SILA
|
ความคิดเห็นที่ 240 เมื่อ 05 ส.ค. 13, 15:03
|
|
เช้าวันที่สี่ เดินทาง(โดยรถเช่นเคย) เข้าชมเมือง Zadar ย่านเมืองเก่า ซาดาร์เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เคยถูกจักรวรรดิโรมันครอบครอง หลายร้อยปีทิ้งร่องรอยเหลือไว้จนบางคนเรียกซาดาร์ว่า กรุงโรมน้อยแห่งโครเอเชีย (little Croatian Rome) ส่วนหนังสือพิมพ์ The New York Times ยกให้เป็น หนึ่งในกลุ่มเมืองเป้าหมายที่ได้รับการจัดอันดับต่ำเกินควรไปมากที่สุด (one of the most “underrated” destinations)
ภาพจากหอระฆังจากเน็ท
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 241 เมื่อ 05 ส.ค. 13, 15:10
|
|
บริเวณที่เป็นเมืองซาดาร์ในปัจจุบันนี้ เป็นถิ่นที่มีผู้คนอาศัยอยู่มาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ จนเมื่อศตวรรษที่ 9 ก่อนคริสตศักราชจึงเกิดเป็นชุมชนของคนเชื้อชาติ Liburnian ผู้เชี่ยวชาญ การค้าและการเดินเรือที่ต่อยอดไปเป็นโจรสลัดด้วย ช่วงกลางศตวรรษที่ 2 ก่อนค.ศ. กองทัพโรมันก็รุกรานมายังย่านนี้ ซาดาร์เข้าสู่ช่วง (Classical) antiquity ของแถบเมดิเตอเรเนียนที่บริเวณนี้ได้รับอิทธิพลจากอารยธรรมของ กรีกและโรมัน (นับจาก 8–7 ศตวรรษก่อนค.ศ. - ศตวรรษที่ 5 เมื่ออาณาจักรโรมันเริ่มล่มสลาย) ซาดาร์ได้เป็นอาณานิคมโรมัน (Roman colony) เมื่อปี 48 ก่อนค.ศ.ในสมัยซีซาร์ และ ตกอยู่ภายใต้การปกครองของโรมันหลายร้อยปี ผังเมืองถูกจัดวางตามแบบอย่างโรมันทั้งรูปแบบถนนหนทาง ฟอรัม โรงอาบน้ำอุ่น (forum, thermae) ตลอดจนท่อส่งน้ำ(aqueduct) ยาว 40 กม. หลังจากคริสตศาสนาแผ่มาถึงซาดาร์ในตอนปลายศตวรรษที่สามซาดาร์ก็มีบิชอปของ เมืองเอง
ซากท่อส่งน้ำ(aqueduct)ที่ยังเหลือให้เห็นอยู่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 242 เมื่อ 05 ส.ค. 13, 15:14
|
|
ถึงยุคกลางหรือยุคมืดสมชื่อ คือช่วงเวลาแห่งการตกต่ำเมื่อชาวฮั่นรุกรานและโรมันก็ถึง แก่กาลล่มสลายทั้งจักรวรรดิและอาคารสถาปัตยกรรมโรมันในซาดาร์จากเหตุแผ่นดินไหวในปี 553 ซาดาร์ตกอยู่ในร่มเงาของจักรวรรดิไบซันทีน Byzantine ผ่านการปกครองโดย Goth ในศตวรรษที่ 9 ส่วนชาวโครแอทนั้นเริ่มเข้ามาซาดาร์ในช่วงศตวรรษที่ 10 แล้วผนวกรวมดินแดน ในแถบนี้กับส่วนอื่นขึ้นเป็นอาณาจักรโครเอเชียในปี 925 ซาดาร์อยู่ใต้ร่มเงาการปกครองของเวนิสที่เอื้อความคุ้มครองจากโจรสลัดแล้วนำไปสู่ การครอบครองในปี 998 และตามด้วยการถูกทำลายโดยพวกครูเสดในปี 1205
(ภาพจากเน็ท)รูปปั้นสัญลักษณ์นครเวนิส พยัคฆ์ติดปีก(แห่งจตุรัสเซนต์มาร์ค นครเวนิส) ประดับเหนือ ประตูเมืองที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 243 เมื่อ 05 ส.ค. 13, 15:18
