เรือนไทย

General Category => ภาษาวรรณคดี => ข้อความที่เริ่มโดย: นกข. ที่ 10 พ.ค. 01, 21:34



กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 10 พ.ค. 01, 21:34
ทำไมหนูถึงเป็นคำแทนตัวเด็กหรือผู้หญิง? และทำไมคำรับของผู้หญิงต้องเป็น ขา?

ต่อไปนี้เป็นการเดานะครับ ใครรู้ดีกว่าผมเชิญแก้ไขด้วย

เคยอ่านหนังสือเก่า ใครเขียนก็จำไม่ได้ (อ.น.ก.?) ว่าหนู ท่านคิดว่ามาจากอินู คลับคล้ายคลับคล้าว่าเป็นภาษามาจากทางจีน แปลว่าผู้ต่ำต้อย ข้าทาส เดิมเป็นคำที่ผู้น้อยใช้แทนตัวพูดกับผู้ใหญ่ คือเปรียบตัวเองเหมือนเป็นข้ารับใช้ผู้ใหญ่ที่เราพูดด้วย

จะจริงเท็จยังไงก็ไม่รู้ แต่ในภาษาจีนกลางมีคำว่า หนูไฉ เป็นสรรพนามบุรุษที่ 1 สมัยเก่า อยู่จริงๆ และแปลว่าข้าทาสบริวาส ผู้ต่ำต้อยจริงๆ ประโยคที่เราได้ยินจนคุ้นหูในหนังจีน ที่เราแปลกันเป็นไทย ว่า "ข้าผู้น้อยสมควรตาย..."  นั้น จีนกลางเขาว่า "หนูไฉไกสื่อ"... แปลตรงตัวครับ คำนี้จะสัมพันธ์กับคำว่าหนูของไทยหรือไม่ก็ไม่รู้

คำว่า ค่ะ คะ ขา นั้นผมเดาว่า สัมพันธ์สืบมาจากคำว่า เจ้าข้า เจ้าค่ะ ของเดิม และแนวคิดก็เหมือนกัน คือ แทนตัวเองเป็นข้าผู้รับใช้ และแทนคนที่เราพูดด้วยเป็นเจ้านาย
สรรพนามแทนตัวเราจึงเป็น ข้า (ของ) เจ้า (ตัวเราผู้เป็นข้าของเจ้านาย คือคนที่เราพูดด้วย) และพอพูดจบประโยค หรือจะตอบรับคำที่ผู้ใหญ่พูดกับเรา ก็ลงท้ายว่า เจ้า (ของ) ข้า คือเรียกท่านว่าท่านผู้เป็นเจ้านายของเราผู้เป็นข้า
ขอให้นึกถึงภาษาฝรั่งโบราณ ที่เคยใช้แทนตัวคนเขียนจดหมายว่า Your Obediant Servant และคำรับที่ฝรั่งโบราณรับลงท้ายว่า - Milord แปลว่า เจ้า(ของ)ข้า ถ้าผู้ใหญ่นั้นเป็นกษัตริย์ จะยกย่องให้สูงขึ้นไปอีก ก็เรียกว่า พระพุทธเจ้าของข้า - พระพุทธเจ้าข้า - พระเจ้าข้า - พะยะค่ะ
เจ้าข้า- เจ้าค่ะ- เจ้าขา- ค่ะ- คะ- ขา เดามาพอจะเข้าเค้าไหมครับ

คำว่าข้า กับ เจ้า ที่เป็นสรรพนามที่เดี๋ยวนี้กลายเป็นกันเองหรือเกือบๆ จะไม่สุภาพนั้น ผมเดาว่า แต่เดิมจริงๆ ก็แนวคิดเดียวกัน เราลดตัวเราลงเป็นข้า ยกย่องคนที่เราพูดด้วยให้เป็นเจ้านาย แต่ตอนหลังความหมายเชิงยกย่องหายไป


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: คุณพระนาย ที่ 04 พ.ค. 01, 00:27
อืม ถ้าว่าตามอย่างนั้นก็น่าจะเข้าอยู่หรอกครับ
แต่ว่า แล้ว
ที่รักขา  ล่ะครับ หรือว่า อะไรจ๊ะ อะไรงี้น่ะครับ คำว่า คะ ขา นั้น กลายมาเป็นของผู้หญิง ตั้งแต่เมื่อไหร่ผมก็ไม่ทราบ แต่เคยอ่านย้อนไปว่าสมัยก่อน ผู้ชายก็พูด คะกับเจ้านายและผู้ใหญ่เหมือนกัน คำว่า ครับซึ่งน่าจะมาจาก ขอรับเนี่ย มาใช้เป็นของผู้ชายโดยเฉพาะเมื่อไหร่ ผมก็ไม่ทราบ

นอกเรื่องนิดนึงนะครับ คุณ นกข. ไม่น่าจะต้องตั้งกระทู้ใหม่เลยจริง ๆ ผมคิดว่าผมทราบว่าเพราะอะไร คุณ นกข. จึงมาตั้งกระทู้ใหม่ตอบแทนที่จะตอบในกระทู้เดิม แต่คุณ นกข. ครับ ผมขอร้องในฐานะที่เราเคยคุยกันมาอย่างสนุกสนานของที่นี่ มาตลอดผมเองเห็นคุณเป็นคนคุ้นเคย เป็นเหมือนผู้คอยให้ความรู้ที่ดี กับผมและเพื่อน ๆ ในเรือนไทยเสมอ ถ้ามีใครทำอะไรที่มากระทบกระทั่งกันบ้าง หนักนิดเบาหน่อย เราพยายามมองข้ามไปเถอะนะครับ การที่จะแสดงออกถึงความไม่ชอบกันอย่างโจ่งแจ้งนั้น มันทำให้บรรยากาศ ในการสนทนาในเรือนไทยดูไม่สดใส
ผมขอบอกว่า ผมยังเคารพและอยากพูดคุยกับ คุณ นกข. เหมือนเดิม ที่เขียนมาทั้งหมดนี้มีแต่ความหวังดีทั้งหมดครับ


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 04 พ.ค. 01, 00:49
ขอบคุณคุณพระนายครับ

แต่ผมขออนุญาตเถอะครับ ผมว่า อย่างนี้ผมสบายใจกว่าครับ ไม่ใช่เรื่องที่ว่าผมรังเกียจอะไรหรือไม่ชอบใคร อะไรอย่างโจ่งแจ้งหรอกครับ ผมเรียนแล้วว่า ผมไม่ได้ติดใจอะไรอีกแล้ว ในกรณีที่ผ่านมานั้น ได้ซัดกันคนละทีและขอโทษกันคนละทีแล้วก็จบ (และผมไม่ได้เริ่มก่อนเสียด้วยสิ) จบสำหรับผม และกระทู้ต้นเหตุก็ปิดไปแล้ว

