เรือนไทย

General Category => หน้าต่างโลก => ข้อความที่เริ่มโดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 08 เม.ย. 08, 15:59



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 08 เม.ย. 08, 15:59
เมื่อเราทำงานโฆษณา ไม่ได้ถามตัวเองก่อนว่า นี่ทำเอาเงิน หรือเอาชื่อเสียง ทำไปโดยไม่มีจุดหมายมาก แค่สนุกกับงาน
แต่ไปๆมาๆ ไม่ใช่แค่นั้น

ชีวิตจริงของสาวน้อยวัยยี่สิบยุคหนึ่ง เริ่มแรก มันต้องเจอกับเอเจนซี่ที่มีงานให้ทำน้อยชิ้นมาก เหมือนกับว่า งานแอคเคานท์(แปลว่าลูกค้าค่ะ ไม่ใช่บัญชี)ที่น่าจะสนุก น่าจะได้ใช้ความคิดนอกกรอบ คนอื่นเขาได้ไปทำหมด

ก็ต้องก้มหน้าก้มตาทำแอคเคานท์ที่ไม่มีกิจกรรมการขายมาก ไม่มีโอกาสเสนองาน อย่างมากก็แค่เขียนสป็อตเหลือๆที่เขาส่งมาให้ ไม่ได้ผุดได้เกิดกับเขาหรอก
หลงคิดว่าตัวเองเป็นนายภาษา มาทำงานโฆษณามันง่าย ที่จริงไม่ใช่อย่างนั้น ต้องมาเรียนรู้วิธีเขียนภาษาอีกแบบหนึ่ง ตรง สั้น กระชับ เข้าจุด และน่าสนใจ จำไว้ว่าขายของ ไม่ได้เขียนบทกวีนะเฟ้ย..
ที่สำคัญ มันต้องมีไอเดียด้วย..
บางที่เขาเรียกว่าคอนเส็ปท์..
บริษัทโฆษณาแรก ก็ไทยมาก ไทยจีน เป็นอินเฮาส์ของเครือสหพัฒน์ชื่อว่า ฟาร์อีสท์ ซึ่งอยู่ยงคงกระพันมาทุกวันนี้ แถมเข้าตลาดหลักทรัพย์สำเร็จอีกด้วย..
แต่ช่างเหอะ ตอนนั้น ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่นั่น ดิฉันมีรุ่นพี่สีชมพูหล่อสมาร์ทแบบจีน สไตล์อากู๋เป็นครีเอถีบไดเร็คเตอร์ค่ะ และแม่น้องนุชบุษบงเป็นเพื่อนร่วมงาน
..
ส่วนลูกค้ารายใหญ่ของเรา ก็นายห้างเทียม โชควัฒนา ซึ่งจะว่าไป ท่านก็เป็นเจ้าของตัวจริง
รู้จักนายห้างเทียม
นายห้างเทียม เป็นนักธุรกิจดังคนหนึ่งของยุคนั้น ผลิตภัณฑ์ในเครือเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค หลายอย่าง
สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก และดาวรุ่งของบริษัท มาม่า
ดิฉัน ไม่เคยมีชีวิตวนเวียนแถวถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เมื่อต้องไปทำงานแถวนั้น บรรยากาศน่ากลัว สองข้างทางเต็มไปด้วยโรงนวด ชื่อเก๋ๆ เพราะๆทั้งนั้น
สายฝน ..เป็นโรงที่ติดกับตึกที่ทำงานพอดี
ตึกใหญ่ของสหพัฒน์อยู่ริมถนน ใช้สีส้ม และสิงโตเป็นสัญลักษณ์ เนื่องจากมีที่มาเป็นผู้ร่วมทุนของบริษัทไลอ้อนที่ญี่ปุ่นมาก่อน และดูเหมือนว่า ลูกชายคนสำคัญของนายห้างจะได้ไปฝึกงานที่นั่นตอนหนุ่มๆ
เป้าหมายของสหพัฒน์ยุคแรกๆ สมัยละครวิทยุเป็นสื่อที่มีบทบาทต่อคนทั้งประเทศโดยเฉพาะแม่บ้าน นายห้างใช้อาภัสรา นางงามจักรวาลเป็นพรีเซนเตอร์ยาสีฟันไวท์ไลอ้อนมาก่อน
มีละครวิทยุคณะ 213 โดยคุณเอิบ กันตถาวร และอีกท่านหนึ่ง คุณวีระ ลิมปะพันธ์เป็นโพรดิวเซอร์
หลายปีต่อๆกันมา สหพัฒน์จึงได้ฐานของคนในต่างจังหวัด โดยเฉพาะในเมือง แต่ในขณะที่คนเมืองหลวงและเมืองใหญ่ๆ สินค้าพวกคอนซูเมอร์ยังเป็นของบริษัทข้ามชาติ ที่ชื่อว่าลีเวอร์บราเธอร์ ประเทศไทย
ขณะนั้น สบู่ที่ครองใจคนไทย ชัดเจนว่าคือลักส์ โด่งดังก็ด้วยโฆษณาคอนเส็ปท์อมตะ ดารา 9 ใน 10 คนใช้
ผงซักฟอกที่ครองอันดับหนึ่ง บรีส คอนเส็ปท์โฆษณา กลิ่นสะอาด ดมดูก็รู้ว่าบรีส ใช้แนว testimonials คุณธาดาจะตามไปสัมภาษณ์แม่บ้านทุกภาค
ทั้งสองผลิตภัณฑ์เป็นของค่ายลีเวอร์บราเธอร์
ส่วนยาสีฟัน ก็เป็นคอลเกต ของค่ายแฟ้บและคอลเกต
นายห้างมีวิธีต่อสู้อย่างไร ต่อแบรนด์ต่างชาติเหล่านี้
ดิฉันจะลองฟื้นความจำมาเล่าให้ฟังค่ะ

 



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 08 เม.ย. 08, 16:01
พยายามนึกถึงโฆษณาล่าสุดที่จำได้..และขำ
ผู้ชายคนหนึ่ง มีปัญหาอย่างแรง อยากได้กระดาษชำระ เข้าไปที่ร้านชำ ที่มีคุณป้าขาย ได้แล้ว ส่งเงินให้ ป้าเล่นดีมาก แกทอนช้าจนหนุ่มคนนั้นปล่อยเสียงออกมา คนดูก็รู้ว่าเป็นอะไร
จำได้ ขำ และติดตา แต่เชื่อไหมคะว่า จำแบรนด์ไม่ได้ ว่าขายบัตรสมาร์ทอะไร ของใคร
คงไม่มีประโยชน์อะไร ถ้าทำโฆษณาออกไปแล้ว คนดูจำได้ แต่จำแบรนด์ไม่ได้
เฃ่น โฆษณาโค้ก ดันไปจำเป็นเป๊บซี่
หรือกระเบื้องคัมพาน่า ดันไปจำเป็นคอตโต้
Brand awareness สำคัญตรงนี้ค่ะ

ใช่ค่ะ นั่นหมายความว่า โฆษณาที่ประสบความสำเร็จ คนดูต้องจำสินค้าที่โฆษณาได้ว่าเป็นตราอะไร
ไม่ใช่ไปจำเหตุการณ์
บทเรียนของการทำหนังโฆษณาที่ดรามาไทซ์เรื่อง แต่ไม่เน้นแบรนด์ดิ้ง
โฆษณาประกันชีวิตบางชิ้น ดูไป เปลี่ยนโลโกท้ายเป็นประกันภัยยังได้เลย เพราะเล่นเปิดเรื่องที่อุบัติเหตุรถยนต์

เท้าความสร้างบรรยากาศหน่อยค่ะ ตอนเรียนตรีน่ะ สิ่งที่กลัวกันเหลือเกินคือตกงานค่ะ พอปลายปีสี่ พวกเราสาวๆสวยมั่งไม่สวยมั่งแล้วแต่จะมอง ก็ออกหางานกันขวักไขว่ งานมันหายาก เศรษฐกิจตกต่ำ จบตรีมาส่วนใหญ่เคว้งหนึ่งปี
ที่แรกดูเหมือนจะเป็นโรงแรม เพราะอาชีพประชาสัมพันธ์กำลังอินเทร็นด์ ไปกินข้าวเที่ยงแถวเกษรแล้วแวะเข้าโรงแรมใหญ่ตรงนั้นเลยหละ สามสาวมีระดับนางนพมาศมหาวิทยาลัยหนึ่งคน ดิฉัน แล้วก็เพื่อนอีกหนึ่ง บุกเข้าไปพบผู้จัดการฝ่ายบุคคลเลย

ท่านต้อนรับดีมาก พูดคุยถึงงานสาขานี้ ทั้งที่เราเรียนมาไม่ตรง ผลที่สุดไม่มีใครได้งานเพราะไม่มีอัตรา จากนั้นก็ไปสมัครกันแถวบางแค เป็นล่ามบริษัทส่งออกกล้วยไม้ไปนอก พี่ที่จบภาษาเยอรมันได้ไป เพราะได้ใช้ภาษา

อาจารย์แผนกดราม่าแนะให้ดิฉันไปสมัครช่อง5 ตอนนั้นผู้การถาวรกำลังเป็นผู้อำนวยการอยู่ ได้เจอคุณจำนรรจ์ ศิริตัน รุ่นพี่สองปีซึ่งทำงานอยู่ที่นั่น บอกว่าตอนนี้ไม่มีอัตราจ้างใหม่ แต่ได้แนะนำให้ไปลองสมัครเป็นนักเขียนคำพูดโฆษณาดู จะสมัครช่อง 5 ทิ้งไว้ก็ได้แต่ควรมีนายทหารฝากให้ ปัทโธ่ ทหารที่สนิทท่านยังเป็นแค่ร้อยตรีอยู่เล้ย(ตอนนี้เป็นพลโทแล้ว) ..แล้วจะได้ได้ยังไง้

ว่าแล้ว ดิฉันด้วยดีกรีสาราณียกร(คนทำหนังสือหัวรุนแรง)และนักกลอน(ประตู)ก็เลยตุหรัดตุเหร่ขึ้นรถเมล์ ชวนเพื่อนไปไม่มีใครสน..
ไปสมัครถึงเอเจนซี่ไทยแถวเพชรบุรีตัดใหม่ ซึ่งตอนนั้นเต็มไปด้วยโรงนวด ..ประกบทั้งข้างซ้าย และข้างขวา

ฝั่งตรงข้ามห่างหน่อยในระยะสิบเมตร

เพื่อนๆถามที่ทำงานอยู่ไหน พอบอกว่าเพชรบุรีตัดใหม่เท่านั้นหละ ทุกคนขมวดคิ้ว.. ชะชะ เขตอตร.ของสาวสมัยหนึ่งเลยหละ เปรียบเป็นสมัยนี้ก็ประมาณรัชดาฯมังคะ
มีอยู่วันไม่สบาย เป็นไข้หวัด ลากลับบ้านตอนบ่ายๆ ไปยืนป้ายรถเมล์เลยไปหน่อย รอเรียกแท็กซี่ ยังไม่ทันไร
ก็มีรถปร้าด..โฉบมารับ

ผู้ชายท่าทางเป็นเสือ(ผู้หญิง)เปี๊ยบเลย..แถมใส่เรย์แบนอีกตะหากไขกระจกติดฟิลม์ ชะโงกหน้ามาถามว่า
“ไปด้วยกันไม้น้อง”



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 08 เม.ย. 08, 16:02
แหวะ…ช็อค ! ถ้ามีแรงหน่อย คิดคำเจ็บๆด่าออกไปนานแล้ว แต่อารามงง และป่วย ก็อึกอัก พูดว่า”บ้า”ได้คำเดียว

อีตานั่น ขับรถหนีไปเลย..
แสนจะอายและโกรธ คิดยัวะตัวเองที่เลือกมาทำงานในถิ่นเกรดต่ำๆ แล้วคิดเลยไปว่าชั้นก็แต่งตัวดี ดูไงเป็นแบบนั้นวะ แต่พอเล่าให้เพื่อนฟัง มันกลับหัวเราะบอก น่าจะภูมิใจ ที่อาเสียคนนั้นคิดว่า เราเป็นน้องนางข้างอ่าง..

“หายากนะเธอ ที่ครีเอทีฟผู้หญิงจะดูดีได้ขนาดนั้น”

เออ..คิดไปได้ แต่ก็ทำให้เราหัวเราะ ขำ.. แต่ขำแบบเซ็งๆไปกับมุมคิดของเพื่อน..

คุณอาจคิดไม่ถึงว่าบรรยากาศของถนนเพชรบุรีตัดใหม่ตอนนั้นมัน เงียบมากในตอนกลางวัน แต่คึกคักตอนเย็น ร้านอาหารเวลาจะกินกลางวันที เดินไปแถวเลยโรงนวดหน่อย หรือไม่ก็เพิงข้างๆโรงนวด ส่วนเช้าๆก็ผูกขาดร้านข้าวแกงมะ(เป็นอิสลาม) หน้าตึกใหญ่เลย ดิฉันรู้จักไข่ต้มเป็นยางมะตูมก็จากที่นี่ หากมื้อเที่ยงอยากกินอะไรแปลกๆแก้เบื่อเช่นส้มตำไก่ย่าง ต้องรวมกันขับรถไปน้อมจิตต์ เอกมัยบ้าง แต่เรื่องจะมาถึงสุขุมวิท ไกลเกินไปค่ะ

บ่ายๆ เวลาคิดอะไรไม่ออก เพื่อนผู้ชายครีเอทีฟก็จะชวนให้มองลงมาที่ตึกโรงนวดข้างๆ ดูสาวๆที่เพิ่งเข้างาน เพลินดีเหมือนกัน จะบอกให้ว่า สาวโรงนวดสมัยนั้น เอ๊าะๆมากๆ ชายหนุ่มละอ่อนครีเอทีฟมักจะบ่นอยากได้แคมเปญประเภทกางเกงใน เสื้อชั้นในมาทำแก้เหงา จะได้หาเรื่องไปสำรวจหานางแบบแถวนั้น

ดิฉันเอง เนื่องจากเป็นคนขี้อายมากๆ เวลาเดินแถวนั้น ไม่ค่อยสบายใจเลย ต้องทำใจ เพราะโดนมาแล้วครั้งหนึ่งที่เล่าให้ฟัง ทั้งโกรธทั้งยัวะ ไม่ชินท่าทางกะลิ้มกะเหลี่ยของชายชะแรแก่ชะรา ที่นิยมสาวเอ๊าะแถวๆนั้น อีกอย่างหนึ่ง ดิฉันสายตาสั้น แถมเซ่อไม่ค่อยมองใครอีกต่างหาก ก็พอช่วยได้ให้เดินกินเดินกลับไม่แวะไหนจนติดเป็นนิสัย


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 08 เม.ย. 08, 16:04
หลังๆ วัฒนธรรมเปลี่ยนไป ดิฉันลาออกไปแล้ว สาวรุ่นน้องที่มีรถ เมื่อไม่มีที่จอดเหลือแล้วในบริษัท ต้องไปผูกเดือนจอดในอาบอบนวด จึงเดินเข้าออกได้อย่างปกติ หน้าตาเฉย
โดยเฉพาะพวกผู้ชาย ถามเพื่อนๆพี่ๆหนุ่มๆว่าเห็นเข้าไปบ่อยๆ ทำอะไร ไปนวดเหรอ มักจะได้คำตอบว่า

"เฮ่ย คุณฯละก้อ..ไปเอารถไงล่ะ"

ที่จริงดิฉันชอบทำงานตอนเย็นๆเพราะจะคิดอะไรออกง่าย มีสมาธิ แต่เมื่อทำงานที่ถนนสายนี้ พอห้าโมงครึ่งปั๊บ พวกเราวัยรุ่นก็จะรีบกลับบ้าน ไม่งั้นจะไม่ปลอดภัย เรามีแกงค์ที่นั่งรถเมล์ไปทางเดียวกันอยู่สามสี่คน เราจะไปเปลี่ยนสายใครสายมันที่กล้วยน้ำไท และจะหยุดนั่งร้านลาบส้มตำ ถามว่าทำไมถึงชอบกินอาหารอีสาน ก็เพราะสมัยนั้นหายาก และต้องเป็นร้านมืออาชีพจริงๆคนถึงเข้า ที่จริง สำหรับเรา เรื่องกินเรื่องเล็ก

..คุยกันไปอย่างสนุกสนานสักชั่วโมงก่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 08 เม.ย. 08, 16:08
โรงเรียนครีเอทีฟ

ว่าด้วยเรื่องงานบ้าง เอเจนซี่เรา เป็นเหมือนโรงเรียนครีเอทีฟดีๆนี่เอง รับแต่เด็กจบใหม่ เพราะเชื่อว่าไฟแรง มีลูกค้าเป็นเจ้าของบริษัท พร้อมสินค้าในเครือเพียบ มีโฆษกวิทยุจัดรายการทั่วประเทศ ที่กินเงินเดือนเรา เปิดสป็อตให้เราและพูดเชียร์สินค้าให้ พนักงานฝ่ายครีเอทีฟมีอยู่ทีมเดียว หน้าที่คิด เขียน ทำหนัง ทำสป็อต

ส่วนฝ่ายทำเลย์เอาท์เราเรียกฝ่ายศิลป์ ทำหน้าที่วาดรูป วาดสตอรี่บอร์ด คุมถ่ายรูป

ลูกค้ารายใหญ่เป็นนักธุรกิจชื่อดัง ใจดี มีคุณธรรม และน่าเคารพมาก ยังรำลึกถึงท่านเสมอ ท่านเรียกดิฉันด้วยชื่อเล่น เป็นกันเอง เราเรียกท่านว่า"นายห้าง" อย่างที่บอก..แรกๆทนทำงานอยู่แบบไม่เข้าที่เข้าทางไม่ได้แสดงออกหลายเดือน

..กว่าจะได้โอกาสแสดงความสามารถให้เข้าตาท่านได้ ก็เดือนที่เกือบจะไม่พ้นโปรนั่นแหละ..

ส่วนหัวหน้าเป็นรุ่นพี่รั้วสีชมพู สองหนุ่ม คนละมุมมอง คนหนึ่งก็ยอดจะพ่อค้า คือหน้าตาเป็นอาแปะหุ่นดี แก้สป็อตดิฉันเยินจนเสียเซ็ลฟ์ อีกคนก็ช่างอาร์ตทิสติคหลุดโลกเป็นนักกลอนสจม.รุ่นพี่
ถามว่านับถือใคร ก็ทั้งคู่ แต่ออกจะลำเอียงไปทางคนหลัง ทั้งที่ท่าทางพี่เขาเมาประจำ

พี่เมานี่สาวๆสนใจเยอะ น่าแปลกที่ผู้หญิงคุณนายๆและกุลสตรีส่วนหนึ่ง มักจะชอบพวกผู้ชายที่ทำตัวเป็นbad boy
เวลาทำงานจะน่ารัก ทำงานก็เป็นงาน อยู่ที่นั่นเรียนแบบครูพักลักจำ อ่านค่ะ อ่าน คุณพี่เขาจะเก็บแฟ้มงานที่เคยเขียนไว้เรียบร้อย เพราะเลขาฝ่ายเราคือพี่อ้อยและพี่ตุ๊เขาจะพิมพ์ๆๆแล้วเก็บอย่างดี
เด็กใหม่ที่ไม่ประสีประสาวิชาเขียนคำโคนาอย่างดิฉันจึงลุยอ่านๆๆด้วยความสนุกและอยากรู้อยากเห็น ทำให้ดิฉันเข้าถึงอาชีพการเขียนคำโฆษณาได้เร็ว ส่วนคนที่เป็นยอดพ่อค้านั่นก็ขยันแก้สป็อต ทำให้ท้อแท้ ห่อเหี่ยวใจ
แต่ถือว่าเป็นเจตนาดีอยากให้เราเก่งอย่างเขาก็แล้วกัน
...


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 08 เม.ย. 08, 16:10
โลกของครีเอทีฟที่นั่นจะสบายๆ งานน้อย ประชุมเยอะ เรามีห้องอัดเสียงเอง เพราะฉะนั้น เขียนอะไรผ่านปุ๊บ ลงไปอัดได้เลย โฆษกดังๆเรียกได้หมด เพลงและซาวนด์เอ็ฟเฝ็คท์ไม่มีให้เลือกมากเท่าไหร่
อาศัยรู้เพลงเยอะ ก็เปลี่ยนไป ใช้หัวบ้าง กลางบ้าง ท้ายบ้าง ไม่เบื่อ ช่างบันทึกเสียงเราชื่อพี่นิด เสียงคุณพี่ก็หล่อมาก บางทีดิฉันเห็นสินค้าเหมาะ ก็ใช้พี่ท่านซะเลย

เพื่อนครีเอทีฟ

ครีเอทีฟรุ่นดิฉัน มีแค่สี่คน หญิงสอง ชายสอง ไม่นับหัวหน้าสองคน เพื่อนชายโต๊ะใกล้ๆเป็นคนเงียบๆ หน้าตาดีมาก ตัดผมติดหนังหัวเพราะไปบวชมา เราสนิทกันพอควรเพราะดิฉันเป็นคนชอบผู้ชายเรียบร้อยค่ะ และชอบคนพูดตรงๆ
เนื่องจากตอนนั้น มีเพื่อนสนิทที่สุดชายหนุ่มเป็นคนคล่อง ปากหวาน และพูดเก่งไปหน่อย มันเลี่ยน.. ว่างั้นเถอะ

เพื่อนดิฉันคนนี้ คิดอะไรเก่งมาก เราได้ข้อแนะนำเรื่องงานจากเขาเยอะเหมือนกัน เขาไม่ต้องทำสินค้าให้สหพัฒน์ แต่ทำให้บริษัทสหไทยพัฒนภัณฑ์ซึ่งมีสินค้าให้เล่นหลากหลาย เช่นถุงเท้าคาร์สัน เสื้อยืดตราลูกไก่ ครีมแก้สิวยูบี และแป้งน้ำ อื่นๆอีกมากมาย

มีหนังถุงเท้าเรื่องหนึ่ง เพื่อนครีเอทีฟคนนี้ ทำเสร็จ หนังค่อนข้างสวยและทันสมัยมากของยุคนั้น ขายไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงและผู้ชายทันสมัย ประโยคสุดท้าย นางเอกคนสวย(เป็นนางแบบดังและนางเอกหนัง แฟนผู้กำกับไฟแรง) ต้องหันมาพูดกับกล้องว่า
"คาร์สันไงคะ"
เมื่อใช้เสียงผู้ประกาศแล้ว ลูกค้าไม่ซื้อ บอกว่า เสียงไม่เข้ากับหน้า
เพื่อนสนิทดิฉันกุมขมับ
เพื่อนบ่นกลุ้มใจ ใช้ใครดีหว่า..แล้วดีดนิ้วบอกว่า
"อ้ะ ใช้เสียงคุณแล้วกัน  ทั้งเซ็กซี่ ทั้งทันสมัย" (ฮ่าฮ่า นับว่า รสนิยมดีมาก)
ดิฉันเขิน ยั้งว่า "ถ้าลูกค้าไม่ซื้อเดี๋ยวเราเสียใจนะ"
เพื่อนยักคิ้วหล่อๆของเขาแล้วบอกว่า
"แต่ถ้าลูกค้าซื้อ ยูจะได้ สามร้อยบาทเชียวนะ"
"แหม..เยอะนักนี่"
แต่วววว....

ตามกฎ พนักงานบริษัททำอะไรจะได้แค่นั้นเองค่ะ เพื่อกันไม่ให้พนักงานงกหรือยังไงไม่ทราบ ดิฉันรักเพื่อนและอยากลองซิงค์เสียงตัวเองกับปากนางแบบด้วยหละ...เลยบอก เอาเล้ย...
...
หนังโฆษณาเรื่องนี้ใช้ในทีวีและโรงหนังด้วยค่ะ ฉายก่อนหนังฝรั่ง ไปดูหนังกับเพื่อนๆนอกวงการ
ไม่บอกพวกเขาไม่มีทางรู้เลยว่าเสียงเรา แถมยังชมอีกว่า
เสียงคุณนางแบบคนเก๋ในหนังเท่ห์มากๆ
เฮ่อ..ไม่อยากบอก ว่าเสียงตูเอง
นั่งฟังแบบอมภูมิมันกว่า.. 



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 08 เม.ย. 08, 16:13
ตำนานการตลาด

นายห้างเทียมเป็นตำนานการตลาดคนหนึ่งของเมืองไทยค่ะ
ถึงแม้ช่วงนั้นงานจะน้อย เพราะทำเฉพาะโฆษณาให้บริษัทในเครือเท่านั้น แต่เราก็ต้องเข้าประชุมร่วมกับนายห้างตลอด เป็นนโยบายของนายห้างเลย ที่จะให้ครีเอทีฟเด็กๆเพิ่งจบ มีประสบการณ์ ได้เข้าประชุมนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการโฆษณาทุกอย่าง
นับแต่ ประชุมครีเอทีฟเอง ทุกวันพุธ.. นายห้างจะมานั่งที่หัวโต๊ะ พูดสิ่งที่ท่านอยากจะบอก เป็นเรื่องการตลาดเสียโดยมาก และถามไถ่เรื่องแคมเปญแต่ละสัปดาห์ พร้อมให้คำแนะนำ มีการอ่านสป็อตให้นางห้างฟัง เอาเลย์เอาท์ให้นายห้างดู ท่านเป็นประธานจะให้ข้อคิดเห็นบ้าง ท่านจะมีเลขาประจำตัว เป็นอาหมวย เรียบร้อยแต่คล่อง ชื่อคุณเล็ก คอยจดบันทึกการประชุมทุกครั้ง และส่งบันทึกตามมาในวันรุ่งขึ้น
ส่วนเลขาอีกสองคน คือลูกสะใภทั้งคู่ของท่าน คนหนึ่ง สวยมากระดับรองนางสาวไทย และสวยหวานเหมือนนางเอกผู้ดีๆหนังฮ่องกงอีกหนึ่งคน
เวลาทำงาน ไม่ใช่จะนั่งโต๊ะ รอคนมาหา หากว่างท่านจะเดินยืดเส้นตลอดทุกชั้น..บางทีสวนกับเราก็ทักทาย หรือยิ้มให้ พวกพนักงานมีความรู้สึกที่ดีกับท่านมาก
นอกจากนั้น นายห้างยังมีนักเขียนชาย ที่รู้ภาษาจีน มาคอยจดเล็คเชอร์ทุกอาทิตย์ แล้วโรเนียวแจกพวกเรา ข้อความจะแทรกคำคม ปรัชญา และแนวคิดการตลาดเสมอๆ

ความแหลมคมของนายห้าง เป็นยาเสพติดที่ทำให้ดิฉันไม่เบื่อ ที่จะเข้าประชุมวันพุธ และมีอีกประชุมหนึ่งคือมีเดีย ว่าไปแล้วนายห้างเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดตัวจริง ท่านจะวิเคราะห์ความสำเร็จของบรีสให้เราฟังเสมอ ตัวท่านเองทำผงซักฟอกท็อป ซึ่งดิฉันเพิ่งมาซื้อเพราะเป็นพนักงานฟาร์อีสท์ จะมีห้องขายของพนักงานในราคาถูก ดิฉันจึงซื้อทั้งสบู่ ยาสีฟัน และผงซักฟอก ตลอดจนมาม่าที่นี่แหละค่ะ ใช้เป็นจริงเป็นจัง จึงทราบว่า ท็อปนั้น คุณภาพดีมาก แรงโฆษณาก็ทั่วถึง

แต่คุณแม่บ้านทั้งหลายมอบใจให้แฟ้บกล่องแดงที่ชื่อว่าบรีสไปหมดแล้ว...


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 08 เม.ย. 08, 16:15
ตอนนั้น นายห้างได้นำเข้าหนังชุดจากฮ่องกง เรื่อง เปาบุ้นจิ้น ฉายทางช่องสาม เวลาประชุมมีเดียทีหนึ่ง เราจะได้ความรู้ว่า การวางสป็อตสินค้าเรา มีช่วงไหนบ้าง หัว กลาง ท้าย สลับสินค้าอย่างไร
ถึงแม้จะมีบริษัทวิจัยเรตติ้งโฆษณาอย่างเป็นธุรกิจแล้ว เราก็ทราบเองโดยไม่ต้องพึ่งบริษัทวิจัยนี้ว่า พ่อบ้านแม่บ้านทั้งประเทศติดหนังชุดเปาบุ้นจิ้นของเราจริงจังจนถึงขนาดเป็นฟีเวอร์ ต้องกลับบ้านให้ทันดูเปาบุ้นจิ้น โฆษณาสินค้านอกขอซื้อเข้ามาคิวเต็มไปจรดปลายปี..คุณแม่ดิฉันก็มีความสุขกับการดูหนังเรื่องนี้มาตลอด
วันหนึ่งในที่ประชุมครีเอทีฟ ท่านก็ออกโรงเป็นครีเอทีฟเสียเองด้วยการบอกว่า ท่านจะทำผงซักฟอกยี่ห้อใหม่ขึ้นมา คุณภาพดีเชียวหละ แต่จะขายถูกกว่าบรีส..นะ

เห็นไหมคะ ไอเดียไทยแลนด์แบรนด์บรรเจิดมาตั้งแต่สมัยนั้นแล้ว จากสมองของผู้ชายที่จบมหาวิทยาลัยชีวิต

วัฒนธรรมที่นี่ไม่มีใครค้านเจ้านายใหญ่อยู่แล้ว ท่านก็เลยลุยต่อไปว่า ผมจะตั้งชื่อว่า ผงซักฟอกเปาบุ้นจิ้นนะ และจะใช้หน้าของนักแสดงคนนี้ เป็นฝากล่องเลย ฝ่ายศิลป์จะว่าไง
ตอนนั้นหัวหน้าฝ่ายศิลป์(จริงๆนายห้างเรียก ฝ่ายสิง)เป็นรุ่นพี่ถาปัดจุฬา..และมือดีไซน์ก็จบจากมัณฑนะศิลป์ ศิลปากรทั้งนั้นก็รับงานมาทำ ตามที่นายห้างบรีฟ ทำหลายดีไซน์จนมาจบที่เห็นเต็มหน้าของท่านเปา ชื่อตราโตชัดเจนว่า เปาบุ้นจิ้น
ที่พวกเราช็อคเป็นนักเป็นหนาไม่ใช่แค่ชื่อค่ะ แต่เป็นสโลแกน..
คุณภาพซื่อสัตย์ ราคายุติธรรม...
มันไหมล่ะคะ
ท่านนายห้างเทียม โชควัฒนาคิดเองค่ะ
 



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 08 เม.ย. 08, 16:54
พวกเราทึ่งบ้าง ค้านบ้าง คุณภาพมันไม่น่าซื่อสัตย์นะ น่าจะเป็นคนมากกว่า แต่ดิฉันว่าความที่มันสดจากสมอง และแหวกแนวดี ความแหวกนี่ละ คมซะไม่มี
และบวกกับแพคเกจจิ้งกล่องแดง หน้าตาที่เขาคุ้นและมั่นใจ ชาวบ้านร้านช่องที่ได้ลองใช้ ไม่มีใครบ่นว่าไม่ดี..
คุณภาพและราคา เป็นตามที่นายห้างสัญญาไว้ด้วย..

ตกลงนายห้างไม่ใช่เป็นนักการตลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นครีเอทีฟเองด้วย
เฮ้อ ..ขืนทำนานๆ พวกเรามีหวังตกงานแน่


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 08 เม.ย. 08, 18:02
เครือข่ายโฆษก

คงไม่มีอีกแล้วที่จะมียุคไหน เป็นอย่างยุคนายห้าง สหพัฒน์เป็นบริษัทจัดจำหน่ายของคนไทย(เชื้อจีนเลือนแล้วป่านนี้) พลังวางจำหน่ายทั่วประเทศต้องใช้หน่วยรถมากมาย มีเซลระดับต่างๆตั้งแต่ฝึกหัด จนระดับเสื้อสามารถ ปล่อยเดี่ยวไปพบเอเย่นต์ร้านค้าปลีกได้ เพื่อขายของเข้าร้าน เครดิตหรือสดขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ซาปั๊วเป็นคำจีนที่สาวครีเอทีฟต้องเข้าใจ
เช่นเดียวกับหยี่ปั๊ว ซึ่งหมายถึงเอเยนต์ขายส่ง

ก็สมัยนั้นไม่มีสะดวกซื้อยี่ห้อเลขเปิดทุกหัวระแหงนี่คะ คนท้องถิ่นก็เลยมีทางทำมาหากิน และมีอิทธิพลกับผู้บริโภคตั้งแต่คุณสาว คุณหนุ่ม ยันเด็กๆ หรือขึ้นมาถึงคุณลุงคุณป้า

เอาหละ หน้าที่การนำของเข้าร้านเป็นของเซล แล้วหน้าที่กระตุ้นคนซื้อให้มาที่ร้านเพื่อหยิบจับ ลอง หรือหาของใช้ล่ะ เป็นของใคร

ยุคนั้นโทรทัศน์เป็นสื่อที่มีอิทธิพลที่สุดก็จริง แต่ไม่สามารถซอกซอนชอนไชเข้าไปทุกหัวระแหง
นายห้างจึงมีโฆษกวิทยุทั่วประเทศ ท่านเหล่านี้ มีสปอนเซอร์ใหญ่คือนายห้างจ่ายค่าสป็อตให้ พวกเรามีหน้าที่เขียนคำโฆษณา อัดสป็อตอย่างเดียวไม่พอ เราจะส่งคำพูดวิทยุไปเป็นไกด์ แบบสั้นแบบยาว เพื่อให้ท่านโฆษกเหล่านี้พูด ดัดแปลงไปตามลีลาลูกเล่นของแต่ละท่าน โอ๊ย สนุกอย่าบอกใครเวลานายห้างท่านเชิญโฆษกเหล่านี้มาประชุมใหญ่ที่สหพัฒน์ กระทบใหล่คนดังของท้องถิ่นกัน
ขอโทษ บางทีเป็นวันเสาร์ หรือวันอาทิตย์ค่ะ เราๆท่านๆก็ต้องมานั่งฟัง


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 09 เม.ย. 08, 00:16
การทำงานกับคนเก่งตั้งแต่เริ่มเป็นเด็กจบใหม่นี่ดีนะคะ ถ้าเราเก็บเกี่ยวสิ่งที่เราไม่มีความรู้มาก่อนได้ ฟัง คิดตาม ถามแล้วจด สมัยเด็กๆ คุณครูดิฉันเน้นเรื่องสุจิปุลิ ออกข้อสอบประจำ นักเรียนมีหน้าที่ท่องจำ และตอบ เพื่อให้ได้คะแนน
เมื่อโตขึ้นทำงาน การฟัง คิดตาม ถาม และจด หากได้นำมาปฏิบัติ มีหรือจะไม่เกิดความเจริญงอกงามทางสติปัญญา

คุณเทียมน่ะทำงานเหมือนเป็นมีเดียแมนเองด้วย เพราะนอกจากจะเชิญโฆษกทั้งหลายมาฟังการบรีฟผลิตภัณฑ์ หรือโปรโมชั่นใหม่ๆแล้ว ยังวางสินค้าลงได้เข้ากับสไตล์การจัด และสถานีด้วย ทั้งมีความจำดีเยี่ยม ลูกชายท่านที่ประจำอยู่ตึกบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ตอนนั้น มีสามคน
คนหนึ่งจบญี่ปุ่น อีกคนจบมหาวิทยาลัยดีเด่นของไทย โดยมีตำแหน่งนายกสโมสรนิสิตฯติดมาด้วย และอีกคนจบมหาวิทยาลัยเมืองฝรั่ง หลากหลายประสบการณ์
ดิฉันได้เห็นลูกชายนายห้างเทียมอยู่ในที่ประชุมเสมอๆ

โฆษกที่เข้ามารับบรีฟและงบนั้น จะรายงานบรรยากาศทางการตลาดและการโฆษณาในท้องถิ่นมาด้วย นายห้างจึงเหมือนมีแม่ทัพรอบเมืองคอยส่งข่าวคู่แข่งซึ่งตอนนั้นมีทั้งบน และล่าง
ยกตัวอย่าง บนก็คอลเกต ล่างก็จำปาทอง
สามบาท ห้าบาท ราคานี้หละค่ะ ขายไม่รู้เรื่องในตลาดต่างจังหวัด

ข้อมูลอันมีค่า ทำให้พวกเราชาวสหพัฒน์และฟาร์อีสท์ ขยับตัวได้เร็วยังกับมีตาสับปะรด ประชุมมันๆ เวลาผ่านไปเร็ว ถึงเวลาเที่ยง นายห้างจะเลี้ยงข้าว ของอร่อยประจำที่ไม่มีใครเบื่อ ก็คือก๋วยเตี๋ยวราดหน้าจากสมบูรณ์ภัตตาคาร ใกล้ๆ

นายห้างก็รับประทานเหมือนเราค่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: Bana ที่ 09 เม.ย. 08, 01:09
อ่านสนุกมากครับ  เข้ามาให้กำลังใจครับ  ได้ความรู้เรื่องธุรกิจโฆษณาในอีกแง่มุมเยอะเลยครับ  เคยทราบว่างานสป็อตเป็นงานหลักในยุคก่อนๆ  เพราะทีวีและนิตยสารยังไม่ครอบคลุมไปทั่วประเทศ  และรายการที่คนฟังมากที่สุดคือละครวิทยุกับรายการเพลง  ยังรออ่านตอนคุณกุ้งจะพูดถึงการเช็คเรตติ้งหรือการสำรวจมาร์เก็ตแชร์ในตลาดในสมัยนั้นครับ  น่าสนใจว่าเค้ามีวิธีเช็คอย่างไรบ้าง...รออ่านอยู่ครับ

ขอบพระคุณมากครับ   :)  :)  :)


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 09 เม.ย. 08, 09:26
       จำได้ว่า ช่วงหนึ่งมีคำสั่งห้ามโฆษณาสินค้าตรงๆ ทางวิทยุ โฆษกจึงใช้วิธีเปิดเพลงที่ไม่มีคำร้อง
มีแต่ดนตรีทำนองเพลงโฆษณา (ซึ่งเป็นทำนองเพลง นิ้งหน่อง) แล้วบอกว่า ท่านผู้ฟังคงจะจำได้ว่าเป็น
เพลงอะไรนะครับ
         วิธีการโฆษณาสินค้าทั้งทางโทรทัศน์ และวิทยุสมัยก่อน มีเสน่ห์ น่ารักมาก นึกแล้วอดยิ้มไม่ได้ 


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 09 เม.ย. 08, 10:28
โฆษกวิทยุที่เข้ามา เขาจะถือโอกาสติชมงานโฆษณาของเอเจนซี่ด้วยค่ะ
แต่สิ่งที่ทีมงานของเรากลัวที่สุด ไม่ใช่พวกนี้ ใครทราบไหมคะ
ฝ่ายขายค่ะ..
ดิฉันเรียนรู้ด้วยประสบการณ์เลยว่า ทำไม บริษัทอย่างสหพัฒน์ ลีเวอร์ เขาถึงไม่ให้ฝ่ายขายเข้ามามีส่วนตัดสินใจเรื่องแนวทางคิดงานครีเอทีฟ ในการประชุม
ก็เพราะรายไหนรายนั้น ฝ่ายขายจะฆ่างานความคิดสร้างสรรค์ดีๆหมดน่ะสิคะ
อารมณ์ขัน จินตนาการดีๆ ถูกยิงเกลี้ยง..

...
กลยุทธป่าล้อมเมืองทางด้านการวางตลาดและจัดจำหน่ายของสหพัฒน์ยุคนั้นถือว่าได้ผลค่ะ
..วันนี้ สหพัฒน์ถือว่าเป็นบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคของไทยที่เชิดหน้าชูตา ขยายธุรกิจไปหลายแขนง เรียกว่า สามารถจัดงานสหกรุ๊ปได้ทุกปี ด้วยขาของตัวเอง เพื่อระบายสินค้าที่ผลิต และส่งออก
ชาวบ้านร้านช่องรุมกันเดินยังกับงานสัปดาห์หนังสือ มีแขกต่างประเทศเข้ามาดู เพื่อเลือกซื้อสินค้าไปขาย หรือนำสินค้ามาให้ผลิตทั้งรองเท้า เสื้อผ้า เครื่องหนัง และอาหาร
เริ่มมีร้านค้าปลีกย่อยของตนเองตามจุดต่างๆของอำเภอสำคัญๆ แม้จะยังต้องพัฒนาระบบให้เท่ากับเชนสโตร์ใหญ่ๆ
ใช้เงินทุนหมุนเวียนสูง มีนิคมอุตสาหกรรมของตนเองไปทั่วเกือบทุกภาคของไทย พัฒนาแรงงานและสร้างงานได้ทั่วประเทศ มีอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง และถึงคราวป้อแป้ ก็ต้องแก้ปัญหา อยู่ได้ก็ดี อยู่ไม่ได้ก็ต้องปิดไป เป็นสัจธรรม
วันที่ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปหมด สหพัฒน์สิ้นคุณเทียม ทายาทของท่านก็เข้ามาดูแล แผนการตลาดเดินไปคนละแนว ครีเอทีฟคงไม่ได้มีโอกาสทำงานใกล้ชิดกับการตลาดเท่ายุคหนึ่งซึ่งนายห้างท่านทำตัวเป็นทั้งหัวหน้าใหญ่ พ่อผู้เมตตา และคุณครู
ย้อนความหลังกลับไปถึงการดูตลาดต่างจังหวัดกันหน่อยไหมคะ ว่าสาวครีเอทีฟจะต้องไปเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: Oam ที่ 09 เม.ย. 08, 10:55
คนนอกวงการขอแจม

แต่ก่อนกลยุทธในการขาย นอกจากโฆษณาที่น่าสนใจแล้ว ยังเน้นที่ของแจก เช่นซื้อยาสีฟันแถมจาน

เดี๋ยวนี้ กลยุทธในการขายเน้นเรื่องคุณภาพของสินค้ามากขึ้น เช่น ผู้ใช้ ๙๖ เปอร์เซ็นต์ ใช้แล้วบอกว่าดี
ใช้แล้วเห็นผลภายในสามวัน (แล้วก็เอาแถบสีมาแปะเทียบกับสีของใบหน้า)

แต่...เรื่องของแถมก็ยังไม่ถึงกับขาดหายไปเสียทีเดียว วันก่อน เพื่อนร่วมงานไปซื้อเครื่องสำอางค์ขวดกระจิ๋วหลิว ได้ของแถมเป็นเตาอบกล่องเบ้อเริ่ม

รูปแบบหนึ่งของการสมนาคุณที่เหมาะแก่คนรุ่นนี้คือ gift voucher

กลับมาที่เรื่องโฆษณา อยากให้เล่าเกี่ยวกับการทำจิงเกิ้ลด้วยครับ สมัยก่อนมักมีการแต่งดนตรีประกอบโฆษณา เดี๋ยวนี้มักใช้วิธีเลือกเพลงฮิตมาประกอบโฆษณา ดนตรีประกอบโฆษณาที่ชอบมากที่สุดคือ ของยาคูลท์ ครับ
ยักคู...ยักคู...เพิ่มพลานามัยให้สมบูรณ์


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 09 เม.ย. 08, 13:44
กลยุทธการโปรโมทหรือแถมที่ใช้ได้ผลตลอดกาลเป็นที่ปรารถนาของผู้บริโภคคือ หนึ่งแถมหนึ่ง แต่นั่นหมายความว่าจะต้องเลือดออกซิบซิบ เดี๋ยวนี้ เพียง ซื้อสองแถมหนึ่งก็ดีใจกันจะแย่แล้ว
ยาสีฟันแถมจาน ดิฉันไม่แน่ใจค่ะว่าใครเริ่มก่อน แต่เท่าที่เคยสัมผัส ยาสีฟันที่มีหน้าผู้ชายใส่หมวกทรงสูงยิ้มยิงฟันหรา ถือโปรโมชั่นนี้เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวค่ะ หน้าที่ครีเอทีฟก็แค่ตั้งชื่อจานที่ลูกค้าเลือกลายเรียบร้อย แล้วทำหนังโปรโมชั่น ๑๕ วินาที
ชื่อเห็นภาพเช่น จานประกายแก้ว ประกายทอง เป็นขายระเบิด
แต่ชื่อแบบหนังที่ฉายตามโรง เช่น วิ่งสู้ฟัด พิฆาตอสูร พันธุ์อมตะ หรือเถาพิศวาส ไม่มีใครกล้าลองของเสียที..


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 09 เม.ย. 08, 15:42
ครีเอทีฟมาจากไหน

ต้องเกริ่นนิดหนึ่งถึงอาชีพครีเอทีฟนะคะ ว่า ภูมิหลังของคนทำงานสาขาโฆษณามาจากไหนกันบ้าง
เมื่อก่อนแบ่งชัดเจนว่า มีฝ่ายศิลป์ กับฝ่ายครีเอทีฟ
ฝ่ายศิลป์ ต้องวาดรูปเป็น ดีไซน์เป็น คนที่จบมาจากคณะจิตรกรรม สถาปัตย์ มัณฑนะศิลป์ เพาะช่าง ช่างศิลป์ ก็จะมารุมกันทำอาชีพนี้ แคแรคเตอร์ของแต่ละคน น่าทึ่ง คนที่ทำกล่องเปาบุ้นจิ้นได้ถูกใจนายห้าง ป่านนี้ลาวงการไปไหนแล้วไม่รู้
น่าภูมิใจจริงๆ
คนที่ทำแพคเกจจิ้งมาม่า ออกแบบโลโกและซองๆแรก คงไม่ได้เก็บงานของเธอไว้แหงมๆ
หรือคนที่แปลงตัวโลโกสบู่FAจากเยอรมัน เป็นฟาไทย คงใกล้เกษียณเต็มที
เพื่อนซี้ของดิฉันอยู่ฝ่ายศิลป์ค่ะ เธอเป็นสาวถาปัด หน้าตาน่ารักมาก ต่อให้มาสมัยนี้ เธอก็ยังดูทันสมัยอยู่ดี

ฝ่ายครีเอทีฟ เพื่อนๆจบจากนิเทศศาสตร์ เพราะเรียนมาโดยตรงไม่ต้องตั้งต้นก.ข. ก. กา ที่เหลือก็จบอักษร และศิลปศาสตร์ เมื่อก่อนก็มีนิติ รัดสาดมาบ้าง มันไปอีกแบบ ที่จริงจะจบไหนไม่สำคัญ
สำคัญที่เรามีฝันหรือไม่มากกว่า
ฝันอย่างเดียว ไม่เข้าถึงผู้บริโภคก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นว่าไปแล้ว ฝันบ้างจริงบ้างค่ะ
อย่างคำว่า มาม่า อร่อย สโลแกนวันนี้ อาจจะดูธรรมดา เพราะเราๆคุ้นๆกันแล้ว
แต่การหาสโลแกนตอนนั้นคงจะไม่ธรรมดาหรอกค่ะ กว่าจะจบลงที่ อร่อยอย่างว่า
คุณพี่เมาประจำ..เป็นคนคิด
และที่น่ารักคือ ต้องใช้เสียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเสียด้วย...


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 09 เม.ย. 08, 16:12
คุณพี่ครีเอทีฟท่านนี้ หาผู้ประกาศสป็อตของเขาจนได้ น่าทึ่งมาก
คือ คุณอาพันธ์ชนิตร สุวรรณากร ผู้ประกาศของทีวีช่อง ๔ ซึ่งเสียงเพราะ ฟังแล้วเป็นคุณแม่ที่แสนจะอบอุ่น น่ารัก เป็นโฆษกประจำสป็อตของมาม่าค่ะ
ดิฉันมั่นใจว่า ผู้อ่านมีหลายท่านที่เกิดทัน พอจะจำเสียงเธอได้
เป็นเสียงที่สื่อข้อความโฆษณาของมาม่าได้ดีที่สุดเสียงหนึ่งเลยค่ะ ผู้ฟังจะคุ้น แต่ไม่โหล ฟังแล้วน่าไว้ใจ ไม่มีสารพิษ
นอกจากผลิตภัณฑ์จะอร่อยแล้ว โฆษณามาม่าชวนฟัง มีหรือจะไม่เกิด..

พูดถึงเรื่องนี้ขอฉีกออกไปจากสหพัฒน์บ้างค่ะ เรื่องของจิงเกิ้ล ที่ประสบความสำเร็จเพลงหนึ่ง เป็นของจอห์นสัน
ผู้ร้อง คือคุณศรีไสล สุชาติวุฒิ
คำร้อง ก็แต่งโดยครีเอทีฟของบริษํทลินตาส ..มีใครจำได้ไหมคะ
แม่นับนิ้วเล็กจ้อย.. ลูกน้อยอบอุ่นใจ
แน่ะยิ้มหวานเหมือนแม่ เหมือนแท้ทุกสิ่ง...


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: Oam ที่ 09 เม.ย. 08, 17:25
จำได้อย่างลางเลือนครับ แต่เหมือนกะจำว่า แน่ะยิ้มหวานเสียด้วย บุ๋ง บุ๋ง บุ๋ง

สำนวนบางสำนวนก็มาจากโฆษณา เช่น ช้าไปต๋อย, กินอาหารให้อร่อยต้องใจเย็นๆ, ไปตีกอล์ฟ

จิงเกิ้ลจากอายิโนโมโต๊ะ คุ้นๆ ว่า

ปรุงอาหารให้อร่อย ใส่นิดหน่อยอร่อยจริงจ้ะ...


