กระทู้: "ปู่แผ่นเสียง" นายเตียง โอศิริ เริ่มกระทู้โดย: luanglek ที่ 08 มิ.ย. 12, 09:31 ผู้ใดทีทราบข้อมูลเกี่ยวกับ "ปู่แผ่นเสียง" นายเตียง โอศิริ ซึ่งเป็นบิดาของคุณจุรี ดอศิริ (ป้าจุ๊) บ้าง
กรุณาเล่าสู่กันฟังหน่อยครับ ;D กระทู้: "ปู่แผ่นเสียง" นายเตียง โอศิริ เริ่มกระทู้โดย: luanglek ที่ 08 มิ.ย. 12, 11:17 ผู้ใดทีทราบข้อมูลเกี่ยวกับ "ปู่แผ่นเสียง" นายเตียง โอศิริ ซึ่งเป็นบิดาของคุณจุรี โอศิริ (ป้าจุ๊) บ้าง กรุณาเล่าสู่กันฟังหน่อยครับ ;D แก้ไขครับแก้ไข ;D ;D กระทู้: "ปู่แผ่นเสียง" นายเตียง โอศิริ เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 08 มิ.ย. 12, 11:24 พ.ศ. 2494
ครูสง่า อารัมภีร เขียนเล่าถึงการหานักร้องมาร้องเพลงนี้เอาไว้ใน "๓ อดีตกาล..ใครร้องเพลง หนึ่งในร้อย เป็นคนแรก" ว่า..."ยังไม่ทันพลบค่ำเพลงก็เสร็จ นัดพบกัน ๑๐.๐๐ น. ที่กรมโฆษณาการด้านหลังซึ่งมีร้านเหล้าริมสะพานเสี้ยวโก้อยู่ ขึ้นไปพบครูเอื้อ สุนทรสนาน ครูเอื้อบอกว่าให้นักร้องของกรมไปร้องไม่ได้หรอก ผู้อนุญาตได้มี พล.ท.ขาบ กุญชร คนเดียวเท่านั้นและนักร้องของกรมก็มีสัญญาอยู่กับนายเตียง โอศิริ แผ่นเสียงตราหมาแดง หมาเขียว และตราโคลัมเบีย แห่งห้างกมลสุโกศล ต้องขออนุญาตเขาก่อน มิฉะนั้นเขาฟ้องศาลจะต้องเสียเงินมาก ที่มา http://baannapleangthai.com/47/47-14.htm กระทู้: "ปู่แผ่นเสียง" นายเตียง โอศิริ เริ่มกระทู้โดย: luanglek ที่ 08 มิ.ย. 12, 11:40 ดีครับ ออกขุน มีอีกหรือไม่ อยากได้รูปถ่ายด้วยพอจะได้บ้างไหม ;)
กระทู้: "ปู่แผ่นเสียง" นายเตียง โอศิริ เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 08 มิ.ย. 12, 12:11 ดีครับ ออกขุน มีอีกหรือไม่ อยากได้รูปถ่ายด้วยพอจะได้บ้างไหม ;) แผ่นเสียงตราโคลัมเบีย ที่มา http://radio3.exteen.com/20110202/entry-10 กระทู้: "ปู่แผ่นเสียง" นายเตียง โอศิริ เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 08 มิ.ย. 12, 12:19 แผ่นเสียงตราหมาแดง ตราหมาเขียว แผ่นทำจากประเทศอินเดีย
กระทู้: "ปู่แผ่นเสียง" นายเตียง โอศิริ เริ่มกระทู้โดย: luanglek ที่ 08 มิ.ย. 12, 13:29 แหม วันนี้ออกขุนจัดเต็มจัดหนักนะขอรับ ขอบคุณมาก ;D
รูปนายเตียง โอศิริ ไม่มีบ้างหรือครับ กระทู้: "ปู่แผ่นเสียง" นายเตียง โอศิริ เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 08 มิ.ย. 12, 16:15 จากเว็บ เป่า จิน จง (ของนพพล โกมารชุน ผู้เป็นทายาทและผู้จัดละครโทรทัศน์)
