paganini
|
ความคิดเห็นที่ 645 เมื่อ 25 เม.ย. 21, 21:32
|
|
เรื่อง The Graduate นี่เกิดไม่ทันดูในโรง แต่ทันดูจากช่อง 7 บิ๊กซีนีมาโปรแกรมเพชรหนังพันล้าน (ฮ่าาา) มีเพลงประกอบที่ดังเหลือเกินคือ Mrs. Robinson และ The Boxer สมัยผมเป็นวัยรุ่นหัดเล่นกีต้าร์ (ซึ่งก็ภายหลังหนังเรื่องนี้ ยี่สิบกว่าปีได้) ก็ต้องเล่นเพลงบังคับเหล่านี้ พอโตมาอีกสักหน่อยในวัยหนุ่มฉะกัน(ฉกรรจ์) ก็ได้ดูหนังเรื่องนึงซึ่งแม้จะไม่โด่งดังเท่าไหร่แต่สำหรับผมก็ถือว่าประทับใจเรื่องนึง มีแต่ดาราดังเช่น เกว็นเนธ พัลโธรว์ อีธาน ฮอว์ก โรเบิร์ต เดอนิโร ผมและเพื่อนๆที่ไปดูด้วยกันจะชอบบทของ Mrs. Dinsmoor เป็นพิเศษ เพราะเป็นคุณยายไฮโซที่ท่าทางแปลกๆ ติดใจในฉากที่เธอเอามือของพระเอก(ตอนเด็ก)ไปทาบที่หน้าอกเธอแล้วบอกว่า It's my heart and it's broken.เพราะเธอเคยเป็นเจ้าสาวที่ถูกเจ้าบ่าวชิ่งหนีในวันแต่งงาน พวกเราเลยเอามาล้อเล่นกันเวลาใครอกหักก็จะแซวกันด้วยมุกนี้ ( 555 ใจร้ายนะ วัยรุ่นสมัยนั้น) พึ่งจะมาค้นพบ(เพราะอินทรเนตร) เมื่อไม่นานมานี้ครับว่า คนแสดงเป็น Mrs.Dinsmoor ก็คือคนเดียวกับที่แสดงเป็น Mrs.Robinson สุดสวยเจ้าเสน่ห์นั่นเอง ท่านชื่อ Anne Bancroft เป็นดาราดังในยุคหนึ่งเลย
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
nathanielnong
อสุรผัด
ตอบ: 13
|
ความคิดเห็นที่ 646 เมื่อ 26 เม.ย. 21, 09:19
|
|
วันนี้มีงานประกาศผล Oscar ปีล่าสุดครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 647 เมื่อ 26 เม.ย. 21, 11:56
|
|
ไปหาว่า Ms. Dinsmoor. อยู่ในหนังเรื่องไหน เจอว่าเป็นหนังจากบทประพันธ์ Great Expectations ของชาร์ลส์ ดิกเกนส์นี่เอง เคยเรียนตอนปี 1 อ่านออกแต่ไม่รู้เรื่องค่ะ ยากไปสำหรับเด็กปี 1 ภาษาก็โบราณมาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
nathanielnong
อสุรผัด
ตอบ: 13
|
ความคิดเห็นที่ 648 เมื่อ 26 เม.ย. 21, 15:20
|
|
หนังของ Alfred Hitchcock มีเอกลักษณ์ตรงที่จะเอาตัวเองเข้าไปโฉบในฉากหนึ่ง ๆ ของทุกเรื่อง (เรียก Cameo)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
paganini
|
ความคิดเห็นที่ 649 เมื่อ 27 เม.ย. 21, 10:02
|
|
โอ้ พึ่งจะเห็นว่าผมเขียนถึง Mrs Dinsmoor แต่ดันลืมกล่าวถึงชื่อหนังไป 555 ผมว่าเนื้อเรื่องก็โบราณครับ Great Expectation เวอร์ชั่น 1998 นี้ เอามารีเมคในรูปแบบสังคมยุคใหม่แต่เนื้อเรื่อง สไตล์ของเนื้อเรื่องก็จะแปลกๆ ไม่เหมือนนิยายยุคใหม่ ผมดูแล้วก็มึนๆครับ ชอบแต่นางเอกที่ตอนนั้นกำลังสวยสะพรั่งเลยครับ ไปหาว่า Ms. Dinsmoor. อยู่ในหนังเรื่องไหน เจอว่าเป็นหนังจากบทประพันธ์ Great Expectations ของชาร์ลส์ ดิกเกนส์นี่เอง เคยเรียนตอนปี 1 อ่านออกแต่ไม่รู้เรื่องค่ะ ยากไปสำหรับเด็กปี 1 ภาษาก็โบราณมาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
nathanielnong
อสุรผัด
ตอบ: 13
|
ความคิดเห็นที่ 650 เมื่อ 27 เม.ย. 21, 10:08
|
|
ไม่รู้คุณ Sila เอ่ยไปแล้วยัง
วัยรุ่นวุ่นรักครับ
เนื้อเรื่องล้าสมัย แต่เพลงเป็นอมตะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 651 เมื่อ 27 เม.ย. 21, 10:49
