เรือนไทย

General Category => หน้าต่างโลก => ข้อความที่เริ่มโดย: นิลกังขา ที่ 08 มี.ค. 06, 11:13



กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 08 มี.ค. 06, 11:13
 วันนี้ 8 มีนาคม วันสตรีสากลครับ

ในฐานะผู้ชายคนหนึ่งในเว็บ ขอส่งความปรารถนาดีมาให้สุภาพสตรีทุกท่านในเรือนไทยด้วยเทอญ


กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 08 มี.ค. 06, 17:07
 ในประเทศสังคมนิยม เช่นจีน รัสเซีย หรือเวียดนามใกล้ๆ บ้านเรา ดูจะให้ความสำคัญกับวันนี้มากกว่าในเมืองไทยและแม้แต่ในเมืองฝรั่งตะวันตก เป็นธรรมเนียมของผู้ชายเมืองเหล่านั้นที่จะต้องซื้อดอกไม้ให้ผู้หญิงที่รู้จัก ยิ่งกว่าวันวาเลนไทน์ในเมืองฝรั่ง (และเมืองไทย) เสียอีก เพราะผู้ชายรัสเซียและจีนเขาไม่ได้ซื้อให้เฉพาะสาวคนรักดอกเดียวช่อเดียว แต่เขาจะซื้อแจก แจกแม่ พี่สาว น้องสาว บรรดาเพื่อนร่วมงานหรือลุกน้องที่เป็นหญิง ฯลฯ หมดเลย

ประธานเหมาเจ๋อตุงเคยกล่าวว่า "ผู้หญิงแบกฟ้าไว้ครึ่งหนึ่ง" ซึ่งภาษาจีนกลางรู้สึกจะเรียก หนู่เหรินเป้ย์ปั้นเทียน" รึอะไรนี่แหละ ถ้าผิดขออภัย เดี๋ยวผู้รู้ภาษษจีนในเว็บนี้ก็คงจะเข้ามาแก้ไขผมเอง


กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 มี.ค. 06, 17:23
 ขอบคุณมากค่ะคุณนกข.

ผู้หญิงในเรือนนี้มีตั้งมากมาย  ไม่มีใครมาตอบคุณนกข.เลยหรือนี่ !
งั้นดิฉันออกมาเป็นอาสาสมัครก็ได้ค่ะ

ในชีวิตดิฉัน มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ยังอยู่ในใจดิฉันจนบัดนี้ แม้ว่าเธอจากไปเกือบ ๖ ปีแล้ว

เธอกำพร้าแม่ตั้งแต่อายุ ๗ วัน   พ่อซึ่งยังหนุ่มมาก แต่งงานใหม่  ยกลูกสาวคนแรกและคนเดียวให้ปู่กับย่าเป็นผู้เลี้ยงดู
เธอเป็นคนเดียวในกลุ่มญาติพี่น้องที่สมัครใจเรียนหนังสือจนจบจากโรงเรียน   ในสังคมที่เธอเติบโตมา   ผู้หญิงแค่อ่านออกเขียนได้ก็พอแล้ว  
ส่วนใหญ่พอเป็นสาวก็ไม่คิดเรื่องอื่นนอกจากไปเป็นแม่บ้านแม่เรือน  ไกวเปลเลี้ยงลูก

เมื่อปู่และย่าล่วงลับไป   ไม่มีใครในหมู่ญาติสนับสนุน ที่เธอตัดสินใจเรียนถึงขั้นมหาวิทยาลัย    แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้
ดิ้นรนมุมานะเรียนจนจบอักษรศาสตรบัณฑิต
จบมาเป็นอาจารย์สอนภาษาฝรั่งเศส  รู้ภาษาอังกฤษดีพอกัน
จำวรรณคดีไทยได้แม่นยำ ไม่ว่าเรื่องไหน
จำโคลงโลกนิติ  สภาษิตสอนหญิงของสุนทรภู่ได้จนขึ้นใจ  
จำพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ตอนสำคัญๆได้ทุกเรื่อง
จำเหตุการณ์ในอดีตได้อย่างแม่นยำ   โดยเฉพาะเกร็ดประวัติศาสตร์ไทยชนิดนักวิชาการชิดซ้ายไปหลายคน
ตอนลูกยังเด็กอายุไม่กี่ขวบ  เธอยกหนังสือวรรณคดีที่เรียนมาให้อ่านหมดทั้งตู้  ทำฉีกขาดแถมเอาหมึกละเลงภาพประกอบ เธอก็ไม่เคยดุไม่เคยว่า

น่าเสียดายที่เธอไม่ได้เขียนสิ่งใดไว้นอกจากประวัติขนาดไม่ยาวนัก ตามที่ลูกสาวขอไว้
ถ้าหากว่าเขียน เธอจะมีชื่อเสียงโด่งดังทั่วประเทศแน่นอน  ดิฉันเชื่อเช่นนั้น
แค่คำบอกเล่าที่เล่าให้ลูกสาวฟัง  ก็ยังมีคุณค่าเหลือคณานับ

วันสตรีสากลไม่ใช่วันแม่   แต่ก็คงไม่ผิดที่ดิฉันจะเอาเรื่องของแม่  ผู้หญิงเก่งที่สุดในสายตาดิฉันมาเล่านะคะ

คุณล่ะคะ ประทับใจในตัวสตรีคนไหนบ้าง  


กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เฟื่องแก้ว ที่ 08 มี.ค. 06, 19:35
 สวัสดีค่ะ อาจารย์เทาชมพู
เพิ่งเปิดเข้ามาวันนี้ค่ะ ขอบคุณคุณ นกข. สำหรับกระทู้สตรีนะคะ

พอได้อ่านคำถามของอาจารย์นะคะ
เลยไปนั่งนึกอยู่นานหลายนาที
จึงพบว่าตัวเองไม่มีวีรสตรีในดวงใจเลย ( )
ชั่วชีวิตดิฉันประทับใจในตัวสตรีหลายคนเลยค่ะ
เพราะแต่ละคนก็มีความดี ความเก่งแตกต่างกันไป

แต่ล่าสุดมีความประทับใจกับผู้หญิงคนนี้ค่ะ
Rigoberta Menchu Tum  ชาวเผ่ามายัน กัวเตมาลา
ได้ฟังสุนทรพจน์ของเธอเนื่องในวันภาษาแม่สากล
ซึ่งแสดงให้เห็นความผูกพันลึกซึ้งอย่างแท้จริง
กับภาษาเผ่ามายันซึ่งเป็นภาษาแม่ของเธอ
ชีวิตชาวอินเดียนเผ่าต่าง ๆในกัวเตมาลา และเม็กซิโก
ภาษาสเปนมีความสำคัญในชีวิตประจำวันอย่างมาก
ชาวอินเดียนส่วนใหญ่จึงเน้นสอนลูกให้พูดแต่ภาษาสเปน
จนภาษาอินเดียนเผ่าต่างๆ เกือบสูญหายไปหมด

ดิฉันไม่เคยรู้จักเธอมาก่อน แต่ฟังสุนทรพจน์วันนั้นแล้ว
ทำให้รู้สึกสนใจในชีวิตและผลงานของเธอค่ะ
เพิ่งทราบภายหลังว่า เธอได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพด้วย  


กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: นิรันดร์ ที่ 09 มี.ค. 06, 00:45
 ย้อนไปเกือบ 100 ปี หญิงไทยเชื้อสายมอญคนหนึ่ง
เธออยู่เมืองไทย ได้เรียนหนังสือไทยแค่ประถม 2 ก็ต้องออกจากโรงเรียนเพราะพ่อแม่ตายหมด
อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงและไม่ได้เรียนหนังสืออีก
เมื่อเวลาผ่านมา เธอมีอาชีพเป็นแม่ค้าหาบเร่ขายข้าวแกงอยู่ย่านเฉลิมไทย ราชดำเนิน ฯลฯ
และได้ให้กำเนิดแม่ของผม
แล้วในที่สุดผมก็ได้เกิดมามองโลก
ใช่แล้ว
ท่านคือคุณยายของผม

พอผมเริ่มจะเรียนหนังสือได้ อ่านเขียนได้เล็กน้อย
คุณยายได้ท่องมูลบทบรรพกิจให้ผมจดตาม
ตอนนั้น ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากหรอกครับ คุณยายสั่ง ก็ทำตามไปเรื่อย ๆ
ในมูลบทบรรพกิจที่แม่ค้าข้าวแกงเรียนแค่ประถม 2 บอกให้ผมตามความทรงจำ
เป็นสิ่งที่มีคุณค่ามหาศาลในชีวิตผมในกาลต่อมา
วรรณคดีไทยเรื่องแรกที่ผมจำได้ก็คือ กาพย์พระไชสุริยา
และทำให้ผมหลงใหลกับคำประพันธ์ไทยมาจนทุกวันนี้

ถึงท่านจะล่วงลับไปหลายสิบปีแล้ว
ถึงท่านจะไม่ใช่คนยิ่งใหญ่ที่ทุกคนรู้จัก
แต่ท่านเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตผมครับ


กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เฟื่องแก้ว ที่ 09 มี.ค. 06, 21:37
น่าอิจฉาจังเลยค่ะ ที่อาจารย์ได้ใกล้ชิดกับคุณยาย

ดิฉันไม่ได้พบคุณยายของตัวเองมาเป็นสิบปีแล้วค่ะ
แต่ทราบจากคุณแม่ว่า ท่านยังแข็งแรง ไปโน่นมานี่
เดินสายไปอยู่กับลูกๆ หลานๆ ที่นู่นที่นี่ตลอด
รู้สึกผิดนิดๆ นะคะ ที่ไม่ค่อยได้ใกล้ชิดสนิทสนมกับท่าน
จำได้ว่า คุณยายทำอาหารอร่อย ขยันขันแข็ง
(ท่านทำสวนยาง สวนสับปะรดค่ะ)
เวลาว่าง ยายจะนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ ตลอด
ใจดีมากๆ แต่เวลาดุก็หยิกเจ็บเหมือนกันค่ะ แหะๆ
นอกจากนั้น ก็คือ ชอบเวลาคุณยายสางผมให้
คุณยายจะตรึงผมตรงหนังศรีษะไว้ แล้วค่อยๆ สางตรงปลาย
ที่ประทับใจตรงนี้ เพราะตอนเด็กๆ คุณแม่ถักเปียให้ก่อนไปเรียน
แล้วเจ็บมากๆ จนน้ำตาร่วงเลยค่ะ
แต่ก็เป็นการผลักดันให้ตัวเองหัดถักเปีย ทำผมให้ตัวเองได้ดี
(แล้วก็เลยชอบจับคนอื่นมาเป็นหุ่นให้ทำผม)

ส่วนคุณแม่เป็นผู้หญิงธรรมดาๆ ค่ะ
แต่มีพรสวรรค์ทางศิลปะหลายด้าน
ทั้งทำอาหาร เย็บปักถักร้อย เขียนรูป ร้องเพลง รำไทย
และเป็นนักอ่านตัวยงเหมือนกัน
ดิฉันได้รับความสามารถด้านนี้มาจากคุณแม่ครบถ้วน
เลยเป็นคนที่ทำงานศิลปะได้ดีทุกด้าน แต่ไม่ดีจนเลิศสักอย่าง
คงไม่ได้ฝึกฝนอย่างจริงจังน่ะค่ะ

ดิฉันถือว่าตัวเองได้พรจากแม่ทางด้านนี้
เป็นพรชีวิตที่ช่วยเสริมสร้างความเจริญให้ตัวเองด้วย
เป็นผู้หญิงคนสำคัญที่สุดในโลกสำหรับดิฉันค่ะ


กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เฟื่องแก้ว ที่ 10 มี.ค. 06, 00:10

.
.
คุณพระนิล จะกลับมาไหมคะเนี่ย
อยากได้สูตรสุกี้ปักกิ่งอันลือชื่อค่ะ  


กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 10 มี.ค. 06, 03:02
 อ่านเรื่องคุณแม่ของอาจารย์ พลอยทำให้นึกถึงแม่ตัวเองขึ้นมาบ้าง ตอนนั้นแม่อายุ 49 ปี และดิฉันเป็นนักศึกษาปี 1

ฝนตกพรำๆตอนหัวค่ำ ดิฉันกำลังคุยโทรศัพท์กับเพื่อน ถามเพื่อนว่าได้โทรไปบ้านบ้างไหม
เธอตอบว่าโทรไปทุกวัน วันละสองชั่วโมง เอาเบอร์นี่ไปสิ เธอบอกเบอร์โทรศัพท์ 13 หลักมาให้ และแนะว่า
ให้ใช้โทรศัพท์สาธารณะโทร เบอร์นี้เป็นเบอร์ที่ใช้ในการซ่อมบำรุงเครือข่าย ซึ่งจะเปลี่ยนทุกสัปดาห์

ขณะนั้นฝนยังตกไม่หยุด เฉอะแฉะและหนาว ไม่อยากออกจากบ้าน จึงปิดไฟเข้านอน อีกสักครู่ ดิฉันผลุนผลัน
ลุกจากเตียง คว้ากุญแจรถสกูเตอร์ขี่ออกไป 2 ป้ายรถเมล์เพื่อโทรศัพท์ถึงแม่ คนรับบอกว่าแม่ไม่สบาย
ดิฉันถามว่าหนักไหม เขาบอกว่าก็หนักเหมือนกัน แต่ไม่ยอมบอกอะไรมากกว่านั้น พอถามถึงพ่อ
เขาบอกว่าพ่อไปกรุงเทพฯเมื่อสักชม. กว่าที่แล้ว ดิฉันคิดว่าแม่อาจเป็นไข้หวัด ไม่หนักนัก
พ่อจึงไปกรุงเทพฯได้  ในระหว่างรอเวลาให้พ่อเดินทางถึงกรุงเทพฯ ดิฉันโทรไปหาน้า น้าบอกว่า
แม่ผ่าตัดหัวใจอยู่ที่ศิริราช  

ดิฉันว้าวุ่น กังวล คิดถึงแม่มาก จึงโทรศัพท์ไปหาเพื่อน อีกสักครู่เพื่อนขับรถมารับให้ไปพักที่
อพาร์ทเมนต์เธอ เพราะเธอไม่อยากให้ดิฉันอยู่คนเดียวในสภาพที่ใจไม่ปกติ
พอถึงวันเสาร์ดิฉันคิดว่าเข้มแข็งพอ จึงกลับมาอยู่บ้าน เป็นโรคผวาโทรศัพท์อย่างมาก
ก้าวแรกที่เปิดประตูบ้านเข้าไป ถึงกับหน้ามืด เซไปเกาะเปียโนเมื่อเห็นหูโทรศัพท์ห้อยต่องแต่ง
จากตัวเครื่องที่เป็น wall-mounted phone


กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 10 มี.ค. 06, 10:13
 รออ่านของคุณ Nuch ต่ออยู่ครับ

สูตรสุกี้ 4 ทวีป ดูเหมือนไม่ค่อยเกี่ยวกับหัวข้อกระทู้ วันสตรีสากล เท่าไหร่? แต่ผมจำได้ว่าผมเคยโพสต์สูตรของผมลงในนี้เมื่อหลายปีก่อนโน้นนะครับ กระทู้เก่าๆ อาจจะมี


กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 10 มี.ค. 06, 17:15
 สุภาพสตรีชรา เจ้าของบ้านชะโงกหน้าออกมาจากครัว ร้องทักว่า “โอช....ม้าย.. ม้าย... มาย”
ท่านพูดต่อไปว่า “หายไปไหนมาหลายวัน ฉันเป็นห่วงรู้ไหม สกูเตอร์เราก็ไม่ได้ล้อคกุญแจ
ฉันเอาผ้าไปคลุมไว้ให้เพื่อพรางตาขโมย” ท่านต่อว่าต่อขานดิฉันอย่างยืดยาวว่าหายไปหลายวันไม่ยอมบอกกล่าว
มีสซีสฟูมิ ฟูรูตะ เป็นโรคหลงๆลืมๆ ในวัยร่วม 90 ปี ท่านเหลือเพียงความทรงจำในอดีตแม้ว่าเวลาจะผ่านไป
หลายปีก็สามารถจำได้ แต่พอถึงเหตุการณ์ที่พึ่งผ่านพ้นไปเมื่อชั่วโมงที่แล้วกลับจำไม่ได้

ดิฉันตรงรี่ไปที่โทรศัพท์ เพื่อยกหูกลับคืนแป้น แต่ “คุณยายฟู” ชื่อที่เพื่อนๆดิฉันเรียกขาน สกัดกั้นไม่ยอมให้
วางหูคืนที่ บอกกับดิฉันว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งโทรมาอยู่ได้ ท่านรำคาญจึงยกหูออก เมื่อดิฉันเค้นว่าใครโทรมา
และโทรมาว่าอย่างไร ยายฟูยิ้มแห้งๆ บอกว่า “I forgot. Don’t get old.” แล้วหัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี

ดิฉันชิงหูโทรศัพท์มาได้ก็วางคืนแป้น ทำเหมือนกับบ้านนี้เป็นบ้านตัวเองและยายฟูเป็นผู้อาศัย
โทรศัพท์ดังขึ้นทันที พี่สาวดิฉันโทรมาจากเมืองไทย แจ้งว่าโทรมาหลายครั้งมาก ยายฟูพูดไม่รู้เรื่อง
แจ้งข่าวว่าแม่ไม่สบาย จะกลับบ้านหรือไม่ให้ตัดสินใจเอาเอง ดิฉันอ้อนวอนขอคำตอบ “แม่ตายหรือยัง...บอกมาเถิด
ถึงจะเป็นความจริงก็คงไม่เสียใจมากกว่านี้หรอก” แต่พี่สาวยืนยันคำตอบเดิม

ดิฉันคว้าสกูเตอร์ขับเข้าไปที่หอพักมหาวิทยาลัย ประตูห้องพักห้องหนึ่งเปิดอยู่แล้ว ดิฉันเคาะประตูให้เสียง 3 ครั้ง
และก้าวเข้าไป เจ้าของห้องเงยหน้าจากตำราแพทย์เล่มโตตรงหน้า “อาชำนาญคะ...สงสัยว่าแม่จะตายแล้วล่ะค่ะ
พี่มลโทรมาบอกว่าจะกลับบ้านไปเยี่ยมแม่หรือไม่กลับให้คิดเอาเอง แต่ไม่ยอมบอกว่าตายหรือยัง
.....ฟังเสียงดูเหมือนจะสิ้นแล้ว”

อาเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์และหมุนเบอร์ตามที่ดิฉันบอก ช่วงเวลา 20 วินาทีที่รอคอยผู้มารับสายนั้น...รู้สึกว่า
นานแสนนาน


กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เฟื่องแก้ว ที่ 10 มี.ค. 06, 23:32
 พี่นุช ยังไม่เขียนต่อหรือคะ
โธ่ คนคอยอ่านก็รู้สึกว่านานแสนนานเหมือนกันนะคะ

คุณพระนิลคะ กระทู้ผู้หญิงนะคะ ต้องเกี่ยวกับเรื่องกินสิน่ะ อิอิ
เข้ามาแซวเพราะกระทู้นี้เป็นของคุณพระนี่คะ
ยังไงคงกลับมาอ่านแน่ แซวเจ๋ยๆ ค่ะ


กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 11 มี.ค. 06, 16:24
 โทษทีค่ะ คุณเฟื่อง วันศุกร์เย็นออก ตจว. ค่ะ
**********
"ใครพูดน่ะ...แม่เป็นอย่างไรบ้าง" เสียงอาพูดสั้นๆ คิ้วขมวด คำถามต่อไปที่หลุดจากปากอา
เป็นคำถามที่สั้นที่สุด  ที่ไม่ต้องการคำอธิบายเพิ่มเติม เพราะชัดเจนในตัวเอง
"เมื่อไร"

เท่านั้นแหละ ดิฉันปล่อยโฮออกมา เหมือนเขื่อนน้ำตาแตก ทั้งๆที่สู้ทำใจแข็งอยู่เป็นนาน
คำว่า  “เมื่อไร ” ดับฝันทุกอย่างที่อยู่ในใจ และปลุกให้ตัวเองตื่นจากฝัน   ก้นบึ้งของใจอยากให้สิ่งที่เกิดขึ้น
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเป็นเพียงความฝัน ดิฉันจำได้ว่าได้ขยำเศษกระดาษที่จดเบอร์โทร 13 หลัก
ทิ้งไปแล้ว ทำเหมือนกับว่าเหตุการณ์ที่แม่เข้ารับการผ่าตัดไม่ได้เกิดขึ้น หลอกตัวเองว่าไม่เคยรับรู้
หรือบันทึกเหตุการณ์นี้ไว้ในสารบบความทรงจำแต่อย่างใด

เพียงไม่นาน อาจองตั๋วเครื่องบินให้เรียบร้อย ดิฉันต้องบินชั้นธุรกิจ วันเวย์ราคา $800 เพราะซื้อตั๋วกระชั้นชิด
ที่นั่งชั้นประหยัดไม่มี ซึ่งปกติชั้นประหยัดไปกลับราคาเพียง $550 เท่านั้น  (แปลก…พอขึ้นไปจริงๆ ที่นั่ง
ชั้นประหยัดว่างตั้งครึ่งลำ) นึกถึงสำนวนไทยที่ว่าผีถึงป่าช้าแล้ว อย่างไรก็ต้องเผา ใครคิดช่างเหมาะเจาะเหลือเกิน
ครานี้แม่ถึงสุสานแล้ว ตั๋วจะราคาเท่าไร ก็ต้องซื้อ

ดิฉันต้องบินรุ่งเช้า ฝากสกูตเตอร์ไว้ที่อา และอาได้ขับรถมาส่งที่บ้านยายฟู ซึ่งตั้งอยู่เลยหน้ามหาวิทยาลัย
ไปบลอคเดียว พอจอดรถปุ๊บยายฟูนั่งอยู่หน้าบ้าน อาทำหน้าเบ้และกำชับให้ย้ายออกจากบ้านยายฟู
ทันทีเมื่อกลับมา อารำคาญคนแก่ที่พูดไม่รู้เรื่อง

