กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: cinephile ที่ 06 ก.ย. 18, 17:30 อยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับหลวงนายสิทธิ์ว่าคุณหลวงเป็นใคร รับราชการอะไร
แล้วมีเรื่องวิวาทกับขุนบำรุงโยธาด้วยเรื่องอะไร และทำไมเจ้าพระยามหินทร ก็เฉเฉไฉๆ ไป จากสำเนาลายราชหัตถเลขา วัน ๕ฯ๒/๒ ค่ำปีระกาสัปตศก ศักราช ๑๒๔๗ ถึงเจ้าหมื่นไวยวรนารถ กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 06 ก.ย. 18, 17:45 อื้อหือ โจทย์ของท่าน ::)
กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 18, 17:56 ไม่มีปัญญาจะไปหาสำเนาลายราชหัตถเลขา วัน ๕ฯ๒/๒ ค่ำปีระกาสัปตศก ศักราช ๑๒๔๗
ถึงเจ้าหมื่นไวยวรนารถ ขอความกรุณาท่าน cinephile สแกนเอกสารหรือลอกลงมาให้อ่านทั้งหมดได้ไหมคะ กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 06 ก.ย. 18, 18:19 หลวงนายสิทธิ์เป็นคำเรียกขานมหาดเล็กชั้นรองหัวหน้าเวรสิทธิ์ ซึ่งมีบรรดาศักดิ์เป็น หลวงสิทธิ์ นายเวร
ส่วนขุนบำรุงโยธา ดูจากราชทินนามแล้วน่าจะเป็นข้าราชการกรมชาวที่ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลรักษาพระที่นั่งและพระราชอุทยาน กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 18, 19:05 อยากจะขอท่าน cinephile ว่า ถ้ามีรายละเอียดหน่อยก็ดีค่ะ เช่นเรื่องราวเป็นอย่างไร ที่มาที่ไปของเรื่องคืออะไร จะได้แกะรอยได้ง่ายขึ้นว่าหลวงนายสิทธิ์ท่านนี้เป็นใคร เพราะหลวงนายสิทธิ์มีอยู่หลายท่านด้วยกันค่ะ กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: cinephile ที่ 07 ก.ย. 18, 12:41 copy พระราชหัตถเลขามาให้พิจารณาครับ
กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: cinephile ที่ 07 ก.ย. 18, 12:45 อีกหน้า 2/3 ครับ
กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: cinephile ที่ 07 ก.ย. 18, 12:51 3/3 ครับ
กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: cinephile ที่ 07 ก.ย. 18, 13:25 คคห.ที่ 7 กดซ้ำไปสองครั้งครับ แต่ตอนท้ายของพระราชพัตถเลขา
ฉบับนี้รับสั่งถึง "ขุนบำรุงโยธาไปทำการวิวาทกับหลวงนายสิทธิ์เจ้า พระยามหินทร์ก็เฉๆ ไฉๆ ไป" อ.เทาชมพูมีความเห็นว่าทั้งสองมีปัญหา อะไรกันครับ กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.ย. 18, 14:32 เสียดาย ไฟล์ภาพใน ค.ห. 7 ทั้งสองไฟล์ เล็กมาก ขยายแล้วตัวหนังสือพร่าหมด อ่านไม่รู้เรื่อง
ใครพอจะแกะออก หรือทำภาพให้ใหญ่และชัดพออ่านได้บ้างคะ ดิฉันคิดว่าเนื้อความที่ท่าน cinephile ถามมาน่าจะเกี่ยวโยงกับข้อความก่อนหน้า กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 07 ก.ย. 18, 16:11 1
กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 07 ก.ย. 18, 16:12 2
กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 07 ก.ย. 18, 16:13 3
กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 07 ก.ย. 18, 16:15 คงพอจะอ่านพลางเดาพลางพอได้ความนะครับ assignmentของท่านcinephileครั้งนี้โหดมาก ตัวผมคงมีหวังจะส่งกระดาษเปล่า
กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: cinephile ที่ 07 ก.ย. 18, 16:38 ลองดูอีกครั้งครับว่าจะอ่านได้หรือเปล่า
กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: cinephile ที่ 07 ก.ย. 18, 16:57 อ่านของคุณ NAVARAT ดีกว่าครับ ที่ผม scan มาไม่ได้เรื่อง ขอสำคัญมีอยู่ว่า
หลวงนายสิทธิ์มีเรื่องวิวาทกับขุนบำรุงโยธาด้วยเรื่อวอะไร แล้วทำไมเจ้าพระยา มหินทรถึงเฉไฉๆ ไป เป็นไปได้หรือเปล่าว่าต้นเหตุของข้อวิวาทมาจาก "หวิง" ผู้ เป็นเด็กของเจ้าพระยามหินทร์ที่ฝูมฝักมาตั้งแต่เป็นเด็ก แต่ต่อมาหวิงได้มาหลงรัก กับ"คุณหญิงไลย์" ที่เป็นภรรยาของเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี ซึ่งในปีนั้นเจ้าพระยา สุรศักดิ์มนตรียังติดราชการปราบฮ่ออยู่ที่เมืองซ่อน อันนี้หรือเปล่าที่ทำให้พระยา มหินทร์ถึงได้ "เฉไฉๆ" กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: cinephile ที่ 07 ก.ย. 18, 17:28 ปัญหาเรื่องคุณหญิงไลย์กับอำแดงหวิงคงทำให้เจ้าพระยาสุศักดิ์มนตรีถึง
กับขอพระราชทานอนุญาติให้ภรรยาขึ้นมาอยู่ด้วยที่เมืองซ่อนซึ่งอยู่ในลาว (หัวพันห้าทั้งหก) ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานอณุญาติ (ผมเดา ว่าท่านคงระแคะระคายเรื่องอำแดงหวิงกับคุณหญิงไลบ์แล้ว เลยตัดไฟแต่ต้น ลมโดยส่วคุณหญิงไลย์ไปอยู่กับเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรีให้มันหมดเรื่องหมด ราวไป แต่เรื่องต่อไปจะเป็นอย่างไรผมยังค้นคว้าไม่ถึง หากใครรู้ก็แชร์กันมา ก็ดีเหมือนกันครับ) กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: cinephile ที่ 07 ก.ย. 18, 19:12 คำให้การของอำแดงหวิง
กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.ย. 18, 15:39 เอกสารสแกนของท่าน cinephile เล็กมากค่ะ ท่านต้องถ่ายเอกสารแล้วสแกนระดับ 800x600 อาจจะอ่านชัดขึ้น
ขนาดที่ส่งลงทั้งสองครั้ง เอาเข้าโปรแกรมขยายเองยังไงก็ไม่ชัด แต่ดิฉันก็พยายามแกะลายแทง ถอดออกมาได้ประมาณ ๙๐% ที่เว้นไว้คือแกะไม่ออก ต้องขอสายตาท่านอื่นๆมาช่วยเติม คนในกรมทหารหน้า ซึ่งได้จัดให้ชำระเพิ่มเติมขึ้นใหม่ คือเลขพระยามณเฑียรบาลบัว ๖๐๐ เศษ เลขพระองค์เจ้าวรภักตร์ ......เศษ เลขส่วย....ในกรมหมอวังหน้า ๔๐๐ เศษ คงจะได้ตัวตนจริงไม่ต่ำกว่าพันหนึ่ง......เป็นคนวังหลวงหมด แต่การเก่านั้นยังดูยุ่งเหยิงวุ่นวายกันอยู่ ให้ตรวจจำนวนคนที่รับราชการเมื่อใดจะครบ ๕ ปีเป็นพวกๆ ก็ยังไม่ได้จำนวนคนว่าเท่าใด เพราะขุนบำรุงโยธาไปทำการวิวาทกับหลวงนายสิทธิ์ เจ้าพระยามหินทร์ก็เฉๆไฉๆไป เราเห็นว่าถ้าไม่สางการเก่าเสียให้สอาด....