แต่ว่า คุณพระนายก็เห็นและไปเขียนตอบไว้ในกระทู้อีกกระทู้หนึ่งด้วยซ้ำ (ผมว่าผมอ่านคุณพระนายไม่ผิดนะ) ว่าไม่แน่นักว่าเรื่องจบแล้วจริงหรือเปล่า

ผมเองถือว่าออกมาห่างเสียอย่างนี้ น่าจะสบายใจกันดีทุกฝ่ายมากกว่า เอาเป็นว่าผมเกรงนะครับ ผมไม่ได้รังเกียจหรือไม่ชอบ แต่เอาเป็นว่า เกรงก็แล้วกัน ก็หลบๆ ออกมาเสีย จะได้ไม่มีเหตุให้ต้องกระทบกระทั่งกัน

ผมขออภัย Little Sun ด้วย ที่กระทู้นี้อาจจะทำให้มีความไม่สบายใจ และขอให้ถกกันต่อในประเด็นแล้วกันครับ จะถกที่นี่หรือที่กระทู้ล่างก็ได้


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 04 พ.ค. 01, 04:16
แล้วสรรพนามบุรุษที่สองละครับ เช่น หนูจ๋า หนูๆ หรือ น้องๆ หนูๆ เป็นต้น ... อิอิ

ถ้าจะให้ถามต่อเนื่องก็คงต้องนึกถึงคำว่าผม ที่ผู้ชายใช้ทำไมต้องเป็น "ผม"
นึกดูอีกทีก็ดีเหมือนกันครับที่ใช้ผม เพราะถ้าเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่ "ผม" นี่
คงจะยังไงๆ อยู่

ถ้าให้เดา น่าจะมาจากเกล้ากระผม
เป็นการพูดแบบอ่อนน้อมถ่อมตนอะไรประมาณนั้น


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: little sun ที่ 04 พ.ค. 01, 09:43
หนูกลุ้มใจ


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 พ.ค. 01, 10:27
อย่าไปกลุ้มใจเลยหนู little sun
คุณนกข.เธอมีเหตุผลของเธอ   และเป็นเหตุผลที่ดิฉันเข้าใจและเห็นด้วย

กลับมาที่เรื่อง" ผม" ดีกว่า  ส่วนเรื่อง "หนู" ไม่ทราบที่มา
อย่างน้อยเท่าที่รู้คือสมัยอยุธยา ผู้หญิงไม่เรียกตัวเองว่าหนู   แต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เรียกเด็กว่า อ้ายหนู อีหนูกันแล้ว
ตอนพลายงามเกิด  ขุนช้างรู้ว่าได้ลูกชายก็ร้องว่า
"ขุนช้างร้องอ้ายหนูเป็นผู้ชาย"

คำว่า ผม   สืบเนื่องมาจากค่านิยม ในการกำหนดความสูงต่ำทางศักดิ์ของคน
เวลาพูดกันอย่างเคารพ  ผู้น้อยใช้สรรพนาม  โดยยกส่วนร่างกายสูงสุดของตนแทนตัวเองขึ้นมา   เอ่ยถึงร่างกายส่วนต่ำสุดของผู้ใหญ่  เช่น
เกล้ากระผม   กับ ใต้เท้า
เกล้า คือส่วนสูงของศีรษะ  กระผม ก็คือผม
ใต้เท้า  ส่วนล่างสุดของเท้า
ความหมายคือไม่กำเริบเสิบสานพูดกับ "ตัว" หรือ" หัว"ของผู้ใหญ่  
ราชาศัพท์ก็มีนัยยะอย่างนี้เช่นกัน  เช่นใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท  คือใต้ฝุ่นที่อยู่ใต้เท้าอีกที


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: จมื่นฌองฌาค ที่ 04 พ.ค. 01, 20:30
ถ้าเป็นดังนั้น ผมคงจะต้องขอกราบประทานโทษไว้เป็น คำรพที่ 2 ณ ที่นี้คงจะไม่เป็นการน่าเกลียดจนเกินไปนะครับ ทั้งท่านนกข. และ คุณเทาชมพู  ทั้งนี้ผมคงไม่มีความจำเป็นต้องตั้งกระทู้ใหม่อีกเพื่อเป็นการขอโทษ จริงไหมครับ

อย่างไรก็ตามผมจะขอ กราบลา บอร์ดแห่งนี้ด้วย ทั้งที่ เหตุการณืที่เกิดขึ้นแต่แรก มิใช่ว่าผมเป็นคนเริ่มก่อน ขอให้กลับไปดูได้อีกครั้ง

คุณเทาชมพูครับ ผมรู้สึกว่า การที่คุณ ลบกระทู้ของผมใน ห้อง "รักภาษา"  นั้น ถ้าเป็นผม จะไม่กระทำแน่ ไม่ว่าอะไรก็ตาม เพราะถ้าเป็นประสงค์ ที่ไม่ดี ผมจะไม่ไป post ที่ห้องอื่น จะใช้ห้องนี้ และ ยิ่ง เมื่อผมได้อ่านความคิดเห็นที่ 5 ในกระทู้นี้ของคุณผมก็เข้าใจอะไรต่างๆมากยิ่งขึ้น ครับ เป็นความผิดของผมเอง ท้ายที่สุดผมขออนุญาต แนะนำ WEBMASTER เรื่องหนึ่ง คือ ขอให้ วางตัวเป็นกลาง ข้อนี้ น่าจะเป็น 1 ใน จรรยาบรรณ ของ WEBMASTER นะครับ

ด้วยความเคารพครับ
กราบขออภัยอีกครั้งไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 04 พ.ค. 01, 21:48
เฮ้อ...
ก็ไม่อยากให้ยาวไปอีกนะครับ แต่เห็นใจคุณจมื่นจริงๆ อย่างหนึ่งว่า ตั้งแต่ต้นที่คุณเข้ามาจนในที่สุดแล้ว คุณก็ยังมองไม่เห็นตัวคุณเองอยู่ดีนั่นเอง คงไม่ได้แกล้งมองไม่เห็น คงไม่เห็นเอาจริงๆ น่ะแหละ เมื่อเป็นเช่นนี้ผมก็ขออภัยคุณ และขอให้อโหสิกรรมให้คุณ ไว้ (อีกครั้งหนึ่ง) ในที่นี้ มาถึงขั้นนี้แล้วเห็นจะต้องวางอุเบกขา