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 09 เม.ย. 08, 21:13
อ๋อ.. เพลงโฆษณาที่เขาร้องกันทั่วบ้านทั่วเมืองก็มีหลายเพลงค่ะ
เช่น
ร้อง เพื่อให้มีพลัง พลั้ง กำลังหง่าน
โอ๊วัลติ่น เราต้องก๊าน
พลัง พลั้ง ก๊ำลังหง่าน
โอ๊วัลติ่น...เราตองก๊าน
...(บลาบลา บลาโฆษณา)
พลัง พลั้ง โอวัลติ๊น
ดื่มแต่โอ๊วัลติ่น ถุกวั๊น
ทุกทุกวัน โอวั้ลติน
...
คู่แข่งก็มีแค่
ดื่มไมโล เสริม เพิ่มพลังง๊าน
.........
จำเพลงนี้ได้ไหมคะ
ร้อง  โลกหนิย้มหน่มข้นตราหมี หมีหมีหมี มีคุณค่าดี
เยี่ยมที่สุดใช้ชงอะไร ได้อร่อย
...
สมัยที่คำว่าที่สุด ยังใช้ได้ในสป็อตและจิงเกิ้ล เป็นสมัยที่นักโฆษณาทำงานง้ายง่าย ซึ่งดิฉันเกิดไม่ทันค่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 10 เม.ย. 08, 09:33
        คุณอาพันธ์ชนิตร ให้เสียงพากย์ภาพยนตร์ทางช่อง ๔ จำได้ว่าหนึ่งในนั้นคือ การ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง หน้ากากเสือ
เธอให้เสียงเด็กชายตัวเอก ที่เป็นแฟนพันธุ์แท้หน้ากากเสือ ต้องส่งเสียงตะโกนเชียร์พระเอกบนสังเวียนมวยปล้ำ
จนเสียงแห้งหาย คุณสะอาดยังพากย์แซวประมาณว่า ไอ้หนูเสียงแหบ
         
ภาพคุณอาฯ จากกูเกิ้ลครับ

           


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 10 เม.ย. 08, 12:21
ขอบคุณคุณsilaค่ะ

นอกจากครีเอทีฟไทยๆแล้ว ยังมีฝรั่งเข้ามาทำงานในประเทศเราอีกเยอะค่ะ ที่ดังที่สุดมีสองคนสายศิลป์หนึ่ง ซึ่งจะกล่าวถึงในลำดับถัดไป และสายคำพูดอีกหนึ่ง คนหลังนี่สิคะ เจ็บจริงๆ
เป็นคนคิด"วันเบาๆ ก็ต้องใช้ของเบาๆ"ค่ะ
ความหมายมาจาก light day ของฝรั่ง แล้วแปลงเป็นไทย ใช้พรีเซนเตอร์ดารามาเล่น คือคุณอมรา อัศวนนท์ เสียงคุณอมรามีสไตล์เฉพาะตัว พูดไทยชัดแจ๋ว แต่ติดสำเนียงฝรั่งนิดๆอยู่แล้ว
บรรยากาศเป็นผู้หญิงสองคนนั่งคุยกัน แล้วแนะนำสินค้า
แบรนด์นี้ได้ครองอันดับหนึ่งในตลาดมานานเป็นสิบๆปี จนชื่อแบรนด์กลายเป็นgeneric ในการเรียกผ้าอนามัยค่ะ
ครีเอทีฟหนุ่มฝรั่งคนนี้ เสียชีวิตไปแล้ว
ดิฉันไม่เคยเป็นเพื่อนร่วมงานของเขา มาพบอีกที เขาเป็นลูกค้าค่ะ
เรามีความเชื่อกันว่า ลูกค้าที่มาจากเอเจนซี่ หมายถึงเคยผ่านงานเอเจนซี่มาก่อน จะเป็นลูกค้าที่จับยากมาก เพราะรู้เรื่องไปหมด ทำงานมั่วไม่ได้ ต้องมือถึงในการดูแล และพวกนี้มักจะเป็นพวกแสบ
แต่ฝรั่งคนนี้ ดีค่ะ



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 10 เม.ย. 08, 15:04
อีกคนหนึ่งเป็นจอมยุทธฝ่ายกำกับศิลป์ หนังดังของเขาเป็นโฆษณาเบียร์สิงห์ เช่น หล่อสิงห์ ที่ยิงโคลสอัพงานช่างหล่อของไทย กว่าจะออกมาเป็นโลโกสิงห์ แล้วมีเสียงเปิดเบียร์ แต่ฝากระเด็นออกมา
หรือจับแนวคิดด้านเสียงสัญญาณของวิถีไทยเก่าๆที่เป็นสัญญลักษณ์ของอาหาร เช่น เรือกาแฟ ก็มีเสียงแตร ปู๊นๆ จบด้วยเสียงเปิดฝาเบียร์แล้วฟองฟู่ออกมา แน่นอน เป็นเบียร์สิงห์
ฝรั่งคนนี้เกษียณไปแล้วค่ะ
ขณะที่เขียนเรื่องนี้ มีโทรศัพท์จากเอเจนซี่หนึ่งเข้ามา ขอไปรับสายก่อนนะคะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 11 เม.ย. 08, 09:27
เขียนถึงครีเอทีฟไทยในตำนานบ้างค่ะ
กรุเรื่องเก่าที่เขียน ไม่ทราบมีแต่ผู้อาวุโสหรือเปล่าที่ตามอ่าน (เยาวชนของชาติอาจจะสนุกหรือไม่สนุกกับเรื่องแบบนี้) ครีเอทีฟรุ่นๆพี่ดิฉันน่ะ ที่เป็นแรงบันดาลใจคนหนึ่งก็คุณสุชาติ วุฒิวิชัยค่ะ ต้องเอ่ยนามในเรือนไทยเสียหน่อย
คุณสุชาติเป็นชาย ชื่อก็บอกอยู่แล้ว เป็นนิสิตจากคณะเดียวกับอาจารย์เทาชมพู แต่น่าจะรุ่นพี่นานชนิดไล่หลังไม่ทันแบบดิฉันกับท่าน อยู่ในวงการโฆษณานานพอควรแล้วก็ออกไปทำหนังไทย
เรื่องน้ำค้างหยดเดียวไงคะ
พระเอกเป็นใครจำไม่ได้ คุณsilaน่าจะทราบ แต่นางเอกเป็นสาวสวยชื่อนิจ อลิษา
หนังโฆษณาเรื่องหนึ่งของคุณพี่สุชาติ ดังก้องฟ้ามาก ใครเกิดทันนั่งตาแป๋วอยู่หน้าจอทีวี คงจำได้ เด็กผู้หญิงสองคนหน้าตาบ้องแบ๊ว(คำนี้เข้าสุสานหรือยังอ้ะ คุณโอม) เบิ้ล(อีกคำละสิ)กันตรงขอบสระว่ายน้ำในชุดว่ายน้ำ(โอ้ว..เปรี้ยวซะไม่มี)
สาวน้อยคนหนึ่งนอนคว่ำอยู่ที่กระดานสปริง
อีกคนนั่งริมสระ
ตัวยังไม่เปียกสักนิด(ฮ่ะฮ่ะ)


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 11 เม.ย. 08, 09:42
จากความจำนะคะ... ให้นึกถึงเสียงเด็กไร้เดียงสาของจริงพูด ถ่ายแบบซิงโครไนซ์ค่ะ
๑ "บ้านเราซ้วยสวย.. มีสนามกว้างๆ"
๒ "บ้านเราสวยกว่า มีสวนสนุกใกล้บ้านด้วย"
๑ "บ้านเราแข็งแรงอย่างกับวังแน่ะ"
๒"บ้านเราก็แข็งแรงอย่างกับวัง................."
...บลาบลาบลา
๑ "บ้านเราอยู่เสนานิเวศน์นะ"
๒ "บ้านเราก็เสนานิเวศน์เหมือนกัน...."
หนังก็ดัง คนดูชอบ การจดจำสูง แบรนด์ไม่พลาด และขายดีมากค่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: Oam ที่ 11 เม.ย. 08, 10:08
พระอาทิตย์มาตกปุ๊ตรงหน้าบ้านเราทุกวันเลย...

การใช้เด็ก และสัตว์น่ารักๆ ในโฆษณา เรียกได้ว่าเป็นสูตรแห่งความสำเร็จหรือเปล่าไม่รู้

โฆษณาไฮเตอร์ ชิงกะปั๊ม ชิงกะปั่ม...ไฮตะกะอี... ฟังไม่รู้เรื่องเลยสักคำ แต่ดังระเบิด

โฆษณาสิงห์ เป็นที่นิยมชมชื่น แต่สิงห์โกลด์ไร้เมีย ทำให้สังคมเกิดความกังขา

การเลือกเวลาโฆษณา ก็เป็นตัวสร้างอัตตะบางอย่างขึ้นมาให้คนจดจำ เช่นสมัยก่อนช่องเจ็ด ไม่แน่ใจว่าพอจบข่าว หรือจบการ์ตูนตอนหัวค่ำจะมีโฆษณา คิกคาปู้

ปัจจุบันช่อง ๙ พอ ๔ ทุ่มปุ๊บ เป็นที่รู้กันว่า โฆษณารีเจนซี่สาวน้อยชุดทองจะออกมาเดินนวยนาด


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 11 เม.ย. 08, 10:27
ต้องมีเงินเยอะมากค่ะ เลือกเวลาบล็อกหัวท้ายรายการที่ต้องการและเป็นช่วงนาทีทอง ซื้อข้ามปี สัญญาอย่างต่ำหนึ่งปี และต่อเนื่อง จนเราจำได้น่ะ สื่อทีวียังครองใจชาวบ้าน เดี๋ยวนี้ไปไหน ก็เห็นคนเปิดทีวีแช่ไว้ทั้งวัน ดิฉันเป็นสาวยุคป๋าเปรมค่ะ เจอมาตรการประหยัดไฟ ทีวีปิดช่วงกี่ทุ่มจำไม่ได้แน่ ไฟฟ้าไม่มีการเปิดทิ้งเปิดขว้าง เลยติดนิสัยเลิกใช้อะไรก็ต้องถอดปลั๊กมาจนบัดนี้


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 เม.ย. 08, 11:58
        แรกเห็นคุณนิจ อลิษา จากหน้าปกนิตยสาร ต่อเมื่อเธอมาแสดงหนังไทยในยุคก้าวหน้า
(หลังจากหมดยุคมิตร เพชราแล้ว มีผู้สร้าง มีดาราหน้าใหม่ มีหนังไทยคุณภาพมากมาย)
เรื่อง น้ำค้างหยดเดียว นั้นไม่ได้ดู แต่เคยได้อ่านวิจารณ์อย่างหนักจากคุณทริ้งค์ ณ บางกอก โพสต์ ครับ
         นักสร้างหนังไทยที่มาจากบริษัทโฆษณาอีกคนในยุคนั้น ที่สร้างหนังต่อเนื่องหลายเรื่องพอสมควร
คือคุณเพิ่มพล เชยอรุณ

          คุณสุชาติยังมีโฆษณาที่เป็นเอกลักษณ์ติดหูมาจนทุกวันนี้ จากลีลาเสียงในสป็อทวิทยุ -
                    เอเพกซ์ ศูนย์รวมความสุนทรทางบันเทิง
       


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: elvisbhu ที่ 11 เม.ย. 08, 17:15
ผมเห็นคุณสุชาติที่เครือเอเพ็กซ์หลายครั้งครับ เจ้าของคำพูดอภิมหาอมตะนิรันดรกาล ปกติผมชอบใช้เสียงลูกชายของเขา
คุณกุ้งแห้งเยอรมันน่าจะเล่าถึงลูกค้าอีกราย ที่อยู่หมัด เป็นลูกค้าลีเวอร์ที่เป็นตำนานการตลาดคนสำคัญ ถ้าไม่ห่วงว่าจะกระทบใคร


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 11 เม.ย. 08, 23:30
 :-X :-X :-X
เอ้อ จะให้หมายถึงใครบ้างล่ะคะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 12 เม.ย. 08, 08:29
ครีเอทีฟที่ฟาร์อีสท์รุ่นนั้น ต้องทำทุกอย่าง เข้าไปรู้เรื่องทั้งการตลาด มีเดีย โพรดัคชั่นเสียงและหนังโฆษณา ฝ่ายที่คุมเรื่องหนังไม่จำต้องใช้คนนอก ถ้าไม่จำเป็น เพราะมีผู้กำกับและโพรดิวเซอร์ในตัวอยู่หนึ่งคน ที่พวกเราสาวๆจะขำมาก เวลาเขาเข้ามาในห้อง ดิฉันและเพื่อนๆไม่ต้องดูปฏิทินว่าวันนี้วันอะไร เพราะเขาใส่เสื้อสีตามวัน จันทร์เหลือง อังคารชมพู พุธเขียว แต่ละสีนั้นแช้ดเหลือเกิน.. ไม่มีออฟว้องออฟไวท์หรอก ฝ่ายสงฝ่ายศิลป์เห็นแล้วขำ หลิ่วตาล้อบ่อยๆ
คุณคนนี้ เขาเป็นลูกจีน ตาหยี อารมณ์ดี ตัวป้อมๆ พวกอาร์ตผู้ชายมักแซวเสมอ เช่น
"เฮ้ย เวลาคุณยิ้ม ทำไมคุณต้องหลับตาวะ"
เขาก็น่ารัก ไม่เคยโกรธ ยิ่งกับสาวๆ เขาจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ สมัยนั้นมีศัพท์ว่า"ขี้หลี" ออกไปทางตลกน่าเอ็นดูดีเหมือนกัน
..



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 12 เม.ย. 08, 15:12
เข้ามาตามอ่านกระทู้นี้ของพี่กุ้งครับ
สู้ๆนะฮะ พี่สาว!!!


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 13 เม.ย. 08, 07:28
คุณติบอจะให้ไปสู้กับใครคะ
..
เข้าใจว่าเป็นการให้กำลังใจให้เขียนต่อ รับรองกระทู้นี้ไม่ยาวและจบแน่ค่ะ
ดิฉันเข้าใจว่าคุณเอลวิสภูอยากให้เขียนถึงชีวิตยิ่งกว่านิยายในเอเจนซี่ฝรั่งหนึ่ง ที่แต่ละกลุ่ม รับผิดชอบลูกค้ากลุ่มละหลายร้อยล้าน คิดว่าขอแยกๆปอีกซอยต่างหากน่าจะดีกว่าค่ะ แค่เอาเรื่องโฆษณามาเขียนในเรือนไทยนี่ก็แปลกพอสมควรแล้ว
..
วัฒนธรรมการทำงานที่ดิฉันพบในเอเจนซี่ไทยกับฝรั่งนั้นต่างกันสิ้นเชิง เอเจนซี่ไทยงานไม่มากพอที่จะทำให้คนทำแบบถวายหัวและจ้างคนแบบมีระบบฝากหรืออุปถัมภ์มากกว่า เอเจนซี่ฝรั่งส่วนใหญ่อยู่แบบต้องมีพื้นฐานของการแข่งขัน จึงต้องยืนเอง เข้าไปแล้ว บางทีคนที่แนะนำเรา ดันออกไปก็มี ทิ้งให้เคว้ง ตั้งตัวไม่ถูก ไม่รู้ใครเป็นใคร แต่สาวมั่นย่อมไม่กลัวค่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 13 เม.ย. 08, 07:41
ความอบอุ่นที่เคยได้รับจากการม๊ผู้หลักผู้ใหญ่ไว้ให้นับถือ เคารพยำเกรงแบบนายห้างเทียมและลูกชายของท่านไม่มีที่นี่ วันตรุษจีนที่เราอาจจะแจ็คพ็อตโดนเรียกเข้าไปแต๊ะเอียทุกปีไม่มี มีเพียงเงินเดือนและโบนัส คนที่ใส่ใจเรื่องเงินเป็นหลักต้องคิดให้ดีว่าจะอยู่แบบไหน
การเมืองน้อยหน่อย แต่อยู่ยาว
หรือการเมืองมากก็ช่างมัน มีฝีมือเสียอย่าง
หรือไม่ว่าจะเอเจนซี่ไหน ระบบเลียแข้งเลียขาบรรดานายทั้งหลาย มาเลยมาเลย.. สู้ขาดใจก็มี
..
อยากจะเล่าว่า มีการแบ่งอีกค่ะ ว่า เอเจนซี่ไหนเป็นแนวอะไร เช่น ถ้าคุณมีพื้นฐานเป็นอาร์ต คุณต้องไปนี่ ถ้าคุณเก่งคำพูด โน่น ที่โน่นเป็นแดนของครีเอทีฟสายcopywriting หรือถ้าคุณเป็นเออี ไปเอเจนซี่ไหน ที่ทำแล้วรุ่ง มีแคแร็คเตอร์ค่ะ
อ้าว แล้วฝ่ายมีเดียล่ะ ไม่อยากทำกันเลยหรือ
เพื่อนดิฉันคนหนึ่ง รักกันมาแต่ป.หนึ่งป.สอง เลือกมาสายมีเดีย เดี๋ยวนี้ กินเงินเดือนแพงๆ นั่งบริหารเอเจนซี่ที่แยกตัวมาจัดการด้านสื่ออย่างเดียวสบายไปแล้ว


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 16 เม.ย. 08, 18:17
ทุกสิ่งมีการเปลี่ยนแปลง เสื่อมสลาย รุ่งริ่ง และรุ่งเรือง เอเจนซี่โฆษณาก็เช่นกัน
แต่เดิม ฝ่ายครีเอทีฟ เออีและมีเดีย มีรีเสิชแซม อยู่และทำงานกันอย่างสนุกสนาน ร่วมหัวจมท้ายทำแคมเปญเสนอกันยันสว่าง จนมีธรรมเนียมว่า ถ้าอยากเป็นภรรยา หรือสามีที่ดี ย้ายไปมีเดีย เพราะจะมีเวลากลับบ้านช่องแบบเป็นเวล่ำเวลาปกติเหมือนชาวบ้าน
ส่วนพวกครีเอทีฟไม่ต้องพูดถึง ยิ่งสมัยไม่มีreferenceภาพในคอมพิวเตอร์ให้ก็อปเป็นไอเดียเสนอลูกค้าละก้อ บอร์ดก็ต้องเขียนต้องลงมือ เลขาก็ต้องอยู่หน้าพิมพ์ดีดไฟฟ้ารอต้นฉบับและทำบุ้คเพื่อนำเสนอ
ก็อปปี้ไรเตอร์ ก็คิดวนได้จนนาทีสุดท้าย ถึงดึกๆดื่นๆ เพื่อเขียนรายละเอียดของbody copy หลังจากคิดคำพูดออกมาแล้ว
...
เดี๋ยวนี้ เขาแยกสิ้นเชิง มีเดียออกไปตั้งบริษัทวางแผนและเลือกซื้อทำกำไรลูกเดียว บ้างก็เปิดให้ซื้อรวมกันหลายเอเจนซี่ เพื่อปริมาณมาก แต่ราคาต้นทุนต่ำ เจ๊ๆมีเดียที่เคยสบาย กลับบ้านเร็วเห็นหน้าลูกผัวก็ต้องลำบากบ้าง ไม่ได้นับเงินสบาย ทำนาบนหลังเออีเหมือนเมื่อก่อน
บริการคืองานของเธอด้วยค่ะ 8)


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: Oam ที่ 16 เม.ย. 08, 23:10
มาแล้ว มาแล้ว
ไม่ใช่ ซิงเกอร์ แต่เป็นสาวนักโฆษณาเจ้าเก่า


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 17 เม.ย. 08, 10:43
สวัสดีค่ะ คุณโอม
แหม.. ชีวิตเอเจนซี่จะให้ไนน์ทูไฟว์แบบท่านอาจารย์มหาวิทยาลัยมันยากค่ะ นี่ขนาดเป็นคนโสดนะคะ ตอนนั้นยังทุ่มเททำงานแทบไม่ได้มีเวลาเรียนสูตรทำอาหารจากคุณแม่ให้สมกับที่มีบุพการีเก่งจนเป็นที่ยอมรับไปทั้งบาง น่าเสียดายจริงๆ
(เดี๋ยวนี้ ต้องมาหัดทำเอง แต่มั่นใจว่าของอย่างนี้มันอยู่ในgenesค่ะ)
มัวใช้เวลาไปกับการทำโฆษณา สู้รบปรบมือกับลูกค้ามั่ง เพื่อนร่วมทีมมั่ง และการบริหารความคิดมากจนวันเสาร์หายไปครึ่งวัน ทำอะไรรู้ไหมคะ นอนค่ะ นอน.. โงศีรษะขึ้นมา ก็ออกไปเปิดหูเปิดตากับเพื่อนๆตามโรงหนัง ร้านอาหาร จนเชี่ยวว่าที่ไหนดีที่สุด
สวนส้มรังสิตเป็นที่หนึ่งที่เราไปกันบ่อย หนุ่มๆกลุ่มประจำไม่ยักใช่ครีเอทีฟด้วยกัน แต่เป็นพวกไฟแรงสายรีเสิชกับเออีรุ่นเดียวกับผู้ว่ากทม.คนปัจจุบันนี่หละ ไปพายเรือเก็บส้มบ้าง นั่งๆนอนๆกินๆคุยๆ
แล้วก็พัทยา แน่นอน ทุกยุค ที่สนุกมีสองแห่งคือนาเกลือ กับโกลเด้นแซนด์ ซึ่งวันนี้เปลี่ยนไปหมดแล้ว ธรรมชาติสาปสูญ เหลือแต่คอนโด กับทะเล
ส่วนเขาใหญ่ ก็ไป สิ่งสวยๆงามๆธรรมชาติ น้ำตก ทุ่งเขียว ก็ทำให้สมองโล่ง กลับมาทำงานได้บรรเจิดในวันจันทร์
เขียนถึงเออีกันมั่งดีกว่า


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 17 เม.ย. 08, 11:09
เออี บริการและบริหาร

คนดังๆ ลูกผู้มีอันจะกินอยากจะทำนักเชียว อาชีพนี้ แต่มันไม่เหมาะกับคุณสมบัติคุณหนูเลยจะบอกให้ เพราะผิวเผินคือการแต่งตัวสวยงาม หล่อเนี้ยบเรียบแปล้ ดูดี ให้สมกับเงินเดือนและค่าน้ำมันและการศึกษาขั้นต่ำจบโทจากนอก  มีรถส่วนตัวและขับรถเก่งนี่คือรูปลักษณ์ภายนอกทั้งหญิงและชาย
พูดจาดีด้วยจะทำให้คุณได้รับการยอมรับจากคนไปกว่าครึ่งแล้ว
ที่เหลือก็คือความสามารถด้านบริการและบริหาร
เพราะตำแหน่งนี้ คือตัวกลางระหว่างแผนกต่างๆข้างใน และตัวแทนของเอเจนซี่ต่อลูกค้าค่ะ
สำคัญมากตรงนี้


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 18 เม.ย. 08, 16:17
ว่าด้วยสไตล์ของเออี แรกเริ่มเดิมที คนจะเป็นเออี จะแต่งตัวกระเซอะกระเซิงไม่ได้ จะต้องสุภาพ ไม่ล้าหลัง ดูน่าเชื่อถือ เดี๋ยวนี้ อาจจะไม่ต้องถึงขั้นที่เรียกว่าelegant จะแต่งตัวตามสบายก็ได้ แต่ไม่ใช่ง่ายเกินไป จะไม่ขับรถก็อาจจะขัดกับอาชีพ เพราะต้องวิ่งไปวิ่งมา เรียกแท็กซี่ อาจจะต้องหอบของพะรุงพะรัง เดี๋ยวนี้ไม่ต้องขนอาร์ตเวิค หรือสตอรี่บอร์ด เพราะมโน้ตบุ้ค ตัวธัมบ์ไดรฟ หรือแผ่นดิสก์ช่วย เรื่องเทคนิคสบายไปแปดอย่าง
พวกครีเอทีฟฝันอยากจะมีเออีแต่งตัวแบบนังหนูAgynessคนนี้ค่ะ เดินมาทำตาปริบๆที่โต๊ะ ยิ้มหวานหน่อย หนุ่มๆทำงานถวายหัวเลย


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 18 เม.ย. 08, 16:18
 :D อีกสักรูปนะคะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 18 เม.ย. 08, 16:43
มาเดากันสนุกๆว่าสาวเออีคนไหน ควรจะถือสินค้าอะไร จากบุคลิกนะคะ
บริษัทน้ำมัน ถุงเท้าและผ้าขนหนู กรมส่งเสริมการส่งออก วิสกี้


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 18 เม.ย. 08, 22:43
นายติบอไม่ค่อยมีความรู้ครับ เรื่อง ae
ถ้าให้จับสาวๆมาเลือกเสื้อผ้า เครื่องประดับ
หรือเลือกช่างแต่งหน้าทำผมให้ คงง่ายกว่านี้เยอะ

คราวนี้เลยขออนุญาตมาเดามั่วนะครับ แหะๆ


ก่อนอื่น.... ขอเดาเรื่องของไกลตัวก่อน... วิสกี้
(ก่อนเดา ออกตัวก่อนว่ากินเหล้าไม่เป็น)

แต่ถ้าจะพูดถึงเหล้า ดูๆคงจะมีแม่คนแรกกะคนสุดท้ายที่พอไปได้
เจ๊คนแรกน่าจะไปขายเบียร์สำหรับสตรี (เพราะชีดูล่องลอยผสมท้าตีท้าต่อยนิดๆดี)
แต่..... ไอ้เบียร์ที่ว่านี้ขืนผลิตออกมาล่ะก็.....
ป้าเบียบต้องเอาเหงือกเฉาะหัวคนผลิตแตกเลือดสาดคาทีวีแหงๆเยย...
นายติบอเลยขอเปลี่ยนเป็นว่าชีดูเหมาะกะสุราแช่ หรือไม่ก็ 28 ดีกรีเป็นพอดีกั่ว

คราวนี้นายติบอเลยขอจับเจ๊คนที่ 4 ไปโฆษณาวิสสะกี้ก่อนละกันครับพี่กุ้ง
เพราะนายติบอว่านะ... เธอดูมีรสนิยมเหมือนหมักบ่มในถังไม้โอ๊คมา
หุ่นก็ยังกะนาฬิกาทราย..... โอวแม่เจ้า sexy ชะมัด!!!



ถัดจากเบอร์ 4 ดูเบอร์ 3 กันดีกว่า
ป้าคนนี้หน้าหวาน ตาคม ท่าทางเป็นคนดุเล็กน้อย
เอ๊า... executive กว่าคนอื่น (แต่ตุ้ยนุ้ยว่ะ)
ท่าหิ้วกระเป๋าก็เท่ห์นะ.... (ชวนให้นึกถึงป้าแทตเชอร์ ตะหงิดๆ)
นายติบอขอจับเธอไปเป็น ae น้ำมันเลยละกันฮะพี่กุ้ง

เผลอๆน้ำมันดิบขาดตลาด น้ำมันดีเซลขึ้นราคา
บริษัทจะได้เฉือนหน้าท้องเธอมาเจียวทำไบโอดีเซลไปก่อนก็ได้คับ งุงิ



เดาต่อๆ... เหลือคนที่ 2 กะ 1
เจ๊คนที่ 2 หน้าสวย แต่ดูแห้งเกิน ทรงตรงแด่ว ใส่เสื้อผ้าก็รุ่มๆร่ามๆ
ถ้ามีผลิตภัณฑ์อะไรที่เกี่ยวกะไม้ไผ่ พวกกระบอก ข้าวหลาม หรือไม้เสียบลูกชิ้น
เธอน่าจะไปเป็น ae เพราะคงเอาตัวเองเป็นพรีเซนเตอร์ควบคู่ไปด้วยได้
แต่แบบนี้แหละ... ผู้หนุ่มสังคมทั้งหลายเทใจให้
(หลายคนเขาว่าดูดี มีภรรยาสมเป็นภรรยา ม่ะได้หามาเป็นนางเอกหนังเรต)
จับเธอไปขายถุงเท้า.... กะผ้าขนหนู (มั้ยเคอะ) แล้วกันเค่อะ


เหลือแม่คนแรก ดูเหมือนจะแต่งหน้าเยอะไปนิด
ถึงแววตาล่องลอยไปหน่อย....... แต่ก็แต่งตัวสมเป็นผู้บริหาร
หรือจะใส่สูท(มา)บังทรง.... ก็มิแซบได้
เอ๊า.... เดาว่าชีดูเปงคุงหนูเด็กเส้น ล่องๆลอยๆ แกมท้าตีท้าต่อยเจ้าอารมณ์

พูดรวมๆว่า ดูสวย(แต่เปลือก)ไปนิดส์
(เพราะถอดสูทออกมาความสวยที่ทาบฉาบบนใบหน้าอาจจะลดลงได้)
น่าเหมาะกะอะไรแบบข้าราชการ..... เชิญไปอยู่กรมฯนี่แหละ ดีสุดละ
ไปทีไรสวยแต่ห้องสมุด.... ห้องน้ำยังม่ะสวยเลย งุงิๆ












แอบเข้ามาปากจัดกัดนางแบบตอนดึกๆ อารมณ์กำลังคึกครับ
สมาชิกท่านใดอ่านแล้วเคืองใจโปรดอย่าถือสา... โบราณว่าอย่าถือคนบ้าครับผม


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 19 เม.ย. 08, 13:35
 :-\ อืมม์ ความคิดของคุณติบอไม่เลวเลย รอฟังจากท่านอื่นบ้างดีไหมคะ คุณbana คุณsila คุณkurukula และคุณpakun 2k 1d ไม่ทราบไปไหน รวมถึงเพื่อนนอกวงการอย่างคุณโอมด้วย เอ พักนี้คุณpipat กรรไกรทอง หายไปเลยนะคะ  มัวไปปั่นตัวหนอนในสมุดอยู่หรือเปล่าคะ
ที่ดิฉันให้ลองทำนี่ มันเชื่อมโยงไปถึงการทำ Brand Personality ค่ะ ซึ่งอาจข้ามไปโยงกระทู้โฆษณาไหน..ใครเสพ ให้กระดิกกระเดี้ยขึ้นมาบ้าง
มีแต่คนเข้ามาอ่าน แต่ไม่ออกความเห็นกันเลย
น้อยใจ..ค่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 19 เม.ย. 08, 16:57
        ช่วงนี้วุ่นๆ ขอแสดงความเห็นสั้นๆ แบบทำข้อสอบแค่ผ่าน และ ไม่ได้อ่านหรือลอกคำตอบคุณติบอครับ
         
         ชอบหมายเลข 2 ลุคมาดมั่น เป็นผู้ใหญ่ ท่าทางฉลาดเจรจา ลูกค้าน่าจะวางใจ จึงเลือกเธอให้ถือสินค้า
ราคาแพง สินค้าผู้ใหญ่ และ(สินค้าที่รู้สึกว่ามีเพศเป็น)ผู้ชาย ได้ทั้งบริษัทน้ำมัน กรมส่งเสริมการส่งออก และวิสกี้

         สำหรับถุงเท้า ผ้าขนหนู เลือกหมายเลข 3 แม้จะดูอ่อน(วัย)นุ่ม สมตัวสินค้าที่เป็นเพศหญิง แต่สีหน้า
ท่าทาง และดวงตาของเธอมีแววเข้มแข็ง ที่น่าจะทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในตัวเธอได้           


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: elvisbhu ที่ 20 เม.ย. 08, 01:37

คนแรกเปรี้ยวมากครับ ตอนแรกคิดว่าจะให้ถือสินค้าอย่างกรมส่งเสริม แต่ดูแล้ว ท่าทางคงจะดื่มเหล้าได้ ผมให้วิสกี้ก่อนเลย
คนที่สองท่าทางเป็นผู้ใหญ่ เชื่อมั่นในตัวเอง บุคลิกดีคงจะถือสินค้าได้ทุกแบรนด์ ยกให้ถือบริษัทน้ำมัน
คนที่สาม ท่าทางเด็กหน่อย พอจะให้ถือถุงเท้า และผ้าขนหนูได้ดี..
คนสุดท้าย โอ้โฮ อย่างนี้สิครับ กรมส่งเสริมการส่งออก แต่งตัวสวยหวานปานนางแบบ ผู้หลักผู้ใหญ่ในกรมคงจะเอ็นดูเธอหน่อย อาจจะได้สินค้าเพิ่มมาอีกหลายงาน
แอคเคานท์สี่ตัว เออีสี่คน เอเจนซี่ผมคงถึงร้อยล้านแน่..


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: หมีใหญ่ ที่ 20 เม.ย. 08, 20:50
ความเห็นส่วนตัวครับ ผมคิดว่าคนที่สองเหมาะกับบริษัทน้ำมันหรือกรมส่งเสริมการส่งออกครับ รู้สึกว่าเธอมั่นใจในตัวเอง คนที่สี่คงได้กับวิสกี้ครับ ถุงเท้า ผ้าขนหนูคงจะเป็นคนที่สามออกสดใส คนแรกเลยตกรอบสำหรับผม ถ้าจะหาให้ได้ก็อาจจะเป็นวิสกี้ครับ เอาเป็นในแบบสาวมั่น (คนละแบบกับคนแรกนะครับ)


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 21 เม.ย. 08, 01:08
ความเห็นแต่ละท่านน่าสนใจไปคนละแบบ เดี๋ยวดิฉันจะเล่าถึงตัวจริงที่ทำงานสี่แอคเคานท์ดังกล่าวนะคะ
กรมส่งเสริมฯ คนที่ประสานงานได้ดีที่สุดไม่มีปัญหา หรือถ้ามีเธอก็พยายามแก้ไขให้ลุล่วงไปโดยปัญหาไม่มาถึงผู้บริหาร เป็นสาวสวยหุ่นนางแบบ จบมหาวิทยาลัยแถวท่าพระจันทร์การันตีว่าอึด ..
อะลุ้มอะหล่วย แต่ถึงที่สุดก็ไม่ยอมคนได้ ทำงานหนัก ภาษาอังกฤษพอไปได้
เธอจะแต่งตัวด้วยเสื้อส่วนใหญ่เป็นผ้ายืด แต่แนวเบลาส์ มีกุ๊กกิ๊กเล็กน้อยพอไม่ให้จืด และใส่กางเกงสแล็ค เนื่องจากหน้าสวยหุ่นดี แต่งตัวไม่เชย ทำงานดี ลูกค้าก็เลยข่มไม่ได้
เคยมีอีกคนเซอร์วิสกรมเช่นกัน สาวคนนี้เก่งภาษา ทำงานเป็นระบบ สติปัญญาดีมาก รวยอีกต่างหาก แต่งตัวสวยและดูแพง เป็นคนทำงานเร็วและคล่อง ความเร็วของเธอทำให้พลาดได้ เพราะไม่ละเอียด
..
วิสกี้ ไม่ค่อยมีผู้หญิงเซอร์วิสวิสกี้หรือบรั่นดีได้ดีพอที่จะยกตัวอย่างได้เลยค่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 21 เม.ย. 08, 10:11
สิ่งหนึ่งที่ทำลายคนตั้งใจทำงานและทำงานดี คือการได้ถือแอคเคานท์ที่ลูกค้าไม่อยู่กับร่องกับรอย ไม่มีเหตุผล และคิดว่า เป็นการจ้าง จ่ายเงินแล้วต้องทำได้ ทำราวกับเออีเป็นทาส
เอเจนซี่ต้องถนอมเออีดีๆเหล่านี้ไว้ เปลี่ยนให้ถือสินค้าหมูๆ ลูกค้าดีๆบ้าง ไม่งั้น คนทำงานก็หมดกำลังใจค่ะ
ไม่กระหน่ำซ้ำเติมจนหมดไฟ
แต่บางทีเออีก็หาทราบไม่ว่า หัวหน้าน่ะ ต้องเผชิญปัญหาและความเครียดจากลูกค้ามากกว่าหลายเท่า
ถึงแม้ว่าหัวหน้าจะโปรโมท หรือขึ้นเงินเดือนให้ดีแค่ไหน วันหนึ่ง คนเหล่านี้ก็จะถามตัวเองว่า นี่ฉันต้องมาจับเจ่ากับลูกค้าแบบนี้ทำไม มันไม่ได้อะไรขึ้นมาเลยสักนิด
บั่นทอนมาก
แอคเคานท์ดีๆก็มีนะคะ และส่วนใหญ่ ถ้าเราทำงานเต็มที่ ทุ่มเท ต่อให้ลูกค้ายากเพียงไร ก็ต้องเห็นใจคนทำงาน
นอกจากลูกค้าที่เขามีเอเจนซี่อื่นในใจที่คิดว่า ทำงานให้เขาได้ดีกว่าเรา และอยากเปลี่ยนอยู่แล้ว
มันก็ลำบากค่ะ
เออีสวย เก่ง ดีแค่ไหน ก็รั้งไม่อยู่
...
มาว่าถึงเออีบริษัทน้ำมัน เนื่องจากเป็นแอคเคานท์ใหญ่ ก็ต้องมีพี่เบิ้มคอยคุม ระดับเอ็มดีเลย รองลงมาก็ระดับฉlient Service Director และรองลงไปอีกก็แอคเคานท์ ไดเร็คเตอร์ แล้วถึงเป็นเออี วิ่งงาน ตามงาน โทรศัพท์ทำนัดประชุม เตรียมเอกสาร ซีร็อกซ์จะเป็นงานหลัก จนเดี๋ยวนี้มีคอมพิวเตอร์ใช้งาน ลดการใช้กระดาษไปเยอะเลยค่ะ
บคลิกเออีบริษัทน้ำมันก็ควรจะดูแล้ว ประเทืองอารมณ์หน่อย
มั่นใจ ลุย นั่งมอไซค์ไหวยามประชุมด่วน
สมัยหนึ่ง ที่สุขุมวิทรถติดมากๆ รถไฟฟ้ายังไม่มี ประธานเอเจนซี่ในซอยสุขุมวิท ๙ รถติดปากซอยแค่จะไปประชุมที่ตึกอมรินทร์โซโก้ อีกไม่กี่ซอย ต้องตัดสินใจลงจากเบนซ์คันงาม ซ้อนมอไซค์รับจ้างไปแทนค่ะ
เห็นไหม ว่า เราติดดินกันแค่ไหน



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: V ที่ 21 เม.ย. 08, 23:21
ขอเล่นด้วยคนนะคะ ตามอ่านประสบการณ์ของคุณกุ้งแห้งเยอรมัน สนุกมากเลยค่ะ ขอมาทายด้วยคนนะคะ

ขอเดาว่า #1 น่าจะุืืืทำ account น้ำิมันเพราำะื้่ท่าทางทะมัดทะแมงดี ดูคล่องแคล่วเป็นสาวออฟฟิศ

#2 น่าจะุืืืทำ account ถุงเท้า และผ้าขนหนูได้ดี เพราำะ้ดูจากบุคคลิกแล้วดูเป็นแม่บ้านทันสมัยมากกว่าอีกสามคนที่เหลือ

#3 น่าจะุืืืทำ account วิสกี้ เพราำะ้ดูแต่งตัวแบบสาวออฟฟิศแบบ casual กว่า ดูสบายตาลูกค้าน่าจะชอบ deal งานด้วยมากกว่า

#4 น่าจะุืืืทำ account กรมส่งเสริมการส่งออก เพราำะ้ดูแต่งตัวทันสมัยมีสไตล์ ดูมีรสนิยมที่ดี

พอไหวมั้ยคะคุณกุ้งแห้งเยอรมัน  in my office doesn't have thai font to type so that I have to use visual thai keyboard. It took a long time to type all this... but I tried na ka... hee.he.e.

Keep it coming ka... I like your story :)

Regards,
-V-


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 22 เม.ย. 08, 13:07
สวัสดีค่ะ คุณVยินดีต้อนรับค่ะ
..
แต่ละท่านก็มีเหตุผลของตนเองแตกต่างกันไป อ่านสนุกทีเดียว อย่างว่าแหละค่ะ สนุกๆ ทีนี้ดิฉันจะขอวิเคราะห์จากงบดีไหมคะ เราเรียกว่าบิลลิ่งค่ะ บิลลิ่งสูงๆ ก็ต้องแต่งตัวหรูๆ บิลลิ่งน้อยหน่อย ก็ลำลองได้ เอางั้นดีกว่า
บริษัทน้ำมัน ปีหนึ่ง ตีเสียว่า ๓๐ ล้าน วิสกี้ แบรนด์เดียว ทุ่มงบปลายปีมหาศาลสามเดือน ๖๐ ล้าน
ผ้าขนหนูและถุงเท้า งบตลอดปี แต่แรงหน่อยก็ตอนโรงเรียนเปิด รวม ๔ ล้าน
และกรมส่งเสริมฯ เฉพาะงานBIG เมษา ๑๕ ล้าน
ตกลงเอเจนซี่คุณเอลวิสภู เกินร้อยล้านไปนิดๆสมการคาดคะเน
...
สาวทั้งสี่ใส่ชุดของDonna Karen หมดละค่ะ แต่ต่างสไตล์กันเท่านั้น ทีนี้แบ่งตามบิลลิ่ง เทียบกับการลงทุนนะคะ
เบอร์สาม ลำลองมาก เหมาะกับงบน้อยๆ สบายๆได้ อย่างลูกค้าถุงเท้าและผ้าขนหนูแน่นอน
เบอร์หนึ่งเดินเข้าออฟฟิศแพงๆ โก้ๆอย่างปตท. สาวปตท.ต้องชิดซ้าย ฝ่ายการตลาดต้องทึ่งหน่อย อื้อฮือ ชุดเนี้ยบ แพง เสนอใบพีซีอีที แพงได้ ลูกค้าเงยหน้าดูเออี เอ้อ..ยอมเซ็น ..คอสท์สูงหน่อยไม่ค่อยต่อพิรี้พิไร
เบอร์สอง เท่มาก เดินที กระโปรงพลิ้ว เสื้อแขนกุด เซ็กซี่หน่อยๆ เข้าออฟฟิศวิสกี้ได้ บรรดาลูกค้าฝรั่ง หรือเด็กจบนอกชอบแน่ๆ ดูแล้ว แม่คนนี้ดื่มเหล้าได้ ดูจากท่าทาง การแต่งตัวมีสไตล์ ลูกค้าหนุ่มๆต้องพยายามหาเรื่องให้เข้ามาประชุมบ่อยๆ จะได้ดูความเนียนของผิว
เพลิน..ดี
ทีนี้จะเหลือใคร กรมส่งเสริม.. งานของขวัญ จะแต่งตัวจืดๆเป็นนักธุรกิจแบบเบอร์หนึ่งมันน่าเกรงขามไป โก้เกินหน้าพวกลูกค้าฮ่ะ
มันต้องมีลีลาหน่อย มีครีเอถีบว่างั้น
แน่ะ จอดรถที่ใต้ถุนกรมตรงสนามบินน้ำปุ๊บ ไม่ต้องใส่หมวก เดินกระโปรงบานก้าวฉับๆ ขึ้นไปที่ประชุม สร้างชีวิตชีวา
ผู้หลักผู้ใหญ่ชอบ
แต่ถ้าเป็นตึกตรงรัชดา ที่จอดรถร้อนมาก เดินใส่หมวก ขึ้นมา ข้าราชการถึงจะอ้าปากค้าง .. ก็อึ้ม.. มันร้อน เก๋ดีซะอีกยัยคนนี้
อ๋อ ทำงานBIG ต้องมีฟิลลิ่งออกดีไซน์เนอร์หน่อย เอ้า ใช้ได้ๆ ปีหน้าเอางบไปอีกนะจ๊ะ
 


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 22 เม.ย. 08, 13:13
แต่ในชีวิตการทำงานจริงๆ เราดูจากบุคลิกลูกค้าค่ะ ไม่ได้ดูจากงบหรอก การจัดเออีให้chemistryไปได้กับลูกค้า สำคัญมาก ไม่งั้นลูกค้าขอเปลี่ยนคนถือได้..
เรื่องสไตล์การแต่งตัวนั้น เป็นเรื่องการเสริมบุคลิกของเจ้าตัว
แต่งตัวสวย บริการห่วย บริหารไม่เป็น สมองถั่ว ก็มีถม..


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 23 เม.ย. 08, 09:22
งานนี้ สนุกไหม ท้าทายไหม
ดิฉันว่างานของเออี เหมือนจะสนุกสำหรับสาวหนุ่มที่ชอบพบปะผู้คน ใหม่ๆตลอด ดูแล้วไม่จับเจ่ากับที่ รายได้งาม มีการเรียนรู้ตลอดเวลาทั้งด้านการบริหารเงิน และความเข้าใจในศิลปะการขายภาพ ไอเดีย และคำ
มีบางคน ไม่สันทัดหรอก คิดว่าจะช่วยคนเขียนคำโฆษณา ด้วยการแก้แทนลูกค้าเสียก่อน ครีเอทีฟก็ไม่ชอบใจ แต่เมื่อแก้ตามที่เธอบอก แล้วขายลูกค้าได้ คนที่ทำงานก็จะเชื่อมั่นขึ้นมาได้ว่า
เออ เจ้านี่มันเข้าท่าว่ะ เข้าใจลูกค้าดี แก้รอบเดียวอยู่...
แต่ก็มีเออีหลายคนเหมือนกัน คิดว่าชั้นเก่ง ชั้นจะแก้ จนกว่าจะพอใจแล้วไปขายลูกค้า พวกครีเอทีฟนี่ สตึมากๆ ดีแต่เขียนอะไรไม่รู้ ไม่เห็นจะขายของตรงไหนเล้ย..
เรียกว่าย่ำยีงานจนเสียไอเดียไป ก่อนถึงลูกค้าก็มี
อันตะร้าย อันตรายค่ะ...

แบบนี้ ครีเอทีฟอยากจะ เอ้อ..ดีดให้ไปไกลๆเสียละมากกว่าฮ่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 23 เม.ย. 08, 10:13
ผู้มีชื่อเสียงที่เคยผ่านงานนี้มา มีใครบ้าง ดิฉันจะขอยกชื่อจริงมาเลยแล้วกัน คือคุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน คุณนวลพรรณ ล่ำซำ ทั้งสองท่านทำงานดี เพื่อนร่วมงานรักและให้ความร่วมมือ ทำงานกันเป็นทีมดี
ระดับหัวหน้าทีมบริหารลูกค้า มีคุณชลิต ลิมปนะเวช คุณสพรั่ง ปาลเสถียร คุณวิชัย สุภาสมบูรณ์
ระดับเอ็มดี ที่รู้จักกันดีในหมู่นักโฆษณา ถึงการทำงานแบบถึงลูกถึงคน คุณกำธร กมลวรินทร์ทิพย์ ที่ล่วงลับ คุณวินิจ สุรพงษ์ชัย คุณจิม เบลล์
...
ดิฉันเชื่อว่า ต่อให้ยุคสมัยเปลี่ยนไป มีเทคโนโลยีการเสนองานที่สะดวกขึ้น งานเออี ก็ยังต้องอาศัยคุณสมบัติต่อไปนี้
ความเฉียบคม  ในการกรองบรีฟมาร์เก็ตติ้งของลูกค้า ออกมาเป็นแนวทางการโฆษณาแบบเนื้อๆ ไม่เอาน้ำ เพื่อให้ครีเอทีฟ จับทางได้ถูก
หูตากว้างไกล   ในเรื่องของการโฆษณา การตลาด สื่อ จะได้เอามาดัดแปลง ปรับปรุง ใช้ มิใช่ลอกเลียนโต้งๆ
รสนิยมดี อันนี้สอนไม่ได้ เป็นสิ่งติดตัวที่ต้องสะสมเอง
นิสัยบริการ เพราะนี่คืองาน และคุณสมบัติสำคัญในการผูกใจเพื่อนและลูกค้า
ความยืดหยุ่น รู้อะไรควรตื๊อ อะไรควรหยุด อะไรควรถอย และอะไรควรกัดไม่ปล่อย
....






กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 23 เม.ย. 08, 10:53
ลูกค้า แม่เอ๊ย

กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟของดิฉันคงจะขาดรสชาติ ถ้าไม่พูดถึงผู้ที่ทำให้เรามีเงินใช้ มีงานทำ ก็จะใครเสียอีกหากไม่ใช่ลูกค้าผู้มีพระคุณทั้งหลาย
แต่ถามดิฉันวันนี้ ใครคือลูกค้าที่ประทับใจสุด
คงต้องคิด ก่อนตอบ เพราะคำถามต่อไป คือประทับใจตรงไหน แต่ละท่าน มีมุมโหด มุมเมตตา มุมเชี่ยว และมุมเคี่ยว(เขี้ยวด้วย) ที่น่าชื่นชม และน่าขมขื่น สร้างความประทับใจไปคนละแบบ
เรื่องนี้เป็นเรื่องของประบการณ์ที่เจอมากับตัวดิฉันเอง บางท่านที่แสนจะเมตตาดิฉัน อาจจะวีนครีเอทีฟท่านอื่นก็ได้ เป็นสิ่งที่ดิฉันไม่รับรองนะคะ
...
ลูกค้าท่านหนึ่ง ที่ดิฉันนึกถึงทันที ก็คือ เบอร์หนึ่งของลีเวอร์บราเธอร์ ยุคหนึ่ง
เราได้รู้จักนายห้างเทียม โชควัฒนาแห่งสหพัฒน์และฟาร์อีสท์ จากประสบการณ์ส่วนตัวของดิฉันแล้ว
คราวนี้ มาถึงเบอร์หนึ่งของคู่แข่งบ้าง
ท่านก็ล่วงลับไปแล้วเช่นกัน เป็นตำนานการตลาดที่ดิฉันไม่พลาดในชีวิตการทำงานบนเนทางสายนี้ค่ะ
คุณวิโรจน์ ภู่ตระกูลไงคะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: Oam ที่ 23 เม.ย. 08, 21:20
กระทู้จะอยู่ได้ ก็ต้องมีลูกค้าตามมาอ่านกระทู้

รออ่านทั้งสารคดี และนิยายจากพี่กุ้งแห้งคะรับ
 ;D


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 23 เม.ย. 08, 22:35
ขอบพระคุณที่มาเตือนสติค่ะ คุณลูกค้า...
......
เขียนๆไปก็ชักปลงๆว่า โอ้โฮ คนที่เราศรัทธา ลาไปอีกภพกันหมดตามกฎแห่งอนิจจัง ทรัพย์สิน หัวโขน เสื่อมหมด เหลือแต่ความดีที่ทำให้คนรำลึกถึง
...มาต่อเรื่องที่น่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่อยู่กัน ก่อนจะปลงจนเขียนไม่ออกดีกว่านะคะคุณโอม
...
ยุคที่ดิฉันทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของลีเวอร์ ขอบอกว่ามันหยด คุณวิโรจน์เป็นประธานบริษัท และเป็นประธานประเภททำงานจริงจัง เดินเข้าห้องโน้น ออกห้องนี้ ให้ความำคัญกับการตลาดเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่เรากำลังประชุมเสนองานในห้องประชุมของลีเวอร์ ซึ่งอยู่ที่ตึกเพลินจิต กับการตลาดระดับผอ. หรือแบรนด์ หรือเอ็มดีก็ตาม คุณวิโรจน์ก็สามารถเปิดประตูเข้ามาได้โดยไม่ต้องมีการเคาะ แล้วนั่งฟังเราได้
ดิฉันจำได้ว่า หลักง่ายๆของคุณวิโรจน์คือ ทำโฆษณาอะไรก็ตาม ป้าขายกล้วยแขกที่บุรีรัมย์ หรือที่ไหนก็ได้ในเมืองไทยต้องดูแล้วชอบ ดูแล้วรู้เรื่อง
น่าเสียดายที่โฆษณาทุกวันนี้ เขาทำโดยเอาตัวเองเป็นหลัก
เราจึงมีโฆษณาที่ไม่รู้ตอบโจทย์อะไรกันเยอะ
มิหนำซ้ำ ข้ามขั้น ผู้กำกับหนังโฆษณาบางคน แน่มาก สามารถคิดหนังเองกับลูกค้า โดยไม่ผ่านครีเอทีฟ
หรือมี ก็เป็นแค่หัวหลักหัวตอ
 


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 24 เม.ย. 08, 09:35
น้องๆครีเอทีฟก่นกันตรึม ว่าเดี๋ยวนี้ ลูกค้าที่แน่ๆ(จริงหรือไม่ ไม่ขอยืนยัน)ตัดเอเจนซี่ทิ้ง ตรงไปหาผกก.ให้รับบรีฟการตลาดเอาไปทำหนังได้เลย โดยไม่มีคนคิดคนกลาง
copywriter ที่รับงานจากproduction houseโดยตรงก็มี
storyboardก็มีมือวาดอยู่แล้ว
idea ให้ผู้กำกับคิดแล้วกัน แหม เก่งกันทั้งคู่(ประชดหรือเปล่าคะเนี่ย)
ดิฉันเลยถามว่า มันออกมาสำเร็จให้เห็นเป็นกรณีศึกษาสักชิ้นหนึ่งไหมล่ะ พี่จะได้เอามาเขียน คนเล่าส่ายหน้า..อย่างเอือมๆ
ในวงการนี้ มีลูกค้าเก่งระดับเซียนหลายคนที่มีเงินมาก และสามารถซื้อตัวผกก.หนังที่เธอหรือเขาปลื้ม ให้มารับบรีฟโดยตรงอยู่บ้าง เพราะประสบการณ์แก่กล้า ผ่านครีเอทีฟมาแล้วรุ่นแล้ว รุ่นเล่า จนคิดว่า หนังที่สร้างความสำเร็จให้สินค้า มาจากฝีมือคุณท่านล้วนๆ
เอาทางพุทธเข้าข่ม มันน่าเวทนาดีไหมล่ะคะ...
แต่คนแบบนี้ มีจริงๆค่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 24 เม.ย. 08, 09:54
เล่าเรื่องลูกค้าสักคนเป็นตัวอย่างค่ะ
ในเอเจนซี่ฝรั่ง หัวหน้าฝรั่ง กำลังง่วนอยู่กับการคิดหนังสบู่ตราหนึ่ง ที่เคยออกวางตลาดแล้ว ลูกค้ารายนี้ เป็นอิสราเอลที่ทำมาหารับประทานในเมืองไทยมานาน เหลือเชื่อนะคะที่บ้านเรา มีเจ้าของธุรกิจเชื้อสายยิวกับเขาด้วย ถ้าไม่ทำโฆษณาก็คงไม่ทราบ มีกิจการดังที่ทำกำไรมากมาย และมีงบโฆษณาสูง ให้แบรนด์อื่น แต่ไม่ได้ใช้กับแบรนด์นี้มานาน
ยิวคนนี้ ขึ้นชื่อมากๆ เรื่องความหิน
กิตติศัพท์ที่เป็นตำนานคือสามารถเอาสตอรี่บอร์ดโยนถังขยะได้ต่อหน้าต่อตาเอดีอาวุโส
หัวหน้าเป็นอาร์ตไดเร็คเตอร์ค่ะ คิดหนังไปสามเรื่องให้เลือก ดิฉันเป็นแค่ผู้ช่วย ไม่ใช่ต้นไอเดีย แต่ได้ไปช่วยสานต่อความคิดและคิดคำพูดโฆษณาจากsenseของฝรั่ง แปลงมาเป็นไทย โดยรักษาคอนเส็ปท์ไว้
สำหรับดิฉัน เป็นงานถนัด... ใช้สมองเพียงบางส่วนเอง


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 24 เม.ย. 08, 16:36
เตรียมการดิบดี หัวหน้าดิฉันบอกให้ดิฉันเป็นคนพรีเซนต์ บริษัทของลูกค้าอยู่ไหนไม่รู้จำไม่ได้ค่ะ นายห้างยิวมานั่งฟังเองเลย ฟังเสร็จ ชมแล้วชมอีกว่าดี เลือกมาหนึ่งบอร์ด ได้ทำหนังเลย..
หัวหน้าดิฉันยักคิ้ว บอกว่า He bought it because he likes you..
..
หนังเรื่องนั้น มีนักร้องหมายเลขหนึ่งของเมืองไทยยืนเกาะบันไดเลื่อนมองตามนางเอกในฐานะตัวแสดงประกอบด้วย ตอนนั้นเขายังรัศมีไม่ออก เพราะเราไม่ชอบเขี้ยวเขา เลยไม่ได้เป็นตัวเอกค่ะ
แต่ก็หน้าตาดีพอที่จะถูกคาสติ้งจับมา ให้เราเลือก
หาหนังเรื่องนี้ดูน่าจะไม่ได้แล้ว ออนแอร์ได้ไม่เท่าไหร่ ก็ไม่มีงบ
สินค้าอุปโภคบริโภค หยุดโฆษณาไม่ได้หรอกค่ะ
...
สินค้าเพื่อผิว ความสวยงาม แฟชั่น ใช้คนสวยอย่างเดียวที่ไม่ดัง ไม่เป็นดารา นางงาม ก็ต้องสวยระดับชาติ หรือสวยระดับโลก ถึงจะตรึงใจคนได้ให้ชอบในตราสินค้า
สินค้าคุณภาพด้วยแล้ว ถ้ายิ่งมีดารามาใส่ ไม่ต้องพูดอะไรมาก
ตาถึง เลือกนักแสดงดีๆ
ก็สามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้
ภาพนี้ไปเจอเข้าจากกรุหนึ่งค่ะ เดี๋ยวนี้ นางเอกอันดับหนึ่งในอดีต กลายเป็นดาวตลกไปแล้ว


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: Oam ที่ 24 เม.ย. 08, 19:32
สวมแพน แสนเพลิน

สวยไม่เบา แบบล้ำนำหน้า แสนสบายใช้คล่องต้องบาจา บาจา รู้เฟื่องเรื่องรองเท้า

นันยาง ใช้ทน จนลืม


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 24 เม.ย. 08, 23:16
เหิน ไปทุกหนไปอย่างคนช่างฝัน
แสนจะสุขสันต์ ไปกับฝันแสนไกล
...
จำได้ประมาณนี้ค่ะ เพลงแพน


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 27 เม.ย. 08, 09:29
ต่อได้แล้วค่ะ ความจำค่อยๆมา

เหิน ไปทุกหนไปอย่างคนช่างฝัน
แสนจะสุขสันต์ ไปกับฝันแสนไกล
ปราดเปรียวไปตามใจไปเถิดไป ไปเถิดไป ส่งดวงใจให้ถึงทุกแดน
แพน แพน ตะลุยไปกับรองเท้าแพน
ตะลุยไปกับรองเท้าแพน
...
บุกกับแพน นี่แสน....เพลิน


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 28 เม.ย. 08, 16:12
ดิฉันทราบมาว่า คนการตลาดของลีเวอร์ มีวิธีทำงานอย่างหนึ่งว่า managing by result เขาอธิบายว่า นี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่คนปากเสีย ก้าวร้าว หยาบ ทำไมยังนั่งทำงานอยู่ได้ เพราะเขาดูที่ผลของงาน คุณจะน้งจะไนซ์ คนเกลียดก่นด่าแค่ไหน ไม่สน ตราบใดที่ยอดขายพุ่ง


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: Oam ที่ 28 เม.ย. 08, 22:13
พี่กุ้งแห้งต้องรีบออกหนังสือนักโฆษณาตัวจริงแล้วนะครับ วันนี้ไปหนังสือประมาณเรื่องตลก เฮฮาของนักโฆษณา ลองสุ่มเปิดเข้าไป ปรากฏว่าเจอเรื่องตลกประมาณเจ้านายขี้ลืม หาปากกาไม่เจอ ต้องถามเลขาฯ เลขาฯตอบว่าเจ้านายเหน็บไว้ที่หูไง เจ้านายว่าหูซ้ายหรือหูขวา เป็นเลขาฯประสาอะไรไม่ละเอียดเลย

มันเกี่ยวกับนักโฆษณายังไงเนี่ย??? นี่มันตลกขายหัวเราะหรือป่าว

พูดถึงนักโฆษณาขี้วีน ไม่รู้ว่าพี่กุ้งแห้งได้ดูรายการเจาะใจหรือเปล่า เขาสัมภาษณ์คุณวรัตดา ภัทโรดม เห็นว่าเธอเคยทำงานบริษัทโฆษณาเหมียนกัน ได้ยินเหมือนว่าบริษัทลีโอ (ไม่แน่ใจ) ไม่ใช่ลีเวอร์


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 29 เม.ย. 08, 14:02
ดูแล้วค่ะ เปิดไปเจอเธอให้สัมภาษณ์เรื่องนั่งสมาธิ ยังแปลกใจเลย ที่เธอไม่รู้จักคำว่าปล่อยวาง.. ชมแล้วก็ยินดีที่เธอเป็นอีกผู้หนึ่งที่ได้รับความปีติ(ซึ่งเธอบอกว่าไม่รู้จักมาก่อน)จากการนั่ง
ตกลงค่ะคุณโอม ต้องหาเวลาปั่นต้นฉบับเพื่อขายคุณโอมคนเดียวเสียแล้ว..


