ข้อมุลจาก http://www.meeboard.com/view.asp?user=kaowtoo&groupid=19&rid=962&qid=5 จากหนังสือจดหมายระยะทางเมืองพิษณุโลกของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ ความว่า “.......ออกจากหมู่บ้านก็เข้าหาวัดราษฎร์บูรณะ พอถึงหลังโบสถ์ก็ดูดจี๋ ต้องลงจากม้าเข้าทางหลังโบสถ์ บานประตูสลักลายดอก ๔ กลีบ ฝีมือดีแต่เป็นลายตามธรรมเนียม ผนังในโบสถ์เขียนรามเกียรติ์ แต่ไม่สู้เก่านัก และไม่สู้เป็นนัก มีพระประธานใหญ่แต่ไม่เก่ง มีพระเล็กน้อยมาก เสาและเครื่องบนทาดำทาแดง ปิดทองลายฉลุ แต่ไม่ใช่ลายเก่าเป็นปฏิสังขรณ์ใหม่ แต่ผนังโบสถ์และตัวไม้เครื่องบนเก่า เป็นเครื่องประดุช่อฟ้าปูน ออกจากโบสถ์พระยาเทพาชวนไปดูศาลาการเปรียญ แต่ไปไม่รอด เพราะอ้ายธรรมาสน์นั้นเก่าที่ศาลาข้างโบสถ์มันเหนี่ยวเอาไปดูมัน ธรรมาสน์นั้นเก่ามากทีเดียว ทีก็เป็นซุ้มเกี้ยวยอด พังทิ้งอยู่ข้างล่างเหลือชั้นเดียว ฐานก็แปลกจากที่เคยเห็น คือสิงห์แขวนขานาคต่อ แต่ข้างล่างจะเป็นอย่างไรอีกไม่ทราบ เพราะสูญเสียหมดแล้ว มาแปลกอยู่ที่ไม่มีกระจังบัดตีนยานไอ้หยัก ๆ สำหรับหลังซุ้มประตูแทน เช่นเขียนตัวอย่างไว้ดูนี้ (ทรงวาดรูปประกอบไว้ด้วย) และมีกวางทรงเครื่องหักอยู่ตัวหนึ่งสำหรับเป็นบันไดรองเท้าขึ้นบนธรรมาสน์ ทั้งกวางทั้งธรรมาสน์ลายเก่าเป็นดอกไม้กนกทำนองรุ่นเดียวกับพนักธรรมาสน์ที่เก็บมาแต ่วัดในเมืองสมุทรปราการแต่ก่อนนั้น...ดูธรรมาสน์แล้วไปดูการเปรียญ ทีก็เหมือนโบสถ์ เครื่องประดับฝ้าอิฐ แต่ฝ้าก่อทีหลัง เดิมเป็นเสาไม้ เป็นศาลาโถง ฟาเจียนประถมสมโพธิ แต่ไม่เก่าแลไม่เก่ง มีพระงามพอใช้องค์หนึ่ง หน้าตัก สัก ๒ ศอก.........” บัดนี้ ของดีงามในสายพระเนตรของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ยังอยู่ครบบริบูรณ์แ ต่ทรุดโทรมมาก การบูรณะควรจะยึดของเดิมเป็นหลักเพื่ออนุรักษ์เป็นสิ่งล้ำค่าของวัดต่อไป