แหม คุณพระนายนะ ไม่น่าตั้งข้อสังเกตขึ้นมาเลย ปล่อยให้ผมวางอุเบกขาของผมกับท่านจมื่นไปเฉยๆ เงียบๆ เสียก็ดีแล้ว บางทีท่านจมื่นก็อาจจะไม่รู้สึกมาก ว่าถูกไม่ให้เกียรติ และอาจจะยังอยู่ร่วมกับเราได้ต่อไปในเรือนไทยนี้ (เพียงแต่ผมจะหลบ ไม่คุยกับแกเท่านั้นเอง) ทีนี้พอเรื่องถูกลากออกมาชัดๆ ออย่างนี้แกก็เลยต้องออกมาเป็นอย่างความเห็นข้างบนนี่

บทเรียนในเรื่องนี้ สำหรับผมเห็นจะเป็นว่า การให้เกียรติกันนั้นเป็นถนนสองทางครับ ไม่ใช่วันเวย์แทรฟฟิก Do unto others as you would like to be done unto you.  หรือสุภาษิตไทยว่า ให้ท่านท่านจักให้ ตอบสนอง นบท่านท่านจักปอง นอบไหว้... (บาทที่สาม ลืม)  ...บาทที่สี่จำได้ แต่ขอไม่ยกมานะครับ  

ยังไม่อยากให้ขาดกันไปเลยโดยไม่มีเยื่อใย เอาเป็นว่าเมื่อคุณจมื่นมีวุฒิภาวะ มี EQ เพิ่มขึ้นมากกว่านี้แล้ว (ผมเชื่อมั่นอย่างหนึ่งว่าคุณเป็นคนเก่ง ฉลาด มี IQ) ถ้าจะกลับมาที่นี่อีก กลับมาเป็นสมาชิกที่มีส่วนร่วมสร้างสรรค์ด้วยกัน ที่นี่ก็คงยังยินดีต้อนรับนะครับ สำหรับผม ผมยินดีจะคุยกับคุณอีกเสมอ เมื่อคุณเป็นคนที่คุยกันรู้เรื่องแล้ว

จบแล้วครับ จบจริงๆ

กลับมาที่ประเด็นกระทู้ คำว่า ผม- กระผม ผมเชื่อว่ามาจากคำว่าเกล้าผม โดยเหตุผลอย่างเดียวกับที่คุณเทาชมพูว่า ส่วนคำว่า ครับ ครับผม ขอรับกระผม นั้น ผมว่ามีนัยยะเดิมเป็นการหมายถึงว่า ไม่ว่าท่านผู้ใหญ่ที่เราพูดด้วยจะสั่งอะไรลงมา เราพร้อมรับคำสั่งท่านมาใส่หัวเราหมด อย่างพระราชาแต่ก่อน หรือเดี๋ยวนี้ก็ตาม ถ้าจะกราบบังคมทูลตอบรับให้เต็มที่จริงๆ เต็มตามพิธีการ ต้องว่า "พระพุทธเจ้าข้าขอรับ รับใส่เกล้าใส่กระหม่อม..." ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยพูดกันยาวๆ ยังงั้นเท่าไหร่แล้ว กับผู้ใหญ่อื่นก็เหมือนกัน ท่านพูดอะไรกับเรา หรือท่านสั่งอะไรมา เราจะรับคำท่านก็บอกว่า ขอรับ (ใส่) เกล้าผม- ขอรับกระผม- ขอรับ ครับผม- ครับ ที่มาคงจะมายังงี้ครับ


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 พ.ค. 01, 22:17
คุณจมื่นฌองฌาค
คุณคงจะต้องขออภัยดิฉันอีกครั้งแล้วละค่ะ เพราะดิฉันไม่ได้ลบกระทู้ของคุณ  และไม่ทราบว่ากระทู้ไหนด้วย
ก่อนจะตัดสินลงโทษดิฉันว่าเป็นคนทำ  ไม่ลองถามเสียหน่อยหรือคะ
ถ้าหากว่าดิฉันจะลบกระทู้ใคร (เว้นแต่กระทู้หยาบคายลามก)  ดิฉันจะแจ้งให้ทราบพร้อมด้วยเหตุผล   แล้วก็ทิ้งไว้ระยะหนึ่งให้เขาเข้ามาอ่านก่อนลบ
ตั้งแต่ตั้งเรือนไทยก็เคยลบไปกระทู้เดียว เป็นกระทู้แซวดิฉัน

ข้อความของคุณแสดงว่าพอคุณข้องใจ ก็สรุปว่าดิฉันไม่วางตัวเป็นกลาง ไปเข้าข้างคุณนกข.
ไม่มีความคิดจะถามบ้างหรือว่า ที่เรียกว่าเข้าใจและเห็นด้วย หมายถึงอะไร?

ดิฉันใช้คำว่าเข้าใจและเห็นด้วยกับคุณนกข.. ก็เพราะว่าถ้าดิฉันอยู่ในภาวะเดียวกันก็คงจะทำแบบเธอ  คือถอยห่างคุณออกมาเพื่อความสบายใจของตัวเอง
แม้ดิฉันไม่เกรงคุณ     แต่อึดอัดที่จะสนทนากับคุณในบางครั้ง
เพราะสังเกตว่าคุณเป็นคนไม่สบอารมณ์ง่าย  เมื่อไม่พอใจอะไรขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ก็มีถ้อยคำกระด้างบอกความไม่พอใจออกมาง่ายๆ    แม้แต่ในเรื่องที่พูดกันดีๆมาแต่แรก    
ยกตัวอย่าง ข้อความของคุณ

" แล้วหนังสือเล่มไหนล่ะ ก็ไม่บอก ไม่ทราบว่าจะให้นั่งเทียนหาหนังสือที่ว่ากันหรืออย่างไร "

คำพูดเหล่านี้ คุณให้เกียรติคนอื่นที่เข้ามาตอบกระทู้มากน้อยแค่ไหน

ทั้งที่น่าจะใช้คำว่า

" ผมอยากจะทราบขื่อหนังสือว่ามีเรื่องอะไรบ้างครับ จะได้ไปหาอ่านได้ง่ายขึ้น   ถ้าไม่ทราบชื่อ ผมก็หาได้ลำบาก"

ถ้าหากว่าคุณใช้คำสุภาพอย่างนี้  แล้วคุณนกข.ตอบคุณอย่างไม่พอใจ   ดิฉันก็จะออกมาปรามเธอเอง
 