ดิฉันจับพลัดจับพลูมาอยู่กับยายฟูอย่างบังเอิญแท้ๆ สุดท้ายก็มาพบว่ายายฟูเป็นแม่พระคนที่สองในชีวิต
คนที่ชอบเคาะประตูห้องจนเกิดโมโห พอเปิดออกมาจะจับยายฟูหักคอจิ้มน้ำพริกเสียหน่อย กลับเห็นเจ้าของบ้านชรา
ยืนยิ้ม ถือถาดเบนโตในมือ แล้วบอกว่ามินิสเตอร์ที่โบสถ์ให้คนนำอาหารกลางวันมาส่งให้ และเชื้อเชิญ
ให้ดิฉันแบ่งกันกินคนละครึ่ง เป็นแม่พระที่คอยส่งสตางค์ให้ดิฉันตอนเช้าก่อนไปโรงเรียนครั้งละ $10-$20
เป็นประจำทุกวัน


กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 11 มี.ค. 06, 16:30
 ตัวเลขไม่ขึ้นค่ะ
******
-ชั้นธุรกิจวันเวย์ราคา 800 ดอลลาร์
-ชั้นประหยัดไปกลับราคาเพียง 550 ดอลลาร์
-ที่คอยส่งสตางค์ให้ดิฉันตอนเช้าก่อนไปโรงเรียนครั้งละ 10-20 ดอลลาร์ เป็นประจำทุกวัน


กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: Karine!! ที่ 12 มี.ค. 06, 23:35
 น้ำตาพาลจะไหล

สตรีที่การีนคิดถึงก้ คือ คุณแม่นี่ล่ะค่ะ
ถึงแม้จะทะเลาะกันบ่อยๆ แต่อย่างหนึ่งที่ท่านมอบให้เสมอ
ก็ คือ ความห่วงหาและอาทร...
เวลาที่เราทำอะไรไม่ได้
อยากได้ใครเป็นกำลังใจ จนกระทั่งอยากได้เป็นเกราะคุ้มภัยยามที่เรากลัว และไม่กล้าที่จะทำอะไรสักอย่าง
และเป็นคนสำคัญที่จะผลักดันเราไปสู่เส้นทางที่ดี และไม่ซ้ำเติมเรายามทำผิดพลาด....

รักแม่ค่ะ
(ไม่เคยพูดคำนี้กับแม่เลยสักครั้ง...อยากบอกท่านจัง...แตก็เขินเกินกว่าจะทำ...เฮ้อ...)


กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 13 มี.ค. 06, 00:17
 “Shall we go eat now?” ยายฟูชักชวนให้ดิฉันพาไปทานข้าวเย็นเช่นเดียวกับทุกๆวัน
ในวัย 90 ปี ยายฟูกลับมาเป็นเด็กอีกครั้ง ท่านจะดีใจจนออกนอกหน้า หากได้ออกจากบ้าน
ไปเจอผู้คนข้างนอก ทานอาหารจีนมื้อเย็น และไอศครีม 1 ถ้วย ตบท้ายด้วยการนั่งรถชมวิว
1 รอบก่อนกลับเข้าบ้าน บ้านหลังนี้ Rev. ฟูรูตะ สามียายฟูเป็นเจ้าของ ท่านเป็นมินิสเตอร์
ในโบสถ์คริสเตียนญี่ปุ่นอยู่ครึ่งศตวรรษ ตัวยายฟูเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ในโรงเรียน
และเล่นเปียโนให้ซันเดย์เซอร์วิสที่โบสถ์สามี

วันนี้ก็เช่นกัน ยายฟูดึงแขนดิฉันขณะเดินผ่านจะเข้าบ้าน พร้อมส่งสายตาวิงวอนให้พาไปข้างนอก
ดิฉันแจ้งให้ทราบว่าใจคอไม่ดีเรื่องแม่ ไม่อยากไปไหน สีหน้าท่านสลดลงเล็กน้อย เดินไปเปิดเปียโน
แล้วบอกว่าเพลงนี้ขอมอบให้แม่ ขอให้หลับอย่างสงบ แล้วลงมือเล่นเปียโนอย่างผู้ชำนาญ ดิฉันจำได้ว่า
เป็นเพลงในโบสถ์ที่คุ้นหู ไม่น่าเชื่อเลยว่าคนแก่หลงๆลืมๆ ที่บางวันก็พูดรู้เรื่องดี บางวันก็พูดไม่รู้เรื่อง
จะยังคงเล่นเปียโนได้โดยไม่ต้องดูโน้ต  

น้ำตาที่แห้งแล้วก็พาลไหลออกมาอีก อันทุกข์สุขเป็นของธรรมดาโลก ดิฉันทำใจได้ แต่ในเวลาที่
มีทุกข์ อย่างน้อยหากได้อยู่ใกล้พี่น้อง กอดคอกันร้องไห้ ยังรู้สึกดีกว่านี้ รู้สึกเสียดายว่าตอนแม่ยังมีชีวิต
ดิฉันน่าจะได้ไปกอดแม่เป็นครั้งสุดท้าย นี่พี่ๆพึ่งมาบอกเอาตอนที่แม่หลับ ไม่อาจรับรู้ได้เสียแล้ว

ดนตรีฝีมือยายฟูจบลง ท่านหันมาออดอ้อนอีกครั้ง “Let’s go eat.” ดิฉันพยักหน้า ยายฟูขอเวลา 5 นาที
ไปหยิบกระเป๋าถือ ดิฉันโทรศัพท์ถึง Dr. Anne Greene แม่พระคนที่ 3 ของดิฉัน แจ้งข่าวให้ท่านทราบ
นัดแนะว่าอีกชม. เศษ ดิฉันจะไปพบที่อพาร์ตเมนต์  

ที่ร้านอาหารจีนกวางตุ้งเจ้าประจำ ดิฉันสั่งซุปและ บีฟอองชอย ให้ยายฟู ตัวเองทานไม่ลง ยายฟู
กินง่าย สั่งอะไรให้ท่านท่านก็กินได้ ไม่เคยสั่งเองเลย ไปไหนก็ตาม ยายฟูมีหน้าที่จ่ายเงินเท่านั้น
เสร็จจากร้านอาหารจีน ดิฉันซื้อน้ำแข็งกดเชฟไอซ์ให้ยายฟู 1 อัน และขับรถไปจอดที่หน้าอพาร์ตเมนต์
น้ำแข็งกด 1 อัน พอเพียงที่จะดึงดูดความสนใจยายฟูให้นั่งรอในรถอย่างสงบระหว่างที่ดิฉันไปพูดธุระ


กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 14 มี.ค. 06, 22:32
 ดิฉันขึ้นไปเคาะประตู ดร. แอนน์ กรีน เพื่อนต่างวัยที่ทำหน้าที่อาจารย์พี่เลี้ยง
ไปด้วยในตัว แอนน์เคยสอนวรรณคดีอังกฤษในมหาวิทยาลัยกว่า 30 ปี
ผู้ที่ดิฉันพบโดยบังเอิญที่ป้ายรถเมล์ เมื่อมาถึงเพียง 2  สัปดาห์ แอนน์
เกิดปี ค.ศ. 1900 ปีเดียวกับยายฟู ท่านเป็นฝรั่งสูงอายุที่บอบบาง ตัวเล็ก
ทำให้ดิฉันเดาไม่ออกว่าอายุจริงสักเท่าไร สภาพร่างกายยายฟูแข็งแรง
กว่าแอนน์ แต่หากพูดถึงความทรงจำกลับตรงกันข้าม

