การให้ปากคำของข้าพเจ้ามีเพียงเท่านี้ ข้าพเจ้าจับมือกับพระมนูภาณฯ อย่างหนักแน่น และท่านได้ลากลับไป หลังจากนั้นอีกไม่นาน ศาลฎีกาได้มีคำตัดสินว่าการพิจารณาคดีอาชญากรสงครามนั้นขัดกับกฏหมายรัฐธรรมนูญของไทย จอมพล ป.พิบูลสงคราม และคณะทุกคนได้รับการปลดปล่อย และพวกข้าพเจ้าได้ฉลองและดื่มสุราแสดงความยินดีกับพวกเขาในครั้งนั้นด้วย
ไหนๆก็ไหนๆ เอาตอนจบมาฉายเป็นหนังตัวอย่างเรียกน้ำย่อยบ้างก็จะเป็นอะไรมี
การที่จอมพล ป.ต้องขึ้นศาลเป็นอาชญากรสงครามก็เพราะเป็นความต้องการของฝรั่งเศสและอังกฤษ ซึ่งรัฐบาลก็จำเป็นต้องว่าไปตามบท แต่การที่ในที่สุดแล้วจอมพล ป.ได้หลุดคดีง่ายๆ ก็เพราะการวางแผนที่ลึกล้ำของนายปรีดีนักกฏหมายชั้นศาสตราจารย์ ที่ดึงเกมให้ล่าช้า โดยอ้างว่า ไทยไม่มีกฏหมายนี้ จำเป็นต้องร่างและประกาศเป็นพระราชกฤษฎีกาก่อน กว่าจะร่างเสร็จ กว่าจะผ่านสภา กว่าจะเบิกพยานมาให้การแต่ละปาก เวลาล่วงเลยไปหลายปีจนอุณหภูมิสงครามเย็นลง และไทยจ่ายเบี้ยปรับไปจนอังกฤษไม่ติดใจแล้ว จึงให้มีการตีความกันว่า กฏหมายอาชญากรสงครามเป็นกฏหมายที่เพิ่งจะประกาศใช้ จะบังคับต่อผู้กระทำความผิดย้อนหลังได้หรือไม่ แน่นอน100%อยู่แล้วที่ศาลฎีกาจะตัดสินว่าไม่ จอมพล ป.ก็ได้ออกจากคุก
ถ้าเขาจะเอาให้ตาย ตอนนั้นเขาใช้ศาลทหาร หรือศาลพิเศษที่จอมพล ป.ชอบใช้ไม่ดีกว่าหรือ นั่นน่ะได้เห็นศพแน่
แต่จอมพล ป.ก็ออกมาล้างบางคู่แข่ง กลับไปเป็นนายกรัฐมนตรีอีกเป็นสมัยที่2