http://www.paujinjong.com/pau/content/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4-%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B5-%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B4 มีหน้าประวัติ ป้าจุ๊ และภาพที่น่าจะเป็น บิดาชื่อ นายเตียง โอศิริ มารดาชื่อ นางเลมียด โอศิริ แต่นำมาโพสท์ไม่สำเร็จ ครับ กระทู้: "ปู่แผ่นเสียง" นายเตียง โอศิริ เริ่มกระทู้โดย: luanglek ที่ 08 มิ.ย. 12, 16:42 ประวัตินายเตียง โอศิริ ฉบับเล่าไปเรื่อยๆ
นายเตียง โอศิริ เป็นบุตรชายคนโตของนายโอวเตียวฮอก กับนางวีเซี้ยกโห โอศิริ เกิดเมื่อวันที่ ๑๗ ตุลาคม พุทธศํกราช ๒๔๔๐ (วัน ๑ เดือน ๑๑ ปีระกา) ณ บ้านตรอกกัปตันบุช จังหวัดพระนคร เด็กชายเตียงเรียนหนังสือที่โรงเรียนอัสสัมชัญ เลขประจำตัว ๑๔ เด็กชายเตียงเป็นคนเรียนเก่ง สอบได้ลำดับดีมาโดยตลอด บิดามารดาจึงรักมาก ในสมัยที่เด็กชายเตียงเรียนหนังสืออยู่นั้น ในเมืองไทยยังไม่มีที่ใดเปิดสอนวิชาบัญชี บราเดอร์โรงเรียนอัสสัมชัญ (ชื่อเสียงเรียงไรหาทราบไม่) ได้ริเริ่มทำการสอนวิชาบัญชีขึ้น โดยได้คัดเลือกนักเรียน จำนวน ๘ คน ซึ่งรวมทั้งนายเตียงด้วย มาทดลองเรียนวิชาบัญชี ซึ่งวิชาบัญชีที่สอนกันในครั้งกระนั้น ก็คือวิชาพาณิชยการในสมัยนี้ นักเรียนทั้ง ๘ คนนั้น จึงนับเป็นนักเรียนวิชาบัญชีรุ่นแรกของโรงเรียนอัสสัมชัญและรุ่นแรกของประเทศไทย นายเตียงร่ำเรียนหนังสืออย่างหนัก และสอบไล่ในชั้นปีสุดท้ายได้เป็นที่ ๑ เมื่อพุทธศักราช ๒๔๕๘ บริษัท ยีครุซเซอร์ ซึ่งเ)้นบริษัททำการค้าขายสินค้าระหว่างประเทศที่มีชื่อเสียงมากในระยะนั้น ได้มาติดต่อให้นายเตียงไปทดลองทำบัญชีที่บริษัท เนื่องจากได้ยินกิตติศัพท์ความสามารถด้านการบัญชี ของนายเตียงจากเจษฎาจารย์ของโรงเรียนอัสสัมชัญ (เ้จษฎาจารย์ ฟ. ฮีแลร์ หรือเปล่า?) นายเตียงเป็นผุ้มีความสามารถอย่างยิ่งทั้งในทางวิชาบัญชีและวิชาภาษาอังกฤษ หลังจากที่ได้ไปทดลองความสามารถในการทำบัญชีที่บริษัท ยีครุซเซอร์ เป็นเวลานาน ๑๒ สัปดาห์ ฝรั่งที่ทำงานอยู่ในบริษัทดังกล่าวต่างพอใจและประหลาดใจในความสามารถของนายเตียงเป็นอย่างยิ่ง นายเตียงจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมุหบัญชีแทนฝรั่งที่ทำบัญชีคนเดิมซึ่งมาแต่ต่างประเทศ ครั้งนั้น นายเตียงได้รับเงินเดือนขั้นต้นถึง ๔๐๐ บาท เท่ากับเงินเดือนของสมุหบัญชีฝรั่งที่ได้อยู่กันทั่วไปในยุคนั้น นายเตียงได้รับเงินเดือนอัตรานี้เมื่อมีอายุ ๑๘ ปี นับเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจมาก เพราะเป็นคนไทยคนแรกที่ทำงานด้านบัญชี แทนฝรั่งได้ กระทู้: "ปู่แผ่นเสียง" นายเตียง โอศิริ เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 08 มิ.