ในเมื่อคำพูดของคุณนั้นก่อความอึดอัด ดิฉันจึงไม่ค่อยอยากจะเข้าไปตอบอะไรที่คุณถามนัก  เพราะไม่รู้ว่าจุดไหนจะไปกระทบปุ่มความไม่สบอารมณ์ของคุณเข้าบ้าง
แต่ดิฉันอดกลั้นไม่ว่าอะไร    เพราะให้โอกาสว่ามันคงเกิดขึ้นหนเดียว  คุณรู้ตัว  และไม่ทำอีก
เพราะฉะนั้นก็ขอให้ทบทวนอีกครั้งว่า ใครเป็นคนเริ่มก่อนกันแน่

ส่วนเรื่องอื่นๆที่มันกลายมาเป็นเรื่องราวจนถึงตอนนี้  คุณเองก็รู้แน่แก่ใจว่าคุณมีจิตใจปลอดโปร่ง  ถามเรื่องเด็กเมื่อวานซืนกับผู้ใหญ่ไร้สติ ด้วยความหมายอื่น  ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณและคุณนกข..หรือไม่
คนที่นี่เขาก็ไม่ได้โง่นะคะ   ลำพังแต่คำปฏิเสธว่า
"ถ้าเป็นประสงค์ ที่ไม่ดี ผมจะไม่ไป post ที่ห้องอื่น จะใช้ห้องนี้ "
 เป็นคำอธิบายที่ออกจะขาดน้ำหนัก  เพราะความต่อเนื่องของอารมณ์นั้นมันไม่เกี่ยวกับห้องเดียวหรือคนละห้อง
หน้ากระดานก็ขึ้นพร้อมกันหมดทุกห้องละค่ะ ไม่ต่างอะไรกับห้องเดียวกันหรอก

แม้แต่คำขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า  แสดงความสุภาพ  ถ้าแสดงอย่างเคลือบแฝงว่าให้เห็นว่าฉันพูดสุภาพเหมาะสมแล้ว    แต่นัยยะในประโยคอื่นๆไม่ได้คล้อยตามคำขอโทษ  น้ำหนักมันก็น้อยไม่น่าเชื่ออีกนั่นแหละ

ถ้าคุณพบว่าห้องนี้ไม่สามารถจะตอบสนองความสบอารมณ์ของคุณได้ ไม่ว่าเนื้อหา หรือบุคคลอื่นๆ หรือแม้แต่ตัวผู้ดูแลเอง
คุณก็มีสิทธิ์จะไม่เข้ามาอีกก็ได้   ไม่ต้องลา
ขอให้คุณได้พบสถานที่ที่เหมาะกับคุณด้วยนะคะ


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 04 พ.ค. 01, 23:02
To be fair, ครับ คุณเทาชมพู อาจจะต้องเรียนไปยังคุณ Jor หรือ วิชาการทีมด้วยกระมัง

กระทู้นั้น ที่ผมอ้างถึงว่าคุณพระนายเข้าไปตอบ และที่คุณจมื่นคงจะหมายถึง คือกระทู้สำนวน เด็กเมื่อวานซืน คุณจมื่นตั้งไว้ในกระดานรักภาษาครับ และถูกลบไปแล้ว กระดานรักภาษานั้นเวลาอยู่หน้ารวมก็ขึ้นอยู่กับเรือนไทยด้วย แม้ว่าผู้ดูแลอาจจะเป็นวิชาการทีมท่านอื่นก็ตาม (ผมเข้าใจว่า กระดานที่คุณเทาชมพูดูแลจริงๆ คือกระดานศิลปวัฒนธรรม เท่านั้น หน้าต่างโลกกับรักภาษา แม้จะ affiliate อยู่กับกระดานนี้แต่ก็อาจเป็นท่านอื่นดูแล - ใช่หรือเปล่า???)

ดังนั้นในแง่ข้อเท็จจริงก็อาจจะสับสนได้ครับว่า คุณเทาชมพูหรือใครมีหน้าที่รับผิดชอบและสั่งลบกระทู้ที่ รักภาษา เปิดช่องให้เกิดเหตุการณ์ต่อว่าต่อขานผิดคนกันได้ ทีมวิชาการอาจจะพิจารณาปรับตรงนี้ไหมครับ

เพื่อความกระจ่างของข้อเท็จจริง และความโปร่งใสเท่านั้นแหละครับ เพราะจริงๆ ผมก็รู้สึกว่า ลบกระทู้นั้นไปเสียก็ดีแล้ว ใครจะเป็นคนลบก็ตามแต่ เพราะผมไม่รู้สึกว่าเป็นกระทู้ที่สร้างสรรค์และรักภาษาจริง (แม้แต่ผมเองเมื่อเข้าไปตอบก็ออกฉุนเหมือนกัน เขียนไปด้วยความฉุนแล้ว จึงได้ให้อนุญาตไว้เองในท้ายคำตอบของผมเองว่า ถ้าผู้ดูแลเห็นสมควร จะลบความเห็นของผมออกเสียก็ได้ แต่ในที่สุดผู้ดูแลลบทั้งกระทู้) ขอบคุณครับที่ลบไปเสีย

แต่เพื่อไม่ให้ผมขอบคุณผิดคนหรือมีคนอื่นต่อว่ากันผิดคนอีกในอนาคต วิชาการทีมอาจจะพิจารณาใส่ชื่อผู้ดูแลให้เห็นชัดๆ ดีไหม ครับ เพื่อความโปร่งใส สุดแต่พิจารณาครับ


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 พ.ค. 01, 23:26
คุณนกข.
เรื่องการลบกระทู้ เป็นสิทธิ์ของวิชาการทีมที่จะทำได้ค่ะ   ดิฉันไม่มีข้อขัดข้อง ไม่ว่าจะลบในเรือนไทย หรือหัวข้อย่อย
เพราะเชือว่า ในการลบแต่ละครั้ง  วิชาการทีมได้ใคร่ครวญแล้วว่าไม่ควรปล่อยเอาไว้   ไม่ว่าจะมีการร้องขอให้ลบหรือไม่ก็ตาม
เพราะฉะนั้นจะขอบคุณผิดตัวหรือกล่าวหาผิดตัว ดิฉันไม่ค่อยจะเห็นสำคัญนัก
ถ้ามีคำชม ดิฉันว่าเราต่างฝ่ายต่างก็ได้กันไปเหมือนกัน
ถ้ามีความผิดพลาดเกิดขึ้น ทั้งวิชาการทีมและดิฉันก็จะเฉลี่ยความรับผิดชอบด้วยกันอีก

