ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ทรงเสด็จไปประทับที่เมืองลพบุรีทีละนานหลายเดือน ตั้งลพบุรีเป็นราชธานีสำรองอีกที่หนึ่ง ด้วยสาเหตุเพียงความปลอดภัยจากพวกเรือรบต่างชาติเพราะลพบุรีเป็นที่ดอน เรือกำปั่นรบของฝรั่งขึ้นไปไม่ถึงลพบุรี ดังนี้ จริงหรือไม่คะ หรืออาจมีเหตุผลอื่นใดอีก
การตั้งลพบุรีเป็นราชธานีสำรองเพื่อความปลอดภัยจากการคุกคามของต่างชาติ โดยเฉพาะฮอลันดาที่เคยนำเรือรบมาปิดอ่าวไทยเมื่อ พ.ศ.๒๒๐๗ เรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นเหตุผลสำคัญด้วยมีหลักฐานของราชทูตฝรั่งเศสที่ว่าสันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยาก็มากพอที่จะกีดขวางเรือรบของฝรั่งไม่ให้เข้าไปถึงอยุธยาแล้ว
เชอวาลิเอร์ เดอ ฟอร์บัง นายทหารเรือฝรั่งเศสที่ร่วมเดินทางมาในคณะราชทูต เชอวาลิเอร์ เดอ โชมองต์ เมื่อ พ.ศ. ๒๒๒๘ บรรยายถึงสันดอนแม่น้ำเจ้าพระยาความว่า
“...เราเดินทางต่อไปเรียบร้อยจนถึงสันดอน (ปากแม่น้ำเจ้าพระยา) ได้ทอดสมอลงเมื่อวันที่ ๒๓ กันยายน พ.ศ. ๒๒๒๘ นับตั้งแต่วันออกจากท่าเรือเมืองเบรสต์ เราเดินทางมารวมเวลาหกเดือนเศษ
สันดอนนี้ไม่ใช่อื่นไกล คือ เนินดินและโคลนที่กระแสน้ำซัดลงมาทิ้งไว้ห่างจากปากน้ำประมาณสองร้อยเส้น ที่ตรงเส้นนี้น้ำตื้นมากเวลามีน้ำขึ้นก็ไม่ลึกเกินกว่าสองวาครึ่ง เหตุฉะนั้นเรือขนาดใหญ่จึงข้ามสันดอนไปไม่ได้...” (๑)เรื่องที่น่าจะเป็นไปได้คือสมเด็จพระนารายณ์เสด็จไปประทับที่ลพบุรีเพื่อความมั่นคงทางการเมืองของพระองค์เอง เพราะในอยุธยามีขุนนางคิดจะทำรัฐประหารยึดอำนาจอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ก็เพื่อพักผ่อนอิริยาบทและความสำราญในพระราชหฤทัย
ในคู่มือตอบคำถามสำหรับทูตในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ มีแนวทางการตอบคำถามข้อหนึ่งว่า
หากถามว่า พระเจ้าแผ่นดินไปอยู่ละโว้ทำไม และเมืองนั้นเป็นอย่างไร
ให้ตอบว่า เมื่อ ๓๐๐ ปีที่แล้วเมืองนี้เป็นที่ประทับของพระเจ้าแผ่นดินแต่แล้วถูกทิ้งให้ร้าง องค์ปัจจุบันให้บูรณะขึ้นใหม่และสร้างวังที่พระองค์โปรดประทับเป็นส่วนใหญ่ เมืองนี้ยังอยู่ใกล้ป่าที่ท่านโปรดไปคล้องช้าง, ล่าเสือและสัตว์อื่น (๒)และลาลูแบร์เล่าไว้ในหนังสือของท่านว่า
ถ้าสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามเสด็จออกสำแดงพระองค์ในพระมหานคร ก็เพื่อบำเพ็ญพระราชพิธีในทางศาสนาเท่านั้น ที่เมืองละโว้ซึ่งไม่ค่อยมีพระราชพิธีทางศาสนาเท่าใดนักพระองค์จึงเสด็จประพาส ไปในที่ต่าง ๆ ได้บ่อย ๆ เช่นเสด็จประพาสล่าเสือหรือโพนช้างหรือไม่ก็เสด็จประพาสเพื่อสำราญพระราชอิริยาบถและไม่มีพิธีรีตองอะไรมากนัก
(๑) http://www.catholichaab.com/main/index.php/research-and-study/research-and-study/1263-2016-09-07-04-35-39(๒) https://www.silpa-mag.com/club/art-and-culture/article_742