|
|
ส่วนจักรวรรดิอ็อตโตมานนั้นรุกรานเข้ามาช่วงศตวรรษที่ 16 และ 17 เมื่อครั้งศตวรรษที่ 16 คราที่พวกเติร์คยกทัพมา เวนิสได้ช่วยซาดาร์สร้าง อ่างเก็บน้ำและบ่อน้ำ 5 บ่อให้ชาวเมืองได้ใช้ ทำให้ซาดาร์สามารถต้านทานการรุกราน ของเติร์คได้
ภาพจากเน็ท
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 244 เมื่อ 05 ส.ค. 13, 15:26
|
|
หลังจากที่พวกเติร์คถอยทัพกลับไปแล้ว ทางการได้ปลูกต้นไม้เหนือกำแพง บริเวณนี้ที่ได้กลายเป็นจตุรัสและสวน
ภาพจากเน็ท
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 245 เมื่อ 05 ส.ค. 13, 15:30
|
|
เมื่อเวนิสล่มลงในปี 1797 ซาดาร์ก็หันมาอิงโครเอเชียและร่วมอาศัยร่มเงาออสเตรีย ตามด้วยอาณาจักรอิตาลีของนโปเลียนก่อนจะกลับคืนสู่ออสเตรียอีกครั้ง ครั้นถึงศตวรรษที่ 19 เป็นช่วงเวลาที่ความขัดแย้งเรื่องเชื้อชาติระหว่างเชื้อสายอิตาลีและโครแอทในเมืองทวีความตึงเครียด หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่งซาดาร์ตกอยู่ภายใต้การปกครองของอิตาลี จนหลังสงคราม โลกครั้งที่สองชาวอิตาเลียนในเมืองได้อพยพออกไปเกือบหมด จนปัจจุบันเหลือเป็นเพียงชุมชนเล็กๆ ซาดาร์ฟื้นตัวหลังสงครามเมื่อรวมอยู่ในยูโกสลาเวีย โดยมีภาครัฐสนับสนุนด้านอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว จนกระทั่งโครเอเชียประกาศอิสรภาพแยกตัวและเกิดสงครามกับเซิร์บ บ้านเมือง โบราณสถานได้รับความเสียหายจากสงครามที่ยาวนาน 4 ปี
ภาพจากเน็ทโรงเรียนดนตรีในซาดาร์ได้รับความเสียหายจากสงครามกับเซิร์บ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 246 เมื่อ 05 ส.ค. 13, 15:37
|
|
ชื่อเรียกเมืองเปลี่ยนผ่านไปตามกาลสมัยการถูกครอบครอง เริ่มแรกเรียก Jader ต่อมาเปลี่ยนไป Idassa (Greek), Jadera (Roman), Diadora, Zara (ช่วงปกครองโดยเวนิสและอิตาลี) จนปัจจุบันคือ Zadar
เมืองซาดาร์มีพื้นที่ขนาด 25 ตร.กม. ประชากรประมาณ 75000 คน ส่วนใหญ่ อาศัยอยู่ในแผ่นดินใหญ่ที่บ้านเมืองกว่าครึ่งหนึ่งได้รับความเสียหายในช่วงสงครามโลก ครั้งที่สองและสงครามกับเซิร์บ มีฐานะเป็นศูนย์กลางของมณฑลซาดาร์และแดลเมเชียตอนเหนือ บ้านเมืองมีประวัติเก่าแก่เกือบสามพันปี ก่อร่างสร้างเมืองฝังรากโดยโรมัน ผ่านสงครามการทำลายอย่างหนักหนามาหลายครั้งจนบางคราวแทบจะกลายเป็นเมืองร้าง แต่ก็ยังฟื้นกลับคืนมีชีวิตชีวา
ภาพจากเน็ท เบื้องหลังคือเทือกเขา Dinaric Alps
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 247 เมื่อ 05 ส.ค. 13, 15:46
|
