SILA
|
กระทู้นี้แตกช่อมาจาก ฉากประทับใจในหนังเก่า SPOILER ALERT ครับ
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=4255.1035
นำเสนอ ภาพยนตร์วิจิตรบรรจงรังสรรค์ สวยงามจนคิดว่าน่าจะนำเสนอเป็น
ส.ค.ส. (ส่ง ความ สวย) ปีใหม่
ด้วยหนังที่ได้กล่าวเกริ่นไว้ในกระทู้นั้นก่อนมหาอุทกภัย ถึงเวลานี้ที่ น้ำลด จอผุด จึงพร้อมแล้วที่จะชวนชมกัน ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อ 25 ธ.ค. 11, 10:34
|
|
จาก "เรื่องเล่า" ที่ประตูเมือง "ราโชมอน" ของบรมครูคุโรซาวา ผู้กำกับรุ่นหลังซึ่งตอนนี้ก้าวขึ้นมายืนอยู่แถวหน้าของเอเชีย - จางอี้โหมว ได้หยิบยืมแนวทาง มาใช้ในผลงานชิ้นเอกของเขาเรื่อง
H E R O (2002) หนังทุนหนัก นักแสดงใหญ่ เรื่องไม่ธรรมดา (ตรงกันข้ามกับผลงานเล็กๆ ของเขาอย่างเรื่อง The Road Home) ตัวหนังโดดเด่นด้วยเรื่องราว แง่คิด มุมมอง(การเมืองเรื่องของอำนาจปกครอง) และ ภาพวิจิตรงดงาม มีการใช้สีสดใสสื่อเรื่องและอารมณ์ในแต่ละช่วงได้อย่างตรึงตา (ที่ทำให้คนดูนึกถึงการใช้ สี ของคุโรซาวาในหนังเรื่อง Ran ด้วย)
เนื่องจากไม่ถนัดประวัติศาสตร์จีนและมีบทความเขียนถึงหนังดังเรื่องนี้มากมายแล้ว จึงจะเล่าถึงเนื้อเรื่องจากหนังเป็นหลัก ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อ 25 ธ.ค. 11, 10:39
|
|
Piercing wind, chillig river of Yi.
The hero has to leave, and he will never return.
สายลมเหน็บหนาว สายน้ำเฉียบเย็น วีรชนจากไป เขาจักไม่กลับมา
ร้อยกรองบทนี้เป็นที่นิยมยกย่องยืนยงยาวนานมากว่าสองพันปีนับจากวันที่วีรบุรุษในตำนาน - จิงเคอ ได้แต่งไว้ก่อนที่จะออกเดินทางเพื่อไปปฏิบัติการสังหารอ๋องแห่งรัฐฉิน (ผู้ที่สามารถปราบปราม แว่นแคว้นต่างๆ แล้วรวมเป็นแผ่นดินเดียวกันและเถลิงอำนาจขึ้นปกครองเป็นจิ๋นซีฮ่องเต้ในที่สุด)
ในขณะที่ จิงเคอ คือสัญลักษณ์บันดาลใจในความเป็นปัจเจกวีรบุรุษ จิ๋นซีฮ่องเต้ก็คือสัญรูป แห่งระบอบเผด็จการเบ็ดเสร็จ
ร่ำลาริมฝั่งแม่น้ำยี่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อ 25 ธ.ค. 11, 10:50
|
|
เหตุการณ์เผชิญหน้ากันของทั้งสองฝ่ายนี้ ได้ถูกศิลปินรุ่นต่อๆ มา นำไปใช้เป็นวัตถุดิบ ในการรังสรรค์งานพินิจพิเคราะห์สภาพธรรมของการจัดระเบียบสังคมในจีนแผ่นดินใหญ่
และ ศิลปินผู้รังสรรค์ภาพยนตร์อย่างจางอี้โหมวก็เป็นอีกหนึ่งที่หยิบเรื่องราวจากประวัติศาสตร์ ตอนนี้มาถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์โดยเลือกที่จะใช้กลวิธีจาก "ราโชมอน" เล่าเรื่อง
ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า จิงเคอนำศีรษะของแม่ทัพฟั่นอี้ฉี(ผู้ยอมพลีชีพตน) พร้อมแผนที่ ของแคว้นเอี้ยนเป็นหลักฐานการแปรพักตร์มาสวามิภักดิ์เปิดโอกาสได้เข้าเฝ้าฉินอ๋อง ขณะที่จิงเคอคลี่ม้วนแผนที่ ออกต่อหน้าท่านอ๋อง เขาได้ฉวยมีดที่ซ่อนอยู่ในม้วนแผนที่นั้นจ้วงแทงหมายสังหารแต่กระทำการไม่สำเร็จ และถูกประหารในที่สุด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อ 25 ธ.ค. 11, 10:55
