เรือนไทย

General Category => ศิลปะวัฒนธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: nathanielnong ที่ 17 เม.ย. 21, 14:53



กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 17 เม.ย. 21, 14:53
รบกวนถามผู้รู้ถึงรายละเอียดของ ป้านน้ำชา ใบนี้ครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/ir/210417075134.jpg) (http://picture.in.th/id/f3f0e08d96968f18759df0c165167509)

(http://image.free.in.th/v/2013/im/210417075200.jpg) (http://picture.in.th/id/dfdae851c60206cbdf710f194a174e16)

(http://image.free.in.th/v/2013/ie/210417075223.jpg) (http://picture.in.th/id/58ee21d2cbcac722efddb70217aaa104)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 17 เม.ย. 21, 16:17
ป้านชาตรามังกร     คาบแก้วร่อนบนเวหา
สมบัติเจ้าคุณตา      ดูทีท่าน่าสนใจ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 เม.ย. 21, 18:44
เคยเห็นป้านชาคล้ายๆแบบนี้ ในร้านของเก่า  แต่ไม่มีความรู้เรื่องนี้ค่ะ
ต้องรอผู้รู้มาตอบ
ึคุณโหน่ง พอจะเล่าอะไรเกี่ยวกับป้านชานี้ได้บ้างไหมคะ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 18 เม.ย. 21, 09:48
เคยเห็นป้านชาคล้ายๆแบบนี้ ในร้านของเก่า  แต่ไม่มีความรู้เรื่องนี้ค่ะ
ต้องรอผู้รู้มาตอบ
ึคุณโหน่ง พอจะเล่าอะไรเกี่ยวกับป้านชานี้ได้บ้างไหมคะ

เห็นมาตั้งแต่เกิดครับ  ตั้งอยู่บนโต๊ะใหญ่ในห้องกินข้าวบนบ้าน  แรก ๆ หัวยังเตี้ยกว่าโต๊ะ เลยไม่รู้ว่าบนโต๊ะมีอะไรบ้าง  พอสูงจนหัวเลยโต๊ะขึ้นมาก็เห็นป้านนี้มาตลอด  คุณยายเอาไว้ใส่น้ำชา  คนใช้จะทำไว้ให้ทุกเช้า  เคยลองชิมน้ำชาดูปรากฏว่าขมปี๋  ความจริงไม่ขมหรอกครับ  แต่ลิ้นเด็กน่ะ  แต่ก็จำฝังหัวมาจนถึงบัดนี้  คือไม่ชอบกินน้ำชา  

วันดีคืนดีคุณยายก็จะเอาที่ใส่ (เค้าเรียกขันรึเปล่าครับ) มาขัด  ใช้น้ำมะขามเปียก  ขัดเสร็จก็เป็นวาววับ  เอาไปตั้งบนโต๊ะต่อ  

มีถ้วยชา/ถ้วยกาแฟ  วางเกะกะ  สมัยก่อนเห็นดื่นดาด  

ป้านยังมีอีก 3-4 แบบ  รอผู้รู้ไขใบนี้ก่อน

(http://image.free.in.th/v/2013/id/210418024609.jpg) (http://picture.in.th/id/e541953255d2d86e72390ae2a04124a1)

ปล. ความจริงน่าจะเช็ดฝุ่นซะก่อน


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 18 เม.ย. 21, 10:18
เครื่องหมายประดับนี้     อาจบ่งชี้แหล่งที่มา
อยากเห็นเต็มเต็มตา     ช่วยจัดหามาให้ชม


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 เม.ย. 21, 10:42
ขอแยกสมบัติในรูปออกเป็น ๒ ชิ้น
ชิ้นแรกคือป้านชา  รูปทรงเป็นกาน้ำชาจีน   ดูตราที่ประทับอยู่บนก้นป้านชา น่าจะผลิตในเมืองจีน ส่งมาขายในสยาม 
ชิ้นที่สองคือภาชนะที่ใส่ป้านชา   ดูรูปร่างแล้วเป็นของไทยแน่นอน   น่าจะเป็นขันที่ทำขึ้นเพื่อโอกาสพิเศษ ไม่ใช่ขันน้ำวางขายทั่วๆไป  สังเกตได้จากตราที่ติดอยู่ มีรูปมงกุฎอยู่ด้านบน   
ขันใบนี้มีนวมสำหรับหุ้มป้านชาเพื่อให้น้ำชาอุ่นอยู่เสมอ  เป็นนวมกำมะหยี่มีเกลียวทองประกอบ   ด้านหนึ่งเว้าสำหรับรองรับพวยกาได้พอเหมาะ
ถ้าเป็นของมีมาพร้อมป้านชาตั้งแต่เดิม  ไม่ใช้ของเย็บใหม่ใส่เข้าไป  ก็ต้องถือว่าเป็นป้านชาชุดพิเศษ เจ้าคุณตาอาจได้รับในโอกาสพิเศษอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่นเป็นของชำร่วยในงานสำคัญอะไรสักอย่าง


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 เม.ย. 21, 10:46
ส่วนถ้วยน้ำชาฝรั่งทั้งหมู่นั้น    น่าจะเป็นของแถมจากสินค้าที่ประทับตราอยู่ค่ะ   ซื้อโอวัลติน ๑ กระป๋องแถมถ้วยกระเบื้องพร้อมจานรอง   
ดูจากหน้าตาแล้วบอกอายุได้ว่าหลายสิบปีแล้ว   ยุคนั้นไม่มีเรซิ่น หรือเมลามิน  เป็นกระเบื้องแท้


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 18 เม.ย. 21, 11:19
ปั้นชาน่ารักดีครับ ดูสีจะออกเทาแดง ที่ฝากามีตัวอักษรอะไรบ่งบอกยี่ห้อไหมครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 18 เม.ย. 21, 13:39
ปั้นสาย ขัดเงา สีตับหมู (ตับเป็ด) ประมาณสมัยรัชกาลที่ 5 ตรงกับปลายราชวงศ์ชิง สยามคิดหุ่นปั้นแล้วสั่งทำจากจีน เรียกว่า “ปั้นอย่าง” หรือ “ปั้นอย่างสยาม” ส่วนมากเป็นปั้นขนาด 200-500 มล. ขณะใช้งานนิยมวางบนจานรองปั้น หรือชามรองปั้น
ปั้นสาย=ปั้นที่มีวงโค้งสำหรับหิ้ว (อีกแบบคือ ปั้นหู ที่หูจับติดเป็นเนื้อเดียวกับกา)

สีตับหมู หรือสีตับเป็ด เรียกกันตามสำเนียงแต้จิ๋วว่า “กัวเซ็ก” หรือจีนกลางว่า “กานเส่อ” (肝色-Gān sè) แปลตรงตัวได้ว่า “สีตับ” เป็นสีโทนน้ำตาลอมม่วง น้ำตาลแดง หรือน้ำตาลเข้ม ได้รับความนิยมในสมัยรัชกาลที่ 2-5 โดยพบข้อมูลจากหนังสือเรื่อง “ปั้นชาและเครื่องถ้วยชาจีน” ของมัตตัญญู ที่กล่าวถึงปั้นชาสีตับหมูที่นิยมในสมัยโบราณว่า “สียิ่งเข้มยิ่งดี” แต่สีดำสนิทนั้นไม่นิยม เพราะไม่ได้เกิดจากสีของดินแท้ๆ
.
ปั้นชาสีตับ หรือ กัวเซ็ก ทำจากดินจื่อซา (紫砂 – zǐshā) ประเภท จื่อหนี (紫泥 - zǐ ní)(ดินม่วง) จากเมืองอี๋ซิง ประเทศจีน เผาด้วยอุณภูมิกว่า 1000 องศาเซลเซียส จากนั้นนำมาขัดผิวให้เงา-ใส่สายหิ้ว-เลี่ยมขอบในสยาม ปั้นดินจื่อหนีมีคุณสมบัติเก็บความร้อนได้ดี มีรูพรุนมากกว่าปั้นสีแดง(จูหนี) จึงทำให้สามารถเก็บกลิ่นชาไว้ในเนื้อปั้นได้มาก จนมีผู้นิยมดื่มชาบางท่านกล่าวว่า ปั้นชาจื่อหนี สามารถชงชาผูเอ่อร์ได้รสชาติกลมกล่อมที่สุด ยิ่งใช้บ่อยยิ่งชงชาได้หอมลึกซึ้งยิ่งนัก ชงชาที่มีรสขมก็กลับกลายเป็นหวาน (หวานอย่างชามิใช่หวานอย่างน้ำตาล)
---------
ดินจื่อซาใช้ทำปั้นชามาตลอดตั้งแต่สมัยหมิงเป็นต้นมา แต่ในยุคหลังมีปั้นที่ทำเลียนแบบรูปทรง แต่ไม่ได้ใช้ดินจื่อซาแท้แบบปั้นอี๋ซิง เนื่องจากช่างฝีมือดีๆและดินจื่อซาคุณภาพดี มีราคาแพง จึงพบเห็นปั้นรูปทรงโบราณ แต่ทำจากดินอื่นที่มีเนื้อสีดำๆ ดินแม่น้ำ ดินกระถาง หรือแม้แต่ดินเคมี
.
การขัดเงา จากการอ่านพบว่ามีหลายวิธี เช่น ขัดด้วยกากเพชร ใบกล้วย น้ำยาชักเงา ฯลฯ ซึ่งผู้ที่สามารถขัดเงานั้นหาได้ยากยิ่งในปัจจุบัน
.
ระโยง https://www.facebook.com/Kenniegallery/posts/1588148794682976


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 18 เม.ย. 21, 14:03
คุณธสาคร  ขอบคุณมาก ๆ ครับ  อ่านไปขนลุกไป

คุณ siamese และ คุณเพ็ญชมพู  ขอเวลาแป๊บครับ  เพิ่งทำงานบ้านเสร็จ  วัน ๆ ไม่ค่อยว่าง


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 18 เม.ย. 21, 15:13
กลับมาแล้วครับพร้อมรูปเพิ่มเติม

ก่อนอื่นต้องบอกว่ารูปดั้งเดิม  ไปเข้าเครื่องปรุงแต่งให้ออกมาสวยงามเกินความเป็นจริง  ความตั้งใจแรกเริ่มคือเอาไว้ทัศนาตามลำพัง

รูปใหม่นี้สภาพดั้งเดิมครับ  โดยเฉพาะตัวขันเงิน  หาความเป็นเงินไม่เจอ  มีแต่ขี้ไคล  แต่ยังพอเห็นเค้าลวดลาย

(http://image.free.in.th/v/2013/iw/210418080737.jpg) (http://picture.in.th/id/f914955f970cfc8a7dde519d8ad60aa1)

(คุณ siamese บน/ใต้ฝา  ไม่มีตัวอักษรใด ๆ ครับ)

คุณเพ็ญชมพูครับ  ตัวขันมีลายตัวละคร 4 ด้าน  ก้นเป็นลายแบบในรูป

(http://image.free.in.th/v/2013/iw/210418080926.jpg) (http://picture.in.th/id/f85912bd927b89f1415d906a35392b05)

(http://image.free.in.th/v/2013/ig/210418080947.jpg) (http://picture.in.th/id/523cb8e9cf6b4f51c5bdf0ada9e878bb)

(http://image.free.in.th/v/2013/iu/210418081008.jpg) (http://picture.in.th/id/85711e50d729d0f66b190aab244e4b82)

(http://image.free.in.th/v/2013/iz/210418081038.jpg) (http://picture.in.th/id/b22955b8128040a9e3425d82bf7f69bf)

(http://image.free.in.th/v/2013/ii/210418081106.jpg) (http://picture.in.th/id/8d53ae3a12d6ad8b9c52b6a94e03d555)

(http://image.free.in.th/v/2013/im/210418081143.jpg) (http://picture.in.th/id/c401a91bca735510fe0d553ef7d8eecd)

ขอบคุณที่ให้ข้อมูลครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 19 เม.ย. 21, 12:14
รูปนี้ จาก ebay ระบุว่า เป็น ขันเงินจากไทย ตอกลายนูนแบบดั้งเดิมของพม่า
(ด้านก้นขันมีตัวหนังสือไทย)

เทียบลวดลายแล้ว ของเจ้าคุณตาจขกท. งานละเอียดชัดเจนมากกว่า - อาจจะเป็น ของพม่า หรือ
ของไทยระดับงานฝีมือ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 เม.ย. 21, 13:12
หลังจากรู้ว่าไม่ใช่เครื่องหมายมงกุฎ  แต่เป็นชฎา  มองขันเงินแล้วนึกถึงศิลปะเครื่องเงินพม่ายุค ๗๐-๘๐ ปีมาแล้วค่ะ
พวกนี้เป็นที่นิยมกันก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๒  เคยเห็นขันเงินใบใหญ่ในร้านของเก่าแถวถนนอัษฎางค์ สิบกว่าปีมาแล้ว ก็คล้ายๆแบบนี้


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 19 เม.ย. 21, 13:36
หลังจากรู้ว่าไม่ใช่เครื่องหมายมงกุฎ  แต่เป็นชฎา  มองขันเงินแล้วนึกถึงศิลปะเครื่องเงินพม่ายุค ๗๐-๘๐ ปีมาแล้วค่ะ
พวกนี้เป็นที่นิยมกันก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๒  เคยเห็นขันเงินใบใหญ่ในร้านของเก่าแถวถนนอัษฎางค์ สิบกว่าปีมาแล้ว ก็คล้ายๆแบบนี้

ขอบคุณมาก ๆ ครับ  ยังติดใจ สัญลักษณ์รูปมังกรใต้ปั้นชา  มันต้องมีความหมายแน่ ๆ  อยากรู้จัง


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 19 เม.ย. 21, 13:46
ลวดลายเหมือนพม่า    สองเสียงว่าคล้ายคลึงกัน
สี่องค์ลงรอบขัน         กลางเครือวัลย์พันเรียงราย


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 19 เม.ย. 21, 13:53
นี่เป็น ปั้นชา ชิ้นที่ 2 

ชิ้นนี้เป็นของคุณตา (ชิ้นก่อนของคุณยาย)  แม่เป็น 'ลูกคุณตา'  พอคุณตาตาย  แม่ก็เลยเก็บปั้นนี้  ซึ่งผมไม่รู้เรื่องมาก่อน (คุณตาตายก่อนผมเกิด)  แม่เพิ่งให้มาเมื่อปีกว่ามานี้เอง  แม่บอก 'ชั้นก็คงอีกไม่นาน  เอาไปเก็บต่อก็แล้วกัน'

ดูจากสีสันแล้วน่าจะร่วมรุ่นกับชิ้นแรก  สภาพแจ๋วแหวว  ผมติดใจตรงถังใส่  ดูจากลวดลายแล้ว  ไทยแท้  แต่พอหงายดูก้น  เห็นตัวหนังสือจีน  หมายความว่าไงหนอ

อยากรู้ว่าแปลว่าอะไร  รวมถึงตัวหนังสือจีนใต้ปั้นด้วยครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/ig/210419064735.jpg) (http://picture.in.th/id/05bede1a95a82fc9090ec3422632b08d)

(http://image.free.in.th/v/2013/iw/210419064801.jpg) (http://picture.in.th/id/a40b5023973ce51ae76cfcd828903d79)

(http://image.free.in.th/v/2013/il/210419064829.jpg) (http://picture.in.th/id/5065e32a09ed4c183f212eebac1d417d)

(http://image.free.in.th/v/2013/ii/210419064851.jpg) (http://picture.in.th/id/cc90f1c59a5077126cde7f3e9761fbb7)

(http://image.free.in.th/v/2013/if/210419064916.jpg) (http://picture.in.th/id/4748ad0c4222255c4e7bec4eb087da34)

(http://image.free.in.th/v/2013/iy/210419064940.jpg) (http://picture.in.th/id/bda93e94eb38a4a88ae8d699adf2287e)



กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 19 เม.ย. 21, 13:59
เทียบลวดลายแล้ว ของเจ้าคุณตาจขกท. งานละเอียดชัดเจนมากกว่า - อาจจะเป็น ของพม่า หรือ
ของไทยระดับงานฝีมือ


แฝดคนละขัน  ;D


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 19 เม.ย. 21, 15:40
ปั้นชาที่เข้ามาในสยามจำนวนมาก มีตรา 貢局 (Gòng jú) คนแต้จิ๋วในไทยเรียกว่า “กงเก็ก” สำเนียงจีนกลางว่า “กงจวู่” นอกจากนั้นยังพบปั้นชาที่เขียนภาษาไทยไว้ใต้ก้นปั้นว่า “กงเกยีค์” ตรากงเก็กอาจพบได้ในหลายตำแหน่ง ได้แก่ ลิ้นปั้น ฝาปั้น ก้นปั้น หรืออาจมีทั้งที่ก้นและที่ฝาก็ได้ นอกจากนั้นยังอาจพบตรากงเก็กประกอบกับชื่อช่างปั้น ชื่อโรงงาน ตรามังกร และบทกวี ส่วนลักษณะของตัวอักษรก็มีทั้งการแกะด้วยมีด และการประทับตราแบบต่าง ๆ

มีการกล่าวถึงปั้น “กงเก็ก” ในหนังสือเรื่อง “ปั้นชาและถ้วยชาจีน” ของมัตตัญญู ว่ามีการสั่งผลิตจากเตากงเก็กตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นปั้นหลวงชั้นดี ต่อมาในรัชกาลที่ ๒ มีการกลึงหุ่นไม้จากไทยส่งไปและยังส่งคนไปกับราชฑูตเพี่อควบคุมดูแลการผลิตด้วย โดยปั้นสมัยรัชกาลที่ ๒ นี้มีเนื้องามที่สุด แม้ในสมัยหลังจะสั่งทำอีกก็ไม่สามารถทำให้งามเท่ากับสมัยรัชกาลที่ ๒ ได้

หนังสือเรื่อง “กระเบื้องถ้วยกะลาแตก” ของคุณพิมพ์ประไพ พิศาลบุตร กล่าวถึงปั้นกงเก็กว่าเป็น “สินค้าสำเภากรมท่าซ้าย” ที่คณะฑูตบรรณาการจากสยามสั่งผลิต โดยมีการ “ให้อย่าง” หรือออกแบบให้ผลิต จึงมีการประทับตราดังกล่าวแทนชื่อผู้ผลิต ส่วนความเก่าแก่ของปั้นกงเก็กนั้นอาจมีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง ซึ่งตรงกับสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่ปั้นกงเก็กส่วนมากผลิตในสมัยปลายราชวงศ์ชิง ตรงกับสมัยกรุงรัตนโกสินทร์

หนังสือเรื่อง “ปั้นชา เสน่หางานศิลป์แห่งดินปั้น” ของคุณนพพร ภาสะพงศ์ กล่าวถึงคำแปลของอักษร “กงเก็ก” ว่า “สำนักงานที่รับเครื่องราชบรรณาการ” แต่กลับไม่เคยพบข้อมูลของของหน่วยงานดังกล่าวในประเทศจีน จึงยากที่จะสืบหาที่มาของตรา “กงเก็ก” แต่ส่วนใหญ่มักเป็นปั้นที่ผลิตในช่วงต้นศตวรรษที่ ๑๗ ถึงกลางศตวรรษที่ ๑๘

หนังสือเรื่อง “ปั้นอี๋ซิง” ของคุณหมอวรวิทย์ วรภัทรากุล กล่าวถึงคำแปลของตรากงเก็กว่า “กรมบรรณาการ” มีการผลิตตั้งแต่สมัยจักรพรรดิคังซีแห่งราชวงศ์ชิง โดยอ้างอิงจากเอกสารของจีน ว่าจักรพรรดิคังซีมีพระราชโองการให้ผลิตปั้นส่งเข้าราชสำนักโดยใช้ตรา “กงเก็ก” และเมื่อทางราชสำนักของไทยทำการค้าขายกับจีน มีการถวายบรรณาการให้ราชสำนักจีน ทางราชสำนักจีนจึงจัดของไว้ตอบแทนกลับมา หนึ่งในนั้นคือปั้นชาตรา “กงเก็ก” นอกจากนั้น ยังมีการกล่าวถึงความเห็นจากแหล่งข้อมูลจากไต้หวันว่าตรากงเก็ก เป็นตราทางการค้าทั่ว ๆ ไป ไม่ได้เกี่ยวกับราชสำนักจีน โดยอ้างอิงจากปั้นชากงเก็กในสมัยปลายราชวงศ์ชิง


ในตำรา 阳羡砂壶图考 บรรยายว่าตรากงเก็กหมายถึงตราที่สั่งทำโดยหน่วยงาน 荆溪陶正司 (จิ่งซีเถาเจิ้งซือ) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่สั่งผลิตของจากอี๋ชิงส่งเข้าวัง ในบันทึกกล่าวว่า ปั้นตรากงเก็กมีเก็บรักษาไว้ในวังด้วย เช่น ปั้นในสมัยคังซีเป็นปั้นจูหนีขนาดเล็กหนึ่งใบแกะตราว่า 康熙贡局 เป็นลักษณะสิงซู (ลายมือกึ่งหวัด) อีกใบหนึ่งเป็นปั้นสายจูหนีแกะตรา 雍正贡局 เป็นลักษณะข่ายซู (ลายมือบรรจง)

รศ.เสนอ นิลเดช ได้กล่าวถึงปั้นชากงเก็ก ไว้ในภาคผนวกของ หนังสือเรื่อง “ปั้นชา เสน่หางานศิลป์แห่งดินปั้น” ของคุณนพพร ภาสะพงศ์ ว่าปั้นดังกล่าวพบมาในรัชกาลที่ ๕ โดยแปลว่า “ราชทูต” ไม่ใช่ปั้นในกรมท่าซ้าย แต่เป็นปั้นที่ราชฑูตสั่งผลิต มักเป็นปั้นสาย มีหลายขนาด

แม้ปั้นกงเก็กจะพบในประเทศไทยเป็นจำนวนมากเพราะมีการสั่งผลิตอย่างต่อเนื่องมาตลอดทุกรัชกาล แต่ปั้นกงเก็ก ก็จัดว่าเป็นปั้นชาที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและแสดงถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและจีน ปัจจุบันเป็นของที่มีคุณค่าควรเก็บรักษาไว้ให้คนรุ่นหลังได้รู้จักสืบไป

จาก Kennie Gallery (https://www.facebook.com/101737523324118/posts/1690032364494618/?d=n)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 20 เม.ย. 21, 08:25
เรียนคุณ เพ็ญชมพู

ขอบคุณสำหรับความรู้เป็นอย่างมากครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 20 เม.ย. 21, 09:58
ปั้นชาตรากงเก็ก   ใบไม่เล็กแม่ให้มา
สมบัติเจ้าคุณตา    คงมีค่าน่าสนใจ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 21 เม.ย. 21, 10:40
คำถามต่อไปครับ

ชิ้นนี้แม่ให้มาพร้อมกับปั้นชา  เป็นนาฬิกาพก  

คำถามคือ นาฬิกายี่ห้ออะไร

พอพลิกด้านหลังดู  ก็พบปริศนาลึกลับ  ทำไมเป็นแบบนี้  เกิด 'ดราม่า' ระหว่างคุณตากับใครรึเปล่า  ถึงขนาดขีดฆ่าทำลายของลงไปเลย

ถามแม่แต่ไม่ได้รับคำตอบ  แม่บอก  ดูไม่ดีเลย  อย่าเอาไปให้ใครเค้าดู  ผมไม่ได้รับปาก  เอาแผ่ในนี้จึงไม่ถือว่าผิดศีล (4)  

พยายามแกะคำที่โดนขีดฆ่าว่าเป็นชื่อใคร  แต่ไม่ประสบผล

เรียนนักสืบช่วยไขปัญหาครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/iz/210421033923.jpg) (http://picture.in.th/id/1b75650f8c98530223f6038498e04c56)

(http://image.free.in.th/v/2013/iu/210421034017.jpg) (http://picture.in.th/id/0f56af4f5899962972256ccf250c8231)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 เม.ย. 21, 11:58
คุณ nathanielnong  พุ่งความสนใจไปที่รอยขีดทับชื่อบุคคล    ดิฉันกลับไปตื่นเต้นกับพระปรมาภิไธยด้านบนสุด
นาฬิกาพกนี้เป็นของพระราชทาน(?) ให้บุคคลหนึ่ง  เนื่องในวันเกิดที่เขาผู้นั้นอายุครบ ๑๙ ปีในพ.ศ. ๒๔๕๓ แปลว่าเขาเกิดในพ.ศ. ๒๔๓๔  ในรัชกาลที่ ๕

ทีนี้ ขอแกะรอยว่าเจ้าของนาฬิกาพกพระราชทานนี้เป็นใคร
๑  เขาน่าจะเป็นใครคนหนึ่งที่ปฏิบัติราชการในวังหลวง ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทในฐานะข้าราชบริพาร    จึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานของขวัญในวันเกิด    
๒  เขาเป็นสามัญชน ไม่ใช่เจ้านาย  สังเกตจากการใช้คำว่า "อายุ" อย่างธรรมดา
๓  เขาทำงานถวายมาตั้งแต่ก่อนอายุ ๑๙ แน่นอน  จะอายุ ๑๘ ๑๗ ๑๖  หรือน้อยกว่านั้นก็ตาม    ก็คงจะทำงานมาหลายปี  จึงอยู่ในข่ายได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานของขวัญเป็นส่วนตัวในวันเกิด   ไม่ใช่ของพระราชทานเนื่องในโอกาสสำคัญ อย่างเลื่อนยศ หรือในพระราชพิธีต่างๆ
๔  สามข้อข้างบนนี้ทำให้เดาว่าเป็นมหาดเล็กหลวง   น่าจะเป็นมหาดเล็กถวายงานใกล้ชิดอย่างที่โต๊ะเสวย หรือตามเสด็จไปในที่ต่างๆ
หรือไม่  ดิฉันนึกไปถึงพวกฝึกโขนละครหลวงในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่รับสมัครเข้ามาตั้งแต่ปลายรัชกาลที่ ๕  เมื่อทรงดำรงตำแหน่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ

ทีนี้ มาถึงเรื่องขีดฆ่าชื่อออก
ดิฉันไม่เชื่อว่าคุณตาขีดฆ่าชื่อออกเพราะเกิดดราม่าระหว่างท่านกับเจ้าของนาฬิกาพกเรือนนี้    คนเราถ้าโกรธกันขนาดเห็นชื่อไม่ได้ จะไปเอาของใช้ส่วนตัวเขามาเก็บรักษาไว้ทำไมตั้งยาวนานตลอดชีวิตของท่าน  ยกให้ใครไปให้พ้นหูพ้นตา หรือเอาไปขายให้หมดเรื่องหมดราว ไม่ดีกว่าหรือ
ดิฉันคิดว่าสาเหตุการขีดฆ่าชื่อออก  คือคุณตาไม่ใช่คนที่ได้รับพระราชทานนาฬิกาพก     แต่คุณตาได้ครอบครองนาฬิกาเรือนนี้ในฐานะเจ้าของ  
ทีนี้  ตามแบบของคนโบราณที่ได้ครอบครองของคนอื่น  โดยเฉพาะของพระราชทาน  ท่านก็กระอักกระอ่วนใจที่จะให้ใครเห็น  ในเมื่อของนั้นมีหลักฐานว่าเป็นของคนอื่น     จะต้องมาชี้แจงกับคนที่ตาไว เกิดเห็นชื่อขึ้นมา ท่านก็คงลำบากใจจะต้องอธิบายแล้วอธิบายอีก   หรือถ้านาฬิกาตกทอดไปถึงลูกหลานที่ไม่รู้จักเจ้าของชื่อ  ถามขึ้นมาว่าสมบัติชิ้นนี้ของใคร  ก็ลำบากที่จะต้องสืบสาว
ดิฉันคิดว่าเป็นได้สองทาง  คือ
๑  เจ้าของนาฬิกาพกเป็นญาติของคุณตา    แล้วเป็นมรดกตกทอดถึงคุณตา
๒  คุณตาซื้อนาฬิกาพกเรือนนี้มาในเวลาภายหลังรัชกาลที่ ๖ นานหลายสิบปี  อาจจะจากร้านค้า หรือลูกหลานเจ้าของนาฬิกานำมาขายเมื่อเจ้าของล่วงลับไปแล้ว  
ท่านคงรู้จักเจ้าของนาฬิกา ก็เลยไม่อยากเล่าให้ใครรู้ว่า ลูกหลานไม่รักษาของ  หรือไม่ก็ลำบากยากจนต้องเอามาขาย

ใจจริงดิฉันคิดว่าเป็นข้อ ๒ มากกว่าข้อ ๑   เพราะถ้าเป็นของญาติ  คุณแม่คุณโหน่งคงได้รับคำบอกเล่าแล้วว่าเป็นของคุณลุงคุณอาคนไหน    ไม่ใช่เรื่องไม่ดีอะไร  
การที่คุณแม่ไม่รู้  ก็แสดงว่าคุณตาอาจไม่บอกท่าน หรือบอกแล้วว่าเป็นใครแต่คุณแม่ไม่อยากเล่า  จึงตอบคุณโหน่งมาแบบนั้น

เจ้าของนาฬิกานี้เกิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๔  อายุต่างจากคุณตาคุณโหน่งมากน้อยแค่ไหนคะ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 21 เม.ย. 21, 14:09
คุณ nathanielnong  พุ่งความสนใจไปที่รอยขีดทับชื่อบุคคล    ดิฉันกลับไปตื่นเต้นกับพระปรมาภิไธยด้านบนสุด
นาฬิกาพกนี้เป็นของพระราชทาน(?) ให้บุคคลหนึ่ง  เนื่องในวันเกิดที่เขาผู้นั้นอายุครบ ๑๙ ปีในพ.ศ. ๒๔๕๓ แปลว่าเขาเกิดในพ.ศ. ๒๔๓๔  ในรัชกาลที่ ๕

เจ้าของนาฬิกานี้เกิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๔  อายุต่างจากคุณตาคุณโหน่งมากน้อยแค่ไหนคะ

อาจารย์วิเคราะห์เหมือนหนังสือนักสืบของ Agatha Christie เลยครับ  อ่านสนุก

คุณตาเกิด 2440 ครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 21 เม.ย. 21, 14:50
- ร่องรอยอักษรเดิม จาง ไม่ลึก , อาจไม่ได้ถูกสลักมาพร้อมกับข้อความหลัก
- รูปเล็กไป เพ่งไม่ไหวครับ
- จำนวนตอบกระทู้ของคุณ nathanielnong ยังเป็น 0 อยู่ , เรียนท่านเจ้าเรือน . . ระบบเรือนไทยขัดข้องหรือไม่ครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 21 เม.ย. 21, 14:51
จำนวนการตอบกระทู้ของผมก็ไม่กระดิก , ยังคง 239 เท่าเดิม


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 เม.ย. 21, 18:04
- จำนวนตอบกระทู้ของคุณ nathanielnong ยังเป็น 0 อยู่ , เรียนท่านเจ้าเรือน . . ระบบเรือนไทยขัดข้องหรือไม่ครับ 
  น่าจะเป็นที่ระบบค่ะ   เรื่องนี้ต้องรอคุณม้ามาแก้ไข   ดิฉันทำไม่เป็น


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 เม.ย. 21, 18:18
เจ้าของนาฬิกาพกอายุมากกว่าคุณตา 6 ปี     แปลว่าอยู่ในยุคสมัยเดียวกัน
ในรัชกาลที่ 6  สังคมกรุงเทพยังแคบมาก   ยิ่งถ้าเป็นครอบครัวข้าราชการ แม้จะอยู่คนละกระทรวงคนละกรม ก็รู้จักกันได้ไม่ยาก   ถ้าไม่รู้จักสนิท  ก็รู้จักแบบห่างๆ
เป็นได้ว่าคุณตาไปเจอนาฬิกาพกเรือนนี้ ในวัยที่ท่านเป็นผู้ใหญ่มากแล้ว  รู้ว่าคนได้รับพระราชทานเป็นใคร  ก็เลยซื้อมาไว้เป็นที่ระลึกถึงเจ้าของซึ่งอาจล่วงลับไปแล้ว  แต่ท่านก็คงจะใช้นาฬิกาเรือนนี้ด้วย  ไม่ได้เก็บเข้าตู้ไว้เฉยๆ   เลยขีดชื่อเจ้าของออกไป

ที่สันนิษฐานอย่างนี้เพราะดิฉันเคยได้เป็นเจ้าของของพระราชทานชิ้นหนึ่ง  จากเจ้าของเดิมซึ่งถึงแก่กรรมไปแล้ว
พอจะนำมาใช้    เกิดสงสัยว่าจะใช้ได้ไหมเพราะเราไม่ใช่ผู้รับพระราชทาน ก็เลยเรียนถามท่านผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง    ท่านตอบว่าของพระราชทานนั้นถ้าเราไม่ใช่คนได้รับพระราชทานก็ไม่ควรใช้   ท่านเองมีของตกทอดมาเป็นสมบัติของท่าน ท่านยังไม่เคยใช้เลย
คงเป็นเพราะถือกันอย่างนี้กระมัง  คุณตาซึ่งเป็นคนรุ่นเก่า คงเคยรู้ธรรมเนียมนี้   เมื่อท่านไม่อยากซื้อมาเก็บไว้เฉยๆ แต่อยากนำมาใช้ให้คุ้มราคา  ท่านก็เลยขีดชื่อเจ้าของเดิมออก

หรือไม่  มีอีกทางหนึ่งคือ  ตอนลูกหลานเจ้าของนาฬิกาพกนำออกขาย  ไม่อยากให้ใครรู้ เลยขีดชื่อบรรพบุรุษออกไป    คุณตาไปเจอนาฬิกาในร้านของเก่า ถูกชะตาขึ้นมาก็เลยซื้อมา

นาฬิกาเรือนนี้เป็นเรือนทองหรือเปล่าคะ  น่าจะใช่นะ  ของพระราชทานคงไม่ใช่เงินหรือนาก  



กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 22 เม.ย. 21, 08:56
ยี่ห้อนาฬิกา         อะไรหนาขอทราบที
อีกชื่อเจ้าของนี้      หากขยายอาจได้ความ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 เม.ย. 21, 10:08
ขยายเต็มที่แล้วยังไม่เห็นค่ะ    ช่างที่ขีดลบชื่อคงได้รับคำกำชับให้ปิดชื่อมิดชิดจริงๆ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 22 เม.ย. 21, 10:24
ถ่ายชื่อระยะใกล้          ด้วยการใช้โหมดมาโคร
และแล้วส่งมาโชว์        อาจใช้สืบคืบหน้าพลัน


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 เม.ย. 21, 10:25
ทำไมไม่มียี่ห้อนาฬิกา ?
ขอหมายเหตุว่าสันนิษฐานล้วนๆ   ไม่ต้องเชื่อก็ได้   ว่าเป็นนาฬิกาพกที่สั่งทำ  ตัวเรือนเกลี้ยงๆแบบนี้ช่างทองของไทยน่าจะทำตามออเดอร์ได้ไม่ยาก
เป็นหนึ่งในของพระราชทานส่วนพระองค์ที่สั่งทำจำนวนมาก ไม่ใช่ชิ้นเดียว    
เพื่อเป็นของที่ระลึกพระราชทานแก่ข้าราชบริพารในโอกาสพิเศษต่างๆ   เช่นในวันเกิด
แล้วพอพระราชทานใคร   ช่างก็ได้รับคำสั่งจากในวังให้สลักชื่อและข้อความลงไป สำหรับแต่ละคนไม่ซ้ำกัน

เมื่อดูจากอายุของผู้ได้รับพระราชทานนาฬิกาพกเรือนนี้   ถ้าเป็นข้าราชบริพาร ก็ถือว่าอยู่ในระดับชั้นผู้น้อย
แต่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณเป็นพิเศษ  น่าจะเป็นมหาดเล็กที่ถวายงานใกล้ชิด  
หรือไม่ อีกกลุ่มหนึ่งที่ดิฉันนึกขึ้นมาได้คือพวกฝึกหัดโขนละครหลวง ที่เป็นชายล้วนๆ อายุประมาณนี้   กลุ่มนี้มีมาตั้งแต่ปลายรัชกาลที่ ๕ ก็ตรงกับปีพ.ศ. ที่จารึก
คนที่รำเป็นตัวเอกๆ อาจได้พระมหากรุณาธิคุณ รับพระราชทานของในวันเกิดก็เป็นได้


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 เม.ย. 21, 10:27
ถ่ายรูประยะใกล้          ด้วยการใช้โหมดมาโคร
และแล้วส่งมาโชว์        อาจจะสืบคืบหน้าพลัน

โหมดมาโครคืออะไรก็ไม่รู้
ไม่เคยดูไม่เคยเห็นเป็นไฉน
เมื่อคุณเพ็ญรู้จักชักช้าไย
ถ่ายรูปให้เรือนไทยเห็นเป็นขวัญตา


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 22 เม.ย. 21, 10:55
เพื่อเสริมเติมความรู้      ลองมาดูกันเถิดหนา
มาโครโหมดที่ว่า         เป็นไฉนได้ทราบกัน


https://youtu.be/oGfSWeUFtzc


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 22 เม.ย. 21, 13:52
- จำนวนตอบกระทู้ของคุณ nathanielnong ยังเป็น 0 อยู่ , เรียนท่านเจ้าเรือน . . ระบบเรือนไทยขัดข้องหรือไม่ครับ

ขอบคุณในความเป็นห่วงครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 22 เม.ย. 21, 14:04
ยี่ห้อนาฬิกา         อะไรหนาขอทราบที
อีกชื่อเจ้าของนี้      หากขยายอาจได้ความ


เผอิญถ่ายไว้เป็นขนาดใหญ่  ไม่ทราบพอเห็นมั้ยครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/ic/210422070311.jpg) (http://picture.in.th/id/48c50bef147370ed7b655f460eb0a194)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 23 เม.ย. 21, 00:13
เหลือแค่ ไม้ม้วน, หางวรรณยุกต์โผล่มาหน่อยนึง, สระอุ
ช่างลบได้เกลี้ยงเกลา ทั้งๆที่ดูจากรอยสลักที่ยังเหลือ ก็มีความ"ลึก"นะครับ // นี่ถึงขนาดฝนเนื้อโลหะทิ้ง? แล้วขีดฆ่าซ้ำอีก


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 23 เม.ย. 21, 08:25
เหลือแค่ ไม้ม้วน, หางวรรณยุกต์โผล่มาหน่อยนึง, สระอุ
ช่างลบได้เกลี้ยงเกลา ทั้งๆที่ดูจากรอยสลักที่ยังเหลือ ก็มีความ"ลึก"นะครับ // นี่ถึงขนาดฝนเนื้อโลหะทิ้ง? แล้วขีดฆ่าซ้ำอีก

เหมือนหนังสยองขวัญ  ประเภทคำสาป  เกิดอะไรขึ้นกับนาฬากาเรือนนี้นะ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 23 เม.ย. 21, 08:46
ปริศนาลำดับต่อไปครับ

กลับมาที่ปั้นชาใบที่ 3  หน้าตาอย่างนี้

ผมเคยเอาไปถามแม่ว่า  ทำไมมันหน้าตาแบบนี้  แม่บอกว่าไม่เคยสนใจ

ผมก็เลยตัดพ้อว่า  แม่น่าจะซักไซร้เกร็ดกับคุณตาบ้าง  คุณตาอยู่ใน 'แวดวง' ที่ในยุคนั้นคนธรรมดา ๆ เข้าถึงได้ยาก  จะได้มีอะไรสนุก ๆ มาเล่าให้ลูกหลานฟัง

พอเห็นแม่ทำปากเหมือนจะด่า  ผมก็เลยอุ้มปั้นวิ่งหนี

สรุปแล้ว  ไม่รู้ว่ามันเป็นแบบนี้มาแต่อ้อนแต่ออกหรือว่าเคยมีฝาแต่ฝาหาย/แตก

แต่ที่สังเกตดู  ถ้ามีฝา  ขอบปั้นน่าจะเป็นดินเผาปกติ ๆ ไม่น่ามีวงแหวนทองเหลืองประดับให้ดูเข้าชุดกับแผ่นปิดปากปั้นที่ก็มีขอบทองเหลืองเหมือนกัน

ปั้นใบนี้สีแตกต่างจาก 2 ปั้นแรก  คือออกแดงกว่า  ไม่รู้ว่าร่วมรุ่นกันรึเปล่า  สังเกตหมุดยึดหูเป็นรูปดาวเหมือนกันดิก

เรียนถามนักสืบหัวเห็ดว่า

1. ทำไมปั้นหน้าตาแบบนี้
2. สัญลักษณ์ที่ก้นปั้น  แปลว่าอะไร (ของปั้นแรกเป็นรูปมังกร  ยังเป็นปริศนา)
3. ชามที่รองปั้นเรียกว่า สังคโลก รึเปล่า
4. ตัวหนังสือจีนใต้ชาม  แปลว่าอะไร

รบกวนออกแรงด้วยครับ  ขอบคุณครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/io/210423014330.jpg) (http://picture.in.th/id/2dd4bbd7a905ed8615a570e33ee06638)

(http://image.free.in.th/v/2013/iq/210423014358.jpg) (http://picture.in.th/id/c3979692fcd15bb88f0b29da89eff22a)

(http://image.free.in.th/v/2013/it/210423014424.jpg) (http://picture.in.th/id/cca0eb724670817c5e003288dc9b18b1)

(http://image.free.in.th/v/2013/iq/210423014446.jpg) (http://picture.in.th/id/46dd57ae0671eacb6aa12624fdb6b24f)





กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 23 เม.ย. 21, 12:36
- เก็บของเก่งจริงๆ แม้แต่ใยบวบที่รองกันกระแทกก็ยังอยู่พร้อม
- ชามรองปั้นเรียก"ลายคราม"  ถ้าเป็นสังคโลกจะเป็นผลิตภัณฑ์สุโขทัยที่มีสีเขียวจางๆ, สีน้ำตาล, สีนวล
- จารึกใต้ปั้นสีน้ำตาลแดง คิดว่าต้องหมุนภาพ180องศา โดยสังเกตจากอักษร天 ที่อยู่มุมขวาบน มันตีลังกาอยู่
เป็นจารึกภาษาจีนปัจจุบัน แต่ประดิษฐ์ให้ดูโบราณแบบอักษรสมัยราชวงศ์โจว (ราชวงศ์จิว-ภาษาแต้จิ๋ว) ซึ่งเป็นราชวงศ์ที่มาก่อนราชวงศ์ฉิน คืออ่านยากมากนั่นเอง คนรู้ภาษาจีนแบบพื้นๆจะอ่านไม่ออก
- รูปประกอบ เรียกอักษรจ้วนซู ซึ่งใช้กันในสมัยราชวงศ์โจว // ตัวใหญ่=จ้วนซู  ตัวเล็ก=อักษรปัจจุบัน เอามาเปรียบเทียบกันครับ
- ผมพอรู้เส้นสายลายสือจีนอยู่บ้าง แต่ดูแล้ว รู้สึกทะแม่ง อาจเป็นภาษาไทยที่ประดิษฐ์ให้คล้ายอักษรจีน ซึ่งนี่ยิ่งอ่านยากเข้าไปใหญ่ ผมเคยเห็นมา-โอ้โฮ-ขนาดเฉลยให้ฟังแล้ว ยังอ้าปากค้าง หมุนหัวตะแคงหัวอ่านแล้วอ่านอีก


