เรือนไทย

General Category => หน้าต่างโลก => ข้อความที่เริ่มโดย: เทาชมพู ที่ 27 เม.ย. 06, 10:51



กระทู้: คดีขุนนางสองร่าง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 เม.ย. 06, 10:51
 เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นคดีพิลึกพิลั่นคดีหนึ่งในประวัติศาสตร์อังกฤษ  กินเวลายาวนานถึง 10 ปี กว่าจะจบ
ดิฉันเคยอ่านเรื่องนี้ตอนเด็กๆ   แปลโดย ม.ร.ว. กิตินัดดา กิติยากร   ชื่อเรื่องว่าอะไรจำไม่ได้แล้ว  แต่จำได้ว่าสนุกมาก
พอโตขึ้นจะหาหนังสือภาษาอังกฤษมาอ่านเพิ่มเติม  ก็หาไม่เจอไม่ว่าในร้านหนังสือไหน  จนกระทั่งอินเทอร์เนตเป็นที่รู้จัก ให้ค้นข้อมูลได้ง่ายขึ้น  ไม่ต้องตระเวนไปตามห้องสมุด  
ก็เลยเก็บเล็กผสมน้อยจากเว็บต่างๆที่เล่าเรื่องนี้  มาตั้งเป็นกระทู้ให้อ่านกันเพลินๆค่ะ  ถ้าจะผสมโรงร่วมวงคุยด้วยก็จะขอบคุณมาก
ถ้าเคยอ่านจากที่ไหนมาแล้วก็ช่วยบอกด้วย   ถ้าหากว่ารู้จักกันแพร่หลายแล้วจะได้ลบกระทู้ทิ้ง  
เพราะพิมพ์ยาวๆมันก็เมื่อยเหมือนกัน  


กระทู้: คดีขุนนางสองร่าง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 เม.ย. 06, 10:54
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้อยู่ที่ว่า เมื่อค.ศ. 1896 (หรือพ.ศ. 2439 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว)
มีสตรีผู้หนึ่งชื่อนางแอนนา มาเรีย ดรูซ เป็นภรรยาม่ายของนายวอลเตอร์ โธมัส ดรูซ  ได้ยื่นคำร้องต่อรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของอังกฤษ
ขอให้อนุมัติยอมให้นางเปิดโลงศพของนายโธมัส ชาร์ลส์ ดรูซ  พ่อของสามีนาง ซึ่งตายไปเมื่อค.ศ. 1864 ขึ้นมาอีกครั้ง  เพื่อพิสูจน์ว่าในโลงนั้นมีศพของนายดรูซจริงหรือไม่

เพราะนางเชื่อมั่นว่านายโธมัส ช.ดรูซไม่ได้ตายจริง อย่างที่ทำทีว่าตายไปเมื่อ 32 ปีก่อน   ในโลงนั้นไม่มีศพของเขา
นายดรูซทำเรื่องมรณกรรมปลอมๆไปยังงั้นเอง  หลอกผู้คนให้หลงเชื่อว่าเขาตายไปแล้ว  
แต่ตัวจริงเขายังมีชีวิตอยู่จนกระทั่งตายไปจริงๆเมื่อ ค.ศ. 1879 คือเมื่อ 17 ปีก่อน