|
|
ช่วงเวลาเมื่อราวสามศตวรรษก่อนคริสตกาล ครั้งนั้นแผ่นดินจีนประกอบด้วยแว่นแคว้นเจ็ดรัฐ ก่อศึกเพื่อชิงความเป็นใหญ่ เรียกว่ายุคสงครามระหว่างรัฐ ประชาชนทุกข์ระทมล้มตายจากภัยสงคราม
อ๋องแห่งรัฐฉินที่เกรียงไกรกว่า(และโหดกว่า)กรีฑาทัพรุกรานปราบปรามรัฐอื่นๆ ด้วยมุ่งหวัง ที่จะใช้สงครามรวมแคว้นต่างๆ ให้เป็นหนึ่งเดียว แผ่นดินแดงฉานด้วยเลือดและไฟสงคราม จึงปรากฏการสรรหาส่งผู้กล้าพร้อมวิทยายุทธเข้าไปปฏิบัติการสังหารฉินอ๋องเพื่อดับภัยสงคราม บางคนสามารถลอบเข้ามาถึงในวังได้แต่กระทำการไม่สำเร็จ ฉินอ๋องจึงต้องสวมเสื้อเกราะ เพิ่มการอารักขา เข้มข้นและห้ามผู้ใดเข้าเฝ้าใกล้เกินระยะหนึ่งร้อยก้าว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อ 25 ธ.ค. 11, 10:58
|
|
เมฆ หิน ดิน ทราย ขบวนทหารม้า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อ 25 ธ.ค. 11, 11:04
|
|
รถม้าพาผู้โดยสารคนสำคัญเข้าวัง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อ 25 ธ.ค. 11, 11:05
|
|
เขาคือ ไร้นาม (Nameless) นายอำเภอผู้เชี่ยวชาญวรยุทธ์เพลงกระบี่จากเมืองเล็กที่สุด ของรัฐฉินเดินทางมาเข้าเฝ้าฉินอ๋องเพื่อนำเสนอผลงานการสังหารมือสังหารคนสำคัญสามคน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อ 25 ธ.ค. 11, 11:08
|
|
หลังผ่านการตรวจตราอย่างเข้มข้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อ 25 ธ.ค. 11, 11:10
|
|
ไร้นาม จึงได้เข้าเฝ้าต่อหน้าฉินอ๋องที่ประทับบนบัลลังก์สูงในระยะห่างหนึ่งร้อยก้าว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อ 25 ธ.ค. 11, 11:12
|
|
สีสันฉากในวังเป็นสีน้ำเงินเข้มและเทาดำ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 11 เมื่อ 25 ธ.ค. 11, 11:14
|
|
ฉินอ๋องพิศดูพยานวัตถุชิ้นแรกเป็นปลายทวนหักของจอมทวนมือสังหารนามว่า เวิ้งเวหา (Sky)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อ 25 ธ.ค. 11, 11:16
|
|
แล้วจึงตกรางวัลพร้อมกับให้ไร้นามเขยิบเข้าใกล้ในระยะยี่สิบก้าว เพื่อเล่าเหตุการณ์ การต่อสู้และการพิชิตเพลงทวนด้วยเพลงกระบี่ของตน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 13 เมื่อ 25 ธ.ค. 11, 11:28
|
|
ฉากวิจิตรรณรงค์ระหว่าง ไร้นาม และ เวิ้งเวหา มีโทนสีมืดดำเว้นแต่ชุดของเวิ้งเวหา ที่เป็นสีเหลืองโดดเด่น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 14 เมื่อ 25 ธ.ค. 11, 11:30
|
|
บางตอนก็แปรเป็นขาวดำ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|