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: pakun2k1d ที่ 30 เม.ย. 08, 10:10
มาทำการบ้านของคุณกุ้งฯ บ้าง

สาวหมายเลข 3 การแต่งตัวบอกไม่ถูกค่ะ  ไม่ไปทางไหนเลย  งั้นให้ขายผ้าขนหนู และถุงเท้าก็แล้วกัน  เพราะสินค้าประเภทนี้ดูธรรมดา แต่หลากหลายระดับราคา และรูปแบบบอกไม่ถูกเช่นกัน

สาวหมายเลข 1  การแต่ตัวดูเป็นผู้ใหญ่  มีประสบการณ์พอสมควร  ขายน้ำมันแล้วกันนะคะ  เพราะคนดูแลกิจการอย่างนี้ก็ต้องมีอายุพอสมควร  จะได้ดูใกล้เคียงกันหน่อย

สาวหมายเลข 2  ดูเปรี้ยวนิด ๆ แต่ก็มีความสุภาพอยู่  ดูแลกรมส่งเสริมการส่งออกน่าจะดีนะคะ  เพราะบุคลิกเธอดูอินเตอร์ดี

ส่วนหมายเลข 4 ดูหวานนิด ๆ มาคบ สนทนา เรื่องเหล้ายากับหนุ่ม ๆ ขี้เหล้า ก็น่าจะสดชื่นกระชุ่มกระชวยดี  เพราะบุคลิกสาวขี้เหล้าส่วนใหญ่จะดูห้าว ๆ ไม่สดชื่นค่ะ

มาทำการบ้านช้าไปหน่อยนะคะคุณกุ้งฯ  พอดีพายุงานหักโหมไปหน่อยค่ะ  แต่ก็ติดตามไม่ได้ขาดนะ  ยังตั้งตารอตอนต่อไปอยู่ค่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 01 พ.ค. 08, 19:46
สวัสดีค่ะ คุณป้ากุน ร่วมสนุกกับการบ้านก็ดีไปอย่างนะคะ เพราะไม่งั้นก็จะพูดอยู่คนเดียว ไม่มันเลย มีแต่คนอ่านอย่างเดียว
..
ในเอเจนซี่ เรามักจะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียวที่จะลงคนให้เข้ากับลูกค้า บางคนเคมิสทรี่ลงกันเป๊ะๆ ได้ทั้งงานดีและได้ทั้งรางวัล ลูกค้าที่ว่า หมายถึงสินค้าด้วย อย่างดิฉันตอนเป็นครีเอทีฟสินค้าเด็กที่ชื่อสมมุติว่า เจเจ สนุกมากเพราะได้ใช้ความอ่อนโยน นุ่มนวล ในซีกกุลสตรี เด็ก แม่และสาวไร้เดียงสา และสินค้าอีกอย่างที่รู้สึกจะทำขึ้น ไม่มีตกก็คือผลิตภัณฑ์นมค่ะ ทำตั้งแต่ค่ายสวิส ไปเดนมาร์ก ไปนิวซีแลนด์ และกลับไปสวิสใหม่
เดี๋ยวจะมาเล่าเรื่องลูกค้าค่ะ
เป็นฝรั่งสวิส เดนมาร์ก และคนไทย สามคนนี้จัดว่าเป็นลูกค้าชั้นเยี่ยม
มีเยี่ยมก็ต้องมีเห่ย..กันบ้าง
เดี๋ยวจะเล่าเรื่องลุกค้าเห่ยๆ ซึ่งขอไม่ระบุเชื้อชาติ เดี๋ยวกลายเป็นว่า จะdiscriminateกัน คนจะดีจะเห่ยมันมีได้ทุกชาติแล้วกัน
แล้วก็เห่ยในสายตาดิฉัน ใครจะว่าดีก็เชิญ
แต่เท่าที่สำรวจมา .. เห็นพ้องต้องกันซะร้อยทั้งร้อยค่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 02 พ.ค. 08, 10:12
คุณพอลเพื่อนเอเจนซี่ที่ร่วมทุกข์สุขกันมานานกับดิฉันได้อ่านแล้วบอกว่า "ความซวยบังเกิดเมื่อเคมิสทรี่เลวๆได้มาพบกัน"
ดิฉันหัวเราะ บอกให้ยกตัวอย่างหน่อย เขาหัวเราะหึๆ เตือนความจำว่า
"คุณจำไม่ได้เหรอ เมื่อลูกค้าอย่างคุณกอ เจอเอดีอย่างคุณมอ และแบรนด์อย่างคุณสอ..ผมไม่เห็นความชั่วร้ายอะไรมันจะสมบูรณ์แบบในโลกโฆษณาได้ขนาดนั้น"
ใช่แล้ว .. ใช่ โอ้โฮ ช่วงนั้นเป็นสุดยอดแห่งฝันร้ายของครีเอทีฟจริงๆ
ดิฉันคิดอีกที ไม่ยกตัวอย่างนี้ดีกว่า ขี้เกียจเอ่ยถึงทีมเวิคที่ไร้คุณค่าแบบนั้น..
เรามาพูดถึงประสบการณ์ที่น่าจะเป็นประโยชน์และสร้างสรรค์กันดีกว่านะคะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 02 พ.ค. 08, 14:57
กระทู้ขยับเร็วจี๋ คนเขียนจะมัวขี้เกียจอย่างไรได้
ลูกค้าดี มีใครบ้าง
เอ่ยชื่อกันได้ ไม่ต้องอ้อมแอ้ม ลีเวอร์ค่ะ
ดีตรงไหน ก็ตรงเงินหนา บิลลิ่งสูงน่ะสิคะ!!! อย่างนี้ เจ้านายชอบ เพราะมีbrand leaderหลายตัว บางตัวนอกจากจะขายดี แล้วไม่ได้นั่งรอดอกพิกุลทองร่วงจากฟ้า ใช้เงินด้วย ไม่ว่าจะเป็นบรีส ใกล้ชิด เป็บโซเดนท์ ลักส์ ซันซิล ไลฟ์บอย
เนสท์เล่ นี่ก็เหมือนกัน เป็นพวกใช้เงินสูง ไมโล ตราหมี เนสกาแฟ เนสเปร ยกเว้นตอนกาแฟโลกราคาแพง
ลูกค้าดีตรงอื่นมีไหม นอกจากเงินหนา
มีแน่นอน เงินพอมี แต่มีเหตุผล เช่น จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ยุคคุณวิรัช หลีอาภรณ์
มีเรื่องให้น่าจดจำอยู่เรื่องคือโฆษณาผ้าอนามัยโมเดสค่ะ ยุคที่มีสามสินค้าคือ โมเดส โมเดส ธินส์ และแคร์ฟรี
ดิฉันต้องถือทั้งสามตัวค่ะ
ที่จะกล่าวถึงคือ โมเดส เฉยๆ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 05 พ.ค. 08, 01:07
ส่วนใหญ่ผลิตภัณฑ์แนวนี้จะใช้คนดังมานำเสนอไอเดีย
ขอพูดถึงคนดังสักคนแล้วกัน คือคุณแอม เสาวลักษณ์
แอม ตอนนั้นเรียนอยู่ธรรมศาสตร์ ได้รับการทาบทามมาเล่นโมเดสธินส์ ซึ่งมีจุดขายคือเน้นความบาง ทันสมัย เปรียบกับแผ่นดิสก์บางนิดเดียวแต่จุข้อมูลได้มหาศาล แน่นอน แอมต้องออกไปโดดโลดเต้นร้องเพลงอย่างมั่นใจในตอนจบในชุดขาว
แอมเป็นสาวที่สดชื่นมาก มีอารมณ์ขัน เก่ง ไม่หลงตัวเอง วันถ่ายภาพนิ่ง ตั้วยังมาหาเลย โอบไหล่กันดูน่ารักมากเหมือนพี่น้องที่สนิทสิเนหา
ก็บอกแล้วไงคะ ว่าเป็นกรุเรื่องเก่า ทุกอย่างก็ผ่านไปแล้ว
ย้อนมาในด้านการตลาด โมเดสธินส์ประสบความสำเร็จมาก
แล้วโมเดสล่ะ..
เราเลือกดาราสาวอยู่สองคน ขอไม่เอ่ยชื่อแล้วกันค่ะ ทั้งสองเป็นคนที่แสดงดี อยู่ในความนิยม ปัจจุบันคนหนึ่งยังอยู่ในวงการ รับบทแม่บ้างแล้ว ยังสวยมาก ส่วนอีกคนออกนอกวงการไปแล้ว ตอนนั้นทั้งคู่ยังโสด
เราต้องถ่ายเรื่องเดียว สคริปท์เดียวถึงสองครั้งค่ะ
เพราะอะไรหรือคะ
เพราะลีเวอร์ค่ะ ลูกค้าลีเวอร์โวยเมื่อเราทำหนังเสร็จ ว่า เราทำให้เขาเสียหาย เพราะดาราคนที่เล่นโมเดส ที่จริงเล่นหนังให้ลักส์อยู่
เอเจนซี่กลืนไม่เข้า คายไม่ออก
และไม่ใช่ความผิดของลูกค้าด้วย
เราเองก็ไม่ได้ถือลักส์
...
แก้ปัญหาไม่ให้กระทบกระเทือนได้ ก็ต้องถ่ายใหม่ทั้งเรื่อง
แต่ปัญหาคือ ใครจะเป็นคนจ่ายเงิน
ลองเดานะคะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 05 พ.ค. 08, 02:28
ผมไม่ดูโคนา
เจอเมื่อไรเป็นปิด

แล้วจะอ่านเรื่องคุณกุ้งแห้งสนุกได้งัยอ่ะ
เคยนั่งร่วมวงกับคนในอาชีพนี้บ้าง ก็ไม่เคยนั่งนาน
รู้สึกเหมือนเรานั่งอยู่ในวงพวก cult
คุยกันแต่เรื่องในวง ไม่มีเรื่องนอกกระลาเลย
ดูหนังก็ประเภทหนึ่ง
ฟังเพลงก็ประเภทหนึ่ง
อ่านหนังสือก็ประเภทหนึ่ง
เที่ยวก็ประเภทหนึ่ง
....
ฯลฯ

อย่างเช่นถ้าพวกเขาจะคุยกันเรื่องหนัง
ก็จะเป็นหนังของปีเตอร์ กรีนอะเวย์ (Peter Greenaway) เท่านั้น
ฟังเพลงก็ต้องฟิวชั่นแจ๊สส จะมาเอลวิสแบบคุณ elvisbhu เป็นเชยตาย
ซื้อบ้านก็ต้องของโนเบิ้ล
ซื้อหนังสือก็ต้องคิโนคูนิยะ.....เหมือนๆ กันหมด

นึกแล้วก็ขำ
ยาสีฟันคงใช้ยี่ห้อเดียวกันด้วยแหละ



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 05 พ.ค. 08, 09:16
เรียนคุณพพ. อ่านเรื่องนี้ให้สนุก ไม่ต้องดูโฆษณาก็ยังด้าย.. เพราะดิฉันยิ่งกว่าคุณอีก คือไม่เปิดทีวีเลยด้วยซ้ำ มันกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งไปแล้ว
แล้วถ้ายังอ่านไม่สนุกก็ไม่ต้องอ่านเซ่ะ.. เสียเวลาเปล่าๆค่ะ เพราะที่เขียนนี่ คนโฆษณาเขาก็อีเมล์ถึงกันส่งฟอร์เวิร์ดเว็บนี้ข้ามทวีปหาตัวคนเขียนกันจ้าละหวั่น
สร้างความคึกคักให้คนเก่าๆชาวเอเจนซี่ทั้งที่ยังตรากตรำทำงานอยู่ไปจนถึงพวกไปผัดไทยในอเมริกาด้วยดีกรีด็อกเตอร์ ฮ่าๆๆๆ
นี่เมื่อวานก็เพิ่งรวมตัวคนโฆษณาแบบสปอนเทเนียส นั่งกันสี่คนเท่านั้น ยาวไปแปดชั่วโมง
พวกเราจะไม่ใช่คนแบบที่คุณพพ.ยกมา ดิฉันว่าพวกนั้นเป็นพวกทิปพิคัลของเอเจนซี่หนึ่งค่ะ ซึ่งก็มีบ้างเหมือนกัน
เพราะหัวใจของงานคือการเข้าถึงผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นคนที่ซื้อแบรนด์ราคาถูกๆ ราคากลาง ไปจนถึงสูง ต้องทั้งติดดินทั้งหัวสูง
จะกระแดะดัดจริตก็ทำไม่ได้นานร้อก.. เพราะอาชีพนี้ มันทัฟฮ่ะ
เพลงก็ต้องฟังได้ทั้งใต้ร่มมะลุลี ต่าย อรทัย สลา คุณวุฒิ ไปจนถึงติ๊นา เบิร์ด
เอลวิส ซิมโฟนี่ บีทเทิ่ลส์ บริทนี่ย์ อาวริล ไดน่า ครอล
หนัง จะเลือกเสพแต่นายปีเตอร์ กรีนอะเวย์ก็หูตาแคบตาย ไม่ใช่ดูไม่เป็น เพราะมันก็ไม่ได้ทำหนังมากมายเท่าไหร่ ต้องดูทั้งอเมริกันบิวตี้ บอร์นไอเด็นทิตี้ แอคครอสเดอะยูนิเวิร์ส ไปจนถึงแคลสสิคยุคขาวดำ
หนังนอกกรอบและในกรอบ
กินข้าวก็ได้ทั้งแดกด่วน และละเมียด จะทำเป็นหัวสูงกินลาบส้มตำข้างถนนไม่ได้ ก็โน่น ไปอยู่หอคอยงาช้างเลย


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: Oam ที่ 05 พ.ค. 08, 10:06
ขอแซวว่า คนทำโฆษณา ยังดูโฆษณาน้อยกว่าผมเลยครับ
ไม่รู้ว่าป่านนี้ได้ดูโฆษณาอ้ายวีหรือยัง

คนลึกคนตื้นมีอยู่ในทุกวงการ แม้ในวงการที่ไม่ควรมีคนตื้น อย่างอาจารย์มหาวิทยาลัย ก็ยังมีให้เห็นอยู่ออกเกร่อ วงการของคุณพิพัฒน์เองก็มี (ผมเชื่อว่าอย่างนั้น)

โฆษณาไทยเป็นโฆษณาที่ตลกมากๆ (บางคนอาจว่าไร้สาระ) โฆษณาฝรั่งก็งั้นๆ แถมมีให้ดูน้อยเสียอีก ไม่ได้ยัดเยียดให้ดูตลอดเวลาอย่างของไทย 8)


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: pakun2k1d ที่ 05 พ.ค. 08, 10:19
ยกมือสนับสนุนคุณกุ้งฯ ค่ะ  ถึงแม้ว่าการทำโฆษณาจะเป็นเรื่องการสร้างภาพ  แต่คนทำงานสร้างภาพเป็นอาชีพ  ต้องมีความรู้เรื่องภาพที่ตัวเองสร้างมากที่สุด ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้ในเวลา และงบประมาณที่มีอยู่ค่ะ  การสร้างภาพเป็นอาชีพคงไม่ใช่สร้างภาพอยู่แบบเดียว  ภาพที่ต้องสร้างหลากหลายไปมากเท่าไหร่  ก็ต้องรู้เยอะ ดูเยอะ เห็นเยอะ ไปมากเท่านั้น  แต่อาจจะฉาบฉวย  คิดเยอะ  แต่อาจจะคิดแค่ทำอย่างไรให้ภาพสวย  ส่วนใครจะคิด  จะรู้ให้ลึกซึ้งไปมากกว่านั้น  อันนี้ก็คงเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลไป 

ด้วยความที่มีอาชีพสร้างภาพให้คนอื่นนี่เอง  ถ้าจะสร้างภาพให้คนอื่นเชื่อได้  ก็ต้องสร้างภาพตัวเองให้ดูดีเป็นที่เชื่อถือได้ก่อน  คนก็เลยอยากมาทำงานวงการนี้เพราะมันดูดีค่ะ 

ความจริงอีกด้านของอาชีพนี้  ต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ  ชีวิตอยู่กับลูกค้า มากกว่าครอบครัว อยู่บนความเครียดที่ต้องทำงานให้เสร็จ ถูกใจ ถ้าไม่ดี ใช้ไม่ได้ ใครจะเป็นรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้ง ๆ ที่ก็แค่เรื่องสร้างภาพเท่านั้นเอง  ไม่ได้ทำให้ใครเป็นใครตายสักกะหน่อย  ทำดีก็ใช่ว่าประชากรประเทศนี้จะพัฒนามั่งคั่งร่ำรวยขึ้น  เป็นงานที่ทุ่มเทแต่ก็ไม่ค่อยมีสาระ  อะไรอย่างนั้นค่ะ

สุดท้าย  คนโฆษณาก็แค่อาชีพหนึ่ง  มีดี มีเสีย เหมือนกันไปทุกวงการเจ้าค่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 05 พ.ค. 08, 10:56
ตอบคุณโอมก่อนนะคะ ก็เพราะโฆษณามันเป็นอาชีพไงคะ เราถึงดูโฆษณาในอาชีพเท่านั้น แต่ถึงเวลาพักผ่อนเราก็ไม่อยากจะต้องดูโปรแกรมทีวีบวกโฆษณาที่เราดูแล้ว จิตตกอีกค่ะ
แต่ทำมีเดีย ไม่ดูไม่ได้นะคะ ต้องเช็ค ต้องตามตลอด
ดิฉันเป็นครีเอถีบค่ะ
อยู่เอเจนซี่มันจะมีการอัพเดทโชว์รีลค่ะ เอเจนซี่อินเตอร์จะมีโชว์รีลของเมืองนอกมาอัพเดทเราเสมอ เช่น ทำเนสกาแฟ หรือมอคโคน่า เราก็ควรจะได้ดูหนังที่รวมโฆษณากาแฟของประเทศต่างๆในโลกมา บางคนดูไว้ลอก (เป็นไปได้) บางคนดูไว้ปรับ หรือเป็นฐานของไอเดียให้คิดฉีกออกไป
เช่น กาแฟแต่ละประเทศ หนังก็จะแตกต่างกัน แต่ของฝรั่งเศสน่ะ แนวทางไม่หนีอารมณ์วาบหวาม.. ไม่งั้นก็ไม่ใช่พี่เศสสิคะ
...
สวัสดีคุณป้ากุนค่ะ แม่นแล่ว แม่นแล่ว
สาวครีเอทีฟคนหนึ่ง หลุดโลกไปอยู่วงการหนังสือพิมพ์และทีวีได้พักใหญ่ เป็นงงกับวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนกัน เช่น ผลการชิงโชคปกติในการประกาศ ชื่อผู้ได้รางวัลจะต้องครบในแอดหนึ่งหน้า
แต่คนหนังสือพิมพ์ไม่งั้น บอกว่าจัดลงได้แค่นี้แหละ
ครีเอทีฟสาวถามว่า แล้วทำไมไม่จัดให้ลงได้ครบล่ะ
เขาตอบว่า ทำไม่ได้ ได้แค่ไหนแค่นั้น
เราอ้าปากค้าง..


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 05 พ.ค. 08, 11:13
อ้าปากค้างมั่ง....... ;D

ชอบโคนารถซีตรองที่เป็นฝูงม้าควบจากทะเลทรายเข้ามาในเมือง
จำไม่ลืม
แต่ไม่ใช้รถยี่ห้อนี้....หึหึ




(ไม่มีเงินอ่ะ)


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 05 พ.ค. 08, 11:53
เก่ามากนะจ๊ะ โคนานั้น จำได้เช่นกัน หนังสวยมาก ฝูงม้านั้นเทียบกับแรงของรถซีตรอง.. ซึ่งประเปรียวอยู่แล้ว ชอบหนังแต่ไม่ซื้อเหมือนกัน เพราะคุณขวัญชัย ปภัสร์พงษ์เคยบอกว่า รถหลายยี่ห้อ ซื้อมาแล้วต้องเสียเงินจุกจิกดูแล ยี่ห้อนี้ เป็นอันดับต้นๆ จริงหรือไม่ไม่ยืนยันอีกน่ะแหละ ฮ่าๆ
เท่าที่รู้ คนก็ไม่เข็ด ยังคงมีส่วนหนึ่งหละที่ซื้อรถเพราะรูปสวย


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 05 พ.ค. 08, 17:52
เขียนถึงลูกค้าไม่ได้มากนัก เพราะถ้าจะละเอียดก็ต้องแยกไปตั้งกระทู้ ลูกค้าที่น่ารัก
หรือหวานหน่อย คิดบวกอีกนิดก็ลูกค้าในดวงใจ ส่วนลูกค้าปีศาจนั่น ต้องเก็บไว้เฉพาะวงสนทนากระมัง เขียนไป อาจจะผวาไปเพราะอดีตหลอน
..
นักแต่งเพลงโฆษณา
ต้องยอมรับว่า โฆษณาบางอย่าง ขายได้ด้วยเพลงเพราะ มีนักแต่งเพลงโฆษณาหลายคนที่เราเลือกใช้กัน
คนแรกเป็นฝรั่ง ชื่อ ร็อบ นิวตัน ไม่ได้เป็นอะไรกับเซอร์ไอแซ็คนะคะ มีออฟฟิศอยู่ที่อโศก เข้าซอยไป เป็นบ้าน มีห้องอัดเสียงที่ดี และร็อบเองเป็นซาวด์ เอ็นจิเนียร์  ดิฉันยอมรับว่าร็อบเก่งค่ะ
ร็อบจะมีนักแต่งเพลงในสังกัด คนดังก็คือคุณต๋อย พิงค์แพนเธอร์ ซึ่งหลายปีต่อมาได้แยกออกมารับงานเอง
คุณเสกสรรค์ สอนอิ่มศาสตร์ ก็เคยมาทำเพลงกับร็อบให้สินค้าสามแม่ครัวที่นี่..
ยำก็อร่อย ต้มยำก็อร่อย..
อีกเจ้าหนึ่งก็คือ บัทเตอร์ฟลาย
บัทเตอร์ฟลายอยู่ในซอยโรงแรมแอมบาสซาเดอร์ มีนักแต่งเพลงหลายคน เช่น สุรสีห์ อิทธิกุล จิรพรรณ อังศวานนท์ ใครเป็นซาวนด์เอ็นจิเนียร์จำไม่ได้ เพลงที่แต่งให้โฆษณาที่ดังๆหลายชิ้น ต้องขุดกรุความจำมาเล่า
เช่น เนสตุ้ม เนื้อมีว่า
เช้าอันแจ่มใส ลูกไปโรงเรียน
แม่เตรียมเนสตุ้ม คุ้มด้วยคุณค่า......
ตอนนี้ที่พอจำได้เช่น คู่รัก คู่รสค่ะ ...โรแมนติคมาก
เป็นสัญลักษณ์ของป้อม ออโตบาห์นไปเลย


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 06 พ.ค. 08, 00:21
ผมก็ไม่ติดทีวีเหมือนกันครับ คุณพิพัฒน์
(ที่ไม่ติดเพราะให้เหตุผลตัวเองว่าจะได้มีเวลาไปทำอย่างอื่นที่อยากทำ และน่าจะทำ)
ลองนึกๆดู ถ้าเราติดหนังซักเรื่อง เวลาเย็นของเราก็หายไปละ
รถติด กลับไปนั่งเฝ้าจอดูฉากแรกไม่ทัน ก็หงุดหงิดอารมณ์เสีย
เผลอๆ อดข้าวเพราะอยากหนังก็มี.... เสียเวลาในชีวิตแย่

แต่เวลามีโอกาสก็ดูทั้งหนัง และโฆษณาครับ
เข้ามาอ่านกระทู้นี้ก็เลยได้สาระ (และความฮา) ไปพร้อมๆกัน


สองสามวันก่อนผมมีโอกาสได้คุยกับอาร์ตไดเรกเตอร์ท่านหนึ่ง
เธอเล่าว่าเธอชอบเป็นอาร์ตไดเรกเตอร์ มากกว่านักเขียนนวนิยายหรือสารคดี
เพราะเธอ "ชอบปล่อยของ"..... ฟังแล้วนายติบอใจหายอ่ะ...
เอาล่ะดิ เป็นอาร์ตไดเรกเตอร์ไม่พอ เป็นจอมขมังเวทย์ดั๊วะ.... ::)

คุณน้าเลยต้องอธิบายต่อไปง่ายๆว่า แกเป็นโรคจิตประเภทหนึ่ง :-\
(โอว... เล่นของแล้วยังโรคจิตอีกตะหาก น่ากลัวอีหลี)

ที่จริงโรคจิตที่ว่า คือ มักมีอาการรู้สึกดีเวลาหาคำใหม่ๆมาใช้แล้วติดปาก ติดหูคน
หรือได้ยินได้ฟังสิ่งที่ตัวเองคิดเวลาส่งผ่านสื่อต่างๆออกไปครับ
ยิ่งมีคนพูดถึงมากๆก็ยิ่งดี จะบวกจะลบไม่ว่า ขอให้ผลรวมๆเป็นบวกแล้วกัน
รับได้เสมอ...... ดีกว่าเจอลูกค้าจู้จี้ไร้รสนิยมสั่งให้มาแก้งานบานตะไท
จนเหมือนหัวใจอาร์ตไดฯดวงน้อยๆโดนข่มขืนเยอะครับ เหอๆ

(คุณน้าแกพูดมานาพี่กุ้งฯ.... นายติบอบ่เกี่ยวเด้อ งุงิ)


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 06 พ.ค. 08, 09:54
คุณน้าคนนั้นซาดิสท์ไม่เลวนะ คุณติบอ..
...
เรื่องการเขียนเพลงโฆษณา สำหรับนักเขียนปรมาจารย์อย่างอาจารย์เทาชมพูของเรา คงไม่ใช่เรื่องยาก หรือนักกลอนประตูอย่างดิฉันก็เหมือนกัน เราแค่รู้ว่าเนื้อเพลงจะขายอะไรในสินค้า เช่น
สามแม่ครัว ไม่ได้ขายแค่ปลากระป๋อง กับสามสาว แต่ต้องการจะบอกว่า เอาไปประกอบอาหารอะไรก็ได้
หรือเนสตุ้ม ต้องการรีโพสิชั่นตัวเอง เป็นอาหารเช้าหรับลูกก่อนไปโรงเรียน
สีปามมาสติค ต้องการจะบอกว่าสีรุ่นที่กำลังจะออกใหม่น่ะ มันวาวนิดๆ ดั่งแพรวไหมในเนื้อสี ..
ชาลิปตัน ต้องการจะขายรส กลิ่นว่าหอม เป็นการออกตัวสินค้า
น้ำมันพืชโลตัส บอกว่า น้ำมันปาล์มโอเลอินน่ะ ให้พลังงาน
คาร์โกล้ จะบอกว่าล้างรถแล้วเงาวาววับ สวยเหมือนขัด ..สิ่งเหล่านี้จะเป็นเนื้อหา
จากนั้นก็เขียนเพลงออกมา ให้สื่อความหมายนี้ให้ได้


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 06 พ.ค. 08, 15:01
ตอนนี้มาม่าเขากำลังเปิดให้นักเรียนประกวดเพลงโฆษณามาม่าอยู่ ประกวดได้ตั้งแต่ระดับมัธยมชิงรางวัลแสนหนึ่งค่ะ เอาเป็นทุนการศึกษาได้หลายปี แฟนๆเว็บเรือนไทยคงสนใจ
...
วิธีทำเพลงอีกประเภทหนึ่งคือ ใช้ทำนองฝรั่งใส่เนื้อไทย หาเพลงหิตๆมาสักเพลง ดิฉันพอจำได้ว่าสมัยหนึ่ง โลชั่นยี่ห้อหนึ่งเขาเอาเพลง I feel good มาทำ หนังภาพสวยเชียว ผ้าพันคอสีเหลืองปลิวไปบนท้องฟ้า
แล้วก็มีเสียงผู้ชายร้องว่า ไอ๊ ฟี้ล กู้ด.. สบายเป็นยังไงนะ
อ้าว ก็ฟีลกู้ดแล้วยังจะมาถามว่า เป็นยังไงอีก เง็งค่ะ แต่แหม ฮิตเชียว สินค้าขายได้ไม่ได้ดิฉันไม่ได้ติดตาม
...
บางสินค้า อย่างลักส์ จับหมิวไปถ่ายเมืองนอก ภาพออกมาสวยสง่ามาก ใช้เพลงฝรั่งIn my lifeมาทั้งดุ้น..
เพลงนี้เลยกลับมาหิตอีกครั้ง ส่วนลักส์น่ะ ไม่ต้องพูดถึง ดาราสาวคนไหนดังต้องจับมาเล่นหนังก่อน เพราะเงินถึง
..
หนังโฆษณาบางเรื่อง ไม่มีจิงเกิ้ล แต่ต้องscoreเพลงเองทั้งเรื่อง นับเป็นความดัดจริตเปลืองงบอีกแบบหนึ่ง คือเรื่องของเรื่องตั้งแต่เมืองไทยเข้าระบบลิขสิทธิ์ ไอ้เพลงตามแผ่นทั่วไปที่เราเอามาใช้หัวบ้าง กลางบ้าง ท้ายบ้างก็ต้องเป็นอันต้องเลิกทำ ต้องจ่ายอย่างเป็นทางการ
เมื่อคำนวณแล้ว การแบ่งรายได้ให้นักแต่งเพลงน่าจะดีกว่าการจ่ายค่าลิขสิทธิ์
..


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 07 พ.ค. 08, 10:19
สมัยที่เครือโค้กยังต้องใช้หนังนอก และแบ็คกิ้งแทร็คนอกมาใส่เนื้อไทย คนเป็นก็อปปี้ไรเตอร์ก็ต้องเขียนเนื้อเพลงให้เข้ากับคำร้องของฝรั่งทั้งเนื้อหาก็ไม่ควรตกหล่น แล้วห้องอัด ทำแค่ร้อง แล้วใส่เนื้อ แล้วมิกซ์
มีโพรดิวเซอร์คนเก่ง เท่หน่อยๆมาจากออสเตรเลีย อีตานี่เป็นโพรดิวเซอร์ระดับอินเตอร์ มาแนะนำเคล็ดลับการอัดเสียงด้วย
เช่นเมื่อร้องว่าโค้ก
เวลามิกซ์เสียงจะสังเกตว่าตัวหน้า จะกร่อน ออกมาเป็นสป็อตจะได้ยินแต่คำว่า โอ๊ก.. ตัวค.ควายตกหล่นไปไหนไม่รู้
วิธีฝรั่งก็คืออัดไปเลยแทร็คหนึ่ง เค่อะ หรือโค้ก แรงๆ
แล้วมิกซ์
คำว่าโค้กก็จะไม่หายไปเป็นโอ๊ก
ไม่เชื่อลองดู



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 07 พ.ค. 08, 10:27
ดิฉันได้ทำเพลงสไปรท์ให้กับโค้ก เลือกคุณอ้อง สุรสีห์ อิทธิกุล มาร้อง จำเนื้อฝรั่งไม่ได้แล้ว น่าเสียดาย ไม่งั้นจะเปรียบเทียบให้เห็นกันว่าถ่ายทอดมาไม่ตกหล่นและยังมีสัมผัสเพลงอย่างไรในภาษาไทย
เนื้อหาตอนนั้นของสไปรท์ สดใส ซาบซ่า คือ cool, crisp, refreshing,tingling จำได้ว่าขึ้นมาว่า

เรามาเริงสุขสำราญ
ชื่นบานกับสไปรท์
เย็นสะอาดสดชื่นใจ
เมื่อเราได้ดื่มสไปรท์
...ท่อนกลางและจบจำไม่ได้แล้วค่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 07 พ.ค. 08, 10:37
ทีนี้มาถึงเพลงประเภทมาแต่คอนเส็ปท์ ไม่มีแบคกิ้งแทร็ค และต้องใช้คอมโพเซอร์ไทย เขียนเนื้อและกำหนดทำนองเสร็จ ดิฉันเลือกบัทเตอร์ฟลาย ซึ่งตอนนั้นมีเออีเป็นผู้หญิง มารับบรีฟพร้อมคอมโพเซอร์ เออีสาวผู้นี้ ภายหลังทราบว่ากลายเป็นนักแต่งคำร้องชื่อดังเสียด้วย
คอมโพเซอร์ที่บัทเตอร์ฟลายคัดมารับบรีฟของชาลิปตัน คือคุณอนุวัตร สืบสุวรรณค่ะ
..
เนื้อเพลงขึ้นต้นว่า
เรารักชาลิปตัน หอมรส.. หอมกลิ่น
คุณอนุวัตรแต่งมาสามรอบ รอบสุดท้ายผ่าน เคสนี้ คุณอนุวัตร มักจะนำไปพูดในที่สาธารณะเสมอ ถึงความเข้าใจระหว่างนักแต่งเพลง กับครีเอทีฟ
เธอแต่งมาครั้งแรกและครั้งที่สอง ดิฉันฟังแล้ว ไม่ใช่ มันกุ้งกิ๊ง กุ๊งกิ๊ง รุงรังไปหมด ไม่เพราะ ไม่ร่าเริง แรงไป แน่นไป
เลยบอกไปด้วยภาษาของตัวเองว่า อยากได้ประเภทดนตรีแบบเลื้อยๆน่ะค่ะ
เวรละสิ.. ไอ้เลื้อยๆของดิฉันนี่ทำเอาคุณว่าวปวดกะโหลก แต่ต้องชมเชยความอดทนของเธอเป็นอันมาก
มาครั้งที่สาม ดิฉันบอกว่า ใช่เลยค่ะ เยี่ยม ขอบคุณมาก...
คุณว่าวดีดนิ้ว..
ทำไมรู้ไหมคะ เพราะเขาเอากลองออกน่ะเอง..


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 07 พ.ค. 08, 16:26
นักแต่งเพลงคนหนึ่งก็เป็นนักโฆษณาค่ะ เอ หรือดิฉันควรจะเขียนกลับกันว่า นักโฆษณาคนหนึ่งก็เป็นนักแต่งเพลงด้วย แต่เพลงของเธอในอาชีพมีอะไรดิฉันไม่ทราบ เพียงแต่เพลงสายชลที่เธอแต่ง มันเพราะมากเลย
เหม่อมองดูสายน้ำวน..


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 07 พ.ค. 08, 16:31
นักแต่งเพลงกลุ่มบัตเตอร์ฟลายค่ะ คุณจิรพรรณไม่ทราบไปเสียที่ไหน
ภาพจากwww.dnunet.com
คุณอนุวัฒน์ใส่เสื้อสีเปลือกลิ้นจี่
น่าเสียดายที่คนซ้ายุสุด คือคุณเขตต์อรํญ จากไปเฝ้าพระเจ้าแล้ว ส่วนคนนั่งขวาก็เป็นนักเขียนเพลงตัวฉกาจคุณอรรณพ จันสุตะ ไปหลังคุณเขตต์เช่นกัน


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 08 พ.ค. 08, 01:37
ไม่ใช่ว่า เราเขียนเพลงแต่งทำนองดีๆ แล้วลูกค้าจะซื้อเสมอไป บางทีมีการแข่งขันกัน ที่เรียกว่า pitch เพลงเราเพราะ ไอเดียเราดี เราก็แพ้ได้เหมือนกัน สมัยหนึ่งหัวหน้าดิฉันทำแคมเปญของซิงเกอร์แข่ง ดิฉันแค่เขียนเนื้อเพลง คุณอ้อง สุรสีห์คิดทำนองและร้อง เราชอบเพลงกันทั้งทีม แต่เมื่อแข่งแล้วแพ้ สิ่งที่เราเสียดายอย่างหนึ่งคือเพลง
เมื่อเราเฝ้าดุงานที่ออกมาจากเอเจนซี่ที่ชนะ ไอเดียเขาก็เข้าถึงคนชนบทดี
แต่เราก็ยิ่งเสียดายใหญ่..

..คำร้องมีว่า
(หมู่) ซิงเกอร์
เรา มี ทุกอย่าง
ด้วยคุณภาพที่เราภูมิใจ
เช่า ซื้อ เชื่อถือได้
เราให้ความมั่นใจ
ซิงเกอร์
เราไปทุกที่
ด้วยบริการที่ดีเสมอ
เรา ชื่อ ซิงเกอร์
เราเสนอเครื่องใช้ชั้นนำ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: Oam ที่ 08 พ.ค. 08, 09:23
เมื่อเช้าความทรงจำเก่าๆ ย้อนกลับมา ช่วยคิดถึงเพลงโฆษณาที่ฮอดได้ ๒ ชิ้น

ชิ้นแรก แรงมากๆ เพราะได้ป๋าต๊อก กับป้าชูมาเป็นพรีเซ็นเตอร์
"คุ้มจริงๆ คุ้มจริงๆ ยิ่งกว่าคุ้ม คุ้มทุกสิ่ง คุ้มที่แฟลตปลาทอง"
แม้โครงการจะประสบปัญหา แต่โฆษณาติดหูติดตาติดปาก

ชิ้นที่สอง ช่วงที่ชีวิตคนกรุงเริ่มปรับเปลี่ยน คำว่าเทรนดี้ ยังไม่ค่อยมีคนพูดให้ได้ยิน แต่ถ้าคุณอยากเป็นคนรุ่นใหม่ก็ต้องดื่มนม
"พวกเราใช้ชีวิตทันสมัย
เราภูมิใจนมสดยูเอชที
เป็นนมสดสำหรับวันนี้
ให้ยูเอชทีเป็นนมของเรา"


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 08 พ.ค. 08, 23:03
 :o จำเก่งมากค่ะ
ดิฉันเคยทำหนังโปรโมทยาสีฟันเรื่องหนึ่งให้ลูกค้า เป็นแบบซองค่ะ กลุ่มเป้าหมายคือผู้มีรายได้น้อย หรือผู้เดินทาง หนังเป็นโทนวัยรุ่น เลือกนักแสดงหน้าใหม่ๆทั้งนั้น คือคุณอนันต์ บุนนาคและคุณแทมมี่ ชูศรี พบรักกันจากเรื่องนี้ค่ะ
คุณอนันต์มีพรสวรรค์เรื่องเต้นมาก โดยเฉพาะเบรคด๊านซ์ หรือมูนด๊านซ์
วัยรุ่นพวกนี้ต้องเหน็บซองไว้เหมือนแฟชั่นชิ้นหนึ่ง
ใช้เพลงเช่นกัน
ทันสมัย ใช้ใกล้ชิดซอง
ประหยัด ถูกใจ ใช้ใกล้ชิดซอง
โทนของเพลง หนัง ทำให้สดใส สนุกสนาน ออกมาลูกค้าชอบมาก
ของขายดี


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 09 พ.ค. 08, 00:29
ยาสีฟันแบบซอง..... ::)


อนันต์ บุนนาคเป็นหนุ่ม........   :-\ :-\ :-\






เหวอ... พูดม่ะด้ายฮะ แหะๆ  :-X :-X


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 09 พ.ค. 08, 00:40
 >:( >:( >:( รู้นะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: CrazyHOrse ที่ 09 พ.ค. 08, 08:56
โฆษณานมที่จำได้แม่นคือ

นมตรามะลิ ใหม่และสด
ทุกทุกหยด รสดีเสมอ

อันนี้เพิ่งจะเคยได้ยินเมื่อไม่นานมานี้เองนะเนี่ย แฮ่ๆ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: Oam ที่ 09 พ.ค. 08, 09:15
เอ! โฆษณานมที่คุณ CH ว่านั้น แถวบ้านผมเนื้อร้องต่างกันนิดเดียว จาก ตามะลิ เป็น ยายมะลิ

โฆษณานมยี่ห้อนี้ฟังแล้วได้รสชาติมากๆ ตอนที่บอกว่า "ขาวข้น หวานมัน"
แล้วก็เอาอิ๋วจาก้วยจุ้มลงไป ยกขึ้นมาให้เห็นว่า ข้นมัน แค่ไหน
(นึกแล้วอยากกินขึ้นมาทันใด)

โฆษณาที่เกี่ยวข้องกับข้องกิน ต้องทำให้คนดูเกิดความรู้สึกอยากบริโภค
ต๊อก ต๊อก ต๊อก
"เสียงอะไร"
"เสียงสับหมู"
ฟืดดดดดดดดด
"หอมอาราย"
"หอมหมูสับ"


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 09 พ.ค. 08, 09:21
ภาษาภาพ กับภาษาเสียง สองภาษาประกอบกัน มันแรงค่ะ
ยกตัวอย่าง ซอสแม็กกี้ คงจำได้
โคลสอัพไข่ดาวสีสวย น่ารับประทาน
เหยาะแม็กกี้ลงไปสองหยด
เพลงขึ้นว่า
"หอมอร่อย.. เหยาะนิดหน่อย อร่อยทุกจาน"
เฮ้อ... เท่านั้นหละ จำกันแม่น


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: Oam ที่ 09 พ.ค. 08, 10:06
สำคัญที่พรีเซ็นเตอร์ด้วยครับ
ถ้าคุณชายถนัดศรีเป็นพรีเซ็นเตอร์
ต่อให้บอกว่าแค่ข้าวสวยร้อนๆ
คลุกน้ำปลายี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งก็อร่อยเหลือรับประทาน
เราก็น้ำลายสอตามท่านได้เหมียนกัน


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 09 พ.ค. 08, 11:01
เรื่องของโฆษณาอาหาร เขียนเก็บไว้ได้อีกเล่ม ถ้าสมองยังคม จะพยายามขุดกรุมาเล่าอีกค่ะแบบเจาะลึก
เราพูดถึงเรื่องของเพลงกันมาแล้ว น่าจะเลยไปคุยเรื่องของการทำโพรดัคชั่นค่ะ
ก่อนอื่น ขอตบด้วยเพลงอาหารอีกเพลง จำการออกตัวของน้ำมันพืชกุ๊กได้ไหมคะ ที่มีตัวการ์ตูนโลโกโดดไป โดดมา พร้อมเพลงร้อง ที่มีชื่อสินค้าเป็นสิบครั้ง สร้างการรับรู้ของผู้บริโภคได้ชะงัด กุ๊กๆๆๆๆ กุ๊กปรุงอร่อย กุ๊กถูกใจ
กุ๊กๆๆๆๆ
ใช้แต่กุ๊ก สุขกายใจ
แบรนด์อแวเนสสูงมาก ที่จริงกุ๊กเกิดหลังทิพ ทิพเป็นน้ำมันพืชชื่อดี มีความหมายทั้งไทยและฝรั่ง
เพลงของทิพ ที่ดิฉันจำได้เสมอ เป็นเสียงร้องของคุณแป้น วรางคณา คนเขียนคำโฆษณาหรือสาวครีเอทีฟอีกคนของวงการค่ะ
เคล็ดลับเหล่านี้
นี่แหละสำคัญ
ต้องใช้น้ำมัน พืชทิพ
จำได้ไหมคะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: elvisbhu ที่ 09 พ.ค. 08, 19:18
ก่อนจะไปโพรดัคชั่น เล่าเรื่องพี่เมาประจำที่ฟาร์อีสท์หน่อยสิครับ ความประพฤติคล้ายๆพวกหน้าพระลานนะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 10 พ.ค. 08, 09:49
พี่เลี้ยงคนแรก
เป็นความโชคดีของดิฉัน ที่ได้พบพี่เมาเขาเมื่อได้ทำงานที่ฟาร์อีสท์
พี่เมาน่ะ เขาไม่ได้จบหน้าพระลานหรอก เขาเป็นหนุ่มจามจุรี หัวใจสีชมพู หน้าตาก็อมชมพู ไม่ใช่เพราะเมานะคะ แต่เพราะผิวดีมาก แก้มงี้ไซ้ ใส.. นัยว่าเมื่อก่อนไม่ได้ผ่องอย่างนี้หรอก
แต่เพราะซุกซน เอาหน้าไปใกล้ลูกโป่งที่ระเบิดเข้า จำไม่ได้ว่าฝีมือใคร
ผิวเลยลอก..
ฮ่าฮ่า นี่คือเรื่องจริง
ตอนเรียนมหาวิทยาลัย ดิฉันก็ทันเห็นหลังพี่เขาไวๆ เนื่องจากเป็นนักกลอนสจม.ค่ะ
แล้วนักกลอนสจม.ก็เหมือนนักว่ายน้ำสจม.แหละ คือ ต้องระดับเซียน มีมุข มีลูกล่อลูกชน รุ่นดิฉันน่ะ เพื่อนที่คณะในทีมกลอนของเรา มีติดนักกลอนสจม.ดูเหมือนจะแค่สองคนค่ะ นั่นหมายความว่าเมื่อมีแข่งระหว่างมหาวิทยาลัย เราจะต้องลงด้วย แล้วรุ่นนั้น ฝีปากแข็งๆก็มีศิลปากร กับธรรมศาสตร์ค่ะ
ซึ่งไม่ได้หมายความว่า ประสานมิตร เกษตร จะไม่น่ากลัวนะคะ
กลอนของเขาหวานมาก พี่เมาคนนี้ ผิดกับหน้าตาอันแสนจะออกหยิ่ง ทรนง ซึ่งเป็นธรรมดาที่ชายหนุ่มชมรมวรรณศิลป์
ที่สิงสถิตย์อยู่ใต้ถุนศาลาพระเกี้ยวเขามักจะนิยมเก๊กกัน


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 10 พ.ค. 08, 10:03
ดิฉันน่ะ เจอพี่เก๊กๆอยู่หลายคนในชมรม สองในบรรดาขี้เก๊กเป็นนักโฆษณาทั้งคู่ เมื่อสอบผ่านเข้ามาทำงานได้เพราะเขียนสป็อตกระบอกไฟฉายได้ถูกใจคนรับเข้าทำงาน ก็ได้มาเจอพี่เมาคนนี้
ต้องบอกก่อนว่า พี่เขาไม่ค่อยเข้ามานั่งประจำที่โต๊ะทำงานหรอก วันๆ กว่าน้องนุ่งที่หวังพึ่งใบบุญจะได้เห็นหน้า ก็ต้องรอพระมาโปรด
ดิฉันก็เลยต้องมาทำงานแบบตามมีตามเกิด เขียนสป็อตทีไร ถูกอาแปะแกแก้จนมึน ถามตัวเองว่า ถ้าตูไม่มีฟาสามารถขนาดนั้น แล้วรับตูมาทำไมหว่า
เฮ้อ..เด็กใหม่ไฟแรงเริ่มหมดกำลังใจค่ะ
...
กำลังคิดจะลาออกอยู่วันสองวัน ก็ดันโชคช่วย แน่ะ!มีการรีออแกไนซ์ สลับจัดโผ แบ่งเป็นกลุ่ม ดิฉันได้เข้ามาเป็นลูกน้องโดยตรงของคุณพี่เมาเขา เท่านั้นหละ มีงานทำเป็นเรื่องเป็นราว มีการแบ่งสินค้ากันรับผิดชอบ เขียนอะไรไป ก็ดูเหมือนจะดี หรือไม่ทันเขียนให้ดี พี่แกก็เขียนเองเสียเลย แล้วให้เราดูและวิจารณ์ว่าชอบอันไหน แหม อย่างนี้เขาเรียกว่า เคมิสทรี่ลงกัน มีการยอมรับกัน เป็นการสอนไปในตัว
ผสมผเสเหมือนได้พี่เลี้ยงค่ะ ประทับใจมากนะคะ สำหรับการเริ่มต้นในอาชีพใดก็ตาม
ทำให้เรามีโอกาสเรียนแบบครูพักลักจำน่ะค่ะ ไม่ใช่มานั่งติวกันโต้งๆ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 10 พ.ค. 08, 10:29
พี่เมานี่หละที่ทำให้ดิฉันได้มีโอกาสเสนองานเป็นครั้งแรกในรอบสามเดือนที่ทำงานจนเกือบไม่พ้นโปร ไม่มีการสกัดดาวรุ่งแต่อย่างใด เมื่อเสนองานลูกค้าที่ว่าหินสุดๆผ่านได้
คำชมที่ออกมาจากนายห้างเทียม ย่อมมาถึงหูเขา
ในฐานะหัวหน้า ที่มีกิตติศัพท์ของความที่อารมณ์ไม่อยู่กับร่องกับรอย ติสท์แบบหน้าพระลานเดิม ซึ่งไม่เป็นผลบวกเท่าไหร่มาก่อน
แต่ตอนนั้นเป็นผลดีแล้ว ดิฉันกลายเป็นลูกน้องของพี่เมาคนเก่งค่ะ
ดิฉันภูมิใจมาก..
เพราะดิฉันรู้สึกว่า ไม่ได้เขา เราก็ไม่มีโอกาส
..
ครีเอทีฟไม่ใช่อยู่ๆจะนั่งเทียนเขียนโฆษณาออก ต้องไปต่างจังหวัด พบลูกค้าทั้งยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ซึ่งคุมกลไกการจำหน่ายสินค้ายุคนั้น พบโฆษกเพื่อเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างบริษัทสหพัฒน์กับเขา เดินท่อมๆคุยกับชาวบ้านแท้ๆ เพื่อสอบถามการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เราทำโฆษณา
ก็มีพี่เมานี่หละที่ไปด้วย ช่วยกันอีกแรง
ดิฉันซึมซับสไตล์ของเขามาโดยไม่รู้ตัว..