กระทู้: คดีขุนนางสองร่าง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 เม.ย. 06, 10:57
นายโธมัส ชาร์ลส์ ดรูซ มีอาชีพเป็นพ่อค้าขายเครื่องเรือนมือสอง  ตั้งร้านค้าอยู่ที่ถนนเบเกอร์  
ใครเป็นแฟนนิยายนักสืบเชอร์ล็อค โฮล์มส์ คงจำได้ว่าเป็นถนนสายที่พำนักของเขานั่นเอง
แต่นอกจากมีฐานะค่อนข้างดีตามประสาพ่อค้าแล้ว   ก็ไม่ปรากฏว่าพี่แกเคยได้ทำอะไรชวนสะดุดตาสะดุดใจไปกว่าพ่อค้าอื่นๆทั่วไป
ก็ก้มหน้าก้มตาค้าขาย มีครอบครัวลูกเต้าไปตามปกติ จนกระทั่งถึงแก่กรรม
ดังนั้น มท. 1 ของอังกฤษและผู้ที่เกี่ยวข้องได้อ่านคำร้องนี้จึงฉงนยิ่งนักว่า   นายดรูซมีความจำเป็นอะไรถึงต้องหลอกตบตาผู้คนตลอดจนลูกเต้าด้วยวิธีการแปลกประหลาดยังงั้น

คำชี้แจงของนางแอนนา มาเรีย ดรูซ แทบจะทำให้ผู้ได้ฟัง หงายหลังตกเก้าอี้ไปตามๆกัน


กระทู้: คดีขุนนางสองร่าง
เริ่มกระทู้โดย: เฟื่องแก้ว ที่ 27 เม.ย. 06, 17:49

มานั่งคอยติดตามตอนต่อไปค่ะ  


กระทู้: คดีขุนนางสองร่าง
เริ่มกระทู้โดย: Akira ที่ 27 เม.ย. 06, 19:11
 อยากรู้เรื่องเร็วๆจัง.....
จะลองเดาแบบนิยายน้ำเน่าดูนะเผื่อจะถูก....
คือสงสัยว่า นายดรูซคนนี้ต้องมีเบื้องหลังที่ต้องเปิดเผยไม่ได้ แน่ๆ เพราะถ้าเปิดเผยขึ้นมาอาจจะต้องสั่นสะเทือนสังคม หรือวงการในยุคนั้นเป็นอย่างแรง
เช่นเขาอาจจะมีพี่ชาย หรือน้องชายฝาแฝดอีกคน ที่ต้องมาตายกระทันหัน และการจากไปนั้นอาจมีผลต่อการเงินของครอบครัวเขาหรือ ตัวเขาเอง เลยจำเป็นต้องสวมรอยหรือปลอมตัวเป็นอีกคนไป และเพื่อไม่ให้ความแตกจากการต้องคอยเปลี่ยนร่างบ่อยๆ ก็เลย ต้องยอมให้ตัวตน ที่ด้อยกว่า ตายไป เพื่อที่จะได้ทุ่มเทให้กับการปลอมตัวอย่างแนบเนียน....
ถูกต้องมั๊ยครับ.... ท่าน อ.เทาชมพู...


กระทู้: คดีขุนนางสองร่าง
เริ่มกระทู้โดย: ดารากร ที่ 27 เม.ย. 06, 21:50
 สวัสดีค่ะ คุณเทาชมพู

ขอลงชื่อรออ่านด้วยคนนะคะ


กระทู้: คดีขุนนางสองร่าง
เริ่มกระทู้โดย: namning ที่ 28 เม.ย. 06, 01:45
 รอค่ะ รอ มาต่อเร็วๆนะค่ะ


กระทู้: คดีขุนนางสองร่าง
เริ่มกระทู้โดย: caeruleus ที่ 28 เม.ย. 06, 02:48
มารออ่านด้วยคนค่ะ

ปกติชอบอ่านนิยายแนวลึกลับ สืบสวนสอบสวน แต่พอเจอชีวิตจริงเข้าก็หงายเก๋งทุกทีเลย


กระทู้: คดีขุนนางสองร่าง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 เม.ย. 06, 08:15
 แหม  เข้ามานั่งล้อมวงกันคึกคักอุ่นหนาฝาคั่ง
คุณ Akira มีแววว่าจะเป็นนักสืบได้...