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 23 เม.ย. 21, 14:34
- เก็บของเก่งจริงๆ แม้แต่ใยบวบที่รองกันกระแทกก็ยังอยู่พร้อม
- ชามรองปั้นเรียก"ลายคราม"  ถ้าเป็นสังคโลกจะเป็นผลิตภัณฑ์สุโขทัยที่มีสีเขียวจางๆ, สีน้ำตาล, สีนวล
- จารึกใต้ปั้นสีน้ำตาลแดง คิดว่าต้องหมุนภาพ180องศา โดยสังเกตจากอักษร天 ที่อยู่มุมขวาบน มันตีลังกาอยู่
เป็นจารึกภาษาจีนปัจจุบัน แต่ประดิษฐ์ให้ดูโบราณแบบอักษรสมัยราชวงศ์โจว (ราชวงศ์จิว-ภาษาแต้จิ๋ว) ซึ่งเป็นราชวงศ์ที่มาก่อนราชวงศ์ฉิน คืออ่านยากมากนั่นเอง คนรู้ภาษาจีนแบบพื้นๆจะอ่านไม่ออก
- รูปประกอบ เรียกอักษรจ้วนซู ซึ่งใช้กันในสมัยราชวงศ์โจว // ตัวใหญ่=จ้วนซู  ตัวเล็ก=อักษรปัจจุบัน เอามาเปรียบเทียบกันครับ
- ผมพอรู้เส้นสายลายสือจีนอยู่บ้าง แต่ดูแล้ว รู้สึกทะแม่ง อาจเป็นภาษาไทยที่ประดิษฐ์ให้คล้ายอักษรจีน ซึ่งนี่ยิ่งอ่านยากเข้าไปใหญ่ ผมเคยเห็นมา-โอ้โฮ-ขนาดเฉลยให้ฟังแล้ว ยังอ้าปากค้าง หมุนหัวตะแคงหัวอ่านแล้วอ่านอีก

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ  ยอดเยี่ยม

ผมเพิ่งรู้ว่าฝอย ๆ นี่เค้าเรียกว่า ใยบวบ

รูปประกอบ เรียกอักษรจ้วนซู (ข้อ 3) ... คือส่วนไหนครับ  ใต้ปั้น  หรือว่า ใต้ชาม

ต้องรอคำตอบต่อไปว่า ปั้นมีลักษณะนี้มาแต่เดิมรึเปล่า (ไม่มีฝา)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 23 เม.ย. 21, 17:19
ใต้ปั้น ดูคล้ายอักษรจ้วนซู (แต่ก็พิลึกกึกกือ ลายเส้นของบางตัว ไม่เคยพบในภาษาจีน)
ใต้ชามรอง คืออักษรจีนปกติ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 24 เม.ย. 21, 09:37
ใต้ปั้น ดูคล้ายอักษรจ้วนซู (แต่ก็พิลึกกึกกือ ลายเส้นของบางตัว ไม่เคยพบในภาษาจีน)
ใต้ชามรอง คืออักษรจีนปกติ

ขอบคุณครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 25 เม.ย. 21, 05:58
ปั้นชาใบนี้ยังคงเป็นปริศนาต่อไป

ชิ้นต่อมาครับ

นี่คือ ขวดหมึก

(http://image.free.in.th/v/2013/ih/210424105620.jpg) (http://picture.in.th/id/1f99199939c75f86bea639599da1a6bb)

นี่คือ ที่พักปากกา... คาดว่า

(http://image.free.in.th/v/2013/iw/210424105704.jpg) (http://picture.in.th/id/00f6e131a131df00f7b706fa8d1d59f0)

แล้วนี่คืออะไรครับ  ใช่หลอดใส่ปากการึเปล่า  แต่มันดูเล็กยังไงไม่ทราบ

(http://image.free.in.th/v/2013/is/210424105812.jpg) (http://picture.in.th/id/dffd2d8e427b8234cab09df759722ba4)



กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 เม.ย. 21, 09:09
สมบัติเยอะจริงๆ ค่ะ   ลูกหลานเก็บรักษาไว้ได้ดีมาก

ปากกาของเจ้าคุณตา เดาว่าเป็นชนิดต้องสูบหมึกเข้าไปในหลอดปากกา   ใช้หมึกหมดหลอดแล้วก็สูบใหม่ จึงต้องมีกระปุกหมึกใส่น้ำหมึก  ขายเป็นชุดวางประกอบบนโต๊ะทำงาน
ส่วนที่เป็นหลอดแก้วเล็กๆยาวๆ เข้าใจว่าสำหรับใส่หมึก เพราะมีฝาปิดแน่นหนา   มีเอาไว้พกติดตัวไปข้างนอก เผื่อหมึกหมดจะได้เติมใส่ปากกาได้   ไม่ได้มีเอาไว้เก็บปากกา
ปากกาที่ใช้กับหมึก มี ๒ ชนิด  คือปากกาหมึกซึม  กับอีกอย่างเรียกว่า ปากกาคอแร้ง 
ปากกาหมึกซึมมีปลอก   ปากกาคอแร้งไม่มีปลอก   บางชนิดหรูหราก็มีขนนกปักปลายไว้เป็นพวงพุ่ม


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 25 เม.ย. 21, 14:47
สมบัติเยอะจริงๆ ค่ะ   ลูกหลานเก็บรักษาไว้ได้ดีมาก

ปากกาของเจ้าคุณตา เดาว่าเป็นชนิดต้องสูบหมึกเข้าไปในหลอดปากกา   ใช้หมึกหมดหลอดแล้วก็สูบใหม่ จึงต้องมีกระปุกหมึกใส่น้ำหมึก  ขายเป็นชุดวางประกอบบนโต๊ะทำงาน
ส่วนที่เป็นหลอดแก้วเล็กๆยาวๆ เข้าใจว่าสำหรับใส่หมึก เพราะมีฝาปิดแน่นหนา   มีเอาไว้พกติดตัวไปข้างนอก เผื่อหมึกหมดจะได้เติมใส่ปากกาได้   ไม่ได้มีเอาไว้เก็บปากกา
ปากกาที่ใช้กับหมึก มี ๒ ชนิด  คือปากกาหมึกซึม  กับอีกอย่างเรียกว่า ปากกาคอแร้ง 
ปากกาหมึกซึมมีปลอก   ปากกาคอแร้งไม่มีปลอก   บางชนิดหรูหราก็มีขนนกปักปลายไว้เป็นพวงพุ่ม


ขอบคุณครับ ความรู้ใหม่

เพิ่งมาสงสัยว่า  ทำไมกระปุกใส่หมึกถึงมีที่ว่างใส่น้ำหมึกน้อยจัง  นอกนั้นเนื้อแก้วล้วน


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 25 เม.ย. 21, 14:51
เดี๋ยวนี้คนไทยเขียนภาษาไทยผิดเพี้ยนไปมาก  เลยแนบแบบการเขียนภาษาไทยที่ถูกต้องมาเพื่อพิจารณาปฏิบัติครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/im/210425075010.jpg) (http://picture.in.th/id/8043a754cd955f9683fdbc5420f9c7fe)

(http://image.free.in.th/v/2013/if/210425075050.jpg) (http://picture.in.th/id/ebed4e67f2fdf0e23b56abb926cc94e9)

(http://image.free.in.th/v/2013/ix/210425075116.jpg) (http://picture.in.th/id/882b3f64b2248492d1bd2b186cd29ec6)

(http://image.free.in.th/v/2013/il/210425075148.jpg) (http://picture.in.th/id/0499680396b8d173813b5a25f9656600)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 25 เม.ย. 21, 14:58
กระปุกน้ำหมึกน่ารักครับ  สงสัยนิดนึงว่า สมัยโน้นขายน้ำหมึกเป็นขวดใหญ่กระมัง? ถึงต้องมีกระปุกไว้คอยแบ่งใช้
ผมทันเห็นรุ่นที่น้ำหมึกขายมาพร้อมกับกระปุกแก้วบางๆ แบบใช้แล้วทิ้งกระปุกได้เลย
.
เห็นพี่ชายพี่สาวใช้ทั้งปากกาหมึกซึม ปากกาคอแร้ง แล้วอยากใช้มั่ง
พอขึ้นประถม4 เป็นครั้งแรกที่จะได้ใช้ปากกาในชั้นเรียน รู้สึกตื่นเต้น (ผมชอบเอาปากกาหมึกแห้งของผู้ใหญ่มาเขียนเล่น แหม!มันรู้สึกเท่ เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาทันใด)
ในใบรายการซื้อของวันเปิดเทอม มีทั้งรายการปากกาหมึกแห้ง และปากกาหมึกซึม ก็ซื้อไปพร้อม
ปรากฏว่าไม่มีโอกาสได้ใช้ปากกาหมึกซึมเลย แม้แต่ครั้งเดียว เสียดายมาก
ใช้แต่ปากกาหมึกแห้งนั่นแหละตลอดปี
อีกเรื่องที่ต้องบันทึกไว้คือ ได้ใช้ปากกาดินสอ(ดินสอกด)เป็นครั้งแรก  คาดว่าเป็นของใหม่ในเวลานั้น(พ.ศ.2522)
.
หมวกกะโล่ นี่ก็ไม่ได้ใส่ รร.พี่เขาใช้กัน แต่รร.ผมเลิกใช้ไปแล้ว
.
แนะนึดนึง เวลาถ่ายรูป วางไม้บรรทัดไว้ด้วยสิครับ // ที่พักปากกา..ผมนึกว่าดัมเบล


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 เม.ย. 21, 16:12
ดิฉันสงสัยว่าปากกาของเจ้าคุณตาน่าจะหน้าตาแบบนี้   นี่คือปากกาที่ผลิตในเยอรมนี ยุค 1900  ก็ประมาณใกล้ๆปลายรัชกาลที่ 5
มีหลอดหมึกให้ใส่แค่นี้เอง


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 เม.ย. 21, 16:13
นี่คือปากกาหรู พร้อมขวดและขวดเติม


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 เม.ย. 21, 16:17
คิดไปคิดมา ปากกาเจ้าคุณตาน่าจะเป็นแบบค.ห. 48 คือเหมือนปากกาคอแร้ง  จิ้มปลายลงในขวดหมึกให้หมึกติดขึ้นมาแล้วเขียนลงกระดาษ    ดังนั้นใช้หมึกน้อยมาก ก็ไม่ต้องการขวดหมึกขนาดใหญ๋   อีกอย่างขวดหนาแบบนี้ทำให้ตกไม่แตกด้วย   


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 26 เม.ย. 21, 08:35
คิดไปคิดมา ปากกาเจ้าคุณตาน่าจะเป็นแบบค.ห. 48 คือเหมือนปากกาคอแร้ง  จิ้มปลายลงในขวดหมึกให้หมึกติดขึ้นมาแล้วเขียนลงกระดาษ    ดังนั้นใช้หมึกน้อยมาก ก็ไม่ต้องการขวดหมึกขนาดใหญ๋   อีกอย่างขวดหนาแบบนี้ทำให้ตกไม่แตกด้วย  

ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ  ตัวซ้ายมือบน  น่าจะเป็นที่ซับหมึกให้แห้งหลังจากเขียนนะครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 26 เม.ย. 21, 08:40
.
แนะนึดนึง เวลาถ่ายรูป วางไม้บรรทัดไว้ด้วยสิครับ // ที่พักปากกา..ผมนึกว่าดัมเบล

ขอบคุณที่แนะนำครับ

ขออนุญาตแก้ตัว  แบบว่า... ตอนนั้นก็ทำอยู่ครับ (รูปพวกนี้ถ่ายมาเกือบ 10 ปีแล้ว) แต่ไม่ได้ใช้ไม้บรรทัด ไม่ได้อยู่แถวนั้น เลยใช้แว่นตาแทน แล้วบางรูปก็ลืม จัดฉากอยู่คนเดียว แหะ ๆ ๆ




กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 26 เม.ย. 21, 08:53
กระปุกน้ำหมึกน่ารักครับ  สงสัยนิดนึงว่า สมัยโน้นขายน้ำหมึกเป็นขวดใหญ่กระมัง? ถึงต้องมีกระปุกไว้คอยแบ่งใช้
ผมทันเห็นรุ่นที่น้ำหมึกขายมาพร้อมกับกระปุกแก้วบางๆ แบบใช้แล้วทิ้งกระปุกได้เลย
.
เห็นพี่ชายพี่สาวใช้ทั้งปากกาหมึกซึม ปากกาคอแร้ง แล้วอยากใช้มั่ง
พอขึ้นประถม4 เป็นครั้งแรกที่จะได้ใช้ปากกาในชั้นเรียน รู้สึกตื่นเต้น (ผมชอบเอาปากกาหมึกแห้งของผู้ใหญ่มาเขียนเล่น แหม!มันรู้สึกเท่ เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาทันใด)
ในใบรายการซื้อของวันเปิดเทอม มีทั้งรายการปากกาหมึกแห้ง และปากกาหมึกซึม ก็ซื้อไปพร้อม
ปรากฏว่าไม่มีโอกาสได้ใช้ปากกาหมึกซึมเลย แม้แต่ครั้งเดียว เสียดายมาก
ใช้แต่ปากกาหมึกแห้งนั่นแหละตลอดปี
อีกเรื่องที่ต้องบันทึกไว้คือ ได้ใช้ปากกาดินสอ(ดินสอกด)เป็นครั้งแรก  คาดว่าเป็นของใหม่ในเวลานั้น(พ.ศ.2522)
.
หมวกกะโล่ นี่ก็ไม่ได้ใส่ รร.พี่เขาใช้กัน แต่รร.ผมเลิกใช้ไปแล้ว
.
แนะนึดนึง เวลาถ่ายรูป วางไม้บรรทัดไว้ด้วยสิครับ // ที่พักปากกา..ผมนึกว่าดัมเบล

ทันใช้อะไรบ้างครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/im/210426015321.jpg) (http://picture.in.th/id/dfabeae98cded3ddf2a8efa65ea1fc4c)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 เม.ย. 21, 11:51
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ  ตัวซ้ายมือบน  น่าจะเป็นที่ซับหมึกให้แห้งหลังจากเขียนนะครับ
ไม่เคยเห็นที่ซับหมีกค่ะ  ปากกาพวกนี้มีกระดาษซับ เป็นกระดาษเนื้อหนาๆ คล้ายผ้าสักหลาด  สำหรับหมึกที่เขียนออกมาเป็นตัวหนาเกินไป  เมื่อซับ หมึกจะติดเข้าไปที่กระดาษซับ  ล้างไม่ได้ ต้องหันกระดาษด้านสะอาดมาซับครั้งต่อไป  พอเปรอะหมดแผ่นก็ทิ้งไป
ถ้าอันซ้ายมือเป็นที่ซับหมึก   เนื้อที่แค่นี้ไม่พอซับแน่ค่ะ 


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 26 เม.ย. 21, 12:22
ผมเคยเห็นที่ซับหมึกทรงครึ่งวงกลม ในข่าวโทรทัศน์ครับ อย่างพิธีลงนามในสัญญา เวลาใช้งาน..จะกลิ้งจากข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 เม.ย. 21, 12:48
ไม่เคยเห็นเลยค่ะ ขอบคุณที่บอก


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 26 เม.ย. 21, 13:17
ปากกาหมึกซึม มีกระเปาะยางในตัว บีบแล้วปล่อยเพื่อดูดน้ำหมึกเข้ามาไว้ในปากกา จะได้ไม่ต้องจุ่มน้ำหมึกบ่อยๆแบบปากกาคอแร้ง
.
กระเป๋านักเรียน ที่ไม่เคยกลัดเข็มขัดตรงกลางเลย ปล่อยให้รุ่งริ่งตลอดกาล (ไม่รู้จะทำมาทำไม ฮาฮา) ตัวล็อกซ้ายและขวาที่เขี้ยวจะหักไปข้างหนึ่งก่อน แต่ก็ยังทนใช้ต่อไป หิ้วกระเป๋าทั้งที่เอียงๆ // ลิ้นล็อกที่ปรับได้3ระดับก็ไม่รู้จะทำให้เปลืองทำไม ใช้ลิ้นตัวบนสุดเสมอ
.
ไม้โปรแท็กเตอร์ เริ่มใช้ตอนประถม5
.
ปากกาดินสอรุ่นไส้ใหญ่ ที่โดนรุ่นไส้เล็ก 0.5 ตีตลาดราบคาบ
.
กล่องดินสอ ที่ถือเป็นหน้าเป็นตาของเด็กนักเรียน ประหนึ่งหีบหมากพานพระศรีก็ไม่ปาน โชว์รูปการ์ตูนกันสุดฤทธิ์
ในรูปของคุณnathanielnong ถือว่าเป็นระดับadvance แผงเสียบปากกาสามารถเวิกขึ้น ข้างล่างซอยเป็นช่องเล็กช่องน้อยใส่ของกระจุกกระจิก
พอขึ้นมัธยม1 ได้เลิกใช้รุ่นหีบหมาก มาใช้แบบกล่องเหล็กแทน ไม่ทราบว่ากระแสตก หรือเป็นเพราะรุ่นหีบหมากดูเด็กไป
.
ยางลบหัวเขียว ที่ไม่รู้จะมีหัวเขียวไปทำไม ใช้ลบก็ไม่ได้(ทำให้กระดาษดำ) ใช้ไปใช้มาเจ้าหัวเขียวก็หลุดล่อนไปเอง
.
มีดเหลาดินสอ ในรูปนี่เก่าจริง ยังเป็นฝักเหล็กอยู่เลย
.
กบเหลาดินสอ ที่ทำร้ายจิตใจเด็กนักเรียนตัวน้อย เหลาไม่ค่อยแหลม ครั้นจะดันให้สุด-เพื่อแหลมโดนใจ ก็ไส้หัก เหลาไปเหลามาดินสอกุดไปครึ่งแท่ง อาลัยค่าขนม!
.
ขวดน้ำหมึก Geha ที่ผมเคยเก็บไว้ แล้วทำหายไป ฝาเป็นโลหะบางๆ ส่วนในรูปนี้เป็นฝาพลาสติกแล้ว


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 เม.ย. 21, 14:55
ใช้ดินสอจนจบประถม 4   จากนั้นขึ้นมัธยม 1   มีโอกาสใช้ปากกาหมึกซึม   รู้สึกตัวเองเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก
เด็กๆใช้ปากกาหมึกซึมยี่ห้อ Sailor   ส่วนปาร์คเกอร์และเชฟเฟอร์เป็นของผู้ใหญ่  ปลอกทอง หรูมาก
หมึกที่ใช้คือหมึก Quink  กระปุกแก้วหนารูปทรงเตี้ยม่อต้อ ฝาโลหะ  สี Royal blue  คือฟ้าสดออกน้ำเงิน


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 เม.ย. 21, 15:07
กล่องดินสอที่เคยใช้ ทำด้วยไม้บ้าง โลหะบางๆบ้าง  แต่ไม่มีพลาสติคค่ะ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 26 เม.ย. 21, 16:49
ชอบกล่องดินสอรุ่นฝามู่ลี่ เวลาเปิด..ฝาจะม้วนซ่อนเข้าไปข้างใต้
นี่เพิ่งรู้ครับว่าเป็นกล่องดินสอ  ผมเคยเห็นแต่ตัวกล่องเปล่า ฝาหายไปหมดแล้ว ได้แต่ฉงนว่าเป็นรางใส่อะไร


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 27 เม.ย. 21, 09:57
ปั้นสุดท้าย  ใบกระจิ๋วหลิว  ไม่รู้ว่าคุณตาซื้อมาทำไม  แต่จำได้คร่าว ๆ ว่า  มันแพง  คุณธสาคร  อ่านตัวจีนก้นป้านได้มั้ยครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/iw/210427025645.jpg) (http://picture.in.th/id/bc6109b17f06474b1ce0e701109e09ce)

(http://image.free.in.th/v/2013/ig/210427025715.jpg) (http://picture.in.th/id/d9eb34308f3abf6a4f0a6c0168e34224)

(http://image.free.in.th/v/2013/iz/210427025740.jpg) (http://picture.in.th/id/1f09da44f3b0491d92f3438635629064)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 27 เม.ย. 21, 10:52
เป็นปั้นชาเลี่ยมทองตรา หลี่เต๋อหยวน  李得源 สมัยปลายราชวงศ์ชิง ตัวปั้นชาผลิตจากจีน แต่ส่งมาเลี่ยมโลหะและขายในประเทศไทย

ข้อมูลจาก สมาคมผู้นิยมปั้นชาแห่งประเทศไทย (https://www.facebook.com/groups/473391829433772/permalink/3154134691359459/)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 27 เม.ย. 21, 13:35
ปั้นจิ๋วสำหรับชงดื่มคนเดียว (ไม่เปลืองใบชา)
ปกติปั้นใบจิ๋วจะเป็นปั้นหู..ไม่ค่อยเห็นปั้นสายครับ  ที่สายหิ้วฝังพลอย?


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 27 เม.ย. 21, 19:23
ขอบคุณ คุณเพ็ญชมพู และ คุณธสาคร ครับ

ไม่ได้ฝังพลอยครับ  เป็นแบบจุดขาว  เรียกไม่ถูก  นึกถึงจุดขาวที่ด้ามเสียบปากกา Parker  แต่บุ๋มลงไป


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 29 เม.ย. 21, 08:42
นอกจากใช้ดื่มคนเดียวแล้ว สำหรับผู้นิยมชาบางท่าน ท่านจะให้ความสำคัญกับป้านชามาก ป้านใบหนึ่ง จะใช้สำหรับชงชาตัวเดียวเท่านั้น ถ้าตัวนี้ใช้ชงผูเออร์ ก็จะไม่นำไปชงอู่หลง หรือต้าหงผาว เด็ดขาด นัยว่า ไม่ให้กลิ่นและรสของชาที่ซึมอยู่กับเนื้อดินเผานั้นปะปนกัน ทำให้กลิ่นและรสของชาผิดเพื้ยนไปครับ
(ผมก็ไม่รู้ว่ามีคนซีเรียสขนาดนั้นจริงไหม หรืออันนี้เป็นเพราะร้านชาอยากให้ผมซื้อป้านชาหลายๆ ใบก็ไม่รู้ครับ)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 29 เม.ย. 21, 09:30
ปั้นชาจิ๋วแบบนี้นิยมใช้ในการชงชาแบบ 功夫茶 (แต้จิ๋ว-กังฮูเต้) แปลเอาความว่า การชงชาแบบประณีต (https://www.bloggang.com/m/viewdiary.php?id=teatime&month=07-2009&date=26&group=12&gblog=1)

https://youtu.be/kYQRAsBDKcU


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 29 เม.ย. 21, 09:46
ขอบคุณมากครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 29 เม.ย. 21, 09:52
ลูกอีช่างถามมาพร้อมกับคำถามต่อไปครับ

เคยเห็นจานแบบนี้มั้ยครับ  เค้าเรียกว่าอะไร  จานผิวหยาบมาก  ผิวสูงต่ำตามลวดลาย  น่าจะเอาไว้โชว์มากกว่าใส่อาหาร

(http://image.free.in.th/v/2013/ia/210429025143.jpg) (http://picture.in.th/id/3c118670ec9fe8dc2d41d298d6bdb012)

(http://image.free.in.th/v/2013/ij/210429025205.jpg) (http://picture.in.th/id/f371c68d1071f1511260b77498ec2d80)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 29 เม.ย. 21, 12:15
จุดสีขาว บุ๋มลงไป บนสายหิ้วป้าน น่าจะเรียกว่า ลงยา
.
@Naris เรื่องการใช้ป้านจำเพาะชาแต่ละชนิด คงจริงครับ // ผมเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับการชงชา เขาละเอียดแม้กระทั่ง น้ำที่ใช้ชงชา ว่าน้ำแหล่งไหนเหมาะกับชาชนิดใด (เป็นแหล่งน้ำตามธรรมชาติที่ขึ้นชื่อ)
ตอนไปเที่ยวเมืองจีน มีไฟต์บังคับคือการแวะร้านขายของที่ระลึก ครั้งแรก..ยินดี ไม่เป็นไร // แต่ปีถัดไป ถัดไป ก็ยังสินค้าเดิม จะรู้สึกเบื่อและเสียดายเวลาการท่องเที่ยว
แต่ร้านขายชา ชอบ อยากให้แวะทุกครั้งที่ไปทัวร์ // เขาชงชาได้อร่อยมาก ผมซื้อกลับมาชงเอง ก็ทำรสชาติสู้เขาไม่ได้
ผมเคยซื้อน้ำแร่ 3-4 ยี่ห้อในไทย มาลองชงชา ปรากฏว่าให้รสชาติต่างกันจริงๆครับ
.
@ nathanielnong ลักษณะจานดูครึ่งจีน-ครึ่งเวียดนาม // ลวดลายและสีสันไม่กลมกล่อมตามมาตรฐานของเครื่องเคลือบจีน // ตามคำอธิบายว่า "จานผิวหยาบ ผิวสูงต่ำตามลวดลาย" ก็เป็นลักษณะของเครื่องเคลือบเวียดนาม
(ถือว่าแสดงความเห็นนะครับ ไม่อาจเรียกวิจารณ์ เพราะมีความรู้เพียงน้อยนิด)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 30 เม.ย. 21, 15:02
จุดสีขาว บุ๋มลงไป บนสายหิ้วป้าน น่าจะเรียกว่า ลงยา


อ้อ... หน้าตาอย่างนี้เอง 


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 30 เม.ย. 21, 17:07
กำไลลงยา สินค้าของศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 01 พ.ค. 21, 10:37
กำไลลงยา สินค้าของศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพ

ขอบคุณครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 01 พ.ค. 21, 10:39
เคยเห็นมีดแบบนี้มั้ยครับ  ลายสวยดี

ไม่รู้มีดตลาดรึเปล่า  แต่น่าจะมีรายละเอียดเพราะคุณตาเก็บไว้อย่างดีในตู้ล็อคกุญแจ


(http://image.free.in.th/v/2013/if/210501033817.jpg) (http://picture.in.th/id/1e055c367dd1051a4178d8aae8b285aa)

(http://image.free.in.th/v/2013/it/210501033902.jpg) (http://picture.in.th/id/02986584b8d7e5520ec5c71654eb8065)





กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 03 พ.ค. 21, 09:43
ชุดนี้เอาไว้ทำอะไรครับ

นึกถึงชุดเครื่องปรุงก๋วยเตี๋ยว

(http://image.free.in.th/v/2013/iz/210503024318.jpg) (http://picture.in.th/id/2978a0fbca70a3140d67e87bc6d44e27)

(http://image.free.in.th/v/2013/ix/210503024347.jpg) (http://picture.in.th/id/22baeca283ec0fbb73c29514d5ff727f)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 พ.ค. 21, 19:40
เครื่องพวงทองเหลืองหรือเปล่าคะ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 06 พ.ค. 21, 05:57
เครื่องพวงทองเหลืองหรือเปล่าคะ

เห็นแล้ว งง ครับ อ.  ใช้ใส่อะไรหนอ  ทำด้วยเงินสุกปลั่งครับ  หรือไว้ใส่เครื่องประทินโฉมแบบแป้งเม็ด ฯลฯ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 พ.ค. 21, 09:19
ทบทวนแลัว ไม่น่าเป็นเครื่องพวง  เพราะโลหะไม่ควรเป็นภาชนะใส่น้ำปลาหรือน้ำส้มพริกดอง    ต้องใส่อะไรสักอย่างที่ไม่ใช่ของกินค่ะ
อาจจะใส่เครื่องสำอาง อย่างแป้งเม็ด  หรือขี้ผึ้งสีปาก  ได้ไหม


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 18 พ.ค. 21, 09:08
นาฬิกาปลุกของคุณตา 

ที่หน้าปัดบอกว่า  ทำที่ ถ. อนุวงศ์  ร้าน Kader & Sons หน้าตาอย่างไรก็ไม่รู้

ตอนผมเด็ก ๆ  จำได้ว่า  ถ้าตื่นขึ้นมากลางดึกจะเห็นพรายน้ำที่หน้าปัดสีเขียวสว่างจ้า

(http://image.free.in.th/v/2013/iz/210518020326.jpg) (http://picture.in.th/id/179b35b56763d16a5ee5daf218728e48)

(http://image.free.in.th/v/2013/ir/210518020515.jpg) (http://picture.in.th/id/b04df4ab684071bdcdd0d6372e147d85)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 พ.ค. 21, 09:59
นาฬิกาพรายน้ำเดี๋ยวนี้ยังมีไหมคะ  ใครทราบบ้าง


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 18 พ.ค. 21, 10:27
นาฬิกาปลุกของคุณตา ที่หน้าปัดบอกว่า  ทำที่ ถ. อนุวงศ์  ร้าน Kader & Sons หน้าตาอย่างไรก็ไม่รู้

นาฬิกาเรือนนี้ไม่ได้ทำในเมืองไทยดอก แต่สั่งมาจากประเทศเยอรมัน

ชื่อเต็ม ๆ ของห้าง คือ G.A. Kader & Sons (ชื่อไทยคือ ยี.เอ. กาเดอร์กับบุตร์) เป็นห้างที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง เริ่มกิจการเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๑ * นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศมาจำหน่ายมากมาย อาทิ เช่น สมุด, กระดาษ, เครื่องแก้ว, เครื่องกระเบื้อง, ถาดกระเบื้อง และนาฬิกา

* ข้อมูลจาก  opencorporates.com (https://opencorporates.com/companies/th/0102471000044)

logo ของนาฬิกาเจ้าคุณตา เป็นรูปสิงโต มีอักษร U.M. อยู่ข้างล่าง มาจากชื่อบริษัทผู้ผลิตคือ Uhrenfabrik Mühlheim, Müller & Co.


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: kui045 ที่ 18 พ.ค. 21, 17:03
มีดในคห.72 ดูเหมือนมีตอกตัวอักขระอยู่


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 19 พ.ค. 21, 09:13
นาฬิกาปลุกของคุณตา ที่หน้าปัดบอกว่า  ทำที่ ถ. อนุวงศ์  ร้าน Kader & Sons หน้าตาอย่างไรก็ไม่รู้

นาฬิกาเรือนนี้ไม่ได้ทำในเมืองไทยดอก แต่สั่งมาจากประเทศเยอรมัน



ขอบพระคุณสำหรับข้อมูลที่ละเอียดอย่างคาดไม่ถึงขอรับ

ขออนุญาตเอื้อนเอ่ยคำว่า ‘ว้าว’ ด้วยขอรับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 19 พ.ค. 21, 09:15
มีดในคห.72 ดูเหมือนมีตอกตัวอักขระอยู่

นั่นซิครับ  ดูเหมือนไม่ใช่มีดที่วางขายทั่วไป


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: kui045 ที่ 19 พ.ค. 21, 11:09
มีดในคห.72 ดูเหมือนมีตอกตัวอักขระอยู่

นั่นซิครับ  ดูเหมือนไม่ใช่มีดที่วางขายทั่วไป

ถ่ายภาพลายตัวตอกทั้งสองด้านให้ชมได้ไหมครับ
เผื่อได้เบาะแสเพิ่มเติม


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 19 พ.ค. 21, 15:15
มีดในคห.72 ดูเหมือนมีตอกตัวอักขระอยู่

นั่นซิครับ  ดูเหมือนไม่ใช่มีดที่วางขายทั่วไป

ถ่ายภาพลายตัวตอกทั้งสองด้านให้ชมได้ไหมครับ
เผื่อได้เบาะแสเพิ่มเติม

ลายตัวตอกเหมือนกันทั้ง 2 ด้าน ๆ ละ 3 ชุดครับ

แต่ด้านหนึ่งมี ตัว 'ช' และเลข '๑'

ใบมีดยาว 10" ด้ามยาว 4"

รวมปลอกแล้วหนัก 400 กรัม

ไม่รวมปลอกหนัก 350 กรัม

ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือครับ

(ขออนุญาตใช้ภาพใหญ่ครับ)

(http://image.free.in.th/v/2013/ix/210519081820.jpg) (http://picture.in.th/id/4da995f0ee50feb767d137a898a6ae84)

(http://image.free.in.th/v/2013/id/210519081852.jpg) (http://picture.in.th/id/0bc38d6f8aeb5e8e9c76e52b5370b77a)

(http://image.free.in.th/v/2013/ie/210519081908.jpg) (http://picture.in.th/id/6399258eef76b5da95488acea9f067b8)



กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: kui045 ที่ 20 พ.ค. 21, 08:08
มีดในคห.72 ดูเหมือนมีตอกตัวอักขระอยู่

นั่นซิครับ  ดูเหมือนไม่ใช่มีดที่วางขายทั่วไป

ถ่ายภาพลายตัวตอกทั้งสองด้านให้ชมได้ไหมครับ
เผื่อได้เบาะแสเพิ่มเติม

ลายตัวตอกเหมือนกันทั้ง 2 ด้าน ๆ ละ 3 ชุดครับ

แต่ด้านหนึ่งมี ตัว 'ช' และเลข '๑'

ใบมีดยาว 10" ด้ามยาว 4"

รวมปลอกแล้วหนัก 400 กรัม

ไม่รวมปลอกหนัก 350 กรัม

ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือครับ

(ขออนุญาตใช้ภาพใหญ่ครับ)

(http://image.free.in.th/v/2013/ix/210519081820.jpg) (http://picture.in.th/id/4da995f0ee50feb767d137a898a6ae84)

(http://image.free.in.th/v/2013/id/210519081852.jpg) (http://picture.in.th/id/0bc38d6f8aeb5e8e9c76e52b5370b77a)

(http://image.free.in.th/v/2013/ie/210519081908.jpg) (http://picture.in.th/id/6399258eef76b5da95488acea9f067b8)



ดูเหมือนเป็นมีดสั่งทำเลยครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 20 พ.ค. 21, 08:18
อักษรตรงนี้น่าจะมีความหมายบางประการ ?


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 20 พ.ค. 21, 09:10
อักษรตรงนี้น่าจะมีความหมายบางประการ ?

'ช ๑' ด้วยครับ

ทำไมต้อง 'ช' ทำไมต้อง '๑'


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 20 พ.ค. 21, 09:48
ถามว่า  ขันแบบนี้มีชื่อเรียกเฉพาะมั้ยครับ  ทำไมต้องทาสีส้มด้วย

(http://image.free.in.th/v/2013/is/210520031530.jpg) (http://picture.in.th/id/af3133c7644a78a81b492a2dd2dba969)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 20 พ.ค. 21, 10:33
ปุจฉา   : แบบนี้มีชื่อเรียกเฉพาะมั้ยครับ  ทำไมต้องทาสีส้มด้วย

วิสัชนา : ศัพท์เทคนิคเรียกว่า "เครื่องเขิน"


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 21 พ.ค. 21, 09:06
ปุจฉา   : แบบนี้มีชื่อเรียกเฉพาะมั้ยครับ  ทำไมต้องทาสีส้มด้วย

วิสัชนา : ศัพท์เทคนิคเรียกว่า "เครื่องเขิน"

ทำด้วยผิวไม้ไผ่  มิน่าเบาหวิว

(http://image.free.in.th/v/2013/ij/210521023202.jpg) (http://picture.in.th/id/31dd9158b738ba5de88e9cc55ae20f26)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 22 พ.ค. 21, 09:48
ที่บ้านผมมีงั่ง (ตอนนั้นไม่รู้จักชื่อนี้  พอเกิดเรื่องแล้วค่อยหาประวัติความเป็นมา) อยู่หนึ่งชิ้น เป็นของโบราณมาตั้งแต่สมัยคุณตาคุณยาย ผมเห็นมาตั้งแต่เกิด วางอยู่รวมกับพระพุทธรูปอื่น ๆ ตอนเด็ก ๆ เห็นแล้วอดคิดไม่ได้ว่า ทำไมพระองค์นี้ถึงได้ขี้ริ้วจัง ถามคุณยาย ท่านก็ไม่ทราบ บอกแต่ว่านึกไม่ออกว่าได้มาจากใครหรือตั้งแต่เมื่อไร (คุณตาตายก่อนผมเกิด)
 
วันหนึ่งนานมาแล้ว  ประมาณปี 2530 กว่า ๆ มีเรื่องร้ายเกิดขึ้นในบ้าน  บ้านหลังนี้เป็นของคุณตาและคุณยายซึ่งผมอยู่อาศัยมาตั้งแต่เกิด  เป็นบ้านไม้สักทองทรงโบราณตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ในเขตวงเวียนใหญ่

เรื่องร้ายดังกล่าวเกี่ยวกับการตีรันฟันแทง (ช่วงเวลาที่เกิดเหตุนั้นคุณยายตายไปแล้ว  ส่วนคุณตาตายไปก่อนที่ผมจะเกิดเสียอีก  เหลือแต่ผมกับน้าสาวรวม 2 คนในบ้านหลังใหญ่  ตอนนั้นเราดัดแปลงตึกแถวหน้าบ้านห้องหนึ่งมาทำเป็นโรงเรียนสอนขับรถยนต์) ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นในบ้านเรามาก่อน  เป็นเรื่องระหว่างคนในบ้าน (ครูสอนขับรถยนต์ที่เราจ้างมา) กับคนนอกบ้าน  เรื่องร้ายนี้เกิดขึ้นกลางดึกซึ่งผมหลับไปแล้วจึงไม่รู้เรื่อง
 
ตื่นเช้าขึ้นมา  ผมเดินผ่านหิ้งพระซึ่งเป็นแบบทำเอง คือเป็นชั้นสามเหลี่ยม 3 ชั้นเข้ามุม ชั้นล่างสุดอยู่สูงจากพื้นประมาณช่วงสะโพก  ต่ำลงมามีโต๊ะวางเครื่องบูชาเช่นกระถางธูป เชิงเทียน และแก้วใส่น้ำ  หิ้งพระนี้ตั้งอยู่ชั้นบนของบ้าน  และอยู่หน้าห้องนอนของผม

ขณะเดินผ่านเพื่อจะลงบันไดไปชั้นล่าง  ตาผมเหลือบไปเห็นสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นในแก้วน้ำบนโต๊ะวางเครื่องบูชา  กล่าวคือ ในแก้วนั้นมีงั่งนั่งจมน้ำอยู่โดยหันหน้าออก  ผมยืนตะลึงและขนลุกซู่กับภาพที่เห็นขึ้นมาทันที 

อย่างที่บอกว่า ปกติงั่งนั่งอยู่รวมกลุ่มกับพระพุทธรูปองค์อื่น ๆ บนหิ้งชั้นสามหรือชั้นล่างสุดซึ่งอยู่สูงขึ้นไปจากโต๊ะวางเครื่องบูชา  งั่งนี้ทำด้วยสัมฤทธิ์  ถ้าจะเกิดการพลัดหล่นลงมาลงแก้วน้ำที่อยู่ต่ำลงไป  แก้วต้องแตกแน่นอนด้วยน้ำหนักของงั่ง 

อย่างไรก็ตาม  ตามรูปการณ์แล้วไม่มีทางเป็นไปได้  ประการแรก งั่งไม่ได้นั่งหมิ่นอยู่ริมหิ้ง  ถ้าจะล้มก็ควรจะล้มลงบนพื้นของหิ้งนั้น  ไม่มีทางหล่นจากหิ้งลงมาได้  ประการที่สอง การที่งั่งทำด้วยสัมฤทธิ์มีน้ำหนัก  จึงเป็นไปได้ยากที่จะล้มได้ง่าย ๆ นอกจากจะมีใครปัด  ซึ่งชั้นบนของบ้านไม่มีใครขึ้นมา  มีผมครอบครองอยู่คนเดียว (น้าสาวนอนชั้นล่าง)  และประการสุดท้าย  ตำแหน่งที่งั่งนั่งก็อยู่คนละด้านกับแก้วน้ำ  กล่าวคืองั่งนั่งอยู่ด้านซ้ายบนหิ้ง  ส่วนแก้วน้ำวางอยู่ด้านขวาบนโต๊ะบูชา

สิ่งที่ผมเห็นในเช้านั้น  เหมือนมีใครจับงั่งมาแล้วค่อย ๆ หย่อนลงแก้วน้ำ  ผมสังเกตเห็นด้วยว่าน้ำในแก้วซึ่งปกติเป็นน้ำฝนตอนนี้มีสีเหลืองใสเหมือนน้ำเก๊กฮวย

ผมลงไปถามคนในบ้าน (น้าสาวกับครูสอนฯ) ก็ไม่มีใครรู้เรื่อง  ทุกคนเดินขึ้นมาดูให้เห็นกับตา  บอกว่าหิ้งพระนี้ผมเป็นคนดูแลแต่ผู้เดียว ไม่มีใครกล้าขึ้นมายุ่งเกี่ยว  แล้วพวกเขาก็เล่าเรื่องร้ายที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อคืนซึ่งผมไม่รู้เรื่องเพราะหลับไปก่อนให้ฟัง มันช่างประจวบเหมาะจริง ๆ  งั่งอยู่บนหิ้งมาเป็นเวลา 60-70 ปีอย่างสงบ  จู่ ๆ ก็เกิดอภินิหารขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับเหตุร้ายที่ไม่เคยเกิดขึ้นในบ้านเรามาก่อน แปลกดี

จนบัดนี้ ผมก็ยังไม่ทราบความหมายของเรื่องมหัศจรรย์ในคืนนั้น

(http://image.free.in.th/v/2013/iw/210522031537.jpg) (http://picture.in.th/id/2b0b74093a6b4a962886ba073149944a)



กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 22 พ.ค. 21, 10:16
ขออนุญาตส่งเรื่องนี้ไปกระทู้ เรื่องผีๆ และสิ่งลึกลับไร้คำอธิบาย (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=5673.225) อีกแห่งหนึ่ง


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 23 พ.ค. 21, 09:14
ขออนุญาตส่งเรื่องนี้ไปกระทู้ เรื่องผีๆ และสิ่งลึกลับไร้คำอธิบาย (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=5673.225) อีกแห่งหนึ่ง

ขอบคุณครับ

ตามไปเล่าต่อ...