แอนน์ เปิดประตูอพาร์ทเมนท์ อ้าแขนออก เราโผเข้ากอดกัน ท่านพูดปลอบใจ
ให้รู้สึกดีขึ้น วันนี้ดิฉันมารับการบ้านที่เคยขอให้ท่านช่วยวิจารณ์คืน เหมือนเช่นเคย
แอนน์เซฟแมกกาซีน 2-3 ฉบับไว้ให้ดิฉัน เพื่อไม่ให้ต้องเสียเงินซื้อ ทั้งทำ
เครื่องหมายให้อ่านบทความที่น่าสนใจไว้ด้วย ยังจำได้แม่นว่าเราเคยพูดค้างกัน
ถึงคำคมอังกฤษ “You can’t have your cake and eat it too.” ซึ่งท่านเคยสั่ง
ให้ดิฉันไปค้นหาความหมาย

มาครั้งนี้ท่านเก็บวารสารชื่อ Common Cause ไว้ให้ เป็นวารสารเกี่ยวกับ
รัฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ และกฎหมาย จัดทำโดยองค์กรที่ไม่ประสงค์กำไร
เพื่อส่งเสริมและเฝ้าระวังให้รัฐบาลมีการดำเนินงานอย่างเปิดเผย โปร่งใส
ขาวสะอาดและรับผิดชอบ     (An org promoting open, honest and
accountable gov.) แอนน์ชี้ให้ดูและอธิบายสั้นๆถึงบทความที่มีชื่อเรื่องว่า
You can’t have your cake.. ซึ่งดิฉันเดาว่าบทความนั้นๆคงเกี่ยวกับ
นักการเมืองผู้ซึ่งทำลายความเชื่อถือของตัวเองจนหมดสิ้น และยังแอบหวังว่า
ตนอาจสามารถขายฝันหลอกประชาชนอยู่ได้ ไม่น่าเชื่อว่าคำคมอังกฤษ
ประโยคนี้จะสามารถนำมาใช้ได้ดี แม้นในสังคมตะวันออกเช่น ประเทศไทยด้วย


กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 15 มี.ค. 06, 01:32
 วันรุ่งขึ้น เพื่อนรุ่นพี่ชื่อพี่อุ๊ กำลังเอก นักศึกษาปริญญาเอกสาขาสาธารณสุขศาสตร์ มารับไปส่งที่สนามบิน
ตามเวลาที่นัดแนะกัน เครื่องบินวันนั้นว่างตั้งครึ่งลำ ทางสายการบินอัพเกรดตั๋วชั้นบิซิเนสให้ไปนั่งใน
เฟริสท์คลาส หากเป็นยามปกติ การเดินทางที่ได้รับความสะดวกสบายเช่นนั้น อาจเป็นสิ่งที่น่ายินดี แต่
การเดินทางไปงานศพแม่ ดิฉันไม่มีจิตใจนึกถึงความสุขชั่วครู่ชั่วยาม ระหว่างเดินทาง ดิฉันหยิบจดหมาย
ไปรษณีย์อากาศของแม่ออกมาอ่าน ซึ่งเก็บไว้อย่างดีทุกฉบับ อ่านแล้วน้ำตาไหล จนแอร์โฮสเตส
สายการบินไชน่าส่งภาษาจีนกลางถามว่าโอเคหรือเปล่า

แรกๆเมื่อมาเรียนหนังสือ แม่ส่งจม. มาให้สัปดาห์ละ 1 ฉบับ พอนานไปแม่ส่งมาสองสัปดาห์
1 ฉบับ จดหมายแม่ก็สั้นๆ เขียนเล่าวันละหน่อย จนเต็มหน้าแล้วจึงส่ง ดิฉันพึ่งอ่านนิยายเรื่อง
“จดหมายจากเมืองไทย” ของโบตั๋น จบเมื่อไม่นานมานี้ ทัศนะคติของตันส่วงอู๋ต่อการดำเนิน
ชีวิตในประเทศไทยและคนไทยเป็นอย่างไร ทัศนคติของแม่ก็คล้ายๆอย่างนั้น แม่มีลูกหลาย
คนเพราะเฝ้ารอให้ได้ลูกชาย 3 คน ตามธรรมเนียมในสังคมจีนของแม่ เมื่อถึงเวลาทำศพบุพการี
บุตรชายคนโตจะเป็นคนถือ กระถางธูป คนรองถือรูปถ่าย และคนที่สามถือกระบองไม้รวกยาวสัก 50 ซม.
มีผ้ากระสอบปิดไว้ 1 ด้าน ดิฉันจำไม่ได้ว่ากระบองนี้เป็นสัญญลักษณ์ของอะไร เผอิญแม่มีลูกชาย
แค่ 2 คน จึงไม่ครบตามสูตรที่อยากให้เป็น

แม่เกิดในหมู่บ้านคนจีนที่นครปฐม  อากงและอาม่ามาจากเมืองจีน ตามธรรมเนียมลูกจีนในท้องถิ่นนั้น
ขณะที่เรียนหนังสือไทยจะต้องเรียนหนังสือจีนควบคู่ไปด้วย แม่จึงอ่านและเขียนภาษาจีนกลางและแต้จิ๋ว
ได้คล่อง และด้วยสังคมที่แม่อยู่มีชาวไทยดำอยู่มาก แม่จึงพูดลาวโซ่งได้คล่อง แม่มีนิยายภาษาไทย
และจีนเป็นตู้ๆ วันดีคืนดี แม่ก็ไขตู้หยิบนิยายจีนเล่มที่สนุกมาแปลให้พวกเราฟัง วิชาที่แม่ถนัดที่สุดคือ
คณิตศาสตร์ เพราะแม่มีพื้นฐานดีมาจากการใช้ลูกคิดที่สามารถบวก ลบ คูณ หารได้คล่อง แม่ชอบท่อง
สูตรคูณแม่ 17 แม่ 19 และ แม่ 21 ให้เราฟัง เวลาคูณเลข 2 หลัก 2 จำนวน แม่มักจะฝึกให้เราคูณในใจ
โดยไม่ต้องใช้เครื่องคิดเลข และคิดเสร็จเร็วกว่าคนที่ใช้เครื่องคิดเลขเสมอ  เวลาหยิบสินค้าให้ลูกค้า
แม่สามารถแปลงหน่วยนิ้วให้เป็นมิลลิเมตรได้โดยใช้วิธีคิดในใจ เช่นกัน  

ความห่วงหาอาทรของแม่ที่พึงมีต่อลูกมีเท่าไร ดูเหมือนว่าแม่ยกให้กับลูกชาย 2 คนจนหมดสิ้น
ในสายตาของดิฉันแม่จึงแทบไม่เหลือความอาทรให้ลูกสาวสักเท่าไรเลย หลายครั้งแม่พูดให้
ดิฉันน้อยใจในวัยเด็ก เช่น ว่าหากรู้ว่าดิฉันเกิดมาแล้วจะดื้อขนาดนี้ แม่จะไม่คอยลูกชายเลย ยิ่งแม่ว่าดื้อ
ตัวเองก็จะยิ่งดื้อ “ลองของ” สารพัด ดังนั้นไม้เรียวที่แม่ใช้เฆี่ยนตีดิฉันจึงมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
ตอนแม่ตี ดิฉันจะทำสมาธิในใจ ข่มความรู้สึกได้ เจ็บแค่ไหนก็จะเฉย เฉยจนบางคร้งแม่ตกใจก็มี