ต่อค่ะ

คำแถลงของนางแอนนา มาเรีย ดรูซ ก็คือ  นายโธมัส ชาร์ลส์ ดรูซ พ่อสามีของเธอนั้น  หาใช่ตัวจริงไม่

ถ้าจะเปรียบเขาก็เหมือนตัวละครตัวหนึ่งที่รับบทบาทพ่อค้า และหัวหน้าครอบครัวให้ชาวบ้านดูเท่านั้นเอง    
เขาเล่นบทนี้มาจนกระทั่งถึงจุดๆหนึ่งก็พอแล้ว  ไม่อยากเล่นอีก   ก็เลยสร้างสถานการณ์ว่าตัวเองถึงแก่กรรม    เพื่อจะได้หายหน้าไปจากครอบครัวและเพื่อนฝูงที่รู้จักเขา
แล้วเขาก็กลับไปเป็นตัวจริง    ดำเนินชีวิตตามที่เป็นอยู่จริงๆ ในสถานที่อีกแห่งหนึ่งของอังกฤษ    จนกระทั่งถึงแก่กรรมไปตามอายุขัย

ชายที่เป็นตัวจริงของนายโธมัส ชาร์ลส์ ดรูซ คือวิลเลียม คาเวนดิช เบนติงค์-สก๊อต  มีศักดิ์เป็น ดยุคแห่งปอร์ตแลนด์คนที่ 5 นั่นเอง


กระทู้: คดีขุนนางสองร่าง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 เม.ย. 06, 08:20
 พอข่าวนี้แพร่ออกไปตามหน้าหนังสือพิมพ์   ประชาชนชาวอังกฤษก็ตื่นตระหนกกันไปทั่วประเทศ  
เพราะว่าดยุคแห่งปอร์ตแลนด์เป็นขุนนางใหญ่ระดับชาติ   พูดถึงศักดิ์ตระกูลแล้วก็ถือว่ายืนอยู่แถวหน้าของขุนนางทีเดียว  
ถ้าเป็นเมืองไทยอาจจะเทียบกับ"เจ้าพระยา" อะไรทำนองนั้น

จู่ๆมีอำแดงชาวบ้านสักคนมาฟ้องร้องว่า เจ้าพระยาท่านนั้นได้ปลอมตัวไปเป็นอาเฮียอากู๋ค้าขายอยู่แถวท่าน้ำราชวงศ์ตั้งหลายสิบปี  มีเมียมีลูกเป็นพรวน
ราษฎรไทยจะโจษขานกันอื้ออึง  ขุนนางผู้ลากมากดีไทยจะสะเทือนกันขนาดไหน    ชาวอังกฤษก็ขนาดนั้นละค่ะ

ตัวท่านดยุคที่ตกเป็นข่าวนี้ถึงแก่อนิจกรรมไปนานแล้ว    ในเมื่อตามหลักฐานที่มีในตระกูล  ท่านเป็นคนโสด   ไม่มีลูกเมีย  ไม่มีพี่น้องที่ยังมีชีวิตอยู่  
มรดกมหาศาลและบรรดาศักดิ์ดยุคแห่งปอร์ตแลนด์ก็เลยตกทอดไปถึงญาติคนที่ใกล้ทางสายเลือดที่สุดเท่าที่จะหาได้   ซึ่งก็เป็นญาติห่างๆ


กระทู้: คดีขุนนางสองร่าง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 เม.ย. 06, 08:22
 ท่านดยุคล่วงลับไปนานแล้ว    มรดกก็ตกทอดไปสู่ผู้อื่นอยู่หลายปี     อยู่ๆมีหญิงธรรมดาสามัญคนหนึ่งมาแฉว่าท่านดยุคแอบปลอมตัวไปเป็นพ่อค้าเครื่องเรือนอยู่นานหลายสิบปี จนมีเมียมีลูก  
โดยไม่มีญาติทางสกุลเดิมรู้ระแคะระคายเลย   ก็กลายเป็นข่าวใหญ่อื้อฉาวไปทั้งประเทศ