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 26 พ.ค. 21, 09:24
มีใครทราบ  การเล่นไพ่ชนิดนี้บ้างครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/if/210526025123.jpg) (http://picture.in.th/id/adaacd78660e60839207db7b2e60b531)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 พ.ค. 21, 09:34
ไพ่ตอง
เล่นไม่เป็นค่ะ  แต่เคยเห็นผู้ใหญ่ระดับลุงป้าน้าอาเล่นกัน    เคยพยายามจะเรียน  แต่มันมีอะไรไม่รู้เยอะแยะมาก
จำไม่ไหว


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 26 พ.ค. 21, 09:42
ไพ่ตองเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ไพ่ผ่องไทย

คุณวีรชัยเคยอธิบายกติกาการเล่นไว้ในกระทู้ การพนันในเมืองไทย (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=4322.msg81598#msg81598)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 27 พ.ค. 21, 09:09
ขอบคุณมาก ๆ คร้าบ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 01 มิ.ย. 21, 09:09
2 วันก่อนได้คุยกับแม่เรื่องคุณตา  แม่เล่าว่าคุณตาเป็นคนสำอาง  ตัวจะหอมฟุ้งตลอด 

เป็นมาตั้งแต่เด็ก ๆ เพราะคุณทวดตามใจ 

ตรงนี้คุณตาเล่าให้แม่ฟังเองว่า  เหตุที่ต้องใส่แหวนที่นิ้วมือข้างซ้าย  เพราะเวลาออกงานสังคมสโมสรต้องมีการเต้นรำ

ท่าประจำของฝ่ายชายคือมือซ้ายต้องโอบเอวฝ่ายหญิง  การใส่แหวนที่นิ้วมือซ้ายเป็นการจงใจให้คนที่นั่งดูตามโต๊ะเห็นว่า 'ฉันไม่ใช่ย่อยนะ'

เสียดายที่คุณตาเป็นคนเงียบไม่ชอบเล่าโน่นนี่  ส่วนแม่ก็มัวแต่ไปก๋ากั่น 

(http://image.free.in.th/v/2013/ib/210511022649.jpg) (http://picture.in.th/id/9911d840a18d4fd29b36e6fa78b4a486)


ที่ใส่บุหรี่ของคุณตา  มีประดับอัญมณีสีสดใส  สำอางซะไม่มี  

(http://image.free.in.th/v/2013/ia/210526024227.jpg) (http://picture.in.th/id/5261c922fb63abd5d856f40545b594a9)

(http://image.free.in.th/v/2013/ik/210601023429.jpg) (http://picture.in.th/id/3f82e4c511e3c524504a93e40353eb1b)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 มิ.ย. 21, 19:03
ที่ใส่บุหรี่หรูมากค่ะ ไม่เคยเห็น
ที่เขี่ยบุหรี่ก็มีแยะ 
คุณตาเกิดมาในยุคที่ผู้ชายโก้ๆทุกคนต้องสูบบุหรี่เป็น   ในห้องรับแขกจึงต้องมีที่เขี่ยบุหรี่ไว้ให้แขกใช้ เคาะเถ้าบุหรี่ลงไปเวลาสูบบุหรี่กันพลาง  สนทนากันพลาง
โรคปอดที่น่ากลัวที่สุดคือวัณโรค   ส่วนมะเร็งปอดน่าจะไม่มีใครเป็นกันมากนัก เลยไม่ได้ยินว่าใครกลัว
ส่วนถุงลมโป่งพองน่าจะยังไม่เป็นที่รู้จัก

ที่เขี่ยบุหรี่ที่บ้านเคยมี เป็นแบบนี้


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 03 มิ.ย. 21, 09:32
ที่ใส่บุหรี่หรูมากค่ะ ไม่เคยเห็น
ที่เขี่ยบุหรี่ก็มีแยะ  
คุณตาเกิดมาในยุคที่ผู้ชายโก้ๆทุกคนต้องสูบบุหรี่เป็น   ในห้องรับแขกจึงต้องมีที่เขี่ยบุหรี่ไว้ให้แขกใช้ เคาะเถ้าบุหรี่ลงไปเวลาสูบบุหรี่กันพลาง  สนทนากันพลาง
โรคปอดที่น่ากลัวที่สุดคือวัณโรค   ส่วนมะเร็งปอดน่าจะไม่มีใครเป็นกันมากนัก เลยไม่ได้ยินว่าใครกลัว
ส่วนถุงลมโป่งพองน่าจะยังไม่เป็นที่รู้จัก

ที่เขี่ยบุหรี่ที่บ้านเคยมี เป็นแบบนี้

ที่เขี่ยบุหรี่มีแต่ของแถมมากับสินค้า  เลยไม่ทราบว่ายุคนั้นที่เขี่ยบุหรี่ที่วางขายหน้าตาอย่างไร

ของ อ. เก่าขนาดนั้นมั้ยครับ

ปล. ที่เขี่ยบุหรี่ที่แถมมากับนมตราหมี  ท่าทางจะหายาก  เพราะจำได้ว่าซัก 20 กว่าปีก่อนมีคนมาเยี่ยมแล้วเห็น  แล้วขอซื้อ  ให้ราคาสูงเชียว (รู้สึกจะหลักพันแก่ ๆ)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 มิ.ย. 21, 10:18
ที่เขี่ยบุหรี่ในบ้าน ถ้ายังหลงเหลืออยู่ก็คงอายุวัยเกษียณแล้วค่ะ   มีเอาไว้รับแขก
ตอนเล็กๆจำได้ว่าเคยเห็นที่เขี่ยบุหรี่ทำด้วยกะโหลกเสือ เลี่ยมนาก   เห็นที่บ้านผู้ใหญ่สักคน อาจจะเพื่อนคุณพ่อ    ส่วนที่เป็นจานรองรับเถ้าบุหรี่คือปากที่อ้ากว้าง  ไม่ใช่เขี่ยเถ้าลงบนหัว
ถือเป็นของโก้   ราคาแพง  แต่ตัวเองเห็นว่าน่ากลัว
หารูปในกูเกิ้ลไม่เจอค่ะ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 03 มิ.ย. 21, 20:29
ตอนอ่านนิยายเพชรพระอุมา ผมก็สงสัยว่าทำที่เขี่ยบุหรี่นั้น ทำอย่างไร
เพิ่งเจอรูปเมื่อ2ปีก่อน จึงเซฟเอาไว้
รูปที่มีรามสูร รูปถ่ายปี 1925
รูปที่มีอาแปะ รูปถ่ายปี 1950 โดยวารสาร LIFE


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 03 มิ.ย. 21, 20:58
ตอนเล็กๆจำได้ว่าเคยเห็นที่เขี่ยบุหรี่ทำด้วยกะโหลกเสือ เลี่ยมนาก   เห็นที่บ้านผู้ใหญ่สักคน อาจจะเพื่อนคุณพ่อ    ส่วนที่เป็นจานรองรับเถ้าบุหรี่คือปากที่อ้ากว้าง  ไม่ใช่เขี่ยเถ้าลงบนหัว

ประมาณนี้กระมัง  ;D


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 04 มิ.ย. 21, 08:42
ตอนเล็กๆจำได้ว่าเคยเห็นที่เขี่ยบุหรี่ทำด้วยกะโหลกเสือ เลี่ยมนาก   เห็นที่บ้านผู้ใหญ่สักคน อาจจะเพื่อนคุณพ่อ    ส่วนที่เป็นจานรองรับเถ้าบุหรี่คือปากที่อ้ากว้าง  ไม่ใช่เขี่ยเถ้าลงบนหัว

ประมาณนี้กระมัง  ;D

(http://image.free.in.th/v/2013/im/210604020801.jpg) (http://picture.in.th/id/192fa0d61497b8a8575a9f1d3630b07f)

ถ้าคุณตาเอาเข้าบ้าน  ต้องโดนคุณยาย 'เฟี้ยง' หัวแตกแน่


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 มิ.ย. 21, 09:23
ประมาณนี้ละค่ะ  คือเป็นกระโหลกเสือที่อ้าปากเห็นเขี้ยวใหญ่น่ากลัวมาก  มีบางส่วนหุ้มด้วยนากเพื่อเพิ่มมูลค่า
 
ขอบคุณคุณเพ็ญชมพูและคุณธสาคร  

ในยุคโน้น การได้ซากสัตว์ป่ามาประดับบ้านเป็นเรื่องธรรมดา   ตามฝาบ้านหลายแห่งมีเขากวางประดับไว้ เอาไว้แขวนหมวก    หนังเสือเอาไว้ทำพรมเป็นแผ่นใหญ่ปูบนไม้กระดานอีกที    กระดองกระก็แขวนไว้เป็นของแต่งผนังห้องเช่นกัน  


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 05 มิ.ย. 21, 09:42
ประมาณนี้ละค่ะ  คือเป็นกระโหลกเสือที่อ้าปากเห็นเขี้ยวใหญ่น่ากลัวมาก  มีบางส่วนหุ้มด้วยนากเพื่อเพิ่มมูลค่า
 
ขอบคุณคุณเพ็ญชมพูและคุณธสาคร  

ในยุคโน้น การได้ซากสัตว์ป่ามาประดับบ้านเป็นเรื่องธรรมดา   ตามฝาบ้านหลายแห่งมีเขากวางประดับไว้ เอาไว้แขวนหมวก    หนังเสือเอาไว้ทำพรมเป็นแผ่นใหญ่ปูบนไม้กระดานอีกที    กระดองกระก็แขวนไว้เป็นของแต่งผนังห้องเช่นกัน  

จำได้ว่า  หลังบ้านคุณยายเป็นเรือนแถวไม้  ไว้ให้คนใช้อยู่  มี เขา 2 เขา ติดอยู่ที่ข้างฝา 2 ข้างเหนือประตูห้อง  ตอนนั้นไม่รู้ว่าเขาอะไร  เคยถามคุณยายถึงรู้ว่าเป็นเขาของ กระทิง

ถามต่อว่า ทำไมไม่เอามาโชว์บนบ้าน คุณยายบอกว่า ไม่ชอบ

ตอนนั้นเด็ก  สมองยังไม่พัฒนา  เลยไม่ได้ถามต่อว่าทำไมถึงไม่ชอบ

อ่านถึง อ. เล่าเรื่องหนังเสือ  ก็นึกได้อีกถึงในห้องรับแขกของบ้านคุณปู่  มีหนังเสือพร้อมหัวอ้าปากแสยะเขี้ยว  ไปเยี่ยมทีไร  ไม่กล้าสบตาเสือ

ตอนเห็นครั้งแรกในชีวิต  กลับมาเล่าให้คุณยายฟังอย่างตื่นเต้น  นึกว่าคุณยายจะร่วมตื่นเต้น  แต่ท่านเฉย ๆ  จำได้ลาง ๆ ว่า  ท่านถอนหายใจ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 มิ.ย. 21, 10:52
เดาว่าคุณยายรู้สึกว่า เขาสัตว์และหนังสัตว์เป็นหลักฐานแสดงการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต  ท่านก็เลยไม่ชอบ  ผู้หญิงมักไม่เห็นการล่าสัตว์เป็นเรื่องสนุก  ผิดกับผู้ชายที่ถือว่าเข้าป่าล่าสัตว์คือการผจญภัยของลูกผู้ชาย

เรื่องนี้ทำให้นึกถึงความเชื่อโบราณอย่างหนึ่ง   คือจะไม่เอาของป่าเข้าบ้าน  ไม่ว่าจะเป็นเขากวาง หนังหมี กะโหลกเสือฯลฯ   แม้แต่หินที่ขุดจากภูเขามาวางประดับสวน ก็อยู่ในข่ายต้องห้าม   ถือว่าสิ่งเหล่านี้มีวิญญาณสิงสู่อยู่  เอาเข้ามาในบ้านจะไม่ดีกับเจ้าของบ้าน 


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 06 มิ.ย. 21, 09:42
เดาว่าคุณยายรู้สึกว่า เขาสัตว์และหนังสัตว์เป็นหลักฐานแสดงการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต  ท่านก็เลยไม่ชอบ  ผู้หญิงมักไม่เห็นการล่าสัตว์เป็นเรื่องสนุก  ผิดกับผู้ชายที่ถือว่าเข้าป่าล่าสัตว์คือการผจญภัยของลูกผู้ชาย

เรื่องนี้ทำให้นึกถึงความเชื่อโบราณอย่างหนึ่ง   คือจะไม่เอาของป่าเข้าบ้าน  ไม่ว่าจะเป็นเขากวาง หนังหมี กะโหลกเสือฯลฯ   แม้แต่หินที่ขุดจากภูเขามาวางประดับสวน ก็อยู่ในข่ายต้องห้าม   ถือว่าสิ่งเหล่านี้มีวิญญาณสิงสู่อยู่  เอาเข้ามาในบ้านจะไม่ดีกับเจ้าของบ้าน  

โอ้ อ. ครับ  ถูกต้องเป็นที่สุด

ขออนุญาตเล่าเรื่อง  เป็นบทความที่เขียนไว้นานแล้วครับ

'... มีครั้งหนึ่งผมไปเที่ยวอียิปต์  ระหว่างที่เดินเที่ยวอยู่ที่ปิรามิดขั้นบันไดที่เมือง Sakkara ผมเก็บหิน alabaster ก้อนเล็ก ๆ กลับมาบ้านเป็นที่ระลึก  ผมได้ยินคำเตือนมานักต่อนักว่าไปเที่ยวสถานที่ประวัติศาสตร์แบบนี้อย่ามือบอนเก็บไอ้นู่นไอ้นี่กลับมาบ้านเดี๋ยวจะเกิดเรื่อง  ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อ  แต่ผมอยากลองดู

หลังจากกลับมาบ้านเรียบร้อย  ผมก็เริ่มทดสอบ  

ปกติผมจะนั่งสมาธิเป็นประจำอยู่แล้ว  เป็นการนั่งแบบไม่มีครูสอนจึงไม่รู้ว่าหลักการเป็นอย่างไร  ในเวลานั้นผมยังไม่รู้จัก ‘อานาปานสติ’  การนั่งสมาธิของผมจึงเป็นการนั่งไปเรื่อย ๆ  คิดเรื่อยเปื่อยบ้างไม่คิดบ้าง  จนถึงจุดหนึ่งสมองคงล้ามันก็เลิกคิดแล้วก็นิ่งเงียบ  ต่อจากนั้นผมจะรู้สึกเคลิ้ม ๆ เหมือนกับจะหลับแต่ยังไม่หลับ  มันครึ่ง ๆ กลาง ๆ ตอนนี้แหละผมจะเห็นอะไรต่อมิอะไรมากมายล้วนจับต้นชนปลายไม่ถูก  ที่บ่อยที่สุดคือไปอยู่ในสถานที่แปลก ๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน  หรือเห็นผู้คนมากมายซึ่งก็ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเช่นกัน
  
ตอนแรกผมนึกว่าสมองเริ่มต้นคิดใหม่เกิดเป็นภาพ  แต่จากนิมิตผู้คนที่ผมเห็นนั้นช่วยยืนยันว่าผมไม่น่าจะคิดเอง  เป็นต้นว่า  ผมเห็นผู้คนมากมายเดินไปมาแล้วจู่ ๆ ก็มีคน ๆ หนึ่งหยุดกลางคันแล้วหันมามองผมจากนั้นก็เดินเข้ามาหาแล้วจ้องหน้าผมแบบสำรวจตรวจตราแต่ไม่ได้พูดว่าอะไรก่อนจะเดินจากไป  หรือบางทีก็เห็นคนเดินตรงมาแล้วยื่นจานใส่อาหารให้แบบเงียบ ๆ ก่อนจะเดินจากไป  แล้วก็มีอีกครั้งหนึ่งที่ขณะนั่งสมาธิอยู่ผมเห็นผู้หญิงคนหนึ่งในชุดไทยสีเขียวไพลเดินมาถึงก็ทรุดตัวลงนั่งพับเพียบต่อหน้าแล้วก้มหน้ามองพื้น  ไม่พูดไม่จา ฯลฯ

สำหรับการนั่งในครั้งนี้เป็นการนั่งแบบมีจุดประสงค์  พอมีจุดประสงค์ผมก็ไม่มั่นใจว่านั่ง ๆ ไปแล้วสมองจะเล่นกลกับผมรึเปล่า  แต่ผมก็ลองดู  ผมนั่งขัดสมาธิ  มือข้างหนึ่งกำหิน alabaster ไว้

พอถึงจุดที่สมองเริ่มเบื่อกับการคิดฟุ้งซ่านแล้วมันก็เลิกคิดอย่างที่เกิดขึ้นทุกที  ผมก็เริ่มง่วง  แล้วผมก็พบว่าตัวเองไปอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง  จะเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจากที่อียิปต์โบราณ  ผมมองไปรอบ ๆ เห็นชาวบ้านกำลังทำงานประจำวัน  บางคนตำหญ้าบางอย่างในครกขนาดใหญ่  บางคนให้อาหารเป็ดไก่  มีเด็ก ๆ วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน อากาศร้อนและแห้งแล้ง

ระยะเวลาที่เห็นเพียงแค่ 2-3 อึดใจแล้วผมก็กลับมาสู่ปัจจุบัน

ผมลองอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น  คราวนี้มีชาวอียิปต์แต่งตัวเหมือนคนงานเดินมาหาผม  เขาดึงผมให้ลุกขึ้นแล้วเดินนำหน้าไปยังกลุ่มคนงานที่เดินอยู่ข้างหน้า  ผมเดินปะปนไปกับกลุ่มคนเหล่านั้น  ตามพวกเขาไปเรื่อย ๆ  จนในที่สุดก็ถึงปากทางเข้าปิรามิด  ชายคนที่พาผมมาแต่ต้นหันมาบอกว่าจะพาไปดูของดี ๆ ข้างในกัน  เขาไม่ได้พูดภาษาไทยแต่ผมกลับเข้าใจเป็นอย่างดี  แต่อนิจจาพอเดินเข้าไปภายในปิรามิดผมก็กลับมาสู่ปัจจุบัน  รวมระยะเวลาที่เห็นประมาณ 2-3 อึดใจเช่นกัน

ผมไม่มีบทสรุปสำหรับการทดลองนี้ว่าผมถอดจิตออกไปจริงหรือว่าสมองเล่นกล  อย่างไรก็ตาม  ทดลองได้เพียง 2 ครั้งผมก็เลิก

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งที่ 3 นี้ไม่ได้เกิดขึ้นระหว่างนั่งสมาธิแต่เกิดในความฝันในตอนกลางคืน  ผมฝันว่าอยู่ในดินแดนอียิปต์โบราณ  ในขณะนั้นเกิดแผ่นดินไหวส่งเสียงระเบิดดังกัมปนาทเกิดความโกลาหลไปทั่ว  ผมเองก็วิ่งหนีตายหัวซุกหัวซุน  ตอนตกใจตื่นหัวใจยังเต้นแรงอยู่เลย

หลังจากคราวนั้นผมกับหินก็เลิกคบหากัน  แต่ผมไม่ได้ทิ้งขว้าง  เอาเขามาแล้วต้องรับผิดชอบ  ผมก็เก็บเอาไว้ในลิ้นชัก  แล้วทำลืม

ผมคิดว่าถ้าหินยังแสดงอภินิหารอีกก็คงต้องเอาไปไว้ที่วัด  แบบที่ชาวบ้านทำกัน  แต่หลังจากคืนนั้นหินก็ไม่ได้มามีบทบาทอะไรอีก

วันเวลาผ่านไป  ซึ่งระหว่างนั้น  ตรงตามที่ ‘คุณตาที่สาม’ เคยบอกไว้  ธรรมะเข้ามาจัดสรร  จาก ‘ลูกเทวทัต’ ผมก็กลายมาเป็น ‘ลูกพระพุทธเจ้า’  และวันหนึ่งผมก็ได้พบกับพระสุปฏิปันโน
 
เอาแบบย่นย่อ  ผมเล่าเรื่องหินที่ว่าให้ฟัง  พระท่านขอดูหิน  ท่านกำหินแล้วหลับตา  แป๊บนึงก็ลืมตาแล้วยิ้ม

ผมถามว่า  หินมีตัวมั้ย  ท่านบอกว่า มี

แสดงว่าการที่ผมลองดีในช่วงนั้น  ผมเจอของจริง  ไม่ใช่ฟุ้งซ่าน

ผมถามว่า เค้าเป็นใคร

ท่านบอกว่า เค้าไม่บอก  แต่ตอนนี้เค้าสงบเพราะโยมสวดมนต์ให้เค้าฟังทุกวัน

เป็นไงล่ะ  ศาสนาพุทธของเรา ...'

(http://image.free.in.th/v/2013/id/210606025701.jpg) (http://picture.in.th/id/4fd87e5f956f283a73e303f9a7bf73f8)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 06 มิ.ย. 21, 10:09
ขออนุญาตส่งเรื่องนี้ไปกระทู้ เรื่องผีๆ และสิ่งลึกลับไร้คำอธิบาย (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=5673.msg176483;topicseen#msg176483) เป็นเรื่องที่ ๒


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 07 มิ.ย. 21, 09:08
ขออนุญาตส่งเรื่องนี้ไปกระทู้ เรื่องผีๆ และสิ่งลึกลับไร้คำอธิบาย (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=5673.msg176483;topicseen#msg176483) เป็นเรื่องที่ ๒

ขอบคุณครับ 


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 07 มิ.ย. 21, 09:11
เครื่องเสริมความหล่อของคุณตา

สงสัยนิ้ดว่า  มีแปรงไปทำไมตั้ง 2-3 อัน  น่าจะมี หวี บ้าง  กลับไม่มี

แล้วก็  เค้าเริ่มใช้ ซิป กันตั้งแต่เมื่อไร

(http://image.free.in.th/v/2013/is/210607023732.jpg) (http://picture.in.th/id/658a25d456c48ba897df384d295b5b2a)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 มิ.ย. 21, 13:39
มองเห็นไม่ถนัดว่าเป็นแปรงมีด้ามหรือไม่    ถ้าไม่มี เป็นอันกลมๆหรือรีเป็นรูปไข่   เคยเห็นเขาเอาไว้แปรงเสื้อนอกค่ะ
ถ้ารีๆ แล้วขนแข็งหน่อยก็เอาไว้ปัดแปรงรองเท้า

แปรงเป็นผลิตภัณฑ์ของใช้จากตะวันตก   ออกแบบมาหลายแบบ   ใช้ตั้งแต่แปรงผมคน ไปจนแปรงขนม้า ขนหมา   ปัดแปรงหมวก เสื้อนอก รองเท้า ของฝรั่งที่ไม่ต้องซักบ่อยอย่างของคนไทย 

ภาพข้างล่างนี้เป็นแปรงสำหรับแปรงเสื้อนอกและกางเกง


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 08 มิ.ย. 21, 08:47
มองเห็นไม่ถนัดว่าเป็นแปรงมีด้ามหรือไม่    ถ้าไม่มี เป็นอันกลมๆหรือรีเป็นรูปไข่   เคยเห็นเขาเอาไว้แปรงเสื้อนอกค่ะ
ถ้ารีๆ แล้วขนแข็งหน่อยก็เอาไว้ปัดแปรงรองเท้า

แปรงเป็นผลิตภัณฑ์ของใช้จากตะวันตก   ออกแบบมาหลายแบบ   ใช้ตั้งแต่แปรงผมคน ไปจนแปรงขนม้า ขนหมา   ปัดแปรงหมวก เสื้อนอก รองเท้า ของฝรั่งที่ไม่ต้องซักบ่อยอย่างของคนไทย  

ภาพข้างล่างนี้เป็นแปรงสำหรับแปรงเสื้อนอกและกางเกง

แปรงไม่มีด้ามทั้งคู่ครับ

เอ... ชักสงสัยว่านี่คืออุปกรณ์เสริมความหล่อรึเปล่า  โหน่งเห็นกล่องใส่สบู่ ขวดแก้วใส่ผงยาสีฟัน อีก 2 ขวดไม่รู้ใส่อะไร  หลอดยาว ๆ น่าจะใส่แปรงสีฟัน  แต่ก็ดูใหญ่เกิน

แล้วแปรงปัดเสื้อนอกทำไมมาอยู่ในนี้


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 มิ.ย. 21, 12:56
คนไทยยุคคุณตาคุณโหน่ง ถ้าหวีผมน่าจะใช่หวีมากกว่าแปรง  เพราะยุคนั้นเวลาแต่งตัวออกจากบ้าน  ต้องใส่น้ำมันใส่ผมให้เรียบเป็นเงางาม ผมเรียบแน่นไม่กระดิก ไม่ยุ่งเพราะแรงลม 
ใช้หวีน่าจะสะดวกกว่าใช้แปรง


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 มิ.ย. 21, 19:08
น่าจะเป็นชุดขัดและทำความสะอาดรองเท้าหนัง ประกอบด้วยแปรงปัด น้ำยาทำความสะอาด (ในขวด) และผ้าขัดรองเท้า (ในกระบอก)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 09 มิ.ย. 21, 09:26
คนไทยยุคคุณตาคุณโหน่ง ถ้าหวีผมน่าจะใช่หวีมากกว่าแปรง  เพราะยุคนั้นเวลาแต่งตัวออกจากบ้าน  ต้องใส่น้ำมันใส่ผมให้เรียบเป็นเงางาม ผมเรียบแน่นไม่กระดิก ไม่ยุ่งเพราะแรงลม 
ใช้หวีน่าจะสะดวกกว่าใช้แปรง

นึกถึงน้ำมันใส่ผมยี่ห้อ ตันโจ ครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/ie/210609025311.jpg) (http://picture.in.th/id/ccc56e3eb0da0693be9381c6fa14ffe6)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 09 มิ.ย. 21, 09:29
เคยเห็นแปรงผมแบบนี้ในหนังพีเรียด ใช้แปรงผมโดยตัวละครซึ่งเป็นนายทหารอังกฤษ

ในเว็บก็มีขาย men's hair brushes, military styles


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 09 มิ.ย. 21, 09:29
น่าจะเป็นชุดขัดและทำความสะอาดรองเท้าหนัง ประกอบด้วยแปรงปัด น้ำยาทำความสะอาด (ในขวด) และผ้าขัดรองเท้า (ในกระบอก)

ไม่เคยคิดถึงคำตอบตัวนี้เลยครับ  นึกไปไม่ถึง


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 09 มิ.ย. 21, 09:32
ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 09 มิ.ย. 21, 13:00
นึกถึงน้ำมันใส่ผมยี่ห้อ ตันโจ ครับ

ตันโจ เป็นน้ำมันใส่ผมยอดนิยมของจิ๊กโก๋สมัยก่อนเชียว

คุณนวรัตนเขียนบรรยายเครื่องแบบจิ๊กโก๋สมัยอันธพาลครองเมืองไว้ในกระทู้ จอมพลป.2 ไม่ผ่านขึ้นป.3 (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=3438.msg68823#msg68823) ดังนี้

๑.ใส่เสื้อสีแดง
๒.ใส่เสื้อแขนยาวแต่พับแขนเสื้อสูงไปเหนือข้อศอก
๓. ใส่กางเกงขาลีบ โดยวัดขนาดเอาขวดเป๊ปซี่ยัดเข้าปลายขากางเกง หากยัดไม่เข้าถือว่า ขาลีบ
๔. นั่งตามราวสะพาน
๕. มั่วสุมจับกลุ่มตามร้านกาแฟ เกินกว่าสี่คนขึ้นไป
๖. ไว้ผมไม่มีแสก และใช้น้ำมันตันโจ
๗. พกหวีไว้ที่กระเป๋าหลังและปล่อยให้โผล่ออกมา

หมายเหตุ  ยี่ห้อ ตันโจ (丹頂) นี้มาจากชื่อนกกระเรียนมงกุฎแดง (Grus japonensis) ซึ่งเป็นสัตว์มงคลของญี่ปุ่น


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 10 มิ.ย. 21, 09:43
นึกถึงน้ำมันใส่ผมยี่ห้อ ตันโจ ครับ

ตันโจ เป็นน้ำมันใส่ผมยอดนิยมของจิ๊กโก๋สมัยก่อนเชียว


๓. ใส่กางเกงขาลีบ โดยวัดขนาดเอาขวดเป๊ปซี่ยัดเข้าปลายขากางเกง หากยัดไม่เข้าถือว่า ขาลีบ

นึกถึงสมัยเรียน 'มอ'  ผู้ชายใส่กางเกงอยู่ 2 ทรง  ทรง เดฟ กับ ทรง มอส

ไม่รู้ว่าเอาชื่อ 2 ชื่อนี้มาจากไหน

ทรง เดฟ ต้องแบบที่ว่าไว้คือ  ขาลีบยัดขวดเป๊บซี่ไม่เข้า  ใส่กับรองเท้าผ้าใบ converse กับอีกยี่ห้อจำไม่ได้แล้ว  หัวรองเท้าห้ามขาวจั๊วะ  ต้องมอมแต่สะอาด  ไม่ก็รองเท้าหุ้มข้อหนังกลับ  มียี่ห้อที่ดังมากสมัยนั้นแต่จำไม่ได้แม่นแล้ว  รู้สึกจะ Camel (ไม่แน่ใจ)  พอปลายปี 3 รองเท้าบูทอาละวาด  พบว่าใส่กับกางเกงทรงเดฟแล้วเท่มาก

(http://image.free.in.th/v/2013/ij/210610030437.jpg) (http://picture.in.th/id/417efbf28f385e9a1af5fdaa55f8f9a7)

ส่วนทรง มอส ต้องใส่แล้วปลายขายาวลงมากรอมรองเท้าพอดีและเห็นหัวรองเท้าโผล่ออกมาหน่อย  กางเกงยีนส์ PJ ทำทรงมอสสวย

(http://image.free.in.th/v/2013/iq/210610025857.jpg) (http://picture.in.th/id/c0b8c7b850aaf88f6037921880b16b36)



กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 มิ.ย. 21, 10:20
กางเกงทรงมอส เรียกก่อนหน้านี้ว่า ทรงสเปน หรือทรงขากระดิ่ง
เมื่อขากางเกงบาน เสื้อก็ต้องตรงกันข้ามคือฟิตเปรี๊ยะพอดีตัว
ผมยาวทรงบ๊อบเหมือนผมผู้หญิง เป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่ครึ่งหลังของยุค 1960s   พัฒนาจากทรงผมเดอะบีตเติ้ล สี่เต่าทอง


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 มิ.ย. 21, 10:24
ผู้ชายยุค 1970s  แต่งเสื้อผ้าสีสดใส  เสื้อลวดลายเหมือนผ้าตัดเสื้อผู้หญิง เรียกว่าสดใสจนผู้หญิงยกธงขาวให้เลย


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 10 มิ.ย. 21, 18:35
นึกถึงสมัยเรียน 'มอ'  ผู้ชายใส่กางเกงอยู่ 2 ทรง  ทรง เดฟ กับ ทรง มอส

มอสนักรัก เดฟนักรบ วัยรุ่นสมัยนั้นเขาว่าไว้  ;D


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 มิ.ย. 21, 20:39
ผู้หญิงก็นุ่งกางเกงแบบเดียวกับชาย จะเห็นว่ากางเกงขาบาน จะตัดให้ยาวมาก จนคลุมรองเท้ามิดชิด ขอบขาลงไประพื้น


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 11 มิ.ย. 21, 08:58
นึกถึงสมัยเรียน 'มอ'  ผู้ชายใส่กางเกงอยู่ 2 ทรง  ทรง เดฟ กับ ทรง มอส

มอสนักรัก เดฟนักรบ วัยรุ่นสมัยนั้นเขาว่าไว้  ;D

โอ้... แหม... นึกอยู่ตั้งนาน


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 11 มิ.ย. 21, 09:01
ผู้หญิงก็นุ่งกางเกงแบบเดียวกับชาย จะเห็นว่ากางเกงขาบาน จะตัดให้ยาวมาก จนคลุมรองเท้ามิดชิด ขอบขาลงไประพื้น

ใช่แล้วครับ  เห็นกับตา (ทุกวัน)

(http://image.free.in.th/v/2013/is/210611022836.jpg) (http://picture.in.th/id/8523527599c210d3afeab5faa6631ea5)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 11 มิ.ย. 21, 09:07
กลับมาที่คุณตา...

เครื่องเสริมความหล่ออีกอย่างเวลาไป 'ตก' หญิงของคุณตา

(http://image.free.in.th/v/2013/is/210611023232.jpg) (http://picture.in.th/id/db66d6fe80536249c80339f57b99f262)

(http://image.free.in.th/v/2013/ic/210611023322.jpg) (http://picture.in.th/id/9f4df748d6c8df3bf7eec8b9405d090e)

เคยเห็นแต่ในหนัง (ฝรั่ง) ซึ่งเป็นของทำใหม่เลียนแบบ

ของแท้อยู่ในตู้คุณตานี่เอง


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 มิ.ย. 21, 11:41
ถ้าเจ้าคุณตาอยู่ในยุคนี้ สื่อคงใช้คำ "ไฮโซ" นำหน้าชื่อท่าน
แว่นกันแดดของท่านย้อนยุคไปสมัย 1930s  แฟชั่นย้อนกลับมาใหม่ในปี 2013


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 12 มิ.ย. 21, 09:59
ถ้าเจ้าคุณตาอยู่ในยุคนี้ สื่อคงใช้คำ "ไฮโซ" นำหน้าชื่อท่าน
แว่นกันแดดของท่านย้อนยุคไปสมัย 1930s  แฟชั่นย้อนกลับมาใหม่ในปี 2013

เท่มากครับ  แฟชั่นหมุนเวียน  ป่านนี้กางเกงทรงมอสยังไม่กลับมาซักที  ท่าทางจะไปแล้วไปลับ  แต่ทรงเดฟยังอมตะอยู่



กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: Clarke ที่ 12 มิ.ย. 21, 17:19
แว่นก็เท่มาก !


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 13 มิ.ย. 21, 10:02
ไม้บรรทัดแบบแปลก ๆ

1.
(http://image.free.in.th/v/2013/it/210613032736.jpg) (http://picture.in.th/id/66009bc801f605b6dcd953a01e361df5)

2.
(http://image.free.in.th/v/2013/id/210613032848.jpg) (http://picture.in.th/id/6975f5594fd28354b3f248079d391a1c)

(http://image.free.in.th/v/2013/it/210613032912.jpg) (http://picture.in.th/id/2a0eb13aa3e16fde7d93a00f75d82d77)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 มิ.ย. 21, 10:22
งานของคุณตาเกี่ยวกับการวัด หรือคำนวณอะไรหรือเปล่าคะ
ไม้บรรทัดอันแรกน่าจะมีเอาไว้พกพาติดตัวไปด้วย
ทุกอันสวยมาก    ไม่ใช่ไม้บรรทัดนักเรียนทั่วไป  น่าจะราคาแพง


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 14 มิ.ย. 21, 09:44
งานของคุณตาเกี่ยวกับการวัด หรือคำนวณอะไรหรือเปล่าคะ
ไม้บรรทัดอันแรกน่าจะมีเอาไว้พกพาติดตัวไปด้วย
ทุกอันสวยมาก    ไม่ใช่ไม้บรรทัดนักเรียนทั่วไป  น่าจะราคาแพง

เปล่าครับ  พอเรียนจบ (ไม่ทราบว่าเรียนสูงขนาดไหน) คุณตาก็เข้าทำงานที่ ธ.ออมสิน  ตำแหน่งอะไรก็ไม่ทราบอีก  ทราบจากรูปว่ามีลูกน้อง

(http://image.free.in.th/v/2013/iv/210614030539.jpg) (http://picture.in.th/id/895d524885df788d474255168299d2c0)

(http://image.free.in.th/v/2013/ib/210614030611.jpg) (http://picture.in.th/id/0a6487610ee281055d78a7c102d70829)

นี่คือเครื่องแบบของ พนง. ธนาคารออมสิน  เสื้อกระดุม 5 เม็ด  กางเกงแบบ แพร และแบบ ปกติ

ดูคร่าว ๆ แล้ว  นอกจากคุณตา  คนอื่น ๆ ไม่มีภาพร่วมใน 2 รูปนี้เลย

รบกวน อ. และนักวิชาการช่วยวิเคราะห์ครับว่า  อยู่ในยุค ร. 6 หรือ ร. 7

รูปที่ 2 ถ่ายที่ไหน  คุ้นตามั้ยครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 14 มิ.ย. 21, 11:19
ไม้บรรทัดแบบพับได้ ผมเคยเห็นของคุณลุงซึ่งประกอบอาชีพตัดเสื้อ และผมเป็นคนเอาไปเล่นจนพังเอง แฮ่ๆ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: Koratian ที่ 14 มิ.ย. 21, 12:58

ภาพหมู่  ที่หน้าสะพานพุทธฯ
ถ่ายหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้วครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 มิ.ย. 21, 13:39
ดูจากวิธีแต่งกาย น่าจะประมาณ 2480 ค่ะ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 14 มิ.ย. 21, 17:50
(http://image.free.in.th/v/2013/ib/210614030611.jpg) (http://picture.in.th/id/0a6487610ee281055d78a7c102d70829)

รูปน่าสนใจครับ พระคเณศ(ทางซ้าย) กับ หนู?(ทางขวา) // ผมไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ยิน เกี่ยวกับรูปสลักคู่นี้เลยครับ // สามารถโพสต์รูปใหญ่กว่านี้ได้ไหมครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 15 มิ.ย. 21, 08:54

รูปน่าสนใจครับ พระคเณศ(ทางซ้าย) กับ หนู?(ทางขวา) // ผมไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ยิน เกี่ยวกับรูปสลักคู่นี้เลยครับ // สามารถโพสต์รูปใหญ่กว่านี้ได้ไหมครับ
[/quote]

เก่งจังที่ดูออก  ถ้าไม่บอกก็ไม่รู้  ดูเหมือนเป็นงานหยาบ ๆ  มีป้ายบอกด้วยแต่ไม่สามารถแกะได้  แต่อีกฝั่งซิ  

ใหญ่ขนาดนี้ได้มั้ยครับ  รูปต้นฉบับมันไม่ชัดเป็นทุนอยู่แล้วครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/iq/210615021840.jpg) (http://picture.in.th/id/e3eb23f4ce47bf5a9a920ae60c9f282c)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 15 มิ.ย. 21, 12:55
แนวการพิจารณา
1)บุคคลสวมเครื่องแบบธ.ออมสิน คงถ่ายในกรุงเทพ ในช่วงระหว่างวัน (ถ้าคุณตาไม่เคยถูกส่งไปสาขาต่างจังหวัด)
2)สถานที่ไม่ใช่วัด (ผมคิดเองว่า สมัยนู้นคงไม่ตั้งเทวรูปฮินดูในวัดเหมือนสมัยนี้)
3)ลักษณะการตั้งเทวรูป เหมือนเป็นสถานที่จำเพาะองค์ แถมสัตว์พาหนะให้ด้วย คือไม่ใช่เทวรูปเก่าที่ขาดความสนใจ หรือสักแต่ว่ายกไปประดับสถานที่ราชการ
.
ผมนึกถึงโบสถ์พราหมณ์ ที่เสาชิงช้า
4)ศิราภรณ์..ได้
5)กำไลต้นแขน..ได้
6)ความโหนกนูน..ได้
7)งวงตวัดมารับกับแขนซ้าย(ดูจากรอยหัก) ส่วนองค์ปัจจุบันคงถูกซ่อมแล้ว
8)ขนาดองค์(ไซส์)ไม่แน่ใจ เพราะรูปถ่ายใหม่ไม่มีคนยืนเทียบ
.
ฉากหลังพระคเณศดูเหมือนเป็นแค่แผงกั้น ไม่ใช่ผนังอาคารเพราะไม่มีประตู
ฉากหลังพาหนะหนู เป็นปูนกระดำกระด่าง


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: Koratian ที่ 15 มิ.ย. 21, 22:04

ฉากหลังกำแพงมีใบเสมา
น่าจะเป็นพิพิทธภัณฑ์สักแห่ง


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 16 มิ.ย. 21, 09:19
แนวการพิจารณา
1)บุคคลสวมเครื่องแบบธ.ออมสิน คงถ่ายในกรุงเทพ ในช่วงระหว่างวัน (ถ้าคุณตาไม่เคยถูกส่งไปสาขาต่างจังหวัด)
2)สถานที่ไม่ใช่วัด (ผมคิดเองว่า สมัยนู้นคงไม่ตั้งเทวรูปฮินดูในวัดเหมือนสมัยนี้)
3)ลักษณะการตั้งเทวรูป เหมือนเป็นสถานที่จำเพาะองค์ แถมสัตว์พาหนะให้ด้วย คือไม่ใช่เทวรูปเก่าที่ขาดความสนใจ หรือสักแต่ว่ายกไปประดับสถานที่ราชการ
.
ผมนึกถึงโบสถ์พราหมณ์ ที่เสาชิงช้า
4)ศิราภรณ์..ได้
5)กำไลต้นแขน..ได้
6)ความโหนกนูน..ได้
7)งวงตวัดมารับกับแขนซ้าย(ดูจากรอยหัก) ส่วนองค์ปัจจุบันคงถูกซ่อมแล้ว
8)ขนาดองค์(ไซส์)ไม่แน่ใจ เพราะรูปถ่ายใหม่ไม่มีคนยืนเทียบ
.
ฉากหลังพระคเณศดูเหมือนเป็นแค่แผงกั้น ไม่ใช่ผนังอาคารเพราะไม่มีประตู
ฉากหลังพาหนะหนู เป็นปูนกระดำกระด่าง

คำตอบที่แท้จริงเป็นอย่างไร  ช่างก่อน

จุดทึ่งอยู่ที่วิเคราะห์ได้เก่งสุดขีดครับ  ขอขอบคุณและคารวะ

(http://image.free.in.th/v/2013/io/210616024414.jpg) (http://picture.in.th/id/94ec6655d562f7168fad729016064888)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 16 มิ.ย. 21, 10:27
เห็นด้วยกับคุณคนโคราช น่าจะเป็นพระคเณศ ประติมากรรมหินทรายอายุ ๑,๐๐๐+ ปี ตั้งแสดงอยู่หน้าพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่ง


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 18 มิ.ย. 21, 09:21
คุณตาเรียนเก่งไม่หยอก

แต่สงสัยว่า  ชั้น 4 ในหนังสือเทียบกับปัจจุบันน่าจะเป็นชั้นอะไรครับ (คุณตาเกิด 2440)

ตอนผมอายุ 18 ผมอยู่ 'มอ' ปี 1 แล้ว

อีกเรื่องที่สงสัย  รางวัลวิชาคำนวณคือ 'หนังสือนิยายภาษาอังกฤษ'??

(http://image.free.in.th/v/2013/io/210618023555.jpg) (http://picture.in.th/id/59f8b291172913b3b05dcf41c14ee5b5)

(http://image.free.in.th/v/2013/it/210618023924.jpg) (http://picture.in.th/id/60509e0a0e622a0f75b691bbb1ab2a09)

(http://image.free.in.th/v/2013/iv/210618023941.jpg) (http://picture.in.th/id/f9aedcc4608e3af73a4b53934eb66142)


ชื่อ อาจารย์ใหญ่ แกะอยู่ 1 เพลินถึงได้คำตอบว่าคือ Alfred Trice Martin

ไปถามอากู๋ว่าคือใคร  อากู๋ตอบว่า

Mr. Alfred Trice Martin, who died on the evening of December 16, 1926 at Blagdon, Somerset, whither he had been moved from Clifton in failing health some months ago, was the last head master of Bath College.

The sixth son of Mr. Samuel Martin, he was born in 1855. He went to Magdalen Hall, now Hertford College, Oxford, in 1872, but soon migrated to Worcester College, where he had been selected as an exhibitioner. he was in the second class in classical moderations in 1874, and in the third class in Lit. Hum. in 1876. Soon after the beginning of the present century he succeeded the late Canon Yorke Fausset as head master of Bath College. The school, founded in 1878 by Mr. T. W. Dunn (who still survives), came to an end in 1909, in spite of Martin's admirable and spirited endeavours to prolong its success. He subsequently went to Siam as educational adviser, but the climate took its toll of a man no longer in his first youth. Returning to Clifton, where (like Dunn) he had formerly been a master, he undertook some measure of his former activities, and had in the past few years taken a vigorous and successful part in the Bath College War Memorial scheme.
 
A brave man and an inspiring teacher, he will be long remembered both at Bath and Clifton for his warm-hearted loyalties, his wide humanity, and his single-mindedness. His published works include a history of Bath for schools and an edition of Malory. He was a keen antiquary and did good work in the excavation of Caerwent. He leaves a widow, a daughter, and three sons, the eldest of whom is Commissioner of Lands in Kenya.


