นับพ.ศ.กันใหม่
โรงเรียนบพิตรภิมุขตั้งเมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๘ ดังนั้นขุนสุนทรลิขิตน่าจะถึงแก่กรรมราว พ.ศ. ๒๔๓๐ ท่านอายุราว ๓๐ ปี ดังนั้นท่านน่าจะเกิดประมาณ พ.ศ. ๒๓๙๘ - ๒๔๐๐
รัชกาลที่ ๕ เริ่มต้นเมื่อพ.ศ. ๒๔๑๑ ก็ประมาณว่า ท่านขุนอายุ ๑๑-๑๓ ปี เมื่อสิ้นรัชกาลที่ ๔ น่าจะยังไว้จุกอยู่ หรือไม่ก็เพิ่งโกนจุกใหม่ๆ
ส่วนสุนทรภู่ จะเกิดจะตายเมื่อไรยังถกเถียงกันได้หลายทาง แต่ที่แน่ๆคือเรารู้จากหลักฐานในงานกวีของท่าน เช่นในนิราศสุพรรณว่า ท่านเคยอยู่วังหลังมาก่อน
วังหลังนั้นรุ่งเรืองอยู่ในรัชกาลที่ ๑ พอถึงรัชกาลที่ ๓ กลายเป็นวังร้างไปแล้ว
ท่านเคยเป็นคนโปรดของรัชกาลที่ ๒ มีข่าวลือว่าถูกสมเด็จพระนั่งเกล้าฯกริ้ว ฯลฯ ล้วนแต่เป็นเหตุการณ์ก่อนยุคขุนสุนทรลิขิต ถึงสามรัชกาล
โดยส่วนตัวเชื่อว่าท่านผู้หญิงจำผิด
ส่วนคุณปู่ท่านรู้จักแม่จันทร์ในฐานะอะไร สนิทกันแค่ไหน นี่ก็ยังสงสัยอยู่
แม่จันทร์เป็นสาวชาววังหลัง วัยรุ่นราวคราวเดียวกับสุนทรภู่ ในรัชกาลที่ ๕ นับมา ๔ รัชกาลจากวังหลังรัชกาลที่ ๑ แม่จันทร์ถ้ายังไม่ตาย ก็น่าจะอายุยืนยาวมหาศาล
นับคร่าวๆจากสิ้นรัชกาลที่ ๑ เมื่อพ.ศ. ๒๓๕๒ มาจนตั้งร.ร.บพิตรภิมุขในพ.ศ. ๒๔๒๘ กินเวลา ๗๖ ปี แม่จันทร์เป็นสาวชาววังหลัง บวกเข้าไปสัก ๒๐ ปี ว่าเธออายุเท่านี้ตอนสิ้นรัชกาลที่ ๑ (ที่จริงน่าจะมากกว่านี้) แม่จันทร์ก็ ๙๖ ปีเข้าไปแล้ว อย่างน้อย
อีกอย่างหนึ่งก็คือ แม่จันทร์นั้นเธอเลิกร้างกับสุนทรภู่ไปได้สามีใหม่ตั้งแต่อายุยังไม่มาก คนสมัยโน้นหย่าแล้วหย่าเลย ถือว่ามีเจ้าของใหม่ไปแล้ว ย่อมไม่เกี่ยวข้องกับสามีเดิมอีก ไม่งั้นเจ้าของใหม่จะแคลงใจ สุนทรภู่ก็ไปมีภรรยาอีกหลายคน
เหตุไฉน ท่านขุนสุนทรลิขิต จึงรู้จักแม่จันทร์ คุณย่ากองเอ่ยต่อเนื่องจากชื่อสุนทรภู่ ราวกับว่าเธอยังเป็นภรรยาของสุนทรภู่