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 11 พ.ค. 08, 08:37
ที่จริงก็ไม่ได้อยากเรียกเขาว่าพี่เมาหรอก เขามาเห็นก็อาจจะคิ้วขมวด กรามขบกันเป็นสันนูนแบบพระเอกนิยายสมัยโดมผู้จองหองด้วยซ้ำ ว่าดิฉันไม่มีปัญญาไปหาชื่อดีกว่านี้มาตั้งหรือไง ชะชะ
แต่จะบอกว่า ช่วงที่ไปต่างจังหวัดด้วยกัน ก็ได้เขานี่หละ ในฐานะเพื่อนร่วมงาน และพี่ชายที่ทำให้อบอุ่นใจ มีขำๆบ้างก็ตอนชอบหว่านเสน่ห์นางงามที่เราส่งประกวด แต่ในเรื่องของงานนั้นไปได้สวยมาก
และเราก็ได้เห็นตัวจริงๆของเขา ว่าไม่ได้แย่อย่างที่ใครๆบอกต่อๆกันมา
..
เนื่องจากเราทำโฆษณาสบู่ ที่ขายเรื่องผิวพรรณ สิ่งที่จะช่วยโปรโมทสินค้าอย่างหนึ่งคือการส่งนางงามประกวดค่ะ
นางงามที่เราส่งเป็นเวทีนางสาวเชียงใหม่ คนแรกได้ไปประกวดนางงามจักรวาลด้วย หลังจากประกวด ก็มาทำงานฝ่ายวิจัย สหพัฒน์
โดยทั่วไป สบู่ของสหพัฒน์มีทั้งตลาดบนและตลาดล่าง ปีนั้น เราส่งนางงามสองคน สวยน่ารักทั้งคู่


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 12 พ.ค. 08, 10:34
นางงามคนแรกจากสหพัฒน์ที่ไปประกวดนางงามจักรวาลชื่อน้องแหม่มค่ะ เป็นสาวเชียงดาวผิวละเอียด หุ่นนางงามแท้ๆ ไซส์แอล ไม่ได้อรชรอ้อนแอ้นแบบนางในวรรณคดีไทย
ป่านนี้แต่งงานไปหรือยัง ดิฉันไม่ได้ติดตามข่าวสารของเธอเลย
นางงามคนที่สบู่เราเป็นสปอนเซอร์ เป็นสาวชาวเชียงใหม่แท้เช่นกัน โดยมีพลังเชียร์จากโฆษก และเธอก็เรียบร้อยทั้งกริยา มารยาท มีร้านเสริมสวยชื่อดังของเชียงใหม่เป็นผู้ควานหาตัวมาประกวดและดูแลด้านทรงผม ชุด แต่งหน้าเสร็จสรรพ
เราต้องขึ้นไปเชียงใหม่ ในงานประกวดนางงามสงกรานต์เชียงใหม่นี่หละ
นางงามสงกรานต์ตำแหน่งนี้จะใส่ชุดไทยค่ะ
เธอชื่อ อารีรัตน์ วัฒนา ผลก็คือ ชนะค่ะ ได้ครองตำแหน่ง หลังการประกวด มีงานสงกรานต์
สบู่เราดังระเบิดมากขึ้นในแง่ของชื่อ และภาพพจน์ คนไทยเป็นคนชอบนางงาม แต่ดารามีอิทธิพลกว่า ยังไงๆ แบรนด์ที่ใช้ดาราเขาเก่าแก่กว่ายังมาที่หนึ่งค่ะ คือลักส์ขาว ตามมาด้วยไลฟ์บอยย์ก้อนแดง และนกแก้วก้อนเขียว
แม้สบู่เราเป็นแบรนด์มาจากนอก คุณภาพดี และผลิตที่โรงงานไลอ้อนแฟทแอนด์ออย วิธีการผลิต ดิฉันได้ไปดูมาด้วย เพราะคนทำโฆษณา ไม่รู้จักสินค้าที่ตัวเองทำ ไม่ได้ค่ะ
พี่เมาเขาไปด้วย งานนั้น รู้สึกจะมีความสุขมากที่ได้อยู่ในหมู่คนงาม โดยมีฝ่ายการตลาดของหพัฒน์ไปด้วยอีกสองคน ฟาร์อีสท์กับสหพัฒน์ เป็นเหมือนพี่น้อง เพราะเรามีเจ้าของคนเดียวกัน แต่สหพัฒน์ก็คือลูกค้า 
อัฐยาย ซื้อขนมยายค่ะ






กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: elvisbhu ที่ 13 พ.ค. 08, 06:45
ไอซีซีตอนนั้น ไปอยู่เสียที่ไหนล่ะครับ มีโฆษณาหรือแผนการส่งเสริมการตลาดที่น่าสนใจไหม


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 13 พ.ค. 08, 10:24
การส่งนางงาม ไม่ได้อยู่ในสายงานของไอซีซีตอนนั้นมังคะ เพราะเครื่องสำอางเพียซยุคนั้นไม่ได้บุกหนัก ไอซีซีช่วงที่ดิฉันทำงานอยู่สหพัฒน์ เขาเริ่มดังเรื่องเสื้อแอร์โรว์ ที่ใช้เสียงคุณพิชัย วาศนาส่ง เป็นผู้ประกาศในสป็อตทั้งทีวี และวิทยุ
แอร์โร่ว์ เอกลักษณ์ของเอกบุรุษ
จำไม่ได้ว่าใครเป็นผู้คิดสโลแกนนี้..
สมัยนั้น เขาไม่ได้เลือกใครก็ได้ มาเป็นผู้ประกาศหรอกค่ะ เสียงต้องมีชั่วโมงบินสูงๆ .. ผู้ประกาศตอนนั้นจึงมีเพียงไม่กี่คน รับเงินสดกันสบายๆ รวยไม่รู้เรื่อง บางคนติไม่ได้ด้วยนะคะ
จำได้ว่ายุคนั้น ไอซีซีจะมีร้านเสื้อสวยๆมีดีไซเนอร์ประจำอยู่ที่สยามสแควร์ ชื่อrainflowerเดี๋ยวนี้ เป็น lacosteไปแล้ว
และวาโก้ ก็ยังไม่ได้แยกออกไป
ว่ากันว่า ลูกชายคนหนึ่งของนายห้างเทียมที่คุมฟาร์อีสท์ตอนนั้นแหละ คือคนที่คิดคำตบท้ายหนังชุดชั้นใน ที่หมาเซนต์เบอร์นาร์ด มองนายสาว แต่งตัว เพราะมีนัดก่อนปิดประตูใส่หมาที่ทำตาละห้อย ออกนอกห้องไป
หมามองกล้องแล้วพูดว่า
"เฮ้อ ผมคงหมดความหมายซะแล้ว"
น่ารักมากค่ะ..


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: Oam ที่ 13 พ.ค. 08, 11:05
สจม เป็นคำเก่าครับ ฟังแล้วนึกถึงบรรยากาศเก่าๆ
สมัยผมเข้าไปเรียน เขากำลังย้ายขึ้นตึกใหม่ เลยต้องเปลี่ยนชื่อเสียใหม่เป็น อบจ
ไม่รู้ว่าทำไมไม่เป็น อจม อาจจะฟังแล้วกลิ่นไม่ค่อยดี
อบจ พวกเราเรียกแหย่กันเล่นๆ ว่า ไอ้บ้าจี้


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 13 พ.ค. 08, 13:05
อ้าว เพิ่งทราบว่าสจม.กลายเป็นอบจ. ..
แล้วตึกจักรพงษ์ตอนนี้ใช้ทำกิจการอะไรของนิสิตคะ
..
ชมรมต่างๆใต้ถุนศาลาพระเกี้ยวระเห็จไปไหนบ้างคะ
..
สมัยดิฉัน สจม. ก็"สุดจะมั่ว" .... :-X คำนี้เบาสุดแล้ว


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 พ.ค. 08, 14:22
พี่เมา ไปทำอะไรหลังจากนั้นคะ  ปัจจุบันยังอยู่ในวงการหรือเปล่า


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 13 พ.ค. 08, 15:08
พี่เมา อดีตนักกลอนสจม. ตอนนี้ตำแหน่งหนึ่งก็ขึ้นหิ้งเป็นที่ปรึกษาค่ายเทปค่ะ ทราบว่า พี่เขาเขียนเพลงลูกทุ่งเสียด้วย ให้นักร้องลูกทุ่งชื่อดังคับฟ้า เพลงฮิตชาวบ้านชาวช่องร้องกันหลายเพลง มีเงินพาครอบครัวไปเที่ยวเมืองนอกได้ทุกวัน เอ๊ย..ทุกปี
ดิฉันไม่ได้ติดตามผลงานเลยค่ะ แต่มั่นใจว่า เพลงต้องมีคำร้องเพราะ
เนื่องจากเกียรติภูมิเก่า เวลาเมาได้อารมณ์ในอดีต พี่ท่านจะร่ายกลอนสด ได้หวานมาก ๆ
..
แต่พี่เมาก็พี่เมาเถอะ แต่งกลอนแข่งขันชิงรางวัลให้นายห้างเทียมวันพ่อด้วยกัน
เป็นดิฉันค่ะ ที่ชนะ รับรางวัลจากลูกชายนายห้าง
..
เย้


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 14 พ.ค. 08, 06:42
หากจะทบทวนว่าพี่เมาเธอให้อะไร เราก็คงตอบไม่ได้ แต่วิธีการต่างๆที่เราทำ เวลาออกต่างจังหวัด เราก็ทำอย่างสบายใจ ไม่ต้องมีคนคัดค้าน ไม่ว่าจะเป็นการซักไซ้ไล่เรียงถามเรื่องวิถีชีวิตคนต่างจังหวัด อาหารอร่อยมีที่ไหน ไปไหนควรชิมอะไร เอเยนต์ไหนที่สามารถ โปรโมชั่นแบบไหนใครชอบ คู่แข่งขายเป็นไงบ้าง จะเป็นเหมือนสูตรสำเร็จในการเยี่ยมร้านค้า
ตอนดิฉันย้ายไปฝ่ายการตลาดสหพัฒน์ หน้าที่หนึ่งที่ชอบคืออ่านรายงานการขายของเข้าร้านจากเซล สถิติการจำหน่ายออก และสต็อก การประเมินยอดขายเพื่อคาดการณ์ยอดขายใหม่อีกที จำได้ว่า ตอนนั้นคนอีสานยังรายได้ไม่มาก ยอดซื้อก็น้อย รายงานจากภาคคใต้และภาคกลางจะกินขาด คนใต้มีกำลังซื้อดีเช่นเดียวกับคนภาคกลาง
ตอนหลังๆ ได้มาทำงานให้เครือปูนใหญ่ ได้อ่านสรุปประวัติและยอดขายของเอเย่นต์ในเครือ เขามีการจัดเก็บข้อมูลที่เยี่ยมมาก ยังย้อนกลับไปนึกถึงสหพัฒน์ ว่าการค้าขายตอนนี้เปลี่ยนไป ยี่ปั๊ว ซาปั๊วเจ้าเก่าตามต่างจังหวัดไกลๆที่ไม่ใช่อยู่ในเมืองคนจะยังอยู่ดีกินดีกันอยู่ไหม
 


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 14 พ.ค. 08, 14:57
ดิฉันกลายมาชอบการตลาดไปได้ยังไงไม่ทราบ อาจจะเป็นเพราะมีเจ้านายที่ดี ทำให้กล้าคิด กล้าพูดอะไรตรงๆ โดยไม่ต้องกลัวผิด(ปกติที่บ้านก็เลี้ยงมาแบบนี้ ไม่เก็บกด) การเดินทางไปดูตลาดทำให้รู้จักจังหวัดต่างๆของประเทศ และสนุกกับวิถีชีวิตที่เห็น ไม่ว่าจะเป็นเมืองเหนือ อย่างเชียงใหม่ที่เราไปส่งนางงามประกวด
อุบลฯ ที่เราไปพูดคุยกับโฆษกอีสาน ร้านค้า ผู้บริโภคธรรมดาๆไปจนถึงหมอนวด(พี่เมาเขาทำรีเสิชเฉพาะรายที่สวย)
ได้เห็นความแห้งแล้ง แต่สวยงามของแก่งสะพือ..
จนถึงสุราษฎร์ พุนพิน บ้านนาสาร ลงไปสมุย ที่เราไปวางตลาดสบู่ฟา ไปนอนกลางทราย กินกลางหาด เพราะเช่าบังกาโลกันไว้ แต่พี่เมาเขามีบ้านเพื่อน เป็นคนสมุยแท้ บ้านอยู่ริมหาดเลย หาได้นอนในบ้านกันไม่ นอนมันชายหาดเลย ยุงไม่แตะเราสักตัว
สมุยมัยนั้น ต้องลงเรือจากท่าขนอม ข้ามไปที่เกาะ ร้านค้าก็ยังเล็กๆ มีไม่กี่แห่ง แต่เป็นเมืองโรแมนติค เงินสะพัด สบู่เราราคาไม่หนีสบู่ลักส์ ร้านค้าก็ยอมรับ ตัวเราทำงานเสร็จทั้งสำรวจตลาด และคุยกับคนสมุย นักท่องเที่ยวฝรั่งยังเป็นพวกชั้นดี ไม่ใช่แบ็คแพ็ค คนไทยก็เป็นพวกกล้าเดินทาง คนละแนวกับปัจจุบัน หาดละไมยังละไมอยู่ โรงแรมใหญ่ๆไม่มี น้ำตกยังเป็นป่า และแน่นอนที่สุด
ต้นมะพร้าวยังมีลิง..
 


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 14 พ.ค. 08, 15:23
ฟาร์อีสท์กับสหพัฒน์ทำงานวันเสาร์ เวลาเรามีทริปต้องออกต่างจังหวัด เราจะออกจากกรุงเทพตั้งแต่วันพฤหัสบดี เพื่อใช้เวลาวันศุกร์เสาร์ กับงาน สมัยนั้น นั่งทั้งรถทัวร์และรถไฟ ดิฉันเป็นคนนอนยากมาก จึงชอบนั่งรถไฟมากกว่า
ส่วนใหญ่ ทริปของเราจะมีผู้ช่วยดิฉันไปด้วย เขาเป็นหนุ่มลูกจีน ไปไหน ชอบทำบ้านเมืองสกปรกไปทั่ว เพราะนิสัยชอบถ่มเสมหะ ไม่รู้เป็นบ้าอะไร ทำเสียชื่อเสียง ถ้ามีคะแนนมารยาทและพลเมืองดีในการรักษาสิ่งแวดล้อมของพนักงาน เขาจะถูกตัดเรียบค่ะ
เมื่อไปอยู่เอเจนซี่ฝรั่ง เจอหัวหน้าฝรั่ง เขาพูดตลกที่ขำไม่ออกว่า
" ดรายชริมป์ ไอมักจะบอกเพื่อนๆเสมอว่า มากรุงเทพ เดินตามถนน ให้ห่างรถเมล์ไว้นะ"
ถามว่าทำไม
เขาบอกว่า "เพราะเดินอยู่ดีๆ เผลอๆ มีสิทธิ์ถูกถ่มน้ำลายจากหน้าต่างรถลงหัวได้"
..
ดิฉันบอกว่า บ้าไปแล้ว นั่นเมืองจีน ไม่ก็สิงคโปร์ย่ะ
 


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 15 พ.ค. 08, 13:09
คนทำหนังโฆษณา
เมื่อจบใหม่ๆ ดิฉันยังได้ไป Pearl and Deanค่ะ บริษัทนี้ รับทำหนังโฆษณาและซื้อสื่อครบครัน ตอนหลังคนไทยแยกออกมาตั้งบริษัทเอง ก็คนไทยเป็นชาติที่ไอเดียบรรเจิดไม่แพ้ใครนะคะ
คุณหนุ่มใส่เสื้อสีตามวันแห่งฟาร์อีสท์เขาก็มาจากสำนักนี้
คุณพัทนั่ม ก็มาจากนี่ คุณพัทนั่มเป็นโพรดิวเซอร์และผู้กำกับหนังโฆษณาตัวเล็กๆ จากเพิร์ลแอนด์ดีนก็ไปอยู่ที่ดีทแฮลม์โฆษณาก่อนออกมาตั้งบริษัทของตนเอง
อีกคนก็คือคุณชช. เจ้าของcamera movementที่นิ่มที่สุดเท่าที่ดิฉันเคยเจอมาก็มาจากที่เพิร์ลแอนด์ดีน มาตั้งโพรดัคชั่นเฮาส์ของตนเองเหมือนกัน
..
หนังเรื่องแรกที่ดิฉันทำให้ฟาร์อีสท์ จำไม่ได้เลยค่ะว่าใครถ่าย แต่ดิฉันได้ตัวแสดงเป็นรุ่นน้องจากรั้วจามจุรี หลังๆ ทราบว่า เธอไปเป็นนางฟ้าการบินไทยแล้วนะคะ



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 15 พ.ค. 08, 13:53
พื้นฐานการศึกษาของคนทำหนังโฆษณายุคนี้ มาจากสายกำกับศิลป์บ้าง คำพูดโฆษณาบ้าง บางรายก็จบมาทางภาพยนต์โยตรง สมัยดิฉันเป็นน้องใหม่ในวงการ บรรดาช่างภาพทั้งภาพนิ่งและหนัง เขาจะจบจากวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพค่ะ
รุ่นนั้นก็จะมีคุณเทพพนม ตากล้องที่ชอบพันผ้าพันคอจนเป็นเอกลักษณ์
ส่วนตากล้องภาพนิ่ง เนื่องจากทุกเอเจนซี่จะมีอินเฮาส์อยู่แล้ว บางงานที่ยากๆ เราจะส่งออกข้างนอก ยกเว้นเอเจนซี่ฝรั่งบางแห่งที่ส่งออกนอกตลอด งานถ่ายภาพและหนังโฆษณายุคนั้น ไม่มีคอมพิวเตอร์ช่วยอย่างสมัยนี้หรอกค่ะ
เขาทำงานกันเก่งๆทั้งนั้น
หนังโฆษณาไทย ไม่มีกลิ่นไอฝรั่ง
มีแต่ฝรั่ง เข้ามาทำโฆษณาที่จะทำไงก็ได้ ให้ตอบโจทย์แล้วเข้าถึงคนไทย


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 15 พ.ค. 08, 17:02
ในช่วงปี1980ขึ้นมา ตากล้องหนุ่มภาพนิ่งคนหนึ่งมือขึ้นมาก เจ้านายดิฉันใช้ประจำ เธอชื่อคุณต๋อมค่ะ
ชื่อจริงหล่อ สมตัวว่า คุณสีหศักดิ์ ชุมสาย ณ อยุธยา
เป็นชุมสายคนหนึ่งที่ติสท์ เจ้าของโพรดัคชั่นเฮาส์ชื่อ profile ออฟฟิศอยู่สีลม ภายหลังคุณต๋อมมาตั้งออฟฟิศใหม่ชื่อ Triton แถวหมู่บ้านหนึ่งหน้าอสมท.
ซึ่งลูกชายมาสืบทอด กลายเป็นทำหนังโฆษณาไปแล้ว
คุณต๋อมจบเมืองนอก พูดฝรั่งปร๋อ เข้ากับฝรั่งได้ดี
งานที่จำได้คือไมโล นางแบบตอนนั้นยังแต่งชุดนักศึกษามาเองเลย เธอคือคุณทวินันท์ คงคราญ
มีคุณแม่มาคุม น้องจ๊ะโอ๋หุ่นที่เราเรียกว่า healthy แต่งชุดกีฬาได้สวย น่ารัก ถือแก้วไมโลใส่น้ำแข็ง หยดน้ำเกาะ น่ารับประทาน ไม่ต้องรีทัช
เป็นโปสเตอร์โฆษณาไมโลเย็น
สินค้าของเนสท์เล่



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 16 พ.ค. 08, 11:52
โจเซฟ เป็นคนเยอรมัน เป็นครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ของลินตาส ที่ทำงานกับคุณต๋อมได้ถูกใจเช่นเดียวกับเจ้านายฝรั่งของดิฉัน ยุคที่ไมค์ วอร์เข้ามาทำงานในเมืองไทย ทำหนังโฆษณาที่เน้นองค์ประกอบศิลป ทำให้โพรดัคชั่นเฮาส์ตื่นตัว โจเซฟชวนอีท่าไหนไม่รู้ให้คุณต๋อมมาทำหนังด้วย โดยเลือกเอวีคราฟท์ เป็นโพรดัคชั่นเฮาส์ เอวีกับคุณต๋อมก็สนิทกันดี
หนังโฆษณาเรื่องนั้นรวมผู้คร่ำหวอดทางออกแบบศิลป์ คือคุณไพโรจน์ ศิริเลิศ คุณต๋อม และโจเซฟ เป็นหนังของอเมริกัน แสตนดาร์ด ซึ่งมักจะได้รางวัลแม็กแอดอยู่เสมอ
หนังออกมาสวยและเซ็กซี่มากค่ะ
..



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 16 พ.ค. 08, 14:25
ผู้กำกับหนังโฆษณาอีกท่านคือ คุณพัทนั่ม คุณพัทนั่มของเราตอนนี้ ไม่ค่อยอยู่เมืองไทย ไปเวียดนามตลอด เพราะโฆษณาที่นั่นบูมมาก เป็นการร่วมลงทุนกับรัฐบาลเวียดนาม
เป็นคนที่ดิฉันทำงานด้วยบ่อยที่สุดคนหนึ่ง
ขาประจำส่วนหนึ่งของเขาก็คือเบียร์สิงห์ แดนเนรมิตของคุณตุ๊กตา ฯลฯ
กิตติศัพท์ก็เช่นเดียวกับเอวี คือไม่ชาร์จโอเวอร์ และทีมงานทำงานประสานกันดี
สตูดังตอนนั้นก็มีหลายแห่ง ที่อยู่ยั้งยืนยงมาจนทุกวันนี้ก็มีของน้าแก้ว แห่งหนึ่งละ
น้าแก้วจบมาจากญี่ปุ่น เริ่มจากสตูดิโอภาพนิ่ง เป็นตากล้องรองเท้าแพนคนแรก ตอนหลังน้าแก้วขยับขยายมาถ่ายหนัง ลูกค้าขาประจำไม่ทิ้งกันเลยก็คือโตโยต้า
นี่เป็นแคแร็คเตอร์พิเศษของคนญี่ปุ่น
เดี๋ยวนี้ หลายโพรดัคชั่นเฮาส์ล้มหายตายจากไป บ้างก็แตกหน่อจนจำไม่ได้ว่ากี่หน่อ ผู้กำกับเปลี่ยนรุ่นกันไปหลายคน ..
ตากล้องบางคน กลายเป็นเศรษฐี เด็กหิ้วหนังไปทำโพสท์ญี่ปุ่นของเอวีกลายเป็นเจ้าของโพรดัคชั่นเฮาส์ที่รวยและแรงที่สุด
ครีเอทีฟหลายคนละอาชีพในห้องแอร์มาทำงานเป็นผู้กำกับ เพราะเงินดีกว่า เดือนหนึ่งทำงานน้อยวันกว่า ไม่ต้องทำแบบไนน์ทูไฟว์ ไม่ต้องปวดกระโหลกกับเออี ลูกค้าบ่อยๆ
อยู่โพรดัคชั่นเฮาส์เงินก็ดีกว่า กลายเป็นอย่างนั้น หลังๆ การชาร์จค่าตัว ดิฉันเห็นพีซีอี(production cost estimate)แล้วสยอง..
อะไรมันจะขูดรีดปานนั้น..


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 17 พ.ค. 08, 10:15
มีผู้กำกับอีกหลายคนที่ดิฉันเคยทำงานด้วย ประเภทมือขึ้นมาก แต่สาระของกรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟนี้จะเน้นเรื่องการทำโปรดัคชั่น มากกว่าจะเขียนถึงใครบางคนเป็นส่วนตัว
เวลาที่เราคิดสคริปท์ได้เรื่องหนึ่ง ในฐานะครีเอทีฟ ก็ต้องมีอีกสักสองเรื่องประกบ เพื่อขายเรื่องที่เราว่าเจ๋ง
และเมื่อขายผ่าน ก็ต้องขายพีซีอี ขั้นตอนนี้แหละที่สำคัญ ถ้าครีเอทีฟแม่นจริงๆว่า เฮาส์ไหนจะทำไอเดียของตนได้ดี ก็เลือกมาเลย แห่งหนึ่ง แล้วให้เสนอราคา
โดยมากลูกค้าจะไม่ชอบให้เป็นงั้น
ชอบที่จะให้เราบรีฟหลายแห่ง เพื่อที่จะให้เขาเสนอราคาแข่งกัน
โดยจรรยาบรรณ เราต้องบรีฟให้เหมือนกัน ไม่มีกั๊กความคิด หรือสาระที่เขาควรรู้
แล้วก็รอใบเสนอราคา
ระหว่างบรีฟ ผู้กำกับเฮาส์ต่างๆที่เลือกก็จะตีความสคริปท์เราเป็นหนัง เป็นการทำงานของเขา เราอาจจะชอบเฮาส์ที่เราไม่ได้คาดหวังก็ได้
ความมันอยู่ตรงนี้ค่ะ
..
บางเฮาส์ที่เสนอราคาแล้วไม่ได้ คนที่มีความเป็นผู้ใหญ่พอ ก็จะไม่ได้ผูกใจเจ็บ หาว่า เป็นการขโมยไอเดียเขา
คนที่มีไอเดียใกล้เคียงกันมีถมถืด
แต่บางคนสิคะ ไม่บรรลุวุฒิภาวะ โทษนั่นโทษนี่



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 17 พ.ค. 08, 16:45
ยุคที่เรามีนักโฆษณาไทย กับผู้กำกับหนังโฆษณาอยู่หยิบมือเดียว สคริปท์หนังจะวนเวียนให้ตีราคากันอยู่ไม่กี่เจ้า สคริปท์หนังดีๆ ได้เฮาส์ที่ดีๆ หนังก็ออกมาดี แต่บางทีตรงกันข้าม
เราจึงได้เห็นรถอุปกรณ์ไฟ และรถกองถ่ายของสตูดิโอหนึ่งชื่อสยามสตูดิโอ เขาเอาการ์ตูนเป็นสตอรี่บอร์ดที่ออกแบบโดยครีเอทีฟหนุ่มที่ชื่อ แบรี่ โอเวนขึ้นตกแต่งข้างรถเลยค่ะ
พร้อมกับคำพูดที่อ่านแล้ว เรียกความรู้สึกไปหลายๆแบบ สุดแต่จะตีความว่า
If the script is worth shooting..
It's worth shooting well
...


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 18 พ.ค. 08, 10:31
สมัยที่กันตนายังไม่ได้ลงทุนสตูดิโอยักษ์และห้องตัดต่อแบบใช้ซอฟท์แวร์แพงๆ พวกเราจะต้องไปฟินิชหนังที่ญี่ปุ่นกัน เพื่อมาฉายในทีวีและโรงหนัง ครั้นมีเดียในโรงหนังไม่เป็นที่นิยม เนื่องจากคนดูจำกัดกว่า ค่าใช้จ่ายเทียบความคุ้มไม่พอ ก็ไม่จำเป็นต้องฟินิชเป็นหนังอีกต่อไป ฮ่องกงก็เป็นที่ๆเราต้องไปแทน
พอฟินิชวิดีโอเริ่มอยู่ในเทรนด์ ครีเอทีฟสาวหนุ่มก็เดินสวนกันวุ่นในฮ่องกง
สมัยนั้น จะทำเอฟเฟ็คท์ที่เรียกว่ามอร์ฟ ด้วยอิทธิพลของมิวสิควิดีโอชุดไมเคิล แจ็คสันที่มอร์ฟหน้ากันดูแล้วน่าตื่นเต้น
หนังหลายเรื่องของดิฉันไปฟินิชที่นั่น
ยกตัวอย่าง ยาสีฟันที่มีโลโกเป็นหน้ายิงฟันยิ้ม มีฟองใส เป็นสามมิติ ฟองต้องทั้งกลม ใส น่ารัก สื่อความหมาย มีหน้าตาด้วย ฟองหนึ่งเป็นรสชาติ อีกฟองเป็นความขาวสะอาด
สโลแกนเป็น ฟันขาวสะอาด รสชาติเย็นชื่นใจ เอฟเฟ็คท์เป็นแอนิเมชั่น เราเตรียมภาพจากเมืองไทย ไปฟินิชที่นั่น ทำไป ช็อปไป เพลินดี
ลูกค้าเป็นบริษัทที่ฮ่องกง
จำได้ว่า ไปประชุมที่นั่น เบอร์หนึ่งชอบกัน แต่เบอร์สองศรศิลป์ไม่ค่อยจะกินกันเลยค่ะ จุกและจิก ทั้งที่เป็นชาย
..
อีกรายเป็นโทรศัพท์มือถือ ใช้เหยี่ยว เป็นสัญลักษณ์ ถ่ายในเมืองไทย เหยี่ยวที่หามามีคนฝึกอย่างดี เชื่อฟังคำสั่งมาก ฉลาดมาก
ทีมโลเคชั่น ไปกันไกลประมาณเมืองมีน ที่มีทุ่งกว้าง ไม่มีตึกสูง ไม่มีสายไฟ เพราะดิฉันต้องการแค่ฟ้า เพื่อให้เห็นว่า บินสูง
คอนเส็ปท์ว่า บินสูงค่ะ
โทรศัพท์มือถือแบรนด์นี้ เป็นฟิลิปส์ คุณสมบัติเยี่ยม เรื่องเสียง ชัด ใส สื่อสารสะดวก
คนฝึกเก่งมาก เราได้ช็อตบินสูง สวยๆมาก แล้วต้องเลือกซีเคว้นส์ที่ดีที่สุด ไปมอร์ฟเป็นมือถือ

เราทำที่ฮ่องกงกันค่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 19 พ.ค. 08, 05:48
ซอฟท์แวร์ที่ใช้รุ่นนั้นชื่อว่า Harry กับ Henry เรามักจะใช้สตูดิโอของทีวีบี และอีกเจ้าหนึ่งเป็นหลัก วิธีการทำงานของครีเอทีฟ ก็คือไปกับโพรดิวเวอร์ที่ทำโพสท์ บางบริษัท เจ้าของก็ไปเอง ดิฉันจำได้ว่า ครั้งหนึ่ง เราบินออกจากเมืองไทยด้วยความรู้สึกเครียดสุดๆ ทุกคนหน้าตูมๆ ไม่ว่าจะเป็นดิฉัน หรือคุณลำเนา สุตโต เพราะวันนั้น เป็นวันที่พลอากาศเอกสมบุญ ระหงษ์ จะได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี เราถึงที่โรงแรมในฮ่องกงดึกแล้ว กำลังจะนอน ดูข่าวต่างประเทศที่ในห้อง เราต้องดีใจโทรหากันในภาวะที่ใกล้หลับแล้ว เมื่อรู้ข่าวว่า กลายเป็นนายกอานันท์ ปันยารชุนไป...
แล้วเราก็ทำงานตอนเช้ากันอย่างปลอดโปร่ง


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 19 พ.ค. 08, 06:41
ช่วงที่ศูนย์การค้าใหม่ๆของเรายังไม่เกิด แบรนด์เนมดังๆ มาแต่ในห้าง จะหาซื้อทีลำบาก ต้องบินไปเมืองนอก เงินจากกระเป๋าของเราสะพัดไปทั่วเกาะฮ่องกง อาหารดีๆ หรู เริ่ด หรืออาหารอร่อยระดับเยี่ยม บริการเหวี่ยงจานเกือบใส่หน้า ห้องน้ำตั้งแต่หรูไปจนสกปรก รองเท้า บรั่นดี วิสกี้ตระกูลมอลท์ เครื่องสำอาง ของเล่น เสื้อผ้าที่ทันแฟชั่น พวกโพรดัคชั่นเฮาส์ที่คุณอาจดูว่าปอนๆ เขามีใส่กันหมด
ยกตัวอย่างชุดชั้นในของเซนต์ไมเคิล จะมีร้านหนึ่งที่ตึกโอเชียนทาวเวอร์ ไปซื้อทีไรเจอแต่คนไทย
ร้านของเล่นทอยอาร์อัส ในตึกเดียวกัน
เครื่องประดับแบรนด์ดังในห้างเลน ครอว์เฟิร์ด
เครื่องเดินป่าวิคตอริน็อกส์
นาฬิกาสว็อทช์และฮอยเออร์
รองเท้าฮัช พัพพี่
รวมถึงแบรนด์อิตาลี ฝรั่งเศส ทุกอย่างมีที่ฮ่องกง
...
หลังการทำงาน เช่นการเกรดสีหนังให้อยู่ในโทนเดียวกันทั้งเรื่อง หรือระหว่างที่คอมพิวเตอร์กำลังเรนเดอร์ภาพ เราบรีฟงานเสร็จก็ออกมาเดินเล่น แล้วจึงกลับเข้าไปทำใหม่ ตามศูนย์การค้า เราอาจจะได้พบตัวจริงๆของคนที่ไม่มีวันได้เห็นในเมืองไทย เดินดูของอย่างสบายๆในศูนย์การค้าของฮ่องกง เช่น คุณชาตรี โสภณพนิช และครอบครัว


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 19 พ.ค. 08, 06:56
ตำรวจฝรั่งหุ่นแข็งแรงตัวเบ้อเร่อ ที่พูดจีนได้เฉยเลย
ช่วงที่ดิฉันพูดถึงมันเป็นปี1981-10ค่ะ ที่ฮ่องกงบูมมาก เป็นศูนย์กลางการเงินและเทคโนโลยี
แฟชั่น และการท่องเที่ยว
บ้านเราก็ไม่มีอาหารจีนที่อร่อยระดับเทพ สินค้านำเข้าราคาที่ต่างกันมากให้เราได้เลือกกระเป๋าฉีก(แต่ช่วงนี้เราเมิน เพราะเบื่อแล้ว)
แต่ครั้งหลังสุด ที่ไป ไม่สนุกเลย สิ่งที่เปลี่ยนไปไม่ใช่บ้านเมือง แต่เป็นความเงียบเหงาของธุรกิจpost production
ครีเอทีฟเพื่อนๆกันจากเอเจนซี่อื่น หรือโพรดิวเซอร์คนดังจากเอเจนซี่เรา เพื่อนๆในวงการต่างก็แยกย้ายไปกันตามวิถีของแต่ละคน
เดี๋ยวนี้ ไม่มีความจำเป็นใดๆสำหรับดิฉันที่จะไปฮ่องกงอีกแล้ว


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 19 พ.ค. 08, 14:00
ถามว่า ครีเอทีฟแอบตบทรัพย์เฮาส์ไหนบ้างไหม เพื่อหาล้อแม็กใหม่ หรือเครื่องเสียงดีๆสักชุด ในยุคของดิฉัน ยากส์ค่ะ ไม่กล้าตอบว่าไม่มีเพราะดิฉันไม่ใช่มาตรฐานใครต่อใคร แต่ตลอดชีวิตการทำงานตั้งแต่เป็นก็อปปี้ไรท์เตอร์ ซีเนียร์ไรท์เตอร์ ครีเอทีฟ จนถึงตำแหน่งผู้บริหาร เราจะไม่ทำแบบนั้น
เพราะอะไรน่ะหรือคะ เพราะเวลาจะแก้งาน หรือคอมเมนท์งาน ซึ่งเฮาส์จะต้องรีชู้ต หรือเสียค่าใช้จ่าย เราจะไม่ต้องอ้อมแอ้มแบบเกรงอกเกรงใจกัน เขาจะต้องทำงานให้เราแบบไม่ปริปาก อย่างเต็มความสามารถ ไม่ใช่หมดบัดเจ็ทเพราะเอาส่วนนี้มาเป็นเงินปิดปากไปหมดแล้ว
อีกอย่างหนึ่ง เมื่อเราออกจากวงการไป หรือเกิดจับพลัดจับผลูตกต่ำในอาชีพ หรือถูกเด้ง มันไม่คุ้มกับศักดิ์ศรีหรือชื่อเสียงที่สะสมมา
ประวัติใครเป็นอย่างไร คิดหรือว่าจะปิดได้มิด
ดิฉันทราบจากเพื่อนๆเฮาส์รุ่นใหม่ๆว่า น่าเสียดายที่คนแบบดิฉันเหลือไม่มากนักแล้วค่ะ :-X


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 20 พ.ค. 08, 12:40
บางท่านอาจจะสงสัยว่าหนังโฆษณาเรื่องหนึ่งควรจะราคาสักประมาณเท่าไหร่ ใครตอบตรงนี้ได้ ดิฉันขอลา
มันตอบโดยเฉลี่ยกำปั้นทุบดินไม่ได้ค่ะ
การคิดราคา มันมาจากสคริปท์ แล้วแต่ละสคริปท์มันเหมือนกันเสียที่ไหนล่ะคะ
ลูกค้าที่งบประมาณน้อย จะห่วงตรงนี้มาก สามารถบอกมาก่อนเลย ตอนที่จะคิดงานว่า
"ผมมีงบให้คุณทั้งสิ้นยี่สิบล้าน รวมแว็ต ทั้งมีเดีย และโพรดัคชั่น"
ก็เป็นหน้าที่เรามาบริหารเอง
สิ่งที่ทำงานยาก คือคิดฟุ้งไปเรื่อย โดยไม่รู้งบ เพราะลูกค้าอาจจะมีงบในใจไว้แล้ว เผื่อเหลือ เผื่อขาด แต่ไม่บอกเรา เพราะอยากจะดูไอเดีย
เอเจนซี่บางแห่ง ไม่ศึกษาลูกค้า เขาให้เสนอแคมเปญ ไม่บอกงบ แต่ดันเสนอแอดไปชิ้นสองชิ้น เป็นแม็กแอด
อีกเอเจนซี่ไม่ได้ดูถูกลูกค้า ซัดไปเต็มๆ ยี่สิบล้าน
เลยได้ลูกค้ามาครองด้วยการวิเคราะห์บรีฟ และปัญหาเป็นแท้ๆ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 20 พ.ค. 08, 13:04
เกิดเป็นครีเอทีฟทั้งที ความมันอยู่ที่การเขียนสคริปท์หนังดีๆ ขายลูกค้าได้ ทำหนังออกมาแล้วใช่ โดนใจผู้ชม หรือสินค้าขายได้ ได้ภาพพจน์ ได้กล่องจะเป็นเรื่องหลังสุด
สิ่งที่ยากที่สุดคือ ถ้าลูกค้าบรีฟมาว่า
"ผมอยากได้หนังรางวัลสักเรื่อง"
เฮ้อ โจทย์นี้ เด็กใหม่ๆ เพิ่งจบอาจจะชอบ เพราะถ้าทำได้ มันหมายถึงชื่อเสียงค่ะ
ค่าตัวที่เพิ่มขึ้น
ราคาของคน
แต่จริงๆแล้ว ไม่ลูกค้ารายไหนหรอกค่ะ ที่จะไม่อยากขายของ เพราะการทำหนังขายของแล้วได้รางวัล มันจะจำกัดอยู่ที่สินค้าบางประเภทเท่านั้น
เช่น สี ธนาคาร เครื่องดื่ม โลชั่น สถาบันการเงิน
มันยากมากที่เราจะทำหนังนม ผงซักฟอก ผ้าอนามัย ยาสีฟันให้ได้รางวัล
ส่วนใหญ่ ลูกค้าสินค้าอุปโภคบริโภค ไม่สนด้วยซ้ำ
เฮาส์ก็เช่นกัน บางเฮาส์ ทำรางวัลเก่ง บางเฮาส์ทำหนังสวย ขายของ รับทรัพย์ทั้งปี กำไรกว่าเป็นไหนๆ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 20 พ.ค. 08, 16:37
หนังโฆษณาที่ถือว่ามีคุณค่าทางโพรดัคชั่น เขาไม่ได้วัดกันที่การโพสท์หรือฟินิชงานค่ะ เขาดูกันที่การถ่ายทำ โดยไม่ใช้special effectsใดๆมาช่วย เพราะฉะนั้น นอกจากความคิดสร้างสรรค์จะต้องดีแล้ว.. การถ่ายทำจะต้องดี ไม่ว่าจะเป็นคำพูด การแสดง โลเคชั่น ฉาก ของประกอบฉาก เสื้อผ้า แต่งหน้า ทำผม จะต้องกลืนกันทั้งเรื่อง
พอถ่ายเสร็จ ก็ตัดต่อ ลูกค้าซื้อแล้วเจ๋งเป้งเลย
ว่ากันที่ศัพท์เทคนิคซะนิดหนึ่งนะคะ ไม่งั้น ท่านผู้อ่านทั่วไปไม่เข้าใจ
หนังที่เราถ่ายทำเสร็จ เขาเรียกฟุตเทจค่ะ ไปเลือกฟุตเทจ ก็คือไปดูที่ถ่ายไว้ หรือเรียกว่า rushes
ขั้นนี้ ครีเอทีฟ กับโพรดิวเซอร์จะทำร่วมกับเฮาส์ หลังๆนี่ เฮาส์มักจะกันไม่ให้ครีเอทีฟซึ่งไม่ค่อยมีความรู้เรื่องหนังเข้ามายุ่งมาก เขาจะเลือกฟุตเทจเอง แล้วตัดตัวอย่างไว้ให้ดูเลยสักแบบสองแบบ ตัดต่อภาพเข้าด้วยกัน ให้ลงสิบห้า วิ สามสิบวิ เส้นหนึ่ง
แล้วทำเสียง อีกเส้นหนึ่ง คือมิกซ์เสียงผู้ประกาศ เพลงหรือดนตรีประกอบ เสียงประกอบอีกเส้นหนึ่ง
แล้วเอาสองเส้นมาเรียงร้อยกันเฉยๆ เรียกว่า Double Head
หัวเสียง กับหัวภาพไงคะ
ขั้นนี้ เราถึงเรียกลูกค้ามาดู
ถามว่าแล้วถ้าลูกค้าไม่ชอบ ให้แก้ได้ไหม ..


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 21 พ.ค. 08, 12:53
ได้ค่ะ เพราะยังไม่ข้ามไปถึงขั้นสุดท้ายที่เรียกว่า checkprint
...
เดี๋ยวนี้ Doublehead ใกล้ความเป็นเช็คปริ้นท์ไปแล้ว 90 %
ลูกค้าที่ขึ้นชื่อมาก ครีเอทีฟกลัวชมัดเรื่องแก้งานนี่มีอยู่ไม่กี่รายหรอกค่ะ สามารถรื้อได้ทั้งเรื่องก็มี แต่โดยมาก ถ้าก่อนการถ่ายทำ เรามีลูกค้ามาเข้าพรีโพรดัคชั่นด้วย จะไม่ค่อยมีปัญหาอะไรเมื่อถึงวันดูดับเบิ้ลเฮด
..ดิฉันเคยมีประสบการณ์ที่มึนตึ้บ กับลูกค้าตอนขายดับเบิ้ลเฮดน้อยมาก
เอาเรื่องของเพื่อนๆมาเล่า น่าจะสนุกกว่า โปรดรอสักครู่นะคะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 23 พ.ค. 08, 09:00
มัวแต่ยุ่งกับชีวิตและสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ จนไม่เจอเรื่องดีๆมันๆของคนโฆษณามาเล่าให้ฟัง.. หายไปวันหนึ่งค่ะ
...
ต่อเรื่องขายดับเบิลเฮดนะคะ
วันหนึ่งที่เครือซิเมนต์ไทยกำไรมหาศาล กระแสนักข่าวกระพือเรื่องปลาใหญ่กินปลาเล็ก ธุรกิจใหญ่ฮุบธุรกิจเล็ก มันไม่ธรรมดาเหมือนสมัยนี้ มันเหมือนมีพวกเอสเอ็มอีถูกรังแกทำนองนั้น
เครือซิเมนต์ไทยยุคคุณพารณ อิศรเสนา คุณอมเรศ ศิลาอ่อน ปกติจะมีหนังโฆษณาอยู่สามประเภท
ประเภทแรก Product โฆษณาสินค้า ซึ่งมีปูนตราเสือ ปูนตราช้าง กระเบื้องมุงหลังคาตราช้าง กระเบื้องและสุขภัณฑ์คอตโต้ ลูกค้านอกจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ ก็จะเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์โดยตรงในปูนเอง
คนพวกนี้ส่วนใหญ่มาจากครอบครัวดีๆ การศึกษาสูง และสุภาพ
ประเภทที่สอง Product Corporateโฆษณาเอเย่นต์ คนอ่านที่ไม่คุ้นอาจจะงง ดิฉันแรกๆก็งงเช่นกัน เอเย่นต์ของเครือมีอยู่ทั่วประเทศ มีการจัดเกรดเป็นหลายระดับตามวงเงิน ยอดขาย และเครดิต เราต้องมีโฆษณาสนับสนุน ว่าในบรรดาร้านค้าวัสดุก่อสร้างที่กระจายกันอยู่ทั่วประเทศน่ะ เอเย่นต์ของปูน ทั้งของและบริการได้มาตรฐาน สังเกตโลโกตราช้างข้างบนเป็นสำคัญ
การถ่ายทำ ต้องไปถ่ายที่เอเย่นต์จริงที่เราเลือก ปลอมเอาตัวแสดงมาเล่นแทนไม่ได้
ประเภทที่สามสิคะ ที่จะเล่าให้ฟัง
คุณวินิจ สุรพงษ์ชัย เอ็มดีของลินตาสเรียกให้ชัด(แต่บางคนฟังแล้วปวดหัวมากขึ้น)ว่า Corporate Corporate
มันเป็นอย่างไรกันหรือ
..
 


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: Oam ที่ 25 พ.ค. 08, 09:16
มาคั่นโฆษณาให้ครับ
 ;D


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: elvisbhu ที่ 26 พ.ค. 08, 09:03
ระหว่างที่ผมทำโฆษณา มีหนังเรื่องหนึ่ง ที่เป็นนมยี่ห้อดังของไทยนี่หละครับ ที่ขายดีเป็นอันดับหนึ่ง ลูกค้าเป็นชายหนุ่มอายุราวฟิฟตี้อัพ เหลือเชื่อครับ เวลาฉายดับเบิ้ลเฮดให้ดูกันที ขอรีโมทไปฟรีซเฟรมดู
นมที่ย้อยลงมา ข้น ขาวพอไหม
เทคไหนดีกว่านี้มีไหม
ถ้ายังไม่ได้ให้ถ่ายใหม่
เขาดูหนังกันที่ภาพเคลื่อนไหวครับ ไม่ได้ดูที่ภาพนิ่ง
แล้วพวกผมน่ะ ไม่ใช่เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมกันนะครับ
ก็อาวุโสพอควรในเอเจนซี่
..
นี่แค่ตัวอย่าง นึกอะไรได้จะมาเขียนคั่นโฆษณาบ้างครับ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 28 พ.ค. 08, 09:25
เร้นกายไปหลายวันค่ะจากกระทู้ กำลังอินกับวาทะของรมต.สำนักนายกฯ ที่พูดกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ไม่ทราบว่าเรียนประวัติศาสตร์สำนักไหนมา หรือได้รับอิทธิพลจากคุณผู้ชายผูกหูกระต่าย ถึงได้ปล่อยข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเช่นนั้นออกไป เพราะไม่ว่าจะพิจารณาทางด้านภาษาศาสตร์ รัฐศาสตร์ สื่อสารมวลชน ล้วนแต่ทำให้ดิฉันอ้าปากค้าง
..
ถ้าคุณรมต.ท่านนี้เป็นครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ ไปพรีเซ้นท์คัมพานีโพรไฟล์แบบนี้ให้ลูกค้า(ซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวต่างประเทศ)แทนเอเจนซี่ที่ชื่อไทยแลนด์ละก้อ กลับมา ถูกเจ้านายลงโทษเก็บของลงกล่องแน่
ฝ่ายบัญชีคงจะขอให้คืนกุญแจรถบริษัทที่นั่งเชิดอยู่เบาะหลังทุกวัน
เอเจนซี่คู่แข่งคงต้องมาคล้องพวงมาลัยเป็นการใหญ่ที่ทำลายตัวเองได้อย่างฉกาจฉกรรจ์
ไม่ต้องออกแรงเล้ย.. ;)




กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 28 พ.ค. 08, 10:48
วิธีการพูดหรือคอมเมนท์ในสิ่งที่ตนไม่รู้จริงอย่างเป็นตุเป็นตะนี่ อัยตรายมากในแง่ของคนทำหนังโฆษณา เพราะคอมเมนท์ผิดๆ มันอาจหมายถึงการแก้หนัง ถ่ายใหม่ทั้งเรื่องก็ได้
ดิฉันกำลังจะยกตัวอย่าง หนังส่งเสริมภาพพจน์ของเครือปูนใหญ่เรื่องหนึ่งค่ะ
อย่างที่เขียนแต่แรกว่า สถาบันนี้ ใหญ่มาก มีบริษัทในเครือมากมาย กระทรวงการคลังและสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ถือหุ้นมาก การสร้างภาพพจน์โดยพูดถึงตัวเองว่าใหญ่ ยอดขายสูง กำไรมาก พนักงานเยอะ โบนัสดี ฮุบกิจการของบริษัทเล็กๆมาทำเอง ย่อมเป็นสิ่งที่นักโฆษณาไม่ควรทำอย่างเด็ดขาด
เราได้ทำหนังจากคอนเส็ปท์ว่า SIMPLE MAN มาเรื่องหนึ่ง
เป็นชีวิตของช่างคนหนึ่ง ในโรงปูน เขาเป็นคนปูนจริงๆ จบการศึกษาระดับปวช. หน้าตาน่าไว้ใจ ไม่หล่อ แต่ดูดี เป็นหนุ่มชนบท จบการึกษาแล้วได้เข้ามาทำงานในกรุงเทพ นั่งรถไฟมาจากหัวลำโพงเลยละ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 28 พ.ค. 08, 15:13
ทีมถ่ายทำเป็นของสยามสตูดิโอ ผู้กำกับคือคุณคทา สุทัศน์ฯ ปิดชานชลาไปหนึ่งชาน ที่หัวลำโพง ในปีนั้น หัวลำโพงยังเก่า คลาสสิค ไม่ได้เดิ้นอย่างที่เห็นหรอกค่ะ
เรื่องต้องการบอกว่า
คนปูนเขาก็เป็นคนเดินดินธรรมดา มาจากรากแก้วของประเทศ จากบ้านมาทำงาน แล้วเมื่อเติบโตในสายงานช่าง วันหนึ่งก็ไปรับแม่จากต่างจังหวัดที่ชานชลาเดียวกันกับที่เขามา
ชีวิตเริ่มที่เดินลงจากรถไฟ เมื่อก้าวหน้าในการงาน ก็มารับแม่มาอยู่ด้วยที่ๆเดียวกัน
SCG guy, just like your neighbor, he's a simple man, comes from rural, not a giant, big shot or any hero, and when he has little success, he never forgets his root.
หนังเสร็จ ยังไม่นำออกฉาย ผ่านคุณอมเรศ ศิลาอ่อนแล้ว คุณพารณ อิศรเสนาท่านบอกว่าสูงไปสำหรับคนดู ดูยาก
เราเลยทำรีเสิช
เชิญนักวิจารณ์ อาจารย์มหาวิทยาลัย ผู้นำความคิด มาดูที่เอเจนซี่
ผลออกมาบวก กับภาพลักษณ์ของเครือปูนซิเมนต์ไทย แต่ .. ทบทวนไป ทบทวนมา
เราจำเป็นที่จะเสนอหนังใหม่ค่ะ ที่ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับคนปูน หรือเครือปูนโดยตรงเลย
ตกลงหนังไม่ได้ฉาย..
นี่ละ ท้าทายมากๆ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 29 พ.ค. 08, 10:09
หนังเรื่องหนึ่งที่เราทำให้ปูน ชื่อว่าเมืองไทยนี้ดี เปิดให้เห็นถึงว่าไทยเรามีดีอย่างไร ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว  เป็นเสียงเด็กอ่านอาขยาน ทำให้เอเจนซี่ คิดว่า กลยุทธที่จะไม่พูดถึงตัวเราเอง คือปูน น่าจะใช้ได้
ดิฉันขนหนังสือประวัติปูนใหญ่ มาอ่าน ตั้งแต่สมัยซีเพีย จนปัจจุบัน ศึกษาแนวทาง วัฒนธรรม กว่าจะได้หนังผู้ชายธรรมดาออกมาเรื่อง
คราวนี้ ถ้าไม่อิงเรื่องของปูน จะไปอิงอะไรดี
อ่านไปอ่านมา ก็ถูกใจกับปรัชญาหนึ่งของปูนค่ะ
"เชื่อมั่นในคุณค่าของคน"
เอาละ แนวคิดนี้น่าจะดี แต่ว่า จะเสนอรูปแบบออกมาอย่างไรล่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 29 พ.ค. 08, 10:13
เจ้านายบอก "ยูก็เอาบทอาขยานมาสักบทสิวะ"
หัวหน้าหัวเราะ บอก "เด็กเอ๋ย เด็กน้อย ดีไหม"
ดิฉันคิดหนัก เออ ไม่เลว เพราะสิ่งที่เจ้านายพูด มันก็สามารถจะcampaignableกับหนังเดิมได้เหมือนกัน แต่จะทำไงดี ไม่ให้มันเป็นสารคดี ดูแล้วได้อารมณ์ร่วม
นี่คือโจทย์
...
และที่สำคัญ ต้องทำให้สะท้อนความคิดหลัก ที่ดิฉันชอบว่า เครือซิเมนต์ไทย เชื่อมั่นในคุณค่าของคนด้วย
คิดได้ปุ๊บ ก้ลงมือเขียนสคริปท์ และสตอรี่บอร์ดค่ะ



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 29 พ.ค. 08, 10:35
ทำงานให้องค์กรใหญ่ๆ แถมยังมีกลิ่นสุภาพบุรุษวิศวะจุฬาเต็มองค์กรนี่ ไม่สามารถคิดหาไอเดียประเภทมีอารมณ์ขัน อย่าง"ติดเหล็ก ติดเด็ก"ที่โฆษณากันอยู่ทุกวันนี้ได้หรอกค่ะ ทั้งที่ชอบ
มันต้องแสดงความน่าเชื่อถือ สร้างสรรค์และส่งเสริมสังคม
หนังเรื่องนี้ได้กล่องค่ะ และเครือซิเมนต์ไทยก็ใช้คุ้ม น่าจะกว่า ๕ ปี
..
บทอาขยานเด็กเอ๋ยเด็กน้อยขึ้นมา เราจะเปิดกล้องที่เด็กผู้ชายคนหนึ่ง เดินไปโรงเรียน ผ่านทุ่งนากว้างไกล เขียวขจี
"เด็กเอ๋ย เด็กน้อย ความรู้เรายังด้อย เร่งศึกษา.....