นางแอนนา มาเรีย ดรูซ ก็แถลงฉาดฉานให้เหตุผลต่อไปอีกว่า

"คนที่ล่วงรู้ว่าท่านดยุคกับนายดรูซเป็นคนๆเดียวกันมีอยู่นะคะ คือลูกน้องที่ร่วมงานกับท่าน  
รับภาระช่วยดูแลให้การปลอมตัวเป็นไปอย่างสะดวก     ช่วยให้ท่านดำเนินชีวิตสองด้านได้โดยไม่มีใครสงสัย
จนวันหนึ่งท่านไม่อยากเล่นละครอีก ท่านก็กำจัดนายดรูซโดยให้ทำเป็นป่วยตายเสีย  
แต่ในการฝังศพนั้นไม่มีแพทย์คนไหนออกใบมรณบัตรให้     หีบศพก็หนักมาก   ทั้งที่นายดรูซเป็นคนผอม  
คนงานคนหนึ่งเคยบอกว่ารับจ้างเอาตะกั่วออกมาจากฝาหีบ  ก็เป็นได้ว่าในหีบศพไม่มีอะไรนอกจากตะกั่ว"

ของดีมีน้อย  วันจันทร์มาต่อค่ะ


กระทู้: คดีขุนนางสองร่าง
เริ่มกระทู้โดย: หมูน้อยในกะลา ที่ 28 เม.ย. 06, 09:30
 เสาร์-อาทิตย์นี้ ผมคงนอนไม่หลับเพราะนายดรูซผู้นี้แน่เลย!!  


กระทู้: คดีขุนนางสองร่าง
เริ่มกระทู้โดย: Akira ที่ 28 เม.ย. 06, 18:56
แฮ่ๆ การ กลับตรงกันข้ามเลยแหะ...แต่สรุปว่าเรื่องนี้มีเงินๆเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแน่

สูบไปป์รอฟังต่อดีกว่า.....


กระทู้: คดีขุนนางสองร่าง
เริ่มกระทู้โดย: RED ที่ 28 เม.ย. 06, 21:00
 แม้จะมีนิดเดียวแต่ก็เป็นเรื่องที่น่าสนุกและชวนให้ติดตามนะคะ
คิดว่าที่เจ้(นางแอนนา)แกมาฟ้องนั้นคงจะเป็นเพราะหวังทรัพย์สมบัติมังคะ  บางทีถึงโอกาสที่จะเป็นจริงมีน้อยแต่ก็ยังมีโอกาสที่จะเป็นไปได้อยู่...เราคิดว่าถ้าเจ้แกรู้ว่าพ่อของสามีอาจจะเป็นใครซักคนที่มีฐานะไม่ได้ดีกว่าฐานะเจ้แกเท่าไหร่ เจ้แกก็คงไม่มาฟ้องร้องหรอกค่ะ  แต่นี่เป็นถึงท่านดยุคเชียว...


กระทู้: คดีขุนนางสองร่าง
เริ่มกระทู้โดย: ดาวกระพริบ ที่ 28 เม.ย. 06, 21:21
 ถ้าเป็นสมัยปัจจุบัน คงเดาว่า หวังเงินประกันชีวิตมั้งคะ

ถ้าให้เดาเอามั่วๆ

คงเดาว่า ท่านลอร์ดคงใช้ชื่อนายดรูซ สำหรับการกระทำบางอย่างที่เผยไม่ได้

เช่นแต่งงานกับสาวไม่มีสกุล


ชักจะเพี้ยนแล้วล่ะค่ะ


กระทู้: คดีขุนนางสองร่าง
เริ่มกระทู้โดย: ศศิศ ที่ 28 เม.ย. 06, 23:59
 อาจารย์เล่น ยักเอาไว้ ทำเอานอนไม่หลับไปด้วยคน อ่านแล้ว...มันก็ยิ่งกว่าน้ำเน่าอีกแฮะ