|
|
^ มีการอ้างถึงบ้างตอนคุยกันเรื่อง มาร์ค เลสเตอร์
ชื่อไทยว่า เมโลดี้ ที่รัก เมื่อเข้าฉายในบ้านเราและโด่งดังประสบความสำเร็จอย่างสูง
พ่อมด สปีลเบิร์ก ปล่อยตย. West Side Story มาแล้ว ภาพ,เสียง,ตัดต่อ เร่งเร้า น่าดู แต่ ภาพจำ นาตาลี วู้ด ยังตรึงใจ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 653 เมื่อ 27 เม.ย. 21, 13:39
|
|
ก่อนหน้าและหลังปี 1968 มีหนังเรื่องไหนที่นำแสดงโดยพระเอกนางเอกวัยรุ่น จะยิ่งใหญ่กึกก้องไปทั่วโลกได้เทียบเท่าเรื่องนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 654 เมื่อ 27 เม.ย. 21, 13:45
|
|
47 ปีให้หลัง พระเอกนางเอกคู่ขวัญโคจรมาพบกันเป็นครั้งที่สอง (และน่าจะครั้งสุดท้าย)ใน Social Suicide หนังปี 2015
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 655 เมื่อ 27 เม.ย. 21, 14:55
|
|
๒๘ ปีให้หลัง คู่พระนางใน เมโลดี้ที่รัก (๒๕๑๔) โคจรมาพบกันอีกเช่นกันในการโทรทัศน์ของญี่ปุ่น พ.ศ. ๒๕๔๒
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
nathanielnong
อสุรผัด
ตอบ: 13
|
ความคิดเห็นที่ 656 เมื่อ 27 เม.ย. 21, 19:21
|
|
ก่อนหน้าและหลังปี 1968 มีหนังเรื่องไหนที่นำแสดงโดยพระเอกนางเอกวัยรุ่น จะยิ่งใหญ่กึกก้องไปทั่วโลกได้เทียบเท่าเรื่องนี้
ปี 1972 Franco Zeffirelli ก็ทำหนังสวยอีกเรื่อง Brother Sun, Sister Moon จำชื่อไทยไม่ได้ จำได้แต่ ทิวลิป บอกว่านางเอกคอยาว เรื่องนี้เพลงร้องโดย Donovan เพราะมาก ๆ ฉากสวย ฉากทรงพลัง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Jalito
|
ความคิดเห็นที่ 657 เมื่อ 27 เม.ย. 21, 19:38
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 658 เมื่อ 28 เม.ย. 21, 10:10
|
|
Gidget ( อ่านว่า กิ๊ดเจ็ท) ฉายในปี 1959 เป็นหนังวัยรุ่น เพื่อตอบสนองรสนิยมของคนดูยุคเบบี้ บูมเมอร์ซึ่งเติบโตขึ้นมาเป็นวัยรุ่นพอดี นำแสดงโดยแซนดรา ดี เจมส์ ดาร์เรน และคลิฟ โรเบิร์ตสัน เรื่องนี้เป็นเรื่องนำของหนังประเภท beach party ซึ่งตามมาอีกหลายเรื่อง แต่เมืองไทยดูเหมือนจะไม่ได้นำมาฉาย มีแต่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ฉายในโรงใหญ่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
nathanielnong
อสุรผัด
ตอบ: 13
|
ความคิดเห็นที่ 659 เมื่อ 28 เม.ย. 21, 10:14
|
|
Ryan's Daughter มาฉายในไทยโดยใช้ชื่อว่า ลูกสาวไรอัน จำได้ว่าเป็นโรงหนังเฉลิมไทย มีการโฆษณาใหญ่โตให้สมกับเป็นหนังฟอร์มยักษ์ของ ผกก. David Lean ผู้ทำหนังเล็กไม่เป็น
ตอนมาฉาย ผมไม่ได้ไปดูเพราะไม่มีใครพาไป ผู้ใหญ่ (ตั้งแต่พี่ขึ้นไป) ไม่อยากดู ก็เป็นอันว่าอด เลยรู้เรื่องแค่จากตัวหนังสือเล่าโดย ทิวลิป ณ SP
ผมมาได้ดูตอนยุค สถน. IBC ดูไปหาวไป หนังทั้งยาว (กว่า 2 ชม.) และเดินเรื่องอืด อย่างไรก็ตามดูจนจบเพราะ ทิวลิป บอกว่าถึงเบื่อก็ต้องทน
ดูจบก็มาหาเรื่องราวอ่าน ก็พบว่า เกร็ดการสร้างหนังเรื่องนี้มีบานตะไทและสนุก ๆ ทั้งนั้น เอาเป็นว่าสามารถสร้างเป็นหนังอีกเรื่องได้อย่างสบาย ๆ
เป็นต้นว่า...