สิ่งเดียวที่ดิฉันเห็นว่าแม่ต่างจากตันส่วงอู๋ คือการเห็นความสำคัญของการศึกษาของลูก


กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 15 มี.ค. 06, 01:38
 กระทู้นี้ออกเงียบๆ คงไม่มีใครแวะเข้ามา ขอจบด้วนๆแล้วกันค่ะ


กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: paganini ที่ 15 มี.ค. 06, 02:34
 อ้าว ผมอ่านอยู่นา
อ่านเงียบๆ
เข้าใจถึงความรู้สึกครับ ถึงแม้จะไม่เกิดกับตัวเอง

ตอนผมเด็กๆ ซัก ป.6 หรือ ม.ต้นนี่แหละ
แม่ผมขายข้าวแกง ต้องเตรียมของต่างๆสำหรับการทำอาหารจนดึกดื่นทุกวัน ผมเองตอนเด็กๆไม่ได้ช่วยแม่เท่าไหร่ แต่มักจะนั่งดูทีวีอยู่ข้างๆเป็นเพื่อนแม่ทุกวัน (พ่อเป็นกรรมกรในเรือขุดแร่ ต้องไปอยู่บนเรือบ่อยๆ)
มีวันหนึ่งดึกมากแล้ว แม่ผมหิว อยากกินก๋วยเตี๋ยว แต่ทำงานมาตลอดก็เหนื่อยล้าเดินไม่ไหว เลยบอกให้ผมไปซื้อให้กินที่ร้านใกล้ๆบ้าน ผมก็ชะโงกหน้าไปมองร้านก๋วยเตี๋ยวแล้วบอกแม่ว่า  คนซื้อเยอะ รอคิวนาน เดี๋ยวรอคนน้อยกว่านี้ค่อยไป แม่ผมก็ไม่ว่าอะไร
แต่ สักพัก
ด้วยความง่วงนอนผมก็เลยเดินขึ้นบันไดจะไปนอน
แม่ผมเห็นก็ร้องถามมาว่า "จะไปนอนแล้วเหรอ ไม่ไปซื้อก๋วยเตี๋ยวให้แม่เหรอ"
ผมบอกว่า "ง่วงนอนมาก จะไปนอนแล้ว" แล้ก็เดินขึ้นไปนอนเลยด้วยความง่วงนอนที่ไม่สนใจอะไรแล้ว

ผมยังจำแววตาของแม่ที่มองผมตอนนั้นได้ถึงตอนนี้ เต็มไปด้วยความผิดหวัง ปวดร้าว .... บรรยายไม่ถูกเลยนะ

ผมนึกถึงตอนนั้นคงพอให้อภัยตัวเองได้ด้วยความเป็นเด็ก แต่ผมเสียใจมาก เสียใจมาจนถึงทุกวันนี้ ความรู้สึกผิดนั้นไม่เคยไปจากใจผมเลย

แต่ก็ดีที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมทำอะไรๆเพื่อแม่

หลังจากนั้นผมก็เลยบอกตัวเองว่าชีวิตผมจะไม่ทำให้แม่ผมผิดหวังในตัวผมอีกเลย


กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เฟื่องแก้ว ที่ 15 มี.ค. 06, 20:57

อ่านอยู่เหมือนกันนะคะ พี่นุช
อ่านเงียบๆ ค่ะ ไม่อยากปาดกลางเรื่อง
ฟังดูพี่นุชน้อยใจคุณแม่อยู่หน่อยๆ นะคะ
เฟื่องว่า คุณแม่เวลาวีนแตกก็คงอดไม่ได้ที่จะพูดอะไรเจ็บๆ
คุณแม่เฟื่องก็เหมือนกันค่ะ ออกแนวจิกๆ ตีๆ
เวลาดื้อรั้น แม่เตือนไม่ฟัง แม่จะบอกว่า
"ถ้าผิดหวังแล้วอย่ามาร้องไห้กับฉันนะ
บอกเสียก่อนว่า ฉันปลอบใจไม่เป็น
เป็นแต่สมน้ำหน้า"
โหดไหมละคะ
แต่จริงๆ แล้ว เฟื่องรู้ว่า แม่พูดเพราะหวังดี
ไม่อยากให้เราผิดหวัง เสียใจ ทำอะไรผิด ๆ
และแม่จะรักเฟื่องเสมอ
ไม่ว่าเฟื่องจะทำผิดร้ายแรงแค่ไหน
ถ้าแม่ไม่ว่าลูก คนอื่นห้ามแตะ
(ลูกข้า ใครอย่าแตะ ว่างั้นเหอะ)
เคยเห็นฤทธิ์กันมาแล้วค่ะ
ญาติทางพ่อมาว่าอะไรเฟื่องก็ไม่ทราบ
คุณนายแหม่มวีนแหลกเลย
ข้าศึกถอยร่นไม่เป็นกระบวน
แม่บอกว่า ลูกฉันไม่ดี ฉันตีฉันว่าสั่งสอนเองได้
คนอื่นไม่เกี่ยว นี่ เอากะแม่สิ

เฟื่องว่า แม่รักลูกทั้งนั้นนะคะ
ส่วนการแสดงความรักเป็นเรื่องของเอกลักษณ์เฉพาะตัว อิอิ
คุณแม่เฟื่องนี่ ออกแนวแปลกหน่อย


คุณปากกา น่ารักจังค่ะ รักคุณแม่จังเลย
คุณแม่คงชื่นใจมากเลยนะคะ
มีลูกชายที่ทำอะไรๆ เพื่อแม่อย่างนี้
เฟื่องสนิทกับคุณพ่อมากกว่าแม่น่ะค่ะ
ตอนเด็กๆ ไม่ค่อยลงรอยกับแม่เท่าไหร่
แต่พอโตๆ มาก็สำนึกได้ มองพ่อแม่ด้วยสายตาเป็นกลาง
แล้วก็พยายามที่จะไม่ทำให้พ่อแม่ผิดหวังเช่นกัน

พูดแล้วก็คิดถึงพ่อแม่ขึ้นมาติดหมัดเชียวค่ะ
ขอไปโทรหาคุณพ่อคุณแม่ก่อนนะคะ


กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 16 มี.ค. 06, 01:54
 คุณเฟื่องเก่งแฮะ... ที่น้อยใจแม่ก็จริงอยู่

ในครอบครัว แม่สามารถชี้นกเป็นนก และบังคับให้อะไรเป็นได้ดังใจทุกอย่าง แม่อุปการะน้องตัวเอง
และน้องพ่อโขยงหนึ่ง ลูกๆ และคนงานอีกหลายชีวิต แม่เป็นตัวอย่างของการประหยัดที่แม่บ้าน
ต้องเรียนรู้...อะไรสมควรจ่ายหรือไม่สมควร แม่ให้พี่เลี้ยง 2 คนไปเรียนเย็บผ้า แต่แม่จะเป็นคนสอนวิธี
การวางผ้าให้ประหยัดผ้าได้ตัวละ 20-30 ซม. โดยที่โรงเรียนไม่ได้สอน บางครั้งแม่สั่งให้ซื้อผ้า 1 หลา
แต่คนขายบอกว่าต้องใช้ 1.10 ซม. กลับมาถึงบ้าน แม่ก็พิสูจน์ให้เห็นว่า  1 หลานั้นพอ เวลาแม่ตัดผ้า
จึงไม่ค่อยมีเศษผ้าเหลือ เด็กรุ่นใหม่อาจไม่ทราบว่าสังคมไทยสมัยก่อนค่อนข้างประหยัด ไม่ฟุ่มเฟือย
เหมือนปัจจุบัน