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 18 มิ.ย. 21, 10:01
ข้อมูลจาก โรงเรียน ภ.ป.ร. ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (https://th.m.wikipedia.org/wiki/โรงเรียน_ภ.ป.ร._ราชวิทยาลัย_ในพระบรมราชูปถัมภ์)

สมัยบางขวาง (พ.ศ. ๒๔๕๔-๒๔๖๘)

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว กระทรวงยุติธรรมได้สร้างโรงเรียนกฎหมายแห่งใหม่ที่ตำบลบางขวาง นนทบุรี แต่ยังขาดครูและนักเรียนพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจรูญศักดิ์กฤษดากร เสนาบดีกระทรวงยุติธรรมจึงขอพระราชทานโรงเรียนราชวิทยาลัย ซึ่งอยู่ในสังกัดกระทรวงธรรมการให้โอนมาอยู่ในการปกครองของกระทรวงยุติธรรม โดยมีข้อกำหนดว่านักเรียนต้องเรียนภาษาลาตินและวิชากฎหมาย

โรงเรียนราชวิทยาลัยสมัยบางขวาง เปิดเรียนวันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๔ ครูใหญ่คนที่ ๒ เป็นชาวอังกฤษชื่อ มิสเตอร์เอไตร มาร์ติน สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด ประเทศอังกฤษ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเสริมสร้างให้โรงเรียนราชวิทยาลัยเจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่ง เป็นโรงเรียนเดียวในสยามที่ได้รับเกียรติให้ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยในยุโรปได้โดยไม่ต้องสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษในปี พ.ศ. ๒๔๕๙ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้โอนโรงเรียนราชวิทยาลัยมาขึ้นกับสภากรรมการโรงเรียนมหาดเล็กหลวงและทรงรับไว้อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: Koratian ที่ 18 มิ.ย. 21, 10:36

คุณตาของคุณโหน่ง มีพี่ชายชื่ออะไรครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 18 มิ.ย. 21, 21:12
สงสัยว่า  ชั้น 4 ในหนังสือเทียบกับปัจจุบันน่าจะเป็นชั้นอะไรครับ (คุณตาเกิด 2440)

ชั้น ๔ คือ มัธยม ๔ นั่นแล

วิธีจะจัดการโรงเรียนนั้น ให้แบ่งแยกเป็นบ้านเฉพาะบ้านหนึ่ง ๆ ซึ่งในบ้านหนึ่ง มีครูกำกับบ้านคนหนึ่ง ให้มีนักเรียนทุกชั้น ตั้งแต่ชั้นต่ำสุดถึงชั้นสูงสุด ครูกำกับบ้านจะเป็นผู้รับผิดชอบ ในการปกครองบ้านที่ตนประจำอยู่นั้น ขึ้นตรงต่ออาจารย์ใหญ่ การฝึกหัดอัธยาศัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ส่วนหนึ่งเพื่อให้นักเรียนมีความรู้สึกเชื่อมั่นในทางที่ชอบที่ควร ปราศจากความเย่อหยิ่ง มีความจงรักภักดีต่อพระเจ้าแผ่นดิน และ ชาติบ้านเมือง การเล่น และการฝึกหัดกำลังกาย ก็ให้ถือเป็นส่วนสำคัญในการเล่าเรียนด้วยเสมอ

เมื่อโอนมาอยู่ในสังกัดกระทรวงยุติธรรม มีชั้นประถม ๑ ถึงประถม ๓ และมีชั้นประถมพิเศษ ทำนองเตรียมมัธยมอีก ๑ ชั้น มัธยมมีชั้น ๑ ถึงชั้นมัธยม ๕ แล้วขึ้นชั้นรีมูฟ (remove เทียบชั้น ๖) ชั้น ๖ ต่ำ (Lower Sixth เทียบชั้น ๗) และชั้น ๖ สูง (Upper Sixth เทียบชั้น ๘)

จาก http://pirun.ku.ac.th/~b521100013/index2.html


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 19 มิ.ย. 21, 09:24
สงสัยว่า  ชั้น 4 ในหนังสือเทียบกับปัจจุบันน่าจะเป็นชั้นอะไรครับ (คุณตาเกิด 2440)

ชั้น ๔ คือ มัธยม ๔ นั่นแล

วิธีจะจัดการโรงเรียนนั้น ให้แบ่งแยกเป็นบ้านเฉพาะบ้านหนึ่ง ๆ ซึ่งในบ้านหนึ่ง มีครูกำกับบ้านคนหนึ่ง ให้มีนักเรียนทุกชั้น ตั้งแต่ชั้นต่ำสุดถึงชั้นสูงสุด ครูกำกับบ้านจะเป็นผู้รับผิดชอบ ในการปกครองบ้านที่ตนประจำอยู่นั้น ขึ้นตรงต่ออาจารย์ใหญ่ การฝึกหัดอัธยาศัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ส่วนหนึ่งเพื่อให้นักเรียนมีความรู้สึกเชื่อมั่นในทางที่ชอบที่ควร ปราศจากความเย่อหยิ่ง มีความจงรักภักดีต่อพระเจ้าแผ่นดิน และ ชาติบ้านเมือง การเล่น และการฝึกหัดกำลังกาย ก็ให้ถือเป็นส่วนสำคัญในการเล่าเรียนด้วยเสมอ

เมื่อโอนมาอยู่ในสังกัดกระทรวงยุติธรรม มีชั้นประถม ๑ ถึงประถม ๓ และมีชั้นประถมพิเศษ ทำนองเตรียมมัธยมอีก ๑ ชั้น มัธยมมีชั้น ๑ ถึงชั้นมัธยม ๕ แล้วขึ้นชั้นรีมูฟ (remove เทียบชั้น ๖) ชั้น ๖ ต่ำ (Lower Sixth เทียบชั้น ๗) และชั้น ๖ สูง (Upper Sixth เทียบชั้น ๘)


จาก http://pirun.ku.ac.th/~b521100013/index2.html

ว่าวววว.... ขอบคุณเป็นอย่างมากครับ  ความรู้สามารถเก็บเกี่ยวได้ไม่มีหมด 

สมัยนั้นคงยังไม่บัญญัติเกณฑ์อายุในการเข้าโรงเรียนนะครับ  เพราะคุณตาอายุตั้ง 18 แล้วยังเรียนอยู่แค่ ม.4 

เข้าใจแล้วว่าทำไม  ความสัมพันธ์ระหว่างคุณตากับเพื่อน ๆ ถึงได้เหนียวแน่นมาก  แม้จะออกมาหาเลี้ยงชีวิตกันแล้วก็ตาม  รร. หล่อหลอมมานี่เอง

ก๊กคุณตา...

(http://image.free.in.th/v/2013/ic/210619024511.jpg) (http://picture.in.th/id/f5abb0c99c0ea6a8a613fa8c96b52e38)

สถานที่ 'hang out' คือ สโมสรสราญรมย์

(http://image.free.in.th/v/2013/ij/210619024629.jpg) (http://picture.in.th/id/d70adabd956ab4cd68c63bfb1baa6b62)





กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 19 มิ.ย. 21, 09:28

คุณตาของคุณโหน่ง มีพี่ชายชื่ออะไรครับ


ไม่ถามนามสกุลก่อนเหรอครับ

คุณตาเป็นคนโตครับ  แต่มีน้องคนสุดท้องเป็นผู้ชายชื่อ สมัย ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น ประมุข

ทายาท 2 สายนี้ขาดการติดต่อตั้งแต่คุณตาตายเมื่อปี 2500

เอ... ผมควรจะตื่นเต้นมั้ยครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 มิ.ย. 21, 10:19
ถ้าคุณโหน่งอยากอ่านหนังสือที่คุณตาได้รับเป็นรางวัล  เข้าไปอ่านได้ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ
แล้วจะรู้ว่าภาษาอังกฤษของเด็กไทยชั้นมัธยมปลาย ในอดีต แน่ขนาดไหนเมื่อเทียบกับปัจจุบัน
หนังสือเล่มนี้เป็นวรรณกรรมเยาวชน(อายุ ๑๕-๒๕ ปี) ที่แพร่หลายมากเล่มหนึ่งในอังกฤษ

https://www.gutenberg.org/files/17546/17546-h/17546-h.htm


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 19 มิ.ย. 21, 14:00
การแบ่งชั้นเรียนสมัย ร.๖ ดูประหลาดนะครับ คงรับแนวทางมาจากอังกฤษ ผมลองค้นจากกูเกิล..ปรากฏว่าเป็นเช่นนั้น
ความประหลาดใจจึงถูกส่งต่อไปยังอังกฤษ ผมเลยเดาว่าอังกฤษคงพัฒนาต่อยอดระบบศึกษา ขยายชั้นเรียนมาเรื่อยตลอดระยะเวลาเป็นร้อยๆปี ทำให้สเกลชั้นเรียนดูไม่ค่อย numeric

"คุณตา"เรียนชั้น4 ตอนอายุ18 เมื่อเทียบกับปัจจุบันแล้ว แค่ ม.2 เท่านั้นเอง // อืม...ไม่น่าใช่ ผมยังไม่ได้ค้นข้อมูลโดยละเอียด อาจเข้าใจผิดไปเอง


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 19 มิ.ย. 21, 14:35
ผมชอบเล่นแบดมินตัน จึงสะสมแร็กเกตโบราณ รูปถ่าย+สิ่งพิมพ์เก่า ที่เกี่ยวกับแบดมินตัน โดยซื้อจากเว็บอีเบย์ ซึ่งทั้งหมดไม่ใช่ของไทย
อันที่ซื้อหาไม่ได้ หรือค้นเจอจากเว็บที่ไม่ใช่เว็บซื้อขาย ผมก็เก็บเป็นไฟล์ดิจิทัลไว้ กะไว้ว่าใช้ตกแต่งสนามแบดมินตันของตนเอง
ทำตู้โชว์เสร็จ ไม้แบดขึ้นโชว์เสร็จ ก็หยุดอยู่แค่นั้นครับ ไม่ได้ทำต่อด้าน"รูปภาพ"ประดับฝาผนัง เพราะการตรวจชำระเอกสารใช้เวลาค้นคว้ามาก ทำไปทำมา..ความกระตือรือร้นลดลงทำให้โครงการหยุดไป
แต่ผมก็ยังสะสมไฟล์ดิจิทัลต่อไปตามโอกาสอำนวย โดยเฉพาะรูปถ่าย"การแบดมินตัน"ในประเทศไทย ซึ่งหาได้ยากหนักหนา
.
ที่ร่ายยาวมานี่ คือผมจะขอ(ขอดื้อๆนี่แหละ)ไฟล์ฟูลไซส์ "ก๊กคุณตากับไม้แบด" มา ณ โอกาสนี้ครับ // ลายแทงครับ >>> tanitj.69แอ็ตจีเมล์.คอม // ขอบคุณครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: kui045 ที่ 19 มิ.ย. 21, 16:26
ภาพที่ 2 ใน คห. 134
ถ้าให้ผมเดานะ
ผมเดาว่าน่าเป็นหน้าโรงละครแห่งชาติในปัจจุบัน ถ่ายด้านหน้า ฉากหลังด้านซ้ายมือ เป็นต้นมะขาม กับท้องสนามหลวง
รูปพระพิฆนเศวร ก็พ้องกับกรมศิล พอดี

เดานะครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 19 มิ.ย. 21, 17:54
รูปถ่ายของคุณ nathanielnong ถ่ายราวสมัย ร.๗ // โรงละครแห่งชาติ สร้าง2504 เสร็จ2508


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 20 มิ.ย. 21, 09:44
ถ้าคุณโหน่งอยากอ่านหนังสือที่คุณตาได้รับเป็นรางวัล  เข้าไปอ่านได้ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ
แล้วจะรู้ว่าภาษาอังกฤษของเด็กไทยชั้นมัธยมปลาย ในอดีต แน่ขนาดไหนเมื่อเทียบกับปัจจุบัน
หนังสือเล่มนี้เป็นวรรณกรรมเยาวชน(อายุ ๑๕-๒๕ ปี) ที่แพร่หลายมากเล่มหนึ่งในอังกฤษ

https://www.gutenberg.org/files/17546/17546-h/17546-h.htm

ขอบคุณครับ อ.

โหน่งว่า  การที่ภาษาอังกฤษของเด็กไทยสมัยก่อนแน่มากน่าจะเป็นเพราะยุคนั้น  ต้องเป็นฝรั่งเท่านั้นถึงจะสื่อสารภาษาอังกฤษได้  ครูสอนภาษาอังกฤษจึงเป็นครูฝรั่งที่เป็นต้นกำเนิดภาษา (อเมริกัน อังกฤษ) ไม่มีครูจากสิงค์โปร์ ฟิลิปปินส์ อินเดีย ฯลฯ เหมือนสมัยนี้นะครับ



กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 20 มิ.ย. 21, 09:46
การแบ่งชั้นเรียนสมัย ร.๖ ดูประหลาดนะครับ คงรับแนวทางมาจากอังกฤษ ผมลองค้นจากกูเกิล..ปรากฏว่าเป็นเช่นนั้น
ความประหลาดใจจึงถูกส่งต่อไปยังอังกฤษ ผมเลยเดาว่าอังกฤษคงพัฒนาต่อยอดระบบศึกษา ขยายชั้นเรียนมาเรื่อยตลอดระยะเวลาเป็นร้อยๆปี ทำให้สเกลชั้นเรียนดูไม่ค่อย numeric

"คุณตา"เรียนชั้น4 ตอนอายุ18 เมื่อเทียบกับปัจจุบันแล้ว แค่ ม.2 เท่านั้นเอง // อืม...ไม่น่าใช่ ผมยังไม่ได้ค้นข้อมูลโดยละเอียด อาจเข้าใจผิดไปเอง

แนวการค้นคว้า 'amazing' เช่นเคย

ขอบคุณครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 20 มิ.ย. 21, 09:51
ผมชอบเล่นแบดมินตัน จึงสะสมแร็กเกตโบราณ รูปถ่าย+สิ่งพิมพ์เก่า ที่เกี่ยวกับแบดมินตัน โดยซื้อจากเว็บอีเบย์ ซึ่งทั้งหมดไม่ใช่ของไทย
อันที่ซื้อหาไม่ได้ หรือค้นเจอจากเว็บที่ไม่ใช่เว็บซื้อขาย ผมก็เก็บเป็นไฟล์ดิจิทัลไว้ กะไว้ว่าใช้ตกแต่งสนามแบดมินตันของตนเอง
ทำตู้โชว์เสร็จ ไม้แบดขึ้นโชว์เสร็จ ก็หยุดอยู่แค่นั้นครับ ไม่ได้ทำต่อด้าน"รูปภาพ"ประดับฝาผนัง เพราะการตรวจชำระเอกสารใช้เวลาค้นคว้ามาก ทำไปทำมา..ความกระตือรือร้นลดลงทำให้โครงการหยุดไป
แต่ผมก็ยังสะสมไฟล์ดิจิทัลต่อไปตามโอกาสอำนวย โดยเฉพาะรูปถ่าย"การแบดมินตัน"ในประเทศไทย ซึ่งหาได้ยากหนักหนา
.
ที่ร่ายยาวมานี่ คือผมจะขอ(ขอดื้อๆนี่แหละ)ไฟล์ฟูลไซส์ "ก๊กคุณตากับไม้แบด" มา ณ โอกาสนี้ครับ // ลายแทงครับ >>> tanitj.69แอ็ตจีเมล์.คอม // ขอบคุณครับ


ด้วยความยินดีครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 20 มิ.ย. 21, 13:06
ผมได้รับทักทางอีเมล์ 9.53น. (2นาทีหลังจากโพสต์บนเรือนไทย)
ขอบพระคุณมากครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 21 มิ.ย. 21, 08:39
ผมได้รับทักทางอีเมล์ 9.53น. (2นาทีหลังจากโพสต์บนเรือนไทย)
ขอบพระคุณมากครับ

อ้าววววว... (ทำเสียงสูง) มาโผล่อยู่ที่นี่เองพ่อหนุ่ม

ไอ้เราก็ไปคอยอยู่ที่โน่น  กำลังสงสัยว่าหรือเราจะ จ่าหน้าผิด

รอกะเดี๋ยวนะ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 21 มิ.ย. 21, 08:54
ผมได้รับทักทางอีเมล์ 9.53น. (2นาทีหลังจากโพสต์บนเรือนไทย)
ขอบพระคุณมากครับ

อ้าววววว... (ทำเสียงสูง) มาโผล่อยู่ที่นี่เองพ่อหนุ่ม

ไอ้เราก็ไปคอยอยู่ที่โน่น  กำลังสงสัยว่าหรือเราจะ จ่าหน้าผิด

รอกะเดี๋ยวนะ

ส่งไปแล้ว...

เออ... ขอถามหน่อย  สมัยปลายยุค 60s ที่กรุงเทพฯ เค้าใช้ไม้แบดยี่ห้ออะไรบ้างครับ

เท่าที่จำได้มี Wilson กับ Dunlop  รู้สึกจะมีอีกแต่นึกไม่ออก  ที่บ้านก็เล่นเป็นประจำ (พี่ ๆ เล่น ผมเก็บลูก)

ตอนเด็ก ๆ จำได้ว่ามีนักแบดฯ 2 คนที่ดังมาก (คงได้ยินมาจากกีฬา Asian Games)

Liem Swie King ชาว อินโดฯ กับ Prakash Padukone ชาวอินเดีย


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 21 มิ.ย. 21, 09:31
ผมสังเกตรูปคุณตา  แต่ละรูปไม่มีเค้าว่าท่านเคี้ยวหมาก ไม่ว่าจะเป็นตอนเด็กหรือตอนโต  ทั้ง ๆ ที่เป็นยุคของคนเคี้ยวหมาก

ไม่ว่าคนสามัญหรือแม้แต่สมาชิกราชวงศ์ก็เคี้ยวหมาก

เลยจะถามผู้รู้เกี่ยวกับการเคี้ยวหมากครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 21 มิ.ย. 21, 14:44
ปลายยุค 60s ในไทยมีอีกยี่ห้อคือ Slazenger // ในยุคเดียวกันมีอีกยี่ห้อ ที่ใช้มากในอเมริกาคือ Spalding แต่คนไทยไม่รู้จัก
คนไทยที่จะใช้ Wilson , Dunlop , Slazenger นี่ต้องชอบเล่นแบดเป็นประจำแล้วครับ และตีในคอร์ตด้วย // ถ้าเด็กๆ หรือชาวบ้านๆ ตีเล่นในซอยหน้าบ้าน นี่ได้จับแค่ยี่ห้อจับฉ่ายเท่านั้น
มีอีกยี่ห้อ "มงคลประดิษฐ์" คนไทยทำเอง คุณภาพดีเทียบเท่าแบรนด์ดัง // พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่๙ ก็โปรดใช้  "มงคลประดิษฐ์" ครับ // ยี่ห้อนี้เลิกผลิตไปราว40ปีแล้ว
.
ปรากาช ปราดูโคน ถือว่าดังในระดับโลกก็จริง แต่ผลงานยังสู้ไม่ได้ เมื่อเทียบ เลียม ซวี คิง(อินโด) กับ หันเจี้ยน(จีนแดง) คู่นี้เข้าชิงชนะเลิศกันบ่อยในหลายๆทัวร์นาเมนต์
.
รูปประกอบ จากวารสารปี1936 พ.ศ.2479 // คาดว่าใกล้เคียงกับ "รูปถ่ายคุณตา" ครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 21 มิ.ย. 21, 14:47
ผมได้รับไฟล์รูปเรียบร้อย ขอบคุณอีกครั้งครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 มิ.ย. 21, 15:17
ผมสังเกตรูปคุณตา  แต่ละรูปไม่มีเค้าว่าท่านเคี้ยวหมาก ไม่ว่าจะเป็นตอนเด็กหรือตอนโต  ทั้ง ๆ ที่เป็นยุคของคนเคี้ยวหมาก
ไม่ว่าคนสามัญหรือแม้แต่สมาชิกราชวงศ์ก็เคี้ยวหมาก
เลยจะถามผู้รู้เกี่ยวกับการเคี้ยวหมากครับ

หนุ่มสาวไฮโซสมัยรัชกาลที่ 6  ไม่ค่อยกินหมากกันค่ะ 
คุณตาเกิด 2440  เมื่อเปลี่ยนรัชกาลท่านก็อายุ 13 แล้ว  เติบโตมาแบบทันสมัย ได้เล่าเรียนในรร.อินเตอร์ในสยาม   ท่านก็คงจะยึดธรรมเนียมตะวันตกอยู่บ้างไม่มากก็น้อย   หนึ่งในนั้นคือไม่กินหมาก
แต่คนไทยที่เกิดและโตขึ้นมาในรัชกาลที่ 5   เคยชินกับวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมมากกว่า จึงยังกินหมากอยู่แม้ผ่านมาถึงรัชกาลที่ 7 และ 8
ชาวบ้านทั่วไปก็ยังกินหมาก   จึงลำบากกันทั่วหน้าเมื่อจอมพลป.ห้ามกินหมาก ในยุควัธนธัม สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2   


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 21 มิ.ย. 21, 16:03
ค่อยๆดูรูปไป ผมเพิ่งสังเกตเห็น "ถังเงินใส่ปั้นชา" แพลมมาหน่อยนึง ในรูปใบที่2 (จากอีเมล์..ไม่ได้โพสต์ในเรือนไทย)
"คุณตา" มีความเป็นอังกฤษนะครับ จิบชา-เล่นกีฬา-ชมกล้วยไม้(เรือนไม้ระแนงด้านหลัง)
เครดิตรูป afternoon tea จาก wongnai.com


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 22 มิ.ย. 21, 08:56
ค่อยๆดูรูปไป ผมเพิ่งสังเกตเห็น "ถังเงินใส่ปั้นชา" แพลมมาหน่อยนึง ในรูปใบที่2 (จากอีเมล์..ไม่ได้โพสต์ในเรือนไทย)
"คุณตา" มีความเป็นอังกฤษนะครับ จิบชา-เล่นกีฬา-ชมกล้วยไม้(เรือนไม้ระแนงด้านหลัง)
เครดิตรูป afternoon tea จาก wongnai.com

รีบย้อนกลับไปดู ตาดีจริง ๆ พ่อคุณ  

คุณตาท่าจะคาบลูกคาบดอกไปหน่อยเพราะ ชอบจิบชาจีน  มากกว่าชาอังกฤษ

(http://image.free.in.th/v/2013/id/210622022852.jpg) (http://picture.in.th/id/92cd6801e70f483e505a45e6a672a37a)

(http://image.free.in.th/v/2013/ie/210622022937.jpg) (http://picture.in.th/id/1e4afa95ff16287e3233184998db28be)

(http://image.free.in.th/v/2013/iu/210622023003.jpg) (http://picture.in.th/id/11289832c86bd3cd023d45c5fdc6465e)

(http://image.free.in.th/v/2013/it/210622023028.jpg) (http://picture.in.th/id/f8875566a0396ae1e4d7087517c6d0db)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 22 มิ.ย. 21, 09:14
ผมสังเกตรูปคุณตา  แต่ละรูปไม่มีเค้าว่าท่านเคี้ยวหมาก ไม่ว่าจะเป็นตอนเด็กหรือตอนโต  ทั้ง ๆ ที่เป็นยุคของคนเคี้ยวหมาก
ไม่ว่าคนสามัญหรือแม้แต่สมาชิกราชวงศ์ก็เคี้ยวหมาก
เลยจะถามผู้รู้เกี่ยวกับการเคี้ยวหมากครับ

หนุ่มสาวไฮโซสมัยรัชกาลที่ 6  ไม่ค่อยกินหมากกันค่ะ 
คุณตาเกิด 2440  เมื่อเปลี่ยนรัชกาลท่านก็อายุ 13 แล้ว  เติบโตมาแบบทันสมัย ได้เล่าเรียนในรร.อินเตอร์ในสยาม   ท่านก็คงจะยึดธรรมเนียมตะวันตกอยู่บ้างไม่มากก็น้อย   หนึ่งในนั้นคือไม่กินหมาก
แต่คนไทยที่เกิดและโตขึ้นมาในรัชกาลที่ 5   เคยชินกับวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมมากกว่า จึงยังกินหมากอยู่แม้ผ่านมาถึงรัชกาลที่ 7 และ 8
ชาวบ้านทั่วไปก็ยังกินหมาก   จึงลำบากกันทั่วหน้าเมื่อจอมพลป.ห้ามกินหมาก ในยุควัธนธัม สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2   

อ่านของ อ. แล้วนึกถึงคุณยาย 

แม่เล่าว่าคุณตาชักกู่ไม่กลับ  เลยจับคลุมถุงชนให้แต่ง ฯ กับคุณยาย  คุณยายเป็นสาวชาวสวน  ละแวกคลองบางแวก  ปลูกพลูจีบพลู (เรียกแบบนี้รึเปล่าครับ) ขาย 

คุณยายกินหมาก  พอเริ่มยุควัธนธัม  คุณยายปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดโดยทิ้งเชี่ยนหมาก  แบบหักดิบ

ผลคือเป็นลม  คุณตาตกใจทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่เคยเห็น

ขอบคุณครับ  ชีวิตคุณตาเป็นรูปเป็นร่างชัดขึ้นเรื่อย ๆ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 มิ.ย. 21, 11:18
โบราณเรียก "หิวหมาก" ค่ะ   มีอาการหาวเรอ น้ำหูน้ำตาไหล  หน้ามืด วิงเวียน  ไม่ใช่เป็นลมแบบล้มตึงหมดสติ
เคยอ่านพบว่าหมากมีคุณสมบัติเหมือนยาเสพติดอ่อนๆ เคี้ยวแล้วทำให้สบายใจ  ไม่หงุดหงิด  ส่วนสรรพคุณอื่นๆหมอแผนโบราณเขียนไว้เยอะแยะ

คลุมถุงชนเป็นประเพณีหนึ่งที่ปัจจุบันน่าจะไม่เหลือแล้ว   ในสมัยคุณตา  หนุ่มสาวอาจได้รับอนุญาตให้เห็นหน้ากันได้บ้างก่อนแต่ง  แต่ก็เป็นการเห็นชนิดมีญาติพี่น้องทั้งโขยงเป็นสักขีพยานอยู่ด้วย  แต่บางคนก็ไปเห็นกันเอาวันแต่ง เมื่อรดน้ำสังข์เลย


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ดาวกระจ่าง ที่ 22 มิ.ย. 21, 11:37
ขอสอบถามหน่อยค่ะว่าประเพณีคลุมถุงชนส่วนใหญ่จะนิยมทำกันในหมู่คนมีฐานะ อยู่ในตระกูลสูงหรือเปล่าคะ คนธรรมดาชาวบ้านทั่วไปนิยมทำกันไหม


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 มิ.ย. 21, 13:59
ท้องถิ่นบางแห่งก็ยอมให้หนุ่มสาวพบปะ ทำความรู้จักกันได้ค่ะ    จำได้ว่าทางเหนือมีประเพณีนี้  ทางอีสานไม่ทราบ
ส่วนคลุมถุงชน มีในสังคมที่เข้มงวดกับผู้หญิง  ไม่ให้ออกนอกบ้านไปมีสังคมของตัวเองได้ง่ายๆ  ส่วนใหญ่ก็เป็นคนมีฐานะ  และชนชั้นสูงอย่างที่ถามมาละค่ะ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 22 มิ.ย. 21, 15:43
จากการอ่านสารานุกรมวัฒนธรรมไทยสี่ภาค(ฉบับไทยพาณิชย์) ตอนนั้นอ่านเรื่องกบฎผีบุญ แล้วก็อ่านเลยเถิดไปคำดัชนีอื่น
>> ทางอีสานค่อนข้างจะปล่อยอิสระ ส่วนทางภาคกลางจะเข้มงวดกว่า , หนุ่มสาวอีสานสามารถพบปะ ไปไหนมาไหนได้ , บางครั้งเกินเลยถึงขั้นผิดผี ก็ไม่ถือเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย <<
อย่างไรก็ตาม ยุคสมัยย่อมมีผลมากต่อพฤติกรรมคนในสังคม , ผมไม่ทราบว่าบทความในสารานุกรมนั่น อ้างถึงยุคสมัยใด
.
แต่อ่านแล้วก็พอเห็นเค้าว่าจริง เพราะตอนผมบวชอยู่ที่หมู่บ้านกันดารแห่งหนึ่ง ในจ.อุดรธานี พ.ศ.2537 พิธีแต่งงานช่างเรียบง่าย
ครั้งหนึ่งผม(เป็นพระ)ผูกข้อมือให้เจ้าบ่าว อายุน่าจะไม่ถึง17 แต่งตัวตามสบายเหมือนอยู่บ้าน เจ้าสาวก็แต่งตัวแบบเดียวกัน ผมเผ้าหน้าตาไร้การแต่งเติมใดๆ
อีกครั้งหนึ่ง เดินรับบิณฑบาต มีคู่บ่าวสาวออกมาใส่บาตร ค่อยแต่งตัวเสียหน่อยตามแบบไทยประเพณี แต่ก็เป็นไปอย่างเรียบง่าย ไม่มีการสวดมนต์ให้พรใดๆ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 22 มิ.ย. 21, 16:42
รูปกล่องโลหะพิวเตอร์ swatow คือ ซัวเถา
.
คุณ nathanielnong ถ่ายภายใต้แสงเหลือง ทำให้ผมเข้าใจเนื้อวัสดุผิดไป // ถ้าไม่ได้เห็นคำว่า pewter จะไม่รู้เลยว่าเป็นพิวเตอร์


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ดาวกระจ่าง ที่ 22 มิ.ย. 21, 19:42
ขอบพระคุณสำหรับความรู้เรื่องการคลุมถุงชนค่ะ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 23 มิ.ย. 21, 09:27
จากการอ่านสารานุกรมวัฒนธรรมไทยสี่ภาค(ฉบับไทยพาณิชย์) ตอนนั้นอ่านเรื่องกบฎผีบุญ แล้วก็อ่านเลยเถิดไปคำดัชนีอื่น

อีกครั้งหนึ่ง เดินรับบิณฑบาต มีคู่บ่าวสาวออกมาใส่บาตร ค่อยแต่งตัวเสียหน่อยตามแบบไทยประเพณี แต่ก็เป็นไปอย่างเรียบง่าย ไม่มีการสวดมนต์ให้พรใดๆ


แต่ละครั้งที่ 'สังเกต'  ผมพบว่าทุกครั้งหลังจากตักบาตรเสร็จ  'ทุกคน' จะทรุดตัวลงนั่งยอง ๆ พร้อมกับพนมมือ  ในใจจะเริ่ม 'ขอ'  และต้องขอให้เสร็จสิ้นก่อนที่พระจะสิ้นสุดการสวด ฯลฯ  ถ้าทำทันจะอิ่มใจ  แต่ถ้าเสร็จไม่ทันจะเสียใจ/ผิดหวัง


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 23 มิ.ย. 21, 09:34
ท้องถิ่นบางแห่งก็ยอมให้หนุ่มสาวพบปะ ทำความรู้จักกันได้ค่ะ    จำได้ว่าทางเหนือมีประเพณีนี้  ทางอีสานไม่ทราบ
ส่วนคลุมถุงชน มีในสังคมที่เข้มงวดกับผู้หญิง  ไม่ให้ออกนอกบ้านไปมีสังคมของตัวเองได้ง่ายๆ  ส่วนใหญ่ก็เป็นคนมีฐานะ  และชนชั้นสูงอย่างที่ถามมาละค่ะ

ตรงตามคู่คุณตาคุณยายเลยครับ  คุณยายเล่าให้แม่ฟังว่า  ไม่เคยเห็นคุณตาจนกระทั่งวันแต่ง (หรือวันหมั้นก็จำไม่ได้) 

วันที่มาดูตัวคุณชวดมากับแม่สื่อ  บุกเข้าไปในสวน  คุณยายกำลังจีบพลูอยู่

คุณชวดบอกกับแม่คุณยาย (เอ... มีศัพท์เรียกมั้ยครับ  หรือเรียกชวดทั้ง 2 ฝั่ง) ว่า 'คนนี้กำราบลูกชายฉันได้'

ปรากฏว่า คุณชวดดูคนเก่งครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 23 มิ.ย. 21, 09:37
มาสังเกตได้ว่า  ในหนังสือรางวัล  เขียนแค่ชื่อคุณตา  ไม่มีนามสกุล  มีตัวทัณฑฆาต ที่ 'ติ' ด้วย

ค้นดูพบว่า พระราชบัญญัตินามสกุลมีผลใช้เมื่อ 1 ก.ค. 2456

ทำไมทิ้งช่วงนานจัง  ถ้าเผอิญมี 3 ประวัติ  จะแยกด้วยวิธีไหนนะครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/it/210618023924.jpg) (http://picture.in.th/id/60509e0a0e622a0f75b691bbb1ab2a09)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 มิ.ย. 21, 10:25
แม่ของคุณตา เรียก "คุณยายชวด"  แม่ของคุณยาย ก็ "คุณยายชวด" เหมือนกันค่ะ

คนยุคคุณตาคุณยายไม่อยากให้หนุ่มสาวรู้จักกันเอง  เพราะเกรงว่าจะเกิดชิงสุกก่อนห่าม อีกอย่าง คือหนุ่มสาวยังสายตาคับแคบ  ไม่กว้างไกลเท่าผู้ใหญ่   อาจจะไปลงเอยกับคนที่ไม่เหมาะสมกัน   
เพราะฉะนั้นผู้ใหญ่ซึ่งรอบคอบกว่า สายตากว้างไกลกว่า รู้จักโลกมากกว่า เลือกคู่ให้ลูกหลานย่อมเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง
นอกจากนี้  ยังถูกต้องตามคติทางพุทธศาสนา ว่าด้วยทิศทั้ง ๖   คือทิศเบื้องหน้า

หน้าที่ของทิศเบื้องหน้า อันได้แก่พ่อแม่  คือ
1. เลี้ยงดูให้เติบใหญ่
2. อบรมสั่งสอนไม่ให้ประพฤติชั่ว
3. อบรมสั่งสอนให้กระทำแต่ความดี
4. อบรมให้ความรู้ ให้ปัญญา
5. อุปการะทรัพย์สิน เงินทอง
6. ส่งเสียให้สำเร็จการศึกษา
7. หาคู่ครองอันเหมาะสมให้

คติอีกอย่างในสมัยคุณทวดคุณโหน่งลงมาถึงสมัยคุณตา คือการแต่งงานเป็นจ๊อบระยะยาวตลอดชีวิต เข้าไปแล้วออกไม่ได้  ถ้าออกก็เป็นเรื่องใหญ่มาก 
ดังนั้นผู้ใหญ่จึงเลือกเขยสะใภ้ที่ดูแล้วว่าจะอยู่กันได้ตลอดไป   ไม่ได้เลือกว่ารักกันมากตลอดไป   
คุณตาเป็นหนุ่มไฮโซ สมาคมนอกบ้าน น่าจะรู้จักสาวๆแยะ   ภรรยาควรเป็นผู้หญิงเก่ง เด็ดขาด ทำให้สามีเกรงใจได้    ถ้าจะมีนางเล็กๆก็ต้องรู้จักคุมเอาไว้อยู่  ครอบครัวจึงจะไปได้ด้วยดีค่ะ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 มิ.ย. 21, 10:29
มาสังเกตได้ว่า  ในหนังสือรางวัล  เขียนแค่ชื่อคุณตา  ไม่มีนามสกุล  มีตัวทัณฑฆาต ที่ 'ติ' ด้วย

ค้นดูพบว่า พระราชบัญญัตินามสกุลมีผลใช้เมื่อ 1 ก.ค. 2456

ทำไมทิ้งช่วงนานจัง  ถ้าเผอิญมี 3 ประวัติ  จะแยกด้วยวิธีไหนนะครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/it/210618023924.jpg) (http://picture.in.th/id/60509e0a0e622a0f75b691bbb1ab2a09)
ในยุคก่อนมีนามสกุล   เด็กนักเรียนชื่อไทยง่ายๆ ซ้ำกันมาก  สมมุติว่าในห้องเรียนคุณตามีนายประวัติ 3 คน  ไม่มีนามสกุล  ครูเขาจะแยกด้วยการต่อด้วยชื่อพ่อ ค่ะ เพราะยังไงก็คงไม่มีชื่อพ่อซ้ำกันอีก
เช่นนายประวัติคนที่ 1   พ่อชื่อ แดง   ก็เป็น ประวัติแดง
นายประวัติคนที่ 2   พ่อชื่อเพิม   ก็เป็น ประวัติเพิ่ม
นายประวัติคนที่ 3   พ่อชื่อ เริ่ม  ก็เป็นประวัติเริ่ม

ครูอบ ไชยวสุ เล่าว่า พ่อท่านชื่อ เชย   พอมีลูกชายคลอดออกมา เลยตั้งชื่อว่า อบ   เพราะเวลาคนเรียก จะเรียก "อบเชย"


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 มิ.ย. 21, 10:31
ประวัติ์  มีการันต์ช้างบน ต.เต่า หมายถึงว่า การันต์ที่สระ อิ ค่ะ  ไม่ใช่การันต์ที่ ต.เต่า   คือสระอิ ไม่ออกเสียง
ไม่งั้นจะอ่านว่า ประ-หวัด-ติ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 24 มิ.ย. 21, 09:39
แม่ของคุณตา เรียก "คุณยายชวด"  แม่ของคุณยาย ก็ "คุณยายชวด" เหมือนกันค่ะ

คติอีกอย่างในสมัยคุณทวดคุณโหน่งลงมาถึงสมัยคุณตา คือการแต่งงานเป็นจ๊อบระยะยาวตลอดชีวิต เข้าไปแล้วออกไม่ได้  ถ้าออกก็เป็นเรื่องใหญ่มาก 
ดังนั้นผู้ใหญ่จึงเลือกเขยสะใภ้ที่ดูแล้วว่าจะอยู่กันได้ตลอดไป   ไม่ได้เลือกว่ารักกันมากตลอดไป   
คุณตาเป็นหนุ่มไฮโซ สมาคมนอกบ้าน น่าจะรู้จักสาวๆแยะ   ภรรยาควรเป็นผู้หญิงเก่ง เด็ดขาด ทำให้สามีเกรงใจได้    ถ้าจะมีนางเล็กๆก็ต้องรู้จักคุมเอาไว้อยู่  ครอบครัวจึงจะไปได้ด้วยดีค่ะ

ตรงนี้อ่านแล้วขนลุก  อย่างกับ อ. นั่งทางในเป็น 

คุณยายเล่าว่า  คุณตาก็มีนางเล็ก ๆ มากมายมาตั้งแต่ก่อนแต่งงาน แต่ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน คุณทวดถึงต้องการกำราบ พอมาแต่งกับคุณยายก็ยังไม่ทิ้งลาย ในที่สุดก็เดินคอตกมาหาคุณยายพร้อมบุตรหญิง 1 คน

ถามคุณยายว่า  แล้วคุณยายเอากระโถนบ้วนน้ำหมากขว้างคุณตารึเปล่า

คุณยายหัวเราะแล้วบอกว่า  อยากทำแต่ทำไม่ได้เพราะคุณตาเป็นหัวหน้าครอบครัว  เป็นคนหาเงินเข้าบ้าน  ถ้าไม่ได้คุณตาเราก็ไม่มีบ้านอยู่มาจนทุกวันนี้

'ยายก็พูดเฉย ๆ (คงหมายถึง เรียบ ๆ) ว่า  เอามานี่  ฉันเลี้ยงเอง'

ตั้งแต่นั้นมาคุณตาก็อยู่ในกำมือของคุณยาย

แม่เคยเล่าว่า  ตั้งแต่เกิดมา  ไม่เคยได้ยินคุณตาคุณยายมีปากมีเสียงใส่กันเลย  พูดกันเงียบ ๆ 

สถานภาพของคุณตาสูงกว่าคุณยายในทุกด้าน  แต่เวลาออกนอกบ้านไปไหน  คุณตาจะเดินตามหลัง  แต่งตัวโก้อุปกรณ์ครบแบบปกติ  มือข้างหนึ่งหิ้วตระกร้าหมากของคุณยาย

สมัยนี้คงไม่มีภาพคู่ผัวเมียปฏิบัติตนแบบนี้แล้วนะครับ  คนละยุคคนละสมัย


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 24 มิ.ย. 21, 09:40
ประวัติ์  มีการันต์ช้างบน ต.เต่า หมายถึงว่า การันต์ที่สระ อิ ค่ะ  ไม่ใช่การันต์ที่ ต.เต่า   คือสระอิ ไม่ออกเสียง
ไม่งั้นจะอ่านว่า ประ-หวัด-ติ

ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 24 มิ.ย. 21, 10:00
ประวัติ์  มีการันต์ช้างบน ต.เต่า หมายถึงว่า การันต์ที่สระ อิ ค่ะ  ไม่ใช่การันต์ที่ ต.เต่า   คือสระอิ ไม่ออกเสียง
ไม่งั้นจะอ่านว่า ประ-หวัด-ติ

หลวงเล็ก : การเขียนของคนโบราณ  คำบางคำที่สะกดด้วยตัวสะกดมีสระ อย่าง ชาติ ธาตุ เหตุ เกียรติ   บางทีท่านก็ใส่ไม้ทัณฑฆาต เพื่อให้คนอ่าน ไม่อ่านเป็น ชา ติ  เห ตุ  เกียร ติ  ไม้ทัณฑฆาตนั้นฆ่าเสียงเฉพาะสระ  ไม่ฆ่าเสียงพยัญชนะตัวสะกด หวังว่าจะเข้าใจตรงกัน

เพ็ญชมพู : บางครั้งก็ยากที่จะแยกว่า ทัณฑฆาต ฆ่าอะไรกันแน่

สุรเกียรติ์ (เสถียรไทย) = สุ-ระ-เกียด / รามเกียรติ์  = ราม-มะ-เกียน

สองมาตรฐานชัด ๆ   ;)

จากกระทู้ ๑๐๐ คำถามเรื่องรามเกียรติ์ (สำหรับแฟนพันธุ์แท้และผู้สนใจ) ๔ (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=4250.msg87054#msg87054)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 25 มิ.ย. 21, 10:44
การแบ่งชั้นเรียนสมัย ร.๖ ดูประหลาดนะครับ คงรับแนวทางมาจากอังกฤษ ผมลองค้นจากกูเกิล..ปรากฏว่าเป็นเช่นนั้น
ความประหลาดใจจึงถูกส่งต่อไปยังอังกฤษ ผมเลยเดาว่าอังกฤษคงพัฒนาต่อยอดระบบศึกษา ขยายชั้นเรียนมาเรื่อยตลอดระยะเวลาเป็นร้อยๆปี ทำให้สเกลชั้นเรียนดูไม่ค่อย numeric

"คุณตา"เรียนชั้น4 ตอนอายุ18 เมื่อเทียบกับปัจจุบันแล้ว แค่ ม.2 เท่านั้นเอง // อืม...ไม่น่าใช่ ผมยังไม่ได้ค้นข้อมูลโดยละเอียด อาจเข้าใจผิดไปเอง

เมื่อคืนคุยกับแม่  ได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาว่า

แม่เกิดเมื่อ 2475  แต่ไม่ใช่ลูกคนโตซึ่งตายตั้งแต่เล็ก  แม่เกิดหลังลูกคนโต 10 ปี

แสดงว่าคุณตาแต่งงานปี 2464 (แต่งแล้วมีลูกคนโตเลย) เมื่ออายุ 24 (เกิด 2440)

แม่บอกว่าก่อนหน้านี้คุณตาเป็น playboy อยู่ 2-3 ปี (ตีซะ 2 ปี) แสดงว่าเริ่มเมื่ออายุ 22 (2462)

แม่บอกว่าคุณตาเรียบจบแล้วต้องเป็นนายดาบอยู่ 1 ปี  เป็นภาคบังคับ  ตรงนี้มีใครมีความรู้ช่วยอธิบายได้บ้างครับว่าทำไม

แสดงว่าคุณตาเป็นนายดาบเมื่ออายุ 21 (2461)

แม่บอกว่าคุณตาจบชั้นสูงสุดของ ม. ปลาย แสดงว่าจบเมื่ออายุ 20 (2460)  แต่ไม่ได้ต่อระดับอุดมศึกษา  เพราะยังไม่มีมหาวิทยาลัย (จุฬาฯ เพิ่งตั้ง)

ตีซะว่าคือ ม.8

เทียบกับการแบ่งชั้นเรียนที่คุณ ธสาคร วิเคราะห์แล้ว  ชั้น 4 เมื่อปี 2458 (ในหนังสือรางวัล) คุณตาอายุ 18 น่าจะเทียบได้กับ ม.6

รึเปล่าครับ  ผมชักงง ๆ กับ timeline





กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 25 มิ.ย. 21, 13:15
มัธยมมีชั้น ๑ ถึงชั้นมัธยม ๕

คุณตาน่าจะเข้าเรียนหลักสูตรนายดาบ หลังจากจบมัธยมต้น (ม. ๕)

สำหรับนายทหารในชั้นยศนายดาบ จากการสืบค้นขั้นต้นมีการผลิตและเปิดรับการศึกษาจากกองโรงเรียนนายดาบ ภายใต้สังกัดโรงเรียนนายร้อยแห่งกรมยุทธศึกษา กองทัพบกสยาม ระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๕๓ - ๒๔๗๕ รวมทั้งสิ้นราว ๑๙ รุ่น เป็นจำนวนมากกว่า ๑,๕๐๐ นาย รับจากนักเรียนนายร้อยชั้นปฐม, นักเรียนสายสามัญซึ่งสอบไล่ได้ชั้นมัธยมปีที่ ๕ ของกระทรวงธรรมการ มีอายุครบเกณฑ์ขึ้นทะเบียนรับราชการทหารแต่ไม่เกิน ๒๕ ปี