แต่ที่ตอบคุณจมื่นไป ก็เพื่อชี้ให้เห็นว่า อย่าด่วนสรุปอะไรง่ายๆ  โดยเฉพาะสรุปว่าผู้อื่นทำอะไรโดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าเขาทำจริงหรือเปล่า
มันเป็นผลเสียแก่ตัวเธอเองก่อนคนอื่นเท่านั้นแหละค่ะ


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 05 พ.ค. 01, 00:22
ขอกลับมาที่ประเด็นกระทู้นะครับ

ไม่ใช้เฉพาะไทยโบราณ ที่มีความคิดในการเคารพผู้ใหญ่เป็นแนวตั้ง หัวเราอยู่เท่ากับเท้าผู้ใหญ่ อย่างนี้ จีนโบราณก็มี หลงเหลือร่องรอยติดอยู่ในภาษาจนเดี๋ยวนี้

ผมเขียนไว้ที่อื่นแล้วว่า จีนนั้นหนักกว่าไทยเสียอีก ถ้าดูคำแทนผู้ใหญ่ชั้นต่างๆ ของเขานั้น จะเห็นได้ว่าผู้ใหญ่เขาอยู่สูงเลยหัวคนจีนขึ้นไปอีกไกล เวลาจะเรียกจักรพรรดิเขาเรียกว่า หวางซ่าง ก็ได้ แปลว่าเจ้าเหนือหัว (หวาง - royal ซ่าง - บน คล้ายๆ Royal Highness)
แต่มีอีกคำว่า - ขอโทษครับเป็นภาษไทยแล้วไม่เพราะ - ปี้เซี่ย ปี้ - บันไดสูงขึ้นไปสู่พระตำหนักที่ประทับ เซี่ย - ข้างล่าง แปลว่าอะไร แปลว่าขณะที่ไทยโบราณเราไม่กล้าพูดกับพระองค์พระราชาตรงๆ แต่พูดกับฝุ่นที่เกาะอยู่ใต้พระบาท นั้น จีนเขาไม่ได้พูดกับพระบาทหรือฝุ่นที่จับใต้พระบาทฮ่องเต้ด้วยซ้ำ แต่พูดกับเชิงบันไดที่จะนำขึ้นไปสู่ตำหนักที่ประทับของฮ่องเต้แค่นั้น ระยะห่างผิดกันขนาดนั้นครับ
เจ้านายองค์อื่นๆ ที่ไม่ใช่ฮ่องเต้ ใช่คำเรียกว่า เตี้ยนเซี่ย แปลตรงตัวว่า ใต้หรือเชิงฐานพระตำหนัก ส่วนคำว่า ฯพณฯ จีนใช้ว่า เก๋อเซี่ย เดิมเป็นคำเรียกขุนนาง (หนึ่งในหลายคำ) แปลรงตัวว่า ข้างใต้หรือข้างล่างของหอ แปลอีกทีว่า ฮ่องเต้อยู่สูงขึ้นไปบนตำหนักสูง มีบันได เจ้านายอื่นอยู่ตำหนักธรรมดา ไม่มีบันได ขุนนางก็คงจะอยู่กันตามหอ ตามศาลา และคนจีนธรรมดาๆ ก็ยืนอยู่บนพื้นดิน...

ฝรั่งเดิมก็มีความคิดคล้ายกัน ที่ว่าไม่ต้องการพูดกับตัวผู้ใหญ่ตรงๆ เพราะจะเป็นการไม่สุภาพ เวลาจะพูด ก็เลยพูดกับคุณความดีคุณสมบัติที่สมมติว่ามีในตัวผู้ใหญ่นั้นแทน เช่น Your Majesty, Your Grace, Your Honour, และ ฯลฯ ไม่ได้พูดกับ You แล้วกริยาในประโยค ก็ผันเป็นรูปที่ใช้กับสรรพนามบุคคลที่สามด้วย ไม่ใช่รูปที่ใช้กับยู

เรืองนี้ทำให้นึกถึง วัด "พระนามบัญญัติ" คือชื่อวัดนั้นมี แต่คนไทยรุ่นโน้นด้วยความเคารพก็ไม่เรียกเพราะเป็นชื่อเดียวกับพระนามเจ้านาย เลี่ยงเรียกเสียอย่างนี้แทน ทายสิครับว่าวัดไหน


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 05 พ.ค. 01, 01:15
เรียนทุกๆท่านครับ

กระทู้ดังกล่าวผมเป็นคนลบเอง คุณเทาชมพูไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยแต่อย่างใด
( จริงๆ ยังไม่ได้ลบ กระทู้ยังอยู่ในฐานข้อมูล เพียงแต่ไม่แสดงผล)
ขอเรียนให้ทราบว่าผมไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดทั้งนั้น
เหตุผลที่ลบก็เพราะว่ากระทู้ดังกล่าวค่อนข้างล่อแหลมที่จะทำให้เข้าใจผิดกันอีก
ถึงแม้ว่าคุณจมื่นฯ อาจจะไม่ได้มีเจตนาอย่างที่คุณยืนยันกับผมไว้แล้วก็ตาม
และคำถามที่ตั้งไว้ ก็มีผู้ตอบไว้ครบถ้วนแล้ว เพื่อที่จะให้เหตุการณ์ดีขึ้น
ผมจึงคิดว่าลบกระทู้ทิ้งไปซะจะดีกับทุกๆคน เก็บไว้ก็เสียความรู้สึกกับทั้งสองฝ่าย
ถ้าคุณคิดว่าผมลำเอียง หรือ ไร้จรรยาบรรณก็สุดแล้วแต่ครับ

ขออภัยที่ผมเข้ามาชี้แจงช้าไปหน่อยครับ เนื่องจากติดเรียนอยู่


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 05 พ.ค. 01, 01:26
สำหรับเรื่องการรบกระทู้ในวิชาการดอทคอมนั้น
คุณเปี้ยว และ ผม จะเป็นผู้ลบครับ หากว่ามีคนแจ้งเข้ามาว่ามีข้อความที่ไม่เหมาะสม
หรือ ในกรณีที่ทีมงานเห็นว่าไม่เหมาะสม
โดยส่วนใหญ่แล้วพวกเราจะไม่พยายามลบความเห็นใดถ้าไม่จำเป็นจริงๆครับ


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 05 พ.ค. 01, 01:37
ขอบคุณครับที่แจ้งให้ทราบ

สมมติฐานของผมคือ ค่ะ คะ ขา นี่ มาจากคำว่า เจ้าข้า ทั้งหมด แต่ตัดย่อสั้นและเปลี่ยนระดับเสียงไปตามอารมณ์ของประโยค  