ย. 12, 16:47 บริษัท ยีครุซเซอร์ ซึ่งเ)้นบริษัททำการค้าขายสินค้าระหว่างประเทศที่มีชื่อเสียงมากในระยะนั้น ได้มาติดต่อให้นายเตียงไปทดลองทำบัญชีที่บริษัท เนื่องจากได้ยินกิตติศัพท์ความสามารถด้านการบัญชี ของนายเตียงจากเจษฎาจารย์ของโรงเรียนอัสสัมชัญ (เ้จษฎาจารย์ ฟ. ฮีแลร์ หรือเปล่า?) เจษฎาจารย์ ฟ. ฮีแลร์ เป็นอธิการปกครองโรงเรียนอัสสัมชัญอยู่ ซึ่งท่านมีความรู้ในด้านภาษาไทยอย่างแตกฉาน และมีลูกศิษย์มากมาย ตลอดจนพ่อค้าวานิชต่างให้การนับถือท่านครับ กระทู้: "ปู่แผ่นเสียง" นายเตียง โอศิริ เริ่มกระทู้โดย: luanglek ที่ 08 มิ.ย. 12, 16:53 นายห้าง ยีครุซเซอร์ ไว้วางใจมอบอำนาจสิทธิ์ขาดหลายประการแก่นายเตียง
ทั้งในด้านการเงิน การบัญชี และเป็นผู้แทนออกไปตรวจงานป่าไม้ สวนยางของบริษัทตามจังหวัดต่างๆ และการเป็นผู้แทนนายห้างไปตรวจสวนยางนี้เอง ก็เกือบทำให้นายเตียงถูกฆ่าปิดปาก แต่เคราะห์ดีที่การลอบฆ่าครั้งนั้นไม่สำเร็จ ด้วยว่านายเตียงเกิดป่วยกระทันหัน ทำให้เดินทางไปตรวจงานไม่ได้ นายห้างจึงเดินทางไปตรวจงานเอง และถูกพนักงานสวนยางที่สมคบคิดกันทำการทุจริตฉ้อโกงบริษัท วางยาพิษถึงแก่กรรม ทั้งนี้ สาเหตุที่พนักงานสวนยางได้วางแผนทำการดังกล่าวขึ้น ก็เพื่อปิดปากนายเตียงที่ได้ล่วงรู้เรื่องการทุจริตและกำลังเตรียมทำรายงานเสนอต่อนายห้าง เมื่อนายห้างถึงแก่กรรมไปไม่นาน บริษัท ยีครุซเซอร์ ก็ต้องปิดกิจการไป ทำให้นายเตียงต้องว่างงาน แต่ต่อมาไม่นาน นายเตียงก็ได้ร่วมมือกับสหายรักคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อร่วมรุ่นกัน มาเปิดโรงเรียนสอน วิชาภาษาอังกฤษและการบัญชีทางไปรษณีย์ ได้มีผู้มาสมัครเป็นนักเรียนมากอยู่พอสมควร กระทู้: "ปู่แผ่นเสียง" นายเตียง โอศิริ เริ่มกระทู้โดย: luanglek ที่ 08 มิ.ย. 12, 17:03 บริษัท ยีครุซเซอร์ ซึ่งเ)้นบริษัททำการค้าขายสินค้าระหว่างประเทศที่มีชื่อเสียงมากในระยะนั้น ได้มาติดต่อให้นายเตียงไปทดลองทำบัญชีที่บริษัท เนื่องจากได้ยินกิตติศัพท์ความสามารถด้านการบัญชี ของนายเตียงจากเจษฎาจารย์ของโรงเรียนอัสสัมชัญ (เ้จษฎาจารย์ ฟ. ฮีแลร์ หรือเปล่า?) เจษฎาจารย์ ฟ. ฮีแลร์ เป็นอธิการปกครองโรงเรียนอัสสัมชัญอยู่ ซึ่งท่านมีความรู้ในด้านภาษาไทยอย่างแตกฉาน และมีลูกศิษย์มากมาย ตลอดจนพ่อค้าวานิชต่างให้การนับถือท่านครับ ออกขุนกล่าวถูกต้องด้วยประการทั้งปวง เจษฎาจารย์ ฟ. ฮีแลร์ นั้น ถ้าใครได้ศึกษาประวัติและผลงานของท่านอย่างละเอียด (อ่านหนังสือ ๓ เล่ม/ชุด ที่ โรงเรียนอัสสัมชัญพิมพ์ จำได้ว่า เคยซื้อมาราคา ๖๐๐ บาท เอาไปเล่าให้สหายทางวิชาการท่านหนึ่งฟัง ท่านร้องอุทานด้วยความตกใจที่ผมได้หนังสือดีราคาถูกมาก เพราะปกติตามร้านหนังสือมักขายชุดละเป็นพันบาทขึ้นไป) ก็จะทราบว่า