จาก ภาพเล่าเรื่อง (https://www.facebook.com/150360868840882/posts/726925414517755/?d=n)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 25 มิ.ย. 21, 15:32
แม่บอกว่าคุณตาเรียบจบแล้วต้องเป็นนายดาบอยู่ 1 ปี  เป็นภาคบังคับ  ตรงนี้มีใครมีความรู้ช่วยอธิบายได้บ้างครับว่าทำไม

คงทำนองการเรียน รด. เพื่อเลี่ยงการเกณฑ์ทหารในสมัยนี้

เมื่อถึงสมัยที่ได้ใช้พระราชบัญญัติลักษณะเกณฑ์ทหารเต็มที่แล้ว บุคคลที่ต้องเกณฑ์เป็นทหารทั้งหลายนั้น บางคนเป็นผู้มีทรัพย์สมบัติและที่ทำมาหากินตามภูมิลำเนาของตนอย่างบริบูรณ์ และไม่อยากจะรับราชการก็มี แต่เป็นความจำเป็นที่จุดที่จะต้องรับราชการทหารไม่ต่ำกว่า ๒ ปี ตามพระราชบัญญัติลักษณะเกณฑ์ทหารนั้น แต่ตนมีวิชาสามัญพอที่จะเข้าเป็นนักเรียนนายดาบได้ และเป็นผู้ที่อยากจะได้ฐานันดรศักดิ์ตามฐานานุรูปของตน ก็จะได้สมัครเป็นนักเรียนนายดาบ ซึ่งเป็นทางเหมาะดีที่สุดแก่บุคคลชนิดนี้ เมื่อศึกษาวิชาสำเร็จ และเข้ารับราชการครบกำหนดตามพระราชบัญญัติแล้ว ก็จะได้ออกเป็นนายทหารกองหนุนทันที แล้วจะได้ไปประกอบการทำมาหาเลี้ยงชีพของตนตามภูมิลำเนาเดิมสืบไป

จาก  ประวัติโรงเรียนทหารบก (http://ton-tonya3.blogspot.com/2008/09/blog-post_1204.html?m=1) โดย นายพันตรีหลวงวิเศษศิลปสาตร์ หัวหน้าครูโรงเรียนนายร้อยชั้นประถม


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 25 มิ.ย. 21, 23:13
คุณ nathanielnong ต้องแยกให้ขาดก่อน ระหว่างคำถามแรก "ชั้น ๔ ในประกาศนียบัตรเรียนดี" คือมัธยมใดสมัยนี้
กับคำถาม "คุณตาเรียนจบ เมื่ออายุเท่าไร" ซึ่งคำถามหลังนี้ ใช้วิธีไล่ปีถอยหลัง จากลูกคนเล็ก>>ลูกคนโต>>สมรส>>เพลบอย์>>นายดาบ // อันนี้ผมไม่มีข้อแย้ง สมเหตุสมผลอยู่ ที่เด็กสมัยนู้นจบมัธยมปลายที่อายุ20
แต่การที่นับปีถอยหลังต่อลงไปอีก แบบชั้นศึกษาละ1ปี มันมีช่องโหว่คือ คุณตาอาจได้พาสชั้น หรืออาจสอบเทียบ ก็ได้นะครับ
คุณ nathanielnong ตั้งสมมติฐานว่า ชั้น4ของคุณตา = ม.6(ระบบประถม4+มัธยม8) เพียงเพื่อเติมเต็ม2ปีที่เหลือ ให้ชนกับนายดาบหรือเปล่า?
แล้วถ้า ชั้น4ของคุณตา = ม.4(ระบบประถม4+มัธยม8) จากนั้นคุณตาได้พาสชั้น1ปี และสอบเทียบได้อีก1ปี คุณตาก็จะลงเอยที่ ม.8 อายุ20 ได้เช่นกัน
คุณตาเข้าเรียนช้านะครับ โอกาสกระโดดข้ามชั้นเรียนมีสูงมาก
.
พ่อผมเรียนตอนอายุมากแล้ว ได้พาสชั้นถึง2ปี
เพื่อนผมในคณะเดียวกัน อายุอ่อนกว่าผมถึง3ปี คือ หล่อนเรียนเร็ว1ปี สอบเทียบอีก1ปี ส่วนอีก1ปีนั้นผมจำไม่ได้แล้วว่าหล่อนได้แต่ใดมา
.
การแบ่งชั้นเรียนสมัย ร.๖ ดูประหลาดนะครับ คงรับแนวทางมาจากอังกฤษ ผมลองค้นจากกูเกิล..ปรากฏว่าเป็นเช่นนั้น
ความประหลาดใจจึงถูกส่งต่อไปยังอังกฤษ ผมเลยเดาว่าอังกฤษคงพัฒนาต่อยอดระบบศึกษา ขยายชั้นเรียนมาเรื่อยตลอดระยะเวลาเป็นร้อยๆปี ทำให้สเกลชั้นเรียนดูไม่ค่อย numeric

"คุณตา"เรียนชั้น4 ตอนอายุ18 เมื่อเทียบกับปัจจุบันแล้ว แค่ ม.2 เท่านั้นเอง // อืม...ไม่น่าใช่ ผมยังไม่ได้ค้นข้อมูลโดยละเอียด อาจเข้าใจผิดไปเอง


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 26 มิ.ย. 21, 09:14
ขอบคุณคุณเพ็ญชมพู และ คุณธสาคร สำหรับรายละเอียดแบบเจาะลึกครับ



กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 26 มิ.ย. 21, 09:24
กลับมานำสมบัติคุณตามาให้ชมอีก 1 ชั้น  เครื่องชั่งทอง (ไม่แน่ใจว่าเรียกถูกรึเปล่า)

อันนี้เก่ามาก  เป็นของคุณทวด  คุณทวด (+คุณชวด) เป็นชาวกรุงเก่า  ทำอาชีพเกี่ยวกับเครื่องเงินและเครื่องทอง

วูบแรกที่เห็น  รูปร่างเหมือนกีต้าร์ชะมัด  คนทำคงไม่นึกแบบนี้เพราะคงไม่รู้จักกีต้าร์ 

ตอนจะเปิดก็งง ๆ

เปิดออกมาแล้วยิ่ง งง เข้าไปใหญ่  อะไรละหว่า

(http://image.free.in.th/v/2013/if/210626024354.jpg) (http://picture.in.th/id/f1ac4772a3bfb6959a0b173d812a3f21)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 มิ.ย. 21, 10:43
นึกถึงหนังสือที่เคยอ่านค่ะ   พูดถึงตะไบกรางทอง และน้ำกรดไว้ทดสอบว่าทองแท้หรือเปล่า   สงสัยว่าในกล่องจะเป็นของพวกนี้หรือเปล่า
ส่วนอะไรที่เหมือนเส้นด้ายนั่น จนปัญญา เดาไม่ออกค่ะ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 26 มิ.ย. 21, 11:02
สงสัยว่าในกล่องจะเป็นของพวกนี้หรือเปล่า
ส่วนอะไรที่เหมือนเส้นด้ายนั่น จนปัญญา เดาไม่ออกค่ะ

อุปกรณ์ตาชั่งนั่นแล


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 มิ.ย. 21, 11:28
 ;D


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 27 มิ.ย. 21, 09:07

อุปกรณ์ตาชั่งนั่นแล

อ้อ... อย่างนี้นี่เอง

สงสัยต่อว่า  ไอ้วงแหวนรูปดอกไม้  มีไว้ช่วยทำอะไร  

ในรูปของ คุณเพ็ญชมพู มี  ของคุณตาก็มีแสดงว่า  เป็นทรงมาตรฐานนะครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/iu/210627023342.jpg) (http://picture.in.th/id/476fa4095ca23ecf79789d7574aae366)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 27 มิ.ย. 21, 16:49
ตาชั่งของคุณตาเป็นตาชั่งจีนขนาดเล็กใช้ชั่งสิ่งของที่มีน้ำหนักน้อย เช่น ทอง เงิน ยาจีน มีมาตราเป็นหุน เรียกกันว่า เต็ง หรือ ตาเต็ง คำว่า ตาในคำว่า ตาเต็ง มีที่มาจากที่คันชั่งมีรอยเป็นจุด ๆ บอกน้ำหนัก คล้ายกับเป็นตาของเต็ง จึงเรียกว่า ตาเต็ง  เต็ง ยังอยู่ในสำนวนไทยที่ว่า “ไม่เต็มเต็ง” คือไม่เต็มหน่วยน้ำหนักของเต็ง หมายถึงคนบ้า ๆ  บอ ๆ สำนวนที่มีความหมายเดียวกันคือ “ไม่เต็มบาท”

สำหรับ “วงแหวนรูปดอกไม้” ที่คุณโหน่งถามว่ามีไว้ช่วยทำอะไร เข้ามาดูใกล้ ๆ จะเห็นรายละเอียดมีเข็มอยู่ข้างบนและข้างล่างของวงแหวน เมื่อเลื่อนตุ้มน้ำหนักไปตามคันชั่งจนปลายเข็มบนและล่างจะตรงกัน ตำแหน่งที่ได้สมดุลย์บนคันชั่งก็จะเป็นน้ำหนักของสิ่งของที่ชั่ง

https://youtu.be/EZWlyagsA0w


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 28 มิ.ย. 21, 08:47
ตาชั่งของคุณตาเป็นตาชั่งจีนขนาดเล็กใช้ชั่งสิ่งของที่มีน้ำหนักน้อย เช่น ทอง เงิน ยาจีน มีมาตราเป็นหุน เรียกกันว่า เต็ง หรือ ตาเต็ง คำว่า ตาในคำว่า ตาเต็ง มีที่มาจากที่คันชั่งมีรอยเป็นจุด ๆ บอกน้ำหนัก คล้ายกับเป็นตาของเต็ง จึงเรียกว่า ตาเต็ง  เต็ง ยังอยู่ในสำนวนไทยที่ว่า “ไม่เต็มเต็ง” คือไม่เต็มหน่วยน้ำหนักของเต็ง หมายถึงคนบ้า ๆ  บอ ๆ สำนวนที่มีความหมายเดียวกันคือ “ไม่เต็มบาท”

สำหรับ “วงแหวนรูปดอกไม้” ที่คุณโหน่งถามว่ามีไว้ช่วยทำอะไร เข้ามาดูใกล้ ๆ จะเห็นรายละเอียดมีเข็มอยู่ข้างบนและข้างล่างของวงแหวน เมื่อเลื่อนตุ้มน้ำหนักไปตามคันชั่งจนปลายเข็มบนและล่างจะตรงกัน ตำแหน่งที่ได้สมดุลย์บนคันชั่งก็จะเป็นน้ำหนักของสิ่งของที่ชั่ง


สุดยอดของการอธิบาย  ขอบคุณมากครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 28 มิ.ย. 21, 09:10
ขอโอกาส เจ้าหนูจำไม ถามต่อครับ

เคยเล่าว่าคุณตามีพื้นเพเป็นชาวกรุงเก่า 

คุณชวดเป็นแรงผลักดันให้คุณตาเข้าสู่วงสังคมโดยการพาไปเข้าเรียนที่ รร. ราชวิทยาลัย
(ไม่ทราบว่าหลักเกณฑ์การรับสมัครเรียนของเด็กของ รร. นี้ มีอะไรบ้าง  และสงสัยว่าคุณชวดรู้ข่าวคราวการศึกษาในกรุงเทพฯ ทางสื่อใด)

คุณยายเคยเล่าให้แม่ฟังว่า  สมัย ร.6 คนต่างจังหวัด (เอาเฉพาะจังหวัดใกล้เคียง) กับคนกรุงเทพฯ จะไปมาหาสู่กันลำบาก
นอกจากการเดินทางแล้ว  ไปแล้วต้องรีบกลับเพราะไม่มีที่พักเหมือนสมัยนี้  นอกจากมีญาติอาศัยอยู่ก่อนแล้ว

พอ รร. รับคุณตาเข้าเรียน  คุณชวดก็ต้องไปหาบ้านเช่าให้คุณตาอยู่
ท่านเลือกทำเลที่ สี่กั๊กพระยาศรี

นาน ๆ ก็จะมาเยี่ยมที  แล้วจะได้มีที่พักนอนด้วย

ส่วนการเดินทางของคุณชวดเวลามาเยี่ยมคุณตา  ฟังแล้วอึ้งคือ  จ้างเรือจ้างให้พายมา
พายมาตั้งแต่อยุธยาถึงกรุงเทพฯ  จากนั้นเดินทางบกต่อมาจนถึงบ้านพักที่สี่กั๊กพระยาศรี

ใคร่ถามนักวิชาการว่า  พอเดาว่าใช้เส้นทางไหนครับ  มาขึ้นท่าที่กรุงเทพฯ ตรงบริเวณไหน 
รวมเวลาการเดินทางทั้งหมดน่าจะใช้ไปเท่าใด

อีกข้อที่สงสัยคือ สมัย ร.6 เค้าส่งเงินมาให้ใช้กันผ่านทางไหน  ธนาคารก็มีแต่ในกรุงเทพฯ

ขอบคุณครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 มิ.ย. 21, 11:35
ปกติ คนต่างจังหวัดถ้าจะมาเรียนต่อในกรุงเทพ พ่อแม่ก็มักมีญาติอยู่ในกรุงเทพ ได้มาอาศัยบ้านญาติอยู่  ไม่ใ่ช่ว่าประหยัดเงิน แต่หมายถึงคามปลอดภัยและมีผู้ใหญ่ดูแล   คุณชวดของคุณโหน่งใจกล้ามาก มาเช่าบ้านให้ลูกชายอยู่    เข้าใจว่าคงนำบริวารมาอยู่เฝ้าบ้าน และทำงานบ้านให้คุณตาด้วย 
ไปอ่านประวัติของรร.ราชวิทยาลัย  ก็แปลกใจว่าสมัยคุณตามาเรียน รร.ตั้งอยู่ที่ไหนกันแน่ แล้วไม่มีการอยู่ประจำหรือ คุณตาถึงต้องเป็นนักเรียนไปกลับ มีบ้านของตัวเอง    หรือว่าเช่าบ้านไว้เฉยๆส่วนคุณตาอยู่ประจำ เผื่อบ้านเอาไว้สำหรับคุณชวดมาพัก

อ่านประวัติรร.ได้ที่นี่ค่ะ
(ลืมไปแล้ว ว่าคุณเพ็ญชมพูสอนให้ว่าต้องทำลิ้งค์ยังไงถึงไม่ยืดยาวแบบนี้)
 https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A2#%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A2_%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%B2


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 มิ.ย. 21, 11:38
ส่วนการเดินทางก็ล่องเรือมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา  มาขึ้นที่ท่าเรือแห่งใดแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ริมฝั่งเจ้าพระยา
ที่ใกล้รร.ราชวิทยาลัยที่สุด
การส่งเงิน ไม่มีตั๋วแลกเงินอย่างในหนังจีน  น่าจะฝากครูหรือผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้

คุณชวดของคุณโหน่งน่าจะฐานะดีมาก และเห็นประโยชน์ของการศึกษา    ถึงลงทุนส่งลูกชายมาเรียนถึงเมืองหลวง ทั้งๆไม่มีญาติให้อยู่อาศัยด้วย


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 28 มิ.ย. 21, 11:52
ลืมไปแล้ว ว่าคุณเพ็ญชมพูสอนให้ว่าต้องทำลิ้งค์ยังไงถึงไม่ยืดยาวแบบนนี้

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A2#%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A2_%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%B2


โรงเรียนราชวิทยาลัย (https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A2#%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A2_%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%B2)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 28 มิ.ย. 21, 12:55
บ้านเดิมคุณตาคงอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ลึกเข้าไปถึงแม่น้ำน้อย จึงไม่สามารถโดยสารรถไฟ คงจะประมาณอ.เสนา อ.บางไทร
โครงข่ายรถราง เหนือสุดไปจ่อ น.เจ้าพระยา ที่ท่าเขียวไข่กา (รร.ราชินีบน) // คุณทวดอาจขึ้นบกที่นี่ครับ
.
ตอนผมเรียนโรงเรียนประจำ พ่อแม่ฝากเงินไว้ที่ครู // เสาร์อาทิตย์จะได้มื้อกลางวันเป็นก๋วยเตี๋ยว // ถ้าฝากไว้ที่ครูไป-กลับ จะได้ขนมทุกเช้าในวันเรียน


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 29 มิ.ย. 21, 09:18
คุณชวดหัวสมัยใหม่และฐานะก็เอื้ออำนวย  คุณยายเคยเล่าว่าท่านเปิดร้านขายของใหญ่มาก 

สมัยก่อนบ้านท่านมีทาส  หลังจากเลิกทาส  บางคนสมัครใจอยู่ต่อก็กลายเป็นข้าเก่าเต่าเลี้ยง (ใช้คำนี้ได้รึเปล่าครับ) ช่วยท่านดูแลกิจการ

ร้านขายของเป็นแพกว้างขวาง  แพขนาดใหญ่ก็น่าจะริมคลองใหญ่หรืออาจจะริมแม่น้ำ

คงเพราะเหตุนี้การสัญจรทางเรือสะดวกกว่าที่จะต้องไปขึ้นรถไฟอย่างที่คุณธสาครวิเคราะห์  ประมาณว่าเก็บกระเป๋าแล้วก็กระโดดลงเรือหน้าแพออกเดินทางไปเลย

กว่าจะมาถึงไม่รู้ใช้เวลาไปกี่ชั่วโมง  น่าจะต้องเตรียมอาหารกลางวันไปกินในเรือ  คิดแล้วน่าสนุกจัง  บรรยากาศคงสวยสงบงดงาม



นึกถึงเรื่องตลกที่แม่เล่าให้ฟัง  ซึ่งท่านก็ฟังมาจากคุณยาย  ซึ่งคุณยายก็ฟังมาจากคุณชวด  หลายทอดจัง

ในครั้งหนึ่งที่คุณชวดมาเยี่ยมคุณตา (ตอนยังเรียนหนังสือ)  คุณตาพาท่านไปเที่ยวห้างฝรั่ง

เนื่องจากคุณตาเป็นลูกคนโปรด  คุณชวดแสดงความรักใคร่โดยชอบหยอกล้อว่า 'ไอ้หมา' 

ก่อนออกเดินทางคุณตาเตรียมรองเท้าให้คุณชวดใส่  จากนั้นทำสัญญากับคุณชวดว่า 'ตอนอยู่ในห้าง  แม่อย่าเรียกฉันว่าไอ้หมานะ'

คุณชวดบอกว่า 'เออ... ข้ารู้'

พอไปถึงห้างก็เดินชมของกัน  ของขายในห้างตื่นตาตื่นใจคุณชวดมาก

ความตื่นตามาถึงจุดหนึ่งที่ท่านถึงกับเผลอตะโกนเรียกลูกชายสุดรักว่า 'ไอ้หมาๆ มาดูอะไรนี่เร็ว'



คุณชวดเล่าตอนนี้ให้คุณยายฟังว่า 'มันเดินหน้างอมาหาฉันแล้วกระซิบว่า ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าเรียกฉันว่า 'ไอ้หมา''

คุณชวดหัวเราะเอิ๊ก ๆ แล้วบอกคุณยายว่า  'ฉันก็ลืมไป  ไปฉีกหน้ามันในห้าง'


สงสัยจังว่าในละแวกสี่กั๊กพระยาศรี  มีห้างฝรั่งชื่ออะไรบ้าง


แนบรูปคุณชวดมาให้ชมครับ  ความจริงรูปท่านแขวนคู่กับคุณทวด  แต่เกิดอะไรขึ้นก็จำไม่ได้  รูปคุณทวดหายไป


ขอบคุณนักวิชาการทุกท่านครับ


(http://image.free.in.th/v/2013/it/210629024240.jpg) (http://picture.in.th/id/873f368c98b10de872cbba96940bb9d1)



กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 มิ.ย. 21, 09:47
คุณชวดเป็นผู้หญิงสวยมากทีเดียว

ท่านน่าจะเดินทางทางเรือ จากอยุธยามาบางกอกก็น่าจะข้ามคืนละค่ะ
หรือไม่  ถ้าออกเช้าตรู่  มาถึงที่หมายแถวท่าช้างก็คงเย็นๆหรือค่ำๆ  ยุคนั้นนั่งเรือแจว  ยังไม่มีเรือยนต์โดยสาร


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 มิ.ย. 21, 10:45
อ้างถึง
สงสัยจังว่าในละแวกสี่กั๊กพระยาศรี  มีห้างฝรั่งชื่ออะไรบ้าง

สี่กั๊กพระยาศรี มีห้าง ย.ร. อันเดร ของชาวเยอรมัน กับ ห้างแอล. ยี. ริกันตี ค่ะ  ใกล้กันที่ถนนเฟื่องนคร มีห้างบัตเลอร์
ดิฉันยังโตทันเห็นห้างแอล ยี. ลักษณะห้างเหมือนร้านรวงในกรุงโรม  คือเป็นห้องเล็กๆชั้นล่างของตึกแถว  ไม่ใช่ร้านใหญ่อย่างทิฟฟานีในนิวยอร์ค   มีป้ายชื่อเขียนว่า แอล ยี ริกันตี ภาษาไทย

คุณชวดรวยแน่ๆ  ร้านพวกนี้สั่งเครื่องประดับเพชรพลอยเข้ามา ขายให้เศรษฐีไฮโซทั้งนั้น


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 29 มิ.ย. 21, 12:13
ถ้าคุณชวดมีแพขายของใหญ่โต น่าจะขนสินค้ามาด้วยทั้งขาไปและขากลับ การเลือกใช้พาหนะเรืออาจไม่เกี่ยวกับใกล้หรือไกลทางรถไฟก็ได้ครับ
.
สี่กั๊กพระยาศรี 4 รูปรวด


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 29 มิ.ย. 21, 16:17
สี่กั๊กพระยาศรี มีห้าง ย.ร. อันเดร ของชาวเยอรมัน กับ ห้างแอล. ยี. ริกันตี ค่ะ  

คุณชวดรวยแน่ๆ  ร้านพวกนี้สั่งเครื่องประดับเพชรพลอยเข้ามา ขายให้เศรษฐีไฮโซทั้งนั้น

ถ้าคุณชวดต้องการซื้อเพชรซื้อพลอย คงเข้าห้าง ย.ร. อันเดร ซึ่งเป็นห้างของชาวเยอรมัน ขายทองรูปพรรณ และเครื่องประดับจำพวกเพชรพลอย และเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ของห้างอาดัมโอเปิล ตลอดจนสินค้าต่าง ๆ จากประเทศเยอรมนี ส่วนห้าง แอล.ยี. ริกันตี ตัดเครื่องแบบทหารและพลเรือน ต่อมาคือ ห้างเสนามาตยาภรณ์

ข้อมูลจาก นิตยสารศิลปวัฒนธรรม (https://www.silpa-mag.com/history/article_8593)



กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 29 มิ.ย. 21, 16:29
ขุนวิจิตรมาตราเขียนเล่าเกี่ยวกับทั้งสองห้างนี้ไว้ในหนังสือ "กรุงเทพเมื่อวานนี้"

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5929.0;attach=54607;image)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 30 มิ.ย. 21, 10:32
อ่าน อ. บรรยายบรรยากาศภายในห้าง บวกกับ ชมภาพที่คุณธสาครแนบมาให้แล้ว  รู้สึกอิจฉาคนสมัยก่อนจัง

อยากกลับไปยุคนั้น  ไปเดินสักครึ่ง ชม. ก็ยังดี


จำได้ว่าลูกเพื่อนชอบมาแคะให้ผมเล่าเรื่องสมัยรุ่น ๆ ให้ฟัง  ยุคผมรุ่น ๆ เป็นยุคดิสโก้  ซึ่งเข้าทางพอดีเพราะเป็นช่วงที่กำลังตกมัน

มันระบาดเข้ามาตอนผมกำลังอยู่ปี 2  แทบจะทุกศุกร์หลังเลิกเรียน  เราจะนัดเจอกันตอน 2 ทุ่มแล้วเหมาแท็กซี่ไปบาร์/คลับ

ไปโรงแรมไม่ได้เพราะแพงเกินกำลังของพวกเรา


ไปถึงก็สั่งน้ำส้ม (ก๊กผมไม่กินเหล้า) คนละแก้ว ๆ ละ 50 บาท  นับว่าแพงไม่หยอก

ต้องรอให้น้ำส้มมาก่อนเพราะต้องจ่ายเงิน  อย่างร้อนรน 

พอจ่ายเงินเสร็จ  จิบน้ำคนละอึกก็พุ่งเข้าฟลอร์  ดิ้นกันไฟแลบถึงตี 2  น้ำส้มไม่พร่องเพราะไม่ได้แตะอีกเลย


ผมเล่าไปลูกเพื่อนก็ครางไปว่าอยากย้อนเวลาไปสัมผัส


ในขณะที่ผมอยากย้อนเวลากลับไปเดินในรูปที่ คุณธสาคร แนบมา

ผมเคยถามลูกเพื่อนว่าคิดอยากกลับไปเดินยุคปู่ย่าตายายของพ่อแม่บ้างมั้ย

เธอบอกว่าไม่เคยคิด  ไกลไป

แสดงว่าการอยากย้อนเวลากลับไปเกิดขึ้นกับทุกคน  แต่เป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมือนกันนะครับ


ของประดับของคุณตานี่น่าจะมาจากห้างฝรั่งพวกนี้  ผมว่า

(http://image.free.in.th/v/2013/iv/210630034626.jpg) (http://picture.in.th/id/a905f15c3ae47860f0382611e0fc261e)

เดี๋ยวไปค้นห้องคุณตาต่อว่ามีอะไรพอเอามานินทาได้อีก

ขอบคุณนักวิชาการทุกท่านครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 30 มิ.ย. 21, 11:59
"ไอ้หมา" ออกเสียงเหน่อๆ เป็น ไอ้หม่า รึป่าวครับ // อยุธยา กับ สุพรรณ ก็ครือๆกัน
.
ยุคเราก็ดีอยู่อย่าง ที่มีรูปถ่ายให้ดู พอได้รฦกถึง // งานโบราณคดีก็มีความก้าวหน้า สามารถจินตนาการถึงยุคไกลโพ้นได้ // โซเชียลมีเดียล รุ่งเรืองมาก ดูรูปเก่ากันตาแฉะเลย


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 มิ.ย. 21, 12:53
ถ้าคุณชวดเข้าร้านเพชรพลอยสมัยรัชกาลที่ 6   สมบัติที่ตกทอดมาน่าจะมีล็อกเก็ตเพชรแบบนี้รวมอยู่ด้วย


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 01 ก.ค. 21, 08:30
ถ้าคุณชวดเข้าร้านเพชรพลอยสมัยรัชกาลที่ 6   สมบัติที่ตกทอดมาน่าจะมีล็อกเก็ตเพชรแบบนี้รวมอยู่ด้วย

ถ้ามีก็มาไม่ถึงครับ  เหลือแค่แหวน  ตอนนี้แม่ก็เอาไปทำเรือนใหม่  ไม่มีเค้าเดิมเลย

คุยเรื่องความหลัง  ทำให้นึกได้ว่าสมัยเพิ่งทำงาน

ตอนนั้นสถานีวิทยุแต่ละช่องยังเป็นเอกเทศอยู่

มีช่องหนึ่งฟังประจำ  ดีเจเป็นผู้หญิง  เธอชอบเอ่ยกลอนบทหนึ่งอยู่เนือง ๆ

จนป่านนี้ยังไม่รู้ว่ากลอนชื่ออะไรเป็นของใคร

จำก็ไม่ได้แม่นแล้ว  ที่จำได้ก็ไม่ประติดประต่อ

มีคำเช่น 'โอโอ้ อดีต' 'ผ่านลับหายไป' 'ไม่หวนคืน'

เข้าใจว่าไม่ใช่ของเก่า  คงมาจากคนยุคปัจจุบัน

อ. พอคุ้นมั้ยครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 01 ก.ค. 21, 08:34
"ไอ้หมา" ออกเสียงเหน่อๆ เป็น ไอ้หม่า รึป่าวครับ // อยุธยา กับ สุพรรณ ก็ครือๆกัน
.
ยุคเราก็ดีอยู่อย่าง ที่มีรูปถ่ายให้ดู พอได้รฦกถึง // งานโบราณคดีก็มีความก้าวหน้า สามารถจินตนาการถึงยุคไกลโพ้นได้ // โซเชียลมีเดียล รุ่งเรืองมาก ดูรูปเก่ากันตาแฉะเลย

อยากเห็นหน้าพระมหากษัตริย์ยุคก่อนกล้องกำเนิดที่สุด

น่าเสียดายที่ ร. 3 ยังไม่สามารถตัดใจเรื่องความเชื่อเก่า ๆ 

ไม่งั้นคงได้เห็นรูปท่านบ้าง



กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ค. 21, 09:19
บทนี้หรือเปล่าคะ

อ้า อดีตที่ล่วงผ่านไป
เคยสนุกสุขใจ
ฤาจักหวนกลับมาเนา
โอ้โอ๋ อดีตดั่งเงา
เลือนลางว่างเปล่า
ล่วงผ่านแล้วลับวับหาย


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 02 ก.ค. 21, 08:18
บทนี้หรือเปล่าคะ

อ้า อดีตที่ล่วงผ่านไป
เคยสนุกสุขใจ
ฤาจักหวนกลับมาเนา
โอ้โอ๋ อดีตดั่งเงา
เลือนลางว่างเปล่า
ล่วงผ่านแล้วลับวับหาย

ใช่แล้วครับ ๆ

เป็นของใครมาจากที่ใดครับ อ.


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 02 ก.ค. 21, 08:28
หมวด ขัน (คำนาม ไม่ใช่คำกริยา) ครับ

ช่วยแจงให้หน่อยซิครับว่าทำด้วยวัสดุอะไรบ้าง

1.
(http://image.free.in.th/v/2013/in/210702015130.jpg) (http://picture.in.th/id/be9e4f039935f8a7f8fd6641073439f5)

2.
(http://image.free.in.th/v/2013/iu/210702015213.jpg) (http://picture.in.th/id/464fe98712ad88a484ee19b33604617d)

3.
(http://image.free.in.th/v/2013/il/210702015244.jpg) (http://picture.in.th/id/7fb3f7e937dc722c5090288f3615a62e)

4.
(http://image.free.in.th/v/2013/iw/210702015315.jpg) (http://picture.in.th/id/6f745ad21d3b4ebbfc562cd88bbb27c7)

5. ใบนี้มีสภาพแบบนี้ เป็นเพราะอะไรครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/ix/210702015354.jpg) (http://picture.in.th/id/90e776419a9b954064db764646efe281)

ขอบคุณครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ก.ค. 21, 08:51
บทนี้หรือเปล่าคะ

อ้า อดีตที่ล่วงผ่านไป
เคยสนุกสุขใจ
ฤาจักหวนกลับมาเนา
โอ้โอ๋ อดีตดั่งเงา
เลือนลางว่างเปล่า
ล่วงผ่านแล้วลับวับหาย

ใช่แล้วครับ ๆ
เป็นของใครมาจากที่ใดครับ อ.
มาจากนวนิยายเรื่อง ในฝัน ของโรสลาเรน( หรือทมยันตี)   ค่ะ  แต่ผู้แต่งไม่ใช่คุณทมยันตี  แต่เป็นนักแปลชื่อคุณ "อมราวดี" หรือชื่อจริงว่า ลัดดา ถนัดหัตถกรรม มาจากนวนิยายแปลเรื่องหนึ่งของเธอ  ที่แปลมาจากงานของ Marie Corelli 
ในนวนิยายเรื่องในฝัน  ไม่ได้แจ้งไว้ว่าเป็นบทกวีของใคร  ทำให้คนอ่านจำนวนมากเข้าใจว่าคุณทมยันตีแต่งเอง
อ้อ  ไม่ใช่กลอนนะคะ  เป็นคำประพันธ์ประเภทกาพย์ฉบับ ๑๖  ค่ะ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 02 ก.ค. 21, 10:09
มาจากนวนิยายเรื่อง ในฝัน ของโรสลาเรน( หรือทมยันตี)   ค่ะ  แต่ผู้แต่งไม่ใช่คุณทมยันตี  แต่เป็นนักแปลชื่อคุณ "อมราวดี" หรือชื่อจริงว่า ลัดดา ถนัดหัตถกรรม มาจากนวนิยายแปลเรื่องหนึ่งของเธอ  ที่แปลมาจากงานของ Marie Corelli  

มาจากเรื่อง Ziska ของ Marie Corelli  หรือชื่อภาษาไทยในเรื่องแปลของอมราวดีว่า พิษสวาท เอ๊ย กงเกวียน หรือเปล่าหนอ
  ;)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 03 ก.ค. 21, 08:48
บทนี้หรือเปล่าคะ

อ้า อดีตที่ล่วงผ่านไป
เคยสนุกสุขใจ
ฤาจักหวนกลับมาเนา
โอ้โอ๋ อดีตดั่งเงา
เลือนลางว่างเปล่า
ล่วงผ่านแล้วลับวับหาย



ใช่แล้วครับ ๆ
เป็นของใครมาจากที่ใดครับ อ.
มาจากนวนิยายเรื่อง ในฝัน ของโรสลาเรน( หรือทมยันตี)   ค่ะ  แต่ผู้แต่งไม่ใช่คุณทมยันตี  แต่เป็นนักแปลชื่อคุณ "อมราวดี" หรือชื่อจริงว่า ลัดดา ถนัดหัตถกรรม มาจากนวนิยายแปลเรื่องหนึ่งของเธอ  ที่แปลมาจากงานของ Marie Corelli 
ในนวนิยายเรื่องในฝัน  ไม่ได้แจ้งไว้ว่าเป็นบทกวีของใคร  ทำให้คนอ่านจำนวนมากเข้าใจว่าคุณทมยันตีแต่งเอง
อ้อ  ไม่ใช่กลอนนะคะ  เป็นคำประพันธ์ประเภทกาพย์ฉบับ ๑๖  ค่ะ


เกิดอาการ งง ครับ อ.

หมายถึงว่า เริ่มแรกเลย เรื่องนี้เป็นเรื่องแปลโดย คุณ อมราวดี

แล้วคุณ ทมยันตี เอามาดัดแปลงเป็นนวนิยายเรื่อง ในฝัน เหรอครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ค. 21, 11:00
ไม่ใช่ค่ะ
ขอเรียบเรียงใหม่

1    "อ้า อดีตที่ล่วงผ่านไป
เคยสนุกสุขใจ
ฤาจักหวนกลับมาเนา
โอ้โอ๋ อดีตดั่งเงา
เลือนลางว่างเปล่า
ล่วงผ่านแล้วลับวับหาย"
คำประพันธ์บทนี้ปรากฏอยู่ในนวนิยายเรื่อง ในฝัน ของโรสลาเรน หรือทมยันตี
2  คำประพันธ์นี้ ผู้แต่งคือ อมราวดี
3  ในเรื่อง ในฝัน  หนังสือไม่ได้ทำเชิงอรรถหรือคำอธิบายไว้ว่า เป็นบทประพันธ์ของใคร  ทำให้คนอ่านเข้าใจว่าเป็นคำประพันธ์ของทมยันตี เอง
4  เนื้อเรื่องในฝัน  ไม่ได้เอามาจากงานของคุณอมราวดี   มีแต่คำประพันธ์บทนี้เท่านั้นที่เป็นของคุณอมราวดี



กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ค. 21, 11:02
มาจากนวนิยายเรื่อง ในฝัน ของโรสลาเรน( หรือทมยันตี)   ค่ะ  แต่ผู้แต่งไม่ใช่คุณทมยันตี  แต่เป็นนักแปลชื่อคุณ "อมราวดี" หรือชื่อจริงว่า ลัดดา ถนัดหัตถกรรม มาจากนวนิยายแปลเรื่องหนึ่งของเธอ  ที่แปลมาจากงานของ Marie Corelli  

มาจากเรื่อง Ziska ของ Marie Corelli  หรือชื่อภาษาไทยในเรื่องแปลของอมราวดีว่า พิษสวาท เอ๊ย กงเกวียน หรือเปล่าหนอ
  ;)
ยังไม่ได้ไปค้นหนังสือมาดู  เลยจำไม่ได้ว่าเป็นเรื่องนี้หรือเปล่าค่ะ 


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 04 ก.ค. 21, 09:37
ไม่ใช่ค่ะ
ขอเรียบเรียงใหม่

1    "อ้า อดีตที่ล่วงผ่านไป
เคยสนุกสุขใจ
ฤาจักหวนกลับมาเนา
โอ้โอ๋ อดีตดั่งเงา
เลือนลางว่างเปล่า
ล่วงผ่านแล้วลับวับหาย"
คำประพันธ์บทนี้ปรากฏอยู่ในนวนิยายเรื่อง ในฝัน ของโรสลาเรน หรือทมยันตี
2  คำประพันธ์นี้ ผู้แต่งคือ อมราวดี
3  ในเรื่อง ในฝัน  หนังสือไม่ได้ทำเชิงอรรถหรือคำอธิบายไว้ว่า เป็นบทประพันธ์ของใคร  ทำให้คนอ่านเข้าใจว่าเป็นคำประพันธ์ของทมยันตี เอง
4  เนื้อเรื่องในฝัน  ไม่ได้เอามาจากงานของคุณอมราวดี   มีแต่คำประพันธ์บทนี้เท่านั้นที่เป็นของคุณอมราวดี



โอ... เข้าใจเต็มพิกัดเลยครับ

ขอบคุณครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 04 ก.ค. 21, 09:54
(http://image.free.in.th/v/2013/ip/210704030947.jpg) (http://picture.in.th/id/32255c94a0fe30761abebdc2e9fcb68a)

แม่เพิ่งส่งมาให้

เป็นเหรียญของคุณตา  เมื่อเรียนจบหลักสูตรจาก รร. ราชวิทยาลัย

ซึ่งก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าหลักสูตรมีถึงชั้นไหน

คุณตาเล่า (ให้แม่ฟัง) ว่าที่ประดับเหรียญนี้อยู่ที่รังดุมเสื้อ หรือปากปกเสื้อ

สัญลักษณ์นี้ไม่ทราบความหมาย  ถาม อากู๋ ก็ไม่มีคำตอบ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 04 ก.ค. 21, 13:29
คุณวีมีตอบไว้ในกระทู้ เครื่องหมายอะไร (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=4423.msg86977#msg86977) ว่า

เหรียญนี้มีชื่อเรียกว่า "เหรียญกระดานชนวน"  เป็นเข็มที่ระลึกที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จัดสร้างพระราชทานแก่ผู้ที่เรียนจบจากโรงเรียนราชวิทยาลัย  เมื่อครั้งที่โรงเรียนราชวิทยาลัยย้ายจากกระทรวงยุติธรรมมาขึ้นสภากรรมการโรงเรียนมหาดเล็กหลวง เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๙  และพระราชทานต่อเนื่องมาจนถึงปี ๒๔๖๗  ปี ๒๔๖๘ ยังไม่ทันพระราชทานก็พอดีสวรรคตเสียก่อน

เข็มกระดานชนวนนี้มี ๒ แบบ  คือแบบพระราชทานนักเรียน  ด้านหลังสลักชื่อ  เลขประจำตัว  ลำดับที่ที่ออกจากโรงเรียนใน พ.ศ. ที่จบการศึกษา  อีกแบบพระราชทานครู  จะต่างกับที่พระราชทานนักเรียนตรงที่ด้านหน้าตอนบน  มีคำว่า "คุรุ" ด้านหลังสลักชื่อผู้ที่ได้รับพระราชทาน

เหรียญนี้มีห่วงสำหรับคล้องรังดุมเสื้อเม็ดต้น  ถ้าคอเสื้อประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ก็เลื่อนลงมาประดับรังดุมถัดลงมา


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 05 ก.ค. 21, 08:23
คุณวีมีตอบไว้ในกระทู้ เครื่องหมายอะไร (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=4423.msg86977#msg86977) ว่า

เหรียญนี้มีชื่อเรียกว่า "เหรียญกระดานชนวน"  เป็นเข็มที่ระลึกที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จัดสร้างพระราชทานแก่ผู้ที่เรียนจบจากโรงเรียนราชวิทยาลัย  เมื่อครั้งที่โรงเรียนราชวิทยาลัยย้ายจากกระทรวงยุติธรรมมาขึ้นสภากรรมการโรงเรียนมหาดเล็กหลวง เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๙  และพระราชทานต่อเนื่องมาจนถึงปี ๒๔๖๗  ปี ๒๔๖๘ ยังไม่ทันพระราชทานก็พอดีสวรรคตเสียก่อน

เข็มกระดานชนวนนี้มี ๒ แบบ  คือแบบพระราชทานนักเรียน  ด้านหลังสลักชื่อ  เลขประจำตัว  ลำดับที่ที่ออกจากโรงเรียนใน พ.ศ. ที่จบการศึกษา  อีกแบบพระราชทานครู  จะต่างกับที่พระราชทานนักเรียนตรงที่ด้านหน้าตอนบน  มีคำว่า "คุรุ" ด้านหลังสลักชื่อผู้ที่ได้รับพระราชทาน

เหรียญนี้มีห่วงสำหรับคล้องรังดุมเสื้อเม็ดต้น  ถ้าคอเสื้อประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ก็เลื่อนลงมาประดับรังดุมถัดลงมา

ยอดเยี่ยมเลยครับ 

ถามแม่ให้ช่วยดูด้านหลัง  แม่บอกไม่เห็นมีเขียนอะไรกำกับไว้เลย

แต่แม่อายุมากแล้ว (90)  อาจสายตาไม่ดี  ไม่ก็รอยสลักเลือนไปตามกาลเวลา

ขอบคุณมากครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 09 ก.ค. 21, 08:42
เห็นมาตั้งแต่เกิด  ดูเผิน ๆ นึกว่าเหมือนกัน

คุณยายเล่าว่าคุณชวดให้มาตอนคุณตาปลูกบ้าน

พอโตขึ้นระดับนักเรียนได้ไปเดินพิพิธภัณฑ์ก็ได้เห็นวางอยู่ในนั้นด้วย  มีกี่ลำก็จำไม่ได้  แล้วก็ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรเลย  

เป็นต้นว่าเรือลักษณะแบบนี้เรียกว่าอะไร ใช้ในยุคสมัยใด ฯลฯ

(http://image.free.in.th/v/2013/ie/210709020739.jpg) (http://picture.in.th/id/12ecd79e02a3e93dbaeb07a9532bd6e8)

แล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่า  ตอนจ่ายเงินซื้อแล้ว  เอากลับบ้านยังไง  ถุงใส่ขนาดใหญ่มีใช้แล้วยัง





กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.ค. 21, 10:01
ไม่มีความรู้เรื่องเรือไทย รอท่านอื่นนะคะ
ฝีมือทำสวยมากค่ะ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 09 ก.ค. 21, 12:05
น่าสนใจที่ว่ายุคคุณตา ก็มีการทำโมเดลเรือกันแล้ว
สนใจอย่างที่สองคือ น้ำมันชักเงาสมัยโน้น เป็นยังไงนะ? มีทินเนอร์กันแล้วเหรอ? น้ำมันชักเงาจีนหรือฝรั่ง?
.
งานฝีมืออย่างนี้ ผมว่าน่าจะต่อเป็นลังโปร่งใส่สินค้านะครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 12 ก.ค. 21, 08:40
น่าสนใจที่ว่ายุคคุณตา ก็มีการทำโมเดลเรือกันแล้ว
สนใจอย่างที่สองคือ น้ำมันชักเงาสมัยโน้น เป็นยังไงนะ? มีทินเนอร์กันแล้วเหรอ? น้ำมันชักเงาจีนหรือฝรั่ง?
.
งานฝีมืออย่างนี้ ผมว่าน่าจะต่อเป็นลังโปร่งใส่สินค้านะครับ

ลืมบอกไปว่า ลำเรือยาวประมาณ 2 ฟุตครับ 


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 12 ก.ค. 21, 08:44
ไปค้นเจอรูปถ่ายเก่า ๆ พบรูปนี้