ผู้ชายก็ดีไปอย่าง ครับ คำเดียว ไม่ว่าจะเป็นประโยคบอกเล่า หรือคำถาม หรือ ขานรับเฉยๆ ของผู้หญิงถ้าบอกเล่าหรือปฏิเสธก็คงลงว่า ค่ะ ถ้าเป็นคำถาม ก็ คะ ส่วนถ้าขานรับ ถ้าไม่คะ ก็ขา ยาวเลย
 
แต่พักหลังๆ บางทีเห็นสาวๆ รุ่นใหม่สับสนเองเหมือนกัน ผมเคยเห็นเขียนกันว่า สวัสดีคะ ไม่เอาคะ (ยังไม่ขัดหูมาก แต่ก็ขัดหู) และ รับอะไรดีค่ะ เอาไหมค่ะ (อ่านแล้วขัดหูมากครับ)


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: คุณพระนาย ที่ 05 พ.ค. 01, 03:29
ต้องขอโทษคุณ นกข อย่างที่บอก เพราะผมเป็นคนมาชี้ให้เรื่องมันชัดขึ้นมา จริง ๆ อยากจะให้เข้าใจกัน แต่ว่า รู้สึกว่าผมคงทำไม่สำเร็จแล้วก็ เลยทำให้มีเรื่องยาวต่อกันมาอีก
ผมต้องขออภัยจริง ๆครับ
กลับมาเรื่องกระทู้ต่อ
คุณ นกข. ไม่ชอบให้สาว ๆ รุ่นใหม่พูดคะ หรือค่ะ แต่อยากได้ยิน ขา เหรอครับ เป็นว่า
คุณ อานกข. ขา จะรับอะไรดีคะ หรือว่า
คุณพี่ ขา คุณจะทานอะไรดีคะ


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 05 พ.ค. 01, 04:16
ไม่ใช่ครับ ผมไม่ได้ไม่ชอบคำไหนคำหนึ่งเป็นพิเศษครับ
สาวๆ  จะพูดหรือจะเขียนว่า คะ ค่ะ ขา ก็พูดหรือเขียนไปเถอะ แต่ขอให้พูดหรือเขียนให้ถูกเท่านั้น (ที่ผมเห็นคือเห็นตอนเขียน เพราะตอนพูด มันจะออกมาถูกโดยอัตโนมัติ หรือถ้าผิดก็จะฟังแปลกๆ โดยอัตโนมัติ)

เช่น รับอะไรดีคะ ไม่ใช่ รับอะไรดีค่ะ และถ้ามี นะ- มั้ย - ไหม- ก็ควรจะเขียนว่า นะคะ มั้ยคะ ไม่ใช่ มั้ยค่ะ นะค่ะ  (แต่ ควรเป็น น่ะค่ะ ไม่ค่อยเห็น น่ะคะ)  คือเขียนตามที่เราพูดจริงๆ น่ะครับ ที่ไหนไม่ต้องมีไม้เอกก็ไม่ต้องไปใส่มันเข้า ที่ไหนมีไม้เอกก็อย่าทำหล่นหายเสีย

วิธีง่ายที่สุดคือ เมื่อเขียนแล้วลองอ่านฟังเสียงดู ก็รู้ครับ


เคยได้ยินหนังเรื่องหนึ่งไหมครับชื่อ ครูขา... หนูเหงา ถ้าคนพูดเป็นเด็กผู้หญิงก็คงน่ารักดี แต่ถ้าคนพูดเป็นเด็กนักเรียนชายเฮี้ยวๆ บอกครูว่า ครู... ขาหนูเหงา ยังงี้ต้องรีบจับไปเตะบอลโดยด่วนก่อนจะมาเตะครูเข้า


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: Linmou ที่ 05 พ.ค. 01, 09:10
โผล่เข้ามานานๆครั้งอย่างงงๆ
โลกเขาไปถึงไหนกันแล้วนี่?
ต่อจากความเห็นคุณ นกข.ข้างบนโน้น(ดูเหมือนจะคุณเทาชมพูด้วยนิดหน่อยค่ะ)
ประเทศจีนเริ่มมีการใช้สรรพนามแทนตัวว่า
"หนูฉาย" , "หนูปี้" และสารพัด "หนู" ในสมัย "ราชวงศ์ชิง" ค่ะ ก็พวกแมนจูที่โกนหัวล้านครึ่งหัวและไว้ผมเปียนั่นเอง
ราชวงศ์ชิงกลืนแผ่นดินฮั่นในปี ค.ศ. ๑๖๔๔ บวก ๕๔๓ ก็เป็น พ.ศ. ๒๑๘๗ คิดว่าคงประมาณในช่วงค่อนข้างปลายสมัยกรุงศรีอยุธยารึเปล่าคะ?

ยังไงก็ Linmou ไม่ได้รังเกียจในการใช้คำว่า "หนู" ของไทย แต่ไม่ชอบคำว่า "หนู" ของจีนเล๊ย
แต่ยอมรับอย่างว่าผู้หญิงไทยนี่บางครั้งก็เลือกสรรพนามแทนตัวใช้ได้ลำบากพิลึก สู้ผู้ชายไม่ได้ ใช้ "ผม" อย่างเดียวทุกงาน สะดวกกว่ากันเยอะ


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: สวิริญช์ ที่ 05 พ.ค. 01, 15:31
เอ่อ ..คุณนกข. ขา า า
คือว่าเรื่องการพูดคะขาเนี่ยมันคงต้องแล้วแต่บ้านใครบ้านมันสอนกันมานะคะ
ถ้าเป็นส่วนตัวดิฉันแล้ว จะให้ไปพูด "ขา" กับใคร คงไม่ไหว เพราะอายปากตัวเองค่ะ
หรือคำว่า "หนู" ก็เช่นกันจะใช้เฉพาะกับอาจารย์ หรือผู้ที่มีอาวุโสกว่ามากๆ อย่าง คุณย่า
คุณยาย แบบนั้น ค่ะ ส่วนเรื่องการเขียนเสียงพูดเห็นด้วยเหมือนกันว่าบางทีก็เขียนกันผิดบ่อยๆ
แม้แต่ในบอร์ดนี่ล่ะ เห็นชัดเจนเลยค่ะ เพราะเราคุยกันไงคะ บางทีผู้ใช้อาจจะไม่คุ้นเคย
กับการเขียนถอดเสียงพูดก็ได้เลยทำให้ เขียนไม่ค่อยถูกต้องนัก