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 31 พ.ค. 08, 11:15
สะท้อนให้เห็นชีวิตชนบทที่งดงาม เด็กของเรา คัดจากโมเดลลิ่งเอเจนซี่ เราต้องไกด์ว่า หาเด็กหน้าตาไทยแท้นะ ประเภทลูกครึ่งไม่เอา อาหมวยอาตี๋ไม่เอา ไม่ใช่แบ่งแยกชาติพรรณนะเจ้าคะ แต่ต้องการให้เป็นชนบทจริง
คนอ่านอาจจะเถียงว่า อ้าว ตามบ้านนอกน่ะ ลูกอาโกอาแปะเยอะแยะตาแป๊ะไก๋
โถ อาโกอาแปะน่ะ ล้วนเป็นพ่อค้ามีฐานะ ไม่ค่อยส่งลูกมาโรงเรียนประชาบาลร้อก จะบอกให้
นี่เราต้องไปถ่ายรงเรียนประชาบาลกันจริงๆค่ะ
แล้วการหาโรงเรียนประชาบาลให้ได้อย่างที่ดิฉันฝันน่ะ เป็นเรื่องไม่เล็กเลย
ครีเอทีฟฝันว่าไร โพรดัคชั่นเฮาส์ก็ต้องกระเสือกกระสนหามาให้ได้ตามฝัน
โรงเรียนที่ดิฉันนึกภาพออกมันเป็นไงทราบไหมคะ
ต้องเป็นโรงเรียนไม้ ทาสีอะไรก็ได้ จะชั้นเดียว สองชั้นก็ได้ ไม่มีส่วนผสมของคอนกรีตที่อัปลักษณ์ แม้เราจะเป็นคนขายซีเมนต์ก็ตาม อยู่ในสภาพดี สะอาด ท่ามกลางไม้น้อยใหญ่ มีสนามหญ้ากว้างสำหรับเด็กวิ่งเล่นได้
ง่ายๆแค่นี้ เชื่อไหมคะ ว่าฝ่ายโลเคชั่นไปสรรหามา และกล้อมแกล้มเกือบใช่ จากภาพ ดิฉันต้องไปดูสถานที่จริงเอง ซึ่งคุณพัฒนา เอื้ออาวากุล ผู้กำกับมือรางวัลไปด้วย
คุณพัฒนาเลือกถ่ายที่อยุธยา
ซึ่งเป็นโลเคชั่นที่สวยมาก  แต่ดิฉันก็ยังไม่ชอบโรงเรียนสองสามโรงเรียนที่เขาเลือกมา มันดูขาดๆ เกินๆ ไม่ใช่นี่คะ
แล้วเราก็ขับรถออกจากอยุธยากัน



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: elvisbhu ที่ 01 มิ.ย. 08, 18:34
ขอคั่นโฆษณาครับ ก่อนจะลุ้นว่าคุณกุ้งแห้งเยอรมันจะได้โลเคชั่นโรงเรียนสวยของเธอไหม
..
ลูกค้านมข้นคนเดิมของผมนี่หละ มีอยู่ฉากหนึ่ง ถ่ายที่วังตะไคร้ นครนายก เป็นฉากครอบครัวไปปิคนิค ก็เอานมข้นไปด้วย ในเรื่อง เด็กๆและพ่อแม่เบิกบานมาก บรรยากาศเขียวสดฃื่นตอนเช้า บนเสื่อที่ปู ก็มีตะกร้าขนมปัง และผ้าปู รวมถึงกระป๋องนมด้วย
ผมจัดขนมปังลงตะกร้าอย่างดีและวางคอมโพสิชั่นภาพด้วยตัวเอง วันนั้นลูกค้ามาสายนิดหนึ่ง เราถ่ายไปแล้ว และเราก็รีเพลย์สิ่งที่ทำให้ลูกค้าด้วย
ภาพสวย สะอาด พ่อแม่ลูกก็กำลังหัวเราะหัวใคร่
วันขายดับเบิลเฮด ที่เอเจนซี่ ลูกค้าฟรีซเฟรมครับ
..
"คุณ ฉากนี้ผิด"
"ไหน ไหนครับ ผิด"
"คุณดูสิ ผิดตรงไหน"
ผมเข่าอ่อน ไม่ใช่เพราะกลัว แต่เพราะลูกค้าเล่นลงไปนั่งกับพื้นพรมห้องมีตติ้ง
"ไม่มีอะไรผิดนี่ครับ สวย อบอุ่นดี"
..
เรื่องของเรื่อง ขนมปังที่อยู่ในตะกร้า โผล่หัวออกมาสองก้อนน่ะ มันเป็นขนมปังฝรั่งเศส ซึ่งลูกค้าผมบอกว่า
"ไม่มีใครเขากินขนมปังบาแก็ตกับนมข้น"
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 02 มิ.ย. 08, 07:00
แล้วทำไงคะ ต้องถ่ายใหม่หรือเปล่า มีผลนะคะถ้าเป็นช็อตกว้าง ถ้าโคลสอัพก็รีชู้ตง่ายหน่อย
แต่หวังว่าคุณคงหาวิธีเอาตัวรอดได้..ไม่ต้องรีชู้ตนะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: elvisbhu ที่ 02 มิ.ย. 08, 15:03
ถ่าย Location ตจว ครับ
ทุกคนมีความรู้สึกกดดันครับ การ re-shoot หมายถึงงบประมาณที่ค้องเพิ่มอีกเท่าตัว
ในวันนั้นลูกค้ามาสาย ฉากแรกถ่ายไปแล้ว
วันถ่ายผม(ดัน)รีเพลย์ให้ลูกค้าดู....
ลูกค้าสารภาพ วันนั้นมองไม่เห็น..
พอดีเป็น LongShot มีเด็กวิ่ง พ่อแม่นั่งอยู่ในสนามหญ้า
ข้างๆมีตระกร้าปิคนิค มีขนมปังตัวร้ายที่ลูกค้าไม่พึงปราถนานอนสงบอยู่ ห่มด้วยผ้าลายสก๊อต โผล่หัวกลมแก้มแข็งมานิดๆวางอยู่ข้างๆคุณแม่
กล้องกำลังแพนออกหลุดจากขนมปังเจ้ากรรมเพราะ Followเด็กกำลังวิ่ง 
ตกลงกันได้ ไม่ re-shoot ตัดออก 10 เฟรมให้เห็นน้อออย ...ที่สุด my best client ..happy
เฮ้อ.....โล่งอก
(ขอโทษที่ต้องใช้ภาษาผสมตามสไตล์คนโฆษณาครับ)




กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 02 มิ.ย. 08, 18:59
ขอบคุณค่ะ เอ คุณเอลวิสภูนี่ ประชดหรือเปล่าคะ..

ดิฉันขอต่อเรื่องโลเคชั่นโรงเรียนเลยเพื่อความต่อเนื่องนะคะ เมื่อขับรถออกจากอยุธยาสู่เส้นทางสายเอเชีย ยุคนั้นโลต๊งโลตัสน่ะ ยังไม่เป็นวุ้น ถนนสวยงาม มีแต่ท้องไร่ท้องนา ด้วยความอาลัยอาวรณ์อยุธยากรุงเก่า ดิฉันมองออกจากหน้าต่างรถไป แล้วก็พลันไอเดียบรรเจิด เห็นเส้นทางโค้งเข้าไปตามทุ่งนา มีทิวต้นไม้เป็นแถว ดิฉันบอกน้าพัฒน์ ยุ้ด หยุดค่ะ ดูทางขวามือสิคะ เดี๊ยนสงสัยว่าจะมี แวะไปหน่อยไหม

ดิฉันคิดว่า ต้องเป็นใครในอยุธยา มากระซิบแน่ๆ เพราะเมื่อเรายูเทิร์นเลี้ยวเข้าไป ไม่กี่อึดใจ ก็ดันมีโรงเรียนในฝันของดิฉันค่ะ
โรงเรียนหันหลังให้ถนน ดิฉันอยากดูด้านหน้าว่าจะใช่ไหม ต้องเดินผ่านแปลงผักสวนครัวที่นักเรียนปลูกหลังห้องไปด้านหน้า ..
เรือนไม้ในจินตนาการของดิฉันอยู่นั่นเองค่ะ มีระเบียงไม้เป็นซี่ ทาสีสะอาด เสาธง สนามหญ้ากว้าง ต้นไทรมุมสนามใหญ่กว้าง และสวยงาม ที่เหลือเชื่อคือ โรงเรียนอยู่ติดคลองเล็กๆด้วยค่ะ

เนื่องจากดิฉันไม่ใช่คนดัดจริต เลยเก็บความกรี๊ดแค่ในใจ มองหน้าน้าพัฒน์ แล้วสบตากัน
..
ฝ่ายโลเคชั่นตีปีก!


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 04 มิ.ย. 08, 10:44
โลเคชั่นที่มีผลกับการถ่ายทำมีหลายเรื่องค่ะ อยากจะเล่าเรื่องสถาบันการเงินที่เป็นบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์แห่งหนึ่งให้ฟัง วันดีคืนดี ผู้บริหารสนใจอยากจะทำหนังสถาบันเพราะว่าครบรอบ 55 ปีแล้ว ดิฉันก็ความหาคอนเซ็ปท์ ด้วยการเรียนรู้องค์กร ผู้ที่ให้ข้อมูลดิฉันคือ คุณจันทรา อาชวานนทกุล
จับจุดเด่นได้อย่างว่า ที่นี่เขามีงานที่เป็นคอลเล็คชั่นศิลปินระดับดีของสยาม
เราก็ชวนกันไปดูภาพต่างๆ แล้วก็ให้เขาส่งข้อมูลมาว่า มีภาพอะไรบ้างที่อยู่ในคอลเล็คชั่น
ดิฉันคิดคอนเส็ปท์ว่า"มุมมองของเรา คือความสำเร็จของคุณ"
ซึ่งก็ผ่านการอนุมัติจากบอร์ด
ภาพที่ดิฉันเลือกมาเป็น execution มีสามภาพค่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: Oam ที่ 04 มิ.ย. 08, 10:55
สงสัยว่า ใช้วิธีแต่งฟิล์ม เอาอะไรไปทาๆ บังๆ ตัวปัญหาไว้ไม่ได้หรือครับ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: elvisbhu ที่ 04 มิ.ย. 08, 12:30
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 16-17 ปีมาแล้ว สมัยนั้นยังใช้ฟิล์มต่อฟิล์มอยู่ คอมพิวเตอร์ยังไม่มีบทบาทครับ
สมัยนั้นถ้าทำอย่างที่คุณโอมว่าเราต้องไปฮ่องกง ไม่มีงบครับ...


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 04 มิ.ย. 08, 12:37
คุณโอมคะ หนังรุ่นที่คุณเอลวิสภูว่า ที่จริงยังแก้ด้วยคอมได้ค่ะ แต่ต้องไปฮ่องกง และงบโพสโพรดัคชั่นต้องสูงพอควร
ลูกค้าของคุณภู ชอบทำหนังราคาคุ้มๆ แต่ความต้องการสูงค่ะ
...


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: Oam ที่ 04 มิ.ย. 08, 23:04
นึกว่า แบบว่า เอาฟิล์มมาขูดๆ รูปออกอ่ะครับ

อยากให้พี่กุ้งแห้งพูดถึงเกมกลยุทธ์ ช่อง ๙ ไม่รู้ว่าได้ดูบ้างไหมครับ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 05 มิ.ย. 08, 11:01
ยังไม่เคยดูค่ะ คุณโอม มีอะไรน่าสนใจบ้างคะ คุณโอมช่วยเล่าให้ฟังหน่อย


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: Oam ที่ 05 มิ.ย. 08, 12:37
ผมเพิ่งได้เห็นอยู่ ๒-๓ ครั้ง ไม่ได้เป็นแฟนประจำ
เป็นรายการประเภทแข่งขันวางกลยุทธในการนำสินค้าออกสู่ท้องตลาดอะไรประมาณนั้น
โดยจะแบ่งผู้แข่งขันออกเป็น ๒ ทีม ให้ทำแคมเปญสินค้าตัวเดียวกัน แล้วดูว่าใครจะประสบความสำเร็จมากกว่ากัน
จะมีคุณผู้ชายคนหนึ่งซึ่งท่าทางแกคงเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในวงการ (แต่ผมไม่รู้จัก) เป็นประธานกรรมการตัดสิน
รายการมีทุกคืนวันพุธ หลังข่าว ๒ ทุ่ม พี่กุ้งแห้งฯ ลองเปิดดูสิครับ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 05 มิ.ย. 08, 13:51
แหม คุณโอมพูดเสียชักอยากดูแล้วค่ะ
...
กำลังจะไปถึงเรื่องannouncer หรือโฆษกพอดี เพราะเป็นส่วนสำคัญหนึ่งของการทำโพรดัคชั่น ก็มาทราบข่าวการเสียชีวิตของคุณอำรุง เกาไศยนันท์ ที่พวกคนโฆษณาเขาเรียกกันว่า คุณอาอำรุง
คุณอำรุง เป็นโฆษกขวัญใจของดิฉัน ตั้งแต่เริ่มทำโฆษณาใหม่ๆที่ฟาร์อีสท์ เสียงนุ่ม และมีพลัง อย่างไม่มีที่ติ อ่านภาษาไทยได้ถูกอักขระ เสียงเป็นแมนแท้ เหมาะกับสินค้าที่มีแคแรคเตอร์เช่น เป็นของอิมพอร์ด
เช่นสบู่ฟา
ฟา นี้ พี่เมาเขาคิดสโลแกนว่า ฟา สดชื่น
โฆษณาฟา จะมีโฆษกประจำ คือคุณอำรุง และได้ใช้คุณอำรุงกับโฆษณาอื่นๆอีกมากมาย รวมถึงการอ่านสารคดีด้วย มั่นใจได้เรื่องคำไทย แม้แต่ภาษาอังกฤษ คุณอำรุงก็จะออกเสียงได้ไม่ผิดเพี้ยน
โฆษกอื่น ระดับอาวุโสไล่เลี่ยกันก็มีคุณอุทัยเพียงคนเดียว คุณอุทัย ดิฉันมักใช้กับสินค้าบางประเภท
ทั้งสองท่าน มียุคทอง วิ่งรอกอ่านสป็อตกันได้รายได้เป็นกอบเป็นกำ ในค่าตัวแต่ละครั้ง เป็นประเพณีที่เอเจนซี่เสียภาษีให้


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 05 มิ.ย. 08, 14:09
ค่าตัวล่าสุดของคุณอำรุงไม่ทราบ แต่ครั้งหลังสุดที่ดิฉํนใช้อ่านสป็อต ๓๐ วินั้น ห้าพันบาท ถ้าเป็นงานสารคดี คิดตามความยาวของหน้า แต่คุณอำรุง ความที่ใช้บริการกันมานาน จะจ่ายเท่าไหร่ก็ได้เสมอ ยินดีพูดให้ และรับได้ทั้งเช็คและเงินสด
ห้องอัดเสียงที่ทำงานร่วมกันก็คือซีเนซาวด์ ประตูน้ำ ซึ่งอายุช่างที่อาวุโสที่สุด ก็ยังหลานๆคุณอำรุง
คุณอำรุงกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของการอ่านสารคดีเกี่ยวกับเจ้านาย พระราชกรณียกิจในช่วงสิบปีให้หลัง มากกว่าสป็อตโฆษณา
เป็นคนที่รักภรรยามาก ดูแลภรรยาซึ่งป่วยมานาน จนสิ้นชีวิตไป ทราบว่า ยังดูแลมารดาของภรรยาอีก
ไม่ทราบว่ามีโรคประจำตัว เป็นเบาหวานและความดันเลย
ครั้งหลังที่พบ ยังอารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส อ่านสป็อตด้วยความเป็นมืออาชีพชนิดสามเทคอยู่ พอใจทั้งผู้จ้างและผู้อ่าน
ไม่ทราบว่าวันหนึ่งขึ้นมา จะมีความกดดันขนาดนั้น
เสียดายความเป็นมืออาชีพของคุณอำรุงมาก และขอไว้อาลัยกับการจากไปของคุณอำรุง


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 07 มิ.ย. 08, 07:42
ภาพเขียนสามภาพที่เป็นแรงบันดาลใจในการทำหนังให้สถาบันการเงินแห่งนี้ของเรา เป็นภาพของจิตรกรชื่อดังสามท่าน คืออาจารย์สวัสดิ์ ตันติสุข คุณไทวิจิต พึ่งเกษมสมบูรณ์ และอาจารย์ปรีชา เถาทอง
ภาพของอาจารย์สวัสดิ์ คุณพ่อของอาจารย์ปริญญา เพื่อนคุณเอลวิสภู เป็นภาพแนวแอบแสตร็ค ชื่อว่า Flying birds
ของคุณไทวิจิต สีฟ้าสวยใสมาก แอ็บสแตร็คเช่นกัน เราตีความว่า ทะเล
และภาพของอาจารย์ปรีชา อยู่ในโทนไทยๆ แสงเงา
ทั้งหมดนี้ เราแปลงเป็นหนังค่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 07 มิ.ย. 08, 09:31
เขียนมาถึงตรงนี้ หลายท่านคงอยากชมภาพมาบ้างแล้ว ดิฉันไม่ทราบว่า ตั้งแต่สถาบันการเงินนี้ กลายมาเป็นธนาคาร ภาพของอาจารย์สวัสดิ์ท่าน ตอนนี้ ได้จัดแสดงหรือเปล่า เพราะน่าจะยังเป็นสมบัติของธนาคาร ไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของผู้บริหาร
ธนาคารนี้มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สาทรค่ะ
คงจะต้องไปลองหาชมดูเวลาว่างๆ
แต่จะเล่าเรื่องโลเคชั่นทั้งสามเรื่องค่ะ โดยเฉพาะเรื่องนกบินนี่ เราไปถ่ายกันถึงสวนน้ำที่จังหวัดทางภาคใต้ และเรื่องทะเล ซึ่งเราไปสิงกันที่เกาะหนึ่ง ในหมู่เกาะสิมิลัน
ทีมงานถ่ายทำคือ Colorbar โดยมีโพรดิวเซอร์ ชื่อคุณตุ๋ย นักเพลงรุ่นเดอะ ผู้กำกับก็เป็นเพื่อนรุ่นใกล้ๆของคุณเอลวิสภูและคุณพิพัฒน์ ชื่อคุณอ๋อย ซึ่งปักหลักทำงานให้มูลนิธิกระต่ายในดวงจันทร์ปัจจุบัน
...
สิมิลันไกลมาก และเกาะหนึ่งก็บริสุทธิ์เสียจนไม่มีคนอยู่ ต้องไปทำสุขาพิเศษ และเตรียมน้ำดื่มไปพร้อมกับพ่อครัวร่างยักษ์แต่ใจหญิง


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 08 มิ.ย. 08, 10:17
ทีมงานถ่ายทำของcolorbarมีตากล้องหนุ่มชื่อเล็ก หน้าตาเป็นอาตี๋น่ารัก มีความสามารถ แต่ที่น่าทึ่งที่สุด คือขาสวยมาก ผ่องแบบจีน เนียนประมาณนางงาม ใครๆว่าดิฉันขาสวยแล้ว  :o แต่เจอเล็กเข้า ก็อึ้งไปเหมือนกัน..
ทีมพ่อครัวใจหญิงนอกจากจะทำกับข้าวอร่อยไม่ยั้งแล้ว ยังกะลิ้มกะเหลี่ยจ้องเล็กตาเป็นมัน มีเรื่องให้เราเฮกันตลอด
ดิฉันมีต้นห้องหนึ่งคนคอยดูแล เมื่องานถ่ายทำเสร็จ เราจะนั่งเรือเล็กออกไปจากหาด ไปลงเรือใหญ่ที่ขนเสบียงและน้ำดื่ม เราอาบน้ำเคล้าแสงจันทร์กันบนเรือ โรแมนติคมาก
แต่คืนที่สอง ดิฉันทำแบบหนัง Out of Africa ให้ต้นห้องใส่น้ำในเหยือกสระผมกันที่มุมหนึ่งของเกาะ จะได้ไม่ต้องทรมานสังขารไปถึงบนเรือ เพื่อความเป็นส่วนตัว ฝ่ายหญิงเราจะใช้สุขาพิเศษมิดชิดที่โพรดัคชั่นเฮาส์จัดเตรียมให้ ธรรมชาติแวดล้อมงดงาม พวกคุณหนูทั้งหลายที่อยู่บนชักโครกทองคงต้องอิจฉา
บรรยากาศที่เกาะหนึ่ง มีปูเสฉวนเดนขวักไขว่จนชินตา แรกๆก็ตื่นเต้น
ที่สำคัญคือ มีไข่ที่เต่ามาไข่ไว้แล้วฝังกลบเต็มหาด


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 09 มิ.ย. 08, 11:49
เรื่องที่เราจะถ่าย เป็นช็อตเกี่ยวกับทะเล เราถึงเลือกที่จะไปอันดามัน ระหว่างที่หามุมกันสวิงสวายขนาดต้องปีนโขดหินบ้าง ปักกล้องบนปากเหวบ้าง ขณะที่คุณอ๋อยและคุณปู ผู้ที่ชีวิตทั้งชีวิตอยู่กับความสวยงามทำงานกันอย่างเพลิดเพลิน
คนขับรถตู้ที่ทีมงานว่าจ้างมาก็เริ่มทำลายธรรมชาติด้วยการเอาเกรียงของทีมงานมาขุดหาไข่เต่าอย่างเอาเป็นเอาตาย
ทีมงานเรานักอนุรักษ์ทั้งนั้น บางคนเป็นนักดำน้ำไม่ใช่เพื่อความสวยงามแต่เพื่อดำลงไปวางทุ่นให้เรือจอด จะได้ไม่ทำลายปะการังใต้น้ำ ขนาดหลายคนพูดอธิบายแล้วว่า กว่าเต่าจะวางไข่ได้ และกว่าเต่าจะโต คนที่เห็นแก่เงินมากกว่าการอนุรักษ์ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี
เราไม่เห็นหรอกว่า ที่ชายหาดอันเงียบสงบ ร้างมนุษย์ตามปกติ อย่างที่เกาะหนึ่ง เต่าตัวเมียที่ขึ้นมาตอนกลางคืน วางไข่ไว้ เช้าก็ลงทะเลไป ในช่วงที่เราถ่ายหนัง เต่าเหล่านี้ กลับขึ้นมา คงโชคร้ายหาไข่ไม่เจอ หรือที่ขึ้นมาวางไข่ใหม่ ก็ไม่มีโอกาสเกิด
คนขับรถรู้ว่า เขาจะสามารถขายไข่เต่าได้ในราคาสูงมาก
ไข่เต่ากลายเป็นอาหารพิเศษ เหมือนยาอายุวัฒนะของคนเมือง ก็เพราะมีคนคอยสรรอาหารให้ โดยไม่สนว่า การกระทำของตัวเองได้ทำร้ายวงจรของธรรมชาติในทะเลหมู่เกาะสิมิลัน
ดิฉันจึงกระซิบให้ทีมงาน เอาเกรียงไปซ่อนไว้อย่างดี


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: ภูมิ ที่ 09 มิ.ย. 08, 15:10
โลกกลมอีกแล้ว
เมื่อสามสี่ปีก่อนเคยโผล่ไปที่มูลนิธิกระต่ายในดวงจันทร์มาเหมือนกัน  ;)
แต่ตอนนี้จำใครไม่ได้แล้ว


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 09 มิ.ย. 08, 17:17
คุณภูมิคะ คุณอ๋อยไม่เคยออก น่าจะจำได้นะ
..
ดิฉันได้เล่าไปบ้างแล้วว่ามีต้นห้องหนึ่งคน สาวคนนี้เขาชื่อน้องไก่ คุณตุ๋ยส่งมาดูแลดิฉันในฐานะผู้หญิงคนเดียว หน้าที่หลักของเธอคือนอนเป็นเพื่อนในโรงแรมหรูเคลื่อนที่ของเรา ซึ่งก็คือเต๊นท์เดียวกันค่ะ
ดิฉันก็ตอบแทนด้วยการถูกปลุกกลางดึกมาเป็นเพื่อน เดินไปห้องน้ำกับเธอ ไม่รู้ใครดูแลใครกันแน่
น้องไก่ ไม่มีอะไรเสียหาย เพียงแต่บางขณะ ไม่ค่อยเข้าใจสถานะการณ์
วันถ่ายวันถัดมา คนขับรถ ก็ตั้งใจไปริมหาด ขุดทรายหาไข่เต่าอีกเช่นเคย แต่เนื่องจากอุปกรณ์ถูกนำไปซ่อนไว้ จึงไม่มีโอกาสขุดอีก
เขาถามหาเกรียงไปทั่ว โดยไม่รู้สึกว่า พวกเราไม่ต้องการให้เขาหารายได้วิธีนั้น
อาจจะรู้สึก แต่ทำไม่รู้ไม่ชี้
เหมือนเรา ที่รู้ว่าอยู่ไหน แต่ไม่บอก เพราะได้นำไปเก็บอย่างดี
พวกเราโล่งอกได้ไปหนึ่งวัน ไข่เต่าก็สงบอยู่ในที่ของเขา แต่แล้ว น้องไก่คนซื่อ(บื้อ) ก็ไปเจอเกรียงที่เราซ่อน เดินถือไปให้น้าคนนี้เฉยเลย ..
"น้าๆ นี่ไง ไก่เจอแล้ว"
จะบ้า..


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 10 มิ.ย. 08, 11:22
อีกโลเคชั่นหนึ่งที่ดิฉันกับทีมงานต้องไปถ่ายเรื่องนกบิน เราต้องปุเลงๆไปที่สงขลาค่ะ สวนนกอยู่ไม่ไกลวัดช้างไห้เท่าไหร่ เป็นบึงกว้างมาก มีนกมหาศาล ในการถ่ายระดับบินของนก ไม่ว่าเขาจะบินสูงบินโฉบ บินต่ำแค่ไหน พอเจอคนเข้า ก็หนีหมด
วันแรก ตื่นและออกจากที่พักที่หาดใหญ่ไปตั้งแต่เช้าตรู่ พอถึง ทีมงานใส่เสื้อลายพราง ทำตัวเป็นต้นไม้กลมกลืนกับบึง และกอสวะสุดฤทธิ์
ลงเรือลำเล็กๆ ลำละสองสามคน ตากล้อง กับผู้กำกับอยู่ด้วยกันลำหนึ่ง เงียบ สงบ ค่อยๆล่องลงไปจับภาพไป
ลำของดิฉัน พายห่างๆตามไป ไม่ได้เรื่องได้ราว ขึ้นบกดีกว่า ไปอยู่บนหอ สบายใจเฉิบ คอยลุ้นว่า ได้ไหม
ตากล้อง คือหนุ่มเล็ก กับคุณยาว ก็ช่วยกันถ่าย ขำจะตาย กว่าจะจับภาพได้ นกก็บินออกจากเลนส์ไปแล้ว..
ดีไม่ตกน้ำ
ถ่ายอะไรไม่ถ่าย ๆนก.. เฮ้อ
ต้องหาวิธีใหม่ เดี๋ยวจะเฉลยค่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 11 มิ.ย. 08, 13:04
อุปสรรคของการถ่ายทำในบึงยังคงดำเนินต่อไป ดิฉันอยู่บนหอ ริมบึง กับโพรดิวเซอร์และผู้ช่วย ดูนกโฉบไปโฉบมา เลยเสนอความคิดว่า ทำไมพวกเขาไม่มาตั้งกล้องบนนี้ล่ะเจ้าคะ เพราะน่าจะพอแล้ว กับวิธีการเดิม
ทั้งไกล นกไม่ตกใจ ดำเนินฃีวิตตามปกติ กำกับไม่ได้ ทั้งง่ายกว่า
เลือกใช้เลนส์เอา จะเทเล จะไวด์ แต่พวกเราอยู่นิ่งๆกับที่
ทีมงานก็ยอม พอพวกเขาย้ายมาทำงานบนหอดูนก ดิฉันก็แยกไปไหว้หลวงพ่อทวดอย่างสบายใจ เจ้าประคุ้น ขอให้งานสำเร็จด้วยเถิด...


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 11 มิ.ย. 08, 13:17
หนังอีกเรื่องหนึ่งซึ่งอยู่ในแคมเปญนี้ คือ แสง เงา เป็นภาพวัดราชบพิธ คอนเส็ปท์เดียวกัน ว่าแสงเงาเปลี่ยนแปลง มุมมองเปลี่ยนไป
เวลาผ่านไป...ปี  มุมมองของเรา(สถาบัน) คือความสำเร็จชองคุณ
..
ตอนนี้ทีมงานเขาขอไม่ไปถ่ายของจริงที่วัดแล้วค่ะ เพราะควบคุมแสงไม่ได้ ในฐานะที่คุณอ๋อยแกจบจิตรกรรมก็เลยเสนอว่า ทำฉากในสตูดิโอเป็นวัดราฃบพิธเสียเลย
วันที่ดิฉันเดินเข้าสตูดิโอ ต้องทึ่งค่ะ (ไม่ถึงกับอ้าปากค้าง เพราะเป็นกิริยาที่กุลสตรีไม่พึงทำ) เพราะได้เห็นมอคอัพที่จำลองบานประตูและผนังโบสถ์ได้งามจริงๆ และเมื่อเราเล่นกับการเดินทางของแสง ด้วยการจัดฝีมือคุณยาว เหลือรับประทานค่ะ สวยมาก
ไม่น่าแปลกใจที่เอเจนซี่เราที่เมืองนอก คัดหนังเรื่องนี้เข้าshowreel...
ต้องปรบมือให้ทีมงานของColorbar และทีมงานของเราทั้งทีม..
หนังสามเรื่อง ถ่ายฟิลม์16มม. ราคาพอสมควร ไม่กำไร แต่ได้กล่องเพียบค่ะ และทำให้colorbarได้งานดีๆจากอาร์ต ได เก่งๆอีกหลายคน รวมทั้ง แบรี่ โอเว่น
เป็นทีมงานที่ดิฉันชื่นฃมทีมหนึ่งเลยค่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 11 มิ.ย. 08, 15:24
มือเซียนเรื่องโลเคชั่น ดิฉันยกนิ้วให้คุณกระป๋อง ช่างภาพหนุ่มใหญ่ เห็นหน้านิ่งๆอย่างนี้ มีอารมณ์ขันแบบหน้าตายมาก และเก่งมากเรื่องถ่ายภาพ แบคกราวนด์จบช่างภาพมาโดยตรง บางงานก็เป็นโพรดิวเซอร์ บางงานก็เป็นตากล้อง ดิฉันเคยทำหนังหลายเรื่องที่คุณกระป๋อง เป็นโพรดิวเซอร์ และหาโลเคชั่นด้วย
คุณตุ๋ย คุณลำเนา คุณอ๋อย คุณกระป๋อง และคุณยาว หนุ่มๆที่ป่านนี้คงไม่หนุ่มนัก เติบโตมาจากบริษัทถ่ายหนังชื่อว่า A & A Networkค่ะ แยกย้ายกันไปคนละทิศละทาง ส่วนหนึ่งมาทำColorbar ส่วนคุณกระป๋อง ล่าสุดคือทำโลเคชั่นให้หนังไทย สบายไปแล้ว
หนังเรื่องหนึ่ง โฆษณาประกันภัย ที่เติบโตมานาน หลายสิบปี เราแก้โจทย์เป็นความผูกพันของพ่อกับลูก ที่ปกป้องคุ้มครองสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ลูกจำได้ ว่ารถพ่อไม่เคยเปลี่ยนตั้งแต่เขาอยู่ประถม มัธยม จนเข้ามหาลัย
คุณปูคิดสตอรี่บอร์ดเป็นฉากในรถ พ่อ กับลูก โลเคชั่นเป็นถนนเลียบเขาสวยๆแถวหล่มสัก เพชรบูรณ์ พ่อ สอนลูกชายให้ขับเดมเลอร์คันงาม เมื่อลูกเข้ามหาลัยได้  รางวัลคือกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ลูก
คุณกระป๋องไปควานหาโลเคชั่นที่ต้องไม่ใช่แค่สวย แต่สามารถถ่ายทำได้สะดวก เพราะขณะถ่ายจะต้องปิดถนนด้วย
เราได้โลเคชั่นที่ถ่ายภาพออกมาแล้ว สวยมากค่ะ คือส่วนหนึ่งของภูเขาในเพฃรบูรณ์ ที่อันซีนมากๆ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 12 มิ.ย. 08, 07:57
ที่อยากเขียนถึงคือภรรยาคุณป๋อง เป็นสาวเตรียมอุดม เรียนศิลป์คำนวณ แล้วมาจบนิเทศศาสตร์จุฬา เคยเป็นนางเอกละคร หน้าตาดี และพูดจาเพราะ ชื่อเหมือนนักร้อง อ้อย อัจฉรา เภกะนันทน์ อ้อยทำงานหลังกล้องด้วย ตัดต่อหนังกับดิฉันหลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเครือซิเมนต์ไทย เนสเปร เนสตุ้ม เป็บโซเด๊นท์ แป้งเด็กจอห์นสัน ฯลฯ
อ้อย เป็นตำนานหน้าหนึ่งของสาวโพรดัคชั่น เราไปทำโพสท์กันบ่อยที่ฮ่องกง กินนอนด้วยกันจ๊ะจ๋ากันไม่มีขัดคอ ชอปปิ้งกันทั่วเกาะฮ่องกงสนุกสนาน อ้อยเป็นคนที่หุ่นดีมาก ดูเหมือนเคยเป็นดรัมเมเยอร์สีอะไรสักสีที่เตรียมอุดมค่ะ
เวลาลองเสื้อ ใส่อะไรก็สวย แต่ชอบใส่เสื้อขาว นุ่งกางเกงยีนส์
อยู่กับน้าพัฒนานพอควร จนออกมาเป็นฟรีแลนซ์รับงานคู่กับสามีคือคุณกระป๋อง
ได้หนังจากดิฉันไปทำสม่ำเสมอ เป็นพวกโพรโมชั่น 15วิ ซึ่งเราไม่เคยห่วงเรื่องความสวยงาม ประณีต และราคาก็พูดกันง่าย ลูกค้าได้ประโยชน์ โดยเพื่อนก็ไม่ขาดทุน
ตอนหลังอ้อยมาเป็นโพรดิวเซอร์ ทำงานเป็นหลักเป็นแหล่งให้เอเจนซี่ ซึ่งดิฉันดีใจมาก เพราะเป็นคนมีรสนิยม มีประสบการณ์ และสำคัญคือฉลาด
คนบางคนมีครบสามอย่าง แต่อีโก้จัด ไม่อยากทำงานด้วยค่ะ
เพราะดิฉันก็เป็นคนแรงเหมือนกัน
แต่เราก็พูดตรงๆกัน ไม่มีใครเชื่อว่าสองสาวเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ไม่มีแครช จนกระทั่งวันหนึ่ง เราไปนั่งกินข้าวกันที่ไพซาโน กับเพื่อนๆ อ้อยลุกไปห้องน้ำ ไม่ได้เมาไวน์อะไร แต่มาบอกดิฉันว่า..
"คุณเชื่อไหม อ้อยเดินออกมาเห็นตัวเองนั่งกับคุณหละ"
...
หา..


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 17 มิ.ย. 08, 17:23
อ้อยพูดแปลกๆ จนดิฉันและอาร์ตไดที่ทำงานคู่กันงง เฮ้ยย.. พูดจริงเหรอ
..
แล้วไม่นาน เราก็รู้ว่า เพื่อนในวงการคนเก่งของเรา เป็นโรคลำไส้ชนิดแรง ขั้นไหนไม่กล้าเดา แต่ดิฉันขับรถนอกเส้นทางไปรพ.ภูมิพลบ่อยมาก อ้อยเป็นคนป่วยที่มีชีวิตชีวา เวลามีแรง ก็จะปั้นดินญี่ปุ่นเล่น ดิฉันพาหลานชายช่างพูดไปรพ.ด้วย หลานก็ช่างสร้างความเพลิดเพลินให้คุณยาย และคนไข้
พวกเพื่อนที่สนิทจะไปเยี่ยมกัน ดิฉันเป็นแขกประจำคนหนึ่ง แต่คนที่ดูแลเหมือนจะตายแทนกันได้ก็คือคุณแม่และคุณป๋อง
..
เป็นสาวนักโพสท์โพรดัคชั่นตัวฉกาจ การทำโพสท์ไม่ใช่แค่เรียงเทค เอามาต่อ มาตัด แต่ต้องวางโครงให้ได้ภายในสามสิบวิ ถามว่า ตัดตามสตอรี่บอร์ดสิ ไม่เห็นยาก มิใช่ค่ะ เวลาทำงานจริง ไม่ใช่อย่างนั้น
ทำเสียง และเลือกเพลงประกอบ ก็เป็นelementของหนังที่ช่วยส่งให้งานดี บางวัน เราอาจจะเซ็งชมัด ที่ฟุตเทจ ออกมาไม่ได้อย่างใจ แอ็คติ้งไม่ได้ แสงไม่สวย เทคไม่มีให้เลือกมาก หรือมีมากแต่ก็เห่ยๆในความรู้สึกเรา
วันไหนที่เราหดหู่ ไม่รู้จะตัดอะไร มันก็มีเหมือนกัน
แต่ดิฉันเป็นคนความรู้สึกไวค่ะ แค่โมเม้นท์เดียว ขอให้เห็นจึ๊กเดียว เช่น ตัวแสดงเด็ก ที่วันถ่ายเราต้องผจญกับความเหนื่อยยาก เพราะเด็กเกเร ร้องไห้ ไม่ยอมถ่าย ต้องหลอกแล้วหลอกอีก เกือบหมดหวัง พอดูฟุตเทจ เธอยกแก้วนมขึ้นดื่ม แว้บเดียว
มันก็มีความหมาย..
สมัยนั้น ไม่มีหรอก ทรานสเฟอร์ลงเทปก่อน แล้วไปทำออฟไลน์ ต้องตัดจากฟิลม์ ถี่ลอดตาช้าง ห่างลอดตาเล็นส์
ขายหนังลูกค้าเป็นดับเบิ้ลเฮด คลาสสิคมาก
แล้วไปมิกซ์ ทำเช็คพริ้นท์ ขายแบบสวยๆอีกครั้ง
เดียวนี้ ลงคอมไปเลย ดูจากจอทีวี เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์เท่าที่ออกอากาศ ลูกค้าเข้าใจง่าย
ชีวิตในห้องตัดหนังหายไป เป็นช่วงที่ถวิลหาเหมือนกัน
 


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 18 มิ.ย. 08, 07:20
งานทำเสียงหนัง แต่เดิม มีมือเก๋าชื่อคุณประเสริฐ ที่ว่าเก๋าวัดกันตรงไหนหรือคะ ก็ตรงความเนี้ยบของการซิงโครไนซ์เสียงให้ตรงกับปากไงล่ะ ไม่มีหลุดซักเฟรม หลังสุดที่ทำงานกัน คุณประเสริฐย้ายไปห้องบันทึกเสียงแถวฝั่งธน
สมัยหนึ่ง ที่นักพากย์ยังไม่เกิด นักโฆษณาจะนิยมใช้แค่คุณอุทัย กับคุณอำรุง หรือคุณธรรมศักดิ์ ทั้งสามท่านมืออาชีพ สองท่านหลังอัธยาศัยดีมาก ส่วนนักพากย์หญิง เราก็เลือกจากคุณนัยนา ภรรยาคุณธรรมศักดิ์ เสียงจะหวาน ใส คุณนันทวัน เสียงเย็น อ่อนโยน เป็นแม่ และคุณมาลี ผกาพันธ์ ที่เสียงเพราะมาก
นานๆทั คุณศิริพร วงศ์สวัสดิ์นักพากย์ช่องสี่ จึงจะมีเวลามาพากย์ให้
รุ่นรองลงไปฝ่ายหญิง มีน้องตุ๊กตา จินดานุช ซึ่งเล่นได้หลายอารมณ์ สารพัดแบบ คุณดวงดาว จารุจินดา ซึ่งเสียงมากับพรสวรรค์
รุ่นรองฝ่ายชาย ดิฉันให้ห้องเสียงเรียกคุณจักรพันธ์ ยมจินดามาลองเป็นผู้ประกาศ เนสกาแฟเอ็กซ์ตร้า เป็นครั้งแรกของเขา คุณจักรพันธ์เป็นคนอ่านข่าวช่องสาม ยังไม่ได้เป็นนักการเมือง จากนั้นก็เริ่มมีบรรดานักจัดรายการเพลงเข้ามา เช่นคุณราเชนทร์ คุณนเรศ หนุ่มๆรุ่นนี้รับทรัพย์จากการพากย์ ตอนนี้ถือว่าเป็นรุ่นพี่ไปเสียแล้วค่ะ
เขียนๆไป นึกหน้าได้ทุกคน แต่มีอีกท่านที่ดิฉันนึกชื่อไม่ออก คัมภีร์ผู้ประกาศนี่น่าจะเป็นคุณสำรวย ที่ซีเนซาวด์ค่ะ ถามหาใคร จำได้หมด


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 มิ.ย. 08, 10:04
ชอบคุณตุ๊กตา จินดานุช เมื่อพากย์เสียงเด็ก  น่ารักมากค่ะ
ตอนนี้เธอยังทำงานหลังกล้องอยู่หรือเปล่าไม่ทราบ 


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 18 มิ.ย. 08, 11:11
คุณตุ๊กตา พอเป็นสาวสวย หนุ่มๆนักโฆษณาเล็งๆกันอยู่ได้ไม่นาน ก็แต่งงานกับวิศวกรเสียงที่ซีเนซาวด์แหละค่ะ ป่านนี้ลูกโตแล้วมังคะ อาจารย์ เธอยังทำงานพากย์อยู่ค่ะ สามีเธอคุมห้องหนังอยู่ เป็นคนที่เก่งคนหนึ่งค่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 มิ.ย. 08, 12:22
คุณตุ๊กตา ดูเหมือนจะเล่นละครตั้งแต่เด็ก   เป็นดาราเด็กมาก่อนจะเติบโตเป็นสาว   เธอเคยเล่นละครเรื่องหนึ่งที่ทำจากนวนิยายของดิฉัน  จำไม่ได้แล้วว่าเรื่องอะไร เป็นเพื่อนนางเอก
เป็นสาวหน้าจิ้มลิ้มแบบไทยๆ    บุคลิกเรียบร้อย และดวงตาหวานเศร้า    ผ่านมานานสัก ๒๐ ปีแล้ว มีลูก ป่านนี้ลูกก็คงโตเป็นวัยรุ่นแล้วละค่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 18 มิ.ย. 08, 13:12
เวลาเราเขียนสป็อตที่ใช้แคแร็คเตอร์เด็กสาว ไม่ว่าจะใส หรือแก่น หรือเปรี้ยวเข็ดฟัน คุณตุ๊กตา จินดานุช จะเป็นขวัญใจที่ดิฉันบอกสเป็คไปว่าขอเป็นคนนี้นะ แล้วก็ไม่เคยผิดหวัง คุณตุ๊กตานอกจากจะเล่นได้สมบทบาทเกือบทุกเทค ยังเชื่อฟังการกกำกับของครีเอทีฟ ไม่ได้คิดว่า ฉันเก่ง ฉันมีประสบการณ์มากกว่า นี่คือคุณสมบัตินักแสดงที่ดี นอกจากนั้น กิริยามารยาทเรียบร้อยมาก สมกับความเป็นสตรีไทย
ฟังเสียงสป็อตสมัยนี้แล้วกลุ้ม มีอยู่ครั้ง ดิฉันไม่ได้คิดว่า ประโยคเดียวในสป็อตของดิฉัน ต้องใช้มือโปร จึงใช้น้องผู้หญิงในห้องอัดเสียง เธอก็มีประสบการณ์มาบ้างแล้ว ในบท จะแจ๋นนิดๆพองาม ไม่ถึงขั้นสิบเอ็ดรอดอ
อ่านไปแล้ว ลูกค้าบ่น คำควบกล้ำบางทีพอรัวๆแล้วหายเช่น กรม เป็นกม..
เซ็งเหมือนกัน
สป็อตหนึ่ง เป็นสป็อตการกุศล ที่เขียนให้องค์กรโรตารีสากล ในวันครบรอบอะไรสักอย่าง ต้องใช้ผู้ประกาศที่ยอมทำงานให้ฟรี ผู้ประกาศคนนี้ ชั่วโมงบินมากพอ เสียงดีมาก คล่องปรื๋อ แต่มาจอดตรงชื่อเจ้านายพระองค์หนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ของง่ายที่จะพูด
ท่านเป็นนายกสโมสรโรตารีท่านแรกค่ะ ต้องเอ่ยพระนามเพื่อเป็นตัวเอย่าง
กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน
คำควบกล้ำ กรมมะพระ กำ แพงเพชร อัคร โยธิน
ถ้าควบเกร็งๆ ก็กลายเป็นกรมมะพระ กรำ แพงเพร็ด อัคร โยธิน ในบางเทค เธอควบแหลก..
บางเทคกระดกลิ้นสลับ ควบไม่ได้ ก็ กรมพละ ไปเฉยเลย...


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 19 มิ.ย. 08, 08:52
โฆษกชายฝรั่งที่เมืองไทย มีหลายคน เนื่องจากดิฉันเป็นแฟนดีเจของ105 อย่างต่อเนื่อง จึงชอบริคกี้ วอห์นเป็นพิเศษ ริคกี้จัดเพลงสนุก เป็นฝรั่งที่มีอารมณ์ขัน และเป็นกันเอง แบบบรรลุสัจจธรรมขั้นพื้นฐานในการทำงานกับคนไทย ที่เขียนอังกฤษตามแบบแผนไทยกันเสียส่วนใหญ่
สมัยหนึ่งคนพูดฝรั่งได้แบบฝรั่ง เป็นของเก๋
เดี๋ยวนี้ คนพูดฝรั่งเต็มไปหมด ไม่ยาก ไม่ได้เท่แล้ว ยิ่งพวกผู้อ่านข่าวบางคนน้ำไหลไฟดับ ไม่เรียกว่าพูด เหมือนผีเจาะปากให้มาอวดภูมิภาษาอังกฤษสูงๆต่ำๆ ไม่มีเนื้อหาอันพึงประดับสติปัญญาติดมาให้คนฟังสักเท่าไหร่
ดิฉันเห็นทีไร รีบปิดช่องหนี
ริคกี้ เป็นอังกฤษ อ่านสป็อตเก่ง มีแก้วเสียง และโทนที่ดี สามารถปรับให้จริงจังได้แบบโฆษก และเล่นตลกก็ได้เหมือนกัน
ค่าตัวมาตรฐาน แต่ถ้าเป็นเพื่อนกันแล้ว ริคกี้ไม่เอาเปรียบ คุณมีงบแค่ไหน จ่ายได้ตามนั้น เดี๋ยวนี้ ออกจากวันโอไฟว์แล้ว
ย้ายไปอยู่ชลบุรี จะเรียกมาอัดที ก็ควรให้คุ้มค่าน้ำมันกันหน่อย



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 22 มิ.ย. 08, 22:13
ตัวแสดงที่เป็นเซเล็บบริตี้
สินค้าบางอย่าง อาจจะต้องขายด้วยไอเดียทางการตลาด ที่ครีเอทีฟตีโจทย์ออกมาหลายแง่มุม
เมื่อตีเสร็จ ทีนี้ก็มาหาแนวทาง ว่าจะหากลยุทธอะไรมาสื่อสิ่งที่ตีโจทย์ไว้
เมื่อแนวทางนำเสนอ ครีเอทีฟเลือกจะใช้ตัวแสดงมีชื่อเสียง เป็นตัวยืนยันคุณภาพของสินค้า
ลูกค้าเห็นด้วย เรียกง่ายๆว่า ใช้พรีเซ็นเตอร์
เราต้องเลือกพรีเซ็นเตอร์ให้เข้ากับสินค้า การเลือกมาแต่ละคน เราก็ต้องมีเหตุผลมาสนับสนุน ไม่ใช่ว่า ฃั้นฃอบตานี่ ชั้นจะเอาให้ได้ หากเหตุผลดี ลูกค้าก็จะเชื่อเรา เราถึงไปติดต่อ และช่วงเสนอ ก็ต้องมีตัวเลือกพอสมควร ไม่ใช่ยืนยันอยู่คนเดียว พอคนนั้นเกิดไม่เล่น จะด้วยสาเหตุเรื่องค่าตัว หรือเรื่องติดสัญญายังไงก็ตาม เราก็สามารถพลิกตัวได้ ไปเปลี่ยนเป็นคนที่สำรอง หรือเป็นทางเลือก
ดิฉันเจอเข้าตัวเองหลายปัญหาค่ะ แต่มันก็ผ่านไปได้
สมมุติกันดีกว่านะคะ ว่าเรามี ก.สินค้าแป้งหอม ข.ผ้าอนามัยแผ่นบางๆ ค.ผ้าอนามัยแบบมาตรฐาน ง.บอดี้โลชั่น และจ.ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของน้ำยาบ้วนปาก
มีพรีเซ็นเตอร์ให้เลือกคือ
๑ นางงามจักรวาล
๒ นางแบบหน้าสวยหุ่นดี
๓ ดาราภาพยนต์ฝ่ายหญิง
๔ นักร้องสาวดาวรุ่ง
๕ นักวิชาการระดับปริญญาเอก
๖ ผู้อ่านข่าวสาวทางโทรทัศน์
คุณจะเลือกใคร พรีเซนท์สินค้าดังกล่าวข้างบนคะ ลองดู ไม่มีถูกผิดค่ะ เหตุผลใครก็เป็นของคนนั้น


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 24 มิ.ย. 08, 11:13
ก่อนอื่นขอมาเสริมเรื่องพรีเซ็นเตอร์กันสักหน่อย
ตัวผลิตภัณฑ์สำคัญมากค่ะ ต้องพิจารณาก่อนอื่นว่า งบพอจ้างไหม และจ้างได้แค่ไหน ค่าตัวคุณเธอหรือคุณๆทั้งหลายสักเท่าไหร่
ยกตัวอย่าง
นักชิมท่านหนึ่ง ครีเอทีฟสาบานกับตัวเองว่า จะไม่มีวันเลือกคนๆนี้มาเสนอลูกค้าเป็นอันขาด นอกจากจะโหล และนิสัยขี้วีน เจ้ายศเจ้าอย่าง ชอบให้คนพินอบพิเทา ขี้หลี ฯลฯแล้ว ยังไม่เคยรับฟังความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่อีก
แต่วันดีคืนร้ายย่อมมาถึง ลูกค้ามาบอกอย่างกระตือรือล้นว่า ผมสนิทกับเค้า ค่าตัวเท่าไหร่คุณไม่ต้องแคร์ ผมจ่ายเอง
ครีเอทีฟเกือบเอาหัวโขกเสาที่จอดรถตึกหวั่งหลีตายให้รู้แล้วรู้รอด
อ้าปากจะแย้งว่า ภาพพจน์เขาแย่มากนะเคอะ ชิมแหลก ชมสะบั้น ยังมีความน่าเชื่อถือเหลืออยู่อีกเหรอ
ฮึ่มๆๆๆ ลูกค้าหน้าเช้ย.. เฉย
บอกว่า
คนอื่นๆมันก็เหมือนกันแหละ รื้อคุณคิดว่า คุณมีคนใหม่ที่ดีกว่า
..
บ๊ะ เงินของตรูที่ไหน เสนอไปก็เท่านั้น กล้ำกลืนเอาคนของลูกค้ามิดีกว่าหรือ นั่น เจ้านายมองหน้าเหมือนจะส่งสัญญาณว่า คุณเอ๊ย รับๆเค้าไปเถอะว่ะ ผลิตภัณฑ์ของเค้า ไม่ใช่ของเร้า...     