มีใครพอทราบรายละเอียดเกี่ยวกับเหรียญนี้บ้างครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/iz/210712020926.jpg) (http://picture.in.th/id/38f57b875fbcd10c6a9f6876a2621f68)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.ค. 21, 10:38
น่าจะเป็นเครื่องราชฯ ตระกูลมงกุฎไทย ค่ะ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 12 ก.ค. 21, 10:44
อยากทราบว่าแพรแถบกว้างสักกี่เซนติเมตร


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 13 ก.ค. 21, 08:29
อยากทราบว่าแพรแถบกว้างสักกี่เซนติเมตร

สินค้าชิ้นนี้ไม่ได้อยู่กับตัวครับ  นอนสงบนิ่งอยู่ในกำปั่นที่กรุงเทพฯ

ไม่แน่ใจว่าสมาชิกจะสามารถจัดหาได้รึเปล่าเพราะอายุ 70 กว่ากันทั้งนั้น

เกรงจะหัวใจวายตายขณะขึ้นบันได

ต้องขอประทานอภัยอย่างสูงครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 13 ก.ค. 21, 10:18
1    "อ้า อดีตที่ล่วงผ่านไป
เคยสนุกสุขใจ
ฤาจักหวนกลับมาเนา
โอ้โอ๋ อดีตดั่งเงา
เลือนลางว่างเปล่า
ล่วงผ่านแล้วลับวับหาย"
คำประพันธ์บทนี้ปรากฏอยู่ในนวนิยายเรื่อง ในฝัน ของโรสลาเรน หรือทมยันตี
2  คำประพันธ์นี้ ผู้แต่งคือ อมราวดี
3  ในเรื่อง ในฝัน  หนังสือไม่ได้ทำเชิงอรรถหรือคำอธิบายไว้ว่า เป็นบทประพันธ์ของใคร  ทำให้คนอ่านเข้าใจว่าเป็นคำประพันธ์ของทมยันตี เอง
4  เนื้อเรื่องในฝัน  ไม่ได้เอามาจากงานของคุณอมราวดี   มีแต่คำประพันธ์บทนี้เท่านั้นที่เป็นของคุณอมราวดี

            ต่อมา, คุณโรสลาเรน(ทมยันตี) ได้แต่งเนื้อร้องเพลง(ประกอบละคร) ในฝัน พ.ศ.2535 ทำนองโดย อ.วิรัช อยู่ถาวร

https://www.youtube.com/watch?v=HnJhrcx6EPc


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 13 ก.ค. 21, 10:45
อยากทราบว่าแพรแถบกว้างสักกี่เซนติเมตร

ความกว้างของแพรแถบจะเป็นตัวแบ่งชั้นของเครื่องราชฯ ทั้งตระกูลมงกุฎไทยและช้างเผือก

เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทยชั้นที่ ๒ ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย (ท.ม.) และชั้นที่ ๓ ตริตาภรณ์มงกุฎไทย (ต.ม.) แพรแถบจะมีความกว้าง ๔ เซนติเมตร


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 13 ก.ค. 21, 10:49
ส่วนชั้นที่ ๔ จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย (จ.ม.) และชั้นที่ ๕ เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย (บ.ม.) แพรแถบจะมีความกว้าง ๓ เซนติเมตร

ข้อมูลจาก พระราชบัญญัติเครื่องราชอิสสริยาภรณ์อันมีเกียรติยิ่งมงกุฎไทย พุทธศักราช ๒๔๘๔ (http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2484/A/1574.PDF)

ภาพจาก มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา (https://vpress.nrru.ac.th/personnel/index.php?option=com_content&view=article&id=62&Itemid=70)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 16 ก.ค. 21, 08:53
อยากทราบว่าแพรแถบกว้างสักกี่เซนติเมตร

ความกว้างของแพรแถบจะเป็นตัวแบ่งชั้นของเครื่องราชฯ ทั้งตระกูลมงกุฎไทยและช้างเผือก

เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทยชั้นที่ ๒ ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย (ท.ม.) และชั้นที่ ๓ ตริตาภรณ์มงกุฎไทย (ต.ม.) แพรแถบจะมีความกว้าง ๔ เซนติเมตร

ขอบคุณครับ  จะลองหลอกล่อคนแก่ว่า  ต้องฝึก 'ขึ้นบันได' บ้าง


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 16 ก.ค. 21, 09:36
ส่วนชั้นที่ ๔ จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย (จ.ม.) และชั้นที่ ๕ เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย (บ.ม.) แพรแถบจะมีความกว้าง ๓ เซนติเมตร

ข้อมูลจาก พระราชบัญญัติเครื่องราชอิสสริยาภรณ์อันมีเกียรติยิ่งมงกุฎไทย พุทธศักราช ๒๔๘๔ (http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2484/A/1574.PDF)

ภาพจาก มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา (https://vpress.nrru.ac.th/personnel/index.php?option=com_content&view=article&id=62&Itemid=70)

มาแล้วครับ  ฝีมือคนแก่อายุ 70 

(http://image.free.in.th/v/2013/ij/210716030312.png) (http://picture.in.th/id/a3a733e5baf403344532e55794c34f46)

แพรแถบกว้าง 3 ซม. ครับ

ขอคำอธิบายเพิ่มเติมถึงความสำคัญของความกว้างของแพรแถบว่า  กว้าง 3 กับ กว้าง 4  ใช้วัดอะไร



กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 16 ก.ค. 21, 09:39
มีแถมมาอีก 2 เหรียญ

ใคร่ขอคำอธิบายครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/ir/210716030606.png) (http://picture.in.th/id/c3289c877fb5d0010d060410cd89c6b4)

(http://image.free.in.th/v/2013/id/210716030631.png) (http://picture.in.th/id/1093f1f334127dab70c6d56c7519f735)

แพรแถบกว้าง 3 ซม. ทั้งคู่ครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 16 ก.ค. 21, 15:06
แพรแถบกว้าง 3 ซม. ครับ

ซ้าย : เครื่องราชฯ ชั้นที่ ๕ เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย (บ.ม.)  ขวา : เครื่องราชฯ ชั้นที่ ๕ เบญจมาภรณ์ช้างเผือก (บ.ช.)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 16 ก.ค. 21, 15:19
เครื่องราชฯ ตระกูลช้างเผือกที่มีแพรแถบกว้าง ๓ เซนติเมตร อาจเป็นได้ทั้งชั้นที่ ๔ และชั้นที่ ๕

ข้อมูลจาก พระราชบัญญัติเครื่องราชอิสสริยาภรณ์อันมีเกียรติยิ่งช้างเผือก พุทธศักราช ๒๔๘๔ (http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2484/A/1566.PDF)

ภาพจาก มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา (https://vpress.nrru.ac.th/personnel/index.php?option=com_content&view=article&id=61&Itemid=69)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 16 ก.ค. 21, 15:27
ใคร่ขอคำอธิบายครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/id/210716030631.png) (http://picture.in.th/id/1093f1f334127dab70c6d56c7519f735)

แพรแถบกว้าง 3 ซม.

หากคุณโหน่งพลิกดูข้างหลังเหรียญ จะพบคำอธิบาย  ;D


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 17 ก.ค. 21, 09:19
ใคร่ขอคำอธิบายครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/id/210716030631.png) (http://picture.in.th/id/1093f1f334127dab70c6d56c7519f735)

แพรแถบกว้าง 3 ซม.

หากคุณโหน่งพลิกดูข้างหลังเหรียญ จะพบคำอธิบาย  ;D

ขอบคุณเป็นอย่างมากสำหรับทุกคำตอบครับ

จะเอาข้อมูลไปค้นหาต่อ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 17 ก.ค. 21, 09:35
(http://image.free.in.th/v/2013/ip/210704030947.jpg) (http://picture.in.th/id/32255c94a0fe30761abebdc2e9fcb68a)

แม่เพิ่งส่งมาให้

เป็นเหรียญของคุณตา  เมื่อเรียนจบหลักสูตรจาก รร. ราชวิทยาลัย

ซึ่งก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าหลักสูตรมีถึงชั้นไหน

คุณตาเล่า (ให้แม่ฟัง) ว่าที่ประดับเหรียญนี้อยู่ที่รังดุมเสื้อ หรือปากปกเสื้อ

สัญลักษณ์นี้ไม่ทราบความหมาย  ถาม อากู๋ ก็ไม่มีคำตอบ

แม่ให้คนส่งมาให้ดู  ด้านหลังครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/ij/210717030108.jpg) (http://picture.in.th/id/a8e592507c94657fbb1d2a37b610a60d)

ถามแม่ว่า  เป็นวัสดุประเภทใด  แม่บอกว่าดูไม่ออกครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 17 ก.ค. 21, 12:19
ว้า..แป้กเลย นึกว่าจะได้เห็นรอยสลักอะไรบ้างที่ด้านหลัง


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 18 ก.ค. 21, 10:05
ว้า..แป้กเลย นึกว่าจะได้เห็นรอยสลักอะไรบ้างที่ด้านหลัง

นั่นดิ... พอเช็คที่อากู๋  ก็ว่าง ๆ แบบนี้เหมือนกัน

http://siamsilkroad.weloveshopping.com/store/product/view/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%8D%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%99_%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99_%E0%B8%A0.%E0%B8%9B.%E0%B8%A3.%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A2_%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%96%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B9%8C_%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87-28572656-th.html

(ทำไมมันไม่ขึ้นหน้า web ให้นิ)

เพิ่งรู้ว่าเค้าเรียกว่า เนื้อกะไหล่ทอง


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 18 ก.ค. 21, 14:32
รูปที่เว็บขายของนั่น คงนำมาเทียบเคียงไม่ได้ในเรื่องที่ว่าด้านหลังโล่ง
อาจจะปลอม หรือเป็นเหรียญที่ต่างเวลานานโขกับของคุณnathanielnong
เหรียญในเว็บขายของ >> (1)ไม่มีห่วงคล้อง (2)กรอบทองทำเป็นชิ้นเดียว ไม่ใช่4ชิ้นเข้ามุม
.
ผมย้อนรอยที่คุณเพ็ญชมพูใบ้ไว้ โดยตามไปดูในกระทู้ เครื่องหมายอะไร (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=4423.msg86977#msg86977) ความคิดเห็นที่179 ก็ไม่ปรากฏรูปซะแล้ว
คุณ konkao โพสต์ถามว่า "จี้" อะไร
คุณ V_Mee เฉลยว่าเป็นเหรียญกระดานชนวน
แต่ไม่ปรากฏรูป (เข้าใจว่าคุณ konkao มาลบรูปออกในภายหลัง)
.
เออเนาะ คุณเพ็ญชมพูช่างสรรหานัก รูปก็หายไปแล้ว! ยังอุตส่าห์ขุดมาตอบคุณnathanielnong ได้อีก


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 18 ก.ค. 21, 15:05
คุณ konkao โพสต์ถามว่า "จี้" อะไร
คุณ V_Mee เฉลยว่าเป็นเหรียญกระดานชนวน
แต่ไม่ปรากฏรูป (เข้าใจว่าคุณ konkao มาลบรูปออกในภายหลัง)

ข้อเสียของการโพสต์รูปโดยฝากไว้ที่เว็บฝากรูปคือ เมื่อเว็บนั้นหมดสภาพ รูปที่ฝากไว้ก็จะหายไปด้วย

คุณ konkao ฝากรูปไว้กับเว็บ image.ohozaa.com ซึ่งหมดสภาพไปนานแล้ว


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 19 ก.ค. 21, 09:13
มาแอบดูสมบัติคุณตาต่อครับ

คุณยายเล่าเป็นของขวัญวันแต่งงาน (ก่อนปี 2465 เพราะลูกคนแรกเกิดปี 2465)

ความจริงมีมากมาย  ประมาณ 10 ถาด  ซึ่งมาจากแขกต่างชุดกัน

แสดงว่า  ยุคนั้นเป็นที่นิยม

พอขายบ้านคุณตา/คุณยาย  ก็แบ่งของกัน  ได้มาเท่าที่เห็น

ผมว่าไม่ใช่ของทำในประเทศนะ  น่าจะหาซื้อตามห้างฝรั่งที่ตั้งอยู่ในยุคนั้น

พื้นเป็น ceramic เคลือบมัน  เส้นผ่า ศก. 2 ฟุต  ตอนเด็ก ๆ ถือไม่ไหวเพราะหนักมาก

ใครพอคลำทางถึงที่มาได้บ้างครับ  ผมเคยค้นนานแล้วทราบแต่ว่าทำในเยอรมัน

(http://image.free.in.th/v/2013/ii/210719023636.jpg) (http://picture.in.th/id/8f0e41eb63f624769ae087f790e15955)

(http://image.free.in.th/v/2013/ix/210719023658.jpg) (http://picture.in.th/id/643fafe5dc9eb6a3b05857f783d7837d)

(http://image.free.in.th/v/2013/il/210719023720.jpg) (http://picture.in.th/id/c7416fc65efceeff7d9d50cb12c00501)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.ค. 21, 11:13
เคยมีใบหนึ่งคล้ายๆอย่างนี้ค่ะ  น่าจะเป็นของขายในห้างอย่างคุณโหน่งว่า


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 19 ก.ค. 21, 14:09
ราคาไม่เบา  ;D

จาก https://www.sukhothaiantique.com/เครื่องปั้น-งานหล่อ (https://www.sukhothaiantique.com/เครื่องปั้น-งานหล่อ)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 20 ก.ค. 21, 08:25
ราคาไม่เบา  ;D

จาก https://www.sukhothaiantique.com/เครื่องปั้น-งานหล่อ (https://www.sukhothaiantique.com/เครื่องปั้น-งานหล่อ)

ว่าวววว... เห็นตัวเลขราคาครั้งแรกแล้ว  ตาลายไปชั่วขณะ

แล้วก็ให้สงสัยว่า  ในยุคต้นกำเนิดมันราคาซักเท่าไรกันนะ  ถึงได้เพิ่มขึ้นมากโขในปัจจุบัน

คุณเพ็ญชมพูหาข้อมูลได้เก่งเด็ดขาดไปเลย (อีกคนก็คุณธสาคร)  ผมหาอะไรไม่ค่อยเจอ (โดยเฉพาะ 'เงิน')  ไม่รู้เพราะตาถั่วรึเปล่า

สามารถหาต่อเกี่ยวกับ ที่มา ได้มั้ยครับ

ขอบคุณมากครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: unicorn9u ที่ 20 ก.ค. 21, 13:13
ราคาไม่เบา  ;D

จาก https://www.sukhothaiantique.com/เครื่องปั้น-งานหล่อ (https://www.sukhothaiantique.com/เครื่องปั้น-งานหล่อ)

ว่าวววว... เห็นตัวเลขราคาครั้งแรกแล้ว  ตาลายไปชั่วขณะ

แล้วก็ให้สงสัยว่า  ในยุคต้นกำเนิดมันราคาซักเท่าไรกันนะ  ถึงได้เพิ่มขึ้นมากโขในปัจจุบัน

คุณเพ็ญชมพูหาข้อมูลได้เก่งเด็ดขาดไปเลย (อีกคนก็คุณธสาคร)  ผมหาอะไรไม่ค่อยเจอ (โดยเฉพาะ 'เงิน')  ไม่รู้เพราะตาถั่วรึเปล่า

สามารถหาต่อเกี่ยวกับ ที่มา ได้มั้ยครับ

ขอบคุณมากครับ

อึ้งกับราคาไปเหมือนกัน ที่บ้านก็มีอยู่สามสี่ใบ ทั้งแบบถาดกลม และแบบถาดวงรี
ตอนเด็กๆ แม่ชอบใช้ให้เอาออกมาขัด ตรงที่เป็นขอบด้านนอกน่าจะเป็นทองเหลือง เพราะนานๆไปก็จะหมอง
ตอนนั้นดูก็เฉยๆ ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นของมีค่าอะไร เพราะของสมัยปู่ย่าตายาย ไปบ้านไหนก็เห็นคล้ายๆกันหมด
พวกถาด ป้าน กาน้ำ จานชามเป็นชุดๆ
เดี๋ยวต้องลองถามคุณแม่ดูว่า ที่มา มาจากไหน เพราะบ้านผมอยู่บ้านนอกคอกนา คงไม่ได้มาเดินห้างในเมืองกรุงเป็นแน่


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 20 ก.ค. 21, 20:10
สามารถหาต่อเกี่ยวกับ ที่มา ได้มั้ยครับ

หากคุณโหน่งพลิกดูข้างหลังทั้ง ๒ ถาด จะพบแถบโลหะอยู่ ๒ แถบพยุงตัวถาดอยู่ อาจจะพบเครื่องหมายบางอย่างบนแถบโลหะและเนื้อกระเบื้องเคลือบ บ่งบอกถึงที่มาก็เป็นได้  ;D


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 21 ก.ค. 21, 09:46
ราคาไม่เบา  ;D

จาก https://www.sukhothaiantique.com/เครื่องปั้น-งานหล่อ (https://www.sukhothaiantique.com/เครื่องปั้น-งานหล่อ)

ว่าวววว... เห็นตัวเลขราคาครั้งแรกแล้ว  ตาลายไปชั่วขณะ

แล้วก็ให้สงสัยว่า  ในยุคต้นกำเนิดมันราคาซักเท่าไรกันนะ  ถึงได้เพิ่มขึ้นมากโขในปัจจุบัน

คุณเพ็ญชมพูหาข้อมูลได้เก่งเด็ดขาดไปเลย (อีกคนก็คุณธสาคร)  ผมหาอะไรไม่ค่อยเจอ (โดยเฉพาะ 'เงิน')  ไม่รู้เพราะตาถั่วรึเปล่า

สามารถหาต่อเกี่ยวกับ ที่มา ได้มั้ยครับ

ขอบคุณมากครับ

อึ้งกับราคาไปเหมือนกัน ที่บ้านก็มีอยู่สามสี่ใบ ทั้งแบบถาดกลม และแบบถาดวงรี
ตอนเด็กๆ แม่ชอบใช้ให้เอาออกมาขัด ตรงที่เป็นขอบด้านนอกน่าจะเป็นทองเหลือง เพราะนานๆไปก็จะหมอง
ตอนนั้นดูก็เฉยๆ ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นของมีค่าอะไร เพราะของสมัยปู่ย่าตายาย ไปบ้านไหนก็เห็นคล้ายๆกันหมด
พวกถาด ป้าน กาน้ำ จานชามเป็นชุดๆ
เดี๋ยวต้องลองถามคุณแม่ดูว่า ที่มา มาจากไหน เพราะบ้านผมอยู่บ้านนอกคอกนา คงไม่ได้มาเดินห้างในเมืองกรุงเป็นแน่


คอยครับ

ปล. ถาดวงรีเป็นเส้นสลับสีกับสีขาว  ไม่ใช่ดอกดวงแบบถาดกลมรึเปล่าครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 21 ก.ค. 21, 09:51
สามารถหาต่อเกี่ยวกับ ที่มา ได้มั้ยครับ

หากคุณโหน่งพลิกดูข้างหลังทั้ง ๒ ถาด จะพบแถบโลหะอยู่ ๒ แถบพยุงตัวถาดอยู่ อาจจะพบเครื่องหมายบางอย่างบนแถบโลหะและเนื้อกระเบื้องเคลือบ บ่งบอกถึงที่มาก็เป็นได้  ;D

มองไม่เห็นเลยครับท่าน  ถ้ามีก็คงโดนคราบความเก่าชะล้างไปหมดแล้ว  เสียดายข้อมูลจัง

แถบที่ว่าเป็นสนิมแบบที่โชว์บางเสี้ยวให้ดู  นอกนั้นก็มีโค้ด (ตามรูปที่แนบมาแต่ต้น) ซึ่งไม่เห็นนัยสำคัญอย่างไรครับ

 ???


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 21 ก.ค. 21, 12:29
บางถาดอาจจะมีเครื่องหมายปรากฏอยู่บนแถบโลหะ แต่มีความหมายว่ากระไรหนอ

ภาพจาก คุณภัทราวดี (https://m.facebook.com/Putarawadee555/posts/1757862241002430/)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 21 ก.ค. 21, 12:32
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=7215.0;attach=76227;image)

ภาพขยาย

ภาพจาก sukhothaiantique (https://m.facebook.com/sukhothaiantiquedotcom/posts/2261915787239549/?_rdr)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 21 ก.ค. 21, 13:30
เครื่องหมายนี้เป็นรูปนกกระยาง ใต้ตัวนกมีตัวอักษร B-M-F และ N อยู่ระหว่างขาทั้ง ๒ ข้าง

BMF ย่อมาจาก Bayerische Metallwarenfabrik (โรงงานผลิตสินค้าโลหะแห่งบาวาเรีย)  N = Nürnberg คือเมืองนูเร็มเบิร์กซึ่งงอยู่ในรัฐบาวาเรีย

โรงงาน BMF นี้เคยได้รับออร์เดอร์จากรัชกาลที่ ๕ ให้ผลิตถาดกระเบื้อง "เจริญ" หลายแบบ อย่างเช่น ถาดเจริญธงช้างเผือกนี้

https://youtu.be/B2QpXT6mseU


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: Koratian ที่ 21 ก.ค. 21, 15:09
 ::)

ศ.ดร.นสพ.เพ็ญชมพู
สุดยอดสารานุกรมอเนกประสงค์ ประจำเว็บบอร์ด


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 22 ก.ค. 21, 09:19
ของผมมองไม่เห็นตัวอะไรเลยทั้ง 2 ใบ

แต่ใบหนึ่งเห็นรอยเลอะอยู่ตรงกลาง  เขม้นเท่าไรก็ไม่ปรากฏความชัด

(http://image.free.in.th/v/2013/iq/210722024439.jpg) (http://picture.in.th/id/d341953f2db347e54fb519ab33be1df2)

(http://image.free.in.th/v/2013/iu/210722024503.jpg) (http://picture.in.th/id/8c74f87eccfbe190710869758e40e467)

จะว่าคนละโรงงาน  แต่ลวดลายเหมือนกันเด๊ะ



กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: unicorn9u ที่ 22 ก.ค. 21, 09:21

[/quote]

คอยครับ

ปล. ถาดวงรีเป็นเส้นสลับสีกับสีขาว  ไม่ใช่ดอกดวงแบบถาดกลมรึเปล่าครับ
[/quote]

เป็นลายดอกไม้แบบถาดกลมครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 22 ก.ค. 21, 09:27
::)

ศ.ดร.นสพ.เพ็ญชมพู
สุดยอดสารานุกรมอเนกประสงค์ ประจำเว็บบอร์ด

ขอประทานอภัยในความละลาบละล้วง

แบบว่า  คุณเพ็ญชมพู เป็นสิ่งมีชีวิตแบบเรา ๆ หรือว่า เป็น Superior 'Search Engine' ครับ

ป้อนข้อมูลอะไรเข้าไป  ได้คำตอบออกมาหมด  ???


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 22 ก.ค. 21, 09:28


คอยครับ

ปล. ถาดวงรีเป็นเส้นสลับสีกับสีขาว  ไม่ใช่ดอกดวงแบบถาดกลมรึเปล่าครับ
[/quote]

เป็นลายดอกไม้แบบถาดกลมครับ
[/quote]

ขอยลรูปหน่อยซีครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: unicorn9u ที่ 22 ก.ค. 21, 15:12


คอยครับ

ปล. ถาดวงรีเป็นเส้นสลับสีกับสีขาว  ไม่ใช่ดอกดวงแบบถาดกลมรึเปล่าครับ

เป็นลายดอกไม้แบบถาดกลมครับ
[/quote]

ขอยลรูปหน่อยซีครับ
[/quote]

ต้องขอโทษจริงๆครับ เพราะของอยู่ที่บ้านแม่ที่สิงห์บุรี
ส่วนผมอยู่กทม.ครับ

หน้าตาประมาณนี้ครับ
Cr ภาพจาก Lazada นะครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 22 ก.ค. 21, 15:15
.


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 24 ก.ค. 21, 09:00


คอยครับ

ปล. ถาดวงรีเป็นเส้นสลับสีกับสีขาว  ไม่ใช่ดอกดวงแบบถาดกลมรึเปล่าครับ

เป็นลายดอกไม้แบบถาดกลมครับ

ขอยลรูปหน่อยซีครับ
[/quote]

ต้องขอโทษจริงๆครับ เพราะของอยู่ที่บ้านแม่ที่สิงห์บุรี
ส่วนผมอยู่กทม.ครับ

หน้าตาประมาณนี้ครับ
Cr ภาพจาก Lazada นะครับ
[/quote]

น่าจะคนละช่วงเวลากันนะครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 24 ก.ค. 21, 10:01
รำลึกถึงความหลัง (ให้ชาวบ้านอ่าน) ต่อ

เคยแย้มมาก่อนว่า  คุณยายเป็นสาวชาวสวนในละแวกคลองบางแวก  ท่านบอกว่ายุคท่าน  คนในย่านนี้จะมีอาชีพปลูกหมากพลูขาย

วันที่คุณชวดของคุณตามาเสาะหาลูกสะใภ้ไปให้ลูกชาย playboy สุดที่รัก  คุณยายก็เห็นท่าน 

คุณยายเล่าให้แม่ฟังว่า  ผู้หญิงคนนี้ท่าทางเด็ดขาด  เดินตัวตรงและเร็ว  มีคนถือตะกร้าหมากตามหลัง

คุณยายไม่ได้นึกถึงเหตุผลของคุณชวด  แล้วตอนนั้นท่านก็มีแฟนอยู่แล้ว  เป็นนายทหารเรือ

ผมเดาว่าแฟนคุณยายน่าจะเป็นชั้นสัญญาบัตร  เพราะท่านเล่าว่า  แฟนท่านจะมาหาในตอนเย็น  นั่งเรือมา  โดยมีคนพายให้

พ่อแม่คุณยายก็รู้  เพราะคุณยายเคยเล่าว่า  พ่อคุณยายไม่ชอบแฟนคุณยาย  ท่านติงว่า 'เป็นทหารเรืออะไรกัน  พายเรือไม่เป็น  ต้องให้คนพายให้'


สรุปว่า ดวงคุณยายต้องได้กับคุณตา


จากวันนั้นก็ถึงวันดูตัว  แม่ผมเล่าว่า

แม่คุณยายนัดสถานที่ที่ร้านขายของร้านหนึ่งในย่านสำเพ็ง  เจ้าของร้านกับแม่คุณยายเป็นเพื่อนกัน

วันนั้นคุณยายมีประจำเดือนจึงไม่อยากไป  แต่เป็นความจำเป็น  จึงต้องเดินทางแบบตัวงอ ๆ

    (สงสัยจังว่า  การเดินของแม่ลูกคู่นี้เป็นอย่างไร  ต้องออกมาทางเรือแน่ ๆ แล้วอย่างไรต่อจึงมาถึงสำเพ็งได้  มาขึ้นบกที่ท่าน้ำราชวงศ์เลยรึเปล่าครับ)

พอไปถึงร้านก็เดินไปขึ้นบันไดขึ้นไปชั้นสอง 

แม่เล่าว่า  'คุณยายบอกแม่ว่า  สมัยนั้นร้านค้าจะรับแขกกันบนชั้นสอง  ชั้นล่างสำหรับลูกค้ามาซื้อของ
ตรงจุดหนึ่งบนพื้นของชั้นสอง  เค้าจะเจาะรูไว้ให้คนข้างบนส่องดูความเป็นไปของชั้นล่าง'

คุณยายเล่าว่าตอนเดินไปขึ้นบันไดก็เห็นผู้หญิงคนที่เคยมาหาแม่คุณยาย  เธอนั่งอยู่กับผู้ชายหนุ่ม ๆ ท่าทางโก้มาก

แต่คุณยายไม่ได้ติดใจอะไร

พอขึ้นมาบนชั้นสองแล้วถึงรู้ว่า  จุดประสงค์ของการมาที่นี่ในวันนี้คือมาดูตัวกัน (แอบดูทางรูที่ว่า)


จากนั้นก็ลงมาแนะนำตัวแล้วไปทานอาหารกัน

ผมถามแม่ว่าคุณยายบอกรึเปล่าว่ากินที่ไหน  แม่บอกว่าไม่ได้ถาม
ผมเดาว่า  คนหาร้านต้องเป็นคุณตาแน่ ๆ

    (เลยสงสัยว่า  ยุคปลาย ร.6  แถวสำเพ็งมีร้านอาหารหรู ๆ กันแล้วยังครับ ใจนึกไปถึง 'ก๊กจี่ภัตตาคาร' แต่ข้อมูลบอกว่าร้านเปิดในยุคเปลี่ยนแปลงการปกครอง)

แม่เล่าว่าเคยถามคุณตาว่า  ตอนเห็นคุณยายครั้งแรกรู้สึกอย่างไร
คุณตาบอกว่า  ขาวจั๊วะ (สมัยนั้นใช้คำนี้แล้วยังหนอ) แต่ตัวงอ  ตอนแรกนึกว่าหลังค่อม  เลยพาลใจเสีย

แม่ถามคุณยายบ้าง  ท่านบอกว่า  ท่าทางยะโส

แนบรูปคุณยายมาให้ชมครับ  เป็นภาพถ่ายตอนท่านเป็นผู้ใหญ่แล้ว
เสียดายเวลาจัง  ผมกับคุณยายสนิทกันมากเพราะนอนด้วยกันมาจนกระทั่งโต
แต่ช่วงวัยรุ่นเรามัวแต่วุ่นเรื่องเล่นเรื่องรัก (ยกเว้นเรื่องเรียน) เลยไม่ได้ถามไถ่อดีตจากท่าน
ถ้าสามารถย้อนเวลากลับไปหาท่านได้สัก 1 ชม.  ผมจะแคะออกมาให้หมดเลย

(http://image.free.in.th/v/2013/il/210724030838.jpg) (http://picture.in.th/id/17aebdf0956bb8349f7c264ed8a82aea)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 26 ก.ค. 21, 08:33
ชิ้นนี้ไม่ใช่สมบัติคุณตา  แต่เป็นของคุณยาย

คุณยายไม่มีสมบัติอะไรเพราะฐานะของท่านไม่เลิศหรู

ท่านบอกว่าเจ้าของดั้งเดิมคือคุณชวด (ฝั่งคุณยาย) เป็นของติดตัวท่าน

แสดงว่าเก่าแก่ตั้งแต่สมัย ร.6

ท่านให้คุณยายก่อนออกมาตั้งครอบครัวกับคุณตา

คุณยายให้ผมไว้ก่อนท่าน 'ออกเดินทางต่อ'

ผมเก็บไว้จนลืม

ผมว่าเป็นงานที่ละเอียดและสวยนะครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/ik/210726015804.jpg) (http://picture.in.th/id/61526278fb65039f08ca1fb6f3f11cc5)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ก.ค. 21, 11:31
สาวยุคคุณทวด คาดเข็มขัดนากทับผ้าถุง  มีมีดพกนากเล่มเล็กๆห้อยจากเข็มขัด ติดตัว   เพื่อใช้งานเล็กๆน้อยๆประจำวัน  ตัดโน่น หั่นนี่  ผ่านั่น  ใช้งานด้วยและเป็นของประดับเข็มขัดด้วยค่ะ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 26 ก.ค. 21, 16:19
พวง มีดพกนาก (http://auctiong.uamulet.com/AuctionGoodsDetail.aspx?qid=619354&sortby=ASC) กับ อุปกรณ์ส่วนตั๊ว..ส่วนตัว ทำด้วยนากเช่นกัน ไม้แคะหู+ไม้จิ้มฟัน (https://www.gold2diamond.com/products_detail/view/7479878)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 26 ก.ค. 21, 20:59
สามารถเลื่อนขึ้นลงได้ ;D

https://www.facebook.com/gold2diamond1/videos/317394526213211/


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 27 ก.ค. 21, 08:26
พวง มีดพกนาก (http://auctiong.uamulet.com/AuctionGoodsDetail.aspx?qid=619354&sortby=ASC) กับ อุปกรณ์ส่วนตั๊ว..ส่วนตัว ทำด้วยนากเช่นกัน ไม้แคะหู+ไม้จิ้มฟัน (https://www.gold2diamond.com/products_detail/view/7479878)

อุ๊ย... หน้าตาเหมือนกันเลย

ถ้าขัดคงแอร่มแบบนี้


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 27 ก.ค. 21, 08:27
สาวยุคคุณทวด คาดเข็มขัดนากทับผ้าถุง  มีมีดพกนากเล่มเล็กๆห้อยจากเข็มขัด ติดตัว   เพื่อใช้งานเล็กๆน้อยๆประจำวัน  ตัดโน่น หั่นนี่  ผ่านั่น  ใช้งานด้วยและเป็นของประดับเข็มขัดด้วยค่ะ

นาก กับ เงิน  อย่างไหนแพงกว่ากันครับ อ.


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.ค. 21, 17:30
ทอง
เงิน
นาก
ค่ะ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: Jalito ที่ 27 ก.ค. 21, 20:32
น่าจะเป็นข้อความสั้นที่สุดของอาจารย์เทาชมพู ในเรือนไทยแห่งนี้เลย


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 27 ก.ค. 21, 21:23
ทอง
เงิน
นาก
ค่ะ

ถ้าเปรียบเทียบสร้อยรูปพรรณต่อน้ำหนัก ๑ บาท เรียงลำดับตามราคาดังนี้ ทอง (https://www.priceza.com/s/ราคา/สร้อยคอ-หนัก-15-บาท-ลายทาโร่) นาก (https://www.priceza.com/s/ราคา/สร้อยข้อมือนากแท้-40) เงิน (https://www.priceza.com/s/ราคา/สร้อยเงินแท้หนัก1บาท)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ก.ค. 21, 09:13
พวกรูปพรรณ ตั้งราคาขายเท่าใดก็ได้  ต้องดูด้วยว่ารับซื้อคืนในราคาเท่าไร หรือไม่รับซื้อคืน

ในสมัยโบราณ ทองกับเงินเป็นของมีค่า  เห็นได้จากคำพูดของนางทองประศรีเมื่อแย้งพลายแก้ว ไม่ให้แต่งงานกับนางพิม
พ่อเจ้าเขาตายไปนานแล้ว            ลูกแก้วจงโปรดแกเสียก่อน 
บวชสักสองพรรษาอย่าอาวรณ์       สึกมาแม่จะผ่อนให้มีเมีย 
จะขอให้เป็นลูกเขยเจ้าพระยา        ฟังคำแม่ว่าจงทิ้งเสีย 
อย่างอีพิมไม่น่ามาเป็นเมีย           กะปลกกะเปลี้ยปลอบลูกพิไรไป 
งามกว่าพิมนี้ก็มีมั่ง                    หรือจะเอาชาววังจะขอให้ 
ถวายจานเงินจานทองต้องพระทัย    จะได้นางในที่ชื่นตา


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ก.ค. 21, 09:15
อีกตอนในสี่แผ่นดิน หลังจากพลอยแต่งงานกับคุณเปรมไปแล้ว  พูดเรื่องเชี่ยนหมากนาก  ว่าเป็นของไม่มีราคาในบ้านเศรษฐีอย่างคุณเปรม
หาหนังสือสี่แผ่นดินไม่เจอ  ไม่งั้นจะลอกมาให้อ่านกันค่ะ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 28 ก.ค. 21, 09:55
เรื่องลำดับของ ทอง นาก เงิน มีอยู่ในกระทู้ สงสัยประวัติความเป็นมาคำว่า "โปเจียม" ค่ะ (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=6341.msg174990#msg174990)

โปเจียม (寶章) คือเข็มสำหรับติดอกเสื้อกรรมการประกวดเครื่องโต๊ะ (โต๊ะเครื่องบูชาอย่างไทยที่ตั้งแต่งด้วยเครื่องกระเบื้องจีน) เอาไว้บอกตำแหน่ง เนื่องจากพัดปักอยู่ในเครื่องโต๊ะ  ถ้าเป็นเข็มชั้นสูงทำด้วยทองคำ รองลงมาทำด้วยนาก ชั้นต่ำทำด้วยเงิน

จากหนังสือ "ตำนานเรื่องเครื่องโต๊ะและถ้วยปั้น" พระนิพนธ์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 28 ก.ค. 21, 10:02
ทอง
เงิน
นาก
ค่ะ

ขอบคุณครับ

ไปค้นรูปสมบัติเก่า ๆ ที่เคยถ่ายไว้  ไม่เคยเห็นพวก นาก เลย

เท่าที่จำได้คุณยายใส่แต่เข็มขัดเงิน

(http://image.free.in.th/v/2013/ik/210728032905.jpg) (http://picture.in.th/id/e9fc511ed05626a0b03893ace0b825bb)

เอ๊ะ  หรือว่าชิ้นล่างจะเป็นนากหว่า


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 28 ก.ค. 21, 10:24
เรื่องของเข็มขัดเงิน เข็มขัดนาก มีกล่าวถึงอยู่ในกระทู้ ท่านผู้หญิงกลีบ มหิธร (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=6285.msg144035#msg144035)

วันสมรสของท่านผู้หญิงกลีบ แม้บรรยายไว้ในหนังสือเพียงย่อหน้าเดียว แต่ก็ชัดเจนมองเห็นภาพ  ในยุคนั้น ไม่มีชุดเจ้าสาวเป็นพิเศษสำหรับวันนี้  เจ้าสาวคงจะแต่งชุดที่ดีที่สุดเท่าที่มี   ท่านผู้หญิงกลีบนุ่งผ้าลายขัดมัน  คาดเข็มขัดเงิน ใส่เสื้อมีเอ็น ปลายเอวแหลมติดลูกไม้โดยรอบ  และห่มแพรจีบสไบเฉียง  ไม่ได้สวมรองเท้า

เข็มขัดเงิน สาว ๆ สมัยนั้นนุ่งผ้าไม่มีขอบเอว ไม่มีซิป ไม่มีตะขอ ก็ต้องอาศัยเข็มขัด ปกติเข็มขัดหรูหราที่สุดคือเข็มขัดทอง รองลงมาคือเข็มขัดนาก  เข็มขัดเงินอยู่อันดับสาม


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ก.ค. 21, 10:55
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=3364.90


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 28 ก.ค. 21, 14:21
อีกตอนในสี่แผ่นดิน หลังจากพลอยแต่งงานกับคุณเปรมไปแล้ว  พูดเรื่องเชี่ยนหมากนาก  ว่าเป็นของไม่มีราคาในบ้านเศรษฐีอย่างคุณเปรม

คุณชายคึกฤทธิ์เขียนถึงตอนนี้ไว้ว่า

“พลอยเคยฝันว่าจะเริ่มชีวิตกับพี่เนื่องด้วยตัวเปล่า แล้วเริ่มสร้างชีวิตนั้น จนกว่าจะมีทุกอย่างที่สองคนจะพึงปรารถนา จะทำชีวิตนั้นให้เต็มสมบูรณ์ ไม่มีสิ่งใดบกพร่อง แต่แล้วพลอยก็ต้องมาเริ่มชีวิตกับคุณเปรมพร้อมด้วยโภคทรัพย์ต่าง ๆ มากมาย จนความปรารถนาตามปกติของมนุษย์นั้น ไม่เป็นสิ่งสำคัญอีกต่อไป เชี่ยนหมากที่วางอยู่ตรงหน้าในขณะนี้ อาจมีความหมายมากนักหนา ถ้าพลอยหามาได้กับพี่เนื่องด้วยการอดออม เสียสละ แต่เชี่ยนหมากนากอันเดียวกันนี้ กลับไร้ความหมาย เพราะคุณเปรมหยิบยื่นมาให้จากในตู้ ซึ่งเต็มไปด้วยเครื่องเงินเครื่องทองและเครื่องถม เชี่ยนหมากอันเดียวกันนี้ถูกนำออกมาใช้ในฐานะเป็นของเลว ควรแก่การใช้ลากถูประจำวัน ไม่มีความหมายถึงการร่วมแรงร่วมใจ ช่วยกันหาช่วยกันอดออมแม้แต่น้อย”

ของที่มีราคาสูงใช่ว่าจะมีความหมายสำหรับทุกคน อย่าง "เชี่ยนหมากนาก" ในความฝันของพลอย หากรักครั้งแรกสมหวัง เชี่ยนหมากนากจะมีความหมายอย่างมากในบ้านของพลอยกับพี่เนื่อง แต่ในชีวิตจริง เชี่ยนหมากนากอันเดียวกันนี้กลับไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง เมื่ออยู่ในบ้านของมหาเศรษฐีอย่างคุณเปรม


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ก.ค. 21, 19:00
ช่วยกลับไปอ่านตรงนี้อีกหลายๆทีค่ะ

คุณเปรมหยิบยื่นมาให้จากในตู้ ซึ่งเต็มไปด้วยเครื่องเงินเครื่องทองและเครื่องถม เชี่ยนหมากอันเดียวกันนี้ถูกนำออกมาใช้ในฐานะเป็นของเลว ควรแก่การใช้ลากถูประจำวัน


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 31 ก.ค. 21, 10:02
แม่เพิ่งส่งรูปมาให้ (ถ้าผมถ่ายเอง  จะชัดกว่านี้)  บอกว่าเพิ่งนึกได้ว่ายังมีของเก่า (มาก) อีก 1 ชิ้น  แต่มันกลายเป็นพันธุ์ทางเพราะเอาไปตบแต่งใหม่

(http://image.free.in.th/v/2013/iy/210731030335.jpg) (http://picture.in.th/id/bbce60d664739b3ca552cda51b1191fe)

รูปมาพร้อมกับเรื่อง

แม่เล่าว่า  ตอนคุณตาเรียนจบจาก รร. ราชวิทยาลัย  คุณชวดก็ให้รางวัล (ประมาณว่าจ้างเรียน)

ตอนแรกรางวัลที่คุณชวดตั้งใจจะให้เป็นทอง  แต่คุณตาบ่ายเบี่ยง  แม่บอกว่าเหตุผลเพราะทองคำจะฮิตในหมู่คนต่างจังหวัด
ไม่ใช่คนกรุงเทพฯ (ที่เวียนว่ายอยู่ในวงสังคม)  ซึ่งคุณตาแม้จะเกิดต่างจังหวัดแต่ก็กลายเป็นคนกรุงเทพฯ ไปแล้ว

คุณตาก็เลยขอต่อรองเปลี่ยนเป็นเงินแทน  แล้วเอาไปซื้อแหวนเพชรไว้ตกหญิงตามถนัด
น่าจะเป็นที่ห้างฝรั่งที่ อ. เคยเอ่ยมานะครับ  ไม่รู้ว่าตอนนั้นราคาค่างวดเป็นอย่างไร

แม่บอกว่าตอนคุณตาให้แหวนวงนี้กับแม่  ตัวเรือนเป็นของดั้งเดิม  แต่แบบเป็นของผู้ชาย  ทรงประมาณแหวนรุ่น รร. นายร้อยฯ

แม่ก็เก็บไว้อย่างนั้นจนถึงจุดที่ชีวิตของแม่ก้าวขึ้นมาถึงจุดที่ต้องเข้า 'สังคม'  แม่ก็เลยเอาแหวนคุณตาไปปรับเป็นแหวนของผู้หญิง
แต่เนื่องจากหัวแหวน (3 กะรัต) ใหญ่เกินเรือนแหวนของผู้หญิง   แม่ก็เลยทำเรือนใหม่เป็นอย่างที่เห็น  คือกึ่งชายกึ่งหญิง

ผมดูไม่ออกว่ามันต่างจากเพชรปัจจุบันอย่างไร

แต่ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือ 

คุณตาเรียนจบคุณชวดให้แหวนเพชร
ส่วนผมเรียนจบ  พ่อกับแม่ให้เพียงโอวาทว่า 'ออกไปหางานหาเงินใช้เอง ไม่ต้องมายุ่งกับเงินฉัน'

 :(


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 31 ก.ค. 21, 11:08
แหวนเพชร 3 กะรัต สมัยนี้ถือว่าใหญ่เอาการค่ะ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 31 ก.ค. 21, 11:17
เรื่องเพชร จนปัญญา ไม่มีความรู้มากไปกว่าเคยได้ยินมาว่าเพชรรุ่นเก่า การเจียระไนจะไม่ละเอียดเท่าเพชรรุ่นใหม่ เพราะเครื่องมือผิดกัน 
แต่รุ่นเก่าเจียระไนแบบก้นลึกแหลมกว่ารุ่นเก่า  ทำให้น้ำเพชรดูลึกและไวกว่า

แหวนของคุณแม่ ดูในรูป เม็ดใหญ่สวยมาก  เรือนก็เก๋ สวมได้ทั้งผู้ชายผู้หญิง   เรียกว่าสามารถตกทอดมาถึงลูกชายและลูกสาวได้เท่าๆกัน  ไม่ต้องเปลี่ยนเรือน
ถ้าคุณโหน่งได้แหวนวงนี้จากคุณแม่ รักษาไว้ให้ดี 


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 01 ส.ค. 21, 09:17
เรื่องเพชร จนปัญญา ไม่มีความรู้มากไปกว่าเคยได้ยินมาว่าเพชรรุ่นเก่า การเจียระไนจะไม่ละเอียดเท่าเพชรรุ่นใหม่ เพราะเครื่องมือผิดกัน 
แต่รุ่นเก่าเจียระไนแบบก้นลึกแหลมกว่ารุ่นเก่า  ทำให้น้ำเพชรดูลึกและไวกว่า

แหวนของคุณแม่ ดูในรูป เม็ดใหญ่สวยมาก  เรือนก็เก๋ สวมได้ทั้งผู้ชายผู้หญิง   เรียกว่าสามารถตกทอดมาถึงลูกชายและลูกสาวได้เท่าๆกัน  ไม่ต้องเปลี่ยนเรือน
ถ้าคุณโหน่งได้แหวนวงนี้จากคุณแม่ รักษาไว้ให้ดี 

ขอบคุณครับ อ.