ท่านเป็นนักศึกษาค้นคว้าคนสำคัญมาตั้งแต่สมัยที่นายกุหลาบ รถกิจ เอ๊ย ตฤษณานนท์ ทำหนังสือสยามประเภท ออกมาเผยแพร่ และเป็นสมาชิกคนสำคัญที่นายกุหลาบได้เคยอ้างชื่อถึงอยู่หลายครั้ง ท่านแต่งตำราเรียนและเขียนแปลหนังสือหลายเล่ม ความรู้ความสามารถนั้น จะพูดรำพันมากไปไยมี แม้แต่สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เมื่อทรงตั้งราชบัณฑิตยสภาขึ้นมา ก็ยังได้เชิญเจษฎาจารย์ ฟ.ฮ๊แลร์ มาเป็นสมาชิกด้วย และยังได้ทรงถามเอาความรู้ต่างๆ จากท่านด้วยหลายเรื่อง :) กระทู้: "ปู่แผ่นเสียง" นายเตียง โอศิริ เริ่มกระทู้โดย: luanglek ที่ 08 มิ.ย. 12, 17:16 จากนั้น นายเตียงก็ได้ไปทำงานอยู่ที่ห้างสุธาดิลก ซึ่งตั้งอยู่ที่ผ่านฟ้า (เคยเป็นกรมโยธาเทศบาล)
ทำหน้าที่ในตำแหน่งสมุหบัญชีดังที่ได้เคยทำมา อ้า...ห้างสุธาดิกนี้ เป้นห้างที่มีชื่อเสียงมากในสมัยคุณปู่คุณย่ายังเด็กยังรุ่นๆ เพราะอะไร ก็เพราะห้างแห่งนี้เป็นผู้นำเอาแผ่นเสียงตราฟาโลโฟน (โลโก้เป็นรูปสุนัขกับลำโพงเครื่องเล่นแผ่นเสียง) จากต่างประเทศมาจำหน่ายในเมืองไทย นายเตียงเมื่องานอยู่ที่ห้างนี้ ก็มีความคิดขึ้นมาว่า ห้างสุธาดิลกน่าจะอัดและทำแผ่นเสียงขึ้นขายเอง ไม่ควรที่จะต้องอักเสียงแล้วส่งไปทำแผ่นเสียงที่ต่างประเทศ แล้วส่งกลับเข้ามาขายในเมืองไทยให้ยุ่งยากและเปลืองค่าต้นทุน อีกทั้งในเวลานั้น นักร้องเพลงไทย ที่มีเสียงดีและเป็นที่นิยมในหมู่ประชาชนก็มีหลายคน นายเตียงจึงนำความคิดนี้ไปเสนอแก่นายห้าง นายห้างสุธาดิลกได้ฟังก็ยินดีสนับสนุนความคิดของนายเตียงเป็นอย่างดี จึงได้ให้นายเตียงรับตำแหน่ง เป็นผู้จัดการแผนกแผ่นเสียงของห้างอีกตำแหน่งหนึ่ง และนั่นก็เป็นก้าวแรกที่นายเตียงได้เดินเข้าสู่วงการแผ่นเสียงไทย ตราบจนกระทั่ง................................................................................ ................................................................................................. ............................................................................................... . . . . . . . . . . .....................................................................................สิ้นลมหายใจ....จบ (ซะงั้น) กระทู้: "ปู่แผ่นเสียง" นายเตียง โอศิริ เริ่มกระทู้โดย: luanglek ที่ 08 มิ.ย. 12, 17:33 เรื่องแผ่นเสียงที่ต้องส่งไปอัดทำแผ่นที่ต่างประเทศนั้น ถ้าใครเล่นหรือสะสมของเก่า