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: นวล ที่ 05 พ.ค. 01, 19:12
ร้องเสียงดัง กระจ๊ากกกกกกก..... หลังจากอ่านความเห็นที่ 14
ของคุณ นกข... มายืนก้มหัวรับผิดอย่างสง่างาม เพราะเป็นคนหนึ่ง
ที่คีย์ คะ ค่ะ ผิดเป็นประจำ จนมี "ใครคนหนึ่ง" เอาไปตอกย้ำ
ประจำเพื่อให้อิฉันได้อายเล่น... ฮา ฮา ฮา ฮา ฮา แต่ไม่ยักจะอายอ่ะ
แต่อยากจะบอกว่า ผันเสียงถูกค่ะ แต่นิ้วมันไม่สัมพันธ์กับสมอง
อีกทั้ง คีย์สดๆ เสร็จแล้วส่งเลย จึงไม่สามารถใช้เวิร์ดตรวจได้..
อิ อิ อิ อิ เป็นคำแก้ตัวที่พอฟังขึ้นไหมคะ แต่รับรองได้ว่าเวลาทำงาน
และส่งงานฉบับ fair แล้ว ถูกต้องทุกประการ ยกเว้นจะตั้งใจทำ...
(เฮ้อ.. ยังจะขัดหู ขัดตา อยู่อีกไหมค่ะ... 555555555)


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 05 พ.ค. 01, 19:21
ว้าย... ป้าจ๋า ผมไม่ได้ตั้งใจว่าป้านวลเป็นการเฉพาะนะครับ
แค่พูดรวมๆ ไปน่ะครับ ไม่ได้นึกถึงป้าจริงจริ๊ง ... ขออภัยครับ ผมนึกถึงสาวๆ นะครับเวลาที่พูด ... เอ - ยิ่งแก้ตัวรู้สึกจะยิ่งแย่

หนูไฉไกสื่อ - ข้าผู้น้อยสมควรตาย...


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: นวล ที่ 06 พ.ค. 01, 01:12
ได้ยินว่า ป้าจ๋า... ค่อยโล่งใจ แต่พอมาเจอ...
ผมนึกถึงแต่สาวๆ.... อุเหม่ อุเหม่ เขาว่าเรา เขาว่าเรา...
ผิดหรือยังไง ที่เป็น Senior Citizen (ที่ไม่ใช่ยี่ห้อนาฬิกา)???
น้อยใจ น้อยใจ

โอ้ว่าอนิจจา.. เจ้าข้าเอ๋ย
กระไรเลยมาทักคำคะขา
เพราะเรานี้คีย์ผิดทุกเวลา
เหมือนกรรมพาให้นิ้วสลับพิมพ์
(ฮา ฮา ฮา SC คิดต่อไม่ออกแล้ว)

แล้วทำไมสาวๆ (รุ่นใหม่) ถึงพูด
คะ ค่ะ แบบสั้นๆ กันจัง ไม่ทอดเสียงให้ฟังนุ่มหูเลย
แล้วยังมี ฮ่ะ ฮะ อีกต่างหาก


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: พวงร้อย ที่ 06 พ.ค. 01, 02:06
ก๊ากกก มาขำคุณนกขถูกต้อนเข้ามุมค่ะ

คุณนวลขาาาา คิดถึงจังค่ะ


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: อำแดงริน ที่ 06 พ.ค. 01, 20:24
^_______^
เห็นผู้หญิงบางคน"หนู"ไปจนห้าหกสิบ...
คือเธอคง"หนู"กับผู้ใหญ่มานานเน จนลืมไปว่า
กาลบัดนี้เธอก็"ผู้ใหญ่"แล้ว
คำแทนตัวนี่ก็น่าปวดหัวนะคะ
น่าอิจฉาผู้ชายจริงๆด้วย...ผม...อย่างเดียว
จน"ผม" ไม่มีแล้วก็ยัง"ผม"ได้ทุกเมื่อ..5555


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 พ.ค. 01, 20:48
เคยได้ยินค่ะ  
ลูกสาวบางคนอายุ ๕๐ ก็ยังต้อง "หนู" กับคุณแม่อยู่ดีละค่ะ
 เพราะไม่รู้จะเปลี่ยนเป็น "ดิฉัน" ได้ยังไง


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: ศรีมนต์ ที่ 06 พ.ค. 01, 22:43
แต่ดิฉัน  ยังเคยได้ยิน ลูกชายวัยกว่า 30 ก็ยังต้อง
 " หนู " กับคุณแม่ นะคะ

คงแปลี่ยนยากค่ะ เหมือนกันค่ะ


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: นวล ที่ 07 พ.ค. 01, 01:55
เคยได้ยินเหมือนกันค่ะ แต่ครอบครัวนี้ ลูกมีชื่อเล่นว่า "หนู"
เลยต้อง "หนู" ไปจนแก่ละมั้งคะ ขอออกนอกประเด็น "หนู"
หน่อยนะคะ เพราะอยากจะเล่าว่า ยังมีอีกครอบครัวหนึ่ง
เด็ดกว่านี้อีก เพราะลูกคนโตมีชื่อเล่นว่า "ลูก"
คนเล็กมีชื่อเล่นว่า "หลาน"  แล้วแต่ละวัน
คุณแม่ก็จะเรียกลูกๆ ว่า "คุณลูกขา" "คุณหลานขา"
จนคนนอกอย่างอิฉันไม่แน่ใจว่า คุณลูกกับคุณหลานนั้น
เป็นพี่น้องคลานตามกันมาหรือเปล่า..... ทำไมต้องตั้งชื่อ
"คุณหนู" "คุณลูก" "คุณหลาน" ด้วย ไม่เข้าใจจริงๆ
ใครคิดว่ามีเหตุผลดีๆ ช่วยแจ้งแถลงไขให้ทราบด้วย
จะขอบคุณยิ่ง... จบการออกนอกประเด็น

ขอบคุณค่ะ คุณพวงร้อยขาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
ที่คิดถึง เช่นเดียวกัน........


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: อำแดงริน ที่ 07 พ.ค. 01, 08:18
อืมมมม
จริงด้วยค่ะ จะเปลี่ยนไป"ดิฉัน"กะคุณแม่
คงนึกว่าหูฝาดไปเป็นแน่....
แบบนี้คงต้อง"หนู"ตลอดกาล ^______^

กรณีแบบคุณนวล
เคยเจอเป็นชื่อจริงเลยค่ะ ญาติ(ห่างๆ)ไม่รู้เขานึกขลังอะไร ตั้งชื่อลูกว่า"คุณเศรษฐี"กับ
"คุณกำปั่น" คือมี"คุณ"นำไว้ก่อนเลย แปลกจริงๆ...นอกเรื่องหน่อยนะคะ


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 08 พ.ค. 01, 02:26
หนู แต่ก่อนเป็นชื่อจริงก็มี นามสกุลหลายนามสกุลที่สืบมาจากบรรพชนที่ชื่อหนู ก็ยังมีคำว่า มุสิก อยู่ในนามสกุล

ขอนอกเรื่องต่อ...