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 03 ส.ค. 21, 08:17
ลืมไปแล้ว ว่าคุณเพ็ญชมพูสอนให้ว่าต้องทำลิ้งค์ยังไงถึงไม่ยืดยาวแบบนนี้

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A2#%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A2_%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%B2


โรงเรียนราชวิทยาลัย (https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A2#%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A2_%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%B2)

เรียน คุณเพ็ญชมพู  สอนวิธีทำหน่อยซิครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 03 ส.ค. 21, 08:22
ถ้าคุณชวดเข้าร้านเพชรพลอยสมัยรัชกาลที่ 6   สมบัติที่ตกทอดมาน่าจะมีล็อกเก็ตเพชรแบบนี้รวมอยู่ด้วย

สงสัยเป็นอย่างที่ อ. คะเนไว้ครับ

ชิ้นนี้ไม่มีที่มา  นอกจาก 'แม่เห็นในกล่องในลิ้นชักโต๊ะคุณตา  ก็เลยขอ'

(http://image.free.in.th/v/2013/in/210803014733.jpg) (http://picture.in.th/id/677860efec46a5ad5683bc9ade9c2c77)

แม่บอกเป็น โอปอล


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ส.ค. 21, 08:47
โอปอล ไม่ใช่พลอยที่นิยมกันสมัยรัชกาลที่ 6   เข็มกลัดชิ้นนี้น่าจะอยู่หลังยุคนั้นค่ะ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 03 ส.ค. 21, 08:50
เรียน คุณเพ็ญชมพู  สอนวิธีทำหน่อยซิครับ

วิธีทำแสดงไว้ในภาพนี้ ไม่ยากหนอ  ;D

โรงเรียนราชวิทยาลัย (https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A2#%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A2_%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%B2)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 04 ส.ค. 21, 09:33
ไม่จิงอ้ะ  ยากจะตาย  ฮึ  :'(


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 04 ส.ค. 21, 09:41
โอปอล ไม่ใช่พลอยที่นิยมกันสมัยรัชกาลที่ 6   เข็มกลัดชิ้นนี้น่าจะอยู่หลังยุคนั้นค่ะ


ขอบคุณครับ  งั้นคุณตาคงซื้อไว้ตอนทำงานแล้ว


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 04 ส.ค. 21, 09:53
ใคร่ขอคำอธิบายครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/id/210716030631.png) (http://picture.in.th/id/1093f1f334127dab70c6d56c7519f735)

แพรแถบกว้าง 3 ซม.

หากคุณโหน่งพลิกดูข้างหลังเหรียญ จะพบคำอธิบาย  

คุณโหน่งพลิกดูข้างหลังเหรียญเพื่อดูคำตอบหรือยังหนอ  ;D


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 04 ส.ค. 21, 09:59
ใคร่ขอคำอธิบายครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/id/210716030631.png) (http://picture.in.th/id/1093f1f334127dab70c6d56c7519f735)

แพรแถบกว้าง 3 ซม.

หากคุณโหน่งพลิกดูข้างหลังเหรียญ จะพบคำอธิบาย  

คุณโหน่งพลิกดูข้างหลังเหรียญเพื่อดูคำตอบหรือยังหนอ  ;D

ต้องขอประทานอภัยอย่างสูง  ยังไม่สามารถทำได้ครับ  เพราะสินค้าอยู่คนละบ้าน  ต้องหาโอกาสตะล่อมคนแก่ (ขี้หงุดหงิด) ให้ปีนบันไดขึ้นไปค้นครับ

ขอเวลาแป๊บ (ใหญ่ ๆ) นะครับ 


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 05 ส.ค. 21, 09:19
ใคร่ขอคำอธิบายครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/id/210716030631.png) (http://picture.in.th/id/1093f1f334127dab70c6d56c7519f735)

แพรแถบกว้าง 3 ซม.

หากคุณโหน่งพลิกดูข้างหลังเหรียญ จะพบคำอธิบาย  

คุณโหน่งพลิกดูข้างหลังเหรียญเพื่อดูคำตอบหรือยังหนอ  ;D

มาแย้วครับ

ต้องขอโทษในความล่าช้า  ที่เหรียญบันทึกปีไว้ว่า 2493  แสดงว่าคุณตาได้มาตอนอายุ 50 กว่าแล้ว

ตอนนั้นท่านยังมีความสัมพันธ์กับ รร. อยู่เลย

(http://image.free.in.th/v/2013/ie/210805024525.jpg) (http://picture.in.th/id/cb61ba59bef710907aea8e4a825b9d7d)

คุณเพ็ญชมพูมีเกร็ดเล่าให้ฟังมั้ยครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 05 ส.ค. 21, 09:38
เหรียญที่ระลึกแพรแถบบรมราชาภิเษก ๒๔๙๓ เป็นเหรียญแพรแถบที่ระลึกรุ่นแรกในรัชกาลที่ ๙ เป็นเหรียญที่ออกแบบมาดูเรียบ ๆ แต่แฝงไว้ด้วยความหมาย พระราชพิธีตามโบราณราชประเพณี มีขึ้นในวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ (วันฉัตรมงคล) เหรียญแพรแถบบรมราชาภิเษกมีครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ ๖ และมีเรื่อยมา ยกเว้นในสมัยรัชกาลที่ ๘ ที่พระองค์สวรรคตก่อนที่จะมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

เหรียญรุ่นนี้มีขนาด ๓ เซนติเมตร มี ๓ ชนิด คือ

๑. ทองคำ
๒. เงินกาไหล่ทอง
๓. เงิน

ด้านหน้าเป็น อักษร ภปร ประดิษฐานเหนือพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ภายใต้ พระสัปตปฎลเศวตฉัตร ผู้มีสิทธิ์ประดับคือ พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการสัญญาบัตร ซึ่งได้รับพระราชทาน ออกแบบโดย ศาสตราจารย์หม่อมเจ้ายาใจ จิตรพงศ์ และปั้นแบบโดย ศาสตราจารย์ศิลป พีระศรี

ปัจจุบัน เนื้อทองคำราคาไม่ต่ำกว่า ๕๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนเนื้อเงิน จาก ราว ๆ สองพันบาท ขยับมาเป็นตั้งแต่ ๕,๐๐๐-๖,๐๐๐ บาทขึ้นไปตามแต่สภาพ

ข้อมูลจาก siamcoin (https://m.facebook.com/SiamCoin/posts/1211821408883683?locale2=th_TH)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 06 ส.ค. 21, 08:34
เหรียญที่ระลึกแพรแถบบรมราชาภิเษก ๒๔๙๓ เป็นเหรียญแพรแถบที่ระลึกรุ่นแรกในรัชกาลที่ ๙ เป็นเหรียญที่ออกแบบมาดูเรียบ ๆ แต่แฝงไว้ด้วยความหมาย พระราชพิธีตามโบราณราชประเพณี มีขึ้นในวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ (วันฉัตรมงคล) เหรียญแพรแถบบรมราชาภิเษกมีครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ ๖ และมีเรื่อยมา ยกเว้นในสมัยรัชกาลที่ ๘ ที่พระองค์สวรรคตก่อนที่จะมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

เหรียญรุ่นนี้มีขนาด ๓ เซนติเมตร มี ๓ ชนิด คือ

๑. ทองคำ
๒. เงินกาไหล่ทอง
๓. เงิน

ด้านหน้าเป็น อักษร ภปร ประดิษฐานเหนือพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ภายใต้ พระสัปตปฎลเศวตฉัตร ผู้มีสิทธิ์ประดับคือ พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการสัญญาบัตร ซึ่งได้รับพระราชทาน ออกแบบโดย ศาสตราจารย์หม่อมเจ้ายาใจ จิตรพงศ์ และปั้นแบบโดย ศาสตราจารย์ศิลป พีระศรี

ปัจจุบัน เนื้อทองคำราคาไม่ต่ำกว่า ๕๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนเนื้อเงิน จาก ราว ๆ สองพันบาท ขยับมาเป็นตั้งแต่ ๕,๐๐๐-๖,๐๐๐ บาทขึ้นไปตามแต่สภาพ

ข้อมูลจาก siamcoin (https://m.facebook.com/SiamCoin/posts/1211821408883683?locale2=th_TH)


โอ... อย่างนี้นี่เอง  ขอบคุณครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 12 ส.ค. 21, 09:17
หายไปนาน  มัวแต่ไปตื่นตาตื่นใจกับหนังสือของคุณตา

ท่านเป็นนักอ่านตัวยงเลย  มีทั้งภาษาไทยภาษาอังกฤษ

จำได้ราง ๆ ว่าใครคนหนึ่งเคยรำพึงในกระทู้ว่าหนังสือสมัยโบราณ (มาก ๆ) มักมีที่มามาจากงานศพ

จริงด้วยครับ  หนังสือเก่ามาก ๆ ของคุณตาเป็นหนังสือแจกในงานศพทั้งนั้นเลย  ส่วนใหญ่เป็นพงศาวดารตอนโน้นตอนนี้

(http://image.free.in.th/v/2013/iy/210812024229.jpg) (http://picture.in.th/id/f6699dfdf9415ccaa1148423c6eacc40)

(http://image.free.in.th/v/2013/iz/210812024304.jpg) (http://picture.in.th/id/5f6f55dfd71bd63103597bf88edfcf28)

(http://image.free.in.th/v/2013/iv/210812024328.jpg) (http://picture.in.th/id/a4e4b619b3fbaaba003013916be2c9cf)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 13 ส.ค. 21, 08:49
ที่น่าประหลาดใจคือ ทำไมคุณตาสะสมหนังสือชื่อเดียวกันแต่หลาย versions (อย่าง สามก๊ก ผู้ชนะสิบทิศ ฯลฯ) ก็ไม่รู้

(http://image.free.in.th/v/2013/iw/210813021222.jpg) (http://picture.in.th/id/432fd7e383560ef477be35a3a38f110e)

(http://image.free.in.th/v/2013/ih/210813021505.jpg) (http://picture.in.th/id/038946e42bb4a0c135ea41f9f70a9f84)

(http://image.free.in.th/v/2013/ie/210813021258.jpg) (http://picture.in.th/id/f6f4e50e81b203cf13d82277c1b09229)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 13 ส.ค. 21, 12:33
สามก๊ก เลิศสะแมนแตนมากๆครับ อยากดูเวอร์ชันอื่นด้วยครับ
เวอร์ชันในรูป..พิมพ์ปี 1890 จัดว่าเป็นหนังสือเก่าแล้ว ณ ตอนที่คุณตาสะสม
.
แต่ละเวอร์ชัน มีรูปประกอบมากน้อยไม่เท่ากันครับ (รูปที่เป็นลายเส้นแบบจีน)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 13 ส.ค. 21, 17:16
เท่าที่เคยเห็น ฉบับเก่ากว่าจะมีรูปประกอบมากกว่า แต่ก็มากกว่ากันไม่มากนัก
เข้าใจว่าตัวแม่พิมพ์ซึ่งเป็นลายเส้นรูปภาพ คงจะสึกหรอไปเรื่อย และไม่สามารถทำขึ้นใหม่ได้อีก
.
ที่ศาลสามก๊ก(สุสานเล่าปี่) เมืองเฉิงตู(หนังสือสามก๊กออกสำเนียงว่า เซงโต๋ว) มณฑลเสฉวน
มีหนังสือภาพสามก๊กจำหน่าย จัดพิมพ์ในรูปลักษณ์แนวนอน แบบที่เรียกว่า โก๋วแฉะ ราคาถูกมากครับ
เป็นภาพเล่าเรื่องแบบเต็มเรื่อง เป็นพันๆภาพเลยครับ ดูกันได้เต็มอิ่ม ซึ่งฉบับพิมพ์ไทยคัดเลือกมาลงในหนังสือไม่ถึง10%ของภาพทั้งหมด
.
ลักษณะรูปเล่ม โก๋วแฉะ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 13 ส.ค. 21, 17:20
ในหนังสือประวัติเจ้าพระยายมราช มีรูปบ้านของท่านไหมครับ (บ้านศาลาแดง) กับบรรยากาศถนนสีลมในเวลาโน้น ขอยลหน่อยครับ
.
นอกจากสามก๊กกับผู้ชนะสิบทิศแล้ว น่าจะต้องมี ราชาธิราช ด้วยมังครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 14 ส.ค. 21, 09:35
สามก๊ก เลิศสะแมนแตนมากๆครับ อยากดูเวอร์ชันอื่นด้วยครับ
เวอร์ชันในรูป..พิมพ์ปี 1890 จัดว่าเป็นหนังสือเก่าแล้ว ณ ตอนที่คุณตาสะสม
.
แต่ละเวอร์ชัน มีรูปประกอบมากน้อยไม่เท่ากันครับ (รูปที่เป็นลายเส้นแบบจีน)

พลิก ๆ ดูแล้ว  ไม่มีรูปประกอบเลยครับ  ตัวหนังสือล้วน

ส่วน version อื่น  ก็คล้ายกันครับ 

ผมไม่ทราบว่า  ตอนคุณตาซื้อมาแต่ละ version นี่  หน้าปกเป็นอย่างไร  เพราะท่านเอามาจัดทำปกใหม่เป็นปกแข็งแล้วลงสลักที่สันเป็นชื่อของท่าน
นัยว่าน่าจะเป็นที่นิยมสำหรับคนชอบสะสมหนังสือ  เพราะมีอีกหลาย ชื่อ ที่ท่านอามาทำปกแข็งพร้อมสลักชื่อตัวเอง


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 14 ส.ค. 21, 09:48
ในหนังสือประวัติเจ้าพระยายมราช มีรูปบ้านของท่านไหมครับ (บ้านศาลาแดง) กับบรรยากาศถนนสีลมในเวลาโน้น ขอยลหน่อยครับ
.
นอกจากสามก๊กกับผู้ชนะสิบทิศแล้ว น่าจะต้องมี ราชาธิราช ด้วยมังครับ


หนังสือหนามาก  รูปประกอบก็เยอะ  ส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/id/210814030608.jpg) (http://picture.in.th/id/ffedafd1ba4a482547e02e42e2769184)

รูปบ้านศาลาแดงมีรูปเดียว  เห็นกันจนเกร่อ  รูปถ่ายเอียงมาตั้งแต่ต้นฉบับ
(http://image.free.in.th/v/2013/ik/210814030747.jpg) (http://picture.in.th/id/d574b9c901f4f310b483ff3cd75ea9a0)

(http://image.free.in.th/v/2013/iq/210814030821.jpg) (http://picture.in.th/id/7f83bb0fea558ac52c1e82102b788a3a)

(http://image.free.in.th/v/2013/id/210814030840.jpg) (http://picture.in.th/id/2cc64db11af7193420bc287b788efd02)

(http://image.free.in.th/v/2013/io/210814030910.jpg) (http://picture.in.th/id/551cdb4e987264b7b52a91fbef08c6e1)

ใครพอทราบว่า 2 คนที่นั่งพับเพียบกับหมาคือใครครับ
(http://image.free.in.th/v/2013/ix/210814030930.jpg) (http://picture.in.th/id/444c86f29bc22d376fbc829430465407)

รูปนี้ท่าแปลกตาดี  ถ่ายยากมากเพราะอยู่ประมาณกลางเล่ม
(http://image.free.in.th/v/2013/io/210814031016.jpg) (http://picture.in.th/id/dc5402aee4c181e4521859b03ac4570b)

(http://image.free.in.th/v/2013/iv/210814031058.jpg) (http://picture.in.th/id/7d58a2516b12fc1d730b2f799b236869)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 14 ส.ค. 21, 14:18
เสียดายจัง ปกหนังสือถูกเปลี่ยนไปแล้ว
.
ลายมือดินสอที่เขียนว่า ป.ไชยวณิชย์ กับ ปกสีเลือดหมู คงเป็นคำสั่งจัดทำสินะครับ
.
ส.เสือใส่หางอย่างกับ ษ แปลกนะครับ // สมัย ร.๕ คงมีการเขียนแบบนี้จริงๆ ถึงได้มีตะกั่วเรียงพิมพ์แบบนี้


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 14 ส.ค. 21, 14:38
หนังสือประวัติเจ้าพระยายมราช มีรอยเย็บเล่มเสริมภายหลัง?เพื่อกันสันแตก เลยเปิดยากเลย
.
คนนั่งพับเพียบ..ไม่รู้
รู้แต่หมา..ตัวที่ขนปรกจนไม่เห็นตา เป็นของเจ้าพระยารามราฆพ+คุณประจวบ สุขุม(นามสกุลเดิม)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 15 ส.ค. 21, 07:30
ส.เสือใส่หางอย่างกับ ษ แปลกนะครับ // สมัย ร.๕ คงมีการเขียนแบบนี้จริงๆ ถึงได้มีตะกั่วเรียงพิมพ์แบบนี้

ในฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๑ ค.ศ. ๑๘๖๗ (พ.ศ. ๒๔๑๐) มีตัวอักษรลักษณะนี้อยู่ ๓ ตำแหน่ง ส่วนในฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๒ ค.ศ. ๑๘๙๐ (พ.ศ. ๒๔๓๓) เหลืออยู่ตำแหน่งเดียวคือตำแหน่งที่ ๓

อักษร ส ลักษณะนี้น่าจะเกิดจากความผิดพลาดในการจัดตัวอักษรมาพิมพ์ ในการพิมพ์ครั้งที่ ๒ จึงมีการแก้ไข (แม้ไม่ทั้งหมด) ไม่น่าจะมีการเขียนจริง ๆ แบบนี้


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 15 ส.ค. 21, 09:49
ขอบคุณคุณธสาคร กับคุณเพ็ญชมพูครับ

คุณเพ็ญชมพูมีฉบับที่เก่ากว่าด้วย


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 15 ส.ค. 21, 10:09
ค้นไปค้นมาพบหนังสือตำราพรหมชาติ

ปกจัดทำใหม่ตามเคย  รวม 3 เล่ม  แต่รายละเอียดกลับอยู่ในเล่มที่ 3

เป็นผ้าอย่างดีสีแดง  แต่บัดนี้ทรุดโทรมไปตามเวลา  เลยไม่ได้ถ่ายรูปไว้

(http://image.free.in.th/v/2013/ir/210815031908.jpg) (http://picture.in.th/id/618d7063ce4d95f8856b754b26e4422a)

ขนาดสมัย ร.ศ. 120 ยังพิมพ์ไปแล้วตั้ง 13 ครั้ง  แสดงว่ายุคนั้นฮิตสุด ๆ

ราคา 3 บาท  กับหนังสือหนาประมาณ 1 นิ้ว  ไม่รู้นับว่าแพงรึเปล่า


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 16 ส.ค. 21, 08:57
หนังสืออีกประเภทที่คุณตามีเยอะมากคือ นิตยสาร (รายอะไรก็ไม่รู้)

มีนิตยสารเกี่ยวกับพรรณไม้ชื่อ แดงต้อย สามารถสมัครสมาชิกด้วยการส่งแสตมป์ราคา 6 สตางค์

แล้วยังมีนิตยสารบันเทิง  คนเขียนบทความใช้คำพูดเพราะมาก  ดิฉัน ผม ท่าน คุณ  คำบรรยายใต้รูปดาราจะใช้คำว่า นางสาว/นาย ตามด้วยชื่อดาราทุกครั้ง

แต่นิตสารที่ท่านซื้อไว้เยอะมากชื่อ ไทยเขษม

ท่านซื้อไว้อยู่ 2-3 ปี  ปีแรก ๆ ท่านสั่งทำปกแข็งหุ้ม  เป็นแบบ year book  ปกวัสดุอย่างดีสลักชื่อท่านด้วยสีทองที่สัน

ปีแรกที่ทำคือ 2467  ตอนนั้นท่านเพิ่งอายุ 27 เอง  แสดงว่าท่านเป็นนักอ่านมาตั้งแต่วัยรุ่น  แถมเป็นคนรักษาของด้วย

มีช่วงหนึ่งมีการเปลี่ยนชื่อหัวเป็น ไทยกำสรด  ผมเคยอ่านจากที่ไหนก็ลืมไปแล้วว่าเหตุผลคือเป็นช่วงไว้ทุกข์ ร.6 (ถ้าจำไม่ผิด)

ข้างในมีบทความนานาแบบนิตยสารทั่วไป  รวมถึงรายการทำอาหาร  มีเมนูแปลก ๆ มากมายทุกฉบับ  ถ้าคนทำอาหารเป็นแล้วชอบความแปลกไม่เหมือนใครน่าลองทำตามมาก

มีศัพท์คำหนึ่งที่เมื่ออ่านครั้งแรกงงไปเลยว่ามันคืออะไร  --- น้ำเคยดี

ปล. สำเนานิยายเรื่อง เหล็กน้ำพี้  ที่พี่มนันยาให้ทำ ใช่ทำให้ อ. รึเปล่าครับ  เอามาจากนิตยสารนี้ครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/ie/210816021923.jpg) (http://picture.in.th/id/259f24feccb85c1d845d73ebe7b9acc6)

(http://image.free.in.th/v/2013/ii/210816021945.jpg) (http://picture.in.th/id/d516b5fb04871b22669ec0a932a8ceb6)





กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 16 ส.ค. 21, 09:11
เรื่องความชอบอ่านหนังสือก็ถ่ายทอดมาถึงแม่ด้วย  แต่แม่ชอบอ่านเรื่องแปล

(http://image.free.in.th/v/2013/ig/210816023647.jpg) (http://picture.in.th/id/9885c5f71aef64400b60c26f8e9d313e)

(http://image.free.in.th/v/2013/ir/210816023713.jpg) (http://picture.in.th/id/b6a3a2401452b27c627194b8a07dd280)

(http://image.free.in.th/v/2013/ij/210816023732.jpg) (http://picture.in.th/id/249dca8325b0b1448dffc72ce5e62e0d)

ตอนนั้นยังเด็ก ไม่กล้าค้นสมบัติคุณตา  ผมเห็นแต่นิยายแปลของแม่  ก็เลยเริ่มต้นด้วยการเป็นคนชอบอ่านเรื่องแปลตามแม่


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 16 ส.ค. 21, 09:23
ตรงนี้ขอรำพึง

ผมเป็นคนสุดท้ายของ 'สาย' นี้  แล้วก็บ้าหอบฟางอยู่คนเดียว

ตอนนี้ก็ใกล้ฝั่งเข้ามาทุกที  ถ้าจบสิ้นไป

ของมีคุณค่าดี ๆ ที่สะสมมา (รวมถึงของสะสมของตัวเองด้วย) แม้จะเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ก็จะกระจัดกระจาย

อดรู้สึกเสียดายไม่ได้

ผมทำเท่าที่ทำได้คือฝากเรื่องไว้ให้เพื่อนบ้านว่า ให้บริจาคให้พิพิธภัณฑ์ของนายเอนก นาวิกมูล ทั้งหมด
ซึ่งเค้าจะทำตามหรือไม่ก็ไม่สามารถล่วงรู้ได้แล้ว

ถ้าใครมี idea อื่น ๆ ผมยินดีรับฟังครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ส.ค. 21, 09:35
คุณโหน่งน่าจะติดต่อกับคุณเอนกโดยตรง มากกว่าไปมอบภาระนี้ให้เพื่อนบ้าน    เขาจะสะดวกขนไปให้หรือเปล่าก็ไม่ทราบ
คุณเอนกมี facebook  คุณโหน่งส่งข้อความไปหาได้ค่ะ

https://www.facebook.com/anake.nawigamune


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: CVT ที่ 16 ส.ค. 21, 10:08
ผมเห็นสมบัติเจ้าคุณตาของอาจารย์โหน่งแล้วประทับใจมากครับ

ผมรักการอ่านเพราะจำความได้ก็เห็นหนังสือเต็มบ้าน
พ่อรับนิตยสาร วารสาร สารพัดมาอ่านเป็นประจำ ผมก้พลอยอ่านไปด้วย
มีตู้หนังสือที่มีหนังสือร่วม ๑๐๐ เล่ม ที่เป็นสมบัติตกทอดมาจากย่า และที่พ่อซื้อเอง
ชุดบุเรงนองของยาขอบที่เป็นตอน ๆ สารคดีของพระองค์เจ้าจุลฯ นวนิยายของดอกไม้สด ว. ณ ประมวญมารค


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: kui045 ที่ 16 ส.ค. 21, 11:34
เรื่องความชอบอ่านหนังสือก็ถ่ายทอดมาถึงแม่ด้วย  แต่แม่ชอบอ่านเรื่องแปล

(http://image.free.in.th/v/2013/ig/210816023647.jpg) (http://picture.in.th/id/9885c5f71aef64400b60c26f8e9d313e)

(http://image.free.in.th/v/2013/ir/210816023713.jpg) (http://picture.in.th/id/b6a3a2401452b27c627194b8a07dd280)

(http://image.free.in.th/v/2013/ij/210816023732.jpg) (http://picture.in.th/id/249dca8325b0b1448dffc72ce5e62e0d)

ตอนนั้นยังเด็ก ไม่กล้าค้นสมบัติคุณตา  ผมเห็นแต่นิยายแปลของแม่  ก็เลยเริ่มต้นด้วยการเป็นคนชอบอ่านเรื่องแปลตามแม่

หนังสือชุดนี้ คลาสสิคมากเลยครับ
วงการหนังสือ สื่อสิ่งพิมพ์ กำลังจะตาย
ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
หนังสือเล่ม สู้ออนไลน์ไม่ได้
แต่ผมยังเสพติดกลิ่นกระดาษ กลิ่นหมึก เป็นบางครั้ง


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 16 ส.ค. 21, 12:30
หากต้องการอ่าน “ไทยเขษม” ออนไลน์ เข้าถึงได้จากลิงก์นี้ (ใส่คำว่า 'ไทยเขษม' ลงในช่อง 'สืบค้น' - ผลการสืบค้น พบหนังสือจำนวน ๙๙ เล่ม)

http://eresource.car.chula.ac.th/chula-ebooks/search.php

(http://image.free.in.th/v/2013/ii/210816021945.jpg) (http://image.free.in.th/v/2013/ie/210816021923.jpg)

มีช่วงหนึ่งมีการเปลี่ยนชื่อหัวเป็น ไทยกำสรด  ผมเคยอ่านจากที่ไหนก็ลืมไปแล้วว่าเหตุผลคือเป็นช่วงไว้ทุกข์ ร.6 (ถ้าจำไม่ผิด)

ฉบับ ไทยกำสรด (http://adminebook.car.chula.ac.th/viewer/68517610751971221036910966881171088968657111110243816161/1/2/0/viewer.html)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 16 ส.ค. 21, 14:57
หนังสือเป็นของเก่า ในหมวดที่สามารถชุบชีวิตได้เกือบเต็มร้อย //
ใครๆก็อ่านหนังสือ อ่านกันมานับพันปี // สื่อสารก็ง่าย เพราะผู้พิมพ์ปูทางเพื่อการสื่อสารไว้แล้ว ต่างจากวัตถุโบราณประเภทอื่นที่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญตีความเล่าเรื่อง
.
หนังสือที่ผมเห็นว่าน่าสแกนที่สุดคือ สรรพหนังสือชุดนางสาวไทย
1)เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่คุณน้า ที่ลงแรงลงเงินรวบรวมไว้เป็นกลุ่มก้อน ยากที่จะหาใครสะสมได้มากขนาดนั้น
2)เป็นหนังสือภาพ จึงชวนให้เข้าไปพลิกอ่าน // ในบรรดาความงามของธรรมชาติ หรือศิลปวัตถุใด ก็ไม่มีแรงดึงดูดเท่าความสวยงามของสตรี
3)รูปเล่มแบนบาง สามารถสแกนได้ง่าย // สแกนนะครับ ไม่ใช่ถ่ายรูป การสแกนนี่..ทีเดียวจบ..สามารถกำจัดเงาสะท้อน, กล้องสั่นไหว, torsionจากการแอ่นโค้งของหน้าหนังสือ // เนื่องจากเป็นหนังสือเก่าที่ระบบการพิมพ์ไม่ละเอียด ตั้งค่าการสแกนให้มีความละเอียดปานกลางก็พอครับ คือถ้าตั้งละเอียดสูงสุดนี่..มันจะเห็นแม้กระทั่งลักษณะเส้นใยพืชที่ใช้ทำกระดาษ เปลืองmemoryและเวลาครับ
4)ปัญหาของการสแกนคือ คุณต้องมีเวลากับมัน // ค่อยๆทำวันละเล่มก็ได้ครับ หรือจ้างนักศึกษาให้เขามีรายได้พิเศษก็ได้
5)สแกนเสร็จ ก็อัปโหลดขึ้นเว็บที่ต้องการ // เลือกเว็บที่ไม่บีบหรือลดขนาดไฟล์รูป(กรณีไม่หวงไฟล์ออริจินัล เพราะต้องการฝากไว้ในแผ่นดินอยู่แล้ว) // จะเปิดเว็บเป็นสาธารณะหรือไปพ่วงเว็บองค์กรใดก็ได้ // แล้วทุกอย่างจะเดินไปตามครรลองของอินทรเนตร ผลงานของคุณnathanielnongจะได้รับการทำซ้ำไปตราบนานเท่านาน
6)ต้นฉบับควรเก็บในเชิงอนุรักษ์ครับ ไม่ควรให้ใครมาเปิดดูอีกแล้ว
.
7)ส่วนการสแกนหนังสือประเภท text คนจะเข้าถึงได้ยากกว่า เพราะค้นหาสิ่งที่ต้องการไม่เจอ // เว้นแต่ใช้โปรแกรมแปลงภาพสแกนให้กลายเป็น text นั่นล่ะ..จะได้ประโยชน์สูงสุดจาก search engine
8)วัตถุสะสมอื่นๆ ได้แต่ทำใจครับ ส่งมอบให้คนที่ไว้ใจแล้วก็ปล่อยไปตามกฎอนิจจัง


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 17 ส.ค. 21, 08:37
คุณโหน่งน่าจะติดต่อกับคุณเอนกโดยตรง มากกว่าไปมอบภาระนี้ให้เพื่อนบ้าน    เขาจะสะดวกขนไปให้หรือเปล่าก็ไม่ทราบ
คุณเอนกมี facebook  คุณโหน่งส่งข้อความไปหาได้ค่ะ

https://www.facebook.com/anake.nawigamune


ขอบคุณครับ อ.

ติดปัญหาตรงที่ยังไม่อยากบริจาคตอนนี้ครับ  ตอนนี้ยัง 'อยู่' ก็ยังอยากอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เราคุ้นเคยมาตั้งแต่เกิด
ได้เห็น ได้สัมผัส  ได้รำลึกถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมาตั้งแต่เป็นเด็ก ๆ  มันเป็นความสุขครับ  ยิ่งตอนนี้แก่แล้ว  ยิ่งถวิลหาความสุขในวัยเยาว์

รู้สึกติดกับ  นึกทางออกไม่ได้ครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 17 ส.ค. 21, 08:43
ขอบคุณคุณ CVT กับ คุณ Kui045

สมัยวังบูรพายังยิ่งใหญ่  ร้านหนังสือรวมอยู่ที่นั่น  จำได้ว่า 1 ปีจะมีงานลดราคาหนังสือ  รู้สึกจะช่วงเดือน ต.ค.

คนแน่นเหมือนตลาดนัด

ที่ถ่ายมาเป็นเสี้ยวเดียวของคลังหนังสือแม่  และเป็นเรื่องที่ผมอ่านมาตั้งแต่ยังอยู่ชั้นประถม

แม่อ่านเยอะมาก  แต่มีแต่เรื่องแปล  มีเรื่องแปลจีนด้วย  จำได้แม่นคือ ซิเต็งซังและซิกัง  ซิยิ่งกุ้ย (อาจจำผิดพลาดเพราะไม่ได้อ่าน)

เรื่องไทยก็มีแต่ไม่ใช่นิยาย  มีหนังสือรวมเล่มอาจินต์ ปัญจพรรค์ ชื่อ คอคิดขอเขียน  จำได้แม่นเพราะชื่อแปลกดี
รวมถึงหนังสือประวัติบุคคล/สถานที่  หนังสือภาพ ฯลฯ

แล้วนิตยสารรายต่าง ๆ (เท่าที่หารูปได้  ส่วนหนังสือหนัง/เพลง/รถ/การ์ตูน ผมซื้อเอง)

(http://image.free.in.th/v/2013/iy/210817022637.jpg) (http://picture.in.th/id/459b62a321e34ed267a6882855eaeb18)

ปล. นึกได้ว่า แม่ซื้อนิยายไทยเล่มนึงชื่อ วิญญาณที่เร่ร่อน ของ เหม เวชกร
ผมเอามาอ่าน  น่ากลัวขนหัวลุก  แถมมีภาพประกอบด้วย  นอนไม่หลับไปหลายคืน



กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 17 ส.ค. 21, 09:16
หนังสือเป็นของเก่า ในหมวดที่สามารถชุบชีวิตได้เกือบเต็มร้อย //
ใครๆก็อ่านหนังสือ อ่านกันมานับพันปี // สื่อสารก็ง่าย เพราะผู้พิมพ์ปูทางเพื่อการสื่อสารไว้แล้ว ต่างจากวัตถุโบราณประเภทอื่นที่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญตีความเล่าเรื่อง
.
หนังสือที่ผมเห็นว่าน่าสแกนที่สุดคือ สรรพหนังสือชุดนางสาวไทย
1)เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่คุณน้า ที่ลงแรงลงเงินรวบรวมไว้เป็นกลุ่มก้อน ยากที่จะหาใครสะสมได้มากขนาดนั้น
2)เป็นหนังสือภาพ จึงชวนให้เข้าไปพลิกอ่าน // ในบรรดาความงามของธรรมชาติ หรือศิลปวัตถุใด ก็ไม่มีแรงดึงดูดเท่าความสวยงามของสตรี
3)รูปเล่มแบนบาง สามารถสแกนได้ง่าย // สแกนนะครับ ไม่ใช่ถ่ายรูป การสแกนนี่..ทีเดียวจบ..สามารถกำจัดเงาสะท้อน, กล้องสั่นไหว, torsionจากการแอ่นโค้งของหน้าหนังสือ // เนื่องจากเป็นหนังสือเก่าที่ระบบการพิมพ์ไม่ละเอียด ตั้งค่าการสแกนให้มีความละเอียดปานกลางก็พอครับ คือถ้าตั้งละเอียดสูงสุดนี่..มันจะเห็นแม้กระทั่งลักษณะเส้นใยพืชที่ใช้ทำกระดาษ เปลืองmemoryและเวลาครับ
4)ปัญหาของการสแกนคือ คุณต้องมีเวลากับมัน // ค่อยๆทำวันละเล่มก็ได้ครับ หรือจ้างนักศึกษาให้เขามีรายได้พิเศษก็ได้
5)สแกนเสร็จ ก็อัปโหลดขึ้นเว็บที่ต้องการ // เลือกเว็บที่ไม่บีบหรือลดขนาดไฟล์รูป(กรณีไม่หวงไฟล์ออริจินัล เพราะต้องการฝากไว้ในแผ่นดินอยู่แล้ว) // จะเปิดเว็บเป็นสาธารณะหรือไปพ่วงเว็บองค์กรใดก็ได้ // แล้วทุกอย่างจะเดินไปตามครรลองของอินทรเนตร ผลงานของคุณnathanielnongจะได้รับการทำซ้ำไปตราบนานเท่านาน
6)ต้นฉบับควรเก็บในเชิงอนุรักษ์ครับ ไม่ควรให้ใครมาเปิดดูอีกแล้ว
.
7)ส่วนการสแกนหนังสือประเภท text คนจะเข้าถึงได้ยากกว่า เพราะค้นหาสิ่งที่ต้องการไม่เจอ // เว้นแต่ใช้โปรแกรมแปลงภาพสแกนให้กลายเป็น text นั่นล่ะ..จะได้ประโยชน์สูงสุดจาก search engine
8)วัตถุสะสมอื่นๆ ได้แต่ทำใจครับ ส่งมอบให้คนที่ไว้ใจแล้วก็ปล่อยไปตามกฎอนิจจัง

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ  แต่แรงไปเต้นแร้งเต้นกาเหือดหายไปมากแล้ว  อีกทั้งออกมาอยู่ห่างไกลความเจริญด้วย

ไม่รู้จะไปหา 'จิตอาสา' ได้จากไหน


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: CVT ที่ 17 ส.ค. 21, 12:10


เรื่องไทยก็มีแต่ไม่ใช่นิยาย  มีหนังสือรวมเล่มอาจินต์ ปัญจพรรค์ ชื่อ คอคิดขอเขียน  จำได้แม่นเพราะชื่อแปลกดี
รวมถึงหนังสือประวัติบุคคล/สถานที่  หนังสือภาพ ฯลฯ



คอคิดขอเขียน เป็นของขุนวิจิตรมาตรา(สง่า กาญจนาคพันธุ์) ครับ ไม่ใช่ของอาจินต์ ปัญจพรรค์
ของอาจินต์ที่อาจารย์มีต้องเป็นพ็อคเก็ตบุ๊ค ชุดโอเลี้ยง ๕ แก้วครับ ซึ่งรวบรวมเรื่องสั้นของนักเขียนหลายท่านมารวมเล่มเช่น หลังเที่ยงคืน ของสง่า อารัมภีร์


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 17 ส.ค. 21, 12:20

แต่ผมยังเสพติดกลิ่นกระดาษ กลิ่นหมึก เป็นบางครั้ง

   ประเด็นนี้เป็นเรื่อง จักรกฤษณ์ สิริริน : Bibliosmia “กลิ่นกระดาษ” ปัจจัยชี้ขาด “หนังสือเล่ม” ไม่มีวันตาย!

https://www.matichonweekly.com/in-depth/article_343863

            วารสาร Heritage Science เปิดรายงานวิจัยของ University College London หรือ UCL เกี่ยวกับ “กลิ่นหนังสือ”
            ผู้ที่หลงใหลใน “กลิ่นหนังสือ” ก็เหมือนกับคนที่หลงรัก “กลิ่นช็อกโกแลต” หรือ “กลิ่นกาแฟ”
            Heritage Science อ้างอิงข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับ VOCs หรือ Volatile Organic Compounds (สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย)
ว่า ใน “ช็อกโกแลต” และ “กาแฟ” นั้น มีองค์ประกอบ VOCs ที่คล้ายกับ “หนังสือ”
            VOCs ของ “ช็อกโกแลต” และ “กาแฟ” มีสารประกอบทางเคมี (ที่ผ่านการหมักหรือคั่ว) อยู่สองตัว
ได้แก่ Lignin และ Cellulose ซึ่งสารทั้งสองอย่างนี้เป็นองค์ประกอบสำคัญที่มีอยู่ใน “กระดาษหนังสือเก่า” นั่นเอง
     


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ส.ค. 21, 19:31
ไม่รู้ว่าคนรักหนังสือในห้องนี้จะเคืองหรือเปล่า    แต่ส่วนตัวคิดว่าหนังสือเล่มกำลังหายใจแผ่วลงทุกทีค่ะ  ยิ่งมีโควิดมาซ้ำเติม อาจจะต้องใส่สายออกซิเยน
คนรุ่นที่เติบโตมากับหนังสือเล่ม  ยังรักและอาลัยหนังสืออยู่ แน่นอนค่ะข้อนี้
แต่ผ่านไปอีก 20 ปี  ดิฉันเกรงว่า หนังสือจากหน้าจอจะมาแทนที่   ด้วยความจำเป็นหลายอย่าง
1  สะดวกในการหาอ่าน  ตื่นมาเปิดอ่านข่าวประจำวันได้เลย  ไม่ต้องเดินออกไปซื้อหนังสือพิมพ์  ถ้าเป็นการค้นคว้าข้อมูล ก็ไม่ต้องไปถึงห้องสมุด
2  หนุ่มสาวยุคนี้และยุคต่อจากนี้ ไม่อาศัยอยู่ในบ้าน แต่อาศัยอยู่ในห้อง   พื้นที่จำกัดเกินกว่าจะเก็บหนังสือเล่มได้ 
3  หนังสือจากหน้าจอ มีให้อ่านฟรีมากมาย   ประหยัดเงินไปได้มาก
4  เคยชินกับอ่านจากหน้าจอเล็กๆ ข้อความสั้นๆ   ทำให้เกิดอาการสมาธิสั้นได้ง่าย  ไม่สามารถอ่านอะไรยาวๆหลายร้อยหน้าได้
5  หนังสือเป็นการสื่อสารทางเดียว  จะถูกแทนที่ด้วยการสื่อสารสองทาง จนคนไม่สนุกที่จะอ่านอะไรเงียบๆอีกต่อไป


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 17 ส.ค. 21, 20:05
สนทนาประสาคนรักหนังสือ ;D

https://youtu.be/FhWNB45cQ-8


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: CVT ที่ 18 ส.ค. 21, 07:48
ไม่รู้ว่าคนรักหนังสือในห้องนี้จะเคืองหรือเปล่า    แต่ส่วนตัวคิดว่าหนังสือเล่มกำลังหายใจแผ่วลงทุกทีค่ะ  ยิ่งมีโควิดมาซ้ำเติม อาจจะต้องใส่สายออกซิเยน
คนรุ่นที่เติบโตมากับหนังสือเล่ม  ยังรักและอาลัยหนังสืออยู่ แน่นอนค่ะข้อนี้
แต่ผ่านไปอีก 20 ปี  ดิฉันเกรงว่า หนังสือจากหน้าจอจะมาแทนที่   ด้วยความจำเป็นหลายอย่าง
1  สะดวกในการหาอ่าน  ตื่นมาเปิดอ่านข่าวประจำวันได้เลย  ไม่ต้องเดินออกไปซื้อหนังสือพิมพ์  ถ้าเป็นการค้นคว้าข้อมูล ก็ไม่ต้องไปถึงห้องสมุด
2  หนุ่มสาวยุคนี้และยุคต่อจากนี้ ไม่อาศัยอยู่ในบ้าน แต่อาศัยอยู่ในห้อง   พื้นที่จำกัดเกินกว่าจะเก็บหนังสือเล่มได้ 
3  หนังสือจากหน้าจอ มีให้อ่านฟรีมากมาย   ประหยัดเงินไปได้มาก
4  เคยชินกับอ่านจากหน้าจอเล็กๆ ข้อความสั้นๆ   ทำให้เกิดอาการสมาธิสั้นได้ง่าย  ไม่สามารถอ่านอะไรยาวๆหลายร้อยหน้าได้
5  หนังสือเป็นการสื่อสารทางเดียว  จะถูกแทนที่ด้วยการสื่อสารสองทาง จนคนไม่สนุกที่จะอ่านอะไรเงียบๆอีกต่อไป