เรื่องระเบียบวินัยในครัวเรือนเป็นสิ่งที่แม่เคร่งครัดมาก หน้าที่ตอนเช้าของดิฉัน คือการล้างแก้วและ
ชงน้ำชาให้เสร็จก่อนแม่กลับจากตลาด บ้านเรามีคนครัวตั้งหลายคน แต่หน้าที่ของลูกคนอื่นห้ามทำแทน

แม่เป็นคนดุและเข้มงวด แต่กับลูกค้าแม่จะใจดีและเป็นกันเองเสมอ หากแม่ยุ่งอยู่กับลูกค้ารายหนึ่ง
คนใหม่เข้ามา แม่จะร้องทักลูกค้า จำได้ว่าแม่ไม่เคยปล่อยลูกค้าออกจากร้านเพราะไม่ตกลงราคาเลย
ในสมัยก่อน หน่วยงานราชการไทยได้รับจัดสรรเงินไม่คล่องเหมือนสมัยนี้ แม่เป็นร้านเดียวในจังหวัด
ที่ยอมให้ส่วนราชการติดค้าง เพราะช้าแต่ว่าชัวร์ เป็นความเสี่ยงที่ยอมรับได้

ความใฝ่ฝันของแม่คือการส่งเสริมให้ลูกเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ใช้แรงงานคนในครอบครัวก็จริง
แต่เมื่อลูกขึ้นมัธยม แม่จะเน้นเรื่องการเรียนของลูกมาก ตรงนี้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แม่เครียดเกินไป
ลูกคนไหนอ่อนอะไร แม่จะหาครูสอนพิเศษมาให้ เราถูกปลูกฝังว่าจบมัธยมต้นแล้ว จะต้องไปสอบแข่ง
เข้าโรงเรียนมัธยมดังที่กรุงเทพฯ แม่จึงปลุกลูกขึ้นมาดูหนังสือแต่เช้า พี่ชาย 2 คนเป็นคนเรียนหนังสือเก่ง
ตอนไปเรียนมัธยมที่โรงเรียนเดียวกับดิฉันที่กรุงเทพฯ พี่ชาย 2 คน มาสไตล์เดียวกันจะเขียน ป.ณ. บัตร
มาออดอ้อนแม่ วันนั้นแม่ยิ้มแล้วหลุดปากว่า ไม่เคยรักใครเท่า “ลูกชาญ” เช่น

“กราบเท้าแม่ที่เคารพ...วันนี้ชาญไปฟังผลสอบ ชาญสอบได้ที่ 1 ของห้อง ได้เกรด...”

ทั้งๆที่โทรศัพท์ไปคุยกับแม่ก็ได้ แต่พี่ชายจะเลือกวิธีที่ให้ exciting moment ซึมซับเช้าตัวแม่
ให้แม่ปลื้มนานๆ นี่แหละค่ะ...วิธีเก็บเกี่ยวความรักจากแม่ตามครรลอง ทำให้แม่ไม่มีความรักมากพอ
ที่จะ spare ให้ลูกสาว


กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 16 มี.ค. 06, 02:58
 วันก่อนได้รับคำตอบเรื่องกล้องทาง SMS  แล้วกล้องเกี่ยวอะไรกับกระทู้นี้...เกี่ยวเต็มๆค่ะ
**********
มีคำถาม อยากเรียนถามค่ะ
1) เมื่อหลายปีก่อนซื้อกล้อง Nicon AF 2020 หรือรุ่นอะไรคล้ายชื่อนี้
เฉพาะ body ก็หมื่นกว่าบาท + เลนส์ 35-105mm Nicon +Flash Nicon
ทั้งหมด ราว $1000 แต่ที่ผ่านมาถ่ายไปไม่เคยเกิน 10 ม้วน เพราะพึ่งพบว่า
ตัวเองไม่ได้ชอบถ่ายล้ำลึกขนาดมืออาชีพ แค่ loading film ยังทำไม่เป็น
จึงไปซื้อกล้องปัญญาอ่อนมาใช้ค่ะ

อยากทราบว่า หากเก็บในสภาพดี กล้องนี้ยังจะใช้ได้ไหมค่ะ

:ตอบ  เห็น spec. แล้วน้ำลายยืด
ถ้าเก็บดี กล้องสามารถมีอายุได้นับสิบปีครับ โดยเฉพาะกล้องกลไก
***********
ขณะที่จะมาเรียนหนังสือตอนปี 1 พ่อหน้าหงิกไม่พูดด้วย สั่งให้แม่ยื่นคำขาดว่าให้เรียนปริญญาตรีให้จบก่อน
พอแม่เห็นว่าทัดทานไม่ได้ แม่เลยบอกกับดิฉันว่าถ้าเรียนไม่จบไม่ต้องกลับมาบ้านให้เห็นหน้า
บรรยากาศในบ้านสัปดาห์สุดท้ายตึงเครียดมาก พี่ๆไม่มีใครจะไปส่งที่ดอนเมืองเลย
สัปดาห์นั้นเจ้ากรรม ดิฉันนอนตื่น 8 โมงเช้า ร่วม 3 วัน ซึ่งการนอนตื่นสายที่บ้านรับไม่ได้ แม่ขู่ว่าจะยึดตั๋วเครื่องบิน
สรุปว่ามีพี่ 1 คนที่จะไปส่ง และเพื่อนจุฬาฯ 5 คน
แต่พอถึงวันเดินทาง แม่ก็ไปส่งด้วย พี่เดินไปซื้อฟิล์มเพราะลืมหยิบมาจากบ้าน จะถ่ายรูปให้
แต่กลับมามือเปล่าบอกว่าฟิล์มข้างนอกม้วนละ 60 บาท ที่สนามบิน 150 บาท “งั้นไม่ต้องถ่ายรูปหรอกนะ”
ดิฉันจึงเห็นแม่ที่สนามบินเป็นครั้งสุดท้าย และเสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปเพื่อนจุฬากลุ่มนั้น
นึกหน้าได้เพียงเลือนๆ เพราะเรียนด้วยกันไม่นาน และขาดการติดต่อ

ระหว่างเรียน พอดิฉันมีรายได้เป็นของตนเอง เห็นกล้องแล้วแค้นใจ จึงซื้อกล้องดีๆประชด
เพราะน้อยใจเหตุการณ์ที่สนามบินวันนั้นยังไม่หาย ส่วนตัวดิฉันไม่ชอบถ่ายรูปเลย แค่ลบปมในใจเท่านั้น


กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 มี.ค. 23, 09:35
วันสตรีสากลเกิดขึ้นได้อย่างไร❓

ค.ศ. ๑๙๐๘ ได้มีการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญในนิวยอร์ก ด้วยการเดินขบวนของผู้หญิงกว่า ๑๕,๐๐๐ คน เพื่อเรียกร้องชั่วโมงการทำงานที่สั้นลง ค่าจ้างที่ดีขึ้น และสิทธิในการลงคะแนนเสียง

