เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2 3 ... 9
  พิมพ์  
อ่าน: 33746 " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป ๔ "
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



 เมื่อ 16 มี.ค. 08, 12:35

ถ้วยชามเบญจรงค์..
เป็นศิลปะของสี อย่างหนึ่งที่รัชกาลที่ ๕ นำมาใช้กับวัดประจำรัชกาลของพระองค์
วัดราชบพิธค่ะ
ชื่อเต็มๆว่า วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
สร้างในสมัยของพระองค์
เคยไปไหมคะ


บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 16 มี.ค. 08, 13:14

หากจะไปวัดนี้ ต้องหาที่จอดรถก่อนอื่น ในวันธรรมดา จอดได้ที่ประตูด้านติดกระทรวงมหาดไทย ส่วนวันเสาร์อาทิตย์ ไม่ยากนัก รอบๆวัดเป็นถิ่นเก่าุยุคโรงพิมพ์รุ่งเรือง เรียกว่า ย่านเฟื่องนคร
เป็นย่านที่คนทำหนังสือยุคหนึ่งเดินขวักไขว่เข้าออกโรงพิมพ์เป็นว่าเล่น
ดิฉันก็เป็นคนหนึ่งค่ะ
วัดนี้สมัยหนึ่ง เป็นที่ถ่ายทำภาพยนต์จอตู้ จักรๆวงศ์ๆ จึงมีภาพที่คุ้นเคยหลายมุม
ดิฉันจำทหารยามในชุดสีฟ้า ด้านถนนเฟื่องนครได้ดี
บริเวณวัดนี้เดิมเป็นวังของพระบรมวงศ์เธอกรมหลวงบดินทรไพศาลโสภณ วัดราชบพิธฯ เริ่มก่อสร้าง เมื่อ พ.ศ. 2412 (สมัยรัชกาลที่ 5) เสร็จในปี พ.ศ. 2413 แล้วนิมนต์พระสงฆ์จากวัดโสมนัสวรวิหารมาจำพรรษาอยู่ พร้อมกับอัญเชิญพระพุทธนิรันตรายมาประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถ
วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร ร.๕ โปรดให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นวัดประจำรัชกาลของพระองค์ โดยสร้างเลียนแบบ ๒ วัดคือ วัดพระปฐมเจดีย์กับวัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมารามซึ่งเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๔ 

โดยภายในวัดแบ่งออกเป็น ๓ ส่วน คือ เขตพุทธาวาส เขตสังฆาวาส และเขตสุสานหลวง
สุสานหลวงนี่หละค่ะ ที่สมัยก่อนร่มครึ้ม สวยงามเสียนี่กระไร
เดินวนไปวนมาด้วยความทึ่ง
แต่ยุคนั้น ไม่มีเอกสารหรือบอร์ดให้อ่านประกอบเหมือนวันนี้


บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 16 มี.ค. 08, 13:39

ทหารยามหน้าคุ้นด้านนี้ ดิฉันเห็นมาตั้งแต่ปี๒๕๑๖ ไปครั้งหลังสุดนี่ก็ยังเหมือนเดิม ได้รับการบูรณะจนไม่โทรม คนเฝ้าวัดบอกว่า เพิ่งบูรณะครั้งใหญ่ในช่วงฉลองกรุงเทพสองร้อยปี
เสียงเด็กประถมเล่นปิงปอง วิ่งไปวิ่งมา บรรยากาศเก่าๆคล้ายสมัยก่อน
และให้บังเอิญว่าคุณช่างภาพ เป็นนักเรียนเก่าโรงเรียนนี้ แวะมานึกถึงความหลังครั้งเตะบอลหนวกหูท่านเจ้าอาวาสยุคหนึ่งด้วย
ท่านเป็นถึงพระสังฆราชค่ะ


บันทึกการเข้า
Oam
แขกเรือน
ชมพูพาน
***
ตอบ: 168



ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 16 มี.ค. 08, 14:06

มาเมียงมองกระทู้ใหม่
ไม่เคยเข้าวัดราชบพิธครับ (จะเสียชาติเกิดไหมเนี่ย)

เมื่อคืนเห็นข่าวสมเด็จพระเทพฯ เสด็จวัดจันทน์กระพ้อ แถวปทุมฯ
เมรุของเขาที่ดูจากในข่าวอลังการมาก เห็นทีจะเป็นวัดมอญ
ยังนึกถึงพี่กุ้งแห้งฯ ว่าอาจจะรู้จักวัดนั้นอยู่บ้าง
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 16 มี.ค. 08, 20:10