เห็นด้วยครับอาจารย์
สำหรับตัวผมเอง เมื่อสายตายาวมากขึ้นตามวัย การอ่านหนังสือจึงไม่สนุกเหมือนก่อน
การมานั่งอ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์สะดวกกว่า แต่ก็มีข้อจำกัดต่อการอ่านอะไรยาว ๆ จริง ๆ ครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 18 ส.ค. 21, 09:12


เรื่องไทยก็มีแต่ไม่ใช่นิยาย  มีหนังสือรวมเล่มอาจินต์ ปัญจพรรค์ ชื่อ คอคิดขอเขียน  จำได้แม่นเพราะชื่อแปลกดี
รวมถึงหนังสือประวัติบุคคล/สถานที่  หนังสือภาพ ฯลฯ



คอคิดขอเขียน เป็นของขุนวิจิตรมาตรา(สง่า กาญจนาคพันธุ์) ครับ ไม่ใช่ของอาจินต์ ปัญจพรรค์
ของอาจินต์ที่อาจารย์มีต้องเป็นพ็อคเก็ตบุ๊ค ชุดโอเลี้ยง ๕ แก้วครับ ซึ่งรวบรวมเรื่องสั้นของนักเขียนหลายท่านมารวมเล่มเช่น หลังเที่ยงคืน ของสง่า อารัมภีร์

ขอบคุณที่แก้ไขครับ  จำสับสน  เห็นแต่สันวางเรียง ๆ กันเป็นแถว  นึกแล้วเสียดายน่าจะถ่ายรูปเก็บไว้  พวกหนังสือเก่า ๆ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 18 ส.ค. 21, 09:16

แต่ผมยังเสพติดกลิ่นกระดาษ กลิ่นหมึก เป็นบางครั้ง

   ประเด็นนี้เป็นเรื่อง จักรกฤษณ์ สิริริน : Bibliosmia “กลิ่นกระดาษ” ปัจจัยชี้ขาด “หนังสือเล่ม” ไม่มีวันตาย!

https://www.matichonweekly.com/in-depth/article_343863

            วารสาร Heritage Science เปิดรายงานวิจัยของ University College London หรือ UCL เกี่ยวกับ “กลิ่นหนังสือ”
            ผู้ที่หลงใหลใน “กลิ่นหนังสือ” ก็เหมือนกับคนที่หลงรัก “กลิ่นช็อกโกแลต” หรือ “กลิ่นกาแฟ”
            Heritage Science อ้างอิงข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับ VOCs หรือ Volatile Organic Compounds (สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย)
ว่า ใน “ช็อกโกแลต” และ “กาแฟ” นั้น มีองค์ประกอบ VOCs ที่คล้ายกับ “หนังสือ”
            VOCs ของ “ช็อกโกแลต” และ “กาแฟ” มีสารประกอบทางเคมี (ที่ผ่านการหมักหรือคั่ว) อยู่สองตัว
ได้แก่ Lignin และ Cellulose ซึ่งสารทั้งสองอย่างนี้เป็นองค์ประกอบสำคัญที่มีอยู่ใน “กระดาษหนังสือเก่า” นั่นเอง
     

ตรงนี้ทำให้นึกได้ว่า สมัยเด็ก ๆ ชอบดมหนังสือใหม่  เป็นต้นว่าหนังสือเรียนประเภทพื้นกระดาษขาว ๆ  กลิ่นจะหอมมาก  ออกไปทางนมผงกลาย ๆ

มีใครรู้สึกแบบนี้บ้างหนอ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 18 ส.ค. 21, 09:34
ไม่รู้ว่าคนรักหนังสือในห้องนี้จะเคืองหรือเปล่า    แต่ส่วนตัวคิดว่าหนังสือเล่มกำลังหายใจแผ่วลงทุกทีค่ะ  ยิ่งมีโควิดมาซ้ำเติม อาจจะต้องใส่สายออกซิเยน
คนรุ่นที่เติบโตมากับหนังสือเล่ม  ยังรักและอาลัยหนังสืออยู่ แน่นอนค่ะข้อนี้
แต่ผ่านไปอีก 20 ปี  ดิฉันเกรงว่า หนังสือจากหน้าจอจะมาแทนที่   ด้วยความจำเป็นหลายอย่าง
1  สะดวกในการหาอ่าน  ตื่นมาเปิดอ่านข่าวประจำวันได้เลย  ไม่ต้องเดินออกไปซื้อหนังสือพิมพ์  ถ้าเป็นการค้นคว้าข้อมูล ก็ไม่ต้องไปถึงห้องสมุด
2  หนุ่มสาวยุคนี้และยุคต่อจากนี้ ไม่อาศัยอยู่ในบ้าน แต่อาศัยอยู่ในห้อง   พื้นที่จำกัดเกินกว่าจะเก็บหนังสือเล่มได้  
3  หนังสือจากหน้าจอ มีให้อ่านฟรีมากมาย   ประหยัดเงินไปได้มาก
4  เคยชินกับอ่านจากหน้าจอเล็กๆ ข้อความสั้นๆ   ทำให้เกิดอาการสมาธิสั้นได้ง่าย  ไม่สามารถอ่านอะไรยาวๆหลายร้อยหน้าได้
5  หนังสือเป็นการสื่อสารทางเดียว  จะถูกแทนที่ด้วยการสื่อสารสองทาง จนคนไม่สนุกที่จะอ่านอะไรเงียบๆอีกต่อไป

เห็นด้วยกับ อ. ครับ  

ตอนนี้หนังสือเล่ม (โดยเฉพาะหนังสือปกแข็ง) กลายเป็นของประดับบ้าน

โหน่งย้ายบ้านออกมาอยู่ ตจว. แต่ยังอยู่ในหมู่บ้าน
บ้านใหม่เล็กมีชั้นเดียว  ไม่สามารถขนสมบัติบ้ามาได้หมด
แม้แต่หนังสือของโปรดที่เคยมีกว่า 7-800 เล่ม (ทั้งไทย/อังกฤษ) ก็คัดแล้วคัดอีกจนเหลือประมาณ 100 กว่าเล่ม

เพื่อนบ้านที่มาเยี่ยมพอเห็นก็ตื่นตาตื่นใจ (แต่ไม่นึกอยากอ่าน)  ทุกคนบอกว่าไม่เคยเห็นใครมีหนังสือ 'มาก' ขนาดนี้  
ส่วนหนังสือภาษาอังกฤษพวกเธอมองอย่างพิศวง

เคยถามว่าเคยอ่านหนังสือบ้างมั้ย  ตอบแบบเสียงขุ่น ๆ ว่า เค้ย... ทำไมจะไม่เคย
ถามว่า อ่านอะไรกันล่ะ
ตอบว่า ขายหัวเราะ
ถามต่อว่า หมายถึงหนังสือเป็นเล่ม ๆ น่ะ
ตอบกลับมาว่า ขายหัวเราะก็เป็นเล่ม

ตอนมาอยู่ใหม่ ๆ คนที่มาเยี่ยมจะตรงมาดูที่ตู้หนังสือเป็นแห่งที่สอง (ตู้ของสะสมเป็นแห่งแรก)

วันที่ไปเข้าคิวฉีดยาฯ  ทุนคนที่รอเวลาล้วนแต่อ่าน มือถือ  มีโหน่งคนเดียวอ่านหนังสือ (เพราะไม่มีมือถืออัจฉริยะเหมือนชาวบ้าน)
คนรอบข้างชำเลืองดูกัน

ชั้นอ่านหนังสือ  แปลกตรงไหนวะ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 18 ส.ค. 21, 09:57
ของอาจินต์ที่อาจารย์มีต้องเป็นพ็อคเก็ตบุ๊ค ชุดโอเลี้ยง ๕ แก้วครับ ซึ่งรวบรวมเรื่องสั้นของนักเขียนหลายท่านมารวมเล่ม
เช่น หลังเที่ยงคืน ของสง่า อารัมภีร์

           เคยอ่าน ชีวิต หลังเที่ยงคืน ชุด 3 ของ (ครู)แก้วฟ้า ครูแก้วเล่าถึง บุคคลต่างๆ ในแวดวงมิตรสหายเพื่อนร่วมงาน


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 18 ส.ค. 21, 10:01
      เท่าที่จำได้ นางละครขวัญหาย (น่าจะหมายถึง) คุณกัณฑรีย์ นาคประภา คู่ชีวิตคุณฉลอง สิมะเสถียร
             และ  พ่อละออหม้อแตก คือ ครูเอื้อ สุนทรสนาน ชื่อเดิมคือ ละออ ผู้คดข้าวทีไรทำหม้อข้าวแตกเป็นประจำ     


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 18 ส.ค. 21, 10:14
      เท่าที่จำได้ นางละครขวัญหาย (น่าจะหมายถึง) คุณกัณฑรีย์ นาคประภา คู่ชีวิตคุณฉลอง สิมะเสถียร
             และ  พ่อละออหม้อแตก คือ ครูเอื้อ สุนทรสนาน ชื่อเดิมคือ ละออ ผู้คดข้าวทีไรทำหม้อข้าวแตกเป็นประจำ     

ขอถามตรงนี้ครับ  ขี้เกียจย้ายบ้าน

ตอนเล็ก ๆ ช่อง 4 บางขุนพรหมจะมีละครมาฉายแบบนาน ๆ ครั้ง

มีเรื่องหนึ่ง  จำได้คร่าว ๆ ว่า ตัวละครเอกเป็นฝาแฝด  คนนึงชื่อปัทมา

นักแสดงใช้คุณพิศมัย วิไลศักดิ์ กับ คุณวิไลวรรณ วัฒนพานิช  ซึ่งในสายตาเด็กอย่างผมนึกว่าฝาแฝดจริง ๆ

จำได้เท่านี้

ใครคุ้นบ้างครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 18 ส.ค. 21, 10:20
อีกเรื่องมี 3 ดารานำแสดงเป็นพี่น้องกัน
คุณบุศรา นฤมิตรเป็นพี่คนโต คุณจารุวรรณ ปัญโญภาศเป็นคนกลาง คุณกนกวรรณ ด่านอุดมเป็นคนสุดท้อง

เรื่องราวน้ำเน่า  แย่งผู้ชายกัน  ที่ตอนจบ  พี่คนโตกับน้องคนเล็ก  ไม่รู้ว่าคนไหน  เป็นบ้าคนนึง  ตายคนนึง

ส่วนคนกลาง happy ending

จำ (แบบลาง ๆ) ได้เท่านี้

ใครคุ้นบ้างครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 21, 10:22
      เท่าที่จำได้ นางละครขวัญหาย (น่าจะหมายถึง) คุณกัณฑรีย์ นาคประภา คู่ชีวิตคุณฉลอง สิมะเสถียร
             และ  พ่อละออหม้อแตก คือ ครูเอื้อ สุนทรสนาน ชื่อเดิมคือ ละออ ผู้คดข้าวทีไรทำหม้อข้าวแตกเป็นประจำ     

อยากรู้ว่าที่เหลือคือใครบ้าง  คุณหมอ SILA เฉลยไหมคะ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 21, 10:25
อีกเรื่องมี 3 ดารานำแสดงเป็นพี่น้องกัน
คุณบุศรา นฤมิตรเป็นพี่คนโต คุณจารุวรรณ ปัญโญภาศเป็นคนกลาง คุณกนกวรรณ ด่านอุดมเป็นคนสุดท้อง

เรื่องราวน้ำเน่า  แย่งผู้ชายกัน  ที่ตอนจบ  พี่คนโตกับน้องคนเล็ก  ไม่รู้ว่าคนไหน  เป็นบ้าคนนึง  ตายคนนึง

ส่วนคนกลาง happy ending

จำ (แบบลาง ๆ) ได้เท่านี้

ใครคุ้นบ้างครับ

เนื้อเรื่องเหมือนเรื่อง "วิมานไฟ"   พี่สาวคนโตกับน้องสาวคนเล็กได้สามีคนเดียวกัน   พอความแตก พี่สาวยิงน้องสาวตาย ตัวเองก็กลายเป็นบ้า


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 21, 10:32
เอารูปดาราเก่ามาฝาก  ทุกท่านคงทันดูเธอทางทีวี


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 18 ส.ค. 21, 10:38
อยากรู้ว่าที่เหลือคือใครบ้าง  คุณหมอ SILA เฉลยไหมคะ

            จำได้เพียงสองท่านแรก ครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 21, 12:47
ดิฉันพยายามเดา
ยอดศิลปินเชื้อพระวงศ์  = ?
คำว่า เชื้อพระวงศ์ ในปัจจุบันสื่อใช้กันผิดเป็นประจำ   แม้แต่เจ้าฟ้า บางครั้งก็ถูกสื่อเหมารวมเป็นเชื้อพระวงศ์
ึความจริงเชื้อพระวงศ์คือม.ร.ว. กับ ม.ล.  ส่วนสูงกว่านั้นคือเจ้าฟ้า พระองค์เจ้าและหม่อมเจ้า เรียกว่าพระบรมวงศานุวงศ์
คุณแก้วฟ้า เป็นคนรุ่นเก่า น่าจะใช้ถูกต้อง  คือหมายถึงศิลปินดังในแวดวงบันเทิงที่เป็นม.ร.ว. หรือม.ล.  ไม่น่าจะหมายถึงเสด็จพระองค์ชายแห่งวังละโว้ทั้ง 3  พระองค์
ตอนนี้ดิฉันนึกออก 2 ท่าน คือม.ร.ว. ประสิทธิ์ศักดิ์ สิงหรา และ  ม.ล.รุจิรา อิศรางกูร  ใจเอนเอียงไปทางท่านหลังมากกว่า  ท่านเป็นมนุษย์มหัศจรรย์ พากย์ได้ถึง 7 เสียง


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 18 ส.ค. 21, 15:05
จากฟบ.ซื้อ-ขาย หนังสือเก่า ที่มีภาพบางหน้าจากหนังสือ ชีวิต ของครูแก้วฟ้า

          จากใจ ระบุว่า เล่มที่สามนี้เปลี่ยนชื่อเป็น ชีวิต เนื่องจากสองเล่มก่อนที่ใช้ชื่อว่า หลังเที่ยงคืน
เมื่อนำไปวางที่ร้านแล้วมักมีปัญหา ดังที่ครูบอกว่า ต้องอธิบายเสียปากลิ้นแทบสิ้นอาลัย


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 18 ส.ค. 21, 15:07

และ บางหน้าจากเรื่อง พ่อละออหม้อแตก


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 18 ส.ค. 21, 15:08

เหตุที่ได้สมญาเช่นนั้น


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 18 ส.ค. 21, 15:37
เหตุที่ได้สมญาเช่นนั้น

คัดลอกและเสริมคำเพื่อความสมบูรณ์ ;D

อันเด็กชายละออผู้นี้มีนิสัยรุ่มร่ามอยู่อย่างหนึ่ง ชอบทำหม้อข้าวแตก ถ้าคดข้าวกินเองที่ไหนก็ที่นั้น ต้องคดข้าวให้ทัพพีกระแทกกับข้างหม้อเสียจนทะลุไม่รู้กี่ใบมาแล้ว จนชาวบ้านแถบอัมพวาตั้งสมญาให้ว่า “พ่อละออหม้อแตก” พ่อแกเห็นไม่ได้เรื่องแน่ ถ้าขืนชื่อละออ คงซื้อหม้อข้าวกันไม่หวาดไม่ไหว แกจึงไปอำเภอขอแก้สำมะโนครัวเสียใหม่จาก 'ละออ' มาเป็น 'บุญเอื้อ' ซึ่งเป็นเครื่องหมายว่าจะไม่มีการทำลายกันอีก แล้วก็ส่งเข้ามาให้ได้รับการอบรมอยู่กับพี่ชาย ซึ่งเป็นขุนนาง คือ หมื่นไพเราะพจมาน

เด็กชาย 'ละออ' หรือในนามใหม่ว่า 'บุญเอื้อ' เป็นเด็กเรียบร้อย ชอบสนใจกับเรื่องพระเรื่องเจ้าตั้งแต่เล็ก ๆ รับศีลได้ถูกต้องแม่นยำ แม้ต่อพระพักตร์สมเด็จพระสังฆราช กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ จนสมเด็จฯ ทรงโปรด เอ่ยพระโอษฐ์ขอกับพ่อว่า ถ้าอายุ ๑๑ เมื่อไร ให้ส่งตัวมาถวาย...แต่จนแล้วจนรอดกระทั่งทุกวันนี้ เด็กชายผู้นี้ก็ไม่ได้ถูกส่งตัวไปถวาย มิฉะนั้นป่านนี้ 'เขา' คงไม่ใช่ศิลปินที่ชาวเรารู้จัก แต่คงเป็นพระมหาปาเรียญที่อุบาสกอุบาสิการู้จักเท่านั้นก็ได้


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 21, 17:48
ครูเอื้อ ตอนหนุ่มๆ หล่อระดับพระเอกหนัง


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 20 ส.ค. 21, 08:02
อีกเรื่องมี 3 ดารานำแสดงเป็นพี่น้องกัน
คุณบุศรา นฤมิตรเป็นพี่คนโต คุณจารุวรรณ ปัญโญภาศเป็นคนกลาง คุณกนกวรรณ ด่านอุดมเป็นคนสุดท้อง

เรื่องราวน้ำเน่า  แย่งผู้ชายกัน  ที่ตอนจบ  พี่คนโตกับน้องคนเล็ก  ไม่รู้ว่าคนไหน  เป็นบ้าคนนึง  ตายคนนึง

ส่วนคนกลาง happy ending

จำ (แบบลาง ๆ) ได้เท่านี้

ใครคุ้นบ้างครับ

เนื้อเรื่องเหมือนเรื่อง "วิมานไฟ"   พี่สาวคนโตกับน้องสาวคนเล็กได้สามีคนเดียวกัน   พอความแตก พี่สาวยิงน้องสาวตาย ตัวเองก็กลายเป็นบ้า

ดีใจจังได้คำตอบแล้ว  ต้องบันทึกเก็บไว้

ขอบคุณครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 20 ส.ค. 21, 08:32
ชุดนี้เรียกชื่อไม่ถูกครับ  สมุดข่อย? สมุดใบลาน?

อ่านหน้าปกไม่ออก  ทั้งหมดเป็นลายมือของคุณตา

ดูเหมือนตำราทางการแพทย์

ไม่รู้ว่าคุณตาไปคัดลอกมาจากไหน

(http://image.free.in.th/v/2013/il/210820015747.jpg) (http://picture.in.th/id/68f4167dbc8aa193f94dac5d72686427)

(http://image.free.in.th/v/2013/ij/210820015812.jpg) (http://picture.in.th/id/ebedf819782ffd866d75481ad32892d3)

(http://image.free.in.th/v/2013/is/210820015835.jpg) (http://picture.in.th/id/3890e11d2d61fc425261eb171841bbc1)



กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 25 ส.ค. 21, 09:31
สมบัติคุณตาชิ้นนี้  คือ เกมเศรษฐี

สภาพตะลึงตามากคือ ใหม่เอี่ยม  มีแต่ฝุ่นที่เกาะ  พอเอาผ้าหมาดน้ำเช็ดก็งาม

พลิกหาข้อมูลในกระดาษพบว่าผลิตในยุค 1937-39

คุณตาคงซื้อจากในห้างฝรั่ง  ซื้อมาแล้วคงหาคนร่วมเล่นไม่ได้  เพราะมันเป็นภาษาอังกฤษ
ลงท้ายก็เลยห่อเก็บ

ตัวหมากทำด้วยไม้ทรงแปลกตา  ลูกเต๋าทำจากอะไรก็ไม่รู้ดูเหมือนกระดูก  รอดปากปลวกมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ

(http://image.free.in.th/v/2013/ip/210825025738.jpg) (http://picture.in.th/id/4de20f8ee07be7cb0a77324e74508d12)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ส.ค. 21, 10:40
 ;D


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 25 ส.ค. 21, 15:59
การศึกษาวิเคราะห์ของเก่า ต้องมีข้อมูลประกอบให้มากเข้าไว้ what who when where จะได้เพิ่มอรรถรสและวิเคราะห์ได้เจาะจงยิ่งขึ้น
กรณี when ผมหาไม่เจอแล้วว่าคุณตาเกิดเมื่อไร? เมื่อนำมาลบกับ คศ1939 จะช่วยให้เห็นภาพชัดขึ้น
อันนี้ ผมวิแคะเพื่อความสนุกในวงสนทนาครับ
1) ซื้อตอนวัยรุ่น = ซื้อเพื่อเล่น แต่ไม่มีใครเล่น เลยห่อเก็บไว้
2) ซื้อตอนวัยหนุ่ม  = ซื้อเพื่อการเข้าสังคม? แต่เขิน..ไม่กล้าชวนเพื่อนมาเล่น
3) ซื้อตอนวัยกลางคน = ซื้อเพื่อให้หลาน แต่ไม่ได้จังหวะซักที เลยเก็บยาว


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 25 ส.ค. 21, 16:06
เกมโมโนโปลี ไม่มีกล่องนอกอีกชั้นเหรอครับ คือกล่องนอกที่ซอยเป็นช่องใส่ธนบัตรราคาต่างๆไปในตัว
ในรูปประกอบ..มีแค่กระดานเกมเปลือยๆ กับกล่องจตุรัสเล็กๆสำหรับใส่การ์ด เต๋า หมาก บ้าน ?


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: kui045 ที่ 25 ส.ค. 21, 16:31
ชุดนี้เรียกชื่อไม่ถูกครับ  สมุดข่อย? สมุดใบลาน?

อ่านหน้าปกไม่ออก  ทั้งหมดเป็นลายมือของคุณตา

ดูเหมือนตำราทางการแพทย์

ไม่รู้ว่าคุณตาไปคัดลอกมาจากไหน

(http://image.free.in.th/v/2013/il/210820015747.jpg) (http://picture.in.th/id/68f4167dbc8aa193f94dac5d72686427)

(http://image.free.in.th/v/2013/ij/210820015812.jpg) (http://picture.in.th/id/ebedf819782ffd866d75481ad32892d3)

(http://image.free.in.th/v/2013/is/210820015835.jpg) (http://picture.in.th/id/3890e11d2d61fc425261eb171841bbc1)



นึกถึงจารึก นวดวัดโพธิ์ ท่าเตียน


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 26 ส.ค. 21, 09:56
การศึกษาวิเคราะห์ของเก่า ต้องมีข้อมูลประกอบให้มากเข้าไว้ what who when where จะได้เพิ่มอรรถรสและวิเคราะห์ได้เจาะจงยิ่งขึ้น
กรณี when ผมหาไม่เจอแล้วว่าคุณตาเกิดเมื่อไร? เมื่อนำมาลบกับ คศ1939 จะช่วยให้เห็นภาพชัดขึ้น
อันนี้ ผมวิแคะเพื่อความสนุกในวงสนทนาครับ
1) ซื้อตอนวัยรุ่น = ซื้อเพื่อเล่น แต่ไม่มีใครเล่น เลยห่อเก็บไว้
2) ซื้อตอนวัยหนุ่ม  = ซื้อเพื่อการเข้าสังคม? แต่เขิน..ไม่กล้าชวนเพื่อนมาเล่น
3) ซื้อตอนวัยกลางคน = ซื้อเพื่อให้หลาน แต่ไม่ได้จังหวะซักที เลยเก็บยาว

น่าจะลงข้อ 2 ผสมข้อ 3 ครับ

คุณตาเกิด 2440  ซื้อในวัยกลางคนและคงเอาไว้เพื่อเข้าสังคม  ไอ้เขินคงไม่เขินเพราะคุณตาเป็นหนุ่มสำอางค์มาตั้งแต่เด็ก ๆ
น่าจะหาคนร่วมเล่นด้วยไม่ได้มากกว่า

เสียดายถ้าคุณตาอายุยืน เราต้องได้เล่นเกมนี้ด้วยกัน


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 26 ส.ค. 21, 09:57
เกมโมโนโปลี ไม่มีกล่องนอกอีกชั้นเหรอครับ คือกล่องนอกที่ซอยเป็นช่องใส่ธนบัตรราคาต่างๆไปในตัว
ในรูปประกอบ..มีแค่กระดานเกมเปลือยๆ กับกล่องจตุรัสเล็กๆสำหรับใส่การ์ด เต๋า หมาก บ้าน ?

ค้นพบในสภาพแบบนี้ครับ

นึกถึงอีกเกมหนึ่งคือ Scrabble  ไม่รู้ว่าห้างในยุคนั้นเอาเกมนี้มาขายด้วยรึเปล่า


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 31 ส.ค. 21, 08:21
ไม่มีใครสามารถบอกได้ทันที่ที่เห็นว่า นี่คือ Thermometer

ทุกคนคิดว่ามันคือ นาฬิกา  บางคนก็ถามว่า ทำไมมีเข็มเดียว

(http://image.free.in.th/v/2013/ih/210831014735.jpg) (http://picture.in.th/id/402d8c30c2c7052356ea8bc585b1be57)




กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 31 ส.ค. 21, 08:48
ตัวเลขเป็นหน่วยฟาเรนไฮต์

ซ้าย : เมืองไทย ๘๙ °F = ๓๑.๕ °C   ขวา : เมืองนอก ๗๓ °F = ๒๒.๕ °C


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 04 ก.ย. 21, 09:27
คุณทวดเป็นช่างสลักเงินชาวกรุงเก่า 

เมื่อครั้งรัชกาลที่ 6 ออกประกาศใช้นามสกุล
ท่านก็ให้คุณตาไปขอ  คุณตาได้นามสกุลที่ต้องการแล้วกลับมาบอกคุณทวด
คุณทวดก็ลงมือแกะสลักนามสกุลของท่านลงบนตลับใส่บุหรี่ แล้วเก็บไว้ก่อนจะมอบต่อให้คุณตาในบั้นปลายของท่าน

คุณตามอบต่อให้แม่  แล้วแม่ก็มอบมรดกประจำตระกูลชิ้นนี้ให้ผม
ผมไม่รู้จะมอบต่อให้ใครเพราะเป็นคนสุดท้ายของสายนี้

เฮ้อ....

(http://image.free.in.th/v/2013/ie/210904024945.jpg) (http://picture.in.th/id/2eeebd63486462c800c0c1f750d75fa7)

ปล. สงสัยว่า  ในยุคนั้นยังไม่ใช้ ตัวการันต์ หรือครับ


อีกชิ้นที่เป็นฝีมือคุณทวด  ใช่ พระปรางค์วัดอรุณ ฯ รึเปล่าครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/ih/210904025034.jpg) (http://picture.in.th/id/754fcc87633d721b37a3829ad715c270)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ก.ย. 21, 09:35
ฝีมืองามมากค่ะ
ใช่ค่ะ พระปรางค์วัดอรุณ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: ธสาคร ที่ 04 ก.ย. 21, 13:31
ตลับ1 พระลักษมณ์กับกุมภกรรณ(สังเกตจากอาวุธเป็นคันศร) วางลีลาเอี้ยวตัวได้สวยงามครับ
ตลับ2 ผังของพระปรางค์วัดอรุณ ถูกคลี่ออกมาอย่างแฟนตาซี ปรางค์ทิศกับมณฑปทิศเรียงแถวโดยไม่บังกัน
ในรูปถ่ายหรือในสายตาปกติ เราไม่สามารถมองเห็นผังพระปรางค์ได้อย่างตลับ2 (ดูรูปประกอบ1และ2)
.
ทำให้นึกถึงแผนผังสถาปัตยกรรมไทย จะเป็นลักษณะดาวล้อมเดือน ถ่ายรูปยากมาก..กรณีอุโบสถใหญ่/เจดีย์สูง เพราะระยะถอยไม่พอ(ติดกำแพงแก้ว/วิหารคด)
ถ้าวางผังให้ผายออกแบบตลับ2 จะสง่าเห็นเด่นแต่ไกล สิ่งปลูกสร้างไม่บังมุมกัน
.
วัดเบญจมบพิตร ที่ร่นวิหารคดไปไว้ด้านหลัง (ดูรูปประกอบ4) ทำให้อวดสู่สายตาได้เต็มตา ฝีมือบรมครูจริงๆ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 07 ก.ย. 21, 10:27
คุณตาลงหลักปักฐานอย่างเป็นการเป็นงานเมื่อเริ่มมีลูกโดยหาซื้อที่ปลูกบ้านสำหรับครอบครัว

ปี 2480 ท่านซื้อที่ผืนใหญ่ประมาณ 1 ไร่เศษย่านวงเวียนใหญ่  ฝั่งธนบุรี  ด้านหนึ่งติดซอย  อีกด้านติดถนนตากสิน  ด้านที่ 3 ติดคลองบางไส้ไก่  โดยให้เหตุผลว่าคลองนี้เชื่อมกับบ้านเก่าของคุณยาย  
ญาติพี่น้องสามารถพายเรือมาเยี่ยมได้  ท่านจะได้ไม่เหงา

(http://image.free.in.th/v/2013/ig/210907025751.jpg) (http://picture.in.th/id/366a8d49faaf663e339f0d590c0705f7)

ผมไม่รู้ว่าบ้านแบบนี้มีชื่อเรียกว่าทรงอะไร

ผู้ใหญ่เล่าว่าบริเวณรอบบ้านกว้างมาก  เป็นบ้านใหญ่สุดในละแวก  คนแถวนั้นเรียกกันว่า 'บ้านใหญ่'  ถ้าเอ่ยชื่อนี้ทุกคนเข้าใจว่าเป็นบ้านคุณตา
บริเวณกว้างนี้คุณตาปลูกต้นไม้ออกผลไว้เยอะ  ไม่เคยต้องออกเงินซื้อผลไม้เลย  

มีความสุขได้ไม่เท่าไร  ก็เกิดสงครามโลกครั้ง 2  คุณตาจ้างคนมาขุดสร้างหลุมหลบภัยไว้ที่มุมบ้าน  ส่วนคุณยายเรียกครอบครัวพี่น้องของท่านมาอยู่ด้วยกัน  
พอเสียงหวอดัง  ก็อพยพกันมาอยู่ในหลุมฯ  บางครั้งเหตุเกิดตอนกลางคืนก็นอนกันในหลุมฯ นั้น

แม่เล่าว่าตอนสะพานพุทธฯ โดนลูกหลง  เสียงดังสนั่นมาก  เด็ก ๆ ร้องไห้กันกระจองอแง  
นอกจากเหตุการณ์นั้นเด็กทุกคนล้วนสนุกกันมาก  เพราะตื่นเต้น  แล้วก็ไม่ต้องไปโรงเรียน

ผลกระทบอีกอย่างคือ  ข้าวยากหมากแพง  แต่แม่เล่าว่าครอบครัวเราไม่กระทบกระเทือนเพราะเรามีวัตถุดิบเยอะ
คุณตาตุนข้าวไว้มาก  แล้วเราก็มีเครื่องโม่ข้าว  ส่วนกับข้าว  เนื้อสัตว์หายาก  ก็ไปช้อนกุ้งน้ำจืด  ตกปลาในคลองบางไส้ไก่  กุ้ง/ปลาตัวใหญ่ ๆ ทั้งนั้น  จากนั้นก็ไปเด็ดผักต่าง ๆ
ส่วนคุณยายก็ทำกับข้าว  ฝีมือท่านระดับเซียน  ทำอะไรออกมาอร่อยหมด  ไม่มีใครผอม  มีแต่อ้วนเอา ๆ
ขณะเด็ก ๆ สนุกมาก  แต่พวกผู้ใหญ่หายใจกันไม่ทั่วท้อง

หลังสงครามโลก  เศรษฐกิจยังไม่กระเตื้อง  คุณตาต้องออกจากงานประจำซึ่งเป็นข้าราชการ  ไปหางานอื่นที่ได้เงินมากกว่า  เพราะจำนวนปากท้องในบ้านมีมาก

แต่เศรษฐกิจของบ้านยังไม่ทันกระเตื้อง  ท่านก็ป่วยและเสียชีวิต
คุณยายก็อึ้งเพราะขาดหัวหน้าครอบครัว  ลูกหลานระดับผู้ใหญ่ในบ้านก็ระดมสมองคิดหาทางออก
ก็ได้ข้อสรุปว่าให้ตัดเนื้อที่รอบบ้านออกสร้างอาคารพานิชย์ให้เช่าหรือขาย

นับว่าคุณตามีวิสัยทรรศน์  ไม่งั้นพวกเราคงต้องขายบ้านแล้วเปลี่ยนไปยึดอาชีพขอทาน

ผมเกิดในช่วงหลังนี้  จึงเห็นบ้านใหญ่แต่เนื้อที่ไม่มาก  แล้วก็ล้อมรอบด้วยตึกแถว
เวลาฟังผู้ใหญ่รำลึกถึงบริเวณกว้าง ๆ แล้วนึกภาพไม่ออก  ก็ว่าที่เห็นอยู่ก็กว้างแล้วนะ

ผมรักบ้านหลังนี้มาก  แม้ตอนกลางคืนจะดูน่ากลัวผีที่สุด  ทำด้วยไม้สักทอง  ชอบหน้าต่าง  มีหลายแบบ  ชั้นบนมีหน้าต่าง 2 แถว  บน/ล่าง  รับลมดีจริงๆ
พื้น mosaic ลวดลายแปลกตา  พื้นหินขัดมันสีเขียวฝังหินสีต่าง ๆ สวยมาก

(http://image.free.in.th/v/2013/im/210907032116.jpg) (http://picture.in.th/id/674dc649a1cef2c811c331abe892b01c)

(http://image.free.in.th/v/2013/in/210907043848.jpg) (http://picture.in.th/id/193aab2d07902afb38074c27ed242c67)

ในบ้านมีเฟอร์นิเจอร์มากมาย  ผมเกิดมากับพวกมันก็เห็นเป็นของพื้น ๆ  พอโตเป็นผู้ใหญ่มีประสบการณ์ถึงรู้ว่า  เฟอร์นิเจอร์พวกนี้หน้าตาไม่เหมือนชาวบ้าน
ไม่รู้คุณตาไปซื้อมาจากไหน

(http://image.free.in.th/v/2013/if/210907033052.jpg) (http://picture.in.th/id/6da672220eb2ee4ec1a3c4e20ae8ee49)

ปล. รูปที่นำมาให้ดูเป็นแค่ส่วนหนึ่ง  อันเป็นสมบัติของผม  ยังมีอีกมากที่แบ่ง ๆ กันไปเมื่อขายบ้านได้  บางชื้นก็ต้องทิ้งเพราะเป็นแบบสั่งสร้างสูงติดเพดาน  ไม่สามารถขนย้ายได้
บางชิ้นอยากเอามามากแต่  มันใหญ่เกินบ้านใหม่ที่มีขนาดเล็กกว่ามาก  เช่น โต๊ะเครื่องแป้งนี้

(http://image.free.in.th/v/2013/if/210907035104.jpg) (http://picture.in.th/id/876e48a32d0b067c5fa8ed65f60258d5)

ก็จบเรื่อง สมบัติของคุณตา

ขอบคุณที่ติดตามครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.ย. 21, 13:10
บ้านคุณตาสวยมากค่ะ   ทำให้นึกถึงหนังหรือละครย้อนยุคขึ้นมาทันที    ถ้าอยู่มาจนบัดนี้คงต้องใช้เงินไม่น้อยในการรักษาดูแลให้อยู่ในสภาพดีเหมือนเดิม   


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 08 ก.ย. 21, 09:08
บ้านคุณตาสวยมากค่ะ   ทำให้นึกถึงหนังหรือละครย้อนยุคขึ้นมาทันที    ถ้าอยู่มาจนบัดนี้คงต้องใช้เงินไม่น้อยในการรักษาดูแลให้อยู่ในสภาพดีเหมือนเดิม   

ขอบคุณครับ   ;D


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 10 ต.ค. 22, 12:25
คุณชวดหัวสมัยใหม่และฐานะก็เอื้ออำนวย  คุณยายเคยเล่าว่าท่านเปิดร้านขายของใหญ่มาก 

สมัยก่อนบ้านท่านมีทาส  หลังจากเลิกทาส  บางคนสมัครใจอยู่ต่อก็กลายเป็นข้าเก่าเต่าเลี้ยง (ใช้คำนี้ได้รึเปล่าครับ) ช่วยท่านดูแลกิจการ

ร้านขายของเป็นแพกว้างขวาง  แพขนาดใหญ่ก็น่าจะริมคลองใหญ่หรืออาจจะริมแม่น้ำ

คงเพราะเหตุนี้การสัญจรทางเรือสะดวกกว่าที่จะต้องไปขึ้นรถไฟอย่างที่คุณธสาครวิเคราะห์  ประมาณว่าเก็บกระเป๋าแล้วก็กระโดดลงเรือหน้าแพออกเดินทางไปเลย

กว่าจะมาถึงไม่รู้ใช้เวลาไปกี่ชั่วโมง  น่าจะต้องเตรียมอาหารกลางวันไปกินในเรือ  คิดแล้วน่าสนุกจัง  บรรยากาศคงสวยสงบงดงาม


แนบรูปคุณชวดมาให้ชมครับ  ความจริงรูปท่านแขวนคู่กับคุณทวด  แต่เกิดอะไรขึ้นก็จำไม่ได้  รูปคุณทวดหายไป


ขอบคุณนักวิชาการทุกท่านครับ


(http://image.free.in.th/v/2013/it/210629024240.jpg) (http://picture.in.th/id/873f368c98b10de872cbba96940bb9d1)





จัดของในบ้าน  เจอรูปเก่า ๆ จำนวนหนึ่ง  มีรูปนี้ที่ก่อให้เกิดคำถาม

แม่เล่าว่าเป็นงานศพคุณชวด  จัดขึ้นที่อยุธยา  จะเป็นปีไหนไม่มีปรากฏไว้  คะเนคร่าว ๆ จากรูปแม่ (เด็กหญิงคนกลางแถวหน้า) ว่ายังเป็นเด็กหญิงอายุไม่น่าเกิน 5 ขวบ

แม่เกิด 2475  ฉะนั้นอายุของรูปนี้ไม่น่าเกิน 2480  โลงศพตั้งอยู่สูงมาก  ไม่เคยเห็นมาก่อน

คำถามที่อยากรู้คือ  วัดอะไรหนอ 

นักวิชาการท่านใดพอวิเคราะห์ได้บ้างครับ


(https://sv1.picz.in.th/images/2022/10/10/pr4Lha.jpg) (https://www.picz.in.th/image/pr4Lha)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ต.ค. 22, 14:29
ไม่มีความรู้เรื่องวัดในอยุธยา  ใครจะช่วยคุณโหน่งได้บ้างคะ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 10 ต.ค. 22, 15:35
มีข้อสังเกตว่า  แขกที่มาในงานในภาพนุ่งขาวทั้งหมด เนื่องจากไม่มีใครมีอายุมากกว่าคุณชวดเลยเป็นแน่แท้ ;D

จาก ประเพณีเนื่องในการเกิดและประเพณีเนื่องในการตาย" ของ เสฐียรโกเศศ (https://issuu.com/volunteerspirit/docs/satienbook083?viewMode=magazine) หน้า ๑๖๐


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: adinbera ที่ 10 ต.ค. 22, 16:02
จากภาพหน้าต่างพระอุโบสถด้านหลังเมรุ น่าจะเป็นวัดเสนาสนารามครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ต.ค. 22, 17:56
อ่านเรื่องสีไว้ทุกข์ที่คุณเพ็ญชมพูนำมาลง  แล้วสงสัยว่าสีนกพิราบคืออะไร  เดิมเข้าใจว่าสีเทา   แต่ใน "สี่แผ่นดิน" ตอนแม่แช่มแม่ของพลอยอธิบายเรื่องนุ่งห่มประจำวัน  พูดถึงสี 'น้ำเงินนกพิราบ'

"พลอยดูให้ดีนะ แม่จะจัดผ้านุ่งผ้าห่มสีประจำวันให้ดู อยู่ในวังโตขึ้น จะได้แต่งตัวถูก   นี่สำหรับวันจันทร์ นุ่งเหลืองอ่อนห่มน้ำเงินอ่อน หรือจะห่มบานเย็นก็ได้ แต่ถ้าวันจันทร์จะนุ่งสีนี้ น้ำเงินนกพิราบ ต้องห่มจำปาแดง"
แล้วแม่ก็หยิบผ้าห่ม สีดอกจำปาแก่ๆ ออกวางทับบนผ้าลายสีน้ำเงินเหลือบ ที่วางไว้

คุณหมอเพ็ญทราบไหมคะ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 10 ต.ค. 22, 18:35
สีนกพิราบ คือ สีน้ำเงินหม่นนั่นแล ;D

จาก เรื่องเล่าสาวชาววัง หอมติดกระดาน โดย ศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย (https://books.google.co.th/books?id=IDBWDwAAQBAJ&pg=PT40&lpg=PT40&dq=.วันอาทิตย์ทรงผ้าลายสีลิ้นจี่+ทรงสะพักแพรสีโศก+หรือทรงผ้าสีเขียวใบไม้&source=bl&ots=ccuLvtX4-5&sig=ACfU3U32rA1g_zwuDDTlkCbV8Q71uL80oQ&hl=th&sa=X&ved=2ahUKEwjLrPWhydX6AhXi7TgGHWASDWYQ6AF6BAguEAI#v=onepage&q=.วันอาทิตย์ทรงผ้าลายสีลิ้นจี่%20ทรงสะพักแพรสีโศก%20หรือทรงผ้าสีเขียวใบไม้&f=false) หน้า ๓๘-๓๙


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 11 ต.ค. 22, 10:35
ถ้าวันจันทร์จะนุ่งสีนี้ น้ำเงินนกพิราบ ต้องห่มจำปาแดง"

ภาพจากละครโทรทัศน์เรื่อง ปลายจวัก ออกอากาศทางไทยพีบีเอส พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๖๒


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ต.ค. 22, 10:46
สีเหมือนนกพิราบตรงไหนหนอ?


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 11 ต.ค. 22, 11:35
ส่วนหัวน่าจะเป็นคำตอบ ;D


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 11 ต.ค. 22, 11:51
ขอบคุณทุกท่านสำหรับข้อมูลที่เป็นความรู้ครับ


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 11 ต.ค. 22, 12:09
มีรูปเก่า ๆ มาให้ชมครับ

คุณตาบวช (คนขวา) เมื่ออายุ 20  แม่บอกว่าจำได้ราง ๆ คุณตาเล่าว่า 1 ในนี้เป็นเพื่อนสนิทคุณตาที่ต่อมาเป็นพระสังฆราช วัดราชบพิธฯ  แต่แม่ชี้ไม่ถูก
(https://sv1.picz.in.th/images/2022/10/11/p8JDtR.jpg) (https://www.picz.in.th/image/p8JDtR)


พี่น้องคุณตาถ่ายเมื่อ 2468 (มีคุณตาใส่รองเท้าอยู่คนเดียว)
(https://sv1.picz.in.th/images/2022/10/11/p8LRMl.jpg) (https://www.picz.in.th/image/p8LRMl)


กระทู้: สมบัติเจ้าคุณตา
เริ่มกระทู้โดย: nathanielnong ที่ 11 ต.ค. 22, 12:17
โรงเรียนราชวิทยาลัย

(https://sv1.picz.in.th/images/2022/10/11/p8mZ2e.jpg) (https://www.picz.in.th/image/p8mZ2e)
หาคุณตาไม่เจอ


(https://sv1.picz.in.th/images/2022/10/11/p8mlIW.jpg)

(https://sv1.picz.in.th/images/2022/10/11/p8mXwz.jpg)

(https://sv1.picz.in.th/images/2022/10/11/p8mJ5u.jpg)

(https://sv1.picz.in.th/images/2022/10/11/p8myiP.jpg)

(https://sv1.picz.in.th/images/2022/10/11/p8mIIe.jpg)
ชื่อคุณตาอยู่ล่างสุด