“ กุ” คำนี้แผลงมาจากชื่อของ นายกุหลาบ หรือ ก.ศ.ร.กุหลาบ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ “สยามประเภท” ในสมัยรัชกาลที่ 5 ผู้ซึ่งมีพฤติกรรมแปลกประหลาดพิสดาร ที่ไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านร้านช่องเขาสักเท่าไร
โดยเฉพาะเรื่องของพงศาวดารที่นายกุหลาบเขียนเองตีพิมพ์ ใน “สยามประเภท” โดยมักจะละเลงพงศาวดารแบบใส่สีตีไข่จนเละเทะเพี้ยนไปหมด ถึงขนาดเขียนประวัติศาสตร์ฉบับพิสดาร โดยอ้างว่า ในสมัยสุโขทัยนั้นมีพระเจ้าแผ่นดินชื่อ พระปิ่นเกษ มีพระราชโอรสชื่อ พระจุลปิ่นเกษ
ข้อความนี้ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 ท่านทรงทอดพระเนตรแล้ว เห็นว่าเป็นการบังอาจแต่งพงศาวดารขึ้นเองอย่างเลื่อนลอย แถมยังเอาพระนามของพระองค์ไปแปลงเป็นพระจุลปิ่นเกษเสียอีก จึงโปรดเกล้าฯให้มีการสอบสวนก.ศ.ร.กุหลาบ เป็นผลให้บรรณาธิการ “สยามประเภท” สติเฟื่องผู้นี้ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลบ้าเสีย 33 วัน
เรื่องราวของก.ศ.ร.กุหลาบนั้น น่าสนใจพอสมควร หลายเรื่องที่นายกุหลาบเขียนด้วยหลักฐานและความเป็นจริง อันเป็นประโยชน์แก่ชนรุ่นหลังเป็นอันมาก แต่ก็มีอีกหลายเรื่องที่แกเขียนขึ้นมาเอง โดยการโยงเรื่องนั้นเข้ากับเรื่องนี้บ้าง สุดแท้แต่อารมณ์จะพาไป
การอ่านบันทึกหรือจดหมายเหตุของ ก.ศ.ร.กุหลาบที่เขียนไว้ จึงต้องพิจารณาให้ละเอียดรอบคอบ เพราะไม่แน่ใจว่าจะไปเจอเรื่องไหนเข้าที่นายกุหลาบ “กุ” ขึ้นมาเอง
เพราะเหตุนี้แหละคนทั่วไป จึงเอาชื่อของนายกุหลาบมาเป็นความหมายของการยกเมฆปั้นเรื่องขึ้นมาเอง
โดยใช้คำนำหน้าชื่อของแกเพียงคำเดียว คือ “กุ”
แล้วก็เป็นคำที่นิยมใช้กันตลอดมา เพิ่งมาสร่างซาค่อยๆ หายไปเมื่อไม่กี่สิบปีมานี้
นอกจากคำว่า “กุ” ที่เอามาจากชื่อของนายกุหลาบแล้ว ยังมีบางคนแผลงคำ ก.ศ.ร.กุหลาบ มาเป็น โกหกสดๆ ร้อน ๆ ยังงี้ก็มี โดยแผลงเอาแต่คำว่า ก.ศ.ร. เท่านั้น
http://www.thaitownusa.com/frontnews/frmNewsType2_View.aspx?NewsID=0503000220