รับคนใหม่เข้าไป ก็คงจะพากันยุ่งอีก ราชการทั้งปวงสงบเรียบร้อยดีอยู่ เดาจากเนื้อความว่าเป็นเรื่องพระบรมราชโองการให้ขุนนางไปชำระเลข คือตรวจจำนวนเลข( คือชายฉกรรจ์ที่จะเกณฑ์มาเป็นทหารได้)จากบัญชีชื่อที่ลงไว้ในเอกสาร ว่ามีจำนวนเท่าใด ก็รวบรวมจากหลายแห่งมาได้ ประมาณหนึ่งพันกว่าคน และจากนั้นมีพระบรมราชโองการให้สำรวจคนที่รับราชการมาครบ ๕ ปีมาแล้วว่ามีจำนวนเท่าใด (ตรงนี้ไม่ชัดว่าหมายถึงพวกเลข หรือพวกขุนนางผู้น้อยที่ไหน) แต่ปรากฏว่าจนแล้วจนรอด ก็ยังไม่ได้คำตอบสักที เพราะขุนนางที่(น่าจะ)ไปรับหน้าที่นับจำนวนคนเหล่านี้ เกิดวิวาทกันขึ้นมา คือขุนบำรุงโยธากับหลวงนายสิทธิ์ เดาว่าหลวงนายสิทธิ์ในฐานะรองหัวหมื่นมหาดเล็ก รับพระบรมราชโองการไปนับคนที่รับราชการมาแล้ว ๕ ปี (ซึ่งอาจจะทำให้ได้เว้นสิทธิ์ หรือได้เบี้ยเลี้ยง หรือได้สิทธิ์ประโยชน์อะไรสักอย่าง ก็ไม่รู้ละ) ไม่อาจประสานงานกับผู้ที่รับผิดชอบ (คือถือบัญชีรายชื่อและจำนวนคน ) อันได้แก่หลวงบำรุงโยธา คุณหลวงแกทำบัญชีขาดหาย เลยแจ้งไม่ได้ หรือแกยักท่ามีแต่ไม่ส่งคำตอบให้หลวงนายสิทธิ์ ก็ไม่รู้อีกเหมือนกัน รู้แต่ว่าสองคนนี้ขัดกันขึ้นมา งานเลยไม่เสร็จสักที ค้างเติ่งอยู่ยังงั้น ผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่ไปตามเรื่อง มีบัญชาให้เลิกทะเลาะกัน สั่งว่าเอางานมาถวายเดี๋ยวนี้ ได้แก่เจ้าพระยามหินทรฯ ก็เกิดทำงานไม่ได้เรื่อง อาจจะเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ไม่ถูกต้อง ในที่นี้เดาว่าไปเข้าข้างหลวงบำรุงโยธา จึงทรงใช้คำว่า เฉๆไฉๆ แปลว่าไม่ตรง หรือจะแปลว่าบ่ายเบี่ยงก็ได้ค่ะ ทั้งหมดนี้ยังไม่เห็นว่าเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี ค่ะ เรื่องคุณหญิงไลย์ จำได้รางๆว่าน่าจะถึงแก่กรรม เจ้าคุณท่านก็เลยแต่งงานอีกหนกับน้องสาวคุณหญิงไลย์ แต่ก็เลิกกันอีกค่ะ กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: cinephile ที่ 10 ก.ย. 18, 12:36 เท่าที่จำได้ก็ตือคุณหญิงไลย์(ท่านผู้หญิง?) เป็นภรรยาคนที่สองต่อจากคนที่ถึงแก่กรรมครับ
ที่ผมสงสัยว่ากรณีวิวาทระหว่างหลวงนายสิทธิ์กับนบำรุงโยธาน่าจะเป็นข้อวิวาทระหว่างพระยา มหินทร์กับพระนายไวยฯ คงจะมีปฐมเหตุจากคุณหยิงไลย์กับอำแดงหวิงที่เป็นอนุภรรยาของพระยา มหินทร์ถึงขนาดที่พระนายไวย์ขอพระราชทานเอาคุณหญิงไลยฺมาอยู่ด้วยในสนามรบโดยมีหลวงนาย สิทธิ์จะเป็นคนนำคุณหญิงไลย์ไปหาพระนายไวยที่เมืองซ่อน อันนี้เป็นการเดาเอาล้วนๆ นะครับ แต่ลงท้ายพระนายไวยไม่ได้เอาคุณหญิงไลย์ไปอยู่ด้วยตามที่ท่านบันทึก เอาไวเครับ กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: cinephile ที่ 10 ก.ย. 18, 14:02 อันนี้คัดมาจากพระราชหัตถเลขาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕
ราชการในกรุงเทพฯ นี้ก็สงบเรียบร้อยดีอยู่ มีแต่ทูตฝรั่งเศสมีหนังสือ มาเร่งรัด จะตั้งกงซุลฝรั่งเศสที่เมืองหลวงพระบางให้จงได้ ฝ่ายเราตอบ ว่า คนฝรั่งเศสมีประโยชน์อันไดในเมืองหลวงพระบางที่กงซุลจะต้องไปรักษา เรายังไม่ยอมให้ เอกสกวาเดอ ก็มีหนังสือ ตอบมาอีก ว่าท่านเสนาบดีผู้ว่าการต่างประเทศให้ขอตั้งให้ได้ ฝ่ายเราก็ยังไม่ยอม ว่าถ้าฝรั่งเศสจะชี้ให้เห็นได้ว่าผลประโยชน์อันใดของฝรั่งเศสมีในเมืองหลวง