คงจะทราบว่า ในสมัยรัชกาลที่ ๗ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้มีพระดำริที่จะบันทึกเพลงไทย เป็นโน้ตสากล และได้ให้มีการบันทึกเพลงไทยลงแผ่นเสียงด้วย โดยได้ส่งไปทำแผ่นเสียงที่ประเทศเยอรมนี จากนั้นข่าวคราวก็เงียบหายไป ซึ่งมีการบอกต่อๆ กันมาว่า บริษัทที่ทำแผ่นเสียงให้นั้น ถูกระเบิดลงราบเป็นหน้ากลอง ทำให้แผ่นเสียงในคราวนั้นพลอยเสียหายไปด้วย อย่างไรก็ดี ก็มีข่าวเล็ดลอดมาแต่สำนักคลองแสนแสบว่า หามิได้ ในคราวนั้น บริษัทที่รับทำแผ่นเสียงเพลงไทย ได้ส่งแผ่นเสียงตัวอย่างมาถวายสมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ๓ แผ่น แผ่นเสียงทั้ง ๓ แผ่นจึงรอดพ้นจากระเบิดมาได้ และตกทอดอยู่ในเมือง ไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่ว่าคนไม่เคยเห็นก็ว่าไม่มี หายสาบสูญ มาบัดนี้ มีคหบดีท่านหนึ่งได้พบแผ่นเสียงดังกล่าวแล้ว แม้จะไม่ครบทั้ง ๓ แผ่นก็ตาม ได้ฟังดังนั้นก็ชื่นใจยิ่งนัก สมบัติพระศุลีนี่มีอะไรดีๆ อีกมาก สงสัยต้องหาโอกาสไปเยี่ยมชมอีก 8) กระทู้: "ปู่แผ่นเสียง" นายเตียง โอศิริ เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 08 มิ.ย. 12, 19:27 บริษัท ยีครุซเซอร์ ซึ่งเ)้นบริษัททำการค้าขายสินค้าระหว่างประเทศที่มีชื่อเสียงมากในระยะนั้น ได้มาติดต่อให้นายเตียงไปทดลองทำบัญชีที่บริษัท เนื่องจากได้ยินกิตติศัพท์ความสามารถด้านการบัญชี ของนายเตียงจากเจษฎาจารย์ของโรงเรียนอัสสัมชัญ (เ้จษฎาจารย์ ฟ. ฮีแลร์ หรือเปล่า?) เจษฎาจารย์ ฟ. ฮีแลร์ เป็นอธิการปกครองโรงเรียนอัสสัมชัญอยู่ ซึ่งท่านมีความรู้ในด้านภาษาไทยอย่างแตกฉาน และมีลูกศิษย์มากมาย ตลอดจนพ่อค้าวานิชต่างให้การนับถือท่านครับ ออกขุนกล่าวถูกต้องด้วยประการทั้งปวง เจษฎาจารย์ ฟ. ฮีแลร์ นั้น ถ้าใครได้ศึกษาประวัติและผลงานของท่านอย่างละเอียด (อ่านหนังสือ ๓ เล่ม/ชุด ที่ โรงเรียนอัสสัมชัญพิมพ์ จำได้ว่า เคยซื้อมาราคา ๖๐๐ บาท เอาไปเล่าให้สหายทางวิชาการท่านหนึ่งฟัง ท่านร้องอุทานด้วยความตกใจที่ผมได้หนังสือดีราคาถูกมาก เพราะปกติตามร้านหนังสือมักขายชุดละเป็นพันบาทขึ้นไป) ก็จะทราบว่า ท่านเป็นนักศึกษาค้นคว้าคนสำคัญมาตั้งแต่สมัยที่นายกุหลาบ รถกิจ เอ๊ย ตฤษณานนท์ ทำหนังสือสยามประเภท ออกมาเผยแพร่ และเป็นสมาชิกคนสำคัญที่นายกุหลาบได้เคยอ้างชื่อถึงอยู่หลายครั้ง ท่านแต่งตำราเรียนและเขียนแปลหนังสือหลายเล่ม ความรู้ความสามารถนั้น จะพูดรำพันมากไปไยมี แม้แต่สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เมื่อทรงตั้งราชบัณฑิตยสภาขึ้นมา ก็ยังได้เชิญเจษฎาจารย์ ฟ.ฮ๊แลร์ มาเป็นสมาชิกด้วย และยังได้ทรงถามเอาความรู้ต่างๆ จากท่านด้วยหลายเรื่อง :) ลูกอัสสัมชัญย่อมรู้ดี ด้วยตระกูลก้เล่าเรียนสถาบันนี้เรื่อยมา แต่อนิจจาไม่เที่ยง บันปลายชีวิตท่านตาบอดทั้งสองข้าง แต่ความจำท่านดีเลิศเสมอ |