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 24 มิ.ย. 08, 21:35
มีสินค้าตัวหนึ่งค่ะ ที่เป็นเครื่องดื่มบำรุงกำลัง ตอนนั้น อย.เขาไม่ให้ใช้แล้ว คำนี้ เพราะคำว่าบำรุงทั้งหลายทั้งปวงน่ะ ใช้ไม่ได้ อย.บอกว่า ไม่เห็นจะมีหลักฐานชัดเจนว่าบำรุงจริง ไมโล โอวัลติน ต้องใช้คำว่าพลังงานเท่านั้น
โอ้มายก๊อด พลังงานน่ะ แสนจะกว้าง
น้ำมันพืชก็พลังงาน น้ำมันเชื้อเพลิงก็พลังงาน
แต่เรื่องเถียงกับอย. เป็นสิ่งที่ไม่เคยชนะหรอก ดิฉันเคยส่งสคริปท์น้ำมันพืชยี่ห้อหนึ่ง ไม่มีคอเลสตอรอล เขาไม่อนุมัติ อีกไม่นาน เขาก็ให้อีกแบรนด์เฉยเลย
ลูกค้าต้องกระอัก
ครีเอทีฟร้องเหวอ
เครื่องดื่มบำรุงกำลัง ดิฉันหมายถึง ที่ชายไทยชอบดื่มกันไงคะ เพราะเชื่อว่า ดื่มแล้ว จะทำงานโดยเฉพาะขับรถบรรทุกได้ในเวลานานๆ
มีไม่กี่แบรนด์ค่ะ ตอนนั้น ทั้งกระ..แดง และ ลิ..ดี
แต่แบรนด์นี้ เป็นแบรนด์ที่ผลิตโดยบริษัทน้ำดำบริษัทหนึ่ง จะใครก็ไม่ใช่ประเด็นที่จะเล่า อย่าไปสนใจค่ะ เราต้องหาพรีเซ็นเตอร์ มาเล่นหนังเรา
ต้องกำยำ ล่ำสัน แมน
และต้องเป็นคนที่ตลาดลูกทุ่งนิยมค่ะ
ตอนนั้น จะมีใครดีไปกว่า พระเอกหนังไทยเลือดอยุธยา คุณสรพงษ์ ชาตรี ซึ่งช่วงเวลานั้น มีหนังเล่นลดลงแล้ว เพราะดารารุ่นใหม่กำลังก้าวขึ้นมา
่ขอโทษค่ะ แม้มจ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ท่านสนับสนุน แต่คุณสรพงษ์ ไม่เล่น!
 


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 25 มิ.ย. 08, 23:38
คุณปุ๋ย ภรณ์ทิพย์นางงามจักรวาลชาวไทยที่ไปเติบโตอเมริกา มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้าตัวหนึ่ง เพราะยุคนั้น คุณปุ๋ยโฆษณาอะไร ของก็ขายได้ เธอเป็นขวัญใจคนไทยคนหนึ่ง
นางงามส่วนใหญ่ที่ฮ็อทๆ หรือได้ตำแหน่งใหม่ๆ จะถูกครีมนวดซันซิลจับไปโฆษณากันหมดเพราะเงินถึง ผู้ที่ทำหน้าที่castingของเอเจนซี่ต้องเก่ง สามารถเรียกตัวนางงามและดารามาได้เสมอ
โมเดลลิ่งเด่นๆยุคนั้นก็มีหมู มีจิ๋ม  แต่คุณปุ๋ยนี่ก็อีกหละ ลูกค้าดิฉันคือคุณสวัสดิ์ มหามงคล สนิทกับน้าตุ๊กอมรรัตน์มาก น้าตุ๊กสนิทกับคุณซ่อนกลิ่น คุณแม่คุณปุ๋ย เราจึงได้เธอมาเป็นพรีเซ็นเตอร์
มีหนังสองเรื่องที่คุณปุ๋ยแสดง เรื่องหนึ่งธอต้องเต้นรำ ใส่กระโปรง โชว์หุ่นและขาเพรียว เต้นตามเพลง ดิฉันให้คุณอารีย์ สหเวชภัณฑ์มาเป็นผู้ฝึกซ้อมเธอค่ะเรื่องเต้น และอีกเรื่องหนึ่ง เป็นการพูดกับกล้อง ด้วยไดอาล็อกไทยล้วน แทนที่จะให้เธอไปพากย์เสียงทีหลัง เราถ่ายซิงโครไนซ์ค่ะ
อัดสดๆกันเลย
ทั้งที่คุณปุ๋ยพูดไทยไม่เก่ง ติดสำเนียงฝะรั้ง ฝะหรั่ง..
ทำไงดี


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 26 มิ.ย. 08, 06:43
ดร.ชาย ดุรงค์เดช เป็นนักสาธารณสุข จบพีเอชดีทางด้านนี้ บุคลิกเวลาใส่สูทดูน่าเชื่อถือ เวลายิ้ม ฟันเรียงกันสวยมาก ลูกค้าคือคุณกรรณิการ์ ชลิตอาภรณ์ นายใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ปัจจุบัน ตอนนั้นอยู่ลีเวอร์ คุมแผนก personal products เลือกมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ของยาสีฟันยี่ห้อเปปโซเดนท์
ดร.ชาย ตัวสูงใหญ่ หน้าตาดี แสดงหนังเรื่องแรกตอนที่เปปโซเดนท์ออกสู่ตลาดได้ไม่ทันเท่าไหร่ ดิฉันก็เข้าไปรับผิดชอบผลิตภัณฑ์นี้พอดี ได้อ่านผลการวิจัยซึ่งมีทั้งดีทั้งไม่ดี มีคอมเมนท์ว่าดร.ชายพูดไม่ชัดมากเหมือนกัน
แต่เท่าที่สังเกตเอง เธอจะแข็งๆ ยังพูดเหมือนท่องบท
หนังเรื่องแรก เอเจนซี่ขึ้นซูเปอร์เพียงชื่อของดร.ชาย ไม่ได้บอกว่าเป็นหมอ หรือเป็นผู้มีอาชีพด้านไหน
ไม่ได้ให้ดร.ชายใส่เสื้อกาวน์ของหมอ
แต่ให้คนดูคิดกันเอาเองว่า คนที่มีคำว่าดร.นำหน้า ใส่สูท มาให้คำยืนยันในการใช้เปปโซเดนท์ควรจะน่าเชื่อถือเพียงไร
ดร.ชาย ท่านชื่อเต็มๆก่อนหน้านั้นว่า ดร.สมชาย แต่เอเจนซี่กับลูกค้าเห็นพ้องต้องกันว่า ขืนให้ชื่อสมชาย ความเท่มันจะหายไปครึ่งหนึ่งค่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 27 มิ.ย. 08, 23:18
พรีเซ็นเตอร์ทั้งสองท่าน มีเวลาไม่นานที่จะพูดไทยให้ชัด เพราะในการถ่ายทำ เราอัดเสียงจริง เวลากล้องเดิน กองถ่ายทั้งกองต้องเงียบสนิท เมื่อผู้กำกับสั่งแอ๊คชั่น คนตีเสลทดังปั้ง เทปก็เดินแล้ว  พูดผิดก็ต้องพูดใหม่
ดิฉันปรับสำเนียงคุณปุ๋ยให้ไทยเปรี๊ยะได้ไม่ยาก เพราะเธอเป็นคนที่เรียนรู้ไวมาก ยอมรับเลยว่าเป็นอัจฉริยะทางด้านการนำเสนอ แต่มีอยู่คำหนึ่งค่ะ ที่เธอจะพูดเพี้ยน คือคำว่าปุ๋ยภูมิใจที่ใช้...
ปุ๋ยเธอก็ พุ้มใจอยู่นั่นหละ
คำนี้ยากำหรับเธอค่ะ
ทำไงดี


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 27 มิ.ย. 08, 23:46
มาลงชื่อว่าอ่านครับ

ชอบมากเลย เอาของจริงมาเล่าจริงๆ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 28 มิ.ย. 08, 08:13
ขอบคุณค่ะ คุณพพ.
...................
ฉากตอนนั้น คุณปุ๋ย จะนั่งอยู่ที่เปียโน หันมาพูดกับกล้อง ดิฉันในฐานะครีเอทีฟสาว เป็นคนกำกับภาษา ขืนให้เธอพูดยาวทั้งสคริปท์ แล้วกล้องเดินต่อเนื่อง คงไม่สำเร็จ ต้องเบรคไปทีละประโยค โดยกล้องก็คัท แล้วเปลี่ยนมุม เปลี่ยนขนาดของภาพ ไม่ให้โดด ไม่ให้รู้สึก นิ่มๆ
ระหว่างนั้น คุณซ่อนกลิ่นนั่งดูอยู่ตลอด ส่งสายตาให้กำลังใจ คุณซ่อนกลิ่นเป็นสาวไทยอีกยุคหนึ่ง อ่อนโยน สุภาพ เรียบร้อยมาก น้าตุ๊กมานั่งด้วย ส่วนคุณสวัสดิ์ ก็ประกบน้าตุ๊ก
น้าพัฒน์ เจ้าของP&Cอมยิ้ม ทุกคนในกองถ่ายเอ็นดูคุณปุ๋ย
ดิฉันจะปล่อยคำว่า ปุ๋ยพุ้มใจจริงๆค่ะ ออกไป อาจจะได้ผล คนพูดพุ้มใจ พุ้มใจ เป็นtalk of the town กันทั้งเมือง
ทำให้หนังยิ่งดังระเบิด
แต่จะดีกับสังคมไทยไหมล่ะคะ
..


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 29 มิ.ย. 08, 23:37
ดิฉันเลยบอกคุณปุ๋ยไปว่า ภูมิใจน่ะสำเนียงเดียวกับชื่อของพระเจ้าแผ่นดินเราซึ่งคุณไม่สามารถจะออกเสียงผิดได้เลย
แล้วปุ๋ยก็ออกเสียงตาม จากชื่อคิงภูมิพล เป็นคำว่าภูมิใจ สองสามครั้ง
คราวนี้ไม่พลาด คุณปุ๋ยซ้อมกับกล้อง
น้าพัฒน์รู้แกว สั่งว่า"ซ้อม
กล้อง..เดิน
เสียง..ไป..."
ปรากฎว่ายิงจริงไปเลย..
ออกมา....
แจ๋ว!!


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 30 มิ.ย. 08, 09:39
ส่วนดร.ชาย หลังจากออกอากาศหนังเรื่องแรกไป เราก็ตามด้วยหนังอีกสองเรื่องภายในไม่กี่เดือน ดร.ชายหนึ่งเรื่องพูดถึงเรื่องฟลูออไรด์ในยาสีฟัน แบบนักวิชาการพูด และเรื่องที่สอง เป็นเรื่องของหลอดล้วนๆ นวัตกรรมการผลิตยาสีฟันแล้วบรรจุหลอดแบบใหม่ ไม่ยับยู่ยี่ เนื้อยาไม่มีคราบดำตรงหัวหลอด เป็นจุดขายสำคัญของการออกสินค้าใหม่
มันน่าลองมากค่ะ
ทฤษฎีการตลาดของใครใหญ่แค่ไหน มาในมือคุณวิโรจน์กับเจ๊กรรณิการ์แล้ว เสร็จทุกราย
ยอดขายสินค้าใหม่พุ่งปรี๊ดค่ะ
เดี๋ยวนี้เปปโซเดนท์กลับบ้านเก่าไปเสียแล้ว เพราะเหตุผลหลายๆอย่าง
แต่ตอนนั้น จากสามเปอร์เซนต์ของตลาด เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นแปด และอยู่ในความนิยมภายในเวลาสองปี ตัวเลขหลังจากนั้นไม่ทราบ เพราะมีอันต้องจรไปทำสินค้าอื่นเนื่องจากรบราในศึกยาสีฟันจนสมองเมื่อยค่ะ
ดร.ชาย ทำงานเป็นทีมกับดิฉันดีมาตลอด คนถ่ายก็คนเดิมคือน้าพัฒน์ เราปรับภาษาไทยที่ไม่แข็งแรง เป็นชัดเจน มีควบกล้ำ มีร.เรือ ล.ลิง แต่ไม่เว่อ คนจบระดับปริญญาเอกจะสู้นางงามจักรวาลไม่ได้ให้มันรู้ไปสิคะ
นอกจากนั้น จากบุคลิกแข็งๆแบบไม่คุ้นเคยกล้อง ดร.ชายก็ไม่เกร็ง สามารถคงบุคลิกที่น่าเชื่อถือไว้ ในขณะที่ มีรอยยิ้มสะอาดๆมากขึ้น มีการเดิน มีการสื่อสารกับคนดู ไม่ใช่แบบตรูพูดกับใครก็ไม่รู้
นี่เป็นศิลปะการสื่อสารค่ะ ที่ถ้านักการเมืองทั้งหลายใช้เป็น มันจะส่งพลังเหลือเชื่อเลย



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 30 มิ.ย. 08, 09:47
 :) เขียนถึงพรีเซ็นเตอร์อีกคนดีไหม
คุณกบ ปภัสรา ชุตานุพงษ์ค่ะ
คุณกบ เพิ่งได้ตำแหน่งนางงาม มิสไทยแลนด์เวิร์ลด์(หรือเปล่า)ของช่องสามมาหมาดๆ หน้าหวานมาก ยิ้มเก่ง และค่าตัวของเธออยู่ในเกณฑ์ที่ลูกค้ารับได้ หลังจากทำการคาสต์ตัว ลูกค้าก็ชอบ
ส่วนพระเอก เราได้ดาราทีวีฮ่องกงมา หน้าเป็นลูกครึ่งฝรั่ง หล่อมาก
สินค้าเป็นชาจีนใส่ถุงสำเร็จ แบบลิปตัน แต่เราเรียกว่าRickshawเป็นตรารถลาก หรือรถเจ๊กน่ะเอง
ลีเวอร์ ศึกษาตลาดชาจีนผงและกระป๋องของไทย คนไทยส่วนใหญ่จะเจอแต่ชาจีนที่ดื่มสืบทอดกันมา ชาจีนบางตรา มีเชื้อรา และเป็นเศษๆชา ไม่สามารถคงกลิ่นได้เลย
ลีเวอร์ขายชาลิปตันทั้งที ทำชาจีนออกตลาดบ้างดีกว่า
คราวนี้ไม่ใช่แบบผง ลอย จะกินต้องเขี่ยๆ และเหลือกากชาไว้ในถ้วย ลำบาก ไม่ทันสมัยเสียเลย
บรรจุซอง สะดวก ถูกอนามัย คัดพันธุ์ชามาอย่างดีดีกว่า


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 07 ก.ค. 08, 13:51
ทีมถ่ายทำ ก็คุณน้าพัฒน์อีกหละค่ะ ลูกค้าเป็นสาวบุคลิกดี จบหมาดๆ ชื่อคุณนก ปัจจุบันเธอน่าจะยังอยู่ที่ลีเวอร์ คุณกบเธอเล่นได้ดี แบบสั่งได้ เสน่ห์คุณกบเธอคือยิ้มหวานแบบนางงามเชียะๆ ส่วนพระเอกก็หล่อ ทั้งครีเอทีฟสาวและลูกค้าสาวแอบกรี๊ดในใจ
น่าเสียดายที่ชาถุง งบโฆษณาน้อย แม้จะมีการเลือกสรรสื่อดีปานใด ลีเวอร์ ยุคนั้น ยังเป็นยุคของสินค้าจำเป็นประจำวันในบ้าน และชาถุงก็ยังอยู่ในวัยเตาะแตะ คุณยงยุทธ ทวีกุลวัฒน์ เป็นผู้ปลุกปล้ำกับลีเวอร์สายอาหาร ซึ่งมีทั้งชา น้ำมันพืช และไอศกรีม
ของเข้าปากงบกลับน้อย แต่สำหรับบรีส ยาสีฟัน แชมพู งบถล่มโลกได้เลยตอนนั้น อย่างว่านะคะ เราเขียนเรื่องเก่าๆ ไม่เก่าไม่แตะ
เดี๋ยวนี้ ลีเวอร์ยังขายกระทั่งเครื่องสำอาง

ทางด้านการตลาด ชาริคชอว์ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างไรไม่ทราบ วันก่อน ดิฉันไปสิงคโปร์ คนยังพูดกันถึงชาแบรนด์นี้กันอยู่เลย
เดี๋ยวนี้ ออฟฟิศเขาก็เสิฟชาจีนกัน คู่กับชาฝรั่ง และชาเขียวเป็นล่ำเป็นสัน
ยังคิดอยู่เลยว่า ถ้าสมัยนั้น ลีเวอร์ทุมทุนสร้างแบบที่คุณโออิชิแกทุ่มแบบชาเขียวปัจจุบัน แบรนด์ริคชอว์ คงไม่หายไปจากความทรงจำ..
น่าเสียดาย



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 07 ก.ค. 08, 23:24
กรุเรื่องเก่านี่ แทนที่จะทำให้ดิฉันรู้สึกว่าตัวเองแก่ชรา กลับทำให้ความทรงจำต่างๆกลับคืนมา
คนเอเจนซี่มีชีวิต และวิญญาณของการแข่งขัน เดดไลน์ ความเป็นเลิศ มิตรภาพ เหมือนอาชีพอื่นๆ
แต่ก็มีรสชาติทางเทคนิคที่ไม่เหมือนใคร
มีอีกหลายฉากในวงการที่เดาจุดจบไม่ออก
ทั้งเหมือน และไม่เหมือนละคร
น้ำดี หรือบางทีก็เน่าตุๆ แย่งชิง ห้ำหั่น แบบลอกสามก๊กมาเลย
ซึ่งในที่สุด ก็ไม่รู้ใครเป็นใคร ต่างไปเลียแผลเลือดซิบๆกันคนละแบบหากถูกลูกค้าเชือด
แต่วันรุ่งขึ้น ก็จะเดินหน้าชื่นเข้าประตู เหมือนไม่มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นเมื่อวาน
..ดิฉันยังคิดถึงวันเก่าๆเหล่านั้นเสมอ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 12 ก.ค. 08, 22:30
และเมื่อได้พบกับเพื่อนเก่าๆที่เคยร่วมงานกัน เราก็จะพูดถึงประบการณ์สนุกๆด้วยกันเรื่องการถ่ายทำ
เช่น เพื่อนตากล้องของดิฉันที่ชื่อคุณยนต์
คุณยนต์ เป็นแฮนดี้แมนของดิฉัน เราออกกองถ่ายด้วยกันบ่อยสมัยหนึ่ง เห็นหน้าตาเข้มเป็นหนุ่มปักษ์ใต้ แต่จริงๆเป็นคนเหนือค่ะ
"นึกถึงตอนถ่ายหนัง มีอะไรที่คุณจำได้ไม่ลืมบ้างคะ หมายถึงความสาหัสของงานนะ"
"จำได้เป็นภาคๆครับ"
เขาว่า แล้วก็เริ่มเล่าว่า ในหนังสิงห์เรื่องหนึ่ง ต้องถ่ายฉากเล่นวินเซิฟ เขาต้องขึ้นพาราเซล ไปถ่ายบนอากาศ ในตัวมีทั้งแบต กล้อง วิทยุ หนักอึ้ง แล้วเกิดอุบัติเหตุ ตกลงมากระแทกทรายซึ่งเอียงๆ ขาหัก!!!!
But the show must go on!
เนื่องจากมันเป็นเกาะเสม็ด ห่างไกลโรงพยาบาล ก็ต้องลุกขึ้นมาถ่ายต่อจนไม่ไหว โดยการยกขาขึ้นตรึงไว้บนที่สูง ลูกน้องประคอง
ผู้กำกับขึ้นไปแทนอีกกล้องหนึ่ง ผู้กำกับก็ตกลงมาเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไร
เลนส์เป็นแทน ตกน้ำ เสียหายเป็นแสน
เสร็จงาน ถึงจะหอบกันเข้าฝั่งไปโรงพยาบาล ทำแผล ใส่เฝือก แต่ไม่ได้พักนะคะ ไปถ่ายต่อที่หัวหินแทน
เฮ้อ เหลือเชื่อ ปรากฎว่า ใส่เฝือกถ่าย มันก็คันมาก เลยสั่งลูกน้องผ่าเฝือก แบะครึ่ง ยกขาสูงเหมือนเดิม จบแล้วก็ประกบเฝือกเข้ากันใหม่ แล้วไปโรงพยาบาลใหม่ ทำอย่างนี้ สิริรวมสี่ครั้ง


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 16 ก.ค. 08, 07:03
ปกติ การสร้างช็อตที่เรียกว่าเฮลิคอปเตอร์ หรือ เอเรียลช็อตน่ะ ต้องมีเงินติดกระเป๋าพอสมควร และควรจะเหมาะกับคอนเส็ปท์ที่คิดด้วย ไม่ใช่ว่าจู่ๆ หนังเรื่องนี้ ชั้นอยากมีช็อตจากฮ มันเท่ดี
ทุกอย่างรับและสอดคล้องกัน จึงจะทำ
หนังเรื่องหนึ่งที่อาศัยคุณยนต์ขึ้นฮ ไปสองต่อสองกับนักบินและผู้ช่วยก็คือเรื่องเหยี่ยวค่ะ
เป็นหนังของมือถือยี่ห้อที่ทำในเนเธอร์แลนด์
กล้องจะต้องแทนสายตาเหยี่ยว และฮ ก็จะต้องบินโฉบในทะเล และภูเขา เราจะมาใส่เงาเหยี่ยวในน้ำทะเลและหน้าผา เมื่อทำโพสท์
คุณยนต์ต้องขึ้นไปถ่าย และเก็บภาพให้ได้ในเวลาไม่ถึงชัวโมง
เพราะอะไรหรือคะ น้ำมันเชื้อเพลิงเต็มถังจะบินได้เต็มที่แค่นั้นค่ะ
คุณยนต์เครียดมาก


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 16 ก.ค. 08, 07:10
เมื่อน้าพัฒน์ถาม คุณกุ้งแห้งเยอรมันจะขึ้นไปด้วยไหมครับ ดิฉันยิ้ม ปฏิเสธ ปัทโธ่ ลองใจหรือไงน้า ขึ้นฮเล็กๆ ไม่รับประทานหรอกค่ะ ทั้งเสียวทั้งเครียด ดีไม่ดีจะทำให้ตากล้องเครียดหนักเข้าไปใหญ่
เชื่อมือเขา ไม่ไปด้วยหรอก
คุณยนต์เล่าว่า ในความเครียด ก็ต้องตั้งใจเก็บภาพให้ได้ และก็ทำสำเร็จในเวลาที่จำกัด ถ้าต้องซ่อม เที่ยวหนึ่งก็แสนนึง มันหมายถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นด้วย
พอถึงที่หมาย ฮ ก็ค่อยๆลง สักครู่ นักบินเดินมาตบไหล่คุณยนต์ แล้วพูดเบาๆพอได้ยินกันสองคนว่า
ยนต์ คุณรู้ไหม ว่าตอนเราเอาเครื่องลงน่ะ น้ำมันหมดแล้วนะ
..อะจึ๋ย์


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 16 ก.ค. 08, 22:46
คุณอาร์ตไดคู่ใจดิฉัน รำลึกขึ้นมาได้ทันทีเมื่อได้ยินเรื่องนี้ ว่าเขาเองหละ ที่ไปเซอร์เวย์โลเคชั่นกับคุณยนต์
"ยนต์เป็นคนขับครับ ผมขึ้นไปด้วย เราใช้เครื่องที่เรียกว่าแมงปอ"
คุณยนต์น่ะ ไปเรียนบินมากับเขาเหมือนกัน จึงหาญกล้าบินเอง โดยมีคุณครูกำกับอยู่เบื้องล่าง
"เราเลือกบินที่เกาะเสม็ด .. ."
อ้อ ดิฉันคลับคล้ายคลับคลาแล้วว่า ตอนนั้น เขากลับมาเล่าถึงความเสียวไม่หาย ทั้งไฟล์ทสำรวจและไฟล์ทถ่ายจริง


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 17 ก.ค. 08, 15:52
การบินด้วยฮ เพื่อถ่ายทำ จริงๆเราต้องการมุมสูงมาก เพื่อแทนสายตาของเหยี่ยวได้อย่างกว้างไกล ไร้ขอบเขต ตั้งแต่เมือง ออกไปชนบท ไล่ไปจนถึงชายหาด ออกไปสู่ทะเล และเกาะแก่ง ข้อควรระวังของตากล้องคือ ภาพจะสั่น เพราะฮ มันก็สั่นด้วย จะควบคุมอย่างไรดี
เป็นคนอื่นก็ต้องใช้เงิน
แต่คนนี้ คุณตากล้องเขามีหัวประดิดประดอย จึงสร้างแกนขึ้นมา เม้าท์ติดกับบางส่วนของเครื่องบิน เพื่อควบคุม
อย่างไรก็ตามบางมุม เวลาใช้จริง ก็ต้องโผล่หน้าออกจากฮ ไปทั้งตัว
คุณอาร์ตไดนี่หละค่ะ ใช้วิธีกอด ยึดตัวคุณตากล้องไว้
โอ้โฮ เสี่ยงตายกันจัง..
ที่จริง ถ้าเป็นหนังราชการ งบน้ำมัน งบนักบิน จะบินสักสองรอบก็ได้ แต่นี่เอกชนค่ะ บินได้เที่ยวเดียวก็กระเป๋าฉีก ต้องทำงานแข่งกับเวลา
ต้องใช้สติปัญญา


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 17 ก.ค. 08, 19:57
ก็คุณยนต์อีกน่ะแหละที่เล่าเรื่องนี้ เป็นอุทาหรณ์สำหรับแฟนๆเรือนไทยที่อยากจบไปเป็นนักโฆษณา
(คิดผิดคิดใหม่ได้นะคะ)
เจอฝรั่งดื่มเบียร์ไทยรุ่นเดอะทีไร จะบ่นหาเบียร์ขวดเขียวที่อร่อยสุดๆ ก็คลอสเตอร์ไงคะ
สโลแกน Happiness you can drink อันมาจากความคิดของจอห์น แมคเคนซี่
หรือที่ภาษาไทยฝีมือคุณเฉลิมบอกว่า ความสุขที่คุณดื่มได้
ตอนนั้น คุณยนต์ เป็นตากล้อง เข้าไปถ่ายโฆษณาให้เบียร์ไทยตราสิงห์ โลเคชั่นที่ไหนจะเจ๋งเป้งเท่าไร่บุญรอดล่ะ
ในทุ่งซึ่งสวยงาม ท่ามกลางยอดข้าวบาร์เลย์อันเป็นสีน้ำตาลทองพลิ้ว โรแมนติคกลางแดดใสแสบหัว
กองถ่ายสู้ความร้อนไม่ไหว
"เอ้า เฮ้ย ไปเอาร่มใหญ่มากางซิ "
เสียงสั่งลูกน้องดังลั่น ลูกน้องก็วิ่งไปที่รถ คว้าร่มประจำกองที่ติดไปทุกที่ ทุกเวลา วิ่งมาที่จุดถ่ายทำของทีมงาน
กางพรึบ..
โอ้โฮ ร่มดีแท้ ไม่ร้อน ลงมือถ่ายได้
แต่แล้ว.. คุณพระช่วย


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 17 ก.ค. 08, 20:02
ขอโทษ ร่มนี้ สีเขียวค่ะ ไม่ใช่เขียวไมโล เขียวใกล้ชิด แต่เป็นเขียวค้อสสะเต้อ!!!
หาาาา!
ตากล้อง ประสานเสียงกับผู้กำกับร้องเสียงหลง
"เฮ้ยยยย..ไอ้ใครวะ มันมากางร่มค้อสสะเตอร์ในไร่บุญรอด"


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 17 ก.ค. 08, 22:06
 :o :o >:( >:(
ความผิดครั้งนี้ ถือว่าอุกฤษณ์มากในวงการ
โชคเป็นของทีมงานที่เทวดาช่วยให้รู้ตัวเสียก่อนที่ลูกค้าจะมาเห็น
..
เหมือนกองถ่าย กำลังถ่ายโค้ก แต่แม่บ้านไม่รู้อิโหน่อิเหน่เสิฟเป็ปซี่ ให้เอเจนซี่หรือลูกค้า
ตายลูกเดียวค่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 18 ก.ค. 08, 08:52
เด็กๆ เราโตมากับสโลแกนว่าเป็ปซี่ดีที่สุด และในช่วงทำโฆษณา เป็ปซี่ไทย ก็ยิ่งใหญ่ มีหนังที่โด่งดังชุดศิลปิน ที่คุณอัญชลี สาวหล่อคนแรก ตีคู่ร้องกับป้าทิน่า เทอร์เนอร์ ได้อย่างไม่อาย ทำเอาคนดูซึ่งมาจากครีเอทีฟทั่วโลกในฮอลของเมืองคานส์ ตบมือสนั่น
หนังไม่ได้รางวัลอะไรติดมือ แต่ได้ใจค่ะ
อุตสาหกรรมทำหนังโฆษณาเดี๋ยวนี้ ยังไม่ถึงเวลาที่จะนั่งเขียนวิจารณ์เป็นคุ้งเป็นแควค่ะ แต่เพื่อนๆที่ยังวนเวียนอยู่เล่าให้ฟังพอเป็นไอเดียหลายอย่าง ซึ่งก็จะเก็บไว้เขียนถึงในโอกาสต่อไป ชีวิตชาวเอเจนซี่ก็เปลี่ยนไป
เพื่อนดิฉันลงความเห็นว่า เพราะเงินตัวเดียวแท้ๆ
คนทำงานข้ามช็อต ไร้มารยาท
เรื่องที่เรียกกันว่า professionalism แทบไม่เห็น
ความเคารพในความเป็นเพื่อนร่วมอาชีพ ไม่เหลืออะไร
ลองคิดดูง่ายๆ ดิฉันและเพื่อนๆร่วมสมัย ที่เคยทำโฆษณาร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน กระทบกระทั่งกันเป็นวรรคเป็นเวร
ถึงเวลาที่แต่ละคนแยกย้ายกันไปยิ่งใหญ่ในสาขาที่ตนถนัด หรือโดดไปทำนา ทำสวน ขายเครื่องเพชร ทำโรงพิมพ์ คุมคิวรถ หรือ ทำร้านกาแฟ
เราก็ยังจะมีเรื่องดีๆ มาแลกเปลี่ยนกันเสมอเมื่อพบกัน
หรือเมื่อต้องทำงานร่วมกัน ก็ช่วยกันอย่างเรียกว่า เต็มแรงสุดๆ น่าซาบซึ้ง
ผ่านร้อน ผ่านหนาว โกรธ เกลียดชนิดไม่มองหน้า หรือ รักปานจะอุ้ม
แต่นั่นเป็นงาน หลังการต่อสู้ ยังมีรอยยิ้มเหลืออยู่..


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 18 ก.ค. 08, 14:26
แต่เดิม แผนกที่มีการเข้าออกสูงมักจะจำกัดอยู่แต่พวกครีเอทีฟและฝ่ายบริหารลูกค้า ที่เหลือ อย่างแผนกรีเสิชและมีเดีย เขาจะอยู่กันยาว ไม่มีกดดัน
แต่ชีวิตทุกวันนี้ มันไม่อย่างนั้นน่ะสิคะ
คนทำงาน ทำเพื่องานอย่างเดียวมันไม่พอ ต้องทำเพื่อนาย ทำเพื่อลูกค้าด้วย
ความกดดันสูง เงินหายาก
รีเสิชเอากับเขาด้วย เคยมีนายเป็นผู้ดี สุภาพ เกรงใจและให้เกียรติ เปลี่ยนฉับพลันเป็นยายเบ๊อะสักคน มันทำใจลำบาก
ถามว่าอ้าว ยายเบ๊อะนั่น ถ้าไม่มีฝีมือ เขาโตมาถึงระดับนั้นได้ไง
คำตอบไม่มีใครเข้าใจ แต่สาวอักษรฯตอบว่า เพราะเขาโตมาผิดๆ ก็เลยขาดความปลอดภัยในตนเอง เที่ยวรุกไล่คนอื่น ปกปิดความปวกเปียก
ทำกร้าวใส่ชาวบ้าน เพราะข้างในกลวงๆ ..
เลยเป็นคนที่ไม่ได้การยอมรับจากผู้อื่นหนักเข้าไปใหญ่
เจอนายแบบนี้
พวกรีเสิช ยังลาออกเฉยเลย
ไม่อยากทน ว่างั้น
... 


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 19 ก.ค. 08, 09:30
รายการทีวี และนิตยสาร เป็นที่ลงของงานโฆษณาที่มีอิทธิพล ไม่นับบิลบอร์ดที่ค่าใช้จ่ายต่อเดือนประมาณอย่างต่ำสามแสนบาท แต่ในเรื่องของแบรนด์ดิ้งนั้น ได้ผลไม่แพ้อย่างอื่น โดยเฉพาะประกันภัยรถยนต์ และพวกเครื่องดื่ม รวมถึงเสื้อผ้า แฟชั่น และห้างสรรพสินค้า
รสนิยมของคนก็เปลี่ยนไป บ้านเราสมัยก่อน ถึงจะเป็นเมืองที่มีชีวิตทันสมัย แต่คน ก็ยังรักษาประเพณี ไม่ทำงานโฆษณาที่ขัดต่อวัฒนธรรม
แค่โฆษณาเนสกาแฟเย็น มีคุณแสงระวี อัศวรักษ์ มิสไทยแลนด์เวิร์ลด สาวน้อยแก้มป่องนุ่งกระโปรงสั้นจู๋ อวดขาเพรียว ร่างกายอวบงามเย้ายวน มาเอียงกายดื่มเนสกาแฟอยู่บนบิลบอร์ดตรงทางด่วนแถวคลองเตย ทั้งสื่อ ทั้งผู้คน ก็ฮือฮากันแทบทั้งเมือง
ฉีกแนวบิลบอร์ดสุภาพๆ ที่ทำกันไปทั่ว
โป๊พอหอมปากหอมคอ
ไม่เห็นอะไรสักนิด ยังกระหึ่ม
..
ตรงกันข้าม ปัจจุบัน เปิดแล้วเปิดอีก ไม่โชว์ไม่ดัง เป็นฝรั่งกันเกือบทุกงาน
แต่เป็นฝรั่งแบบไร้รสนิยม นึกจะแหวก ก็แหวก ไม่รู้จักสรีระตนเอง ว่าแต่งแบบไหนงาม
สไตลิสต์ก็โอ้โห.. ทั้งถม ทั้งโบก
ไม่รู้ทำอาชีพนี้ได้ไง


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 19 ก.ค. 08, 20:46
แต่ก่อน งานโฆษณาเรา ไม่ใช้หรอก สไตล้งสไตลิสต์ เรามีอาร์ตไดทั้งคน เป็นผู้ดูทุกอย่าง ฝ่ายโพรดัคชั่นสิต้องหามา ชาร์จค่าตัวกันสูง รับไม่ได้
อาร์ตได จะดูภาพรวมเพื่อให้โทนหนัง ไปทางเดียวกัน ไม่เปะปะ
เมคอัพอาร์ทิสท์เรามีคุณม้าอรนภา คุณมล คุณตี่หญิง ตี่ชาย คุณผู้หญิงแท้อีกคน ดิฉันจำชื่อไม่ได้เสียแล้ว ก็ทำได้ดี
ส่วนคุณลูกน้ำเป็นน้องใหม่
แฮร์ สไตลิสท์ คุณม้า คุณมล และคุณตี่ ทำได้หมด
ส่วนคุณป๊อก ทำเฉพาะผม
เสื้อผ้า มีทั้งเช่าทั้งตัด พอคุณตุ๋ย วาริน จันทร์เจริญกลับมาจากอเมริกา
เราก็ได้ดีไซเนอร์ประจำกองถ่ายที่ความสามารถสูงลิบมาทำงานให้
ส่วนพร็อบส์ หรือของประกอบฉาก แรกๆก็ทำกันเอง หลังๆ ถึงเกิดเป็นอาชีพสไตลิสท์กัน
คนที่เก่ง ก็คือปัทม์ โดยเฉพาะงานตกแต่งบ้าน
 


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 20 ก.ค. 08, 07:22
ครีเอทีฟทำงานหนักในหนังแต่ละเรื่อง ทราบมาว่ายุคที่ดิฉันเริ่มร้างราจากอาชีพ ด้วยความเหนื่อยหน่ายกับธุรกิจโฆษณาที่กดดันไม่เลิก และสภาพเศรษฐกิจ
โลกมันเปลี่ยนไป เช่น ทำสตอรี่บอร์ดขายลูกค้าเสร็จ อยากให้ใครกำกับ ต้องไปเช็คคิวเขาก่อนว่าว่างทำงานให้ไหม มิหนำซ้ำ ถ้าเขาดูบอร์ดแล้วไม่อยากทำ หรือไม่ว่าง ครีเอทีฟต้องรอ หรือหาคนอื่น
นั่นแค่ตัวอย่างที่หนึ่ง
พี่นุภาพ สวันตรัจฉ์ ครีเอทีฟหนุ่มรุ่นพี่ ซึ่งเป็นทั้งนักแต่งเพลงและอาร์ตได เคยบอกน้องๆว่า
"อาชีพอย่างพวกเรา ก็เหมือนนักวิ่งมาราธอน ต้องอึด และอดทน ไม่ใช่วิ่งร้อยเมตร ดังเปรี้ยง แล้วก็จบ "
พี่ๆอีกคน ใครไม่รู้จำไม่ได้จริงๆ บอกว่า ครีเอทีฟเหมือนหมาไล่เนื้อ แก่ๆก็หมดสภาพ ถูกหมาตัวอื่นไล่ต่อ
..


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 20 ก.ค. 08, 08:46
ไม่ว่าจะเป็นหมา หรือเป็นนักวิ่ง
ดิฉันคิดว่าครีเอทีฟจะมีความสุขถ้าได้เจอลูกค้าที่พูดกันเข้าใจและชอบงานที่ประณีต
ดิฉันมีลูกค้าฝรั่งท่านหนึ่ง ชื่อคุณรอน ทำงานดีๆออกมาได้หลายชิ้น โดยเฉพาะงานดีไซน์ไวน์ มีไวน์หลายตัวที่ประสบความสำเร็จด้านการขาย เช่นมองโจลี ก็มาจากฝีมือคุณรอน ที่มีความเข้าใจในด้านคุณภาพสินค้า และราคา
คนไทยได้ดื่มไวน์รสชาติดี และราคาถูก
วันหนึ่ง คุณรอนก็ไปสรรหาไวน์รสชาติเลิศ แล้วสร้างแบรนด์เอง ชื่อว่า ออจจี้
แล้วมาให้อาร์ตไดดิฉันออกแบบฉลาก
อาร์ตไดเรามีหลายไอเดียด้วยกัน จนในที่สุดมาจบอยู่ที่ภาพศิลปะของศิลปินแห่งชาติ
ศาตราจารย์ประหยัด พงษ์ดำ
ที่เราเคารพ ด้วยภาพพิมพ์จากwoodcut เป็นม้าสามตัวของท่าน
คุณรอนชอบมากค่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 20 ก.ค. 08, 21:27
ด้วยความเป็นติสท์ของท่าน การที่จะนำภาพพิมพ์ที่ทำขึ้นครั้งเดียวไม่กี่ชิ้น และมีผู้ซื้อไปแล้ว ไปใช้ในงาน อาจนำปัญหามาให้ภายหลัง
อาจารย์ประหยัดท่านก็เลยทำชิ้นใหม่ให้ค่ะ โดยมีมูฟเม้นท์ต่างไปชนิดคนรู้ รู้สึก
น่าเสียดายที่ชิ้นใหม่นี้ บริษัทไวน์ไม่มีนโยบายซื้อไว้
แต่ดิฉันได้มาครอบครองหนึ่งชิ้น
..
สวยงามมาก


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: elvisbhu ที่ 22 ก.ค. 08, 17:40
อยากรู้ว่าฉลากหน้าตาเป็นไง ลองเข้าซูเปอร์สิครับ ถามหาไวน์ oggi อาจพอมีเหลือมั่ง


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 24 ก.ค. 08, 07:29
ขอบคุณคุณเอลวิสภูค่ะ คราวหน้าเข้าซูเปอร์ใหญ่ๆจะดูว่ายังมีเหลือให้เก็บไหม
..
ดิฉันรู้สึกว่า งานครีเอทีฟจะสนุกได้บ้าง ส่วนหนึ่งมาจากการเปิดช่องให้ได้ใช้ศิลปะการเขียนและการวาดตามจินตนาการบ้าง เหมือนเดินในทะเลทรายแต่มีโอเอซิสเป็นจุดๆ มันค่อยชุมชื่นใจขึ้นมาบ้าง และเมื่อได้เจอคนที่ทำงานด้วยกันแบบรู้มือ ก็จะลืมความเหนื่อยยากลำบากปัญหาสารพัดไปได้
อีกงานหนึ่งที่กำลังอยู่ในสมัยก็คือพวกการจัดงานแฟร์ หรือนิทรรศการ
ที่จะยกมาเล่าก็คือ งานThailand Exhibition ในเมืองฝูโจว ของจีนค่ะ
เรามีครีเอทีฟสามคน ดิฉัน คุณพอล และคุณจอน
คุณจอน ดีไซเนอร์จบมาสายสถาปนิก เลือดสีชมพู เป็นหนุ่มไทยอีสาน ผิวเนื้อดำแดงกำยำเช่นชายไทยทั่วไป หัวตั้งตามสมัยนิยม ย้อมสีแดงแปร๊ดมีปอยทองปะปน ซ่อนนัยน์ตาไร้เดียงสาของเขาใต้แว่นตาดำ ชอบใส่เสื้อผ้าสีสดๆ ชนิดคนมองเหลียวหลัง อมยิ้ม ไปไหนในเมืองจีน อาแปะอาซิ้มอ้าปากหวอ ไอ๊ย่า ทำมายมังหล่อหยั่งนี้ฟะ..อิอิอิ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 24 ก.ค. 08, 07:36
สาวจีนที่ติดใจบุคลิกขำๆของพี่จอน ก็คือนังหนูล่ามไทย เชื้อจีน ที่ประสานงานระหว่างทีมไทยกีบทีมตอกตะปูก่อสร้าง เลขาท่านกงสุลที่กรมส่งออกเขาส่งมาช่วยเรา ชื่อเพราะพริ้งว่า รังสิมา
หนูรังสิมาน่ะ หน้าตาเป็นตุ๊กตาจีน ขาว ผมยาวแสกผมตรงกลางเดี๊ยะ หน้าผากเล็กๆ ตาแป๋ว ทาปากแดง ฟันคู่หน้าจอบหน่อยๆ คล้ายๆบุสก้า..
หวังว่าผู้อ่านคงนึกหน้าบุสก้าออกค่ะ
เธอมักจะพี่จอนคะ พี่จอนขา อยู่ตลอด
ประโยคหนึ่งซ้ำซาก ที่ในที่สุดจอนต้องขอร้องว่าให้เลิกพูดเสียทีก็คือ การเริ่มต้นทุกครั้งว่า
"คือหยั่งนี้นะคะ..."
...


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 25 ก.ค. 08, 04:57
ไทยเรานำอุตสาหกรรมหลายอย่างไปแสดงงานนี้ นับแต่ที่จีนต้องการที่สุดคืออาหาร ลงไปจนถึงอัญมณี
แต่พวกเสื้อผ้าไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไหร่ เพราะกลัวถูกก็อป ของตกแต่งบ้านก็เช่นกัน กลัวมาก
่มีบางบริษัทที่ไม่ไปออกร้านแต่ให้ความร่วมมือนำของไปโชว์ เราต้องคัดเลือกว่าแบบไหนที่เขากอปไม่ได้ เช่นที่มันเก๋ไก๋เป็นไทยมาก
เรื่องอาหารสำคัญที่สุด จุดเด่นของงานเป็นทุเรียนผลโต ทำจากโฟม แกะโดยมือแกะโฟมคนเก่งของปากน้ำ
 
ก่อนอื่นเราต้องหาkey visualของงานนี้กันก่อน
และกุญแจนี้ ก็ควรจะมาจากคอนเส็ปท์
หลังจากถกกันในห้องประชุมนานมากระหว่างครีเอทีฟกับกรม ท่านรองเป็นผู้จุดประกายเรื่อง ซื้อใจกัน ซึ่งท่านบอกว่าน่าจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีทางการค้าระหว่างเรากับประเทศใหญ่อย่างจีน
ซึ่งเราแข่งกับเขาได้ในบางเรื่องเท่านั้น
พวกเราเห็นด้วย
ท่านรองยกตัวอย่างวรรณกรรมจีนให้ดิฉันและทีมงานฟังในหลายๆเรื่อง คุณค่าของจิตใจเป็นเรื่องสำคัญในการทำการค้า โดยเฉพาะนี่เป็นการวางหมากระดับชาติ ไม่ใช่บริษัทต่อบริษัท
หลังจากเคี่ยวกรำกันเรื่องไอเดียในการประชุม 
ท่านรองอธิบดี ท่านผอ. ท่านกงสุล ก็เห็นด้วยกับtheme lineของคอนเส็ปท์งานแสดงสินค้าครั้งแรกของไทยที่ว่า
"ใจประสานใจ รุ่งเรืองร่วมกัน"
ซินเหลียนซิน ก่งช่วงฮุยหวง
ภาษาง่ายๆว่าใจถึงใจ รวยด้วยกัน ทำนองนั้น


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 25 ก.ค. 08, 13:19
ใจประสานใจ รุ่งเรืองร่วมกัน
ทีนี้อะไรล่ะคะจะแทนใจถึงใจได้
ท่านรองพูดถึงความเชื่อของคนจีนที่มีต่อหลงค่ะ หลง คือมังกร
ดิฉันว่าแทนใจของคนจีนได้
และใจของไทยก็คือพญานาค
คุณพอลออกแบบสัญลักษณ์มังกรกับพญานาค สองตัว สมานมิตรกัน
ทั้งสองสัญลักษณ์เป็นความยิ่งใหญ่ เป็นความรุ่งเรือง
เข้าคู่กับความหมายของคอนเส็ปท์
ส่วนในด้านกราฟฟิค คุณพอลนำลายจีนกับไทยในฟอร์มใกล้เคียงกันมาเมิจ์กันได้ลงตัว  จนทั้งคุณหวง ฝ่ายการพาณิชย์ของเขา กับท่านรองและผอ.ต้องร้องฮ้อ
..ส่วนคุณจอน ก็ออกแบบศาลาไทยในนิทรรศการ ได้สวยงามมาก เป็นไทยผสมกลิ่นจีน โดยเล่นสีแดงและสีทอง
มีทั้งศาลาพักผ่อน ศาลาเจรจาการค้า และทางเดิน
ส่วนซุ้มประตูออกแบบได้กลมกลืนกันมาก มีพญานาคและมังกรอยู่ด้านละข้าง
เมื่อถึงเวลาก่อสร้างศาลา เราต้องไปทำที่นั่น
แต่พญานาคกับมังกรสิ เราควรทำในบ้านเรา ขนาดยาวมาก และความสูงต้องได้สัดส่วนกับความยาวของศาลา เพื่อให้ได้ความยิ่งใหญ่และสวยงาม ในจินตนาการของเรา เราก็เฟ้นหาลักษณะที่งามของมังกร และพญานาค จนสำเร็จ
หาช่างแกะจนได้ ช่างคนนี้ ดิฉันนับถือในน้ำใจของเขามาก เป็นศิลปินเต็มตัว ทำงานดี และวางใจได้
เมื่อทำเสร็จ จะต้องแยกชิ้น ทำเครื่องหมาย และนำไปประกอบที่เมืองจีน
เราจะต้องส่งทางเครื่องบิน ปลายทาง ก็เมืองฝูโจวค่ะ
แล้วก็มีเรื่องไม่คาดคิดจนได้



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 26 ก.ค. 08, 04:50
เราส่งพญานาคและมังกรไปขึ้นเครื่อง China southern airline ก่อนที่ตัวเราจะบินไปทำงานเสียอีก แต่วันที่เราไปถึง ทั้งพญานาคแและมังกร ยังไม่ถึงฝูโจว!!!
....
คณะทำงาน มีท่านกงสุล ท่านผอ. และทีมงานของดิฉันใจตุ๊มๆต่อมๆ นี่เป็นความร่วมมือทางการพาณิชย์อย่างเป็นทางการครั้งแรกระหว่างเรากับจีน ในการบริหารของไทย ฝูโจวอยู่ในเขตรับผิดชอบของกงสุลกวางโจว ซึ่งตอนนั้น พี่มัลลิกา เป็นคนดูแลอยู่
พี่มัล ท่านเป็นสุภาพสตรีโสด ลุยมาก รู้เรื่องจีนจริงๆ และรู้ลึก ใช้ชีวิตรับราชการให้ไทยที่เมืองจีนตลอด ท่านให้นังหนูรังิมา เช็คกับสายการบิน ได้ความว่าผู้จัดการสถานี นำพญานาคขึ้นแยกมาไว้แล้วที่กวางโจว เนื่องจากหีบห่อใหญ่ยักษ์มาก จึงต้องรอเที่ยวบินที่โหลดสมบัติน้อยหน่อยเพื่อที่จะโหลดพญานาคมาได้
แล้วมังกรล่ะ ไม่ได้มาด้วยกันหรอกรึ
...
พวกเราถามเป็นเสียงเดียวกัน
หนูรังสิมาก็
"คือหยั่งนี้นะฮ้า...."
..
 


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 27 ก.ค. 08, 08:59
"คือหยั่งนี้นะฮ้า สายการบินเค้าบอกว่า มังกรมาจากดอนเมืองแล้วฮ่า แต่ว่า มังกรของเราคงใหญ่มากนะฮ้า แทนที่เขาจะส่งมาที่กวางโจว แล้วเปลี่ยนเครื่องส่งมาที่ฝูโจว เขาเอายัดใส่เที่ยวที่ไปปักกิ่งฮ่า รอเที่ยวไหนที่ตู้ว่าง ถึงจะส่งมาได้ฮ่า"
นังหนูรังสิมาทำเราทั้งทีมตระหนก
"ปูเหลียวก่อง ปูเหลียวก่อง... มันคิดยางงายกันเนี่ย ส่งมังกรของเราไปปักกิ่งน่ะคนละเส้นทางเลย"
พี่จอนล้อนังหนูรังสิมา ทำเอาความเครียดเปลี่ยนเป็นความงง
"หนูก็ไม่ทราบเหมือนกันนะฮ้า ..พี่ๆจะเอายังไงกันฮ้า"
ผอ. พี่มัลลิกา คุณพอล ดิฉันมองหน้ากัน ก็มันมะรืนนี้แล้วนะ ที่งานจะเริ่ม แล้วเราจะทำอย่างไรกันดีล่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 27 ก.ค. 08, 20:49
เหตุการณ์ที่ไม่ชอบมาพากลนี้ ทำให้ดิฉันและคุณพอล นึกถึงวันที่เราไปตรวจงานการแกะพญานาคและมังกร (รวมถึงทุเรียน)ที่เทพารักษ์ ทุกอย่างสำเร็จร้อยเปอร์เซนต์งดงาม ช่างแกะถามเราว่า ต้องบวงสรวงพญานาคและมังกรก่อนหรือไม่ ก่อนที่จะส่งไปเมืองจีนน่ะ เรามองหน้ากันยิ้มๆ ประเภทเอ๋อเหวอ ไม่คิดอะไร
วินาทีนั้น ที่เมืองจีน เราสองคนคิดตรงกัน ว่ารู้งี้ อธิษฐานก่อนก็ดี
ใครจะไปคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้
พี่มัลลิกา ท่านกงสุลกวางโจวช่วยผอ.และเราคิดจนได้ ให้ผอ.สถานีการบินไทยที่กวางโจว ติดต่อใช้คอนเนคชั่นให้ทั้งพญานาคที่ค้างอยู่ที่กวางโจวหลายวัน และมังกรที่ไปเที่ยวปักกิ่งเพลินมาฝูโจวไม่ได้ มาให้ทันการเปิดงานจะได้ไหม
ต้องขอบคุณคนไทยด้วยกัน ที่จัดการสำเร็จ คืนก่อนวันงาน เวลาค่ำๆ กล่องทุเรียนยักษ์ และกล่องพญานาคก็มาถึงฮอลล์ที่เราแสดงสินค้า
ศุลกากรมาตรวจที่ฮอลล์เลยว่าเรานำเข้าอะไรน่ะ ใหญ่มากมา เราแกะให้ดูทันที พวกเขาทึ่งมาก และทึ่งยิ่งกว่านั้น เมื่อแต่ละชิ้นๆ ที่ประกอบกันสดๆ ได้สำเร็จเป็นรูปเป็นร่าง
ในที่สุด ใจประสานใจฝ่ายไทยก็มาถึงทันเปิดงาน
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ แรงสามัคคีของคนไทยด้วยกัน ทำให้พญานาคมารักษาหน้าคนไทยค่ะ ..
ส่วนมังกร มาถึงในอีกวันหนึ่งถัดมา...
 