คุณโอมคะ ไม่เคยได้ยินชื่อวัดจันทน์กะพ้อเลยค่ะ ถ้าอยู่เมืองนนท์ เห็นท่าจะต้องไปเยือนวัดชมพูเวกก่อน มีคนชวนอยู่เหมือนกัน
..นักเขียนอย่างคุณโอม ควรจะหาเวลามาเดินสูดไอดินกลิ่นหมึก(ที่จางหายไป)และกินน้ำแข็งใสที่ริมถนนใกล้วัดนะคะ วันที่อากาศร้อน จะสดชื่นมาก เพราะร้านอยู่ใต้ต้นไม้ ร่มรื่น และลมพัดเย็น
..โรงพิมพ์ดังๆที่เรียงรายกันย้ายออกไปเหลือไม่กี่โรง เฟื่องนครสร้างเศรษฐีในวงการพิมพ์มายุคหนึ่ง แต่ไม่ทราบว่ามีนักเขียนท่านใดบ้าง ร่ำรวยจากการทำหรือเขียนหนังสือ อาชีพนี้ รวยเงียบหรือไง..
วัดราชบพิธ เป็นวัดเล็กๆค่ะ การออกแบบลงตัว ไม่ได้สร้างทีละอย่างสองอย่าง
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 16 มี.ค. 08, 20:20

ทวารบาลวัดนี้ไม่เหมือนใคร


บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 16 มี.ค. 08, 20:22

 อายจัง


บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 17 มี.ค. 08, 12:00

ที่เด่นเป็นเอกลักษณ์ของวัดนี้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีอิทธิพลมาจากวัดโพธิ์ในรัชกาลที่ ๓ ก็คือทั้งพระอุโบสถ เจดีย์ และพระวิหาร รวมถึงระเบียงคด ตกแต่งด้วยลายกระเบื้องเคลือบเบญจรงค์ ทุกแผ่นเขียนด้วยมือ
การวางรูปทรงกระเบื้องขนาดต่างๆลงตัวเหมาะเจาะ กลมกลืน เมื่อออกจากวัดโพธิ์แล้วมาวัดราชบพิธ จะรู้สึกถึงการปรับและถ่ายทอดอารมณ์จีนเป็นไทยที่สมบูรณ์แบบมาก ในด้านนอกของวัด
การวางพระอุโบสถ วิหาร ระเบียงวัด และเจดีย์ ทั้งสง่างาม กลมกลืน เดินง่าย ชมด้านหน้าเดินเลียบมาด้านหลัง
ศิลปะที่เด่นมากคือบานประตูพระอุโบสถทั้งหน้าและหลัง เป็นกราฟฟิคดีไซน์ชั้นครูค่ะ ดูแล้วงง เพราะโมเดิร์นมาก


บันทึกการเข้า
elvisbhu
แขกเรือน
พาลี
****
ตอบ: 215

เป็นคนเขียนรูป


ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 17 มี.ค. 08, 14:37

มาเสริมครับ
...
"วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร" เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2412 โดยมีพระประสงค์ที่จะสร้างให้เป็นวัดประจำรัชกาล โดยมีพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐ์วรการพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นณรงคหริรักษ์ (พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช) พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพศาสตรศุภกิจ และเจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธิบดี (มรว. ปุ้ม มาลากุล) เป็นผู้อำนวยการสร้าง


     มีลักษณะผสมระหว่างสถาปัตยกรรมไทยและยุโรป คือ ลักษณะภายนอกเป็นสถาปัตยกรรมไทย ส่วนภายในออกแบบอย่างตะวันตก และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า "วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม" มีความหมายว่า วัดที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้าง และมีมหาสีมาอันเป็นเสาศิลาจำหลักยอดเป็นรูปเสมาธรรมจักร 8 เสา ตั้งเป็นสีมาที่กำแพง 8 ทิศ

     "ราชบพิธ" หมายถึง พระอารามที่พระเจ้าแผ่นดินสร้าง และ "สถิตมหาสีมาราม" หมายถึง พระอารามซึ่งมีมหาเสมา หรือเสมาใหญ่

บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 17 มี.ค. 08, 17:02

ขอบคุณนะคะ
...
สร้างความแปลกใหม่ทั้งที ก็ต้องฝีมือถึง วัดนี้มีเอกลักษณ์คือ ภายนอกไทย ภายในฝรั่ง 


บันทึกการเข้า
Kurukula
สุครีพ
******
ตอบ: 1303



ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 17 มี.ค. 08, 18:23

วัดราชบพิตรเคยไปไม่กี่ครั้งเองครับ

ไม่ค่อยชอบโต๊ะปิงปองกับตึกเรียนที่ทำให้เสียทัศนียภาพ

แต่ก็เป็นเรื่องปกติของเมืองไทย

วัดกับโรงเรียนย่อมคู่กัน
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 18 มี.ค. 08, 07:16

วัดราชบพิธค่ะ คุณกุรุกุลา
ทุกครั้งที่ไป ดิฉันกลับรู้สึกว่าเป็นวัดที่พร้อมมูลในคอนเส็ปท์วัด เพราะแบ่งแยกพุทธาวาส สังฆาวาส สุสานหลวง และโรงเรียนได้ลงตัว ไม่มีเสียงเด็กนักเรียน ก็ไม่มีชีวิตชีวา ตอนที่ไป ข่าวหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์คือคนใจบาปหยาบช้าลอกทองวัด จึงมีตำรวจอาสาเดินตรวจตราบริเวณ
มีไกด์คนที่ดิฉันเห็นประจำ ที่อธิบายคำว่าพระสังฆราชเหมือนไม่รู้จักศัพท์ว่า Patriarch
และมีพระภิกษุกวาดลานวัด กำจัดใบและกลีบลั่นทมร้อยปีที่หล่นร่วงช่วงนอกกำแพงแก้ว
ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ เป็นลมหายใจที่ทำให้วัดราชบพิธ คงชีวิตชีวาไว้
ยามวัดเล่าว่า มีฝรั่งได้ขโมยพระพุทธรูปในสุสานหลวงไป แล้วต้องนำมาคืน สารภาพว่า ชีวิตเขาไม่เป็นปกติเลยตั้งแต่ได้พระไปค่ะ


บันทึกการเข้า
elvisbhu
แขกเรือน
พาลี
****
ตอบ: 215

เป็นคนเขียนรูป


ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 18 มี.ค. 08, 11:09

 ฮืม เป็นภาพสมัยก่อน ..ไม่รู้วันเดือนปีที่ถ่ายครับ


บันทึกการเข้า
Kurukula
สุครีพ
******
ตอบ: 1303



ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 18 มี.ค. 08, 11:18

อิอิ

Patriarch เหมือนจะแปลว่าหัวหน้าเผ่าก็ได้นี่ครับคุณกุ้ง

ที่พม่าเขาใช้คำว่า Primate ซึ่งก็ฟังดูพิลึกๆเหมือนกัน
บันทึกการเข้า
Bana
องคต
*****
ตอบ: 439



ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 18 มี.ค. 08, 23:34

มหาสีมา  แปลว่า  สีมาใหญ่   คือเขตสีมา หรือเขตทำสังฆกรรมครับ
มหาสีมา   หมายถึง  วัดที่เป็นเขตสีมาหรือเขตทำสังฆกรรม 2 ชั้นครับ  เป็นเขตสีมาทั้งวัดภายในบริเวณอุโบสถจะเรียกว่า ขัณฑสีมา  คือสามารถทำสังฆกรรมที่ใดก็ได้ในวัด  ขณะที่วัดทั่วไปจะทำได้แต่เขตที่กำหนด  คืออุโบสถเท่านั้นครับ
วัดส่วนมากจะกำหนดเขตแค่อุโบสถ  แต่มีวัดหลวงหรือพระอารามหลวงเพียง 2 วัดที่มีชื่อลงท้ายว่ามหาสีมา  คือวัดราชบพิธ และ วัดราชประดิษฐ์  ซึ่งจะลงท้ายด้วย  มหาสีมารามเหมือนกันครับ  แต่วัดที่เป็นมหาสีมาในประเทศไทยจะมี 5 วัดครับ  1 วัดโสมนัสฯ  2วัดมกุฏฯ 3วัดราชบพิธ 4วัดราชประดิษฐ์ และ 5วัดนิเวศน์ธรรมประวัติ

ดูรายละเอียดได้จากเวปนี้ครับ  http://www.watsomanas.com/thai/history/history04.php
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 ... 9
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.065 วินาที กับ 19 คำสั่ง