ค.ศ. ๑๙๐๙ พรรคสังคมนิยมแห่งอเมริกาได้จัดวันสตรีแห่งชาติเป็นครั้งแรกตรงกับวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ซึ่งมีผู้หญิงจำนวนมากออกมาเดินขบวนในหลายเมืองทั่วประเทศ จากนั้นจึงได้กำหนดให้วันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์เป็นวันสตรีแห่งชาติเรื่อยมาจนถึง ค.ศ. ๑๙๑๓

ค.ศ. ๑๙๑๐ สภาสังคมนิยมสากลได้เห็นชอบให้มีการจัดงานวันสตรีสากล หลังการผลักดันของ คลารา เซตกิน (Clara Zetkin) นักกิจกรรมชาวเยอรมัน และในปีถัดมา หลายประเทศในยุโรปจึงเริ่มจัดงานวันสตรีสากลเป็นครั้งแรก ในวันที่ ๑๙ มีนาคม ซึ่งมีประชาชนรวมกันนับล้านที่เข้าร่วมการเดินขบวนในวันนี้

ในวันที่ ๘ มีนาคม ๑๙๑๗ (๒๓ กุมภาพันธ์ ตามปฏิทินจูเลียน) สาวรัสเซียได้ออกมาเดินขบวนเนื่องในวันสตรีสากล พร้อมกับการประท้วงเพื่อ "ขนมปังและสันติภาพ" หลังทหารรัสเซียต้องเสียชีวิตไปกว่า ๒ ล้านรายในสงครามโลกครั้งที่ ๑ แม้รัฐบาลของกษัตริย์รัสเซียพยายามกำราบแต่ประชาชนยังคงลุกฮือต่อต้านอย่างแข็งขัน จนพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ ๒ ถูกขับออกจากราชบัลลังก์

ค.ศ. ๑๙๒๑ วันสตรีสากลได้ถูกกำหนดให้ตรงกับวันที่ ๘  มีนาคมอย่างเป็นทางการ ซึ่งในทศวรรษถัดมาหลังการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิในการลงคะแนนเสียงของสตรีเป็นผลสำเร็จ การให้ความสำคัญกับวันสตรีสากลจึงค่อย ๆ เสื่อมลง จนกระทั่งถึงทศวรรษที่ ๑๙๖๐ เมื่อลัทธิสตรีนิยมเริ่มเติบโตขึ้น และด้วยการสนับสนุนจากองค์การสหประชาชาติ วันสตรีสากลจึงถูกกลับมาให้ความสำคัญอีกครั้งในช่วงปลายศตวรรษที่ ๒๐

ข้อมูลจาก ศิลปวัฒนธรรม (https://www.silpa-mag.com/this-day-in-history/article_7148)

๘ มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ ;D


กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 มี.ค. 23, 10:35
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว …….

ในสมัยกรีกโบราณ มีกฎหมายห้ามไม่ให้ผู้หญิงเรียนแพทย์

จนกระทั่งมีคนฝ่าฝืน ในปี ๓๐๐ ก่อนคริสตศักราช หญิงผู้ฝ่าฝืน ชื่อ อักโนไดซ์ (Agnodice (https://en.wikipedia.org/wiki/Agnodice)) เธอตัดผมสั้น แต่งตัวเป็นผู้ชาย เข้าโรงเรียนแพทย์อเล็กซานเดรีย

ครั้งหนึ่งขณะเดินไปตามท้องถนนในกรุงเอเธนส์ หลังจากจบการศึกษาด้านการแพทย์ เธอได้ยินเสียงร้องของหญิงที่กำลังคลอดบุตร  แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ต้องการให้อักโนไดซ์แตะต้องตัวเธอ มิใยว่าเธอจะเจ็บปวดมากก็ตาม เพราะเธอคิดว่าอักโนไดซ์เป็นผู้ชาย อักโนไดซ์พิสูจน์ว่าเธอเป็นผู้หญิงโดยถอดเสื้อผ้าออกโดยไม่มีใครเห็น แล้วทำคลอดช่วยผู้หญิงคนนั้น

จากนั้นไม่นาน เรื่องราวก็แพร่ไปในหมู่ผู้หญิง ผู้หญิงทุกคนที่ป่วยจะพากันไปหาอักโนไดซ์  หมอผู้ชายพากันริษยาและกล่าวหาอักโนไดซ์ที่พวกเขาคิดว่าเธอเป็นผู้ชาย ทำยั่วยวนคนไข้หญิง ในการพิจารณาคดีของเธอ อักโนไดซ์ยืนยันต่อหน้าศาลและพิสูจน์ว่าเธอเป็นผู้หญิง  คราวนี้เธอถูกตัดสินประหารชีวิตเพราะเข้าเรียนแพทย์และประกอบวิชาชีพแพทย์ในฐานะเป็นผู้หญิง บรรดาผู้หญิงต่างไม่พอใจต่อคำตัดสิน โดยเฉพาะภรรยาของผู้พิพากษาที่ให้โทษประหารชีวิต บางคนบอกว่าถ้าอักโนไดซ์ถูกประหาร พวกนางตายไปพร้อมกับเธอ  

ผู้พิพากษาทั้งหลายไม่สามารถทนต่อแรงกดดันของภรรยาและผู้หญิงคนอื่น ๆ ได้ จึงยกโทษให้อักโนไดซ์ และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผู้หญิงก็ได้รับอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมได้ โดยมีเงื่อนไขว่าจะรักษาเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น

ดังนั้น อักโนไดซ์จึงสร้างชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ ในฐานะแพทย์หญิง และเป็นสูตินรีแพทย์หญิงชาวกรีกคนแรก

จาก World Ancient History (https://m.facebook.com/groups/852847715448660/permalink/1325982074801886/?mibextid=qC1gEa)

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "ผู้หญิงน่ะ อยากเป็นอะไรก็ได้ และเป็นใหญ่กว่าสามีเสมอ ดูจากภรรยาของผู้พิพากษานั่นเป็นไร" (บางท่านกล่าว)

สุขสันต์วันสตรีสากล ;D


กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 มี.ค. 23, 14:30
https://www.youtube.com/watch?v=rptW7zOPX2E


กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 มี.ค. 23, 15:35
บทกวีสำหรับสตรี (ชาวเรือนไทย) ;D

"อหังการของดอกไม้" (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1038.msg17864#msg17864)

จิระนันท์  พิตรปรีชา
ประชาธิปไตย ๔ พฤศจิกายน ๒๕๑๖

https://youtu.be/XZPZDSsXMjU


กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 14 มี.ค. 23, 11:35
ควันหลงวันสตรีสากล ;D

ตอนหนึ่งของสุนทรพจน์ โดย มิเชล โหย่ว (Michelle Yeoh) หลังจากคว้ารางวัล "ออสการ์ ๒๐๒๓" นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม

"สตรีทั้งหลาย อย่าปล่อยให้ใครบอกคุณว่า คุณได้ผ่านช่วงเวลาสำคัญมาแล้ว" (Ladies, don't let anybody tell you you are ever past your prime.)

https://youtu.be/5lSD5kug-_c


กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 มี.ค. 24, 09:35
สุขสันต์วันสตรีสากล ๘ มีนาคม ๒๕๖๗ ;D


กระทู้: 8 มีนาคม วันสตรีสากล ผู้หญิงจงเจริญ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 มี.ค. 24, 14:46
 :) :)