พระบางจึงจะยอม แต่เพื่อจะให้เป็นพะยานในทางไมตรี จึงได้มีคำสั่งให้ข้าหลวง สำหรับเมืองหลวงพระบาง สีบสวบแล้วมีริโปตลงมาว่าการค้าขายที่เมืองหลวงพระบาง ชองคนในบังคับฝรั่งเศสมีอันใดบ้าง ตราบังคับเรื่องนี้ถ้ามีขึ้นไปแล้ว เจ้าหมื่นไวยอยู่ใน เมืองหลวงพระบาง ให้ช่วยเปนที่ปฤกษาหาฤๅพระยาพิชัย ตำถามก็คือ เอกสกวาเตอ แปลว่าอะไรครับ (หมายถึงอะไรหว่า) กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: CVT ที่ 10 ก.ย. 18, 15:10 เอกสกวาเดอ ก็มีหนังสือ ตอบมาอีก ว่าท่านเสนาบดีผู้ว่าการต่างประเทศให้ขอตั้งให้ได้ ฝ่ายเราก็ยังไม่ยอม ว่าถ้าฝรั่งเศสจะชี้ให้เห็นได้ว่าผลประโยชน์อันใดของฝรั่งเศสมีในเมืองหลวง พระบางจึงจะยอม ตำถามก็คือ เอกสกวาเตอ แปลว่าอะไรครับ (หมายถึงอะไรหว่า) น่าจะเป็นชื่อคน หรือว่าจะเป็น Ambassador ครับ กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: CrazyHOrse ที่ 10 ก.ย. 18, 15:14 เอกสกวาเดอ คือ exequatur ครับ an official recognition by a government of a consul, agent, or other representative of a foreign state, authorizing them to exercise the duties of office.
กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: cinephile ที่ 10 ก.ย. 18, 15:28 สุดยอดครับคุณม้าบ้า ถามมาหลายคนแล้วไม่มีใครรู้เลยครับ
กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ก.ย. 18, 18:33 exequatur = อนุมัติบัตร (ให้ปฏิบัติหน้าที่กงสุล)
ราชการในกรุงเทพฯ นี้ก็สงบเรียบร้อยดีอยู่ มีแต่ทูตฝรั่งเศสมีหนังสือมาเร่งรัด จะตั้งกงซุลฝรั่งเศสที่เมืองหลวงพระบางให้จงได้ ฝ่ายเราตอบว่า คนฝรั่งเศสมีประโยชน์อันไดในเมืองหลวงพระบางที่กงซุลจะต้องไปรักษา เรายังไม่ยอมให้เอกสกวาเดอ (ทูตฝรั่งเศส)ก็มีหนังสือตอบมาอีก ว่าท่านเสนาบดีผู้ว่าการต่างประเทศให้ขอตั้งให้ได้ ฝ่ายเราก็ยังไม่ยอม ถอดความได้ว่า ทูตฝรั่งเศสอยากให้ตั้งกงศุลฝรั่งเศสที่เมืองหลวงพระบาง แต่ทางสยามเห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีกงศุลฝรั่งเศสในหลวงพระบาง ก็เลยไม่อนุมัติให้มีการตั้งกงศุลสักที ทางนั้นก็เร่งรัดมา ทางสยามก็ไม่ยอมอยู่นั่นเอง ึป.ล. คุณม้าเก่งมากค่ะ ถอดรหัสคำนี้ออก ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 10 ก.ย. 18, 18:40 อยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับหลวงนายสิทธิ์ว่าคุณหลวงเป็นใคร รับราชการอะไร หลวงนายสิทธิ์เป็นคำเรียกขานมหาดเล็กชั้นรองหัวหน้าเวรสิทธิ์ ซึ่งมีบรรดาศักดิ์เป็น หลวงสิทธิ์ นายเวร หลวงสิทธิ์นายเวรผู้นี้คือ นายบุศย์ บุตรชายของเจ้าพระยามหินทรศักดิ์ธำรง (เพ็ง เพ็ญกุล) พ.ศ. ๒๔๒๗ เป็นนายเสน่ห์ หุ้มแพร (บุศย์ เพ็ญกุล) เลขานุการของพระองค์เจ้าปฤษฎางค์ ร่วมกันลงชื่อในเอกสารกราบบังคมทูลความเห็นจัดการเปลี่ยนแปลงการปกครองราชการแผ่นดิน ร.ศ. ๑๐๓ (๑) พ.