บทพระเอกทหารหนุ่ม Major Randolph Doryan (RD) นั้น ตะแรก ผกก. ตกลงกับ Marlon Brando ไว้ แต่พอถึงช่วงลงมือเกิดเวลาไม่สมพงษ์กัน ต้องควานหาดาราอื่นต่อ ช่วงนั้น ผกก. ไปถูกตาต้องใจ Christopher Jones (CJ) จากหนังเล็ก ๆ เรื่องหนึ่ง ถึงขนาดว่า คนนี้แน่นอน และตกลงทำสัญญากันโดยไม่ต้องมาเสียเวลาดูตัว/casting
พอถึงเวลาเจอะกันจริง เกิดอาการพลิกล็อค อย่างแรกคือเสียงของ CJ ที่ ผกก. ฟังมาในหนังนั้นไม่ใช่เสียงจริง ใช้เสียงของคนอื่นมาทับแทน แต่ที่เป็นฝันร้ายของ ผกก. คือ ตัว CJ เตี้ยมาก แค่ 5'8" สูงขนาดนี้จะไปทำให้ บทพระเอกทหารหนุ่ม RD สง่างามได้อย่างไร พอถึงเวลาถ่ายทำต้องระดมกำลังของหลายฝ่าย ทั้งฝ่ายถ่ายภาพ ฝ่ายองค์ประกอบฉาก ฯลฯ เพื่อให้ตัวพระเอกออกมาสง่างามให้ได้ ผมว่าทำได้มีประสิทธิภาพมากเพราะถ้าไม่รู้เบื้องหลังจะไม่มีทางจับได้ว่า CJ เตี้ยมาก ประมาณว่า 'เฮ้ย เตี้ยอย่างนั้นเชียวเรอะ' แสดงว่า ผกก. เก่งมาก แถมยังกำกับให้ CJ สวมบททหารซึ่งพิการเดินขาเป๋ได้เท่ไม่หยอก
พอถึงเวลาถ่ายทำก็เต็มไปด้วยปัญหา เป็นต้นว่า อากาศไม่เป็นใจ เพื่อต้องการภาพสวย ๆ ทำให้กำหนดการถ่ายทำเลื่อนจาก 6 เดือนไปประมาณ 1 ปี แต่ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากตัวนักแสดงและ CJ เป็นตัวนำ
พอผิดหวัง ผกก. ก็เลยไม่ถูกชะตากับ CJ ขัดง้างกันประจำ สำเนียงอังกฤษของ CJ แย่มากจนต้องหาเสียงคนอื่นมาทับแทน ตัว CJ ก็ไม่ถูกกับนางเอกคือ Sarah Miles ถึงขนาดไม่ยอมเล่นฉากรัก ร้อนถึงต้องใช้เล่ห์ด้วยการวางยา (drugs) เอาให้ CJ หมดฤทธิ์ ตัว CJ เองก็ท้อแท้กับการแสดงเพราะ แฟนเก่าตัวเองคือ Sharon Tate ถูกฆาตกรรมในช่วงที่มีการถ่ายทำนี้ อีกทั้งตัวเองกำลังหมั้นกับ Olivia Hussey ก็เอาแต่คิดถึงและไม่อยากเล่นบท love scenes
นี่คือ ตย. เกร็ด สนุก ๆ ในที่สุดหนังก็สำเร็จแล้วออกฉาย ซึ่งก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่คาดเพราะ ทั้งคนดู/นักวิจารณ์คาดหวังไว้มาก เนื่องจากเรื่องก่อน คือ Dr. Zhivago เลิศหรูในทุกด้าน นักวิจารณ์ทุกคนรุมสับ CJ ว่าเล่นแข็งเหมือนไม้กระดาน บางคนเล่นแรงขนาดว่า เล่นหนังไม่เป็น CJ จิตตกจนเลิกรับเล่นหนัง ออกจาก Hollywood ไปเลย
อย่างไรก็ตามหนังก็ยังทำรายได้ได้พองาม และยังไปเบ่งบนเวที Oscar ได้ด้วย (ได้มา 2 ตัว)
ในเมืองไทยหนังดังขนาดหนึ่ง พี่สาวผมเอาโปสเตอร์ที่แถมมากับ SP รูป CJ นอนตะแคงชะม้ายตามองกล้องมาอวดแบบภูมิใจราวกับว่า CJ มอบให้กับมือ ช่วงนั้นจะมีขำขันล้อเลียนผู้หญิงหลายใจ ปกติจะมีแค่ 'วันทอง โมรา กากี' ก็เพิ่มเข้าไปเป็น 'วันทอง โมรา กากี ลูกสาวไรอัน'
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|