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว สมัยที่เมืองจีนยังไม่มี ปปช. มีขุนนางกังฉินคนหนึ่ง หากินด้วยการเปิดประตูทั้งหน้าบ้านหลังบ้านรับสินบนทุกรูปแบบ มาวันหนึ่งก็แกล้งเปรยๆ ให้ได้ยินทั่วกันว่า จวนจะวันเกิดตูอีกรอบแล้วเหวย.... จวนจะแซยิดอีกหนแล้วเว้ย....
เมื่อท่านที่มีอำนาจยิ่งใหญ่เปรย ๆ เช่นนั้น พ่อค้าหบดีขุนนางอื่นทั้งหลายก็ต้องพยายามเอาใจสุดแรงเกิด จึงพร้อมใจกันเอาทองมาหล่อเป็นรูปหนูเท่าหนูตัวจริง ฝีมือเยี่ยม ตาสองข้างเป็นทับทิม เอามาให้ท่าน ฯพณฯ มหากังฉินเป็นของขวัญ เพราะรู้กันว่าท่านเกิดปีชวด คือปีหนู ท่านกังฉินใหญ่ก็ชอบใจชมเชยมาก ทำเอาพวกสอพลอทั้งหลายหน้าบานไปตามๆ
แต่ก็หน้าหุบทันทีเมื่อท่านพูดต่อว่า... เออ ปีหน้าก็แซยิดท่านผู้หญิง คือฮูหยินตูแล้วนะ นี่ฮูหยินชอบของขวัญที่ ฯพณฯ กังฉินได้ปีนี้มาก ปีหน้าได้อย่างนี้ด้วยก็ดี...
พวกพ่อค้าทั้งหลายหน้าซีด เพราะฮูหยิน (เป็นเมียบ้านไหนก็ไม่ทราบ นิทานไม่ได้บอก) ท่านอ่อนกว่า ฯพณฯ กังฉิน 1 ปี เกิดปีฉลู - ปีวัวครับ!!!
จะต้องใช้ทองเท่าไหร่กันละเนี่ย...


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: พวงร้อย ที่ 08 พ.ค. 01, 07:13
ย้อนไปต้นเรื่องนิดนึง  ถ้ายังงั้น  คำว่า "อีหนู" นี่มาจาก อินู รึเปล่าคะ


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 08 พ.ค. 01, 10:13
ผมว่าไม่ใช่นาา พี่พวงร้อย
แต่ให้คุณ นกข. อธิบายดีกว่า
ผมมารอฟังนิทานเรื่องน้องหนู เอ้ยไม่ใช่ หนูๆ


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 08 พ.ค. 01, 23:10
บอกเสียก่อนนะครับว่ามาจากความจำอันกระท่อนกระแท่นของผม เรื่องอินูนี่ ผมอาจจะจำผิด อยู่นี่ไม่มีหนังสือค้นด้วย คุณพวงร้อยอย่าเพิ่งยึดผมเป็นหลักฐานอ้างอิงครับ


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: อุ้ยครับ ที่ 09 พ.ค. 01, 16:51
คำว่า "อินุ" เป็นภาษาญี่ปุ่นครับ แปลว่า หมา แหะๆๆ บังเอิญรู้อ่ะครับ แบบตอนแม่อุ้ยเรียนภาษาญี่ปุ่น เพื่อนๆเอามาล้อกัน แล้วแม่อุ้ยชื่อเริ่มต้นด้วย "วิ" พวกป้าๆลุงๆ เค้าเลยเรียกแม่อุ้ยว่า อินุวิ กันยกใหญ่ ฟังเสียงก็เพราะดีอ่ะครับ ตอนพ่อมาจีบแม่ใหม่ๆ พ่อยังเรียกแม่ว่า อินุวิ เลยครับ ทุกวันนี้เวลาอารมณ์ดีๆก็ยังเรียกกันอยู่ครับ

คุยเรื่องเดียวกันเปล่าครับ?

อีกเรื่องนึง ทุกวันนี้เวลาพ่ออุ้ยคุยกับย่า พ่ออุ้ยจะแทนตัวเองว่า "ลูก" เวลาคุยกะลุงอุ้ย เก๊าะเรียกลุงอุ้ยว่า "พี่" (ไม่เติมชื่อนะครับ) และเรียกตัวเองว่า"น้อง" ย่าบอกว่าจะได้สำเหนียกว่าตัวเองเป็นใคร กำลังพูดกับใคร ประมาณนั้นอะครับ

แต่พอมาถึงรุ่นอุ้ย กลายเป็นว่าใช้ชื่อเล่นเป็นคำแทนตัวไปแล้วอะครับ ไม่ว่าจะคุยกับย่า หรือคุยกะพ่อกะแม่อะครับ

มีลุงคนนึงครับ เคยเล่นดนตรีไทยกับสมเด็จพระเทพรัตน์ฯ สมเด็จฯรับสั่งว่า เวลาจะเพ็ดทูล ให้ใช้ชื่อเล่นแทนตัวไปเลยอ่ะครับ ไม่ต้อง ข้าพระพุทธเจ้า อะครับ ฟังแล้วก็เป็นปลื้มนะครับ ไม่ถือองค์เลย


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 10 พ.ค. 01, 04:41
ภาษาลาวเก่า มีคำขานรับโดยความเคารพอยู่คำหนึ่งว่า "โดยข้าน้อย"

ภาษาเขมร คำว่าครับ ใช้ว่า บาท (- เท้า) เช่น สวัสเด็ย บาท - สวัสดี ครับ ก็คือให้เกียรติอีกฝ่าย พูดกับเท้าของฝ่ายนั้น เหมือนที่ไทยเราเรียกอีกฝ่ายที่เป็นผู้ใหญ่ว่า ใต้เท้า นั่นเอง

แต่ภาษาไทยใหม่ของสาวๆ บางคนว่า "ได๋คา..." นี่ ไม่ทราบมาจากไหนคา...


กระทู้: สืบจากกระทู้ "หนูขา" ของคุณ Little Sun
เริ่มกระทู้โดย: little sun ที่ 11 พ.ค. 01, 09:34
นอกจากนี้เค้ายังพูดคำว่า  อะ จริงดิ
แทนคำว่าจริงเหรอ ไม่ค่อยชอบเลยค่ะคำว่า  อะ จริงดี แต่เพื่อนๆชอบพูดกันจริงจริ๊ง