ศ. ๒๔๒๘ เมื่อเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรีครั้งเป็นเจ้าหมื่นไวยวรนารถเป็นแม่ทัพไปปราบปรามพวกฮ่อ โปรดเกล้าฯ ให้เป็นหลวงสิทธิ์นายเวร เป็นผู้บังคับการกรมทหารหน้าแทน (๒) (๑) เหตุการณ์ ร.ศ. ๑๐๓ (http://wiki.kpi.ac.th/index.php?title=เหตุการณ์_ร.ศ._๑๐๓) (๒) ตำนานกรมทหารราบที่ ๔ (https://th.m.wikisource.org/wiki/ตำนานกรมทหารราบที่_๔) กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 10 ก.ย. 18, 18:41 พ.ศ. ๒๔๒๙ เป็นกรรมการพิจารณาการจัดสร้างโรงพยาบาลศิริราช
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2430/005/34_1.PDF กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 10 ก.ย. 18, 18:50 พ.ศ.๒๔๔๓ ลาออกจากราชการ บรรดาศักดิ์สุดท้ายคือ เจ้าหมื่นไวยวรนาถ
เวลาเดียวกัน นายบุศย์ (ซึ่งดำรงตำแหน่ง เจ้าหมื่นไวยวรนารถ) บุตรชายคนหนึ่งของเจ้าพระยามหินทรศักดิ์ธำรง (เพ็ง เพ็ญกุล) ได้เปิดตัวโรงละครใหม่ขึ้นอย่างใหญ่โตมโหฬาร ซึ่งทำให้มีหนี้สินมากมาย เป็นเหตุให้ตัดสินใจขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตไปแสดงละครยังต่างประเทศ ซึ่งล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ ได้มีพระราชโองการโปรดเกล้าว่า ถ้าจะนำคณะละครไปแสดงก็ต้องถอดยศ หรือ ลาออกจากการเป็นเจ้าหมื่นเสียก่อนจะไปทั้งตำแหน่งไม่ได้ต้องไปในฐานะนายบุศย์ ประชาชนคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ดังปรากฏเอกสารแจ้งความลาออกของนายบุศย์ จากราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ ๑๗ หน้า ๑๕๖ วันที่ ๘ กรกฏาคม ๑๑๙ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2443/015/156.PDF กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 10 ก.ย. 18, 18:57 ...คณะละครนายบุศย์มหินทร ถูกส่งกลับเนื่องจากการแสดงขาดทุนอย่างยับเยิน ไม่มีแม้ค่าเดินทางกลับบ้างก็ว่าหญิงละครบางคนต้องนำชุดละครออกขายฝรั่งเพื่อเป็นค่าเดินทางกลับสยาม บ้างก็ว่าได้รับความช่วยเหลือจากราชฑูตในยุโรป ทั้งนายบุศย์เองเมื่อกลับมาถึงยังโดนหญิงละครภายในคณะฟ้องร้องเรื่องค่าแรงตามสัญญาอีกด้วย คณะละครนายบุศย์มหินทรกลับถึงสยามราวๆ กลางปี พ.ศ. ๒๔๔๔ โดยอ้างถึงหลักฐานจากหนังสือพิมพ์บางกอกไตมส์ฉบับวันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๔๔ ว่า "ตั้งแต่กลับมาจากประเทศยูโหรบแล้ว บัดนี้เจ้าหมื่นไวยวรนารถได้ป่วยไป เข้าใจว่าเป็นเพราะเปลี่ยนอากาศ ร่างกายกระทบความร้อนในกรุงเทพฯ เข้า แต่ก็หวังว่าโรคที่ป่วยนั้น ไม่ช้าคงจะหายดีอย่างเดิม" นายบุศย์ ถึงแก่กรรมเมื่อวันจันทร์ที่ ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๔๔ (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5923.0;attach=14785;image) กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ก.ย. 18, 20:00 ;D
เป็นอันว่าท่าน Cinephile ได้คำตอบแล้วนะคะ กระทู้: หลวงนายสิทธิ์ เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 10 ก.ย. 18, 20:12 สุดยอดจริงๆครับ ท่านทั้งหลาย
|