขตัวผู้ชื่อนิกกับสุนัขตัวเมียชื่อพิม จนกระทั่งมาอ่านจริงๆสนุกมากๆเลยค่ะ ทั้งนิกและพิมเป็นตัวผู้ทั้งคู่แต่พระองค์หญิงช่างแต่งเรื่องได้น่ารักจริงๆ เอาใจช่วยลุ้นไปกับเจ้านายของทั้งสองตัวเลย


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 02 มี.ค. 17, 14:02

คุณวาสนา เป็นน้องสาวคุณมารยาท กระแสสินธุ์  เป็นคู่พี่น้องที่มีความงดงามแตกต่างกัน  คุณมารยาทสวยคมเฉี่ยว  คุณวาสนาสวยหวาน

ดิฉันเคยเห็นรูปเธอ  ตอนนั้นหนังสือพิมพ์เดลินิวส์นำมาลงพิมพ์ประกอบนิยายปริศนา  ตอนละครที่คุณหมิวเล่นออกอากาศ  ตอนนี่พยายามหาอีกก็ไม่พบ

ช่วงนั้นจำได้ว่ามีนิตยสาร (ลลนา?) ไปสัมภาษณ์เธอ  เธอยังสวยหวานงดงามสมวัย  แม้เวลาจะผ่านมาจากรูปภาพ "ปริศนา" นับสิบปีแล้วก็ตาม


กระทู้: พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
เริ่มกระทู้โดย: ninpaat ที่ 02 มี.ค. 17, 18:36
นำรูปคุณวาสนา มาจากกระทู้ ปริศนา สี่ดรุณีศรีสุทธากุล (https://pantip.com/topic/34372061)

ขอขอบคุณ คุณ ต๊กโกวคิ้วป้าย และ pantip.com ด้วยครับ

(https://f.ptcdn.info/884/036/000/nwz4nd1pc7Pxsllpc8P-o.jpg)