ติดตามต่อไปดีกว่า...ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป


กระทู้: คดีขุนนางสองร่าง
เริ่มกระทู้โดย: เฟื่องแก้ว ที่ 29 เม.ย. 06, 04:01
 ถ้าน้ำเน่าจริงๆ จะต้องเป็นแบบว่า
พ่อพระยา..เอ๊ย ดยุค คนนี้คงอกหักยับเยินจากเจ้าหญิงโฉมงาม
พออกหักเลยปลอมตัวเป็นชาวบ้านสามัญเพื่อแสวงหารักแท้ อิอิ

วันจันทร์วันแรงงานค่ะ หยุดงานได้มาฟังต่อแน่ ๆ

เอามิวเก้ หรือ ลิลลี่ ออฟ เดอะ แวลลีย์
ดอกไม้ประจำวันแรงงานมาฝากล่วงหน้า
(ก่อนที่จะลืมค่ะ)


กระทู้: คดีขุนนางสองร่าง
เริ่มกระทู้โดย: เหลนนางพญา ที่ 29 เม.ย. 06, 09:38
 หรือไม่ก็

ขณะที่นางแอนนากำลังรอฟังผลคำตัดสินจากศาลอยู่นั้น
ลูกสาวแสนสวยของนางแอนนาก็อาสาไปทวงสมบัติคืนอีกทางหนึ่งด้วย
และแล้ว... เธอก็ได้พบรักกับชายหนุ่มสุดหล่อซึ่งเป็นลูกชายของเจ้าของมรดกนั้นเอง อิๆ

ไม่ทราบว่าวันจันทร์ เรื่องราวที่แท้จริงจะเป็นยังไง  จะเน่าเหมือนเรื่องของพี่เฟื่องแก้ว หรือของผม หรือจะเน่ากว่า ก็รอฟังด้วยความตื่นเต้นครับ

ขอบพระคุณอาจารย์เทาชมพูมากครับ ที่ได้นำเรื่องราวดีๆ มาเล่าให้พวกเราฟังกันเสมอ ๆ ครับ


กระทู้: คดีขุนนางสองร่าง
เริ่มกระทู้โดย: Rinda ที่ 29 เม.ย. 06, 14:13
 อันว่าเทพเจ้าย่อมไม่เข้าข้างคนโลภฉันใด
แอนนาผู้ละละโมภอาจถึงคราวเคราะห์ฉันนั้น

เหตุที่ทายเช่นนี้เป็นเพราะมีข้อบทกฎหมายอยู่ข้อหนึ่งที่เกี่ยวกับการพูดเพ้อเจ้อมดเท็จ (perjury charge)
และปิดบังความจริง หากราษฎรนายใดหรือนางใด รู้เห็นการกระทำผิด แล้วปิดบังความจริง ไม่รายงาน
ให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองทราบ อาจต้องข่ายสมรู้ร่วมคิด ซึ่งเป็นอาญาโทษ จองจำหรือกักบริเวณ

อยากติดตามต่อไป...อยากรู้ว่านางจะได้รางวัลส่วนแบ่ง หรือเป็นอย่างไรอ่ะค่ะ


กระทู้: คดีขุนนางสองร่าง
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 29 เม.ย. 06, 18:03
 นั่งพิมพ์งานมาตั้งแต่บ่ายโมงจนตาลายแล้วครับ
ได้เข้ามาอ่านกระทู้อาจารย์ก็ทำให้มีแรงอ่านต่อไปได้
ขอบพระคุณสำหรับกระทู้ดีๆครับ


กระทู้: คดีขุนนางสองร่าง
เริ่มกระทู้โดย: caeruleus ที่ 30 เม.ย. 06, 17:32
 กำลังสนุกอยู่เลย พรุ่งนี้คงไม่เป็นอันทำงานแน่ๆเลยค่ะ
มัวแต่จะรีบกลับมาอ่านตอนต่อไป