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 28 ก.ค. 08, 09:44
 ;D นับว่า เราผ่านสถานะการณ์ฉุกเฉินไปได้เฉียดฉิว ไม่ใช่แต่เพียงพญานาคและทุเรียนยักษ์ อันสวยงามเท่านั้น สินค้าที่พ่อค้าและราชการนำไปจัดแสดง ที่ตกค้างเคลียร์ของออกไม่ได้ก็ทะยอยมาทั้งคืน
ทุเรียนคือของที่มีค่ามาก ในสายตาของคนจีน พอๆกับข้าวหอมมะลิ
สินค้าอื่นๆก็ได้เตรียมจัดแสดงพร้อมในคืนนั้น
ท่านหวง ซึ่งเป็นแม่งาน สบายใจ กรมก็สบายใจ
ท่านหวงถึงกับนั่งตีขิมอยู่ตรงศาลา เป็นเพื่อนกับทีมงานในคืนนั้น ทำให้เรานึกถึงขงเบ้ง และวรรณกรรมจีนหลายเรื่อง
เพลงที่ตี เป็นเพลงสากล ถามว่า เพลงประเทศอะไร เพราะมาก
ท่านหวงยิ้ม และบอกเราว่า เป็นเพลงคลาสสิคของรัสเซียไง


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 28 ก.ค. 08, 16:30
อันที่จริง ก่อนงานจะเกิด ทีมศิลป์ของเราคือคุณพอลและคุณจอน ต้องบินไปเมืองฝูโจวรอบหนึ่งก่อน เพื่อบรีฟรายละเอียดในการตกแต่งและก่อสร้าง ตอนนั้น ไม่มีใครเคยไปเมืองจีนกันมาก่อนเลย
โชคดีที่เรารู้จักทีมงานของจีนกันมาก่อนแล้วจากการเยือนเจรจากันที่เมืองไทย
ท่านหวง เป็นคนจีนที่น่าคบ ยิ้มแย้มแจ่มใส ดูไม่เป็นพ่อค้าสักนิด ส่วนท่านรองท่านดูเป็นพ่อค้ากว่า ทั้งที่ความจริงท่านเป็นนักเจรจาการฑูตระดับเซียน
ดิฉันยังภาคภูมิใจอยู่ทุกวันนี้ที่ได้เคยทำงานกับนักต่อรองอย่างท่าน
คุณพอลและคุณจอน บินไปประสานงานกับว่านยี่ ว่านยี่เป็นถึงผู้จัดการบริษัทที่รับงานก่อสร้างตกแต่งฮอลล์แสดงสินค้า จบมาทางศิลปะเหมือนกัน จึงพูดภาษาเดียวกัน เจอแบบของสองหนุ่มจากไทย ก็ตะลึงอึ้งกิมกี่ไปเหมือนกัน
พูดกับทีมงานอย่างถ่อมตัวว่า
"ไม่แน่ใจว่าจะทำได้สวยเป็นที่พอใจของเราคนไทยหรือไม่"
..
คุณพอลและคุณจอนต้องปรับสเปคกันพอสมควร เพื่อให้เหมาะกับวิธีการทำงานของที่นั่น ที่จริงนอกจากบริเวณส่วนที่เป็นแลนด์มาร์คซึ่งเป็นศาลาไทยนั้น เรายังมีเวทีการแสดงอีกด้วยค่ะ
เวทีนี้ จะยกพื้นขึ้นมา อยู่อีกมุมของฮอลล์ การแสดงจะส่งตรงมาจากททท. เป็นพวกรำไทยที่งดงามอ่อนช้อย วิจิตรบรรจง งานออกแบบตกแต่งเวทีนี่ จอนก็ทำด้วยค่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 29 ก.ค. 08, 07:10
บนเวที เรามีคำพูดว่า ก่งถงฟัดจ่าง.. สังเกตว่า คนจีนจะชอบการแสดงมาก มีการแสดงทีไร คนจีนจะเฮเทกันไปที่เวทีก่อนอย่างอื่น คนแสดงก็มีความสุข
..
ดิฉันสังเกตว่า ท่านหวงของเราเป็นศิลปินคนหนึ่ง ไม่เพียงแต่ตีขิม และชงน้ำชาหอมๆให้เราดื่มเพื่อผ่อนคลายความเครียดคืนวันก่อนเปิดเท่านั้น ในอีกวันต่อมา เมื่อพิธีเปิดผ่านไปเรียบร้อยโดยท่านอธิบดีกรมส่งออกขณะนั้น กับผู้ปกครองมณฑลฝูเจี้ยน และมีทีวี นักข่าว สื่อมวลชนเพียบ และมังกรจากปักกิ่งมาถึง ติดตั้งเคียงคู่พญานาคเรียบร้อย ท่านก็ยังเขียนบทกวีจีนมาให้บทหนึ่งด้วย
เขียนไม่เขียนเปล่า ทำอิงค์เจ็ทมาให้แผ่นหนึ่งเล็กๆ ใช้เป็นโมบายได้เลย
ในบทกวีนั้นพูดถึงน้ำใจต่อน้ำใจของเขากับเรามาด้วย
หนูรังสิมาและพี่มัลลิกาแปลให้ฟัง
ซาบซึ้งกันมาก
ท่านรองบอกดิฉัน.. "คุณกุ้งแห้งเยอรมันครับ แต่งตอบสดๆเลย"
เอ้อ.. ดิฉันอึกอัก กลัวสนิมร่วง
คุณพอลยื่นปากกาด้ามโปรดให้ (ก็เรย์โนลด์ไงคะ) ท่านผอ. สั่งลูกน้องไปหากระดาษเอสี่มาปึกหนึ่ง
ดิฉันก็ลงทุนแค่ไปนั่งที่มุมสงบหนึ่งในฮอลล์ปั่นกลอนแปดมาสองสามบทค่ะ
คุณพอลแบบลาย กรอบให้ ส่วนกลอนใช้ลายมือดิฉันน่ะแหละ ว่านยี่รู้ใจ ส่งคนมารับไปทำอิงค์เจ็ท
ไม่กี่นาที ก็สำเร็จมาแขวนคู่กับบทกลอนของท่านหวง
เรียกว่าทันกันค่ะ...


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 29 ก.ค. 08, 07:26
การทำอิงค์เจ็ทบ้านเราตอนนั้น ทั้งแพงและเชื่องช้า แต่ที่จีน รวดเร็ว สวยงามหาที่ติไม่ได้เลย ก่อนที่ดิฉันมา จอนเล่าให้ฟังว่า
"ผมกับพี่พอลงงเหมือนกัน พี่พอลปรับไซส์แบบเสร็จ ส่งไฟล์ให้ว่านยี่ สักครู่ มีคนปั่นจักรยานเข้ามา รับแบบไปแล้ว ไม่เท่าไหร่ในวันเดียวกัน ไอ้หมอนั่นปั่นจักรยานกลับมา ส่งอิงค์เจ็ทให้แล้ว.."
ก็แน่ละ ไม่กี่เดือนให้หลัง เราก็ทราบว่า พวกจีนไต้หวันมาบุกเมืองไทย เปิดบริษัททำอิงค์เจ็ทกันเป็นล่ำเป็นสัน ตีตลาดและหั่นราคาจนบริษัทเดิมๆขนหัวลุกกันไปตามๆ
สมน้ำหน้า เอากำไรขูดรีดกันมาพอแล้ว
ไฮเรสโซลูชั่นซะด้วย
ทำแคมเปญเลือกตั้งกันที จ่ายเงินค่าอิงค์เจ็ทกันคอย่น
นักการเมืองสบายไป


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 31 ก.ค. 08, 07:53
ผู้อ่านคงอยากจะทราบว่า นิทรรศการ ซินเหลียนซินของเรา มีผู้ชมมากไหม ขอเรียนว่า ก่อนเปิดงาน เขามีการสนับสนุนส่งเสริมข่าวของงานแรกระหว่างไทยกับจีนโดยกรมส่งออก ที่เราเรียกว่า Thailand Exhibition in Fuzhou กันครึกโครมตามทีวี หนังสือพิมพ์ และคัทเอาท์ในเมืองฝูโจวเอง
ทีมงานของเรายังไปยืนถ่ายรูปหน้าคัทเอาท์ยักษ์นี้กันเลยค่ะ
นอกจากคุณรังสิมา เจ้าของคำขึ้นต้นว่า คือหยั่งนี้นะฮ้า ดิฉันยังไม่ได้เล่าเรื่องมิสเฉิน ซึ่งเป็นบัณฑิตจบใหม่หมาด มาเป็นผู้ประสานงานระหว่างทีมตอกตะปูกับทีมเอเจนซี่ของเรา เธอทำหน้าที่เข้มแข็งมาก ดิฉันไปไหนมาไหนโดยมีเธอประกบเสมอๆ ในเวลางาน เพราะเธอสันทัดภาษาอังกฤษพอที่จะสื่อสารกับพวกเราอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง นี่คือสาวจีนรุ่นใหม่ค่ะ
คล่อง มีน้ำใจบริการ และทันสมัย
เยาวชนรุ่นใหม่ที่มาช่วยงานแสดงสินค้า ก็คัดมาจากเด็กหนุ่มสาวที่กำลังเรียนปริญญาตรี ช่วยเป็นล่ามระหว่างผู้ส่งออกที่พูดจีนไม่ได้ กับลูกค้า
ผู้เข้าชมงานนั้น แยกไม่ได้ค่ะ ว่าเป็นpublicหรือเป็นtrade เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นวันที่เปิดให้เฉพาะผู้เจรจาการค้าเท่านั้นเข้ามา สาธารณะชนก็แห่แหนกันเข้ามาด้วยแบบมารอที่ประตูทางเข้าตั้งแต่ยังไม่เปิดงานแล้ว
งานของเราอยู่บนชั้นสามของอาคารหอการค้านะคะ เนื้อที่ประมาณสี่พันตารางเมตรค่ะ ถ้าจำไม่ผิด
 


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 01 ส.ค. 08, 07:14
เป็นธรรมดาของการแสดงงาน เมื่องานวันพิธีเปิดผ่านไปเรียบร้อย กลางคืนก็มีการเลี้ยงรับรอง ทั้งสองฝ่ายสลับกันเป็นเจ้าภาพคนละคืน ในฐานะที่ทีมของเราคลุกงานตั้งแต่ต้น ดิฉัน คุณพอล และคุณจอนก็ไปนั่งร่วมโต๊ะด้วย ไม่ได้มีกันแค่สิบคนนะคะ โต๊ะกลมใหญ่ ผู้หลักผู้ใหญ่ฝ่ายจีนเยอะมาก ผู้ใหญ่ที่สุดในโต๊ะ มีข้าราชการระดับสูงของจีน ท่านหวงและทีม ท่านรอง ผอ. และท่านกงุสุล
อาหารเด่นของเมืองนี้ที่เป็นเอกลักษณ์มาพันปีก็ซุปปลาฉลามที่พวกเราไม่รู้สึกเลยว่ามันอร่อย แต่ก็ยินดี
ที่อร่อยกรุบๆแน่นอนของเขาก็คือหอยค่ะ หากใครเคยรับประทานหอยหลอดที่แม่กลอง จะตกใจเมื่อเจอหอยหลอดของฝูโจว ตัวโตกว่า อร่อยพอสมควร ถามว่าโตขนาดไหน ก็ขนาดหอยพิมที่ขายคู่กันเสมอในตลาดแม่กลอง แต่ยาวกว่า
ที่เหลือนอกนั้นก็หนักปลา หมูเห็ดเป็ดไก่ตามสไตล์คนจีน รสชาติเล่นเอาพวกแต้จิ๋วไทย ไม่คุ้นเลย
แปลกๆไปหมด รับประทานภัตตาคารไหนก็รสชาติจืดๆแบบนี้ พวกติดน้ำปลา พริกขี้หนู จะบ้ากัน
ที่ขำกันไม่เลิกคือ คนเสิฟมองคุณพอลของดิฉันกันตลอด เราคาดว่า น่าจะเป็นเพราะความหล่อ.. ไม่ได้คิดอะไรกัน
ที่หักมุมมากๆก็ตอนเก็บเงิน บริกรมุ่งตรงไปที่คุณพอลค่ะ
เล่นเอาฮือฮากันทั้งโต๊ะ
ท่านรอง ท่านหวงงง ว่า เอ.. ผมก็ว่าโหงวเฮ้งผมบอกฐานะ แต่มันทำไมไม่มาเก็บเงินที่เราหว่า


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 01 ส.ค. 08, 07:23
ด้วยความสงสัยมาตั้งแต่ต้น ทีมไทยก็สอบถาม ปรากฎว่า เด็กๆขอโทษ เพราะเขาจำผิดว่า คุณพอล เป็นดาราชายชื่อดังของเมืองจีน ที่เขารู้จักกันนั่นเอง
โอ้โฮ...คุณพอลถูกอำไม่เลิก งานนั้น
..
ว่านยี่ กับพวกเราทำงานเป็นทีม แม้งานจะเปิด ก็มีปัญหาใหม่ๆให้เราแก้กันไม่หยุดค่ะ เช่น ตู้กระจกยาวนิรภัยที่ใช้โชว์เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ ที่ประดับประดาด้วยอัญมณีไทยแสนจะวิจิตร ที่สมาคมอัญมณีไทยนำไปแสดง ถูกรุมเสียจนกระจกเลอะเทอะด้วยรอยมือ รอยนิ้วและรอยหน้า เรียกว่าดูกันใกล้ชิดจนอาจเกิดอันตรายได้
เราก็ต้องไปหาที่กั้นค่ะเพิ่มค่ะ
มังกร พญานาค ก็เช่นกัน แต่เราจำเป็นต้องวางเฉย
ทุเรียนเราปล่อยเลยตามเลย จะมาลูบคลำก็ตามแต่ศรัทธา


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 01 ส.ค. 08, 16:19
งานครีเอทีฟ สำหรับสาวครีเอทีฟ มีอะไรใหม่ๆในเรื่องเก่าๆให้จดจำเสมอ
ได้ตะลอนไปหาประสบการณ์ ไม่ว่าจะในกรุงเทพ ทำสินค้าปากท้องหรือแฟชั่น
ไปตามคันนาต่างจังหวัด เพราะอยากสัมผัสชีวิตชาวนา หรือชาวสวนยาง ที่เขาต้องวนเวียนอยู่กับเคมี อย่างยาปราบศัตรูพืช
ไปหัวหกก้นไม่ขวิดอยู่ตามตลาดของเก่า ซุเปอร์ ศูนย์การค้าต่างบ้านต่างเมืองเพื่ออ่านเพื่อดูดีไซน์กับแพ็คเกจจิ้ง
อยากรู้พฤติกรรม วิถีชีวิตผู้บริโภค คนเดินดิน
..
ทำโลว์ๆก็ได้ ทำฮายๆก็เป็น
แต่จิตวิญญาณของคนช่างคิด ช่างสังเกตก็ยังมีอยู่ ไม่ว่าเราจะไปทำอาชีพใด
เข้าใจ แต่อดไม่ได้ที่จะแหวกกรอบ
ไม่งั้นโลกนี้ คงไม่น่าพิสมัย ถ้าขาดจิตวิญญาณเหล่านี้


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 05 ก.ย. 08, 08:14
งานประกวดโฆษณา
เจอคนรุ่นใหม่ๆหลายคนที่ยึดอาชีพเดียวกับดิฉัน เขาบอกว่า เดี๋ยวนี้ รางวัลทางโฆษณาที่เรียกว่าแท็คท์อวอร์ด เงียบไปหลายปีแล้ว ส่วนแบดอวอร์ดยังมีอยู่ ข่าวเล่าว่า กรรมการทั้งหลายเขาต่อต้านหนังโฆษณาที่ตลกๆแนวปญอ.ซึ่งกำลังระบาดหนักในจอทีวีและจอหนัง
ดิฉันงง คิดในใจว่า อ้าว ก็พวกงานที่ฉายๆกันอยู่น่ะ มันออกมาจากสมองของพวกครีเอทีฟรุ่นนี้ไม่ใช่หรือ
เกิดอะไรขึ้นมาล่ะ
หรือพวกกรรมการเป็นคนอีกรุ่นหนึ่งซึ่งเอียนกับแนวทางโฆษณาแบบนี้
ดิฉันเอง ติดตามแต่รางวัลที่จัดกันทุกปีซึ่งเรียกว่า ADFEST
ซึ่งคณะผู้จัดเขาทำงาน และคัดเลือกงานโฆษณานานาชาติ มาประกวดกันที่เมืองไทย
กรรมการก็มีทั้งไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง ญี่ปุ่น ฝรั่งอเมริกัน ฝรั่งยุโรป และแปซิฟิค
ผลของรางวัลก็พอจะรับได้ อยู่ในขั้นมาตรฐาน
ทำให้ต้องกลับไปฟื้นความจำเรื่องรางวี่รางวัลมาเล่ากันในโอกาสต่อไปค่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 05 ก.ย. 08, 10:37
ท่านผู้ติดตามเรื่องเก่าสาวครีเอทีฟคงพอเดาได้นะคะว่า แอดเฟสท์ ย่อมากจากเทศกาลโฆษณา ตอนนี้กลายเป็นแบรนด์หนึ่งของงานประกวด
ซึ่งดังไม่เป็นรองใครในเอเชีย แปซิฟิค ท้าทายเจ้าที่จัดเดิมๆที่ฮ่องกง เจ้าของความคิดนี้เป็นอดีตนายกสมาคมโฆษณาไทยที่ใครๆมักจะเรียกว่า เฮียวินิจ
วินิจ สุรพงษ์ชัย ผู้ชายมาดแมน ลูกหม้อเอเจนซี่ชื่อดังว่าลินตาส ซึ่งดีดตัวเองออกมาเป็นเจ้าของดามาสค์ในเวลาอันสมควรก็ขายฝรั่งได้
สุดยอดคนโฆษณาคนหนึ่งของไทยที่ดิฉันยกย่อง
เขาจัดมาสิบเอ็ดครั้งแล้ว นับในปี 2008 ผู้ตัดสินมาจากหลายประเทศในเอเชียแปซิฟิค แบ่งเป็นหมวดๆ ทีมผู้ตัดสินหนังมีหัวหอกเป็นอังกฤษ มาจากเอเจนซี่ชื่อไวเด้นแอนด์เคนเนดี้ ไม่มีเอเจนซี่นี้ในเมืองไทย แต่ที่อเมริกา เอเจนซี่นี้สร้างปรากฎการณ์ จากเล็กจนโตมาข้ามชาติก็เพราะความคิดสร้างสรรค์ที่ทำในฐานะเจ้าประจำของลูกค้าไนกี้ ยุคของฟีล ไนท์
เจ้าของคำคม just do it ที่ใช้มานานมาก
นายฟีล ไนท์นี่เป็นเจ้าของไนกี้ แต่เดี๋ยวนี้ วางมือไปเรียนมหาวิทยาลัย เพื่อเอาดีให้ได้ทางเป็นนักเขียน ใครสนใจไปหาอ่านได้
งานพวกประกวดประชันขันแข่งนี่ที่ดังๆ ก็จะเป็นที่เมืองตากอากาศชายทะเลชื่อดังที่เขาประกวดหนังกันโครมๆทุกปี
โฆษณาจะเป็นช่วงกรกฎา อากาศกำลังดี สำหรับฝรั่ง แม้ทรายจะไม่นุ่มไม่สวย หาดจะไม่น่าเล่นน้ำ แต่กิจกรรมเสริมสำคัญของพวกคอเคเชียนก็คือการอาบแดด
ในขณะที่มองโกเลียนอย่างเรา ไปเดินตลาดสนุกกว่า พีช แอพพริคอท เชอรี่ เมืองไทยซื้อไม่ลง ไปเมืองกานน์ทีซื้อกินเป็นกิโล
ครีเอทีฟทั่วโลก มาประชันกัน ประกวดหนังอย่างเดียว ไม่มีหรอก โปสเตอร์ หรือเพรสแอด แค่ดูหนังทุกวันก็เป็นภาระจะแย่แล้ว
ครีเอทีฟไทยเก่งๆรุ่นน้องได้รับเชิญเป็นผู้ตัดสินกับเขาด้วยเหมือนกัน
เขาคงดูหนังมึนเชียวหละ




กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 05 ก.ย. 08, 10:57
สมาคมโฆษณายุคหนึ่ง มีกิจกรรมเพิ่มความรู้เสมอๆค่ะ ก็ยุคนั้นน่ะ ไม่มีอินเตอร์เน็ทที่เราจะเข้าไปสรรหาข้อมูลการประกวด หรืองานดังๆมาดูได้นี่คะ
สมาคมเขาจะซื้อหนังรางวัล เช่น Clio มา แล้วก็ขายบัตรไปตามเอเจนซี่ที่เป็นสมาชิกให้มาดูกัน ผู้ที่สนใจหรือมีอาชีพที่เกี่ยวข้องเช่นพวกสื่อทีวี ก็มากัน
มีการไปดินเนอร์กัน ดูหนังกันไปด้วย
ถือว่าเปิดหูเปิดตาและขยายหลอดเลือดเลี้ยงสมองกันหน่อย
เพื่อนที่อยู่ต่างเอเจนซี่ มาเจอกัน วี้ดว้ายกระตู้วู้ มีชีวิตชีวา
ทุกวันนี้ คลีโออวอร์ดเปลี่ยนเจ้าของจากพี่มะกันเป็นพี่ดัทช์ ตามฟอร์มของธุรกิจอินเตอร์ที่คนดัทช์มักจะหัวไวกว่า
แต่ก็ยังจัดที่อเมริกา บันทึกว่า ปี 2007น่ะ มีผู้ส่งงานเข้าประกวดถึง 19000ชิ้น อุแม่เจ้า...และยังฟุ้งต่อว่า มีกรรมการผู้ตัดสินมาช่วยงานถึง 110 คนจาก 62  ประเทศ
หากท่านผู้อ่านเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับรางวัลไหนๆ ก็คงไม่ตื่นเต้น..
ครั้งต่อไป จะครบห้าสิบปีที่จัดกันมาแล้ว เขาก็เลยถือว่า เป็นหลักชัยสำคัญ สิ่งหนึ่งที่หมายมั่นจะทำก็คือหันกลับมาค้อมคารวะให้กับผู้ที่เคยชนะรางวัลในอดีต


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 05 ก.ย. 08, 13:58
รางวัลโฆษณานานาชาติที่เมืองกานน์ ฝรั่งเศส เป็นรางวัลเด่นดังทางฝั่งยุโรป มีรางวัลเป็นรูปสิงโต เขาเรียกว่า Cannes lion รางวัลใหญ่สุดมอบให้โฆษณายอดเยี่ยม คือรางวัลกรังด์ปรีซ์
ปี 2009 จะจัดในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 6 วันเต็มๆ
เอเจนซี่บางแห่งเท่านั้นที่ยอมควักกระเป๋าจ่ายเงินส่งคนของตัวไป
การส่งครีเอทีฟไปเมืองนี้เพื่อดูงานการประกวดกัน ถือว่า เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ เพราะไม่ใช่ว่า เอเจนซี่ส่งเราไป แล้วเรามุดหัวอยู่แต่ในถนนช็อปปิ้ง ประเคนจ่ายเงินซื้อของเป็นพะเนินเทินทึก หรือเหนียวหนึบหนับต้มแต่มาม่าซะทุกมื้อในโรงแรม โดยไม่เคยลืมตาดูงาน สิ่งแวดล้อม บรรยากาศ วัฒนธรรม อาหารการกิน
ไม่สนใจจะเสวนากับชาวบ้านที่เขาเป็นdelegatesด้วยกัน
ก็เท่ากับปิดทวารการรับรู้ของนักโฆษณาที่ดีน่ะสิคะ
ไม่ใช่แต่นักโฆษณาเก๋าๆเท่านั้น เดี๋ยวนี้เขามีรางวัลเยาวชนด้วย
ยกตัวอย่างกันหน่อย สาขาหนึ่งปีล่าสุด อิตาลีเขาได้ไป
ส่วนรางวัลกรังด์ปรีซ์สำหรับโฆษณาไดเร็คท์(สื่อแบบเข้าหาตรงกลุ่มเป้าหมาย)ที่ได้ อย่าดูถูกเชียว เอเจนซี่ของเจดับเบิ้ลยูทีได้ไป จากที่ไหนทราบไหมคะ
มุมไบ อินตระเดียค่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 05 ก.ย. 08, 14:07
รางวัลโฆษณาไม่ว่าที่ไหน คนที่ได้มักจะไม่แค่ภูมิใจในผลงาน แต่อาจได้เพิ่มค่าตัวเป็นเงินเดือนที่สูงขึ้นไปด้วย แล้วแต่ว่าผู้บริหารที่นั่งอยู่หัวๆ เขาสนใจอยากจะให้รางวัลความอุตสาหะของคุณหรือไม่
จึงเป็นธรรมดา หลังงานประกวดจบสิ้น เราก็มักจะได้ยินละครน้ำเน่าซ้ำๆเสมอในเอเจนซี่แทบจะทุกแห่งว่า
"ที่จริง รางวัลน่าจะเป็นของชั้น แต่ยัย(หรือนายเบื๊อก)คนนี้ ขโมยไอเดียชั้น"
ทั้งที่จริงๆแล้ว มันอาจไม่เป็นเช่นนั้นก็ได้
เฮ้อ.. โลกสมมุติ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 05 ก.ย. 08, 16:44
กานน์ลิอองจั่วหัวเว็บไซท์ของตัวเองอย่างคิดว่าเก๋เต็มที่ว่า big idea can make anyone feel small(even our jury president)
ท่านผู้อ่านที่สนใจจะไปกานน์และคิดจะควักกระเป๋าจ่ายให้ผู้ร่วมเดินทาง เตรียมเงินจ่ายครบหกวันไว้ประมาณแสนหกค่ะ ขณะที่เขียนนี่ตีราคาไว้ที่ยูโรละห้าสิบบาท หากไปคนเดียวเดี่ยวมือหนึ่งก็แสนหนึ่ง เข้าได้ทุกรายการรวมเวิคช็อป สรุปต้องลงทุนแสนฉลุยค่ะ
ไม่รวมค่าที่พักซึ่งเหนาะๆคืนหนึ่งก็สองร้อยยูโรขึ้นไป หมายความว่าคืนละหมื่นค่ะ เจ้านายดิฉันเผลอต้องมนตราอนุมัติให้เราอยู่ที่โรงแรมระดับสัญลักษณ์ของเมือง โก้ มีระดับสุดยอด ในห้อง เล่นรีรีข้าวสารกันได้หลายทีม
พอเจอใบเก็บเงินก็ความดันขึ้นมาแล้ว
"เฮ้ย คุณ ทำไมพวกคุณถึงพักที่มันแพงอย่างนี้วะ"
"อ้าว เฮ้ย ก็นายเป็นคนเซ็นให้พวกตูเองนี่หว่า"
ขำจัง.. ระหว่างเงินเดือนขึ้นปลายปีกับไปกานน์ ครีเอทีฟควรจะเลือกอะไรล่ะคะ



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 06 ก.ย. 08, 07:34
หลายครั้งที่ได้ไปทำงานต่างประเทศ ทั้งใกล้และไกล มักจะได้รับคำชมอย่างทึ่งๆจากเพื่อนๆในวงการเสมอว่า งานโฆษณาของคนไทยนั้น ความคิดสร้างสรรค์ไม่แพ้ใครในเอเชีย
ดิฉันมักจะย้อนถามว่า คุณวัดจากอะไร งานที่ส่งประกวดหรือเปล่า เพราะวิธีนั้น ดิฉันไม่ค่อยให้ความเชื่อถือ 100%นัก
ทำไมหรือคะ ก็เพราะงานประกวดเป็นเพียงงานที่ผลิตไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของงานส่วนใหญ่นั่นเอง
แต่ผู้ชมร้อยทั้งร้อย จะตอบว่า วัดจากการไปอยู่เมืองไทยแล้วดูทีวี
ดิฉันหัวเราะ
ก็เป็นวิธีเดียวกันกับที่เราใช้เมื่อไปประเทศอื่น
ขอยกตัวอย่างตรงนี้นะคะ เมื่อดิฉันชมงานโฆษณาในงานประกวดหนังโฆษณา รู้สึกทันทีว่า หนังโฆษณาของญี่ปุ่นมีเอกลักษณ์มาก เรื่องสะท้อนวิธีคิดที่ไม่เหมือนใคร คุณค่าการผลิตสวยงาม บางทีขายของที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหนังเลยด้วยซ้ำ
หรือโฆษณาของอังกฤษ ก็มักจะต้องมีพื้นฐานทางวรรณกรรม สังคม หรือสำบัดสำนวนแทรกอยู่
ความคิดที่globalizedจริงๆ หายากมาก
และในการตัดสินงานโฆษณานานาชาติ (เฉพาะในยุคที่ดิฉันยังทำอาชีพนี้อยู่)เขาจะให้คุณค่ากับงานที่แฝงการสะท้อนภาพของวัฒนธรรมเฉพาะถิ่นนั้นๆ
สมมุติเราส่งโฆษณาที่มีแม่ค้าไทยนั่งตำส้มตำในตลาดสักฉากหนึ่ง จึงดูฉีก เด่นขึ้นมาทันทีกว่าโฆษณาที่เรามีแต่ฉากสวยๆดูเป็นอินเตอร์มาก ซึ่งใครๆเขาก็ทำกัน
ดิฉันกำลังหมายถึงไอเดีย ไม่ใช่แค่ฉากนะคะ
ไอเดียสำคัญกว่าวิธีการถ่ายทำหรือมุมกล้อง
จินตนาการหน่อยสิคะ ว่าคุณเป็นครีเอทีฟนั่งดูหนังเข้าประกวดเป็นร้อยๆเรื่อง ซึ่งก็มักจะถ่ายทำยอดเยี่ยมกันทั้งนั้น แล้วมีหนังถ่ายทำงั้นๆ แต่ไอเดียเจ๋งเป้งมาจากลาวหรือซิมบับเว
คุณจะไม่สะดุดหรือ
ในขณะที่ชาติบางชาติ ทำงานออกมาเป็นตะวันตกมากกว่าเอเชียเช่นฮ่องกง สิงคโปร์ เพียงแต่หน้าเหลืองเท่านั้น มันจะเด่นออกมาได้ไง
ของจริงก็คือ ต้องออริจินัลค่ะ คือมาแบบแท้ไม่เทียม
ปีที่ดิฉันไป หนังของไต้หวัน เขาแต่งแบบหนังจีนมาเลย เป็นงิ้วมาก ดูตื่นตา ตอนนั้น คนอย่างอัง ลี ยังไม่ดังในฮอลลีวู้ด
แต่ไอเดียไม่เด่น
จึงหมดโอกาสคว้ารางวัล


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: CrazyHOrse ที่ 06 ก.ย. 08, 10:33
ขออนุญาตแทรกนิดนึงนะครับ

อัง ลี ที่เรารู้จักกันนั้น คนมักจะงงกันว่าอันไหนเป็นชื่อ อันไหนเป็นแซ่

เขาชื่อ 李安 ครับ แซ่ 李 (จีนกลางอ่าน หลี่) ชื่อ 安 (จีนกลางอ่าน อัน)

แต่ที่เขาเขียนเป็นฝรั่งว่า Ang Lee เพราะภาษาไต้หวันเขาเป็นฮกเกี้ยน ตระกูลเดียวกับแต้จิ๋ว แทนที่จะออกเสียง หลี่อัน ตามสำเนียงจีนกลาง เขาจึงออกเสียงว่า หลีอัง อย่างสำเนียงพื้นเมืองของเขาครับ ถ้าจะอ่านอย่างฝรั่งให้ถูกตามสำเนียงเขา จะออกเสียงว่า อัง ลี่ ครับ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 06 ก.ย. 08, 13:12
ต้องขอบคุณคุณเครซี่ฮอร์สค่ะ ที่เข้ามาแนะนำชื่อเรียกของเขาที่ถูกต้องแบบจีนและแบบฝรั่ง
ที่จริงคุณอัง ลี่ หรือ หลี่ อัน ดิฉันชอบผลงานของเขาตั้งแต่เรื่องของthe wedding banquet (1993)และ eat drink man woman(1994) แล้วค่ะ
เพื่อนผู้กำกับหนัง อาร์ตได และครีเอทีฟส่วนหนึ่งที่สนิทๆที่ชอบหนังดรามา ก็มักจะชอบหนังที่ตามมาอีกหลายเรื่อง นับแต่sense and sensibiity(1995) crouching Tiger (1999)จนถึง brokeback mountain(2005)
เท่าที่สืบประวัติ เขาไม่เคยทำโฆษณา
มีนักโฆษณาคนหนึ่งที่กลายเป็นผู้กำกับหนังดังก้องโลก เพื่อนเอ็มดีสาวชาวอินเดียของดิฉันเคยทำงานร่วมกับเขาในเอเจนซี่ที่นั่น ชื่อของเขา สัตยาจิต เรย์ค่ะ
Satyajit Ray
หันกลับมามองครีเอทีฟไทยที่เบนเข็มไปกำกับหนังใหญ่ มีคุณสุชาติ วุฒิวิชัย คุณเพิ่มพล เชยอรุณ คุณวิศิษฐ์ ศาสนเที่ยง
สุภาพบุรุษทั้งนั้น เชื่อว่ามีสุภาพสตรีเหมือนกันค่ะ แต่ดิฉันยังไม่ได้ดูงานของเธอ



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 06 ก.ย. 08, 13:29
มีผู้ติดตามเรื่องกรุเรื่องเก่าท่านหนึ่งถามมาว่า ไอเดียโฆษณาที่ว่าglobalized ชนิดทำไอเดียเดียว ฉายมันทั่วโลกน่ะ เข้าท่าจริงหรือ แล้วมันพิสูจน์หรือเปล่าว่า ขายของได้
ดิฉันในฐานะเป็นครีเอทีฟคนหนึ่ง ย้อนภาพไปถึงตัวเองกำลังนั่งในที่ประชุมกับลูกค้าและเพื่อนๆในเอเจนซี่ แล้ววินาทีหนึ่งขึ้นมา ลูกค้าแบรนด์ข้ามโลกก็ทำเครียด บอกว่า เมืองนอกสั่งมาว่าให้ใช้หนังคอนเส็ปท์นี้เลย แปลไทย
ส่วนหนึ่งของความรู้สึก ก็เซ็งสะบั้น
ในความเซ็งก็มีคำถามว่า แล้วแอคเคานท์นี้มันจะเหลือความท้าทายให้ดิฉันตรงไหนนะ



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 06 ก.ย. 08, 21:38
โฆษณาคอนเส็ปท์เดียวแต่เหมือนกันทั้งโลก มีหลายสินค้าเหมือนกัน บางผลิตภัณฑ์ก็เหมาะสม เช่น ที่ต้องจ่ายเงินจ้างดาราแพงๆ หรือนักกีฬาฝีมือระดับโลก
กะใช้ให้คุ้ม
เช่นไนกี้ใช้ไมเคิล จอร์แดน ไทเกอร์ วู้ดส์ รองเท้าkedsใช้ มิชา บาร์ตัน เครื่องสำอางเอสเต้ ลอเดอร์บางตัวใช้กวินเน็ธ พัลโธรว์
แต่บางคอนเส็ปท์ เขาก็สร้างแพทเทอร์น หรือฟอร์แมทขึ้นมา แล้วแต่ละประเทศไปดัดแปลงเอง
เช่นสินค้าผมยี่ห้อหนึ่ง เริ่มด้วยดาราระดับโลกยิ้มกับกล้องแล้วพูดว่า
"don't hate me because i'm beautiful"
เป็นแคมเปญดังในช่วงปี1980 และใช้มานานมาก ตกถึงเมืองไทย ดูเหมือนนักโฆษณาจะใช้คำว่า อย่าอิจฉาดิฉันนะคะ ที่ผมสวย
หรืออย่างจอห์นสัน ที่ใช้คอนเส็ปท์Babyfaceกันหลายประเทศ
ดิฉันเคยทำคอนเส็ปท์ที่โลกาภิวัธน์แบบนี้เหมือนกัน แต่โชคดีที่ไม่ต้องตามเมืองนอกเลย ไม่ว่าจะเป็นด้วยการนำเสนอ หรือคำพูดที่ใช้
ก็ลูกค้าน่ะสิคะ เปิดทางให้
ต้องขอบคุณตรงนี้


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 07 ก.ย. 08, 19:27
ในเมื่อโลกของโฆษณา มันชักจะกลายเป็นใบเดียวกันไปโดยกระแสที่หยุดยั้งไม่ได้ ในทำนองเดียวกันผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นก็เริ่มเสียเปรียบ เงินทุนที่หนุนหลังของประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจมันก็เข้มแข็งกว่า โหมใช้ได้ในสื่อต่างๆ
ราคาค่าสื่อก็สูงขึ้นทุกปี บางปีขึ้นถึง 25 %
เอเจนซี่ที่ค้าขายเวลากำไรเพิ่มขึ้น รับโบนัสกันเป็นล่ำเป็นสัน
ความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์ไทยก็กระจ้อยร่อยลงทีละน้อย
ไม่ต้องเปิดทีวีดูก็ได้ คุณลองเดินเข้าร้านค้าปลีกข้างบ้าน(ซึ่งนับวันจะอ่อนแรงลง)ซูเปอร์มาร์เก็ต หรือร้านสะดวกซื้อสิคะ
เริ่มจากของใช้ส่วนตัว คุณเห็นตราผลิตภัณฑ์ไทยกี่ตรากัน
แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ ครีมอาบน้ำ แชมพู ครีมนวด น้ำยาซักผ้า ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน แป้ง ครีมระงับกลิ่นกาย
ส่วนแบ่งตลาดคงเป็นของบริษัทข้ามชาติไปหมดแล้ว ถ้าไม่มีคนอย่างนายห้างเทียม โชควัฒนาเมื่อสี่สิบปีที่แล้ว
 



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 08 ก.ย. 08, 13:04
ถ้าหาความแข็งแกร่งของแบรนด์ไทย ตอบได้อย่างหนึ่งคือผลิตภัณฑ์อาหาร ข้าว บะหมี่สำเร็จรูป น้ำปลา น้ำพริกเผา กะทิ พริกไทย
(วันใดขึ้นมา ฝรั่งหรือญี่ปุ่นมาทำข้าวหอมมะลิส่งออกแข่งกับเราละแย่เลย ที่จริงอเมริกาเขาก็ทำแล้ว เวียดนามก็ทำแล้ว ราคาก็ถูก คุณภาพพอกล้อมแกล้ม คนไทยถึงต้องพยายามฉีกจากคำว่า jasmine rice ไปเป็น Hom Mali rice เพื่อหนี
แต่การสร้างคำว่า Hom Maliไม่ง่าย)
เราส่งออกผลิตภัณฑ์เกษตรเป็นล่ำเป็นสัน  เศรษฐีเก่าตระกูลดังๆมาจากการค้าข้าวทั้งนั้น การทำการตลาดให้แบรนด์อาหารของไทยโด่งดังไปทั่วโลกเป็นงานของกรมส่งเสริมการส่งออกและกรมการค้าต่างประเทศ
และสินค้าหนึ่งที่ตีตลาดได้อย่างน่าทึ่งคือ อาหารฮาลาล
นับเป็นโชคของดิฉันที่ได้ร่วมงานกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทยที่ท่านคลุกคลีตีโมงกับอาหารฮาลาลมาแต่ต้น ดูเหมือนท่านจะเป็นตำราเคลื่อนที่ได้เลย ปลุกปั้นตั้งแต่ตรา จนเป็นเรื่องเป็นราว
พออาหารฮาลาลฮือฮาขึ้นมา ก็มีคนแย่งความดีความชอบไปเสียฉิบ เมืองสยามของเราให้มันได้อย่างนี้สิ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 09 ก.ย. 08, 10:07
งานThailand Exhibitionที่จัดขึ้นที่จีน และงานเดียวกันที่จัดขึ้นที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รองอธิบดีกรมส่งออกขณะนั้นได้วางแผนมาร์เก็ตติ้งไว้ต่างกัน
เราทราบกันว่า เชคที่ดูไบนั้นท่านทัศนคติเปิดกว้าง ทำให้เมืองธรรมดาๆดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ สรรหาสร้างตึกที่ดีไซน์ดีๆ แพง เข้าในเมือง ปลูกผักด้วยระบบฉีดน้ำใต้ดิน มีตลาดค้าทองคำชิ้นใหญ่แทบจะเท่าเสื้อ ลดเงื่อนไขมุสลิมที่เคร่งครัด ทำให้เมืองร้อน ไม่ร้างผู้คน เว้นให้นักท่องเที่ยวดื่มเหล้าเบียร์ได้ในโรงแรม
แต่จัดงานที่ดูไบแพง
ดูไบมีเมืองแฝด แบบฝั่งธน กับกรุงเทพ ห่างกันแค่สะพานข้ามแม่น้ำ เมืองนี้ชื่อชาร์จาห์
เจริญ และร่ำรวย
แม้ไม่เท่าดูไบ แต่ก็ดึงดูดพ่อค้าได้ไม่แพ้ดูไบ แค่ข้ามฝั่งไปเท่านั้น จัดไม่กี่ปีก็ดังระเบิด
การตลาดเพื่อส่งออกสินค้าไทยในประเทศที่เหมือนประตูสู่อาหรับ จะวางสินค้าอะไรเป็นหัวหอกในงานดี


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 11 ก.ย. 08, 08:43
เวลาเราไปโรงพยาบาลเอกชนใหญ่ๆ ค่ารักษาแพงๆ สังเกตไหมว่า คนไข้ส่วนหนึ่งจะเป็นชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวอาหรับ
นี่หละค่ะ เป็นธุรกิจสำคัญของประเทศเรา ลูกค้าในตะวันออกกลาง เงินทองล้นทะเลทราย เวลาป่วยที ก็มีเงินพอที่จะเข้ามารับการบริการเมืองไทย
เรื่องการดูแลของเราเป็นหนึ่งในโลกอยู่แล้ว และศักยภาพการรักษาตลอดจนเครื่องไม้เครื่องมือเราก็ไม่เป็นรองใคร
การส่งออกด้านบริการสุขภาพ หมายถึงการเข้ามารับบริการในประเทศไทย จึงเป็นธุรกิจำคัญที่นำหน้าในตลาดอาหรับ
ธุรกิจอีกด้านคืออาหารฮาลาล


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 12 ก.ย. 08, 08:58
สัญลักษณ์ฮาลาลบนกล่องหรือซองเป็นเครื่องรับประกันว่าอาหารได้ผ่านกรรมวิธีสะอาด ถูกต้องตามหลักการของอิสลาม
แต่จะสื่ออย่างไรในงาน ว่า อาหารฮาลาลของเรา วางใจได้
เพราะในเมื่อตลาดที่เอมิเรตส์นั้นถึงแม้จำนวนประชากรจะไม่มาก แต่มีอิทธิพล
สำหรับธุรกิจสุขภาพ โรงพยาบาลที่ไปร่วมด้วยมี 6 แห่ง เช่น กรุงเทพ พระรามเก้า กรุงเทพพัทยา บำรุงราษฎร์ และอีกสองแห่ง
ระดับที่มีล่ามบริการทั้งนั้น
กรมจัดพื้นที่ให้พิเศษ และมอบหมายให้เราออกแบบพื้นที่ให้ทันสมัย ล้ำหน้า สะอาด และน่าไว้วางใจ
ทำอย่างไรที่จะออกแบบให้ไม่มีใครเสียเปรียบใคร ลูกค้าสามารถเข้าได้ทุกบูธ
ในการประชุม เราเสนอให้มีการตรวจสุขภาพเบื้องต้นจริงจัง มีการออกแบบห้องตรวจโรคที่ทุกดรงพยาบาลสามารถใช้ได้ สามห้อง
โจทย์ก็คือ จะทำอย่างไรให้มิดชิด แต่ไม่ขัดกับประเพณีอิสลาม ในกรณีที่เป็นหญิง


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 17 ก.ย. 08, 11:11
ในฐานะคนทำงานโปรโมททั้งงาน ดิฉันและคุณพอล ต้องบินไปดูสถานที่ เพื่อประสานงานการก่อสร้าง หลังจากที่ออกแบบเสร็จ
งานนี้มือทรีดีของเราจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากจอห์น หัวทุเรียนเจ้าเก่าจากเมืองจีน ขวัญใจของหนูรังสิมา แต่งบคราวนี้ไม่ได้มีพอให้จอห์นบินไปสร้างความฮือฮาให้สาวๆชาวเอมิเรตส์
ยุครัฐบาลนั้น เป็นยุคที่สินค้าโอท็อปเริ่มตั้งไข่ใหม่ๆ บูธใหญ่ๆจึงมีสามยูนิตด้วยกัน คือ โอท็อป ฮาลาล และโรงพยาบาล
โอท็อปนั้น ดิฉัน ผอ. และคุณพอลช่วยกันลาดตระเวณคัดของ ที่น่าจะไปได้กับตลาดนี้ ทั้งของแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ ของชำร่วย ผลิตภัณฑ์สปา ผ้าไหม กระดาษสา ผ้าปักถัก และงานไม้เป็นหลัก
เจ้าของสินค้าไม่ต้องไป กรมขนให้ฟรี เพียงแต่แพ็คมาให้เรียบร้อยเท่านั้น และเมื่อจบงาน ขายได้ก็เอาเงินมาให้ ขายไม่ได้ก็ขนกลับให้
ร้อยทั้งร้อย ผู้ผลิตก็จะเป็นปลื้ม ฝากของของตนเองมาโชว์ แต่ที่มูลค่าไม่แพงนัก แต่เป็นเลิศด้านความคิดสร้างสรรค์ และหาไม่ได้ที่ไหน คุณผอ.เธอก็จะควักกระเป๋าส่วนตัว ออกไปเอง




กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 17 ก.ย. 08, 15:17
โลโกโอท็อป เราทราบมาว่ามีลิขสิทธิ์ หน่วยงานราชการไปจ้างเอกชนออกแบบเสียเงินมากมายไปแล้ว เวลาจะใช้โลโกที ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์อีก
โอ้โฮ นักออกแบบถ้าได้งั้นจริง มิรวยแย่หรือ
เราปวดหัวกับความยุ่งยากนี้ จึงไม่ใช้ คุณพอลคุณจอห์นเขาดีไซน์ใหม่เองโดยเอาฟ้อนท์ที่ดีไซน์ทั้งงานเป็นหลัก
คำว่าโอท็อปมีคนแซวว่า ใช้ไม่ได้ คำนี้ต้องเสียลิขสิทธิ์
ที่จริงโอท็อปไม่ใช่ไอเดียใหม่เลย เป็นการลอกแบบการส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นของญี่ปุ่นมามากกว่า กรมส่งเสริมการส่งออก และกรมพัฒนาชุมชนเขาทำงานประสานกัน
ฝ่ายหนึ่งทำในประเทศ อีกฝ่ายทำต่างประเทศ
หีบและบังตาที่เราๆไปเอามาโชว์จากฝีมือดีไซเนอร์ชาวสุพรรณ โดนโรงแรมไทยในดูไบมาขอซื้อก่อนปิดงาน
ทั้งที่ใบหนึ่งแพ็คไม่ดี น่าเสียดาย
ผู้ส่งออกไทยต้องไม่ละเลยหรือมักง่ายในการแพ็ค แม้การขนส่งจะฟรีก็ตาม
เมื่อของเสียหายแล้ว ถึงขายได้ เราก็ไม่อยากขายเพราะกลัวเสียชื่อ
 


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 18 ก.ย. 08, 21:20
นานๆทีของดีๆจากเมืองไทยจะไปแสดงที่เมืองอาหรับเสียที มีของแต่งบ้านอย่างหนึ่งค่ะ ที่เราชอบกันมากคือมังคุดเผา กล้วยเผา สีดำสนิท เป็นถ่านเลย และมาจากผลไม้ของจริงทั้งนั้น
ขายฟอร์มสวยธรรมชาติของผลไม้
เราขนไปจัดวางใส่ถาด แล้วเข้าตู้กระจกอีกที
เป็นงานฝีมือชาวจังหวัดทางภาคกลาง
มีแขกมาขอซื้อ และจะขอสั่งเป็นคอนเทนเนอร์เลย
ฟังแล้วน่าจะดีใจแทนชาวบ้านนะคะ แต่ปัญหาคือ ของเราเผาไม่พอขายหรอกค่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 19 ก.ย. 08, 11:20
วันนี้ ธุรกิจหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ของเราก้าวหน้าไปถึงดาวอังคารหรือยังไม่ทราบ แต่ธุรกิจโรงพยาบาลของเราตีตลาดตะวันออกกลางแตกไปเรียบร้อย ไม่ต้องไปออกบูธส่งเสริมกันอีก
ฑูตพาณิชย์ท่านหนึ่งที่ไปหัวหกก้นขวิดกลางทะเลทรายมากับดิฉัน บอกว่าโรงพยาบาลอย่างพญาไท ถึงขั้นได้รับรางวัลซ้อนๆกันหลายรางวัล
เป็นธุรกิจที่อยู่ได้อย่างดี
ฑูตพาณิชย์รุ่นเดิม เกษียณหรือขึ้นเป็นผู้บริหารระดับสิบกันไปเกือบหมด วันนี้ การค้ากับต่างประเทศเรายิ่งต้องเหนื่อยมากขึ้น เพราะคู่แข่งก็พัฒนาขึ้นเช่นกัน
ข้าวหอมมะลิของเรา มีเอกลักษณ์ความหอม ที่ไม่ต้องปรุงแต่ง แถมยังปลูกได้เฉพาะแหล่งจากทุ่งกุลาร้องไห้เท่านั้น
ในวันนี้ ข้าวสหรัฐ อินเดีย เวียดนาม ก็พยายามแข่งด้านการพัฒนาความหอมเช่นกัน
ข้าวหอมมะลิของเราผลิตไม่พอส่งตลาดที่ต้องการ ราคาซื้อปลีกในตปท.น่าจะสูงขึ้นเรื่อยๆ
แต่วันนี้ ชาวนาสุรินทร์ บุรีรัมย์ กาฬสินธุ์ ก็ยังไม่รวย


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 19 ก.ย. 08, 14:57
ดิฉันเคยทึ่งค่ะ ในฐานะครีเอทีฟ เมื่อเห็นแพ็คเกจจิ้งข้าวหอมมะลิที่ต่างชาติขาย แล้วสร้างคำว่าหอมมะลิเป็นล่ำเป็นสัน ให้ฉีกออกมาจากjasmine riceหรือ fragant riceทั่วๆไป
ทึ่งตรงที่เขาให้ความรู้แก่ผู้ซื้อว่าที่มาของข้าวหอมมะลิคือที่ไหน มีคุณสมบัติอย่างไร
มีbookletเล็กๆแจก ข้าวตรานี้ชื่อว่า Alesie
เจ้าของแบรนด์ไม่ใช่คนไทย กลายเป็นชาวสุรินัม ในอเมริกาใต้ ที่หลงใหลในการค้าข้าวมาสามชั่วอายุคน
เมืองไทยให้เกียรติเขา เรียกตำแหน่งว่าHTA คล้ายๆกงสุลกิตติมศักดิ์
ในตำแหน่งเต็มว่า Honorary Trade Advisor
หมายถึงคนที่ทำงานให้ประเทศเรา ส่งเสริมการขายข้าว หรือสินค้าอื่นๆของไทยไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นไทย ด้วยใจ(ก็มีผลประโยชน์จากการค้าขายอยู่แล้วนี่) และ ไม่มีเงินเดือน


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 22 ก.ย. 08, 10:19
สำหรับตลาดตะวันออกกลาง ปีนั้น เรามีท่านรัฐมนตรีพาณิชย์จบปริญญาเอกคนหนึ่ง บุคลิกดี เราทราบว่า งานนี้ พิเศษ ไม่ใช่แค่ระดับอธิบดีไปเปิดแล้ว เพราะท่านก็จะไปเปิดคู่กับเชคของดูไบเหมือนกัน เชคที่มาเป็นลูกชายหนุ่ม ที่หล่อระดับชาติมาก
คนใหญ่คนโตเดินกันจนปวดหัว สำหรับพวกทีมครีเอทีฟและทีมที่ทำงานของกรมฯส่งออก ได้เวลาหลบฉากอยู่เบื้องหลัง
ธุรกิจโรงพยาบาล คุณหมอมือหนึ่งของแต่ละโรงที่ไปออก ก็ไปประจำบูธใหญ่ที่เราออกแบบในพื้นที่พิเศษให้ หวังภาพพจน์เต็มที่
คุณหมอใหญ่เจ้าของรพ.เอกชนที่ท่านออกทีวีมาตั้งแต่หนุ่มจนแก่แต่หน้ายังใสปิ๊ง ท่านก็ไปเหมือนกัน สายสืบรายงานว่า เชคเชิญเลี้ยงฉลองในเรือหรู และปลื้มมาก ธุรกิจก็สำเร็จ หน้าตาก็ได้ไปด้วย
ส่วนด้านอาหาร เอกชนให้ความร่วมมือกันเพียบ การให้ความรู้และการสร้างความเชื่อถือกับพ่อค้าในเอมิเรตส์อย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับอาหารฮาลาลของเราว่าเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก โดยได้รับการรับรองจากคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย
สถาบันมาตรฐานอาหารฮาลาลฯด้วย
นอกจากจะสื่อด้วยการออกแบบโบรชัวร์ให้ความรู้เรื่องประชากรมุสลิมในไทย ตราฮาลาลที่ใช้รับรองอาหารที่ผ่านมาตรฐานทางศาสนาอิสลาม และการควบคุมคุณภาพ แล้ว การออกแบบตกแต่งบูธยังลงทุนสวยงามมาก
เรามีภาพมัสยิดใหม่ที่อร่ามงามมลังเมลืองของคณะกรรมการกลางอิสลามฯ(ซึ่งผู้อ่านข่าวทีวีบางท่านอ่านว่าคณะกรรมการอิสลามกลางฯ!!!!) ประกอบ และภาพการจับมือระหว่างรัฐมนตรี กับท่านรองจุฬาราชมนตรียุคนั้น(อาจารย์วินัย ถ้าดิฉันจำไม่ผิด)
ท่านพาบุตรสาวสวยน่ารักมากมาประชุมด้วย
เรานำช่างภาพไปถ่ายภาพที่กระทรวง ตรงใกล้ๆโรงเรียนราชินี เดี๋ยวนี้เป็นมิวเซียมไปแล้ว
ถ่ายเสร็จ ทำโบรชัวร์แจกและพิมพ์อิงค์เจทใหญ่มาก ไปติดที่บูธในอีกสองวันที่เมืองชาร์จาห์ทันวันงาน
รัฐมนตรีมาเห็นในวันเปิด งง  ทึ่ง และประทับใจไปเลย สมัยนั้น เรื่องทำอิค์เจทแบบสายฟ้าแลบยังเป็นเรื่องน่าทึ่งอยู่


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 22 ก.ย. 08, 10:43
ดิฉันและทีมงานไปกันสองรอบค่ะ รอบเตรียมงาน สำรวจปัญหา และประสานงานให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย
รอบสองก่อนงานสองวันและอยู่จนปิดงาน เราพักที่ดูไบ แล้วข้ามมาชาร์จาห์ทุกวัน
ครั้งที่สองโดนแจ็คพ็อตสายการบิน ตัวมา ก่อนขึ้นเครื่องมีสองกระเป๋า พอลงเครื่อง มาถึงแค่กระเป๋าเดียว ต้องไปแจ้งความกระเป๋าหาย กว่าจะได้คืนก็อีกสองวันถัดมา โชคดีที่เที่ยวนั้นคิดไงไม่รู้ แยกเสื้อผ้ามาสองกระเป๋า กระเป๋าหนึ่งจุชุดสวย แบบคุณนายออกงาน อีกกระเป๋าหนึ่ง แบบกรรมกรทั่วไป
เกิดแพ็คกระเป๋าเดียวตามปกติ ถ้าหายขึ้นมาแล้ว หรือมาสายแล้ว สงสัยต้องไปซื้อใหม่ที่ห้าง
ขอเรียนตรงนี้เลยว่า ของที่นั่น ราคาไม่ปกติหรอกค่ะ
เฮ้อ..เมืองคนรวยนี่คะ
..