|
ที่นี่เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่เก่าที่สุดในยุโรปตอนใต้ตะวันออก มีอายุมากกว่า 600 ปี เป็นมหาวิทยาลัยที่อยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 248 เมื่อ 05 ส.ค. 13, 15:49
|
|
ภาพมหาวิทยาลัยจากเน็ท
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 249 เมื่อ 05 ส.ค. 13, 15:53
|
|
ด้านหน้ามหาวิทยาลัยที่เดินไปไม่ถึงมีรูปปั้นอาจารย์ Spiro Brusina นักสัตววิทยา, ธรรมชาติวิทยาและนักสำรวจ แห่งศตวรรษที่ 19 ผู้ก่อตั้งภาควิชา ปักษีวิทยา (ornithology) ในโครเอเชีย กำลังนั่งเพ่งเปลือกหอย จมูกของรูปปั้น ถูกลูบจนเป็นมันเหมือนรูปปั้นศาสตราจารย์Ivo ที่พลิตวิเซ่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 250 เมื่อ 06 ส.ค. 13, 11:00
|
|
เช่นเมืองอื่นๆ ที่ผ่านมา ย่านที่ไปเยือนคือแถบเมืองเก่าของซาดาร์ที่ตั้งอยู่บน คาบสมุทรยื่นไปในทะเลเอดริแอติค มีขนาด 400 x 1000 ม.
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 251 เมื่อ 06 ส.ค. 13, 11:03
|
|
ตัวเมืองรับรูปแบบโครงสร้างโรมันมาแต่สมัยซีซาร์และออกัสตัส มีการสร้างกำแพง ป้อมหอคอยประตูเมืองฟอรัม,โบสถ์,ท่อส่งน้ำและสุสาน ผ่านยุคกลาง แล้วเมื่อเวนิสข้ามมา ครอบครองจึงมีการก่อสร้างในสไตล์เรเนอร์ซอง
ด้านซ้ายมือคือกำแพงเมืองเก่า ขวามือคือสะพานคนเดินสู่แผ่นดินใหญ่
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 252 เมื่อ 06 ส.ค. 13, 11:05
|
|
จากแผ่นดินใหญ่นักท่องเที่ยวอาจเลือกใช้บริการเรือข้ามฟากไปย่านเมืองเก่านี้ ได้ด้วยเรือ barkarioli ที่ให้บริการข้ามฟากกว้าง 80 ม.นี้มายาวนานถึง 850 ปี
ภาพจากเน็ท
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 253 เมื่อ 06 ส.ค. 13, 11:10
|
|
ก่อนจะสำรวจเมืองเก่า ไกด์สาวพาเดินตามทางเลียบริมน้ำชายฝั่งทะเลเอดริแอติค ที่เรียกว่า Riva ความยาว 800 ม. ในวันฟ้าใส ลมแรง บริเวณนี้เดิมได้รับความเสียหายจากสงครามโลกครั้งที่สอง แล้วได้รับการซ่อมแซม สร้างเป็นกำแพงคอนกรีตที่เสื่อมโทรมลงตามกาลเวลา ประชาชนที่เคยชื่นชอบการไปเดินเล่น บริเวณนั้นก็พากันเมิน จนถึงปี 2004 การท่าเรือจึงมีโครงการปรับปรุงสถานที่โดยการสร้างท่าเทียบเรือ และทางเดินเลียบริมน้ำพร้อมสิ่งก่อสร้างทางศิลปะประดับสถานที่นี้ให้เป็นที่ๆ ชาวเมืองและ นักท่องเที่ยวจะได้มาเยือนและชื่นชมชลชายฝั่ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 254 เมื่อ 06 ส.ค. 13, 11:12
|
|
ด้านเหนือเป็นท่าจอดเรือโดยสาร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|