แผนลอบปลงพระชนม์
1 ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2399 พระองค์ทรงได้รับการทูลเชิญจากคหบดีใหญ่ผู้หนึ่งในการเสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในงานเลี้ยง ซึ่งเป็นงานใหญ่ในหมู่ชนชั้นสูง พระองค์ทรงตอบรับคำเชิญ ซึ่งการทูลเชิญเพื่อเสด็จพระราชดำเนินไปในการลักษณะนี้ขัดกับจารีต
2 มีอุบาย ทรงคัดเลือกข้าราชบริพารที่มีส่วนสูง ขนาดตัว สีผิว และใบหน้าที่คล้ายคลึงกับพระองค์ที่สุด สวมฉลองพระองค์เลียนแบบพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินแทน โดยตามหมายกำหนดการจะเสด็จไปถึงเวลาเที่ยงคืน ซึ่งเมื่อถึงเวลา พระเจ้าอยู่หัวปลอมได้เสด็จและดำเนินการตามแผน
ยังกะนิยายสามทหารเสือของอเลกซอง ดูมาร์ หรือไม่ก็นิยายเอเตียน เชรา ของเซอร์อาเธอร์ โคแนน ดอยล์
ก็เกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง ความรุนแรงของระเบิดได้ปลิดชีพผู้แสร้งเป็นพระเจ้าอยู่หัว และราชองครักษ์ทั้ง 7 นายที่กำลังยืนอารักขาอยู่
การสืบสวนสอบสวนเป็นไปได้อย่างยากลำบาก เนื่องจากมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และบุคคลสำคัญเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยจำนวนมาก มีความเป็นไปได้สูงที่ว่า แม้จะสืบถึงตัวผู้บงการได้ก็อาจไม่สามารถทำอะไรได้เลย การสืบสวนสอบสวนทั้งหมดจึงยุติลง
ข่าวนี้ยังถูกตีพิมพ์โดยสื่ออื่นๆของทั้งอังกฤษและฝรั่งเศส และเป็นข่าวอยู่หลายวัน ซึ่งหลังการเผยแพร่ ก็ไม่ได้มีการแก้ข่าวจากกงศุลสยามประจำกรุงลอนดอนแต่อย่างใด และไม่มีการชี้แจงหรือประท้วงใดๆจากรัฐบาลสยาม ขณะที่ในสยาม เหตุการณ์นี้ไม่ได้รับการเผยแพร่แพร่แต่อย่างใด พงศาวดารไทยให้ภาพว่าเป็นปีที่สงบราบรื่น ในช่วงที่ข่าวนี้ถูกเผยแพร่ในอังกฤษและฝรั่งเศสนี้เอง ในสยามเกิดความเปลี่ยนแปลงได้แก่ เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ได้รับสถาปนาขึ้นเป็นสมุหพระกลาโหมแทนบิดาที่เพิ่งถึงแก่พิราลัย, อังกฤษขอเข้ามาแก้สัญญาเบาริ่ง, ทูตอเมริกันและทูตฝรั่งเศส ขอเข้ามาทำสัญญาการค้าและพาณิชย์, ทูตฝรั่งเศสขอไปเยี่ยมราชสำนักเขมร สุดท้ายคือ สยามเตรียมส่งคณะทูตไปอังกฤษ
จากคำอ้างข้างบนนี้ บอกว่าข่าวนี้ถูกตีพิมพ์โดยสื่อทั้งอังกฤษและฝรั่งเศส แต่ไม่มีข่าวจากทางสยาม พอจะเอามายืนยันได้ว่าจริง
หมอบรัดเลย์ หมอสมิธ กงสุลน็อกซ์ หรือฝรั่งทั้งหลายที่พอจะบันทึกเหตุการณ์ใหญ่ขนาดนี้ไว้ให้คนรุ่นหลังค้นหาเอามาอ่านกันได้ ก็ไม่เห็นเขียนเอาไว้เลยค่ะ