กระทู้: คดีขุนนางสองร่าง
เริ่มกระทู้โดย: ศนิ ที่ 30 เม.ย. 06, 18:05
 เอ แต่จากที่อาจารย์บอก นายคนนี้ตอนเป็นพ่อค้าก็มีฐานะค่อนข้างดี
ดังนั้น หากเมื่อเขาเสียชีวิตไปแล้ว ภรรยา หรือรวมทั้งลูกๆ ของเค้า
ก็น่าจะมีชีวิตที่ค่อนข้างจะสุขสบายนี่คะ
ถ้ามองโลกในแง่ดี ก็น่าจะเป็นปัญหาเรื่องสิทธิ
หรือว่าต้องการให้คนอื่นได้รับรู้ มากกว่า


กระทู้: คดีขุนนางสองร่าง
เริ่มกระทู้โดย: ศนิ ที่ 30 เม.ย. 06, 18:08
 หรือ เรามองโลกในแง่ดีเกินไป  
รออาจารย์เทาชมพูมาเฉลยดีกว่าค่ะ


กระทู้: คดีขุนนางสองร่าง
เริ่มกระทู้โดย: พิทยา ที่ 30 เม.ย. 06, 22:44


  แอบไปอ่าน(ในอินเตอร์เนต)มาแล้วครับว่า



ในที่สุด แอนนาได้ไปใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา(ถ้าเธออยู่ในเมืองไทยนะครับ) ดังข้อความต่อไปนี้

" Mrs Druce's first allegations were that her son was in fact the heir to the Portman estate, and also Duke of Somerset. She spent her later life in an asylum. "

ส่วนรายละเอียดคงต้องให้คุณเทาชมพูมาขยายความต่อนะครับครับ



เอารูป(ที่ผมเข้าใจว่าเป็นการ)แกะสลักจากหินอ่อนของ the 5th duke of portland มาฝากด้วยครับ



กระทู้: คดีขุนนางสองร่าง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 พ.ค. 06, 07:44
คุณพิทยาคะ    ดิฉันเห็นว่าคุณเสียมารยาทมากที่ทำอย่างนี้  ไม่ว่าคุณตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
กระทู้นี้จะอ่านสนุกได้ถ้าหากว่าไม่มีใครเอาตอนจบมาเล่าเสียก่อน  มันก็เหมือนอ่านเรื่องสืบสวนสอบสวน เพียงแต่เป็นเรื่องจริง  ที่ชวนให้ติดตามอ่านถ้าไม่มีใครชิงเฉลยออกมา

คุณอาจจะแก้ตัวว่าคุณเล่าเฉพาะบางส่วน ยังมีรายละเอียดที่ให้ดิฉันเล่าต่อ     แต่ขอถามหน่อยว่ามันมีความจำเป็นอะไรที่คุณจะต้องมาบอกแม้แต่บางส่วน
ถ้าหากว่าคุณอยากรู้ ไปเสาะแสวงหาอ่านเองในเว็บต่างๆ  คุณรู้แล้วคุณก็เก็บความรู้นั้นไว้กับตัว   หรือจะเข้ามาร่วมวงออกความเห็นเมื่อกระทู้นี้เล่ามาถึงตอนจบ  ก็น่าจะเหมาะกับกาลเทศะมากกว่า

ดิฉันขอปิดกระทู้นี้เป็นการประท้วงคุณพิทยา  และขอบอกว่าดิฉันเสียกำลังใจ และเสียแรงกับคนอ่านแบบนี้  ซึ่งมีมาเรื่อยๆ หมดคนนั้นก็มีคนนี้  ก่อนหน้านี้ไม่เคยออกความเห็นในเรือนไทย พอได้จังหวะ ก็โผล่เข้ามาดื้อๆ
ลบไม่ไหวค่ะ  ลบของคนหนึ่งก็มีชื่อใหม่คนใหม่มาอีก
จะไม่มีกระทู้ทำนองนี้ออกมาอีกแล้ว    พอกันที