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 24 ก.ย. 08, 13:33
มีเรื่องตื่นเต้นเกิดขึ้นที่เอ็กซิบิชั่นฮอลล์จนได้
ผู้หญิงอาหรับ เธอคลุมหน้า คลุมตัวมาช็อปปิ้ง ซื้อ ต่อ ซื้อ ต่อ พูดอังกฤษได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เรื่องซื้อขายน่ะ ไม่ยากอยู่แล้ว
อย่าได้ประหลาดใจ ที่คุณเธอทั้งหลายบางคนมาในหน้ากากทองคำ หรือหน้ากากดำบนทอง
อาเจ๊ อากิ๋มบางคนไปออกบูธด้วย ขายของไทยนิดหน่อย ของจีนมากกว่า อย่างนี้เรียกว่าผิดกติกา เราให้นำของไทยไปขาย เธอก็สอดไส้ของจีนแดงพวกหม้อชามรามไห
ป้าๆแม่บ้านชาวอาหรับซื้อกันจนหมดเกลี้ยง นับเงินนับทองสบายไป
ผอ.เดินตรวจบูธ เห็นเข้าก็ขมวดคิ้ว เอ นี่มันของจีนเสีย 50%นี่นา
อย่างนี้ก็มีค่ะ
มีบูธหนึ่ง ขายสินค้าอยู่ดีๆ คุณนายอาหรับเดินเข้ามาเลือกชมนั่นชมนี่ คนไทยยิ้มแย้มแจ่มใส ขายเพลิน เธอก็ต่อๆๆๆ ตามประสา เช่น ราคานี้ ขอสามชิ้นแล้วกัน
คนเยอะ พัลวัน พ่อค้าไทยบอก โนโนโน
เธอก็ฉวยโอกา เยสเยสเยส คว้าของไป วางเงินไว้
พ่อค้าฉุนกึก วิ่งตาม ดันไปฉุดแขนเธอเข้าให้
ลืมนึกไปสิคะว่า ชายที่ไม่ใช่สามี ห้ามถูกต้องคุณนายเด็ดขาด
เป็นเรื่องค่ะ คุณนายร้องกรี๊ด ตำรวจแขกวิ่งกันกรูมาที่เกิดเหตุ...



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 25 ก.ย. 08, 09:40
เรื่องวุ่นๆเช่นนี้ มีให้เล่ากันฟังบ้างหอมปากหอมคอ
บูธที่คุ้นเคยอีกบูธหนึ่ง เจ้าของไปขายเอง ลงทุนทำโคมไฟงานโลหะ ใช้ลวดทองแดงดัดไปมา ทาโทนดำๆ ทองๆ สวยงาม ดูดีมีราคา ปรากฎว่าขายหมดบูธ แล้วยังมีออเดอร์อีกเป็นพันๆ น่าปลื้มใจกับเขา นับว่าเก็งตลาดถูก
อสังหาริมทรัพย์ที่นี่บูมนะคะ
ของแต่งบ้านจึงขายดี แต่ต้องถูกรสนิยมเขาด้วย
เครื่องประดับอย่างหินและพลอยสี ขายไม่ได้ค่ะ เพราะที่นี่ คุณแม่บ้านเขาใส่แต่ทอง และเพชร ขอโทษนะคะ ดิฉันได้เห็นคุณนายท่านหนึ่ง แวะมาซื้อผ้าฝ้ายสีขาวปัก สำหรับห่อขนมปัง พร้อมชุดผ้ารองจานบนโต๊ะอาหารครบเซ็ท
ตาดิฉันแหลมค่ะ เห็นสร้อยเพชรที่เธอห้อยคอ
รสนิยมไม่เลวเลย สร้อยของแวนคลีฟแอนด์อาร์เปลค่ะ ..
แล้วพวกหินสีรึเธอจะแล...
หากจะถามว่า ทำไมไม่จัดที่ดูไบล่ะ ก็ที่นั่นน่ะ เป็นศูนย์กลางการค้าไม่ใช่หรือ ที่จริงฑูตพาณิชย์ไทยที่นั่นก็สนับสนุนนะคะ แต่ค่าใช้จ่าย ต่างกันลิบลับ และอีกอย่าง ทางการชาร์จาห์เขาก็ให้ความสำคัญกับงานนี้มาก
ขนาดสมัยนั้น ไปขอวีซ่าแบบmutipleเข้าหลายครั้ง ยังได้พบตัว และพูดคุยกับท่านกงสุลเอมิเรตส์ แค่ท่านอยากอธิบายว่า นโยบายการให้mutiple visaกับเรานั้น ไม่มี เข้ากี่ครั้ง ก็ต้องขอทุกครั้ง แต่ท่านจะโอนอ่อนให้เป็นกรณีพิเศษ คือขอปุ๊บ ได้เร็ว และได้อยู่นาน
โธ่ ดิฉันจะไปอยู่นานทำไมล่ะคะ
ท่านบอกดิฉันว่า งานนี้ สร้างจุดเด่นให้กับชาร์จาห์ เราจึงจุเข้าในเนื้อหาของหนังสือแนะนำประเทศเลย หนังสือที่ว่า เล่มหนาปึ้ก พิมพ์กระดาษอย่างดี สี่สี
กงสุลท่านหนุ่มมากนะคะ โสดหรือไม่ไม่ทราบ แต่สุภาพ และชื่นชมอาหารไทยมาก โดยเฉพาะต้มยำกุ้ง...
น่าเสียดาย ที่ปัจจุบัน ทีมงานไทยของกรมฯที่คลุกคลีกับทีมดิฉันเขาย้ายตำแหน่งไปบ้าง เกษ๊ยณไปบ้าง ได้ดิบได้ดีกันหมด
ทีมใหม่ที่เข้ามาทำ ไม่มีไอเดียใหม่มาสร้างความฮือฮาให้เอมิเรตส์
ทราบว่า จำนวนผู้ส่งออกที่ไปออกงานในปีต่อๆมา น้อยลง บางท่านก็ตอบอ้อมแอ้มว่า ได้ผล..
ไม่รู้จริงหรือไม่จริง ที่แน่ๆ ไม่มีงานนี้แล้วค่ะ



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 25 ก.ย. 08, 09:53
ไปเมืองอาหรับ ทำให้ดิฉันนึกถึงเพื่อนหนุ่มสาวชาวอาหรับคู่หนึ่ง สมัยเรียนด้วยกันในต่างประเทศ เพื่อนหนุ่มสาวคนนี้ได้ทุนมาอบรม ทั้งสองคนไปสรรหาระบำหน้าท้องจากสถานฑูตมาให้เพื่อนๆพวกเราดูกันในวันพิเศษของชาติเขา
พูดถึงระบำหน้าท้องพวกเราคนไทยคงจะนึกออกนะคะ ว่าเป็นระบำที่ต่างจากฮาวายส่ายสะโพกพลิ้วๆ
นี่เขาขยับหน้าท้องค่ะ
และส่วนของเอว เขาจะต้องห้อยเข็มขัดพลอยวับๆ ที่มีกระดิ่งเล็กๆกรุ๋งกริ๋ง
เมื่อได้ชมจริงๆ ชื่นชมมากเลย
สวย และลีลาน่ารัก เซ็กซี่
หมายเหตุ คนเต้นต้องรูปร่างงามนะคะ ไม่ใช่อวบแบบนางเอกสาวในหนังอินเดีย
ปีก่อนนี้ ระบำหน้าท้องฮิตมาก ที่สิงคโปร์
ป่านนี้ดูกันจนเบื่อไปแล้วมั้ง


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 26 ก.ย. 08, 11:16
งานไทยแลนด์เอ็กซิบิชั่นเราจัดกันในเดือนกันยายน อากาศที่ดูไบยังร้อนมาก ดิฉันไม่มีโอกาสไปช่วงอากาศเย็นที่ฑูตพาณิชย์เล่าให้ฟังว่า ขับรถขนาดใส่ถุงมือ มือยังสั่นเลย
เอมมิเรตส์เดี๋ยวนี้ปลูกต้นไม้ เนรมิตน้ำจืดจากทะเล เก่งเท่าๆกับเนเธอร์แลนด์
จำได้ว่า อยู่ในโรงแรม หนุ่มๆไทยเราดื่มเบียร์กันอย่างมีความสุข พวกนี้อยู่เมืองไทยไม่ค่อยดื่ม พอมาเมืองต้องห้ามเกิดฟิตอยากจะดื่มเสียหน่อย เพื่อสนุกสนานกับเสรีในประเทศที่เข้มงวด
เรื่องอย่างอื่น ก็เสรีไม่ได้ ทางออกของหนุ่มๆมีอย่างเดียว
ยิ่งพวกทำงานก่อสร้างจากไทย ดูตากันไป ดูตากันมา จะเกิดปิ๊งลืมลูกเมียที่บ้านกันบ้างหรือเปล่าไม่ทราบ
แต่ไทยแลนด์เอ็กซิบิชั่นในเมืองฝูโจว หนุ่มๆพวกเราถูกสั่งนักสั่งหนาว่า อย่าได้เผลอไปสุมสี่สุมห้ากับสาวๆในบาร์ในผับเชียว
โทษรุนแรงมาก หรือบางที ก็โดนแบล็คเมล์ก็มี
หนุ่มๆเราท่าทางจะเชื่อฟังดี
ครั้นย้ายเมืองไปทำงานส่งเสริมสินค้าที่เมืองซัวเถา ทำท่าว่าจะเปลี่ยนใจไม่กลัวเสียแล้ว เพราะเงื่อนไขเปลี่ยนไป เมืองนี้ อย่างกับเมืองเพลย์บอยงั้นแหละ มีหมด บาร์ คาราโอเกะ ไนท์คลับ เหมือนเมืองไทยเรา
ที่ใจยังไม่แตก ก็พยายามถือศีลกันต่อไป
ดิฉันเคยไปนั่งที่คาราโอเกะชั้นดี หนุ่มๆมีสาวจีนผิวพรรณงาม มาร้องเพลงด้วย ตอนแรกเธอก็ดูดีหรอก แต่พอเปล่งเสียงร้องอันแหลมเปี๊ยวราวกับเล่นงิ้ว
พวกหนุ่มไทยที่ทำท่าเจ้าชู้กลับตัวกลับใจทันที..
หันมาพยักเพยิดส่งสัญญาณกัน แล้วก็แอบกลั้นหัวเราะ..บางคนกลั้นไม่ไหว ออกไปขำนอกห้อง วงแตก...
เฮ้อ สวยเสียเปล่า ร้องเพลงที หมดสวยกันง่ายๆเลยแฮะ
..


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 26 ก.ย. 08, 11:58
คอนเส็ปท์ของงาน thailand exhibition in Shantou ควรจะเป็นอย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องประชุมถกกันหลายตรลบ
ท่านรองทรงชัย ใสเศวตวารีอีกนั่นแหละ ที่เป็นหัวหอกของการวางแผนเปิดประตูสินค้าไทยไปเมืองซัวเถาครั้งนี้
ซัวเถา เรียกแบบแต้จิ๋ว แต่จีนกลางออกเสียงว่า ซ่านโถว
คนไทยเชื้อสายจีนส่วนใหญ่มาจากเมืองนี้ จะด้วยเป็นคนเกิดเมืองนี้ หรือเมืองใกล้เคียง ก็จะมาลงเรือที่ท่าเรือ แล้วรอนแรมกลางทะเล มาไกลจนถึงสยาม ปักหลักทำมาหากินอย่างขยันขันแข็งออกลูกออกหลานมาหลายชั่วอายุคน
แซ่ไหน เป็นแซ่ไหน ก็พยายามรักษากัน
เมื่อดิฉันยังเด็ก จึงมีเพื่อนๆลูกจีนเยอะแยะ รุ่นที่ยังใช้ชื่อจีน เพราะๆที่ดิฉันไม่รู้ความหมาย เช่นเซาะคิ้ม ซุ้ยวา บ๊วยเฮียง กิมเอ็ง เตี๊ยกกุง ลี่ฮุ้ง เก๋มากๆค่ะ กลายเป็นคลาสสิค เดี๋ยวนี้ คุณเธอทั้งหลายเปลี่ยนชื่อไปหมดเป็นสุภาณี สุกานดา สุภร  อรุณวรรณฯลฯ ขาดเอกลักษณ์ไปเลย
เมืองนี้จะว่าไป ก็บรรพบุรุษส่วนหนึ่งของเราๆ
แล้วจะคิดคอนเส็ปท์ว่า บ้านพี่เมืองน้องได้ไหม
เจอปัญหาแน่ ใครเป็นพี่ ใครเป็นน้องดีล่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 26 ก.ย. 08, 13:26
เอาหละ เมื่อสยามก็ไม่ยอมเป็นน้อง จีนก็อาจจะไม่อยากเป็นน้องเหมือนกัน เราก็ทิ้งคอนเส็ปท์บ้านพี่เมืองน้องไปซะ
ครีเอทีฟห่ามๆบางคน อาจจะนึกถึงเสื่อผืน หมอนใบ ในอดีต ที่คนจีนมาตั้งรกรากเมืองไทยโดยที่มีของติดตัวมาแค่นั้น เขาว่ากันว่า มาสยาม ถือว่าเขียว อากาศดี และอุดมสมบูรณ์ ก็ตามๆกันมา
จะเอามาเป็นคอนเส็ปท์ ท่าจะไม่สวยค่ะ
เซ้นซิทีฟมาก..
จุดประสงค์ของงาน คือการค้าขาย เรานำของไปขายเขา ก็ต้องเสนอสิ่งที่คนที่จะมาชมงาน รู้สึกในทางบวกหน่อย
และงานนี้ ก็ไม่ใช่โซโล่โชว์เสียด้วย
เป็นงานใหญ่ที่ชาวจีนโพ้นทะเล เขากลับมาเจอกัน
เป็นเทศกาลอาหารด้วย ในฮอลล์จึงไม่ได้มีงานแสดงสินค้าจากประเทศของเราอย่างเดียว ยังมีสินค้าจากเมืองต่างๆนอกมณฑลมาออก รวมถึงฝูโจวด้วยสิ
เพราะฉะนั้น จะยิ่งใหญ่อย่างที่ชาร์จาห์นั้น ไม่ใช่เสียแล้ว
แต่ถึงเราจะเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของงาน ก็มีวิธีอยู่ดีน่ะแหละ ที่จะให้ส่วนนั้น เด่นขึ้นมาให้จงได้
เป็นเรื่องท้าทายกึ๋นนะคะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 27 ก.ย. 08, 10:43
เราพยายามหา key visual ที่จะใช้สำหรับงานแสดงสินค้าที่นี่ก่อนค่ะ
จำได้ไหมคะว่า ที่ฝูโจว เราใช้พญานาคและมังกร ประสานกัน
ที่นี่เราควรจะใช้อะไรดี ที่สื่อถึงการประสานใจกันเช่นเดียวกับที่ฝูโจว
ไอเดียจบกันตรงที่เรือสำเภาค่ะ..
แต่จะต้องเข้ากับข้อความที่เราคิดด้วย
ผลสุดท้าย เราก็ได้คำที่ทั้งไทยทั้งจีน เห็นพ้องกัน
นั่นก็คือ ไถ้ซ่าน อี่เจียชิง
แปลว่า ไทยซัวเถา เราคนบ้านเดียวกัน...
ก็หมายถึงเราน่ะ ไม่ใช่คนอื่นคนไกล ค้าขายติดต่อสัมพันธ์กันแต่โบราณ จนออกลูกออกหลานกันมาถึงรุ่นนี้ ที่แท้ เราก็คนบ้านเดียวกัน จะไม่สนับสนุนกันได้ไง
บ้านเดียวกัน มันก็สื่อถึงชนชาติ ความเป็นชาวผิวเหลือง กินคล้ายกัน อยู่คล้ายกัน....
เลือดข้นกว่าน้ำแหละ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 27 ก.ย. 08, 12:53
งานนี้ททท.มีเอี่ยวด้วย ไช่วยกันโปรโมทให้ชาวซัวเถามาเที่ยวไทย พี่ที่เป็นหัวหน้าทีมคือคุณปิยะวัธน์ สงขาว
นอกจากเราจะโปรโมทอาหารซึ่งจิตรโภชนานำไปแล้ว ยังมีหุ่นละครเล็ก โจ หลุยส์ และระบำรำฟ้อน รวมถึงกระบี่กระบอง
ได้ใจแฟนๆชาวจีนจนเวทีแทบถล่ม
..
ผัดไทย กับต้มยำกุ้ง เป็นอาหารหลักที่ถูกใจประชาชนชาวซัวเถามาก
และอีกหลายอย่างค่ะ เช่นทุเรียนกวน
ดิฉันช่วยกับคุณพอลร้อง อี๋เก้อ เหลี่ยงไขว้... ขายหมดเกลี้ยง

อะไรที่เกี่ยวกับสมุนไพรและความงาม ขายได้ อาเจ๊อาซ้อหอบเงินกลับกันเงียบกริบ..


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 01 ต.ค. 08, 13:55
ผลิตภัณฑ์ย้อมผม ที่ไปหาตัวแทนจำหน่ายเมืองจีนของไทยเราชื่อว่า โลเลนค่ะ
เล่นพ้องเสียงกับลอรีอัลหรือเปล่าไม่ทราบ
แต่ฮือฮาทีเดียว ผู้ที่ควบคุมไปคือช่างผมคนดังแห่งฮอลลีวู้ด คุณประเสริฐศักดิ์ อาณากร หนุ่มหน้าเข้ม นายแบบซันซิลเก่า
คุณประเสริฐศักดิ์เป็นที่ปรึกษาบริษัทนี้ ผลิตภัณฑ์ผมของเขายืนยงมาตั้งแต่รุ่นคุณน้า ด้วยยี่ห้อ จัสซะโมเดิ้นนนน..
ว่าไปแล้ว บรรดาแฟนๆของจัสท์โมเดิร์นยังอยู่กันหรือเปล่าไม่รู้ หยกๆนี่ ดิฉันเห็นโลเลนมีขายแล้วในเซเว่น
แบรนด์นี้เคยส่งไปขายในจีนหนหนึ่ง แล้วก็ถุฏก็อปไปเรียบร้อยที่กวางโจว
คราวนี้ กล้า และใจถึงฮ่ะ มาบุกเมืองซัวเถาโดยไม่กลัวถูกก็อป
ต้องแน่จริง .. คนจีนยังกับมด แถมสาวๆยังยอมใช้จ่ายเงินซื้อความสะดวกสบายอีก
ยี่ห้อนี้ สำเนียงซัวเถาฟังแล้ว แปร่งมากค่ะ เขาเรียก โหลเหลน..
ฟังแล้ว สวยไหมคะ คุณผู้อ่าน


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 08 ต.ค. 08, 23:36
ผลิตภัณฑ์ไทยอีกอย่างที่ฮือฮาคือ กวาวเครือค่ะ อาเจ๊แกไม่ได้หอบสมุนไพรไปนะคะ แกหอบน้ำมันนวดทรวงอกค่ะ โอย..ขายดีระเบิด แล้วก็ให้บังเอิญมาก เจ๊แกคงทำบุญมาดี คืนแรกที่เปิดงาน จีนเขาเอาสารคดีเกี่ยวกับสมุนไพรกวาวเครือมาออก ว่ามันมีผลกับขนาดของทรวงอก
แล้วคุณสังเกตไหมล่ะว่าขนาดทรวงอกของสาวจีนนั้น ไม่ค่อยมีหรอก ประเภทอึ๋มๆ
บูธเจ๊แกก็แทบถล่มสิคะ
แล้วแกก็ประเภทฮาร์ดเซลสุดๆ มีพีโอพี ประเภทอกเป็นอก ดูแล้วครีเอทีฟอย่างดิฉันช็อค ก็มันแสนจะเกินขนาดสุดๆ ชัดเจนแบบโจ๋งครึ่ม ต้องปิดตาข้างหนึ่งค่ะ
ขืนโฆษณาในเมืองไทย อย.ต้องเรียกไปเฉ่งแน่
แต่เจ๊ไม่สนฮ่ะ ว่าจะโฆษณาเกินจริงไหม เธอพูดจีนปร๋อ ขายแบบปิดประตูตีแมวทุกวัน
...ได้ผลหรือไม่ได้ไม่รู้
ขากลับ เจ๊นั่งยิ้มอย่างสงบ .. คนอื่นขายไม่ออก ขืนบอกว่าเจ๊ขายหมด ได้โดนอิจฉาปะไร
ดิฉันแอบมองแล้วก็ อืมม์.. แน่จริงๆเจ๊


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 09 ต.ค. 08, 00:53
สถาบันนวดวัดโพธิ์ก็เป็นอีกรายที่ คิวยาวเหยียด นวดฟรีค่ะ แต่ไปๆมาๆ คงไม่ไหว คิดสตางค์ดีกว่า และขายน้ำมันนวดสมุนไพรไปด้วย
ดิฉันสังเกตว่า ธุรกิจนวดแผนไทยของเราไปงานไหน คนก็ขึ้นกันคึกคัก
ยกเว้นไม่มีในตะวันออกกลาง เพราะวัฒนธรรมที่แตกต่าง
นวดแผนไทยเป็นการแสดงภูมิปัญญาที่ร่ำรวยของไทย คนจีนเขามีวิธีแมะ คนไทยก็มีวิธีจับเส้น
และส่วนผสมสมุนไพรที่จีนไม่มี
การจัดบูธ และดีสเพลย์ เราไม่เอาขมิ้น ไพล ใบมะขาม ฯลฯมากองบนภาชนะหม้อดินชาวบ้านอีกต่อไป
ภาชนะที่ใช้ต้องหรู ภาพที่ประกอบต้องเน้นที่คุณค่าและความหรูหราของสปาไทย แม้เงินทองการจัดและออกแบบจะน้อย จะด้วยนโยบายกรมที่ไม่ให้ความสำคัญกับเมืองนี้มากนัก หรืออย่างไรไม่อาจบอกได้
คนออกแบบศิลปของงาน ก็ใช้รสนิยมเลิศ รายจ่ายต่ำพอสร้างภาพพจน์ได้กล้อมแกล้ม


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 10 ต.ค. 08, 09:47
ในแง่ธุรกิจการค้า การผลิต เมืองไทยมีคู่แข่งที่น่ากลัวเช่นจีน เวียดนาม แลอินโดนีเซีย แต่ในแง่ของธุรกิจบริการ เรายังเป็นหนึ่งเสมอ เพราะเราเป็นชาติที่อ่อนโยน มีน้ำใจ สังเกตไหมคะว่ามีกี่ชาติในโลกกันล่ะ ที่เวลาพูดจาต้องมีคะ ขา นะคะ นะครับ ครับ ค่ะ   ไม่มีหรอก
เดี๋ยวนี้ วัฒนธรรมอินเตอร์เน็ต อีเมล หลายคนที่ใช้ภาษาอังกฤษในการติดต่อกัน แสดงความอ่อนหวาน นอบน้อม เป็นไทย ด้วยการใส่ na ka, naja , na krub กันสนุกสนาน
สำหรับจดหมายเขียนกันเองคงไม่มีข้อห้ามให้ตะขิดตะขวงใจ
แต่มันแพร่ระบาดไปที่จดหมายธุรกิจด้วยน่ะสิ คนไทยเขียนให้ฝรั่งที่เป็นลูกค้าบ้าง บายเออร์บ้างคงจะดูพิลึก มากกว่าน่ารักน่าเอ็นดู
เดวิด แลนเดอร์เคยหัวเราะกับดิฉัน และบอกว่า ถ้าเอากันตามเซนส์ของภาษา ที่คนอังกฤษเวลาพูดแล้วชอบจบว่าดาร์ลิ่ง ไม่ได้หมายความว่าเขาเรียกเราว่าที่รักอย่างที่คนไทยคิด
คำว่าดาร์ลิ่งก้คือคำลงท้ายสุภาพ แบบครับ นั่นเอง
กว่าจะรู้ สาวไทยฟังแล้วหลงไปหลายรายแล้ว
ในธุรกิจบริการ ที่ไทยเป็นหนึ่งตลอดมาก็คือเรื่องของอาหารไทย ไม่ใช่แต่ฝรั่งหรอกที่จะคลั่งไคล้ ยอมจ่ายเพื่อให้ได้กินข้าวไข่เจียว ต้มยำกุ้งหรือกะเพราไก่ไข่ดาวแพงๆในยุโรปและอเมริกา คนจีนก็เหมือนกันค่ะ
ททท.ถือเป็นหน้าที่หนึ่งของเขาคราวนี้ ที่จะส่งเสริมให้คนจีนมาเที่ยวไทยและรับประทานอาหารไทย ด้วยการนำจิตรโภชนา ไปทำอาหารให้คนชิมกันฟรีๆ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 10 ต.ค. 08, 10:03
อาหารที่จิตรโภชนาพาคนระดับอาจารย์ไปทำก็มีทั้งคาว ทั้งหวาน สำหรับหวาน ดิฉันไปนั่งพับเพียบประจบอาจารย์ที่แสนจะน่ารัก ทั้งดูทั้งชิมของหวานที่ท่านทำจนมีผลกับน้ำหนัก
ความประณีตสวยงามของขนมไทย มันทำให้แต่ละชิ้น ต้องหลับตาพริ้มกิน เพื่อจะเก็บรสชาติและความงามไว้ในความรู้สึกนานเท่าที่จะสามารถ
ก็เมืองจีนน่ะ มีแต่ขนมจีบ ซาละเปา ขนมผักกาด ขนมไหว้พระจันทร์นี่คะ ไหนจะมาสู้ขนมน้ำดอกไม้  อันงามงด ขนมสัมปันนีที่สะสวย ขนมเบื้องที่กรอบอร่อยสดชื่นแทบจะกราบ สาคูและข้าวเกรียบปากหม้อที่อร่อย ไม่หยาบและลวกเหมือนที่หาซื้อได้ข้างทางหรือตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป
นั่งดูอาจารย์ทำ เหมือนกำลังพิจารณางานศิลปะค่ะ
ท่านใส่ชุดไทยๆด้วย แต่ไม่ใช่ระดับพระราชนิยมนะคะ หมายถึงผ้าไทย คนจีนมากลุ้มรุมรอบๆเวที เด็กๆผู้หญิงน้ำลายจะยืดเอา น่าสงสาร
ส่วนด้านอาหารคาวนั่น ไม่ต้องพูดถึงค่ะ วันที่สองต้องไปหาที่กั้น และเชือกมารอบเวที เพราะพี่น้องชาวจีนเหมือนจะสกรัมคนทำไปด้วย
เมนูที่รอคอย มีดังนี้
ก๋วยเตี๋ยวเส้นจันท์ผัดไทย ต้มยำกุ้ง ...
ผัดไทยนั้น ผัดแต่ละมื้อ ใส่จานกระดาษแจกตามคิวแทบจะไม่ทัน คนรอมากกว่าปริมาณ ในหนึ่งจานที่เราส่งให้ เราให้ส้อมแต่ละท่านไว้แล้ว พอมือยื่นจานให้ พี่น้องชาวจีนก็ใช้ส้อมนี่ละ จิ้มชิมกันคนละหนุบหนับเป็นอันเรียบร้อย
มีอยู่คนหนึ่ง เห็นแล้วพวกเราตะลึง
ใช้ส้อมของตัวกวาดผัดไทยแล้วเอาปากไปรออยู่ที่ปลายจานเลย กวาดเข้าปากปร๊าดคนเดียวทั้งจาน
ชาวจีนรอบๆมึน ชาวไทยช็อค คิดในใจว่า โอ้อุเม่เจ้า.. ตะกละขนาดนั้นเชียวหรือฟระ
ส่วนต้มยำกุ้งถ้วยใครถ้วยมันแล้วกัน ไม่มีนโยบายแบ่ง ใครมารอได้ ใครไม่มาอด


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 10 ต.ค. 08, 20:27
สิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ดิฉันนึกถึงงานที่เมืองฝูโจว ที่เรานำทุเรียนหมอนทองไปให้ลองชิมค่ะ
ทุเรียนไม่ใช่ผลไม้ที่หาง่าย ราคาก็แพงมาก เมื่อเรานำไปโปรโมท ก็ต้องมีส่วนหนึ่งที่ตัดแจกให้ชิมฟรี ชาติไหนๆก็ชอบของแปลก ของแพง ของดี และของฟรีอยู่แล้วนี่คะ ชาวฝูโจวก็บอกต่อกันจนคิวชิมทุเรียนยาวเหยียด แน่นปั๋ง
เราแจกไม้ขิ้มลูกชิ้นให้คนละอัน แล้วตัดทุเรียนสดเป็นชิ้น ๆเล็กๆ คนมีมารยาทเขาก็จิ้มชิ้นเดียว แล้วก็รีบไป ถ้าอร่อย ก็กลับมาต่อแถวจิ้มใหม่ ไม่มีใครว่า
แต่คนหนึ่งค่ะ ถึงคิว ก็หยิบไม้ กระหน่ำจิ้มๆๆๆๆๆด้วยความรวดเร็วแม่นยำจนเต็มไม้
แล้วก็ออกไป...
ไม่อายฟ้าดินหรือเพื่อนร่วมชาติเล้ย.. :o :o :o


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 11 ต.ค. 08, 20:10
สิ่งที่น่าตื่นเต้นคือการจับผู้ใช้เงินปลอมมาซื้อของที่ขายปลีก แม้บรรดาผู้ส่งออกจะได้รับการอบรมจากเจ้าหน้าที่แล้ว เรื่องการดูเงินก็ตาม
ก็โดนดีจนได้
ส่วนหนึ่งก็จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน
หรือรู้ก็สายไป
ในวันต่อไป ตำรวจพร้อม ผู้ส่งออกพร้อม โจรชะล่าใจ
พอจับได้ปุ๊บ ก็โวยกันลั่น ตำรวจวิ่งไล่จับได้ทันควัน ดิฉันก็ถ่ายรูปได้ทันควันเช่นกัน
เป็นหญิงหนึ่ง ชายหนึ่ง...


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 20 ต.ค. 08, 22:37
เพราะประชากรของจีนทุกเมืองมีจำนวนมาก ประกอบกับการลงทุนประชาสัมพันธ์ คนจีนให้ความสนใจกับงานมาก มากันขวักไขว่ พิธีกรสาวของทีวีช่องหนึ่งมาสัมภาษณ์และชมการสาธิตผัดข้าวผัดของบูธข้าวสินธนา ซึ่งทำการบ้านดี เตรียมคนทำกับข้าวมาหนึ่งคน และพิธีกรหนุ่มพูดจีนได้คล่องปรื๋อ
ดิฉันมีความคิดว่า เมืองหลายเมืองที่ผู้ส่งออกของไทยไปออกบูธ มักไม่ค่อยได้ลูกค้าที่เป็นธุรกิจต่อธุรกิจ ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าปลีก เป้าหมายของงาน หากมุ่งขายปลีก ก็ไม่คุ้มกับการลงทุน ยกเว้น มูลค่าของต่อชิ้นจะสูงมาก
เวลาจะไปออกบูธที่เมืองจีน พวกเจ้าหน้าที่กรมส่งออกมักจะต้องกุมขมับ ว่าจะนำบริการหรือสินค้าแบบไหน ไปออกงานดี เพื่อให้เกิดการติดต่อการค้าอย่างเป็นล่ำเป็นสันและต่อเนื่อง
เพราะผู้ส่งออกส่วนหนึ่งละ ที่ถอยกรูด
จะเอาอะไรไปสู้จีนได้ หนึ่งละ
สอง ถ้าเอาไป ของจะถูกเลียนแบบไหม
สาม จะเกิดความสัมพันธ์ทางการค้าไหม
และสี่ โดนเก็บภาษีการขายทุกวัน จะไหวหรือ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 22 ต.ค. 08, 08:33
ไปออกงานที่เมืองชาร์จาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ เขาไม่มีการหักภาษีการขาย แต่ไปเมืองซัวเถาน่ะชัดมาก ตกเย็น พนักงานของฮอล จะมาเดินเช็คยอดขาย เก็บเงิน ทำเอาคนไทยที่ไปออกบูบ่นพึมพัมไปตามๆกัน
ส่วนฝูโจวนั่น โดนตั้งแต่ขาเข้าแล้ว ศุลกากรมาเต็มฟลอร์นับแต่วันแรก ตรวจของทุกหีบห่อ จะหักอย่างไร ดิฉันก็มัวแต่ยุ่งกับนาค มังกร และทุเรียนยักษ์ จึงไม่ได้มีเวลาติดตามมาเล่าให้ผู้อ่านฟัง
แม้แต่ที่ฮิวส์ตัน เท็กซัส ก็ไม่มีการเก็บภาษีการขายแต่อย่างใด อุตส่าห์ถ่อสังขารหอบสินค้ากำไรไม่มากไปขายถึงนู่นแล้วยังมาหักภาษีกันอีกก็แย่แล้ว
เพราะหลักการออกร้าน เขาไม่ได้หวังขายปลีก เขาหวังจะได้พบตัวแทนการค้าต่างหาก
ขายเป็นตูคอนเทนเนอร์ ไม่ใช่ขายเป็นชิ้นสองชิ้น
ดิฉันน่ะ ค้าขายของอย่างพวกที่ไปออกร้านไม่เป็นหรอก ขายเป็นแต่ไอเดียค่ะ ขายปลีกแบบกว่าจะได้สักชิ้น ต้องพ่นภาษาไฟแลบแปลบปลาบ มันไม่มัน แต่ถ้าเป็นดีไซน์ ถึงไหนถึงกัน
คนฟังเพลิน ไม่ซื้อถือว่า ต้องกลับไปเกิดใหม่
เป็นครีเอทีฟไม่ได้  ว่างั้น..


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 22 ต.ค. 08, 13:26
ตอนแรกๆ ก็หลงดีใจ ว่าอเมริกาคงไม่เก็บภาษี แต่จริงๆแล้ว ที่ฮิวส์ตัน พอจบงาน เราไปเข้าคิวรายงานการขาย เพื่อให้สำนักงานกฎหมายของไทยที่นั่นหักภาษ๊ให้แบบรวมๆ บริการดีมาก คิวยาว ทั้งที่ขายไม่ดีกันหรอก เพราะเป็นเมืองอุตสาหกรรม ถ้าไม่ได้คนไทยด้วยกันแถวเมืองใกล้ๆมาซื้อ เหมาบูธ สงสัยหน้าแห้งกลับเมืองไทย
แต่ยังไงก็ไม่ขูดรีดเท่าเมืองจีน ที่พวกผู้ส่งออกโวยกัน
ที่ฮิวส์ตัน หรือฮุสตันถ้าออกเสียงแบบไทยๆ มีรุ่นน้องครีเอทีฟที่ฟาร์อีสท์ ชื่อเจ้าป้อม ลาออกเป็นการถาวรไปทำเสื้อผ้าเด็ก อุตส่าห์นำเสื้อผ้าเด็กของเธอที่เริ่ดเรื่องดีไซน์เพราะเธอกับสามีลงทุนออกแบบเองไปออกร้านด้วย ตบยุงซะเบื่อ เพราะมีแต่คนมาซื้อปลีก หนอย เสื้อผ้าชั้นดี แบรนด์ดัง ไม่ขายปลีกให้ใครง่ายๆหรอก
แค่ผลิตทุกวันนี้ยังไม่พอขายเลย
ถ้าไม่ใช่เอเจ้นท์ หรือบายเออร์มา อย่าหวังว่าจะได้ใส่
ดิฉันไม่ขายให้ค่ะ
เชิด...


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 29 ต.ค. 08, 11:31
หัวครีเอทีฟ คือพวกที่ช่างคิด ช่างดีไซน์ พลิกแพลงสร้างมูลค่า จริงๆแล้วในเอเจนซี่ เขาไม่ได้เป็นกันแค่พวกครีเอทีฟ พวกพีอาร์ มีเดีย หรือแม้แต่client serviceก็ไม่เบา สถานที่บางแห่ง มีคนหมู่มาก ใช้เวลาสักพัก เราก็พอแยกแยะได้
บางทีดิฉันเข้าจิม ไปออกกำลังกาย เห็นพวกเอเจนซี่ด้วยกันเดินอยู่ ก็รู้ได้ ว่า เขามีอาชีพเดียวกับเรา
มันไม่ใช่ด้วยรูปแบบการแต่งตัว แต่ภาษากาย มันบอก
วันนี้ ฉากของเอเจนซี่เปลี่ยนแปลงไป แยกส่วนที่ทำรายได้มหาศาลคือบริการสื่อออกมาต่างหาก
งานมีเดีย ซึ่งมักจะตกในมือพวกจบเศรษฐศาสตร์ บัญชี การเงินการคลัง ก็เร้าใจเรื่องรายได้มากกว่า
บัณฑิตรุ่นใหม่ๆ อาจจะอยากไปทำงานสายนั้นมากขึ้น
ยุคนายห้างเทียมท่านคุมฟาร์อีสท์ พี่ๆมีเดียเขาไต่มาจากพาณิชย์หรือธุรการทั้งนั้น พวกพี่พวกนี้ถึงจะไม่ได้เรียนร่ำสูงส่ง ก็แสนจะเก่ง ทำงานสมัยนั้นไม่มีคอมพิวเตอร์ช่วยหรอก แผนงานออกมาที แก้แล้วแก้อีกอย่างวันนี้ คีย์วินาทีเดียว ตัวเลขแก้ไขอัตโนมัติไปทั้งแผน
โลว์เท็ค แต่ไฮเอฟฟิเชนซี่
สมัยนี้ งานทุกอย่างเหมือนเดิม แต่เสียเวลากับตัวเลขน้อยลง
ปัญหาใหม่ๆเข้ามา ยกตัวอย่าง ในเมื่อคุณเป็นเอเจนซี่ของสินค้านมยี่ห้อ ที่ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนผสมของเมลามีน
คุณจะทำอย่างไร






กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 30 ต.ค. 08, 16:39
เหตุการณ์นี้ สร้างความตื่นตัวและตื่นกลัวทั่วโลก วันหนึ่งได้forward mail เกี่ยวกับ melamine หลายต่อหลายครั้ง
รื้อเรื่องเก่ามาเล่าอีกที ถ้ายังจำกันได้ มีเรื่องของอุบัติเหตุการระเบิดโรงผลิตพลังงานนิวเคลียร์โรงหนึ่ง ที่เมืองเชอร์โนบิล (Chernobyl) ในสหภาพโซเวียต ปี 1986 รังสีนิวเคลียร์แพร่กระจายไปทั่ว
ถึงแหล่งผลิตนมในยุโรปเหนือ นมนำเข้าจากเดนมาร์ก สวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งยอดขายสูงในประเทศไทย ต้องเผชิญกับปัญหาความกลัวของผู้ซื้อ และผู้ขายเองก็ก่ายหน้าผาก จะกู้ภาพพจน์สินค้ากันอย่างไรดี
มีบทเรียนกันมาแล้วค่ะ




กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 31 ต.ค. 08, 13:58
 ::) ลองมีเรื่องขนาดนี้ ผู้ซื้อตกใจ ยอดขายตกฮวบ ไม่ว่าแบรนด์ไหนๆ
โดยเฉพาะคุณแม่ๆทั้งหลาย
บังเอิญเอเจนซี่ที่กุ้งแห้งเยอรมันทำงานได้ทำแอคเคานท์นมสองยี่ห้อ ที่แหล่งผลิตมาจากนิวซีแลนด์ ซึ่งรังสี ข้ามขั้วโลกไปไม่ถึง ก็เลยถือว่า ไม่ต้องทำงานวันละยี่สิบชั่วโมงหัวบาน ก็เพียงแต่ทำแอดสื่อความจริง ตีแผ่ที่มาของต้นทางนมเท่านั้น
รอดตัวไป หายห่วง ยอดขายตกบ้าง ก็กลับฟื้น
แต่ยี่ห้อที่โดนเต็มๆ เขาก็ต้องกระทบกระเทือน ประชุมหนัก เอเจนซี่ไม่ได้หลับได้นอน สิ่งที่ต้องทำเรียงลำดับก่อนหลังไม่มี ทุกอย่างดูเหมือนต้องทำพร้อมๆกันไปหมด
กำลังปัญญามีเท่าไหร่ ก็ต้องขนมา  สมองอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องมีเงินด้วย
ครีเอทีฟ มีเดีย พีอาร์ รีเสิช เออีและเอไอ้(ขอโทษ อาจไม่สุภาพ แต่เราเรียกกันว่าอย่างนั้นจริงๆสำหรับพวกที่ทำงานด้วยปาก)ระดมกันเข้าประชุม
เขียนเป็นฉากละครได้เลย
สำหรับเรื่องเมลามีนในนม และอาหารที่มีส่วนผสมของนมนี่ก็ถือว่า เป็นเรื่องที่เอเจนซ๊ยุคนี้ ต้องทำงานหนัก
การสุ่มตัวอย่างของเจ้าหน้าที่อย.มีผลต่อนมบางยี่ห้อเท่านั้น แต่ก็ทำให้ผู้บริโภคตื่นตัว รู้จักอ่านข้อความบนฉลากกันขึ้นมา แค่นั้นไม่พอ เพราะเวลามีสารอันตราย เขาก็ไม่ได้บอกโต้งๆ อาจจะมาทางภาษาที่นักโภชนาการเท่านั้นรู้เรื่อง สมัยทำงานเรื่องฉลาก ดิฉันต้องตรวจพรูฟภาษาพวกนี้ จนแทบจะจำดส่วนได้ขึ้นใจ
แชมพูเช่นเดียวกัน หลายคนที่ทราบว่า เราไม่ควรใช้แชมพูที่มีส่วนประกอบของsls ดิฉันไปยืนพลิกดูในซูเปอร์ เหมือนงมเข็มในมหาสมุทรค่ะ


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: CrazyHOrse ที่ 01 พ.ย. 08, 09:34
เจ้า SLS หรือ Sodium Lauryl Sulfate นี่แสบครับ ผมจำได้ขึ้นใจ

สิบปีที่แล้ว ผมยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร ได้ฟอร์เวิร์ดเมล์เรื่อง SLS นี่มาจากเพื่อน ด้วยความหวังดี เห็นว่าเป็นข่าวร้ายผมก็เลยส่งต่อไปให้ทุกคนในองค์กร

ได้เรื่องเลยครับ... โดนอีเมล์ข้ามโลกมาด่าเละเทะเลย ตอนนั้นเสียศูนย์ไปเลย เพราะคิดว่าไอ้เราก็หวังดีแท้ๆ ทำไมต้องด่ากันซะขนาดนี้

ตอนหลังถึงเข้าใจ อีเมล์เรื่อง SLS นี้เป็น Hoax ครับ SLS ไม่ได้เป็นพิษอย่างที่อีเมล์นี้บอก เจตนาของผู้ส่งเมล์นี้คือเพื่อให้คนส่งต่อกันออกไปมากๆ จนรบกวนระบบอินเทอร์เน็ต

ทุกวันนี้จะพบเรื่องแหกตาแบบนี้ได้มากมาย

ผมเลิกฟอร์เวร์ดเมล์พวกนี้ไปนานแล้วครับ

เข็ด...

ดูข้อมูล hoax เรื่อง SLS ได้ที่นี่ครับ
http://www.snopes.com/inboxer/household/shampoo.asp (http://www.snopes.com/inboxer/household/shampoo.asp)


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 01 พ.ย. 08, 21:31
ขอบคุณคุณเครซี่ฮอร์สค่ะ ที่ให้ลิงค์มา เรื่องแหกตาทางฟอร์เวิร์ดเมล์เรื่องนี้ ถึงกับทำให้มีเมล์ด่าข้ามโลกเลยหรือคะ
นั่นน่ะซี ขนาดแชมพูที่ว่า เจ๋งๆ ยังมีเลย หาทางเลี่ยงได้ก็ไปใช้ของที่บ้านพี่ผลิตเองเสียเลยหมดเรื่องหมดราว เรื่องจริงค่ะ.. (แต่ฟองไม่มีเลย.. รู้สึกไม่ชินอย่างแรง)


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: Hotacunus ที่ 03 พ.ย. 08, 06:28
เรื่องแหกตาในตำนานอีกเรื่องคือ MSN และ Hotmail จะระงับการใช้บริการ ถ้าไม่ส่งเมล์ต่อไปอีกอย่างน้อย 10 คน  ;D

ได้รับมาตั้งแต่สิบปีที่แล้ว เมื่อเร็วๆ นี้ก็ยังมีเพื่อนส่งมาให้อีก เลยต้อง Fwd กลับไปบอกทุกคนว่า มันเป็นเมล์อำ  ;D



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 03 พ.ย. 08, 14:17
โอ้ ถ้าสองเจ้านี้ งดให้บริการเมล์ เราคงอึดอัดขัดใจไปนาน ปปมด. ::)
อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ พวกเมล์ส่งต่อนี่ ที่มันตลกคือ เรื่องที่เคยตลกเราอ่านมานานมากตั้งแต่เรายังขำเป็นสิบๆปีก่อนมีเมล์ข้ามโลก เดี๋ยวนี้เรื่องพวกนั้นก็ยังส่งย้อนเวลากลับมาให้เราขำได้อีก
ไม่ส่งต่อค่ะ กลัวเชย :(


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 03 พ.ย. 08, 14:33
เพิ่งเจอนักโฆษณาเมื่อวานนี้ คุยเรื่องการเมืองอยู่ดีๆ ไปเรื่องเมลามงเมลามีนเฉยเลย..
จู่ๆ เขาซึ่งเป็นคนต่างจังหวัดไปเสียแล้ว เล่าว่า ผมได้ดูหนังมะลิ เมื่อวันก่อน ดูแล้ว ไม่เหมือนหนังมะลิเลยดิฉันงง กำลังกลับรถอยู่ สะดุดพรืด เครื่องดับ
ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกค่ะ รถมันเก่าไปหน่อย ... :-\ ;D
อะไรคะ เป็นอย่างไร ไม่ใช่หนังมะลิ แปลว่ามันดีมาก หรือว่า มันห่วยมาก .. งง ???
ก็หนังมะลิในสายตาของดิฉันน่ะ กลางๆนี่คะ
แต่เขาน่ะ คนทำมะลิตัวจริงมาก่อน
หนังมันขายโรงงานครับ หนังทำเป็นช่องๆ แบ่งเป็นเฟรมๆ แล้วก็มีโลโกมะลิสลับ ขั้นตอนการผลิตต่างๆนานา ดิฉันถามตรงเป้า แล้วcopyน่ะ ว่าไง
ต้องขยายความนิดนะคะ สำหรับคนไม่รู้เรื่องโฆษณา copy ก็คือคำพูดโฆษณานั่นเอง
"ก็ขายมาตรฐานของโรงงาน ความสะอาด อะไรทำนองนี้นะครับ... เป็นผม ผมจะพูดสั้นๆเลยว่า มะลิ ไม่มีเมลามีน"
ดิฉันยกนิ้ว..
แต่เสี้ยววินาที ก็ตอบอย่างปลงๆว่า "เขียนไปงั้น ก็คงไม่ผ่านอีกน่ะแหละ"
แต่ในใจก็คิดว่า นี่คืองานที่ท้าทายอย่างหนึ่งของนักโฆษณา คุณรู้ว่าเขียนแบบนี้ไป อาจจะไม่ผ่านอย. คุณต้องมีอะไรสำรองในสมอง ที่ทำให้ผ่านอย.และผู้บริโภคก็รับความหมายนั้น
ถ้างานง่าย ใครๆเขาก็ทำได้กันหมดสิคะ



กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 05 พ.ย. 08, 21:43
กระแสหวาดกลัวเมลามีนในนมผง ลูกกวาด คุกกี้ลุกลาม สำนักงานทางราชการที่ดูแลเรื่องนี้เขาสุ่มตัวอย่างมาตรวจ  บางที อาจจะไปเจอผลิตภัณฑ์ประเภทนมผงปลอม ลูกกวาด หรือคุกกี้ที่ผลิตตามโรงงานห้องแถว หรือแถวหลังบ้านมิจฉาชีพก็ได้ ใครจะไปรู้
เป็นบาปมากเลย ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง แล้วผลิตภัณฑ์ที่กระทบกระเทือนเขาเรียกสินค้ากลับโรงงานหมด ไม่สามารถยืนยันคุณภาพได้
เสียหายค่ะ เสียหาย
แต่ถ้านิ่งนอนใจ ตายขึ้นมา มันจะยิ่งหนักหนาสาหัส
..
จำได้ไหมคะ กรณีเนื้อวัว ที่มีเชื้อวัวบ้า เล่นเอาคนไม่กินเนื้อไปนาน วัวถูกฆ่า เศรษฐกิจเสียหาย
ไข้หวัดนกระบาด รัฐบาลทักษิณโชว์กินไก่ แต่ฆ่าเป็ดไก่ไปเป็นล้านๆตัว
หรือข่าวที่ว่าแหนมเนืองญวน หมูยอ เฝอ กินแล้ว หมดสมรรถภาพ
มีข่าวแบบนี้ทีไร นักพีอาร์ นักโฆษณา งานเข้าตรึม


กระทู้: กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 07 พ.ย. 08, 09:15
เมื่อเกิดเรื่องขึ้นมา มันก็มีสาเหตุให้คนเราต้องเอาสมองมาระดมกัน จะแก้ถูกแก้ผิดก็แล้วแต่การวางแผนกลยุทธของแม่ทัพ ซึ่งก็คือคนโฆษณา
แม้แต่ปัญหาการเมือง คนวางแผนให้โอบามาที่เขากล่าวขอบคุณในวันที่ส่งวาทะผ่านหน้าไมโครโฟน สดๆสู่สื่อมวลชนและคนทั่วไป
กินใจ นุ่มนวล ลึกซึ้ง
มีความต่อเนื่องกัน มีคำคม ตัวอย่าง
และปณิธานต่างๆ เหมือนสด แต่จริงๆแห้ง มีการเตรียมการไว้อย่างดี
เชื่อว่าระดับนี้ ต้องมีimproviseแทรกบ้าง แต่แก่นของวาทะนั้น ยังคงอยู่
ฟังแล้วมันค่ะ  ฟังแล้วมีความคิดเปรียบเทียบกับวาทะต่างๆของผู้นำไทย
ที่จริงมีนายกบางคน เขาทำแคมเปญแต่ละอย่างแบบฝรั่งนะคะ แต่จะด้วยความหลงตัวเอง ไม่ฟังใครที่คิดต่าง หรือวิสัยสอพลอของคนรอบตัวก็ไม่ทราบ
เรื่องมันก็พัฒนามาแบบไม่กินใจเท่าวาทะของโอบามา
...
ขอจบกรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟแต่เพียงเท่านี้ เขียนมาเรื่อยๆจนมาถึงความเห็นสุดท้ายนี้
สวัสดีค่ะ