เป็นไปได้ไหมว่าถูกทั้งสองอย่าง คือถูกปืนด้วย และถูกพระแสงของ้าวด้วยค่ะ
แต่อย่างไหนก่อนอย่างไหนหลัง ยังไม่ฟันธงลงไปค่ะ
เช่น
๑ ถูกปืนยิงได้รับบาดเจ็บ ก็เสียหลัก ถูกพระแสงของ้าวซ้ำเข้าอีกที จึงสิ้นพระชนม์บนคอช้าง
๒ ถูกพระแสงของ้าวเข้าไปเต็มรักจนสิ้นพระชนม์ทันที หรือบาดเจ็บสาหัสฟุบลงไปบนคอช้าง ปืนก็กระหน่ำเข้าไปซ้ำ
ด้วยเหตุนี้พระศพจึงมีบาดแผลจากกระสุนปิน ทำให้พงศาวดารพม่าบันทึกลงไปโดยเอาบาดแผลจากปินที่ฉกรรจ์กว่า เป็นหลัก
เป็นไปไม่ได้ครับ กองทหารปืนไฟ ต้องตั้งหน้ากระดานยิง ซึ่งถ้าเป็นการรบแบบตะลุมบอน ทหารปืนไฟก็คงเสียท่าเพราะอย่างที่ดูในคลิบที่ยกมาประกอบว่ากว่าชุดไฟจะร้อนพอยิงได้ก็เสียเวลาไปแล้วคงโดนทหารราบไล่สังหารไม่เหลือ
ประการต่อมา ในมหายาสะวิน กล่าวไว้ถึงการใช้ปืนไฟสังหารคนสำคัญระดับแม่ทัพไว้ ๓ หน หะแรกตอนสมัยบุเรงนองไปทำศึกแล้วคู่ต่อสู้ถึงแก่ความตายเพราะโดนยิงด้วยปืน ครั้งที่สองคือกรณีพระมหาอุปราช และครั้งสุดท้ายคือกรณีของทัพพม่าคราสงครามเสียกรุงศรีครั้งที่ ๒ ที่มียอดพลซุ่มยิง(Sniper) สามารถสังหารแม่ทัพกรุงศรีได้ด้วยการลอบยิง
เพราะฉะนั้น จะเห็นได้ว่าในทางคติพม่า เขาไม่ได้ถือว่าการใช้ปืนไฟสังหารแม่ทัพฝ่ายตรงข้ามจะผิดอะไร
ปัญหาก็คือหลักฐานทางพม่า ตั้งแต่ตัวเก่าสุดของอูกะลามีความน่าเชื่อถือได้แค่ไหน?
เพราะหลักฐานนี้เหมือนเป็นต้นฉบับ ให้ยาสะวินในยุคหลัง ๆ คัดลอกกันมาเรื่อย ๆ